แชร์

บทที่ 9

ผู้แต่ง: ปรมาจารย์ยูผู้เล่นควัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ โรสโบกบัตรไปมาก่อนจะชำเลืองมองไปทางฟิลิป อย่างเย่อหยิ่งและพูดขึ้น “ช่วยตรวจสอบที ว่าบัตรใบนี้สามารถจองห้องอาหารส่วนตัวได้หรือเปล่า”

ทุกคนกลั้นหายใจรอคอยที่จะได้เห็นฟิลิปขายหน้า

หญิงสาวที่อยู่ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ รับบัตรไปรูดที่เครื่องและทันทีสีหน้าของเธอก็เป็นกังวลขึ้นมา เธอถามขึ้น “คุณผู้หญิงคะ นี่นี่บัตรของคุณงั้นเหรอ?”

เมื่อโรสเห็นดังนั้นเธอก็ส่ายหน้า ยื่นมือของเธอที่ทาเล็บสีแดงก่ำออกมา ชี้ไปที่ฟิลิปที่ถูกยืนห้อมล้อมและโดนหัวเราะเยาะอยู่ “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเขา” ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องเหลวไหลสิ้นดี! ฟิลิปทำให้ตัวเองต้องขายหน้า และวินน์ก็จะเสียหน้าไปด้วยเช่นกัน นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มีชายที่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอยู่ตลอดจริง ๆ งั้นเหรอ?

โรสมีความสุขเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่วินน์ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อย่างมีความสุข ก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้น “รองผู้จัดการจอห์นสตัน สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”

วินน์รู้สึกขายหน้าเป็นที่สุด เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างขุ่นเคือง เตรียมตัวที่จะตำหนิเขาแต่หญิงสาวที่อยู่แผนกต้อนรับก็เข้ามาขัดเสียก่อน เธอลุกขึ้นยืนด้วยความนอบน้อมต่อหน้าฟิลิป ก่อนจะพูดขึ้นอย่างสุภาพ “ท่านคะ คุณเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของร้านอาหารเรา ห้องพิเศษได้ถูกเตรียมไว้ให้คุณแล้ว กรุณาตามดิฉันมาได้เลยค่ะ”

เสียงหัวเราะเยาะ ถากถางรอบ ๆ พวกเขาเงียบลงในทันที

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ทุกคนถึงกับตั้งตัวไม่ทัน

เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้น? ห้องพิเศษยังงั้นเหรอ…?

โรสเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมา เธอชี้ไปที่ฟิลิปอย่างร้อนรนก่อนจะพูดเหน็บ “เฮ้ เฮ้ เฮ้ นี่คุณดูผิดไปหรือเปล่า? เขาเนี่ยนะจะเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของร้าน?”

“ดูให้ดีสิ เขาเป็นพนักงานส่งอาหาร เป็นแค่แมงดาเกาะผู้หญิงกินเท่านั้น! เขาจะเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มได้ยังไง?”

เกวินเองก็ตกตะลึงจนถึงขั้นพูดไม่ออก เขาเตรียมคำพูดที่จะเยาะเย้ยถากถางไว้มากมาย! แต่เมื่อความจริงที่ว่าฟิลิปเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มถูกเปิดเผยออกมา มันทำให้เขาถึงกับพูดไม่ออก รู้สึกเหมือนบางสิ่งจุกอยู่ที่คอ

วินน์มองไปที่พนักงานหญิงรู้สึกสับสน เธอหันกลับมาจ้องฟิลิป นี่สามีของเธอเป็นสมาชิกระดับแพลทตินั่มของเวอร์เทียส คอร์ทจริง ๆ งั้นเหรอ? เธอเพิ่งจะได้ยินจากเกวิน ว่าแค่สมาชิกธรรมดาก็ต้องมียอดใช้จ่ายต่อปีหนึ่งล้าน แล้วสมาชิกระดับแพลทตินั่มจะไม่ต้องใช้จ่ายอย่างน้อยสองสามล้านงั้นเหรอ?

พนักงานสาวยิ้มอย่างสุภาพก่อนจะพูดขึ้น “ฉันไม่ดูผิดหรอกค่ะ นี่เป็นบัตรสมาชิกแพลทตินั่ม และเจ้าของร้านของเราก็ทำบัตรนี้ออกมาเพียงแค่แปดใบเท่านั้นและท่านผู้ถือบัตรแต่ละท่านก็จะมีห้องส่วนตัวที่ถูกจองไว้เป็นของพวกเขาเอง”

ทุกคนต่างอ้าปากค้าง ห้องรับรองส่วนตัวต่อผู้ถือบัตรหนึ่งคนงั้นเหรอ? นี่มันการบริการระดับพระราชาแล้ว! นี่มันใช่สามีไร้น้ำยาของวินน์จริงงั้นเหรอ?

“ท่านคะ นี่บัตรของคุณ กรุณาตามฉันมาได้เลยค่ะ” พนักงานพูดอย่างนอบน้อม

ฟิลิปรับบัตรคืนมา ก่อนจะจ้องไปที่ฝูงคนที่กำลังจ้องเขาด้วยดวงตาเบิกโพลง พร้อมกับกัดฟัน เขาอธิบาย “นี่ไม่ใช่บัตรของผมหรอก มันเป็นของเจ้าของบริษัท เจ้านายของผม ผมแค่มาที่นี่เพื่อจองให้เขาเท่านั้น”

ฟิ้ว! เมื่อได้ยินที่ฟิลิปอธิบาย เกวินและโรส ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก นี่ก็เป็นแค่เรื่องของพนักงานที่เอาบัตรเจ้านายมาใช้สินะ บ้าเอ๊ย! เข่าของโรสถึงขั้นอ่อนยวบไปด้วยความตกตะลึงเสียแล้วด้วยซ้ำ

เกวินส่งสายตาโกรธเคืองไปยังฟิลิป ก่อนจะพูดเหยียดหยามเขาขึ้นมาอีก “ฉันก็คิดอยู่แล้วเชียวที่แท้ก็เป็นแค่การโฆษณาหลอก ๆ”

ได้ยินดังนั้นคนอื่น ๆ ต่างพากันหัวเราะเยาะ ในเมื่อห้องก็ได้ถูกจองไว้แล้วก็คงจะเปล่าประโยชน์ถ้าเกิดไม่ใช้มัน

ฟิลิปไม่ได้อธิบายอะไรอีก เขาเพียงแค่กระซิบกับวินน์เบา ๆ “พาพวกเขาไปกินข้าวเถอะ ผมจะกลับก่อน” โดยไม่รอให้วินน์โน้มน้าวให้เขาอยู่ต่อ ฟิลิปก็เดินออกไปจาก เวอร์เทียส คอร์ท พร้อมกับกล่องรูปภาพในมือเสียก่อนแล้ว

ถึงแม้วินน์จะรู้สึกแย่เป็นอย่างมากแต่เธอก็ไม่สามารถต้านทานเสียงเรียกร้องของเพื่อนร่วมงานของเธอได้ พวกเขาเดินตามพนักงานไปที่ห้องรับรองส่วนตัว

เกวินและโรสไม่ได้รู้สึกอิ่มเอมใจกับอาหารมื้อนี้มากนักด้วยเพราะสามีไร้ประโยชน์ของวินน์เป็นคนจองห้องมาได้

หลังจากออกมาจาก เวอร์เทียส คอร์ท ไม่นาน ฟิลิปก็ได้รับข้อความสั้น ๆ จากวินน์: ขอบคุณนะ

ฟิลิปจ้องมองข้อความก่อนจะยิ้มออกมาแล้วตอบกลับไป: ไม่เป็นไร

ฟิลิปยังคงรู้สึกผิดต่อวินน์ เพราะแท้ที่จริงแล้ว เขาเป็นทายาทของกลุ่มสถาบันทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดของโลกแต่เป็นเพราะเขาไม่เต็มใจที่จะสืบทอดธุรกิจของตระกูล เขาจึงมาที่เมืองริเวอร์เดล เพื่อที่จะลองใช้ชีวิตการเป็นคนจนดู

แล้วเมื่อไหร่ที่เขาจะบอกวินน์เรื่องนี้ดี? บางทีอาจจะต้องรอไปอีกสักพัก

หลังจากเช่าจักรยานเสร็จ ฟิลิปก็มุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล

ระหว่างทางไปที่นั่น ฟิลิปเลี้ยวขวาและแล้วรถมอเตอร์ไซต์ก็พุ่งตรงมาทางเขา

เสียงเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซต์ดังเข้ามาในหูของเขาและในทันใดนั้น ฟิลิปรู้สึกถึงลมแรงที่ด้านข้างของเขา ในขณะที่รถมอเตอร์ไซค์แฉลบไปด้านขวาตามมาด้วยเสียงชน คนขับและรถล้มลงไปที่พื้นหญ้าด้านข้างถนน

“โอ้ ไม่นะ!” ฟิลิปโยนจักรยานของเขาออกไป ก่อนจะรีบวิ่งไปดูว่าคนขับและคนซ้อนบาดเจ็บหรือเปล่า

ชายหนุ่มและหญิงสาวปีนขึ้นมาจากพื้นหญ้า กระโปรงดำของหญิงสาวขาดรุ่งริงจากการที่โดนกิ่งไม้เกี่ยว เธอดูหวาดกลัว ส่วนชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวก้มตัวลง “นี่คุณตั้งใจจะฆ่าตัวตายหรือยังไง? บ้าเอ๊ย!”

ฟิลิปรีบขอโทษ “ผมขอโทษ ผมไม่ทันเห็นคุณ พวกคุณเป็นอะไรหรือเปล่า? ต้องการที่จะไปโรงพยาบาลไหม? ผมจะจ่ายค่าเสียหายของรถคุณให้เอง”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มก็ระเบิดความโกรธออกมาก่อนที่จะเริ่มก่นด่าฟิลิป ”นี่มัน ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน สปอร์ตสเตอร์ ไอออน 883 สั่งทำเลยนะ! มูลค่าของมันสองแสนเชียวนะเว้ย! แกจ่ายได้งั้นเหรอ?”

ฟิลิปตอบกลับ “ผมจะชดเชยให้คุณสามแสน หนึ่งแสนเป็นค่ารักษาพยาบาล”

ชายหนุ่มหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะผลักฟิลิปอย่างโกรธเคือง “แกคิดว่าแกมีเงินเยอะอย่างนั้นเหรอ? สามแสนจ่ายมาเลยสิ! แกทำเป็นอวดดี รออะไรอยู่ละ?”

ฟิลิปเซไปด้านหลังจากแรงผลัก เขาขมวดคิ้วก่อนจะพูดขึ้น “นายเองนะที่เป็นคนฝ่าไฟแดงมา นี่ฉันก็ใจดีมากเท่าไหร่แล้วที่ไม่ทะเลาะกับนายเรื่องนั้น อย่ามายั่วโมโหฉัน”

ฟิลิปไม่ได้เป็นคนผิดเรื่องสัญญาณไฟ คนขี่มอเตอร์ไซค์ต่างหาก ที่ฝ่าไฟแดงมา ถ้าจะพูดกันตามจริงคนที่ผิดก็คือคนขับมอเตอร์ไซค์”

“แกพูดว่าฉันฝ่าไฟแดงงั้นเหรอ? ตาข้างไหนของแกที่เห็น” หนุ่มไบเกอร์ส่งเสียงหัวเราะลั่นออกมาในทันที

ขณะนั้นเองหญิงสาวที่อยู่ด้านหลังของเขาก็ได้สติกลับมา เธอถอดหมวกกันน็อกออก จ้องไปที่ฟิลิป ก่อนจะพูดขึ้นด้วยเสียงแหลม “คุณมาทำอะไรที่นี่?”

ฟิลิปมองไปยังต้นเสียงก่อนจะรับรู้ได้ว่าหญิงสาวคนนั้นคือลินน์ จอห์นสตัน

บรรยากาศรอบ ๆ เปลี่ยนเป็นอึดอัดขึ้นมาทันที

“พี่เจคอบ อย่าปล่อยเขาไปง่าย ๆ นะ” ลินน์ตะโกนขึ้นอย่างเกรี้ยวกราด

ชายคนนี้คือ เจคอบ เวลส์ ลูกชายของชายผู้มั่งคั่งคนหนึ่ง

ฟิลิปมองไปที่ลินน์ รู้สึกลังเลเล็กน้อย เจคอบชี้นิ้วไปที่จมูกของฟิลิป ก่อนจะถามลินน์ขึ้นมา “เธอรู้จักเขาเหรอ?”

ลินน์พยักหน้า จ้องไปที่ฟิลิป “พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของฉันเอง แต่เราไม่สนิทกัน เขาเป็นแมงดา”

“บ้าเอ๊ย! ไอ้แมงดานี่ กล้ามาพูดโอ้อวดต่อหน้าฉันอย่างนั้นเหรอ? แกไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วงั้นสินะ?” เจคอบพ่นคำด่าออกมา ก่อนที่จะถากถางฟิลิป “ถ้าอย่างนั้นก็ได้แกพูดเองใช่ไหมว่าจะชดใช้ให้ฉัน? สามแสนดอลลาร์จ่ายมาสิ?”

รอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏบนใบหน้าเย็นชาของลินน์ สามแสนยังงั้นเหรอ? ฮ่า! ขยะไร้ค่าอย่างฟิลิป เนี่ยนะ จะมีปัญญาหาเงินสามแสนจากที่ไหน?

ความตั้งใจแรกของฟิลิปคือจ่ายเงินให้พวกเขา แต่ตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะจ่ายแล้ว “ฉันไม่อยากจ่ายแล้ว เพราะพวกนายเองที่เป็นคนฝ่าไฟแดงมา”

ถ้าลินน์ไม่อยู่ที่นี่ ฟิลิปก็คงจ่ายเงินเพื่อให้เรื่องนี้จบไปอย่างเงียบ ๆ แล้ว แต่ตอนนี้เขาทำแบบนั้นไม่ได้

ลินน์หัวเราะเสียงเย็นออกมา “ฮ่าฮ่า! ฉันคิดว่านายไม่มีเงินต่างหากล่ะ นี่คุณแสดงได้เก่งเหมือนกันนะก่อนหน้านี้ ทำไมตอนนี้ถึงถอนตัวซะแล้วล่ะ?”

เจคอบคำราม “สามแสนจ่ายมา! ไม่งั้นฉันจะเรียกพวกของฉันมาเพิ่ม”

เรียกพวกมางั้นเหรอ? ฟิลิปไม่กลัวสักนิด

“เรียกพวกเขามาสิ” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็น

“ก็ได้ ไอ้เศษสวะจอมอึด! อย่าวิ่งหนีหางจุกตูดทีหลังแล้วกัน” เจคอบข่มขู่พลางชี้หน้าฟิลิป ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรออกด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง เขาพูดขึ้น “พี่ไคล์ พาพวกของพี่มาที่ ซิลเวอร์สโตนที”

หลังจากวางสาย เจคอบจ้องไปที่ฟิลิป ก่อนจะพูดขึ้น “พี่ชายของฉันจะมาที่นี่เร็ว ๆ นี้เตรียมตัวอ้อนวอนไว้ได้เลย”

ฟิลิปมีท่าทีเฉยชา ไม่มีใครบอกได้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

ก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหา แอกเนส ซัมเมอร์ “แอกเนส พาคนของเรามาที่ซิลเวอร์สโตนที มากเท่าไหร่ยิ่งดี”

หลังจากที่เขาวางสาย เจคอบถุยน้ำลายออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า! แกก็เรียกพวกของแกมาด้วยงั้นเหรอ? น่าขำเสียจริง! อยากจะเห็นจริง ๆ แกเรียกใครมาได้”

ลินน์เพียงแค่เฝ้ามองอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ฟิลิปหันไปมองเธอสองสามครั้ง ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ

ที่ โกเฟอร์การบริการ แอกเนสรีบส่งข่าวหลังจากได้รับโทรศัพท์จากฟิลิปในทันที

และในเวลาไม่นาน เหล่าพนักงานส่งอาหารในเมืองภายใต้บริษัทโกเฟอร์ การบริการก็พากันขึ้นรถสกูตเตอร์สีแดง สวมเสื้อกั๊กและหมวกกันน๊อกสีแดงสด ขับผ่านถนนและตรอกซอกซอยมุ่งหน้ามาที่ซิลเวอร์สโตน มองจากไกล ๆ ดูราวกับจุดสีแดงเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนที่กำลังมุ่งหน้าไปยังซิลเวอร์สโตนช้า ๆ

กลับมาที่ฝั่งของฟิลิป คนที่เจคอบเรียกมาได้มาถึงแล้ว

ฮาร์ลีย์-เดวิดสันสี่คัน คนทั้งหมดแปดคนมีทั้งชายและหญิง ทุกคนต่างแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าของไบเกอร์แลดูดีมีสไตล์

พวกเขาขับมาที่นี่ด้วยรถมอเตอร์ไซต์ที่ส่งเสียงดังจนแทบจะทำให้หูหนวก หัวหน้ากลุ่มคือชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดีสูง 1.8 เมตร หุ่นล่ำ ราวกับนักกีฬาและหล่อเหลาเป็นอย่างมาก

“เจคอป เกิดอะไรขึ้น? รถของนายกลายเป็นขยะไปซะแล้ว” ไคล์เดินเข้ามาด้วยสีหน้าน่าสะพรึงกลัว พร้อมกับพวกของ เขาเหลือบตามองฟิลิป ก่อนจะเดาเหตุการณ์ออกได้อย่างง่ายดาย “แกทำอย่างนั้นเหรอ?” ไคล์ถามขึ้นด้วยเสียงทุ่มต่ำพร้อมกับจ้องหน้าฟิลิป

ฟิลิปนิ่งเงียบ

“พี่ไคล์ เป็นเขานั่นแหละที่ทำ อย่าปล่อยเขาไปจนกว่าจะได้เงินสามแสนเชียวนะ” เจคอบ ตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 10

    ฟิลิปจ้องไปทางพวกเขาอย่างใจเย็น สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกไคล์มองมาที่ฟิลิปด้วยความไม่พอใจ ชายคนนี้ดูธรรมดามาก และเขายังใจเย็นขนาดนี้ได้ยังไงกัน? “น่าสนใจดีนี่!”“พี่ชาย คุณสามารถจ่ายเงินสามแสนได้ไหม?” ไคล์ไม่ใช่พวกนักเลงที่จะได้เริ่มลงมือต่อยตีโดยที่ไม่ถามหาเหตุผล สามแสนเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนทั่วไป ไคล์รู้สึกว่าชายหนุ่มอย่างฟิลิป ไม่สามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังต้องถาม ต้องมีศิลปะทางการทูตเสียก่อนที่จะลงมือรุนแรง“ฉันขอโทษด้วยนะ แต่เขาเป็นคนที่ฝ่าไฟแดงมา อย่างนั้นแล้วเขาก็ควรจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด อีกอย่างเราก็ไม่ได้ชนกันเสียหน่อย” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็นเจคอปชี้หน้าฟิลิป ก่อนจะคำรามออกมาด้วยความโกรธ “หมายความว่าแกจะไม่จ่ายยังงั้นเหรอ?”ฟิลิปจ้องไปที่เขา เงียบไม่ตอบรับไคล์ขมวดคิ้วเล็กน้อย หันหน้าไปมองทางรถฮาร์ลีย์ที่พังยับเยินอยู่บนพื้นถนนก่อนจะพูดขึ้น “พี่ชายสามแสนไม่มากเท่าไหร่หรอกนะ ก็แค่ขาข้างหนึ่ง”นี่เป็นคำขู่ สายตาของฟิลิปเปลี่ยนเป็นเย็นชา แววตาของเขาส่องประกายวิบวับในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลที่มั่งคั่ง เงินสามแสนเป็นปัญหาสำหรับเขาไหม? ก็ไม่เลย แต่เ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 11

    เฮ้อ! ภรรยาของเขาสวยเกินไปทำให้ผู้คนมากหน้าหลายตามาตามจีบเธอ มันทำให้ฟิลิปปวดหัว“เฮ้ เอเดนมาถึงแล้ว! เข้ามาสิ มานั่งลงข้างลุงจอห์นสตัน” มาร์ธาตื่นเต้นดีใจ เธอออกไปต้อนรับเขา “เธอเอาของขวัญมาด้วยทำไม? ไม่จำเป็นเลย เธอใจดีเกินไปแล้วแค่เธอมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว”“แต่นี่เป็นงานวันเกิดของลุงจอห์นสตันนี่ครับ” เอเดนยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งด้านข้างชาร์ลส์ในตอนนี้เองก็ผู้คนต่างพากันจ้องมองมาที่ฟิลิปด้วยสายตาเยาะเย้ย ลูกเขยของตระกูลจอห์นสตัน คนนี้ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี! แม้แต่คนนอกยังได้นั่งข้างชาร์ลส์ จอห์นสตัน แต่ในฐานะลูกเขยเขากลับได้นั่งใกล้ประตู การปฏิบัติที่แตกต่างนี้แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดมาร์ธายิ้มอย่างจริงใจในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เอเดนราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองลูกเขยในอนาคตอยู่ “ต้องขอบคุณเอเดน ที่ช่วยจองห้องรับรองส่วนตัวนี้ ทำให้พวกเราได้มาทานอาหารที่เวอร์เทียส คอร์ทในวันนี้”ผู้คนต่างมองไปที่เอเดนด้วยด้วยความเอ็นดู การที่จะจองห้องจัดเลี้ยงรับรองส่วนตัวที่ เวอร์เทียส คอร์ทได้นั้นจะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นและการที่จะเป็นสมาชิกที่นี่ได้ ก็จะต้องมียอดใช้จ่ายอย่างน้อยหนึ่งล้านต่อปี เขาช่างเ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 12

    มองดูผู้คนที่ส่งเสียงเกรียวกราว วินน์รู้สึกราวกับนั่งอยู่บนเข็ม ถึงแม้เธอจะไม่รู้ว่าฟิลิปเตรียมอะไรมา แต่เขาก็บอกกับเธอว่ามันคือภาพวาดฟิลิปไม่ใช่คนโง่ดังนั้นเขาจึงเตรียมภาพวาดที่ได้มาจากรัสเซล แต่น่าเสียดายที่วินน์ไม่ได้รู้ เธอคิดว่าฟิลิปคงซื้อภาพวาดทั่ว ๆ ไปมาเท่านั้น แต่ตอนนี้ เอเดนได้มอบภาพวาดของศิลปินที่มีชื่อเสียงชาวจีน และได้รับคำชมมากมายจากทุกคน ภาพวาดของ ฟิลิป เมื่อเทียบกับของหายากเช่นนั้น รั้งแต่จะเป็นการทำให้เขาโดนดูถูก ถ้าเขาเอามันออกมา“มันก็แค่ของขวัญธรรมดา ไม่มีอะไรให้ดูหรอก” วินน์พูดขึ้นแทนฟิลิป เธอจ้องเขาด้วยสายตาพิฆาต ถ้าเขาทำให้ตัวเองต้องอับอายต่อหน้าทุกคนวันนี้เธอจะเกลียดเขาตลอดไป! เธอคงจะไม่มีวันเชิดหน้าชูตาต่อหน้าเอเดนได้อีก“พี่ ทำไมพี่หยาบคายอย่างนั้นล่ะ พี่จะเมินเฉยต่อน้ำใจของพี่เขยลูกพี่ลูกน้องอย่างนั้นเหรอ?” ลินน์หัวเราะคิกคักในขณะที่พูด เธอเดินเข้ามาและดึงกล่องของขวัญกล่องยาวที่อยู่ใต้โต๊ะที่ฟิลิปแอบซ่อนไว้ออกไป“ดูสิมันเป็นกล่องของขวัญกล่องยาวเหมือนกันเลยจะเป็นภาพวาดเหมือนกันไหมนะ?” ลินน์จงใจลากเสียงของเธอที่เต็มไปด้วยคำถากถางฟิลิปไม่รู้จะพูดอะไรเขาจึ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 13

    “ในเมื่อมิสเตอร์คลาร์กไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมก็จะไม่รบกวนพวกคุณต่อขอให้สนุกให้เต็มที่นะครับ” จู่ ๆ คาเวียร์ก็เข้ามาพร้อมกับของขวัญแล้วก็จากไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้ทุกคนตกตะลึงชาลส์กระแอมขึ้นมา ในมือยังคงถือถือบัตรแล้วถามขึ้น “มีใครในนี้ที่รู้จักมิสเตอร์คลาร์กบ้าง?”ทุกคนส่ายหน้า คน ๆ นั้นจะต้องมีอำนาจถึงขนาดที่ทำให้เจ้าของร้านเวอร์เทียส คอร์ท นำอาหารหน้าตาน่ากินและไวน์ชั้นเลิศมาให้ด้วยตัวของเขาเอง เขาจะต้องไม่ใช่คนที่ใครก็จะเข้าถึงได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน“จะเป็นไปได้ไหมที่จะเป็นฟิลิป?”ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนพูดติดตลกขึ้น แต่ทุกคนในห้องก็ส่งเสียงหัวเราะลั่นออกมา“หยุดพูดเหลวไหลได้แล้ว! มันจะมีจะไปใช่เจ้าเศษขยะนั่นได้ยังไง? ถ้าเป็นเขาจริง ฉันจะกินไวน์ทั้งขวดนี้ไปเลย”“นอกเสียจากนามสกุลที่เหมือนกัน มีอะไรอีกที่พี่เขยลูกพี่ลูกน้องของเราจะเอาออกมาให้พวกเราดูได้?”กลุ่มเด็กวัยรุ่นสองสามคนพูดดูถูกเขาอย่างไม่ไว้หน้าวินน์ทนต่อไปอีกไม่ไหวเธอตำหนิขึ้นมาอย่างโกรธจัด “พอได้แล้วพวกนายพูดอะไรกันอยู่? ถึงยังไงซะเขาก็ยังเป็นพี่เขยลูกพี่ลูกน้องของพวกเธอ!”ชิ! กลุ่มเด็กวัยรุ่นเลิกคิ้วขึ้นอย่างหยิ่งยโ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 14

    ฟิลิปนิ่งคิดก่อนที่จะพูดขึ้น “ผมจะยังไม่เจอเขาตอนนี้ ไว้ค่อยคุยกันโอกาสหน้าแล้วกัน”แอนนาตอบกลับ “เข้าใจแล้วค่ะมิสเตอร์คลาร์ก” หลังจากวางสาย ฟิลิปนั่งลงที่โถงทางเดินและผล็อยหลับไปเช้าวันถัดมา วินน์พูดกับเขาอย่างเย็นชา “ฉันจะพามิล่ากลับบ้านบ่ายนี้ คุณจะไปกับฉันไหม?”ฟิลิปพยักหน้า ยิ้มให้เธออย่างขมขื่น “ผมจะไปขอโทษคุณพ่อ”หัวใจของวินน์เต้นไม่เป็นจังหวะเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น แต่เธอยังคงวางหน้าเฉย และพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรในตอนบ่าย ฟิลิปและวินน์พามิล่ามาที่บ้านตระกูลจอห์นสตัน บรรยากาศในบ้านเย็นยะเยือกขึ้นในทันทีเมื่อพวกเขามาถึง“พ่อคะ หนูกลับมาแล้ว” วินน์แกล้งพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีไม่มีใครออกมาต้อนรับพวกเขา ชาร์ลส์นั่งอยู่ที่โซฟาสวมแว่นตาอ่านหนังสือในขณะที่เขากำลังอ่านหนังสือพิมพ์ส่วนมาร์ธากำลังยุ่งอยู่ในครัวฟิลิปวางมิล่าลง เด็กหญิงตัวน้อยรีบไปหลบที่ระหว่างขาด้านหลังพ่อของเธอ สวมกอดขาของฟิลิปไว้แน่น เงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตากลมโตใสซื่อของเธอ และบ่นพึมพำด้วยเสียงเล็ก “พ่อคะ คุณตากับคุณยายไม่ชอบหนูเหรอคะ?”ฟิลิปย่อตัวลงก่อนจะลูบหัวเล็กของมิล่าด้วยความรักใคร่ เขาส่ายหน้าก่อนจะ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 15

    เอเดนที่ก่อนหน้านี้ยิ้มแก้มปริ ตอนนี้เกิดความงุนงง เกิดอะไรขึ้นกันนะ? มิสเตอร์คลาร์กไม่พอใจ ดังนั้นทางห้องจัดแสดงจึงไม่เปิดให้คนนอกเช่า จะมีเหตุผลไหนที่ดูไร้สาระขนาดนี้อีกไหม? ไม่ เขาต้องทำอะไรผิดไปเป็นแน่“มีอะไรรึเปล่าแอดดี้? มีเรื่องอะไรเกิดอะไรขึ้นงั้นเหรอ?” ชาร์ลส์และมาร์ธาเห็นว่าท่าทีของเอเดนแปลกไป“โอ้ ไม่มีหรอกครับไม่มีอะไรทั้งนั้น พวกเขาแค่รายงานสถานการณ์ทางห้องจัดแสดงให้ผมรู้” เอเดนฝืนยิ้มออกมาก่อนจะพูดเสิรม “ลุงจอห์นสตันครับ ผมมีเรื่องด่วนต้องไปทำ ดังนั้นผมจึงต้องขอตัวกลับก่อน” แล้วเขาก็ยิ่งขึ้นเพื่อที่จะกลับออกไป“โอ้ แอดดี้ มันเร่งด่วนมากเลยงั้นหรือ? เธอจะไม่อยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันก่อนหรือ?” มาร์ธาตามเขามาที่ประตูติด ๆ เพื่อส่งเขากลับไป“เอาไว้โอกาสหน้าแล้วกันครับ ลาก่อนครับคุณลุงจอห์นสตันคุณป้ามาร์ธา” เอเดนรีบพุ่งตัวไป แน่นอนว่าเขาต้องรีบ ถ้ามีบางสิ่งเกิดขึ้นกับการจองห้องจัดแสดง เขาต้องเสียหน้าต่อหน้าพ่อตาในอนาคตของเขาแน่ เขาจึงต้องรีบไปที่ห้องจัดแสดงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่ส่งเอเดนกลับไป มาร์ธาเดินกลับเข้ามาด้านในพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าเธอ เมื่อเธอเห็นวินน์

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 16

    “ก่อปัญหา?” แอนนาขมวดคิ้ว บรรยากาศของเธอเย็นลง ราวกับว่าอุณหภูมิรอบข้างลดลงอีกองศาหนึ่ง ใครก็ตามที่กล้าก่อปัญหาที่ซีวิลแกลลอรี่ต้องกล้ามาก! เมื่ออลิสันเห็นปฏิกิริยาของแอนนา ปากของเธอก็โค้งเป็นรอยยิ้มที่ร้ายกาจ เธอชี้ไปที่ฟิลิปผู้ที่เอามือล้วงกระเป๋า ขณะที่เขายืนอย่างสบาย ๆ และพูดว่า "ถูกต้อง นั่นคือแรงงานต่างด้าวที่ตรงโน่น เขาไม่เพียงแต่สร้างปัญหาแต่ยังประสาทหลอนอีกด้วย เขาบอกว่าอยากเจอคุณ ฉันตำหนิเขานิดหน่อย แต่เขาบอกว่าฉันไม่มีสิทธิ์อยู่ที่ซีวิลแกลลอรี่ เขาเป็นคนโง่เง่าเหรอ?” แอนนามองไปที่อลิสันอย่างเย็นชา แม้ว่าเธอจะไม่ชอบน้ำเสียงที่จองหองของแอลลิสัน เด็กสาวก็ยังคงเป็นหนึ่งในคนของเธอ ดังนั้นเธอจึงเงียบ จากนั้นแอนนาก็เดินวางมาดอย่างสง่างามไปหาฟิลิปและถามด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉยว่า “คุณเป็นคนสร้างปัญหาเหรอ?” ฟิลิปเหลือบมองผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขา เธอคือแอนนา คาร์เตอร์? ไม่เลว สวยงามและน่ารักมาก ฟิลิปไม่ตอบ แต่หยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาอย่างเงียบ ๆ อลิสันโกรธมากเมื่อเห็นการแสดงออกที่ไม่แยแสของฟิลิป เธอชี้ไปที่เขาและตะโกนว่า “ผู้จัดการ ดูสิ! เขาดูหมิ่นคุณอย่างโจ่งแจ้ง! ฉันจะโทรแจ้

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 17

    “ลอยด์ ซัลแมน ใครอนุญาตให้นายเข้ามาที่นี่” แอนนาติเตีอนอย่างเย็นชา เธอดูถูกชายอ้วนที่น่ารังเกียจคนนี้เพราะเขาปรารถนาเธอมานานจนถึงตอนนี้ เมื่อใดก็ตามที่เขามีเวลา ลอยด์จะเข้ามาในห้องทำงานของเธอและพยายามพาเธอไปเดททานอาหารค่ำอย่างไร้ยางอาย เขายังเป็นคนขี้โกงอีกด้วย ตลอดมาเขาพยายามนำเพื่อน ๆ และสมาชิกในครอบครัวเข้ามาในซีวิล แกลลอรี่ ผ่านเส้นสายของเขา ตัวอย่างเช่น อลิสัน คูเปอร์ เป็นหนึ่งในคนที่เขาพาเข้ามา “แอนนา คาร์เตอร์ ทัศนคติของเธอเป็นอะไร? ในฐานะผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของซีวิล แกลลอรี่ ฉันมาที่นี่เพื่อพักผ่อนไม่ได้หรือ?” ลอยด์ ซัลแมน นั่งลงบนโซฟาอย่างสบาย ๆ เหมือนกับกองเนื้อขนาดใหญ่ เขามีไขมันที่ท้องเป็นชั้น ๆ จนเสื้อของเขาขู่ว่าจะระเบิดออกมา “นี่ไม่ใช่ที่ที่นายสามารถเข้ามาได้ ออกไปเดี๋ยวนี้” แอนนาชี้ไปที่ประตูและพูดอย่างเย็นชา เจ้าของคนใหม่อยู่ที่นี่ แต่คนงี่เง่าคนนี้ช่างอวดดี ลอยด์หัวเราะเบา ๆ แล้วมองไปที่ฟิลิปและล้อเล่นอย่างไร้ยางอาย “เธอเป็นคนเข้าใจยากจริง ๆ แอนนา ฉันไม่เคยคิดว่าเธอจะเหงาขนาดนี้” แอนนาขมวดคิ้ว “ลอยด์ ซัลแมน นายเพิ่งพูดว่าอะไรนะ!” ไอ้สารเลวคนนี้ไม่รู้จัก

บทล่าสุด

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 200

    นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 199

    “ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 198

    'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 197

    บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 196

    ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 195

    เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 194

    บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 193

    ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 192

    'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้

DMCA.com Protection Status