แชร์

ทายาทอันดับหนึ่ง
ทายาทอันดับหนึ่ง
ผู้แต่ง: ปรมาจารย์ยูผู้เล่นควัน

บทที่ 1

ผู้แต่ง: ปรมาจารย์ยูผู้เล่นควัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
ณ โรงพยาบาลรัฐเมืองริเวอร์เดล

“ขอโทษนะครับ ช่วยหลีกทางหน่อย!” ฟิลิป คลาร์ค ที่กำลังอุ้มร่างที่ไม่ได้สติของเด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้ามาในโรงพยาบาล ตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “คุณหมอ! คุณหมอ! เร็วเข้า! ช่วยลูกสาวของผมด้วย!”

เหล่าพยาบาลและหมอที่รีบวิ่งออกมารับร่างของเด็กสาวจากอ้อมแขนของฟิลิป และนำตัวเด็กเข้าห้องฉุกเฉินไป

“โอ้! คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ!” นางพยาบาลในชุดสีฟ้าครามสวมหน้ากากอนามัยห้ามฟิลิปที่กำลังจะเข้าไปในห้องฉุกเฉิน

ในขณะนั้นเอง เสียงส้นสูงที่กระทบพื้นเซรามิคดังขึ้นมาถี่ ๆ จากทางด้านหลัง บีบเค้นหัวใจของเขาในทุกช่วงจังหวะที่ส้นสูงกระทบกับพื้นนั่น

“ฟิลิป คลาร์ค!” เสียงคำรามของผู้หญิงคนนึงดังขึ้น

‘เพี๊ยะ!’

ฝีมือตบอันหนักหน่วงเฉียบคมกระทบลงบนแก้มของฟิลิป ที่ยืนอยู่ด้านหน้าเขาคือ วินน์ จอห์นสตัน ผู้มีสีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธจัด น้ำตาเอ่อล้นในดวงตาคู่สวย “ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวของฉัน ฉันจะไม่มีวันยกโทษให้คุณ!” น้ำเสียงของเธอเย็นชาและแฝงไปด้วยความเดือดดาล

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้คนไข้ที่ผ่านไปผ่านมาสองสามคนและผู้คนในโรงพยาบาลต่างตกใจ

ฟิลิปคอตก เขารู้สึกละอายใจ ไม่อาจที่จะอธิบายอะไรออกไปได้

“ฮึ่ม!” วินน์ พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา ความไม่พอใจและดูถูกเหยียดหยามฉายออกมาในแววตาของเธอ

ฟิลิปยืนก้มหน้าอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ ราวกับเด็กที่ถูกจับได้ว่าทำความผิด เขาแอบเหลือบมองหน้าผู้หญิงที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตรจากตัวเขาสองสามครั้ง ผู้หญิงที่เขาเคยเรียกว่าเป็นภรรยาของเขา คนที่เขาเซ็นใบหย่ากับเธอแล้วเรียบร้อยและเธอก็สามารถที่จะหย่าขาดอย่าง เป็นทางการกับเขาได้ทุกเมื่อ

วินน์ จอห์นสตัน หญิงสาวที่สวยสดงดงาม รูปร่างของเธอราวกับถูกปั้นขึ้นมา สูง เพรียว มีกริยามารยาทที่ดีและการศึกษาที่เพียบพร้อม ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่าเป็นหญิงสาวที่น่ารักที่สุดในมหาวิทยาลัยของพวกเขา เธอตกหลุมรัก ฟิลิป อย่างไม่ได้คาดคิด ปุบปับก็ตกลงแต่งงานกัน และก็ได้ให้กำเนิดลูกสาวของเขาออกมา นั่นก็คือ มิล่า คลาร์ค

อย่างไรก็ตามชีวิตหลังแต่งงานไม่เป็นไปอย่างที่วาดฝัน หน้าที่การงานของฟิลิป ไม่ดีนัก แล้วธุรกิจของเขาก็ล้มละลายลง ลูกสาวของเขาก็เป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด นั่นทำให้เงินเก็บของพวกเขาก็ร่อยหรอลง และในตอนนี้เขาเองก็ต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพนักงานส่งอาหาร

ในทางกลับกัน วินน์ เป็นรองผู้จัดการทั่วไปของแผนกการตลาดในบริษัทมหาชนแห่งหนึ่ง พ่อแม่ของเธอคนนึงเคยเป็นหัวหน้าแผนก ส่วนอีกคนเป็นคุณครูที่เกษียณอายุไปแล้ว

เรียกได้ว่าฟิลิปไม่ได้มีบทบาทอะไรเลยในตระกูลจอห์นสตัน และในช่วงสองปีที่ผ่านมาเขาก็แทบจะไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำ และเพราะฟิลิปทำให้วินน์ต้องถูดตัดออกจากตระกูล พ่อแม่ของเธอไม่ยอมสนับสนุนอะไรพวกเขาเลย

ผู้สูงวัยทั้งคู่บอกพวกเขาอย่างเด็ดขาดว่าพวกเขาจะช่วยดูแลค่ารักษาของหลานสาวของพวกเขาก็ต่อเมื่อ ฟิลิป และ วินน์ อย่าขาดกันเท่านั้น และหลังจากหย่ากันเด็กจะต้องกลายเป็นคนของตระกูลจอห์นสตัน

เรื่องยุ่ง ๆ นี้ดำเนินมาเป็นเวลากว่าหนึ่งปีแล้ว

ประตูของห้องฉุกเฉินถูกผลักออกฟิลิปเห็นลูกสาวของเขาถูกเข็นออกมา เขาอยากจะพุ่งตัวเข้าไปหาเธอแต่วินน์ก็ไปถึงก่อนแล้ว เขาหยุดชะงักและมองลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักของเขาจากไกล ๆ

มิล่าตัวน้อยต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่ดวงตาของเธอกลับใสแจ๋วราวกับหินอัคนีสีดำมันวาว มือน้อยที่ขาวซีดยื่นออกมาหา “ปะป๊าคะ…”

ฟิลิปเดินเข้าไปหาและกุมมือเย็นของลูกสาวไว้ ก่อนจะปัดปอยผมบนหน้าผากเธอเบา ๆ ยิ้มก่อนจะพูดว่า “ป๊าอยู่นี่แล้วนะ”

“หม่าม้าคะ อย่าทะเลาะกันกับปะป๊าเลยนะ มันเป็นความผิดของมิล่า หนูอยากให้ปะป๊าพาหนูไปที่สวนสนุกเอง” มิล่าตัวน้อยที่เพิ่งจะสามขวบพูดออกตัวแทนป๊าของเธออย่างอ่อนแรง

วินน์ยิ้มก่อนจะตอบกลับ “ได้จ๊ะ ม้าจะฟังที่หนูบอก จะไม่ทะเลาะกับปะป๊าหรอกนะ”

“ฟิลิป คลาร์ค จ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยล่ะ” เสียงเย็นขัดจังหวะบทสนทนาของฟิลิปและลูกสาว

ฟิลิปหันไปมองหน้าวินน์ แต่เธอเพียงแค่จ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะพาลูกไปที่ห้องผู้ป่วย

เกือบจะไปถึงแผนกจ่ายเงินผู้ป่วยใน ฟิลิปหยิบบัตรเครดิตของเขาออกมา

“ต้องขอโทษด้วยนะคะ แต่บัตรของคุณรูดไม่ผ่าน” นางพยาบาลพูดขึ้นอย่างเย็นชาในขณะที่เธอปลายตามองเขา

‘โอ้! นี่มันฟิลิป คลาร์ค นี่นา’ เธอคิด ชายที่สิ้นเนื้อประดาตัวที่คอยให้แต่ภรรยาทำหน้าที่จ่ายค่ารักษาแทน เขาจะขอร้องพ่อตาแม่ยายของเขาก็ได้แต่เขาก็ไม่ยอมทำ ช่างเป็นชายที่หยิ่งจองหองเสียจริง ไร้ความสามารถที่สุด!

“ไม่ผ่านงั้นเหรอ?” ฟิลิปฉุนเฉียว เขาทำหน้าบูดบึ้งและแสดงท่าทีอ่อนน้อมด้วยการโค้งหัวให้กับนางพยาบาลผู้นั้นก่อนจะถามขึ้น “คุณพยาบาล คุณให้เวลาผมซักสองสามวันได้ไหม?”

นางพยาบาลจ้องเขากลับอย่างเย็นชาด้วยสายตาเย้ยหยันและตอบกลับว่า “ถ้าคุณไม่มีเงินก็ไปเรียกภรรยาคุณมาสิ เพราะถึงยังไงคุณมันก็แค่แมงดาที่เกาะผู้หญิงกิน!”

“นี่คุณ!” สีหน้าของฟิลิปถมึงทึง

นางพยาบาลคนนั้นเพียงแค่กอดอกและเย้ยหยันเขา “คุณมีเวลาถึงวันพรุ่งนี้ถ้าคุณไม่สามารถจ่ายได้ การรักษาก็ต้องยกเลิกไป” พูดจบเธอก็หันหลังกลับแล้วไม่สนใจเขา หากต้องพูดอะไรกับเขาต่ออีกมันจะยิ่งทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงเปล่า ๆ

เธอข่มเหงคน ๆ หนึ่งเพียงเพราะเขาจนเนี่ยนะ? ฟิลิปกำมือแน่นด้วยความโกรธจัด เขารู้สึกขมขื่น

ในขณะที่เขาหันหลังกลับ เขาก็เห็นวินน์ยืนอยู่ข้างหลังเขา ออร่าแห่งความเย็นชาแพร่กระจายออกมาจากตัวเธอ ความเกลียดชังแสดงออกมาทางสีหน้าเย็นชาของเธอ

“วินนี่ ไม่ต้องห่วงนะผมจะไปหาเงินมาให้ได้” ฟิลิปฝืนยิ้มออกมา

อย่างไรก็ตามเงินเก็บของพวกเขาก็หมดลงไปแล้ว

น้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของวินน์ มือของเธอกำเป็นกำปั้น “ฟิลิป คลาร์ค ถ้าคุณยังเป็นลูกผู้ชายอยู่แล้วก็ ไปขอร้องพ่อกับแม่ของฉันซะ!”

“ผม…” ฟิลิปตัวแข็งทื่อ คำพูดของเขาจุกแน่นอยู่ที่คอ

“เฮ้อ!” วินน์ ยิ้มเหยาะก่อนจะปาดน้ำตา “ฉันรู้อยู่แล้ว คุณนี่ไม่เคยเปลี่ยนเลยสินะ ศักดิ์ศรีของคุณมันสำคัญมากกว่ามิล่า อย่างนั้นเหรอ?” เธอรู้ว่าในหัวเขากำลังคิดอะไรอยู่ ก่อนที่วินน์จะหันหลังให้กับเขา

ฟิลิปถอนหายใจอย่างท้อแท้ ไม่นานเขาก็ได้รับข้อความแจ้งเตือนเรื่องการส่งอาหารบนมือถือของเขา เขารีบวิ่งไปที่ห้องผู้ป่วยเพื่อจะได้พูดคุยกับลูกสาวก่อนจะต้องจากไป

ก่อนที่เขาจะจากไปวินน์เตือนความทรงจำเขา “ฟิลิป คลาร์ค วันหยุดนี้เป็นวันเกิดของพ่อฉัน ถ้าคุณไม่อยากหย่าก็ไปที่งานซะแล้วไปขอร้องพ่อกับแม่ฉัน”

เธอไม่เหลือตัวเลือกอะไรให้เขาเลย ฟิลิปรู้ดีว่านี่เป็นฟางเส้นสุดท้ายที่วินน์มีให้กับเขา

ขณะที่เขากำลังจะเดินออกจากโรงพยาบาล เสียงอันหยิ่งยโสของชายคนหนึ่งเรียกชื่อเขาขึ้นมา “ว้าว นี่ไม่ใช่ฟิลิป คลาร์ค หรอกรึ? นายจะรีบไปไหนกัน?”

ฟิลิปเงยหน้าขึ้นก็พบกับชายหนุ่มหน้าตาดีอยู่ตรงหน้าเขา ชายคนนั้นสวมชุดสูทพร้อมกับมีตะกร้าผลไม้และตุ๊กตาเป๊ปป้า พิก อยู่ในมือ

“ฆวน ปาร์กเกอร์! นายมาทำอะไรที่นี่?” ใบหน้าของ ฟิลิป อึมครึมขึ้นมา

ฆวน ปาร์กเกอร์ เป็นเพื่อนสนิทของเขาที่มหาวิทยาลัย แต่ตั้งแต่ฟิลิปกับวินน์แต่งงานกัน พวกเขาก็กลายเป็นศัตรูกันเพราะฆวนเองก็รักวินน์เช่นกัน

“ฉันขอให้เขามาเองแหละ” จู่ ๆ วินน์ก็โผล่ออกมา แล้วเดินผ่านฟิลิปไป เธอยิ้มอย่างขอโทษ ก่อนจะพูดกับฆวน “พี่ฆวน ฉันขอโทษที่ต้องรบกวนพี่อีกครั้งนะคะ”

เมื่อได้เห็นหน้าวินน์ รอยยิ้มเย้ยหยันก็มลายหายไปเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกว้างใจดี ก่อนเขาจะพูดขึ้น “ไม่เป็นไรหรอก ถึงอย่างไรพี่ก็เป็นลุงของมิล่า และนี่ก็เพื่อมิล่า พี่ไปจ่ายค่ารักษาก่อนนะ”

นิ้วข้อมือของฟิลิป เปลี่ยนเป็นสีขาวจากการที่เขากำมือแน่น เขาถามวินน์ด้วยเสียงเย็น “ทำไมคุณต้องไปยืมเงินจากเขาด้วย?”

“แล้วคุณมีเงินงั้นเหรอ? หรือคุณอยากให้มิล่าถูกเตะออกจากโรงพยาบาลในวันพรุ่งนี้?” วินน์ จ้องเขาอย่างเย็นชาก่อนจะหันหลังกลับเดินตามฆวนไป พูดคุยกันอย่างมีความสุขขณะที่พวกเขาเดินไป

ฟิลิปตาแทบจะถลนออกมาด้านนอกด้วยความโกรธที่ได้เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า เขารู้สึกราวกับว่าศักดิ์ศรีของเขาถูกพัดปลิวไปด้วยลมอันแรง

เงิน เงิน เงิน! ทุกอย่างเป็นเรื่องเงินทั้งนั้น

ฟิลิปอยู่ที่ทางเข้าโรงพยาบาลเป็นเวลานานก่อนจะถอนหายใจ เขามองขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ออกมาโทร “ฮาววี่ คุณอยู่ที่ไหน? มาเจอกันหน่อยเถอะ”

ด้านในบ้านเช่า ฟิลลิปและโฮเวิร์ด โลว์ นั่งอยู่ตรงข้ามกัน โฮเวิร์ดเป็นชายผิวค่อนข้างคล้ำ รูปร่างผอมบาง เขายื่นบัตรเดบิตให้กับ ฟิลิป ก่อนพูดว่า “บัตรใบนี้มีเงินอยู่หกหมื่นนายเอาไปใช้ก่อน”

ฟิลิปมือสั่นเทิมขณะที่รับบัตรมา “ฮาววี่ ขอบคุณนะ ขอบคุณ!”

“ขอบคุณอะไรกัน พวกเราก็เป็นเหมือนพี่น้องกันนะ” โฮเวิร์ดหัวเราะ

“ฉันขอคัดค้าน!”

มีเสียงสิ่งของกระทบกันดังขึ้นและประตูห้องเช่าก็ถูกเปิดออก ร่างสูงของผู้หญิงรุดเข้ามาด้วยความโกรธจัด “โฮเวิร์ด โลว์ นั่นเป็นค่าสินสอดที่คุณควรจะต้องให้กับครอบครัวฉัน แล้วทำไมคุณถึงเอาไปให้เขา?”

ผู้หญิงคนนี้คือแฟนของโฮเวิร์ด รูบี้ ฟอร์ด ความสวยของเธออยู่ราว ๆ เจ็ดเต็มสิบ เธอมีนิสัยขี้อวด และเธอค่อนข้างที่จะวางมาดถือตัว

“รูรู มิล่าต้องเข้าโรงพยาบาล ดังนั้นผมเลยให้ฟิลิป ยืมเงินนี่ไปก่อน มันฉุกเฉินจริง ๆ” โฮเวิร์ดลุกขึ้นไปจับแขนรูบี้เพื่ออธิบาย

รูบี้ปัดมือของเขาทิ้งก่อนจะ หัวเราะเยาะฟิลิป “ฮ่า! ฟิลิป กี่ครั้งแล้วที่นายยืมเงินจากโฮเวิร์ด? ถ้านายจะหน้าไม่อายขนาดนี้ แล้วทำไมฉันต้องยอมให้นายด้วย?”

“รูบี้!” น้ำเสียงของโฮเวิร์ดทุ้มต่ำ ก่อนที่เขาจะดึงชายเสื้อเธอ

รูบี้ยังคงไม่ยอมเธอชี้หน้าโฮเวิร์ดและตำหนิเขา “คุณโลว์ ถ้าคุณจะให้เขายืมเงิน ฉันก็จะเลิกกับคุณ! แล้วก็ลืมเรื่องงานแต่งของเราไปได้เลย!”

เมื่อเห็นว่าพวกเขาเริ่มทะเลาะกัน ฟิลิป จึงวางบัตรลงบนโต๊ะ ลุกขึ้นยืนและก้มหัวอย่างขอโทษ “ฉันขอโทษนะ เอิ่ม...ฮาววี่ ไว้เจอพวกนายที่งานแต่งงานแล้วกัน ฉันขอตัวก่อนล่ะ”

“ลาก่อน” รูบี้พูดอย่างเย็นชา

ไม่รอให้โฮเวิร์ดไล่ตามเขาได้ ฟิลิปรีบวิ่งออกมาจากบ้านเช่าเสียก่อน

หลังจากที่ประตูปิดลง เสียงโต้เถียงระหว่างรูบี้และโฮเวิร์ดยังคงดำเนินต่อด้านหลังประตูนั้น

ฟิลิปนั่งยองๆลงข้างทางโดยมีมือถืออยู่ในมือนึง และอีกมือถือบุหรี่ นั่งจมอยู่กับความคิดที่ข้างถนน ความจนนี่ช่างเหมือนบาปติดตัว คุณจะไม่สามารถก้าวต่อไปหรือทำอะไรได้เลยถ้าปราศจากเงิน

หลังจากตัดสินใจได้ ฟิลิปก็กดโทรออกไปยังเบอร์โทรที่เขาไม่เคยโทรเลยตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา

ไม่นานสายก็ติด

“ฮัลโหล”

“นายน้อย? นายน้อย นั่นคุณใช่ไหม? ในที่สุดคุณก็โทรหาผม” น้ำเสียงที่ลอดผ่านปลายสายออกมาตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เป็นน้ำเสียงของคนมีอายุและเขากำลังสะอื้นอยู่

ฟิลลิปถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ก่อนจะพูดขึ้น “จอร์จ ผมต้องการเงิน คุณช่วยโอนเงินให้ผมแสนนึงได้ไหม?”

“โอ้ นายน้อย อย่าพูดเช่นนั้น ผมจะโอนให้คุณพันล้านเลยก็ได้ถ้าคุณต้องการ” ชายแก่ที่ปลายสายพูดขึ้นอย่างตื่นเต้นแต่แล้วน้ำเสียงของเขาก็ดูเป็นกังวลขึ้นมา “แต่นายน้อย เนื่องด้วยเงื่อนไขที่คุณตกลงไว้กับนายท่าน ถ้าหากคุณต้องการใช้เงินหรือชื่อเสียงของตระกูล คุณต้องกลับมาและสืบทอดกิจการของตระกูล คุณช่วยมาที่บริษัทได้ไหม เพื่อที่เราจะได้คุยกัน?”

ฟิลิปช่างใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะตอบ “ก็ได้ ผมจะไปที่นั่น”

“เยี่ยมเลย! นายน้อย ผมจะส่งคนไปรับคุณ” ผู้อาวุโสจอร์จ กล่าวด้วยน้ำเสียงยินดีปรีดา

“ไม่เป็นไรหรอกผมสามารถไปเองได้” ฟิลิป พูดก่อนจะถามขึ้น “โอ้ ใช่ ว่าแต่ให้ไปบริษัทไหนล่ะ?”

“เอเปค กรุ๊ป ผมจะคอยคุณอยู่ที่ห้องทำงานของผู้จัดการ” จอร์จกล่าว

หลังจากวางสาย เขาจ้องไปยังผู้คนที่เดินผ่านไปมาตรงหน้า

โอเค ผมจะเล่าให้พวกคุณฟังอย่างตรงไปตรงมาแล้วกัน ตัวผม ฟิลิป คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด! ตระกูลของผมมีทรัพย์สินอยู่ทั่วโลกและ 70% ของธุรกิจในโลกนั้นตระกูลของผมก็เป็นเจ้าของอยู่

ผมพยายามอย่างมากที่จะหลีกเลี่ยงการสืบทอดกิจการนี้ในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา ดังนั้นผมจึงหนีออกจากบ้าน หวังที่จะได้ใช้ชีวิตธรรมดา ๆ ของตัวเอง แต่วันนี้เอง โลกแห่งความจริงก็บังคับให้ผมต้องก้มหน้ายอมรับ

ถ้าหากผมไม่ทำงานให้หนักพอ ไม่มีเงินมากพอ ผมก็ต้องกลับไปรับมรดกมหาศาลนั่น

ไม่นาน ฟิลิปก็มาถึงที่ตึก เอเปก กรุ๊ป โดยสกูตเตอร์ มันเป็นตึกสูงตระหง่านกว่า 300 เมตร ตัวบริษัทเองถูกจัดให้อยู่ที่อันดับ 7 จากบริษัทชั้นนำของโลก 500 แห่ง! จากนิตยสาร ฟอร์จูน แต่ก็อย่างว่า ทุกบริษัทที่อยู่ในรายชื่อบริษัทชั้นนำของโลก 500 แห่ง บ้างก็เป็นของ ตระกูลคลาร์ค หรือไม่พวกเขาก็มีหุ้นส่วนอยู่ในนั้น

ระหว่างทางเดินเข้าไปที่ห้องรับรอง ฟิลิปก็ถูกเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งหยุดเขาไว้เสียก่อน “เฮ้ เฮ้ เฮ้ คุณน่ะ! ใครบอกให้คุณเดินดุ่ม ๆ เข้ามาในนี้ได้เลย? ออกไปเลยนะ ออกไป! คนส่งของไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในนี้ โทรขึ้นไปบอกใครสักคนให้ลงมาเจอคุณที่ด้านล่าง” หญิงสาวสวยในชุดยูนิฟอร์มสีดำขวางทางฟิลิปเอาไว้ ก่อนที่จะจ้องเขาอย่างขึงขัง เธอมีรูปลักษณ์ที่ภูมิฐานและเปล่งออร่าที่น่าเกรงขามออกมา

“นี่คุณจ้องอะไรของคุณ? น่ารังเกียจจริง พวกนักเลงหัวไม้! รีบ ๆ ออกไปซะ!” ลิลี่ ซิมมอนส์ ส่งสายตาเกลียดชังไปที่ฟิลิป คิดไปว่าเธอได้พบเจอคนส่งของมามากพอแล้วในชีวิตของเธอ
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Prachin Pramakum
อัพเดทวันละ3-5 ตอนได้ไหมคะรับ
goodnovel comment avatar
Amornchai Sujaritpong
ชอบมากอ่านต้องติดตาม
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 2

    สีหน้าของฟิลิปเปลี่ยนไป เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นฟิลิปที่อยู่ในชุดพนักงานส่งของ ท่าทางดูมอมแมม ลิลี่ชี้นิ้วไปที่ประตูก่อนจะพูดขึ้น “ออกไปเดี๋ยวนี้! เราไม่อนุญาตให้พนักงานส่งของเข้ามาในนี้”“ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อส่งของ” ฟิลิปอธิบายลิลี่จัดผมหน้าม้าของเธอก่อนจะกอดอกแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงเย็น “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องนี้ ทุกคนที่เข้ามาที่นี่ต่างก็บอกว่าพวกเขาไม่ใช่พนักงานส่งของ ขอร้องล่ะ!”“ผมไม่ใช่ ผมมาที่นี่เพื่อพบกับจอร์จ โธมัส” เมื่อรู้สึกฉุนเฉียวขึ้นมา ฟิลิปเดินตรงจะเข้าไปด้านในหลังพูดจบ “บ้าเอ๊ย! นี่คุณเสียสติงั้นเหรอ? ไม่ได้ยินที่ฉันพูดรึไง?” ลิลี่โกรธจัด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นคนส่งของที่หน้าไม่อายขนาดนี้ที่พยายามจะเข้าไปด้านในให้ได้และตอนนั้นเอง ผู้จัดการแผนกได้ยินเสียงโต้แย้งนี้จึงเดินเข้ามาสอบถามด้วยสีหน้าไม่ยินดี “เกิดอะไรขึ้น?”“ผู้จัดการสจ๊วต คนส่งของคนนี้พยามที่จะเข้าไปในห้องตึกของพวกเราค่ะ!” ลิลี่ชี้ไปที่ฟิลิป ก่อนจะพูดต่ออย่างเหยียดหยาม “ฉันจะไปเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาพาตัวเขาออกไปเดี๋ยวนี้”ผู้จัดการขมวดคิ้ว มองฟิลิปตั้งแต่หัวจรดเท้า ก

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 3

    “มันก็แค่เงิน แล้วใครบอกว่าผมหายืมไม่ได้กัน?” ฟิลิปจ้องฆวนอย่างรังเกียจฆวนตกตะลึงจนพูดไม่ออก สีหน้าของเขาแข็งทื่อไป ด้วยเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจเกิดขึ้นตรงหน้าเขา ฟิลิปโยนถุงพลาสติกในมือเขาลงตรงหน้าชายหนุ่มและวินน์ถุงพลาสติกหล่นลงพื้นดังตุ๊ป ก่อนที่เงินเป็นฟ่อน ๆ จะปรากฏให้เห็นตรงหน้าพวกเขาหางตาของฆวนกระตุกเล็กน้อย ริมฝีปากสั่นเทิม มือของเขากำแน่นอย่างไม่ได้ตั้งใจวินน์รู้สึกประหลาดใจ เธอจ้องไปที่เงินที่ฟิลิปโยนลงตรงหน้าพวกเขา รู้สึกสับสน แต่ไม่นานสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมกับความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมาในแววตาฟิลิปไปเอาเงินนี่มาจากไหน? ถ้าเขามีเงินทำไมถึงไม่เอาออกมาตั้งแต่แรก? ทำให้ฉันต้องมาคอยนั่งคุยเอาอกเอาใจผู้ชายคนอื่นอยู่ได้! ไม่รู้รึยังไงว่ามันเหนื่อย? ”นี่เป็นเงินหนึ่งแสน ฉันจ่ายในคืนภายในครั้งเดียวรวมกับของเก่าที่เคยยืมไว้ด้วย! แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก” ฟิลิปพูดขึ้นฆวนไม่ได้หยิบเงินขึ้นมา พูดตามจริง เงินจำนวนหนึ่งแสนนี่ไม่ได้มีค่าอะไรกับเขามากนัก เขาแค่คิดเสียว่าเหมือนการบริจาคให้กับผู้คนยากไร้ก็เท่านั้นแหละ“ทำได้ดีนี่ ฟิลิป นายหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มาได้

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 4

    วิลสันเดือดดาลด้วยความโกรธ! เจ้าคนเสียสตินั่นไปจอดขวางหน้ารถเบนท์ลีย์ของเจ้านายคนใหม่ได้ยังไงกัน! นี่เขาอยากมีปัญหารึอย่างไรนะ? “ฟิลิป คลาร์ค แกยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นอยู่อีก? รีบหลบไปได้แล้ว!” วิลสันชี้หน้าฟิลิป และตะโกนใส่เขาฟิลิปเพิ่งจะจอดสกู๊ตเตอร์ของเขาเสร็จ เมื่อได้ยินเสียงด่าของวิลสันดังมาอีกระลอกนึง “แย่ละ! ฟิลิปตายแน่คราวนี้ พี่วิลจะได้ออกหมัดเสียที”“สิบสายร้องเรียน แต่เจ้าหนุ่มเสียสตินี่ยังกล้าจะกลับมาที่นี่อีก!”“จะต้องโดนหักเงินอย่างน้อยสองร้อยแน่ ๆ นั่นมันต้องทำงานทั้งวันเลยนะ!”พนักงานสองสามคนแอบนินทากันเงียบ ๆ และบางคนก็สนุกกับการได้ดูการแสดงนี้ ท่ามกลางพนักงานเหล่านี้มีบางคนที่เป็นพนักงานเก่าที่เคยทำงานกับฟิลิป เมื่อพวกเขาเห็นว่าฟิลิปถูกลดระดับลงมาทำงานเป็นพนักงานส่งของเหมือนกันกับพวกเขา ต่างก็พากันดูถูกเขายิ่งกว่าเดิม ฟิลิปชินชาไปเสียแล้ว ตอนนั้นเอง มิสเตอร์แทงค์จ้องไปทางฟิลิปอย่างเย็นชา เขาดูหงุดหงิดก่อนจะถามขึ้น “ผู้จัดการ ยัง นี่ลูกน้องของคุณงั้นเหรอ?”วิลสันรีบตอบกลับในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยคำถากถาง “เจ้านายครับ คุณไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก ผมจึงลืมแนะนำคุณ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 5

    “คุณมาทำอะไรที่นี่?” วินน์ขมวดคิ้วก่อนจะจ้องไปที่เบนท์ลีย์ที่จอดอยู่ข้างฟิลิป นี่เขาเพิ่งจะออกมาจากรถคันนั้นงั้นเหรอ? นี่มันสามีที่ไม่ได้เรื่องของฉันจริง ๆ งั้นเหรอ? หรือเดี๋ยวนี้บริษัทส่งของเขาส่งอาหารด้วยรถเบนท์ลีย์กันแล้ว? “ผม…คือผม…” ฟิลิปพูดตะกุกตะกักก่อนจะเหลือบมองไปทางจอร์จที่กำลังยิ้มหน้าบานผ่านกระจกชายสูงวัยรีบยื่นมือเข้ามาช่วยก่อนจะพูดขึ้น “พ่อหนุ่มขอบคุณมาก ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ ที่ช่วยให้ฉันหาที่นี่เจอ ไว้ให้ตาแก่คนนี้เลี้ยงอาหารเธอสักมื้อเพื่อแสดงความขอบคุณนะ” ฟิลิปยิ้มก่อนจะพยักหน้าอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรครับท่าน กรุณากลับดี ๆ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกเป็นนัยว่าให้ชายสูงวัยรีบกลับไปได้แล้วจอร์จไม่ได้พูดอะไรอีกยิ้มและพยักหน้าให้กับวินน์ ก่อนจะบอกให้คนขับรถเคลื่อนรถออกไปวินน์ตัวแข่งทื่อไปด้วยความตกตะลึง นั่นไม่ใช่...นั่นไม่ใช่ประธานของ เอเปก กรุ๊ป ประธานโทมัส หรอกเหรอ? คนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองนี้! และฟิลิปเพิ่งจะนั่งรถคันเดียวกันกับเขามา“นี่คุณรู้จักจอร์จ โธมัส ด้วยเหรอ?” วินน์หันไปทางฟิลิป รู้สึกประหลาดใจฟิลิปยักไหล่ “ไม่ ไม่รู้จัก ตาแก่นั่นก็แค่หลงทาง ผมแค่ช่วยนำทาง

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 6

    ฟิลิปกดโทรออกหาจอร์จ โทมัส “จอร์จ คุณช่วยผมตรวจสอบโครงการล่าสุดที่วินน์ จอห์นสตัน ต้องดูแลของบริษัทเภสัชกรรม บีคอน หน่อย ว่ามีมูลค่าการลงทุนคือ หนึ่งล้านดอลล่าร์จริงหรือเปล่า? แล้วใครกันที่เป็นลูกค้าและบุคคลที่รับผิดชอบโครงการนี้”น้ำเสียงที่นอบน้อมของจอร์จลอดผ่านปลายสายออกมาเขาพูดขึ้น “นายน้อย กลุ่มบริษัทเภสัชกรรม บีคอน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลคลาร์คของเราร่วมลงทุนผมจะให้ประธานบริษัทของบีคอนไปพบกับคุณด้วยตัวเขาเอง”หืม? บริษัทเภสัชกรรม บีคอน ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลเราลงทุนไว้งั้นเหรอ พ่อของฉันนี่เยี่ยมยอดจริง ๆ!ฟิลิปรู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีที่ไม่รับมรดกของตระกูลให้เร็วกว่านี้“ไม่จำเป็นหรอก รีบตรวจสอบโดยเร็วและทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนซะเพื่อที่วินน์จะได้ไม่ต้องลำบากมาก” ฟิลิปพูดขึ้นอย่างใจเย็น“นายน้อย ผมแนะนำให้คุณซื้อบริษัทของลูกค้านั่นซะ คุณมีเงินมากพออยู่แล้ว” จอร์จแนะนำอะไรกันวะเนี่ย! ซื้อบริษัทงั้นเหรอ? อย่างที่คาดไว้ในฐานะพ่อบ้านจากตระกูลร่ำรวย ตาเฒ่าจอร์จ นี่คุณเป็นคนขี้อวดขนาดนี้แล้วเหรอ? “มันเรียกว่าการทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจ เข้าใจรึเปล่า? ถ้าผมอยา

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 7

    ในที่สุดรถเบนท์ลีย์ก็มาหยุดที่ ริเวอร์เดล เวอร์เทียส คอร์ท ร้านอาหารที่ดังที่สุดในเมือง สถานที่ที่มีเฉพาะเหล่าเศรษฐีแหละคนดังถึงจะมารับประทานอาหารที่นี่ได้ เวอร์เทียส คอร์ท กำหนดให้ผู้ที่จะมาทำการจองร้านจะต้องเป็นสมาชิกที่มีการใช้จ่ายขั้นต่ำอย่างน้อยหนึ่งล้าน เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์การเป็นสมาชิกเอาไว้ได้และที่นั่น ผู้ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท คือนักธุรกิจชื่อดัง ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้ง กรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและส่งออกโดยจะเน้นที่ผลงานศิลปะ ในฐานะผู้บริหารของบริษัท แค่ตัวรัสเซลเองก็ร่ำรวยมีทรัพย์สินถึงสามพันล้าน และเขายังเป็นนักสะสมชื่อดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย คนดังที่มาอยู่ในชุมชนของนักสะสมท้องถิ่น รัสเซลได้พาเหล่าผู้บริหารระดับสูงอีกกว่าสิบคน มายืนรอด้วยความเคารพที่ด้านหน้าทางเข้าร้าน เวอร์เทียส คอร์ท กับเขาด้วย เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้เหล่าผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านไม่น้อย บางส่วนถึงกับอุทานออกมา“นั่นไม่ใช่ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้งกรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์หรอกเหรอ? เขามายืนรอใครกัน มากันเยอะแยะ อลังการขนาดนี้?”“ช่างเป

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 8

    เสียงที่พูดขึ้นมาไม่น่าพิศมัยนัก ฟิลิปเงยหน้าขึ้นมาเจอเข้ากับชายที่พุงยื่นพลุ้ย จ้องมาที่เขาด้วยสายตาเยาะเย้ยแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? ฉันจะเป็นแมงดาหรือไม่แล้วยังไง? ฉันไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ ฟิลิปทำปากเบะ ตั้งใจจะไม่สนใจเขา ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกไปแต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ เขาเดินไปขวางทางฟิลิป และพูดจาถากถางเขาต่อหน้าเขาตรง ๆ “ทำเป็นเมินผมงั้นเหรอ? นิสัยดีเยี่ยมไปเลย! ผมได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณพังไม่เป็นท่า และตอนนี้รองผู้จัดการจอห์นสตันของเราก็เป็นคนหาเลี้ยงปากท้องครอบครัวแทน ชายหนุ่มอย่างคุณฉันนี่ช่างกล้าที่จะเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินนะ”ฟิลิปขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจำชายคนนี้ได้เขาคือ เกวิน แซค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทที่วินน์ทำงานอยู่ ชายคนนี้เคยพยายามที่จะข่มขู่วินน์ แล้วฟิลิปก็เคยมอบบทเรียนให้กับเขา แต่ในตอนนี้เค้ามองฟิลิปว่าอยู่ต่ำกว่าเขา ชายหนุ่มจึงดูถูกเหยียดหยามเขาไม่หยุดหย่อนเพื่อนร่วมงานคนอื่นของวินน์ต่างก็มองฟิลิปด้วยสายตาแปลกประหลาด พวกเขารู้เรื่องของฟิลิปเพียงเล็กน้อย รู้เพียงแค่ว่าเขาเคยเป็นนักลงทุนที่มุ่งมั่น แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ในสถานะขอ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 9

    ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ โรสโบกบัตรไปมาก่อนจะชำเลืองมองไปทางฟิลิป อย่างเย่อหยิ่งและพูดขึ้น “ช่วยตรวจสอบที ว่าบัตรใบนี้สามารถจองห้องอาหารส่วนตัวได้หรือเปล่า”ทุกคนกลั้นหายใจรอคอยที่จะได้เห็นฟิลิปขายหน้าหญิงสาวที่อยู่ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ รับบัตรไปรูดที่เครื่องและทันทีสีหน้าของเธอก็เป็นกังวลขึ้นมา เธอถามขึ้น “คุณผู้หญิงคะ นี่นี่บัตรของคุณงั้นเหรอ?”เมื่อโรสเห็นดังนั้นเธอก็ส่ายหน้า ยื่นมือของเธอที่ทาเล็บสีแดงก่ำออกมา ชี้ไปที่ฟิลิปที่ถูกยืนห้อมล้อมและโดนหัวเราะเยาะอยู่ “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเขา” ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องเหลวไหลสิ้นดี! ฟิลิปทำให้ตัวเองต้องขายหน้า และวินน์ก็จะเสียหน้าไปด้วยเช่นกัน นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มีชายที่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอยู่ตลอดจริง ๆ งั้นเหรอ?โรสมีความสุขเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่วินน์ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อย่างมีความสุข ก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้น “รองผู้จัดการจอห์นสตัน สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”วินน์รู้สึกขายหน้าเป็นที่สุด เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างขุ่นเคือง เตรียมตัวที่จะตำหนิเขาแต่หญิงสาวที่อยู่แผนกต้อนรับก็เข้ามาขัดเสียก่อน เธอลุกขึ้นยืน

บทล่าสุด

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 200

    นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 199

    “ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 198

    'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 197

    บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 196

    ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 195

    เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 194

    บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 193

    ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 192

    'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้

DMCA.com Protection Status