แชร์

บทที่ 3

ผู้แต่ง: ปรมาจารย์ยูผู้เล่นควัน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“มันก็แค่เงิน แล้วใครบอกว่าผมหายืมไม่ได้กัน?” ฟิลิปจ้องฆวนอย่างรังเกียจ

ฆวนตกตะลึงจนพูดไม่ออก สีหน้าของเขาแข็งทื่อไป ด้วยเหตุการณ์ที่น่าแปลกใจเกิดขึ้นตรงหน้าเขา ฟิลิปโยนถุงพลาสติกในมือเขาลงตรงหน้าชายหนุ่มและวินน์

ถุงพลาสติกหล่นลงพื้นดังตุ๊ป ก่อนที่เงินเป็นฟ่อน ๆ จะปรากฏให้เห็นตรงหน้าพวกเขา

หางตาของฆวนกระตุกเล็กน้อย ริมฝีปากสั่นเทิม มือของเขากำแน่นอย่างไม่ได้ตั้งใจ

วินน์รู้สึกประหลาดใจ เธอจ้องไปที่เงินที่ฟิลิปโยนลงตรงหน้าพวกเขา รู้สึกสับสน แต่ไม่นานสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาพร้อมกับความโกรธที่พลุ่งพล่านขึ้นมาในแววตา

ฟิลิปไปเอาเงินนี่มาจากไหน? ถ้าเขามีเงินทำไมถึงไม่เอาออกมาตั้งแต่แรก? ทำให้ฉันต้องมาคอยนั่งคุยเอาอกเอาใจผู้ชายคนอื่นอยู่ได้! ไม่รู้รึยังไงว่ามันเหนื่อย?

”นี่เป็นเงินหนึ่งแสน ฉันจ่ายในคืนภายในครั้งเดียวรวมกับของเก่าที่เคยยืมไว้ด้วย! แล้วไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก” ฟิลิปพูดขึ้น

ฆวนไม่ได้หยิบเงินขึ้นมา พูดตามจริง เงินจำนวนหนึ่งแสนนี่ไม่ได้มีค่าอะไรกับเขามากนัก เขาแค่คิดเสียว่าเหมือนการบริจาคให้กับผู้คนยากไร้ก็เท่านั้นแหละ

“ทำได้ดีนี่ ฟิลิป นายหาเงินจำนวนมากขนาดนี้มาได้ในเวลาสั้น ๆ ขนาดนี้ แต่ฉันรู้สึกสงสัย ใครกันที่ให้นายยืมเงินจำนวนมากขนาดนี้ในช่วงเวลาสั้น ๆ” ฆวนถามขึ้นอย่างมีเลศนัย รู้สึกราวกับโดนดูถูก อุตส่าห์อยู่รอให้ฟิลิปกลับมาเพื่อที่จะได้เยาะเย้ยเขา อีกอย่างเขาก็อยากจะแสดงให้วินน์เห็นถึงความผิดพลาดของเธอที่ไปเลือกฟิลิป

แต่ในตอนนี้ คำพูดต่าง ๆ ที่ฆวนอยากจะพูดจุกอยู่ที่ลำคอ ความรู้สึกไม่สบายตัวและเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ที่ลำคอทำให้เขารู้สึกประหม่า

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย?” ฟิลิปตอบอย่างเฉยชา

วินน์ทนต่อไปไม่ไหวเธอลุกขึ้นยืนและตะโกนใส่เขา “พอได้แล้วฟิลิป พี่ฆวนช่วยเรามาตั้งหลายครั้งต่อหลายครั้ง คุณพูดกับเขาอย่างนั้นได้ยังไง?”

“ผมขอให้เขาช่วยอย่างนั้นเหรอ? คุณไม่รู้เลยงั้นเหรอว่าเขาทำทุกอย่างนี้ไปเพื่อใคร?” เขายอกย้อน ความโกรธของเขาแทบจะไม่ฉายออกมาทางแววตา

วินน์ตกตะลึงไป แน่นอนสิ เธอรู้ดีว่าทำไมฆวนถึงเป็นห่วงเป็นใยมิล่าขนาดนี้ แต่ถึงกระนั้นการที่ถูกสามีของเธอเปิดเผยความลับออกมาตรง ๆ เช่นนี้ ทำลายความหยิ่งทะนงของเธอ เธอกล่าวหาเขากลับ “คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?”

ฟิลิปสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ตัวเองใจเย็น เขาทะเลาะกับวินน์มามากพอแล้วช่วงนี้ “นายจะไม่กลับงั้นเหรอ?” เขาหันมาถามฆวน

ฆวนหัวเราะหึ ๆ ออกมา ก่อนจะหยิบเงินและออกไปโดยไม่พูดอะไร

วินน์ส่งสายตาพิฆาตไปทางฟิลิปก่อนที่จะไล่ตามควรไป “พี่ฆวนคะ เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง!”

ในที่สุดความเงียบสงบก็กลับคืนมา

ฟิลิปนั่งลงที่ข้างเตียงของมิล่า จ้องมองลูกสาวของเขาที่นอนหลับปุ๋ย เขารู้สึกละอายใจขึ้นมา

“มิล่า ลูกเหนื่อยไหมที่ต้องอยู่กับป๊า แต่ป๊าจะบอกให้นะ หลังจากวันนี้ลูกจะกลายเป็นเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ” ฟิลิปลูบหน้าผากของเธออย่างอ่อนโยนด้วยความรักเต็มเปี่ยมในดวงตา

แล้ววินน์ก็กลับมาที่ห้อง เธอถามขึ้นเสียงเย็น “คุณไปเอาเงินนั่นมาจากไหน?”

ฟิลิป ตอบโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา “ผมยืมมา”

“จากใคร?”

“ฮาววี่”

วินน์ถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอคิดว่าเขาไปยืมมาจากพวกเงินรายวันหน้าเลือด “ คุณยืมเค้ามาหลายครั้งแล้วคุณจะไปกวนเค้าไปบ่อยแบบนี้ไม่ได้ รีบรีบคืนเงินให้เขาโดยเร็วด้วยล่ะ ฉันได้ยินมาว่าเค้ากำลังจะแต่งงาน”

“ผมรู้ ผมจะจ่ายคืนให้เขาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้” ฟิลิปเงยหน้ามองเธอในที่สุด

ผู้หญิงคนนี้เธอช่างสวยจริง ๆ แม้ว่าคิ้วของเธอจะขมวดปมแน่น แต่ก็ยังคงมีเสน่ห์ ช่างน่าเสียดายที่เธอไม่รู้ว่าสามีที่ไม่ได้เรื่องของเธอ ที่ทำธุรกิจล้มตั้งแต่ครั้งแรกที่เริ่มตอนนี้ได้กลายเป็นทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกไปแล้ว เพียงแค่พยักหน้าเท่านั้นเขาก็สามารถหามาได้หมดแม้กระทั่งก้อนเมฆหรือหยาดฝน

สายตาของวินน์ค่อย ๆ เปลี่ยนสีเข้มขึ้น เธอจ้องมองไปยังลูกสาวของเธอที่นอนป่วยอยู่บนเตียงก่อนจะพูดขึ้น “ ฟิลิปครั้งนี้คุณสามารถยืมเงินมาได้แต่แล้วคราวหน้าล่ะ คุณจะคอยเที่ยวยืมเงินคนอื่นไปทุกครั้งที่มิล่าต้องเข้าโรงพยาบาลอย่างนี้เหรอ?”

ฟิลิปคนก่อนเคยเป็นคนที่ทะเยอทะยานและมีจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยม นั่นเป็นเหตุผลที่เธอตกหลุมรักเขา แต่หลังจากที่เขาล้มไม่เป็นท่าตอนทำธุรกิจ ฟิลิปก็ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกเขากลายเป็นคนที่น่าเวทนาลงเรื่อย ๆ เรื่อย ๆ

ฟิลิปรู้สึกรำคาญเล็กน้อย “ผมรู้ว่าต้องทำยังไง”

วินน์เงียบไปสักพักใหญ่ก่อนจะพูดขึ้นมา “ฟิลิป ถึงแม้มันจะไม่ใช่เพื่อตัวคุณเองแต่ก็คิดซะว่าทำเพื่อมิล่า ไปกับฉันที่งานวันเกิดของคุณพ่อวันในหยุดสุดสัปดาห์นี้ และไปขอโทษพ่อแม่ของฉัน”

ฟิลิปนิ่งเงียบไป เขากำมือแน่นเมื่อเห็นว่าเค้าไม่พยายามจะพูดอะไรก็ยิ่งเพิ่มความรำคาญใจให้แก่วินน์มากขึ้น เธอกระทืบเท้าหยิบกระเป๋าและตำหนิเขา “ถ้าอย่างนั้นก็จงเป็นคนที่น่าเวทนาต่อไปอย่างนี้ตลอดชีวิตของคุณเลยก็แล้วกัน”

เมื่อเห็นวินน์เดินออกจากห้องไปด้วยความโกรธ ฟิลิปถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนในที่สุดชีวิตที่ปราศจากเงินและไร้ซึ่งศักดิ์ศรีนี่มันแย่จริง ๆ พ่อตาของเขาจะยอมรับเขาบ้างไหมนะ?

ในช่วงบ่าย ฟิลิปมีงานด่วนที่ต้องทำ เขาจึงให้พยาบาลมาดูแลมิล่า วินน์มีงานยุ่ง เธอจึงกลับไปที่ที่ทำงานแล้ว

ฟิลิปขึ้นสกู๊ตเตอร์ของเค้าไป แล้วเปิดรายการส่งของขึ้นมาใหม่เพื่อเริ่มงานอีกครั้ง เขาได้รับงานส่งของไปที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล คนที่สามารถพักที่นี่ได้ส่วนมากล้วนแต่เป็นพวกคนรวย

เมื่อมาถึงที่ห้องสูทของโรงแรมหมายเลข 8808 ฟิลิปเคาะประตู “สวัสดีครับของที่คุณสั่งมาถึงแล้วครับ”

หลังจากเสียงกลอนประตูดังคลิก ประตูก็ถูกเปิดออก หญิงสาวรูปร่างดีโผล่ออกมาให้เห็น เธอสวมเสื้อสายเดี่ยวเอวลอยและกางเกงขาสั้นสีดำเผยให้เห็นรอยสักรูปกุหลาบบนต้นขาของเธอ ผมของเธอยุ่งเหยิง ใบหน้าถูกแต่งแต้มอย่างงดงาม

“สวัสดีครับ ของที่คุณ…” ฟิลิปยื่นของให้ด้วยรอยยิ้มสดใสก่อนจะชะงักการอากาศ “รูบี้...รูบี้ ฟอร์ด?”

“ฟิลิป?”

หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือแฟนสาวของโฮเวิร์ด รูบี้ ฟอร์ด เธอจ้องฟิลิปด้วยความประหลาดใจก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นงุนงงและโกรธเคือง

รูบี้จ้องฟิลิป เธอดึงสิ่งของที่สั่งและปิดประตูห้องไป

ฟิลิปยืนตกตะลึง อยู่ด้านนอกประตูเป็นเวลานานก่อนที่เขาจะได้สติกลับมาอีกครั้ง

บ้าจริง! ทำไมรูบี้มาอยู่ที่นี่? แล้วเธอก็อยู่ในห้องกับผู้ชายคนอื่น! ฉันควรบอกฮาววี่ดีไหมนะ?

30 นาทีหลังจากนั้นฟิลิปได้เจอกับรูบี้ที่ห้องรับรองด้านล่าง อีกฝ่ายสวมเสื้อโค้ทสีดำและรองเท้าส้นสูงวิ่งเหยาะ ๆ เข้ามา ก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม เธอหยิบเงินสามร้อยดอลลาร์ออกมาจากกระเป๋าตังค์และวางลงบนโต๊ะกาแฟ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย็นชา “นี่สำหรับนาย”

ฟิลิป มองเงิน 300 ดอลลาร์ก่อนจะหัวเราะออกมา “นี่ค่าปิดปากผมงั้นเหรอ?”

รูบี้ขมวดคิ้ว ก่อนจะหยิบออกมาอีก 200 โยนลงบนโต๊ะ “ 500 ดอลลาร์นี่พอหรือยัง? นี่มันเท่ากับเงินเดือนของนายสองวันเชียวนะ”

ช่างคำนวณได้เร็วเสียจริงนะ!

ฟิลลิปยืนขึ้น ท่าทางโกรธจัดแล้วพูดลอดไรฟัน “รูบี้ คุณทำอย่างนี้กับฮาววี่ได้ยังไง? เขาทำงานอย่างหนักเพื่อคุณและคุณสองคงก็จะแต่งงานกันแล้วสิ้นปีนี้”

“แล้วยังไงล่ะ? ใครบอกว่าฉันจะแต่งงานกับเขา?” รูบี้ขำออกมาก่อนจะ จุดบุหรี่สูบ พูดขึ้นอย่างไม่สนใจไยดีอะไร” ฟิลิปทำไมนายไมสนใจแต่เรื่องของตัวเองไปล่ะ?”

“นายเป็นผู้ชาย ไม่ละอายใจหน่อยเหรอ? มิน่าล่ะภรรยาของนายถึงอยากจะหย่ากับนาย นายนี่มันไร้ค่าจริง ๆ!” รูบี้ ยืนขึ้นพร้อมกับกอดอกจ้องมองไปที่ฟิลิปอย่างถือดี “อย่าเปิดปากพูดเกี่ยวกับเรื่องวันนี้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นฉันจะให้ใครบางคนไปหักขานายซะ!” หลังจากนั้น รูบี้ก็เดินไปหาชายร่างท้วมวัยกลางคนที่ยืนรออยู่ด้านข้าง และเขาทั้งคู่ก็ควงแขนกันออกจากโรงแรมไป

ฟิลิปกำมือแน่น เขาหยิบเงินที่วางอยู่บนโต๊ะ ออกจากโรงแรมไปและตั้งใจว่าจะบอกฮาววี่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้แน่นอน

ขณะเดินอยู่ โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น จ้องไปที่หน้าจอก็เห็นว่าเป็นผู้จัดการของเขา วิลสัน ยัง นั่นเองที่โทรเข้ามา

เมื่อเขารับสาย น้ำเสียงเกรี้ยวกราดก็ดังลอดออกมา “ฟิลิป แกทำบ้าอะไรของแกอยู่? ฉันได้รับสายตำหนิกว่า 10 สายแล้วนะ! นี่แกไปส่งของถึงดาวอังคารหรือยังไง? กลับมาที่นี่หลังจากส่งของเสร็จแล้วทันที มาเก็บของของแกแล้วก็ไสหัวไปซะ!”

วิลสันกำลังจะเป็นบ้า เพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเขาได้รับสายต่อว่าและตำหนิฟิลิปกว่าสิบสาย มันทำให้เขาปวดประสาท! เจ้าคนไร้น้ำยานี่ทำงานอยู่จริง ๆ ใช่ไหม?

“คุณยัง คุณหยุดด่าผมสักที เพราะผมลาออกโว้ย! ผมไล่คุณออก!”

“นายว่าอะไรนะ? ฟิลิป คลา…”

ฟิลิปกดตัดสายไป

เขาเองก็โกรธเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และตอนนี้ผู้จัดการก็ยังมาตำหนิเพิ่มอีก ช่วงชีวิตที่ผ่านมามันบังคับให้เขาต้องอดทนแต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว เขาถูกสร้างมาเพื่อให้สืบทอดมรดกของตระกูล และตอนนี้เขาก็เป็นทายาทของกลุ่มสถาบันทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วทำไมเขาต้องปล่อยให้ใครหน้าไหนก็ไม่รู้มาก่นด่าเขาง่าย ๆ

ฟิลิปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออกหาจอร์จ “จอร์จ ผมอยากจะซื้อบริษัทของฉันกลับคืนมา ผมจะสามารถทำได้ไหม?”

จอร์จตอบกลับ “นายน้อย บริษัทนั้นคุณเป็นคนก่อตั้งขึ้นมาแต่คุณแค่ขายออกไปก็เพราะคุณล้มละลาย หากคุณอยากจะซื้อมันกลับมาก็แค่บอกผมเท่านั้น”

ฟิลิปพูดอย่างใจเย็น “ดีมาก ภายใน 10 นาที ผมต้องการกลับเป็นเจ้าของบริษัทนั้นอีกครั้ง!”

2 นาทีผ่านไป จอร์จส่งข้อความสั้น ๆ มาหาฟิลิป “นายน้อยทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ ตอนนี้คุณได้เป็นเจ้าของ โกเฟอร์ การบริการการขนส่ง ตามที่คุณต้องการแล้ว”

ฟิลิปพยักหน้า จอร์จทำงานได้รวดเร็วดีเสียจริง

ฟิลิปก้าวขึ้นรถสกูตเตอร์ของเขาและมุ่งตรงไปยังบริษัทวินสัน ยัง รอป๋าคนนี้ก่อนเถอะ! คอยดูนะฉันจะฉีกนายเป็นชิ้น ๆ เลย!

โกเฟอร์ การบริการการขนส่ง เป็นบริษัทที่ฟิลิปเป็นคนก่อตั้งขึ้นมา แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ไม่ดีทำให้เขาล้มละลายและต้องขายบริษัทออกไป เพียงแค่ชั่วข้ามคืน ฟิลิปเปลี่ยนจากเจ้าของบริษัทเป็นพนักงานขนส่งชั้นล่าง เขาสูญเสียอำนาจบารมี เหลือไว้เพียงคำเยาะเย้ยถากถางที่ได้รับกลับมาเท่านั้น

ณ บริษัท โกเฟอร์ การบริการการขนส่งจำกัด วิลสัน ยัง ยังคงนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์ของเขาอยู่ที่ห้องรับรอง เหวี่ยงกำปั้นออกไปด้วยความโกรธ

“บ้าเอ๊ย! ไอ้เจ้าฟิลิป นี่อยากมีเรื่องสินะ! แค่เพราะฉันไล่แกออกไม่ได้ แกก็กล้าพูดกับฉันแบบนี้เหรอ?”

เหล่าพนักงานที่ยืนอยู่ด้านข้างต่างพากันกลัวหัวหด ไม่อยากติดร่างแหไปด้วย

ขณะนั้นเอง ประตูทางเข้าบริษัทก็ถูกผลักออก ชายวัยกลางคนเดินเข้ามา เมื่อเห็นชายคนนั้น วิลสันลุกขึ้นในทันทีก่อนจะยิ้มประจบ “เจ้านาย ทำไมคุณไม่บอกพวกเราว่าคุณจะเข้ามา? ผมจะได้ออกไปต้อนรับคุณ”

เขาคือเจ้าของบริษัท เควิน แทงค์

มิสเตอร์ แทงค์ จ้องมองหน้าเขาก่อนจะพูดขึ้น “ทุกคนเตรียมตัวต้อนรับเจ้าของบริษัทคนใหม่”

วิลสัน ตกตะลึง “เจ้าของคนใหม่?”

มิสเตอร์ แทงค์ พูดขึ้น “ใครบางคนได้จ่ายเงินสิบล้านเพื่อซื้อบริษัทนี้”

วิลสัน ถามขึ้นด้วยความสงสัย “ใครกันที่เป็นเจ้าของคนใหม่? เราควรจะเตรียมการอะไรรึเปล่า?”

มิสเตอร์แทงค์ขมวดคิ้วก่อนจะตอบ “ผมไม่รู้สึกคุ้นกับเจ้าของคนใหม่เลย ดังนั้นทุกคนเตรียมตัวไว้ให้พร้อมล่ะ”

หลังจากนั้น เหล่าพนักงานก็เดินตามมิสเตอร์แทงค์ไปที่ประตูทางเข้าบริษัทเพื่อเตรียมต้อนรับ วิลสัน ทำตัวออกหน้าออกตาด้วยการพูดขึ้นว่า “ทุก ๆ คน เตรียมกายเตรียมใจให้พร้อม! เจ้าของคนใหม่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้ ถ้าพวกนายทำงานได้ดี ก็อาจจะได้เพิ่มเงินเดือนหรือเลื่อนตำแหน่ง! นี่เป็นเรื่องอนาคตและปากท้องของพวกนาย!”

“ช่างเป็นคนที่น่าขยะแขยงเสียจริง ทำเป็นแค่เลียเจ้านายสินะ!”

“เขาต้องหมายถึง ‘นี่เป็นเรื่องของตัวเขาเอง’ แน่นอน ประจบสอพลอเก่งจริง ๆ!”

พนักงานสองสามคนซุบซิบนินทากัน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาดูแคลนวิลสัน ยัง แต่ก่อนเขาก็เป็นเพียงแค่พนักงานส่งของธรรมดาเหมือนกันกับพวกเขา แต่เขาเป็นคนน่าไม่อายที่ช่างประจบสอพลอ เขาได้ตำแหน่งผู้จัดการนี้มาด้วยการเลียแข้งเลียขาผู้จัดการระดับสูงกว่า

และในตอนนั้นเอง รถเบนท์ลีย์สีดำก็มาจอดที่หน้าทางเข้าบริษัท คิดอยู่ชั่วครู่ จอร์จก็ตัดสินใจมาดูที่บริษัทด้วยตัวเขาเอง บางทีเขาอาจจะช่วยอะไรนายน้อยได้บ้าง ถ้ามันทำให้นายน้อยพึงพอใจ ชายหนุ่มอาจจะยอมกลับไปอยู่ที่บ้าน

วิลสันยืนอยู่ด้านหลัง มิสเตอร์แทงค์ ถูมือไปมาด้วยความตื่นเต้น “เขามาถึงแล้ว! เขามาแล้ว” เขารู้ว่าการมาถึงของเจ้าของบริษัทคนใหม่หมายถึงโอกาสที่เขาจะได้แสดงความสามารถของเขาด้วยเช่นกัน!

ขณะเดียวกัน ฟิลิปก็มาถึงเช่นกัน เขาจอดรถสกู๊ตเตอร์ของเขาด้านหน้ารถเบนท์ลีย์

เมื่อเขาเห็นฟิลิป วิลสันก็ตัวสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธ เขาชี้หน้าฟิลิป และตะโกนขึ้นมา “ฟิลิป คลาร์ค แกมาทำอะไรที่นี่? รีบขยับออกจากทางเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 4

    วิลสันเดือดดาลด้วยความโกรธ! เจ้าคนเสียสตินั่นไปจอดขวางหน้ารถเบนท์ลีย์ของเจ้านายคนใหม่ได้ยังไงกัน! นี่เขาอยากมีปัญหารึอย่างไรนะ? “ฟิลิป คลาร์ค แกยืนทำอะไรอยู่ตรงนั้นอยู่อีก? รีบหลบไปได้แล้ว!” วิลสันชี้หน้าฟิลิป และตะโกนใส่เขาฟิลิปเพิ่งจะจอดสกู๊ตเตอร์ของเขาเสร็จ เมื่อได้ยินเสียงด่าของวิลสันดังมาอีกระลอกนึง “แย่ละ! ฟิลิปตายแน่คราวนี้ พี่วิลจะได้ออกหมัดเสียที”“สิบสายร้องเรียน แต่เจ้าหนุ่มเสียสตินี่ยังกล้าจะกลับมาที่นี่อีก!”“จะต้องโดนหักเงินอย่างน้อยสองร้อยแน่ ๆ นั่นมันต้องทำงานทั้งวันเลยนะ!”พนักงานสองสามคนแอบนินทากันเงียบ ๆ และบางคนก็สนุกกับการได้ดูการแสดงนี้ ท่ามกลางพนักงานเหล่านี้มีบางคนที่เป็นพนักงานเก่าที่เคยทำงานกับฟิลิป เมื่อพวกเขาเห็นว่าฟิลิปถูกลดระดับลงมาทำงานเป็นพนักงานส่งของเหมือนกันกับพวกเขา ต่างก็พากันดูถูกเขายิ่งกว่าเดิม ฟิลิปชินชาไปเสียแล้ว ตอนนั้นเอง มิสเตอร์แทงค์จ้องไปทางฟิลิปอย่างเย็นชา เขาดูหงุดหงิดก่อนจะถามขึ้น “ผู้จัดการ ยัง นี่ลูกน้องของคุณงั้นเหรอ?”วิลสันรีบตอบกลับในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยคำถากถาง “เจ้านายครับ คุณไม่ได้มาที่นี่บ่อยนัก ผมจึงลืมแนะนำคุณ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 5

    “คุณมาทำอะไรที่นี่?” วินน์ขมวดคิ้วก่อนจะจ้องไปที่เบนท์ลีย์ที่จอดอยู่ข้างฟิลิป นี่เขาเพิ่งจะออกมาจากรถคันนั้นงั้นเหรอ? นี่มันสามีที่ไม่ได้เรื่องของฉันจริง ๆ งั้นเหรอ? หรือเดี๋ยวนี้บริษัทส่งของเขาส่งอาหารด้วยรถเบนท์ลีย์กันแล้ว? “ผม…คือผม…” ฟิลิปพูดตะกุกตะกักก่อนจะเหลือบมองไปทางจอร์จที่กำลังยิ้มหน้าบานผ่านกระจกชายสูงวัยรีบยื่นมือเข้ามาช่วยก่อนจะพูดขึ้น “พ่อหนุ่มขอบคุณมาก ต้องขอบคุณเธอจริง ๆ ที่ช่วยให้ฉันหาที่นี่เจอ ไว้ให้ตาแก่คนนี้เลี้ยงอาหารเธอสักมื้อเพื่อแสดงความขอบคุณนะ” ฟิลิปยิ้มก่อนจะพยักหน้าอย่างสุภาพ “ไม่เป็นไรครับท่าน กรุณากลับดี ๆ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกเป็นนัยว่าให้ชายสูงวัยรีบกลับไปได้แล้วจอร์จไม่ได้พูดอะไรอีกยิ้มและพยักหน้าให้กับวินน์ ก่อนจะบอกให้คนขับรถเคลื่อนรถออกไปวินน์ตัวแข่งทื่อไปด้วยความตกตะลึง นั่นไม่ใช่...นั่นไม่ใช่ประธานของ เอเปก กรุ๊ป ประธานโทมัส หรอกเหรอ? คนที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองนี้! และฟิลิปเพิ่งจะนั่งรถคันเดียวกันกับเขามา“นี่คุณรู้จักจอร์จ โธมัส ด้วยเหรอ?” วินน์หันไปทางฟิลิป รู้สึกประหลาดใจฟิลิปยักไหล่ “ไม่ ไม่รู้จัก ตาแก่นั่นก็แค่หลงทาง ผมแค่ช่วยนำทาง

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 6

    ฟิลิปกดโทรออกหาจอร์จ โทมัส “จอร์จ คุณช่วยผมตรวจสอบโครงการล่าสุดที่วินน์ จอห์นสตัน ต้องดูแลของบริษัทเภสัชกรรม บีคอน หน่อย ว่ามีมูลค่าการลงทุนคือ หนึ่งล้านดอลล่าร์จริงหรือเปล่า? แล้วใครกันที่เป็นลูกค้าและบุคคลที่รับผิดชอบโครงการนี้”น้ำเสียงที่นอบน้อมของจอร์จลอดผ่านปลายสายออกมาเขาพูดขึ้น “นายน้อย กลุ่มบริษัทเภสัชกรรม บีคอน เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลคลาร์คของเราร่วมลงทุนผมจะให้ประธานบริษัทของบีคอนไปพบกับคุณด้วยตัวเขาเอง”หืม? บริษัทเภสัชกรรม บีคอน ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ตระกูลเราลงทุนไว้งั้นเหรอ พ่อของฉันนี่เยี่ยมยอดจริง ๆ!ฟิลิปรู้สึกเสียดายขึ้นมาทันทีที่ไม่รับมรดกของตระกูลให้เร็วกว่านี้“ไม่จำเป็นหรอก รีบตรวจสอบโดยเร็วและทำยังไงก็ได้ให้ลูกค้าตัดสินใจลงทุนซะเพื่อที่วินน์จะได้ไม่ต้องลำบากมาก” ฟิลิปพูดขึ้นอย่างใจเย็น“นายน้อย ผมแนะนำให้คุณซื้อบริษัทของลูกค้านั่นซะ คุณมีเงินมากพออยู่แล้ว” จอร์จแนะนำอะไรกันวะเนี่ย! ซื้อบริษัทงั้นเหรอ? อย่างที่คาดไว้ในฐานะพ่อบ้านจากตระกูลร่ำรวย ตาเฒ่าจอร์จ นี่คุณเป็นคนขี้อวดขนาดนี้แล้วเหรอ? “มันเรียกว่าการทำตัวให้ไม่เป็นจุดสนใจ เข้าใจรึเปล่า? ถ้าผมอยา

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 7

    ในที่สุดรถเบนท์ลีย์ก็มาหยุดที่ ริเวอร์เดล เวอร์เทียส คอร์ท ร้านอาหารที่ดังที่สุดในเมือง สถานที่ที่มีเฉพาะเหล่าเศรษฐีแหละคนดังถึงจะมารับประทานอาหารที่นี่ได้ เวอร์เทียส คอร์ท กำหนดให้ผู้ที่จะมาทำการจองร้านจะต้องเป็นสมาชิกที่มีการใช้จ่ายขั้นต่ำอย่างน้อยหนึ่งล้าน เพื่อที่จะรักษาสิทธิ์การเป็นสมาชิกเอาไว้ได้และที่นั่น ผู้ที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าของ เวอร์เทียส คอร์ท คือนักธุรกิจชื่อดัง ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้ง กรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์ บริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการนำเข้าและส่งออกโดยจะเน้นที่ผลงานศิลปะ ในฐานะผู้บริหารของบริษัท แค่ตัวรัสเซลเองก็ร่ำรวยมีทรัพย์สินถึงสามพันล้าน และเขายังเป็นนักสะสมชื่อดังที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกอีกด้วย คนดังที่มาอยู่ในชุมชนของนักสะสมท้องถิ่น รัสเซลได้พาเหล่าผู้บริหารระดับสูงอีกกว่าสิบคน มายืนรอด้วยความเคารพที่ด้านหน้าทางเข้าร้าน เวอร์เทียส คอร์ท กับเขาด้วย เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้เหล่าผู้ที่มาทานอาหารที่ร้านไม่น้อย บางส่วนถึงกับอุทานออกมา“นั่นไม่ใช่ผู้บริหารของ ซีวิล เทรดดิ้งกรุ๊ป รัสเซล ฟีลด์หรอกเหรอ? เขามายืนรอใครกัน มากันเยอะแยะ อลังการขนาดนี้?”“ช่างเป

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 8

    เสียงที่พูดขึ้นมาไม่น่าพิศมัยนัก ฟิลิปเงยหน้าขึ้นมาเจอเข้ากับชายที่พุงยื่นพลุ้ย จ้องมาที่เขาด้วยสายตาเยาะเย้ยแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก? ฉันจะเป็นแมงดาหรือไม่แล้วยังไง? ฉันไม่รู้จักแกด้วยซ้ำ ฟิลิปทำปากเบะ ตั้งใจจะไม่สนใจเขา ก่อนจะหมุนตัวเพื่อเดินออกไปแต่เจ้าอ้วนนั่นไม่ปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ เขาเดินไปขวางทางฟิลิป และพูดจาถากถางเขาต่อหน้าเขาตรง ๆ “ทำเป็นเมินผมงั้นเหรอ? นิสัยดีเยี่ยมไปเลย! ผมได้ยินมาว่าธุรกิจของคุณพังไม่เป็นท่า และตอนนี้รองผู้จัดการจอห์นสตันของเราก็เป็นคนหาเลี้ยงปากท้องครอบครัวแทน ชายหนุ่มอย่างคุณฉันนี่ช่างกล้าที่จะเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินนะ”ฟิลิปขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาจำชายคนนี้ได้เขาคือ เกวิน แซค ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทที่วินน์ทำงานอยู่ ชายคนนี้เคยพยายามที่จะข่มขู่วินน์ แล้วฟิลิปก็เคยมอบบทเรียนให้กับเขา แต่ในตอนนี้เค้ามองฟิลิปว่าอยู่ต่ำกว่าเขา ชายหนุ่มจึงดูถูกเหยียดหยามเขาไม่หยุดหย่อนเพื่อนร่วมงานคนอื่นของวินน์ต่างก็มองฟิลิปด้วยสายตาแปลกประหลาด พวกเขารู้เรื่องของฟิลิปเพียงเล็กน้อย รู้เพียงแค่ว่าเขาเคยเป็นนักลงทุนที่มุ่งมั่น แต่ตอนนี้ตกลงมาอยู่ในสถานะขอ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 9

    ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ โรสโบกบัตรไปมาก่อนจะชำเลืองมองไปทางฟิลิป อย่างเย่อหยิ่งและพูดขึ้น “ช่วยตรวจสอบที ว่าบัตรใบนี้สามารถจองห้องอาหารส่วนตัวได้หรือเปล่า”ทุกคนกลั้นหายใจรอคอยที่จะได้เห็นฟิลิปขายหน้าหญิงสาวที่อยู่ที่โต๊ะแผนกต้อนรับ รับบัตรไปรูดที่เครื่องและทันทีสีหน้าของเธอก็เป็นกังวลขึ้นมา เธอถามขึ้น “คุณผู้หญิงคะ นี่นี่บัตรของคุณงั้นเหรอ?”เมื่อโรสเห็นดังนั้นเธอก็ส่ายหน้า ยื่นมือของเธอที่ทาเล็บสีแดงก่ำออกมา ชี้ไปที่ฟิลิปที่ถูกยืนห้อมล้อมและโดนหัวเราะเยาะอยู่ “ไม่ใช่ของฉันหรอกค่ะ แต่เป็นของเขา” ฮ่าฮ่าฮ่า เรื่องเหลวไหลสิ้นดี! ฟิลิปทำให้ตัวเองต้องขายหน้า และวินน์ก็จะเสียหน้าไปด้วยเช่นกัน นี่มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! นี่มีชายที่ทำให้ตัวเองต้องขายหน้าอยู่ตลอดจริง ๆ งั้นเหรอ?โรสมีความสุขเป็นอย่างมาก เธอจ้องมองไปที่วินน์ที่กำลังทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ อย่างมีความสุข ก่อนจะพูดเยาะเย้ยขึ้น “รองผู้จัดการจอห์นสตัน สามีของคุณช่างเป็นผู้ชายที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!”วินน์รู้สึกขายหน้าเป็นที่สุด เธอจ้องไปที่ฟิลิปอย่างขุ่นเคือง เตรียมตัวที่จะตำหนิเขาแต่หญิงสาวที่อยู่แผนกต้อนรับก็เข้ามาขัดเสียก่อน เธอลุกขึ้นยืน

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 10

    ฟิลิปจ้องไปทางพวกเขาอย่างใจเย็น สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกไคล์มองมาที่ฟิลิปด้วยความไม่พอใจ ชายคนนี้ดูธรรมดามาก และเขายังใจเย็นขนาดนี้ได้ยังไงกัน? “น่าสนใจดีนี่!”“พี่ชาย คุณสามารถจ่ายเงินสามแสนได้ไหม?” ไคล์ไม่ใช่พวกนักเลงที่จะได้เริ่มลงมือต่อยตีโดยที่ไม่ถามหาเหตุผล สามแสนเป็นเงินจำนวนมากสำหรับคนทั่วไป ไคล์รู้สึกว่าชายหนุ่มอย่างฟิลิป ไม่สามารถจ่ายเงินจำนวนนี้ได้อย่างแน่นอน แต่เขาก็ยังต้องถาม ต้องมีศิลปะทางการทูตเสียก่อนที่จะลงมือรุนแรง“ฉันขอโทษด้วยนะ แต่เขาเป็นคนที่ฝ่าไฟแดงมา อย่างนั้นแล้วเขาก็ควรจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมด อีกอย่างเราก็ไม่ได้ชนกันเสียหน่อย” ฟิลิปพูดอย่างใจเย็นเจคอปชี้หน้าฟิลิป ก่อนจะคำรามออกมาด้วยความโกรธ “หมายความว่าแกจะไม่จ่ายยังงั้นเหรอ?”ฟิลิปจ้องไปที่เขา เงียบไม่ตอบรับไคล์ขมวดคิ้วเล็กน้อย หันหน้าไปมองทางรถฮาร์ลีย์ที่พังยับเยินอยู่บนพื้นถนนก่อนจะพูดขึ้น “พี่ชายสามแสนไม่มากเท่าไหร่หรอกนะ ก็แค่ขาข้างหนึ่ง”นี่เป็นคำขู่ สายตาของฟิลิปเปลี่ยนเป็นเย็นชา แววตาของเขาส่องประกายวิบวับในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลที่มั่งคั่ง เงินสามแสนเป็นปัญหาสำหรับเขาไหม? ก็ไม่เลย แต่เ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 11

    เฮ้อ! ภรรยาของเขาสวยเกินไปทำให้ผู้คนมากหน้าหลายตามาตามจีบเธอ มันทำให้ฟิลิปปวดหัว“เฮ้ เอเดนมาถึงแล้ว! เข้ามาสิ มานั่งลงข้างลุงจอห์นสตัน” มาร์ธาตื่นเต้นดีใจ เธอออกไปต้อนรับเขา “เธอเอาของขวัญมาด้วยทำไม? ไม่จำเป็นเลย เธอใจดีเกินไปแล้วแค่เธอมาที่นี่ก็ดีมากแล้ว”“แต่นี่เป็นงานวันเกิดของลุงจอห์นสตันนี่ครับ” เอเดนยิ้มก่อนจะเดินเข้ามานั่งด้านข้างชาร์ลส์ในตอนนี้เองก็ผู้คนต่างพากันจ้องมองมาที่ฟิลิปด้วยสายตาเยาะเย้ย ลูกเขยของตระกูลจอห์นสตัน คนนี้ช่างไร้ประโยชน์สิ้นดี! แม้แต่คนนอกยังได้นั่งข้างชาร์ลส์ จอห์นสตัน แต่ในฐานะลูกเขยเขากลับได้นั่งใกล้ประตู การปฏิบัติที่แตกต่างนี้แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดมาร์ธายิ้มอย่างจริงใจในขณะที่เธอจ้องมองไปที่เอเดนราวกับว่าเธอกำลังจ้องมองลูกเขยในอนาคตอยู่ “ต้องขอบคุณเอเดน ที่ช่วยจองห้องรับรองส่วนตัวนี้ ทำให้พวกเราได้มาทานอาหารที่เวอร์เทียส คอร์ทในวันนี้”ผู้คนต่างมองไปที่เอเดนด้วยด้วยความเอ็นดู การที่จะจองห้องจัดเลี้ยงรับรองส่วนตัวที่ เวอร์เทียส คอร์ทได้นั้นจะต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นและการที่จะเป็นสมาชิกที่นี่ได้ ก็จะต้องมียอดใช้จ่ายอย่างน้อยหนึ่งล้านต่อปี เขาช่างเ

บทล่าสุด

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 200

    นั่นคือธีโอ แซนเดอร์!ฟิลิปไม่รู้ว่าอะไรดีต่อตัวเขา เขากล้าดียังไงถึงไม่แสดงความเคารพ?บ๊อบเป็นคนแรกที่โกรธ เขาตะโกนใส่ฟิลิปว่า “ฟิลิป เมื่อมิสเตอร์แซนเดอร์มาที่นี่เพราะนาย ทำไมนายถึงยังนั่งอยู่? นายคิดว่านายเป็นใคร? นายไม่มีมารยาททางสัมคมเหรอ?”หลังจากที่บ๊อบตะโกนอย่างโกรธจัด เอริค อารอน และคนอื่นๆ ก็เริ่มด่าเขาเช่นกัน“ฟิลิป ยืนขึ้นและขอโทษมิสเตอร์แซนเดอร์เดี๋ยวนี้!”“ไอ้ขยะคนนั้นคิดว่าเขาเป็นคนพิเศษ”พวกเขากำลังพูดถึงฟิลิปมากขึ้นและมากขึ้นคนเหล่านี้ไม่ชอบฟิลิปมานานแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็มีโอกาสที่จะได้พูดสอดถ้าธีโอโกรธ ฟิลิปคงเสร็จแน่!อย่างไรก็ตาม ฟิลิปยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยและมองทุกคน จากนั้นเขาก็คว้าทัพพีและตักซุปให้วินน์ เขากล่าวว่า “นี่ไม่เลว มันดีต่อร่างกายของเธอ เธอควรดื่มอีก”เวรเถอะ!บ๊อบ เดือดพลาด!ไอ้ขยะคนนี้ดูหมิ่นเขาอย่างสิ้นเชิง!เมื่อบ๊อบกำลังจะตะโกนใส่เขาอีกครั้ง ฟิลิปจึงพูดอย่างใจเย็นว่า “นั่ง”“ได้ครับ!”ธีโอถอนหายใจอย่างโล่งอกและนั่งลงอย่างมีความสุข เขานั่งถัดจากรัสเซลและพวกเขาก็พยักหน้าเมื่อสบตากันบ้าอะไรกัน?เกิดอะไรขึ้น? นี้เริ่มแปลกมากไปแล้วทุ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 199

    “ธีโอ แซนเดอร์? ธีโอ แซนเดอร์คนไหน?”"มิสเตอร์ธีโอ แซนเดอร์ จากองค์กรการกุศลธีโอดอร์?”“ราชาโลกของใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล ธีโอ แซนเดอร์ เหรอ? เขามาที่นี่ทำไม”ก่อนที่ญาติพี่น้องและรุ่นลูกหลานของครอบครัวเยทส์ที่อยู่ในลานบ้านจะฟื้นคืนสติ ทุกคนในห้องโถงเริ่มวิตกกังวลเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการและนักสะสมที่มีชื่อเสียงอย่างรัสเซล ธีโอได้โด่งดังในเมืองริเวอร์เดลเนื่องจากเขามีอำนาจทางด้านมืดหากผู้มีอำนาจเช่นนั้นไม่ได้มาที่นี่อย่างจริงใจ อาจกล่าวได้ว่าเขามาที่นี่เพื่อปลิดชีพใครบางคนเป็นเรื่องธรรมดาที่บ๊อบจะประหม่าไม่ใช่ทุกคนที่จะติดต่อกับชายผู้มีอำนาจอย่างธีโอได้ อีกอย่างคือไม่มีบุคคลธรรมดาคนไหนที่จะเชิญเขาเพื่อทำอะไรบางอย่างได้ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง ธีโอก็เดินเข้าไปในลานบ้านด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา ชุดสูทสีขาวและหมวกทรงฟีโดราของเขาเปล่งประกายไปทั่วอาณาเขต ใครบางคนอาจจะรู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดขยี้ด้วยการปรากฏตัวของเขาแน่นอนว่านั่นคือธีโอ แซนเดอร์ ราชาของโลกใต้ดินแห่งเมืองริเวอร์เดล!การปรากฏตัวของเขามีอำนาจเหนือทั้งงานฉลองเจสตกใจมาก นี่คือชายผู้ทรงอำนาจและมีชื่อเสียงมากในเมืองริ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 198

    'จอร์จ โธมัส คุณมันโคตรจะทำลายชีวิตฉัน!'ฟิลิปไม่สามารถปฏิเสธเขาได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงเตรียมตัวให้พร้อมและเดินผ่านหน้าทุกคน โดยมีวินน์อยู่ข้าง ๆ เขาเขารู้สึกได้ถึงการจ้องมองที่เย็นชาที่หลังของเขามากกว่าสิบครั้ง พวกมันแทงเข้าไปในร่างกายของเขาราวกับลูกศรพันดอกเมื่อพวกเขาอยู่ในลานบ้าน ทุกคนก็นั่งลง แน่นอนว่ารัสเซลนั่งอยู่ในห้องโถง หลังจากที่บ๊อบนั่งลงก่อนเมื่อเอริคเห็นว่าทุกคนอยู่ในห้องโถงและลานทางเดินกลาง เขาจึงตัดสินใจที่อยู่ตรงลานด้านนอก เขาเยาะเย้ยในขณะที่รู้สึกพอใจกับตัวเองว่า “ฟิลิป ไม่คิดว่าขยะอย่างนายจะรู้จักผู้ประกอบการและนักสะสมอย่างรัสเซล ช่างโชคดีเสียนี่กระไร!”แม้ว่าเขาจะยิ้ม แต่ทุกคนก็บอกได้เลยว่ามันเป็นน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเสียดสี ฟิลิปขมวดคิ้วเล็กน้อย ความทุกข์ในใจเริ่มรุนแรงขึ้นเอริคเป็นตัวเคราะห์ร้ายของครอบครัวเยทส์ถึงกระนั้นฟิลิปก็ยังเพิกเฉยต่อเขา เขาเป็นแค่คนโง่ที่ไร้ค่า แล้วทำไมเขาต้องไปยุ่งกับเอริคด้วย?อีกด้านหนึ่ง รัสเซลเพิ่งนั่งลง เมื่อเขาเห็นฟิลิปที่มุมของลานด้านนอก กำลังถูกดูถูกโดยเอริคด้วยรอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้า เขารู้สึกกระวนกระวายใจคนฉ

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 197

    บ๊อบรู้สึกตื่นเต้นมากในขณะนี้รัสเซลอยู่ที่นี่และให้ของขวัญเป็นภาพ 'กุ้ง' โดยฉี ไป่ซี่ นี่เป็นของขวัญล้ำค่า!ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถให้ของขวัญที่หรูหราเช่นนี้ได้ทุกคนเดินตามบ๊อบและออกมาที่ลานด้านนอก จากนั้นพวกเขาก็มาถึงทางเข้าคฤหาสน์เอริคเป็นคนสุดท้ายที่มาถึง เมื่อเห็นว่าฟิลิปไม่ขยับตัวตามมา เขาก็พูดอย่างเกลียดชังว่า “เป็นอะไรไป? คนสำคัญอย่างรัสเซล ฟิลด์ อยู่ที่นี่ นายไม่อยากไปต้อนรับเขาเหรอ?”ผู้ชายคนนี้มีตะปูที่ก้นของเขาเหรอ?เขายังนั่งอยู่กับที่ได้อย่างไร?หลังจากเสียงเตือนของเอริค ฟิลิปครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และได้ข้อสรุปว่าคำพูดของเอริคนั้นสมเหตุสมผล เขาลุกขึ้นและตามวินน์ไปพร้อม ๆ กับผู้คนที่เหลือ อย่างไรก็ตามเขายืนห่างจากฝูงชนเพียงไม่กี่เมตร เขาไม่ต้องการที่จะไปอยู่ด้านหน้า ฟิลิปไม่ต้องการเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องแบบนี้ทุกคนยืนที่ประตูด้วยความเคารพ รถมายบัคสีดำหยุดอยู่ที่ทางเข้าทันใดนั้นประตูรถก็เปิดออกและรัสเซลก็ลงมาจากรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้มบ๊อบเดินออกไปพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากางมือและกล่าวด้วยความเคารพว่า “มิสเตอร์ฟิลด์ ฉันไม่ได้คาดคิดว่าคนสำคัญเช่นคุณจะมาที่

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 196

    ปังประตูห้องน้ำเปิดออก และเจสก็เข้ามาเมื่อนางเห็นภาพตรงหน้าเธอจึงหันหลังเดินจากไป ก่อนที่เธอจะจากไป อย่างไรก็ตามเธอหันกลับมาและพูดว่า “พวกนายแต่งงานมานานแล้ว หาที่ที่ดีกว่านี้ ถ้าพวกนายอยากลึกซึ้งระหว่างกัน”หลังจากที่เจสจากไป ฟิลิปพูดด้วยความรำคาญว่า “ต้องมีอะไรผิดปกติกับความคิดของผู้หญิงคนนี้ เธอทนไม่ได้ที่เห็นสามีและภรรยามีความสุขกัน”วินน์กลอกตามองเขาและเดินเข้ามาหาเขา เธอยืดหลังให้ตรงและติดกระดุมเสื้อให้เขาฟิลิปอยากจะสานต่อแต่วินน์ปัดมือของเขาออก “หยุด หาเศษหาเลย ไปกันเถอะ."ฟิลิปยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เขาบ่นว่า “เราเป็นสามีภรรยากันมานานแล้ว เธอกลัวอะไร?"วินน์หันกลับมาและแสดงรอยยิ้มที่พึงพอใจ เธอดูเย้ายวนภายใต้แสงแดดเมื่อพวกเขากลับมาที่งานเลี้ยง ก็ใกล้จะสิ้นสุดแล้วฟิลิปเพิ่งนั่งลงได้หนึ่งนาทีเมื่อได้รับข้อความจากจอร์จ'นายน้อยพร้อมแล้ว รอการเซอร์ไพรส์ก่อนนะครับ'แปลกมันหมายความว่าอย่างไร?ฟิลิปตอบอย่างรวดเร็วว่า 'จอร์จ คุณหมายความว่าอย่างไร?'ในขณะนี้ จอร์จนั่งอยู่บนรถเบนท์ลีย์และกำลังเดินทางไปยังหมู่บ้านเยทส์เขาตอบว่า 'นายน้อย คุณเป็นตัวละครหลักของฉลองของคร

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 195

    เอริคอ้าปากค้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดูถูก เขาชี้ไปที่ฟิลิปและพูดว่า “เวรเถอะ! นายพูดว่าอะไรนะฟิลิป? นายกำลังจะพาวินน์ไปที่นั่นเหรอ? นายจะพาเธอไปที่นั่นได้อย่างไร? นายมันก็แค่เศษขยะ!“นายรู้ไหมว่าคฤหาสน์เซอร์รัสเป็นสถานที่แบบไหน? มันเป็นคฤหาสน์ที่ลึกลับที่สุดในเมืองริเวอร์เดล! เจ้าของใช้เงินหนึ่งพันล้านในการสร้าง!“นายกำลังจะบอกว่านายมีคุณสมบัติที่จะได้รับเชิญไปงานปาร์ตี้ด้วยเหรอ?”เอริคไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาพูดคำพูดที่เลวร้ายและคำเหน็บแนมทุกประเภทเขาดึงดูดความสนใจของคนจำนวนหนึ่งได้ในเวลาเพียงไม่นาน พวกเขาเริ่มหัวเราะเยาะฟิลิปเช่นกันฟิลิปเพิ่งทำให้ตัวเองอับอาย!เขายังคงพยายามโอ้อวดแม้ว่าทุกสิ่งจะมาถึงจุดนี้แล้วใบหน้าของวินน์ก็ถูกเผาไหม้ด้วยความอับอายเช่นกัน เธอเตะฟิลิปใต้โต๊ะเพื่อบอกให้เขาหยุดพูดเธออายเป็นอย่างมากแล้ว แต่ฟิลิปไม่ยอมหยุดพูด!เขาจะหยุดหลังจากที่เขามีปัญหากับทุกคนเหรอ?เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ วินน์ก็เริ่มโกรธอย่างไรก็ตาม เธอยังคงพอทนกับฟิลิปได้ เธอพูดเบา ๆ ว่า “พอแล้ว หยุดพูด นายอยากให้เราดูโง่เหรอ?”ฟิลิปพูดไม่ออก เขาจับจมูกของเขาและพยักหน้า

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 194

    บ็อบจ้องมองฟิลิปซึ่งนั่งอยู่บนที่นั่งอย่างเย็นชา เขาพ่นลมหายใจและพูดว่า “เขาคิดว่าเขาเป็นใคร? ช่างเป็นภาพที่เจ็บปวดเสียนี่กระไร!”ด้วยการเยาะเย้ย บ็อบเดินออกไปพร้อมกับเอาไม้เท้าสีดำแตะพื้น เขากำลังจะออกไปพร้อมกับกลุ่มคนของเขาฟิลิปได้แต่อดทนกับการปฏิบัติแบบนี้มาเป็นเวลานาน เขานั่งบนที่นั่งอย่างเฉยเมยและจิบไวน์ของเขา เขาพูดอย่างใจเย็น “คุณปู่แน่ใจได้อย่างไรว่าผมไม่ใช่มิสเตอร์คลาร์ค”ตอนแรกทุกคนตกใจ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มหัวเราะเสียงดังฟิลิปเป็นคนงี่เง่าหรือเปล่า?เขากล้าพูดแบบนี้ได้ยังไง?"เวร! ฟิลิป ทำไมนายไม่ลองส่องกระจกดูตัวเองดูล่ะ? นอกจากนามสกุลของนายแล้ว ส่วนไหนของนายที่ดูเป็นคนรวย”เอริคหัวเราะด้วยความหงุดหงิดคนไร้ยางอายเช่นนี้จะมีตัวตนได้อย่างไร? เขาเป็นคนที่ตลกมาก!ฟิลิปไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่าพวกเขาจะไม่เชื่อ แม้ว่าเขาจะบอกกับพวกเขาบ็อบและกลุ่มคนของเขาพ่นลมทางจมูกและเดินออกจากประตูไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงไม่กี่คนในลานบ้านเจสไม่ได้ออกไป เธอมองฟิลิปและพูดอย่างเย็นชาว่า “ฟิลิป ฉันคิดว่านายเป็นตัวปัญหา นายโอ้อวดมากเกินไป ถ้านายยังทำตัวแบบนี้ต่อไป ฉันแนะนำให้นายหย่าก

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 193

    ลงทุน 1 พันล้าน!ทรัพย์สินทั้งหมดของครอบครัวเยทส์มีมูลค่าเพียง 700 ถึง 800 ล้านเหรียญ!หากเพิ่มบริษัทของบ็อบกับของแซมซันและเท็ด พวกเขามีจะทรัพย์สินมากกว่าหนึ่งพันล้านไปเล็กน้อยเท่านั้น!การลงทุนหนึ่งพันล้านเหรียญนี้ไม่รู้ว่ามาจากไหน!เขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร?บ๊อบยืนขึ้นอย่างตื่นเต้นและเบิกตากว้าง เขาถามพลางหายใจหอบ “อะไรนะ...นายพูดว่าอะไรนะ? พูดอีกครั้ง!"“นายท่านอาวุโส เรามีเงินลงทุนหนึ่งพันล้านดอร์ล่า!” ในที่สุดชายวัยกลางคนก็ปาดเหงื่อและพูดด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกันทันใดนั้น บ๊อบก็หน้าแดง เขาเงยหน้าขึ้นและหัวเราะกับท้องฟ้า “วิเศษมาก! ครอบครัวเยทส์กำลังจะเข้าสู่สังคมชั้นสูงในที่สุด! ลงทุนหนึ่งพันล้านดอลล์! ไปหาว่าใครคือคนที่ลงทุนกับเรา เราต้องเชิญพวกเขามาที่นี่และดูแลพวกเขาให้ดี!”คนคนนี้ต้องเป็นมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยมากเขาต้องปฏิบัติต่อคนคนนี้ด้วยความเคารพบ๊อบพร้อมที่จะเชิญพวกเขามาที่นี่ด้วยตัวเองชายวัยกลางคนตอบว่า “เป็นนักลงทุนเทวดา เขาใช้ชื่อว่ามิสเตอร์คลาร์ค นายท่านอาวุโส คุณรู้จักใครที่มีนามสกุลคลาร์คไหม?”ชายวัยกลางคนงงงวย เขาอยู่กับบ๊อบมานานกว่าสิบปี เขารู้จักค

  • ทายาทอันดับหนึ่ง   บทที่ 192

    'รอสัญญาณจากฉัน ฉันไม่ชอบครอบครัวเยทส์” ฟิลิปตอบข้อความอย่างลับ ๆ และเก็บโทรศัพท์ของเขาจอร์จอยู่ที่สำนักงานของประธานในเอเปก กรุ๊ป หลังจากที่เขาได้รับข้อความ เขาเลิกคิ้วและบอกกับเลขาฯ ให้ประกาศเรื่องนี้ตราบใดที่ฟิลิปเอ่ยปาก เขาก็จะทำให้ครอบครัวเยทส์ล้มละลายคนโง่ตาบอดเหล่านี้จะต้องต่อต้านนายน้อย“ฟิลิป นายกำลังทำอะไร?” วินน์สังเกตว่าฟิลิปเล่นโทรศัพท์ของเขาตลอดเวลา เธอจึงถามด้วยความสงสัย“โอ้ มันไม่มีอะไร ศาสตราจารย์เทิร์นเนอร์บอกฉันว่าเขาจะเตรียมการผ่าตัดของมิล่าในวันพุธหน้า” ฟิลิปตอบ"จริงเหรอ?" วินน์รู้สึกตื่นเต้น เธอจับมือฟิลิปด้วยอารมณ์อ่อนไหวมิล่าคือทุกสิ่งของเธอ คุณแม่คนไหนจะอยากเห็นลูกของตัวเองทนทุกข์?"ใช่" ฟิลิปตบหลังมือของวินน์ด้วยความรัก“เฮ้ เคยยินไหมว่าโครงการพัฒนาโอเอซิสทางตอนใต้ของเมืองริเวอร์เดล ได้รับการพัฒนาโดยจอร์จ โธมัส มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในริเวอร์เดล เท็ดทำให้พวกเราทุกคนภูมิใจด้วยการได้โครงการนั้น!”"งั้นเหรอ? ฉันได้ยินมาว่านายท่านที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้คือเศรษฐีใหม่ระดับโลก เขารวยเป็นบ้า!”“อนาคตของเท็ดจะสดใสมาก เห็นได้ชัดว่าบ๊อบต้องการฝึกให้

DMCA.com Protection Status