แชร์

บทที่ 2

ผู้แต่ง: ปรมาจารย์ยูผู้เล่นควัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
สีหน้าของฟิลิปเปลี่ยนไป เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย

เมื่อเห็นฟิลิปที่อยู่ในชุดพนักงานส่งของ ท่าทางดูมอมแมม ลิลี่ชี้นิ้วไปที่ประตูก่อนจะพูดขึ้น “ออกไปเดี๋ยวนี้! เราไม่อนุญาตให้พนักงานส่งของเข้ามาในนี้”

“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อส่งของ” ฟิลิปอธิบาย

ลิลี่จัดผมหน้าม้าของเธอก่อนจะกอดอกแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเย็น “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องนี้ ทุกคนที่เข้ามาที่นี่ต่างก็บอกว่าพวกเขาไม่ใช่พนักงานส่งของ ขอร้องล่ะ!”

“ผมไม่ใช่ ผมมาที่นี่เพื่อพบกับจอร์จ โธมัส” เมื่อรู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมา ฟิลิปเดินตรงจะเข้าไปด้านในหลังพูดจบ

“บ้าเอ๊ย! นี่คุณเสียสติงั้นเหรอ? ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง?” ลิลี่โกรธจัด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคนส่งของที่หน้าไม่อายขนาดนี้ที่พยายามจะเข้าไปด้านในให้ได้

และตอนนั้นเอง ผู้จัดการแผนกได้ยินเสียงโต้แย้งนี้จึงเดินเข้ามาสอบถามด้วยสีหน้าไม่ยินดี “เกิดอะไรขึ้น?”

“ผู้จัดการสจ๊วต คนส่งของคนนี้พยามที่จะเข้าไปในห้องตึกของพวกเราค่ะ!” ลิลี่ชี้ไปที่ฟิลิป ก่อนจะพูดต่ออย่างเหยียดหยาม “ฉันจะไปเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาพาตัวเขาออกไปเดี๋ยวนี้”

ผู้จัดการขมวดคิ้ว มองฟิลิปตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะพูดขึ้น “บริษัทของเราไม่อนุญาตให้พนักงานส่งของเข้ามาด้านใน กรุณาออกไปเถอะ”

สจ๊วตดูมีมารยาทกว่ามาก แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังคงไม่เป็นมิตรนัก เขาเป็นผู้จัดการแผนกของบริษัทที่มีรายชื่อติดอันดับบริษัทชั้นนำของโลก 500 แห่ง การที่เขาสุภาพกับพนักงานส่งของชั้นต่ำขนาดนี้ก็ดีมากแล้ว

เมื่อเห็นว่าฟิลิปยังคงยืนนิ่งงัน ลิลี่จึงอยากที่จะแสดงให้เห็นว่าเธอทำหน้าที่ของได้มากกว่านี้ ดังนั้นเธอจึงชี้หน้าเขาและส่งเสียงขู่อีกครั้ง “คุณได้ยินหรือเปล่า? ทีนี้ก็ออกไปได้แล้ว!”

ฟิลิ รู้สึกหงุดหงิด นี่เธอกินระเบิดเข้าไปหรืออย่างไร หรือเธอเป็นประจำเดือน? นี่มันบริษัทที่ตระกูลของฉันเป็นเจ้าของ และเธอก็แค่สุนัขรับใช้! กล้าดียังไงถึงมาเห่าใส่เจ้าของ?

“ผมบอกคุณแล้วว่าผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อส่งของผมมาพบจอร์จ โธมัส” ฟิลิปตอบด้วยเสียงเย็นชา

จอร์จ โธมัส? ผู้จัดการถึงกับตะลึงไปก่อนจะจ้องฟิลิปด้วยความพิศวง และขำพรืดออกมา “คุณจะมาหาท่านประธานของเรางั้นเหรอ?”

“จอร์จ โธมัส เป็นประธานของพวกคุณงั้นเหรอ?” ฟิลิปงุนงง ชายแก่คนนั้นเป็นแค่เลขาเองไม่ใช่เหรอ? ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาแอบขึ้นเป็นประธาน? ไม่แปลกใจเลยที่เขากล้าที่ขอพูดคุยถึงเงื่อนไข นี่หมายความว่าฉันจะอ่อนข้อให้กับเขาไม่ได้เมื่อเผชิญหน้ากัน! ฉัน ฟิลิป คลาร์ค จะไม่สืบทอดมรดกของตระกูล! เมื่อได้เงินมาฉันก็จะออกไปทันที!

สจ๊วตส่ายหน้า และขำออกมาอย่างเยาะเย้ย “คุณไม่รู้ด้วยซ้ำว่าท่านประธานโททัสมาเป็นผู้บริหารของเรา? และคุณยังบอกว่าคุณจะมาพบเขาอย่างนั้นเหรอ? คุณได้นัดไว้หรือเปล่า?”

“คุณสจ๊วต เลิกล้อเล่นได้แล้ว คนชั้นต่ำอย่างเขาจะมีปัญญาไปนัดกับท่านได้ยังไง?” ลิลี่เย้ยหยัน ริมฝีปากของเธอหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเยาะ

“ก็ได้ ก็ได้ ลิลี่ไปตาม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมา” สจ๊วตโบกมืออย่างไร้ความอดทน

“ทราบแล้วค่ะ คุณสจ๊วต” ลิลี่ตอบรับด้วยน้ำเสียงกระชดกระช้อย ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่โต๊ะแผนกต้อนรับเพื่อโทรไปยังแผนกนักงานรักษาความปลอดภัย

ผู้จัดการกำลังจะเดินออกไป จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเดือดดาลดังขึ้นที่โต๊ะแผนกต้อนรับ

“จอร์จ โธมัส ลงมาที่นี่เดี๋ยวนี้! ผมถูกกักตัวอยู่ที่แผนกต้อนรับของคุณ ถ้าพบไม่เห็นคุณลงมาภายใน 3 นาที ผมจะกลับทันที”

คนทั้งสองมองตามเสียงไปและพบกับฟิลิป ที่เพิ่งกดวางสายไปด้วยท่าทีเหนื่อยหน่าย ก่อนที่เขาจะมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง

รอยยิ้มเยาะของลิลี่กว้างขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินเช่นนั้น ก่อนที่จะว่าตำหนิเขา “นี่ถึงขั้นต้องแสดงละครเลยงั้นเชียว! สมควรแล้วแหละที่จะเป็นแค่พนักงานส่งของไปตลอดชีวิต!” ก่อนที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปฟิลิปเพื่อโพสลงโซเชียลมีเดียของเธอพร้อมกับแคปชั่น “น่าขยะแขยง! เจอเข้ากับพนักงานส่งของเสียสติ กำลังจะเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาโยนเขาออกไป…”

อีกด้านหนึ่ง สจ๊วตขมวดคิ้วและจ้องมาที่เธอ ลิลี่เข้าใจในทันทีก่อนจะส่งสัญญาณ ‘โอเค’ ให้กับเขา เธอยกโทรศัพท์ขึ้นต่อสายไปยังแผนกรักษาความปลอดภัยก่อนจะรายงาน “ฮัลโหล รีบมาที่แผนกต้อนรับแล้วจัดการโยนขยะชั้นต่ำออกไปที” หลังจากวันสายลิลลี่นั่งลง ก่อนจะเริ่มลงมือแต่งหน้า ไม่สนใจฟิลิปอีกต่อไป

ไม่นาน ประธานบริษัท เอเปก กรุ๊ป จอร์จ โธมัส พร้อมด้วยเลขาของเขา กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมาจากลิฟต์ และเห็นจากไกล ๆ ว่านายน้อยของเขากำลังยืนรออยู่ที่ห้องรับรอง!

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้พวกเขาแทบจะตาถลนออกมา ก็เมื่อได้เห็นพนักงานรักษาความปลอดภัยสามคนกำลังจะโยนนายน้อยออกไปด้านนอก!

นั่นมันทายาทคนเดียวของกลุ่มธุรกิจครอบครัวนี้เชียวนะ! จอร์จตะโกนขึ้นมาทันที “หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

พนักงานรักษาความปลอดภัยทั้งสามคนเพิ่งจะผลักฟิลิปออกไปเมื่อเขาได้ยินคำสั่งนั้น เขาหันกลับมาเจอประธานบริษัทรีบวิ่งมาทางนี้ด้วยสีหน้าโกรธจัด! ทำไมท่านประธานมาอยู่ที่นี่ได้?

“วันทยาหัตถ์!” ชายทั้งสามยืดตัวตรงพร้อมทำความเคารพ “สวัสดีครับท่านประธาน!” พวกเขากล่าวทักทาย

อย่างไรก็ตาม จอร์จไม่ได้สนใจพวกเขา แต่มุ่งตรงไปที่ฟิลิป ใบหน้าของเขาเบ่งบานราวกับดอกทานตะวัน

“ท่านประธาน!” ลิลี่ทักทายด้วยความเคารพ ก่อนจะหันไปจ้องฟิลิปอย่างดูหมิ่น “ ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่อีก? พวกนายสามคนโยนเข้าออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ! ลิลี่เกรี้ยวกราด นี่ทีมรักษาความปลอดภัยตาบอดหรืออย่างไรกัน? พวกเขาปล่อยให้คนแบบนี้มายืนอยู่ในห้องรับรองเดียวกันกับท่านประธานได้อย่างไร? ถ้าเกิดเจ้าคนเสียสตินี่เกิดทำให้ท่านประธานหงุดหงิดขึ้นมาจะทำอย่างไร?

จอร์จหันไปส่งสายตาเย็นชาให้กับ ลิลี่ ก่อนจะต่อว่าเธอ “เธอทำอะไรของเธอ? เขาคือนายน้อยของบริษัทเรา อนาคตท่านประธานคนต่อไปนะ! ใครอนุญาตให้พวกเธอแสดงท่าทีไม่เคารพเขาแบบนี้กัน!”

นาย...นายน้อย? ผู้ชายคนนี้เนี่ยนะ? จะเป็นไปได้อย่างไรที่พนักงานส่งของอย่างเขาจะกลายเป็นนายน้อยของบริษัท?

ลิลี่ตกตะลึงไป เธอพูดขึ้นอย่างขุ่นเคือง “ ท่านประธานคะท่านจำคนผิดหรือเปล่าคะ? เขาจะเป็นนายน้อยของบริษัทเราได้อย่างไรกัน?”

“ฉันจะจำคนไม่ผิดได้ยังไง” จอร์จ ตอบอย่างเย็นชา เขาสบประมาทเธอในใจ น้ำเสียงและท่าทีแบบนี้มันคืออะไร? นี่เธอพูดแบบนี้กับประธานของเธอแบบนี้น่ะเหรอ?

ลิลี่รู้ได้ถึงความผิดพลาดของเธอในทันที เธอรีบโค้งตัวลงอย่างสำนึกผิด “ท่านประธานคะ ฉันขอโทษ ฉัน…”

ผู้จัดการสจ๊วต ผู้ที่เพิ่งจะเดินกลับเข้ามา เขายิ้มให้อย่างประจบประแจงก่อนจะพูดขึ้น “ท่านประธานครับ ท่านลงมาทำอะไรที่ด้านล่างนี้?” ในขณะที่พูด เขาเหลือบไปเห็นว่าฟิลิปยังคงยืนอยู่ตรงนั้น แต่กลับไม่ได้รับรู้ถึงสภาพบรรยากาศรอบ ๆ เลย สีหน้าเขาโกรธจัดพร้อมกับขมวดคิ้ว “ ทำไมนายยังอยู่ที่นี่อีก? ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอว่าบริษัทของเราไม่นุญาตให้พนักงานส่งของเข้ามาในนี้? ออกไปซะ!”

หลังจากที่เขาพูดจบ เขาก็รู้สึกถึงสายตาเย็นชาคู่หนึ่งจ้องตรงมาที่เขา

โธ่ ๆ เหล่าคนโง่นี่ช่างมีอยู่ทั่วจริง ๆ แต่ยิ่งมีเยอะเป็นพิเศษในวันนี้

“หุบปากซะ!” จอร์จระเบิดเสียงออกมาด้วยความโกรธและฉุนเฉียว “เขาเป็นนายน้อยของบริษัทของพวกเรา พวกแกทั้งคู่ถูกไล่ออก!”

ฟิลิปส่ายหน้า อย่างช่วยไม่ได้ “การทำตัวอวดดีนี่ช่างเป็นเรื่องผิดบาปแท้ ๆ”

“นานน้อยครับ เชิญทางนี้เถอะครับ” จอร์จโค้งให้เขาเล็กน้อยก่อนจะผายมือให้เขาเข้าไปด้านใน

เมื่อเห็นเช่นนั้น ทั้งผู้จัดการและพนักงานต้อนรับถึงกับสะดุ้ง นายน้อยอย่างนั้นเหรอ? เขาเป็นนายน้อยจริง ๆ งั้นเหรอ?

เมื่อเห็นว่าฟิลิปกำลังจะเดินจากไปกับท่านประธาน สจ๊วตรีบวิ่งเข้ามายิ้มอย่างขอโทษก่อนจะขอร้องเขา “นายน้อย ผมตาบอดไป มองไม่ออกว่าคุณเป็นใคร กรุณายกโทษให้ผมในครั้งนี้ด้วยเถอะครับ”

สจ๊วตเห็นว่าท่านประธานให้ความเคารพชายหนุ่มคนนี้เป็นอย่างมาก เอเปก กรุ๊ปถูกจัดอันดับให้อยู่ลำดับที่เจ็ด ในบริษัทชั้นนำของโลก 500 แห่ง และตัวท่านประธานเองก็เป็นคนที่โดดเด่น มีทรัพย์สินกว่าพันล้าน! ถ้าคนสำคัญอย่างเขาบอกว่าชายหนุ่มคนนี้คือนายน้อยของที่นี่ เช่นนั้นเขาก็ต้องเป็นนายน้อยตัวจริงเสียงจริง!

ลิลี่เองก็เช่นกัน เธอรีบวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าอ่อนน้อม ก่อนจะกล่าวขอโทษ “นายน้อยคะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันจะไม่ทำเช่นนั้นอีก”

ฟิลิปเพียงแค่หันไปมองทางจอร์จอย่างเฉยชา ก่อนที่จอร์จจะชี้นิ้วไปที่ทีมรักษาความปลอดภัยพร้อมออกคำสั่ง “พวกแกมัวยืนทำอะไรกันอยู่? แกสองคนนี้ออกไปซะนับตั้งแต่วันนี้อย่าให้พวกเขาก้าวขาเข้ามาในตึกของเราอีกเป็นอันขาด!”

“นายน้อย นายน้อย พวกเราผิดไปแล้ว ยกโทษให้พวกเรา…” สจ๊วตและลิลี่ถูกทีมรักษาความปลอดภัยจับโยนออกไปนอกตึกเสียก่อน

เมื่อไปถึงห้องผู้บริหาร ฟิลิปนั่งลงที่โซฟาหนังในขณะที่จอร์จยืนสำรวมอยู่ด้านข้าง มือของเขากุมอยู่ที่ด้านหน้า

“ผู้อาวุโสจอร์จ คุณใช้ชีวิตหรูหราเสียจริง โซฟาหนังนกกระจอกเทศ ช่างมีรสนิยมดีจริง ๆ นะ”

จอร์จตอบกลับด้วยท่าทีนอบน้อม ยังคงยืนอยู่ “นายน้อยหยุดล้อตาแก่คนนี้เถอะครับ ถ้าคุณเซ็นชื่อในเอกสารนี้ทุกอย่างที่นี่ก็จะเป็นของคุณ” เมื่อเขาพูดจบเลขาร่างสูงเพรียวผิวพรรณดี แต่งกายด้วยชุดสีดำเป็นทางการ ที่อยู่ด้านหลังเขา ยื่นเอกสารชุดนึงให้ฟิลิป

ฟิลิปจ้องมองมันอย่างดูแคลน “คุณก็รู้ดีนี่ว่าผมปฏิเสธที่จะรับมรดกมหาศาลของพ่อของผม ผมมาที่นี่เพื่อที่จะยืมเงินคุณหนึ่งแสนดอลลาร์”

จอร์จ เผยยิ้มอย่างชาญฉลาดออกมาก่อนจะพูดขึ้น “ผมปฏิเสธ”

“พูดอีกทีซิ ผู้อาวุโส!” ฟิลิป ผุดลุกขึ้นด้วยความโกรธ

จอร์จ พูดอีกครั้ง “ผมปฏิเสธ”

ชายอาวุโสยังคงคงรอยยิ้มสดใสบนใบหน้าเหี่ยวย่นของเขา ก่อนจะโนมน้าว “นายน้อยตราบใดที่คุณเซ็นเอกสารนี้ลืมเรื่องเงินหนึ่งแสนไปได้เลย ถ้าหากคุณต้องการร้อยล้านหรือพันล้านมันก็จะเป็นของคุณ”

“งั้นก็ลืมเรื่องนั้นไปซะ! ถ้าผมเซ็นเอกสารนี้ ผมก็จะไม่ใช่ฟิลิป คลาร์ค อีกต่อไป!” เขาพูดขึ้นด้วยความฉุนเฉียว

ห้านาทีผ่านไป

“ยินดีด้วยครับนายน้อย ตอนนี้คุณก็ได้สืบทอดมรดกและธุรกิจทั้งหมดของตระกูลคลาร์ค อย่างเป็นทางการ และนี่เงินหนึ่งแสนของคุณ”

ช่างน่ายินดีอะไรเช่นนี้!

จอร์จจ้องมองเอกสารสัญญาด้วยใบหน้าอิ่มเอมราวกับดอกเบญจมาศ

ในขณะเดียวกันเลขาที่อยู่ด้านข้างเขาก็เข้ามาพร้อมกับกระเป๋าทำงาน ก่อนจะเปิดออก ในนั้นคืนเงินสดหนึ่งแสนดอลลาร์!

“ผู้อาวุโสจอร์จ คุณนี่ช่างเล่นใหญ่เสียจริงนะ กระเป๋าใบนี้ดูราวกับใส่เงินหนึ่งล้านไว้อย่างนั้นแหละ” ฟิลิปพูดขึ้นในขณะที่เขาหยิบถุงพลาสติกที่วางอยู่ด้านข้างขึ้นมาก่อนจะนำเงินใส่ลงไป “ถ้าเช่นนั้นผมต้องขอตัวก่อน”

“รักษาตัวด้วยครับนายน้อย คุณต้องการให้ผมเอารถไปส่งคุณไหม?” จอร์จถามขึ้นด้วยความเคารพ

“ไม่เป็นไรหรอก ผมเอาสกู๊ตเตอร์มา” ฟิลิปตอบ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานพร้อมกับถุงพลาสติกในมือ

หลังจากที่ฟิลิปส์กลับไป จอร์จรีบนำเอกสารไปยังห้องประชุมชั้นบนสุดก่อนจะเริ่มการประชุมวิดีโอคอล

“นายท่านครับ ในที่สุดนายน้อยก็เซ็นเอกสารแล้ว” ผู้อาวุโสจอร์จ ยืนอยู่ด้านหน้าจอขนาดใหญ่ เขาโค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะรายงานอย่างกระตือรือร้นและนอบน้อม

บนหน้าจอปรากฏร่างชายแก่นั่งอยู่บนเก้าอี้วีลแชร์ ชายแก่คนนั้นไอออกมาเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ ยกมือขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง “ถ้าเช่นนั้น...ก็ส่งข่าวออกไปได้…”

“ครับ นายท่าน” จอร์จตอบรับ เช็ดน้ำตาของเขาก่อนจะมองไปที่ชายแก่บนหน้าจอ

และในทันทีเหล่าผู้บริหารของบริษัทที่อยู่ภายใต้ตระกูลคลาร์ค ก็ได้รับอีเมลแจ้งถึงเรื่องที่ทายาทคนเดียวของตระกูลคลาร์ค ฟิลิป คลาร์ค ได้เข้ามาสืบทอดธุรกิจของตระกูลอย่างเป็นทางการแล้ว! ธุรกิจทั้งหมดประกอบไปด้วยอสังหาริมทรัพย์, ธุรกิจก่อสร้าง, ธุรกิจบันเทิง,การผลิต, สินเชื่อ, การลงทุน, ข่าวสารเทคโนโลยี, และอื่นๆ อีกมากมาย…

ฟิลิปกลับมาที่โรงพยาบาลและรีบไปที่ห้องผู้ป่วย เขามาทันได้เขอเข้ากับวินน์และฆวน ที่ยืนใกล้ชิดคุยกันอย่างมีความสุข

ฟิลิปขมวดคิ้วและกำมือแน่น

“ฟิลิป คลาร์ค คุณไปไหนมา?” เมื่อเห็นเขา วินน์ถามขึ้นอย่างเย็นชา เมื่อคิดว่าเขายังคงวิ่งไปนู่นมานี่โดยไม่คำนึงถึงลูกตัวเอง สายตาของวินน์ก็ฉายแววผิดหวังออกมาในขณะที่เธอจ้องเขา

ฆวนผู้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขำออกมา “ฟิลิป นี่นายเที่ยววิ่งเต้นพยายามไปหยิบยืมเงินคนอื่นมาเหรอ? ไม่เป็นไรหรอก ฉันจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ได้ ยังไงซะฉันก็เป็นลุงของมิล่า”

“ฉันไม่ได้อยากให้นายมาเป็นห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลของลูกสาวของฉัน ฉันจ่ายเองได้” ฟิลิป เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเย็นชา

“ฟิลิป คลาร์ค คุณทำท่าทีแบบนี้ต่อหน้าพี่ฆวนได้ยังไง! ขอโทษเขาซะ!” วินน์ดุเขา เธอคิดว่าเธอรู้จักสามีของเธอดีว่าเขาจงใจที่จะทำนิสัยแบบนี้ พี่ฆวนใจดีกับพวกเขามากที่ช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ แต่ชายคนนี้กลับทำตัวแย่กับเขา เสียมารยาทจริง ๆ!

ฆวนแสร้งทำเป็นจิตใจดี ก่อนจะพูดแนะวินน์ “วินนี่ อย่าโกรธไปเลยนะ ฟิลิปคงกำลังเสียใจเพราะเขาไม่สามารถหยิบยืมเงินใครมาได้”

วินน์ส่งสายตาโกรธเคืองไปยังฟิลิป เธอดูถูกเขามากยิ่งกว่าเดิม

ฟิลิปพยายามควบคุมความโกรธของเขา จ้องไปที่คนทั้งสองพร้อมกับกำมือแน่น เขาอยากจะต่อยหน้าฆวนเสียเหลือเกิน และ วินนี่ งั้นเหรอ? เขาเรียกชื่อเธอด้วยชื่อเล่นอย่างรักใคร่เสียจริง! วินน์ จอห์นสตัน ผมสามีของคุณยืนอยู่ตรงนี้ คุณไม่มียางอายเลยงั้นเหรอ?

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 3

    “มันก็แค่เงิน แล้วใครบอกว่าผมหายืมไม่ได้กัน?” ฟิลิปจ้องฆวนอย่างรังเกียจฆวนตกตะลึงจนพูดไม่ออก สีหน้าของเขาแข็งทื่อไป ด้วยเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจเกิดขึ้นตรงหน้าเขา ฟิลิปโยนถุงพลาสติกในมือเขาลงตรงหน้าชายหนุ่มและวินน์ถุงพลาสติกหล่นลงพื้นดังตุ๊ป ก่อนที่เงินเป็นฟ่อน ๆ จะปรากฏให้เห็นตรงหน้าพวกเขาหางตาของฆวนกระตุกเล็กน้อย ริมฝีปากสั่นเทิม มือของเขากำแน่นอย่างไม่ได้ตั้งใจวินน์รู้สึกประหลาดใจ เธอจ้องไปที่เงินที่ฟิลิปโยนลงตรงหน้าพวกเขา รู้สึกสับสน แต่ไม่นานสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมกับความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมาในแววตาฟิลิปไปเอาเงินนี่มาจากไหน? ถ้าเขามีเงินทำไมถึงไม่เอาออกมาตั้งแต่แรก? ทำให้ฉันต้องมาคอยนั่งคุยเอาอกเอาใจผู้ชายคนอื่นอยู่ได้! ไม่รู้รึยังไงว่ามันเหนื่อย? ”นี่เป็นเงินหนึ่งแสน ฉันจ่ายในคืนภายในครั้งเดียวรวมกับของเก่าที่เคยยืมไว้ด้วย! แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก” ฟิลิปพูดขึ้นฆวนไม่ได้หยิบเงินขึ้นมา พูดตามจริง เงินจำนวนหนึ่งแสนนี่ไม่ได้มีค่าอะไรกับเขามากนัก เขาแค่คิดเสียว่าเหมือนการบริจาคให้กับผู้คนยากไร้ก็เท่านั้นแหละ“ทำได้ดีนี่ ฟิลิป นายหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มาได้

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 4

    วิลสันเดือดดาลด้วยความโกรธ! เจ้าคนเสียสตินั่นไปจอดขวางหน้ารถเบนท์ลีย์ของเจ้านายคนใหม่ได้ยังไงกัน! นี่เขาอยากมีปัญหารึอย่างไรนะ? “ฟิลิป คลาร์ค แกยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นอยู่อีก? รีบหลบไปได้แล้ว!” วิลสันชี้หน้าฟิลิป และตะโกนใส่เขาฟิลิปเพิ่งจะจอดสกู๊ตเตอร์ของเขาเสร็จ เมื่อได้ยินเสียงด่าของวิลสันดังมาอีกระลอกนึง “แย่ละ! ฟิลิปตายแน่คราวนี้ พี่วิลจะได้ออกหมัดเสียที”“สิบสายร้องเรียน แต่เจ้าหนุ่มเสียสตินี่ยังกล้าจะกลับมาที่นี่อีก!”“จะต้องโดนหักเงินอย่างน้อยสองร้อยแน่ ๆ นั่นมันต้องทำงานทั้งวันเลยนะ!”พนักงานสองสามคนแอบนินทากันเงียบ ๆ และบางคนก็สนุกกับการได้ดูการแสดงนี้ ท่ามกลางพนักงานเหล่านี้มีบางคนที่เป็นพนักงานเก่าที่เคยทำงานกับฟิลิป เมื่อพวกเขาเห็นว่าฟิลิปถูกลดระดับลงมาทำงานเป็นพนักงานส่งของเหมือนกันกับพวกเขา ต่างก็พากันดูถูกเขายิ่งกว่าเดิม ฟิลิปชินชาไปเสียแล้ว ตอนนั้นเอง มิสเตอร์แทงค์จ้องไปทางฟิลิปอย่างเย็นชา เขาดูหงุดหงิดก่อนจะถามขึ้น “ผู้จัดการ ยัง นี่ลูกน้องของคุณงั้นเหรอ?”วิลสันรีบตอบกลับในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยคำถากถาง “เจ้านายครับ คุณไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก ผมจึงลืมแนะนำคุณ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 5

    “คุณมาทำอะไรที่นี่?” วินน์ขมวดคิ้วก่อนจะจ้องไปที่เบนท์ลีย์ที่จอดอยู่ข้างฟิลิป นี่เขาเพิ่งจะออกมาจากรถคันนั้นงั้นเหรอ? นี่มันสามีที่ไม่ได้เรื่องของฉันจริง ๆ งั้นเหรอ? หรือเดี๋ยวนี้บริษัทส่งของเขาส่งอาหารด้วยรถเบนท์ลีย์กันแล้ว? “ผม…คือผม…” ฟิลิปพูดตะกุกตะกักก่อนจะเหลือบมองไปทางจอร์จที่กำลังยิ้มหน้าบานผ่านกระจกชายสูงวัยรีบยื่นมือเข้ามาช่วยก่อนจะพูดขึ้น “พ่อหนุ่มขอบคุณมาก ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ ที่ช่วยให้ฉันหาที่นี่เจอ ไว้ให้ตาแก่คนนี้เลี้ยงอาหารเธอสักมื้อเพื่อแสดงความขอบคุณนะ” ฟิลิปยิ้มก่อนจะพยักหน้าอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรครับท่าน กรุณากลับดี ๆ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกเป็นนัยว่าให้ชายสูงวัยรีบกลับไปได้แล้วจอร์จไม่ได้พูดอะไรอีกยิ้มและพยักหน้าให้กับวินน์ ก่อนจะบอกให้คนขับรถเคลื่อนรถออกไปวินน์ตัวแข่งทื่อไปด้วยความตกตะลึง นั่นไม่ใช่...นั่นไม่ใช่ประธานของ เอเปก กรุ๊ป ประธานโทมัส หรอกเหรอ? คนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองนี้! และฟิลิปเพิ่งจะนั่งรถคันเดียวกันกับเขามา“นี่คุณรู้จักจอร์จ โธมัส ด้วยเหรอ?” วินน์หันไปทางฟิลิป รู้สึกประหลาดใจฟิลิปยักไหล่ “ไม่ ไม่รู้จัก ตาแก่นั่นก็แค่หลงทาง ผมแค่ช่วยนำทาง

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 6

    ฟิลิปกดโทรออกหาจอร์จ โทมัส “จอร์จ คุณช่วยผมตรวจสอบโครงการล่าสุดที่วินน์ จอห์นสตัน ต้องดูแลของบริษัทเภสัชกรรม บีคอน หน่อย ว่ามีมูลค่าการลงทุนคือ หนึ่งล้านดอลล่าร์จริงหรือเปล่า? แล้วใครกันที่เป็นลูกค้าและบุคคลที่รับผิดชอบโครงการนี้”น้ำเสียงที่นอบน้อมของจอร์จลอดผ่านปลายสายออกมาเขาพูดขึ้น “นายน้อย กลุ่มบริษัทเภสัชกรรม บีคอน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลคลาร์คของเราร่วมลงทุนผมจะให้ประธานบริษัทของบีคอนไปพบกับคุณด้วยตัวเขาเอง”หืม? บริษัทเภสัชกรรม บีคอน ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลเราลงทุนไว้งั้นเหรอ พ่อของฉันนี่เยี่ยมยอดจริง ๆ!ฟิลิปรู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีที่ไม่รับมรดกของตระกูลให้เร็วกว่านี้“ไม่จำเป็นหรอก รีบตรวจสอบโดยเร็วและทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนซะเพื่อที่วินน์จะได้ไม่ต้องลำบากมาก” ฟิลิปพูดขึ้นอย่างใจเย็น“นายน้อย ผมแนะนำให้คุณซื้อบริษัทของลูกค้านั่นซะ คุณมีเงินมากพออยู่แล้ว” จอร์จแนะนำอะไรกันวะเนี่ย! ซื้อบริษัทงั้นเหรอ? อย่างที่คาดไว้ในฐานะพ่อบ้านจากตระกูลร่ำรวย ตาเฒ่าจอร์จ นี่คุณเป็นคนขี้อวดขนาดนี้แล้วเหรอ? “มันเรียกว่าการทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจ เข้าใจรึเปล่า? ถ้าผมอยา

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 7

    ในที่สุดรถเบนท์ลีย์ก็มาหยุดที่ ริเวอร์เดล เวอร์เทียส คอร์ท ร้านอาหารที่ดังที่สุดในเมือง สถานที่ที่มีเฉพาะเหล่าเศรษฐีแหละคนดังถึงจะมารับประทานอาหารที่นี่ได้ เวอร์เทียส คอร์ท กำหนดให้ผู้ที่จะมาทำการจองร้านจะต้องเป็นสมาชิกที่มีการใช้จ่ายขั้นต่ำอย่างน้อยหนึ่งล้าน เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์การเป็นสมาชิกเอาไว้ได้และที่นั่น ผู้ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท คือนักธุรกิจชื่อดัง ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้ง กรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและส่งออกโดยจะเน้นที่ผลงานศิลปะ ในฐานะผู้บริหารของบริษัท แค่ตัวรัสเซลเองก็ร่ำรวยมีทรัพย์สินถึงสามพันล้าน และเขายังเป็นนักสะสมชื่อดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย คนดังที่มาอยู่ในชุมชนของนักสะสมท้องถิ่น รัสเซลได้พาเหล่าผู้บริหารระดับสูงอีกกว่าสิบคน มายืนรอด้วยความเคารพที่ด้านหน้าทางเข้าร้าน เวอร์เทียส คอร์ท กับเขาด้วย เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้เหล่าผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านไม่น้อย บางส่วนถึงกับอุทานออกมา“นั่นไม่ใช่ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้งกรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์หรอกเหรอ? เขามายืนรอใครกัน มากันเยอะแยะ อลังการขนาดนี้?”“ช่างเป

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 8

    เสียงที่พูดขึ้นมาไม่น่าพิศมัยนัก ฟิลิปเงยหน้าขึ้นมาเจอเข้ากับชายที่พุงยื่นพลุ้ย จ้องมาที่เขาด้วยสายตาเยาะเย้ยแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? ฉันจะเป็นแมงดาหรือไม่แล้วยังไง? ฉันไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ ฟิลิปทำปากเบะ ตั้งใจจะไม่สนใจเขา ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกไปแต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ เขาเดินไปขวางทางฟิลิป และพูดจาถากถางเขาต่อหน้าเขาตรง ๆ “ทำเป็นเมินผมงั้นเหรอ? นิสัยดีเยี่ยมไปเลย! ผมได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณพังไม่เป็นท่า และตอนนี้รองผู้จัดการจอห์นสตันของเราก็เป็นคนหาเลี้ยงปากท้องครอบครัวแทน ชายหนุ่มอย่างคุณฉันนี่ช่างกล้าที่จะเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินนะ”ฟิลิปขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจำชายคนนี้ได้เขาคือ เกวิน แซค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทที่วินน์ทำงานอยู่ ชายคนนี้เคยพยายามที่จะข่มขู่วินน์ แล้วฟิลิปก็เคยมอบบทเรียนให้กับเขา แต่ในตอนนี้เค้ามองฟิลิปว่าอยู่ต่ำกว่าเขา ชายหนุ่มจึงดูถูกเหยียดหยามเขาไม่หยุดหย่อนเพื่อนร่วมงานคนอื่นของวินน์ต่างก็มองฟิลิปด้วยสายตาแปลกประหลาด พวกเขารู้เรื่องของฟิลิปเพียงเล็กน้อย รู้เพียงแค่ว่าเขาเคยเป็นนักลงทุนที่มุ่งมั่น แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ในสถานะขอ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 9

    ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ โรสโบกบัตรไปมาก่อนจะชำเลืองมองไปทางฟิลิป อย่างเย่อหยิ่งและพูดขึ้น “ช่วยตรวจสอบที ว่าบัตรใบนี้สามารถจองห้องอาหารส่วนตัวได้หรือเปล่า”ทุกคนกลั้นหายใจรอคอยที่จะได้เห็นฟิลิปขายหน้าหญิงสาวที่อยู่ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ รับบัตรไปรูดที่เครื่องและทันทีสีหน้าของเธอก็เป็นกังวลขึ้นมา เธอถามขึ้น “คุณผู้หญิงคะ นี่นี่บัตรของคุณงั้นเหรอ?”เมื่อโรสเห็นดังนั้นเธอก็ส่ายหน้า ยื่นมือของเธอที่ทาเล็บสีแดงก่ำออกมา ชี้ไปที่ฟิลิปที่ถูกยืนห้อมล้อมและโดนหัวเราะเยาะอยู่ “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเขา” ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องเหลวไหลสิ้นดี! ฟิลิปทำให้ตัวเองต้องขายหน้า และวินน์ก็จะเสียหน้าไปด้วยเช่นกัน นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มีชายที่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอยู่ตลอดจริง ๆ งั้นเหรอ?โรสมีความสุขเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่วินน์ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อย่างมีความสุข ก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้น “รองผู้จัดการจอห์นสตัน สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”วินน์รู้สึกขายหน้าเป็นที่สุด เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างขุ่นเคือง เตรียมตัวที่จะตำหนิเขาแต่หญิงสาวที่อยู่แผนกต้อนรับก็เข้ามาขัดเสียก่อน เธอลุกขึ้นยืน

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 10

    ฟิลิปจ้องไปทางพวกเขาอย่างใจเย็น สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกไคล์มองมาที่ฟิลิปด้วยความไม่พอใจ ชายคนนี้ดูธรรมดามาก และเขายังใจเย็นขนาดนี้ได้ยังไงกัน? “น่าสนใจดีนี่!”“พี่ชาย คุณสามารถจ่ายเงินสามแสนได้ไหม?” ไคล์ไม่ใช่พวกนักเลงที่จะได้เริ่มลงมือต่อยตีโดยที่ไม่ถามหาเหตุผล สามแสนเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนทั่วไป ไคล์รู้สึกว่าชายหนุ่มอย่างฟิลิป ไม่สามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังต้องถาม ต้องมีศิลปะทางการทูตเสียก่อนที่จะลงมือรุนแรง“ฉันขอโทษด้วยนะ แต่เขาเป็นคนที่ฝ่าไฟแดงมา อย่างนั้นแล้วเขาก็ควรจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด อีกอย่างเราก็ไม่ได้ชนกันเสียหน่อย” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็นเจคอปชี้หน้าฟิลิป ก่อนจะคำรามออกมาด้วยความโกรธ “หมายความว่าแกจะไม่จ่ายยังงั้นเหรอ?”ฟิลิปจ้องไปที่เขา เงียบไม่ตอบรับไคล์ขมวดคิ้วเล็กน้อย หันหน้าไปมองทางรถฮาร์ลีย์ที่พังยับเยินอยู่บนพื้นถนนก่อนจะพูดขึ้น “พี่ชายสามแสนไม่มากเท่าไหร่หรอกนะ ก็แค่ขาข้างหนึ่ง”นี่เป็นคำขู่ สายตาของฟิลิปเปลี่ยนเป็นเย็นชา แววตาของเขาส่องประกายวิบวับในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลที่มั่งคั่ง เงินสามแสนเป็นปัญหาสำหรับเขาไหม? ก็ไม่เลย แต่เ

บทล่าสุด

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 200

    นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 199

    “ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 198

    'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 197

    บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 196

    ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 195

    เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 194

    บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 193

    ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 192

    'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้

DMCA.com Protection Status