“ข้าว่านะ คุณชายใหญ่ตระกูลซ่งเปิดเผยตรงไปตรงมา สองขายังพิการเพราะไปออกรบ ไม่เคยได้ยินว่าเขารังแกใครมาก่อน ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างเป็นตระกูลเหยาที่กุเรื่องขึ้นมา!”“ว่ากันว่าแต่งภรรยาไร้คุณธรรมเคราะห์ร้ายไปสามรุ่น ตอนแรกหลินจือเยว่กำลังรุ่งขนาดนั้น แต่กลับทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเพื่อฉินซวงซวง ตอนนี้ดีนัก นอกจากสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว ฉินซวงซวงยังไปแอบมีชู้ข้างนอกอีกด้วย!”“พวกเจ้าว่าฉินซวงซวงเพิ่งแต่งงานกับหลินจือเยว่ได้ไม่นานก็ไปมีชู้อยู่ข้างนอกเสียแล้ว จะเป็นเพราะหลินจือเยว่ใช้การไม่ได้หรือเปล่านะ?”ทุกคนแสดงความคิดเห็นกันต่างๆ นานา เหยาจิ่นเฉิงกับฉินซวงซวงคนสองคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยกลับมาเป็นชู้กันได้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วแรกเริ่มเดิมทีเฉินเซียงและโหย่วฝูแค่อยากแพร่ข่าวลือเพื่อล้มงานแต่งระหว่างสกุลเหยากับสกุลลั่ว ทำให้ทุกคนตระหนักว่าคุณชายใหญ่ของตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนข่าวลือก่อนหน้านี้เป็นเรื่องเท็จแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดกันไปพูดกันมาก็ไปถึงเรื่องที่หลินจือเยว่ใช้การไม่ได้ได้อย่างไรเฉินเซียงลอบยิ้มอย่างอดไม่ได้ “อย่างไรเสียหลินจื
“ฉู่อ๋องเป็นใครกัน? ก่อนที่จะแต่งงานฉินซวงซวงก็อาจเอื้อมไม่ถึง ตอนนี้แต่งงานแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังไม่ตัดใจอีก”“มิน่าแม่นางซ่งถอนหมั้นไปแล้ว ตระกูลหลินก็ยังตามหาเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า ที่แท้ตัวการไม่ใช่หลินจือเยว่ แต่เป็นฉินซวงซวงนี่เอง!”“จุ๊ๆ ช่างไร้ยางอายโดยแท้ ครอบครัวแม่ทัพฉินเรียกได้ว่าผู้ใหญ่ประพฤติไม่ชอบอย่างไร ผู้เยาว์ก็เป็นอย่างนั้น ตอนที่ฉินฮูหยินแต่งเข้าจวนก็ไม่ได้มีศักดิ์ศรีนัก ดูซิ ลูกสองคนที่นางให้กำเนิดมาก็ยังประพฤติตัวเสื่อมเสียกันทั้งคู่”ทันใดนั้น เรื่องราวในอดีตที่กู้อวิ๋นเวยกับแม่ทัพฉินมาลงเอยกันได้อย่างไรก็ถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง ความไร้ยางอายของฉินเซี่ยงเหิงและฉินซวงซวงก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยากเลย“เหยาจิ่นเฉิง สิ่งที่ฉินซวงซวงพูดเป็นเรื่องจริงงั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินมองไปทางเหยาจิ่นเฉิง ตอนนี้เดิมก็เป็นละครที่สุนัขกับสุนัขกัดกันเอง นางไม่ถือสาถ้าจะต้องดูสกุลหลินและสกุลเหยาฉีกหน้ากันสีหน้าของเหยาจิ่นเฉิงมืดครึ้มดุจสายน้ำ ตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเสียแล้วถ้ายอมรับว่านี่เป็นเรื่องจริง สกุลซ่งคงไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ นอกจากจะต้องแบกรับชื่อเสียว่าเ
พิสูจน์ชัดว่าสิ่งที่ฉินซวงซวงพูดเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นเรื่องจริง!ความบริสุทธิ์ของฉินซวงซวงถูกย่ำยีไม่มีใครสนใจ แต่เหยาจิ่นเฉิงเจ้าเดรัจฉานคนนี้กลับหมายตาน้องสาวของตนเอง นั่นเท่ากับรนหาที่ตาย!ตอนที่สวี่ซืออี้มาเพื่อสอบถามก็ได้ยินฉินซวงซวงร่ำร้องเสียงแหลมว่าเหยาจิ่นเฉิงทำลายความบริสุทธิ์ของตนเองและต้องการจะแจ้งความ นางยังจะอยู่เฉยได้อีกหรือ?“นังแพศยา หลายวันก่อนเจ้าเทียวมานวยนาดอยู่หน้าเฉิงเอ๋อร์ ข้าก็ดูออกแล้วว่าเจ้าไม่ใช่คนดีอะไร!”“เปลี่ยนวิธีมาขึ้นเตียงของเฉิงเอ๋อร์ ตอนนี้พอถูกจับได้ก็คิดจะมาปรักปรำกันอีก? เจ้านับเป็นตัวอะไร? เฉิงเอ๋อร์ของข้าเป็นคนที่เจ้ามาใส่ร้ายได้ตามอำเภอใจอย่างนั้นรึ?”ทุกคนเห็นสวี่ซืออี้พราดพราดเข้ามาแล้วเงื้อมือตบฉาด จากนั้นก็กระชากผมฉินซวงซวงดึงทึ้งทันที“ผู้หญิงมักง่ายอย่างเจ้า ข้าเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว ตนเองไม่รักนวลสงวนตัว พอเกิดเรื่องก็อยากโยนความผิดให้คนอื่น!”“เฉิงเอ๋อร์ของข้าต้องการสตรีแบบไหนแล้วหาไม่ได้บ้าง? หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือนมีมากมายถมไป จำเป็นต้องสิ้นเปลืองความคิดมาเลือกผู้หญิงไร้ค่าอย่างเจ้าด้วยรึ?”สวี่ซืออี้ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เ
เหยาจิ่นเฉิงซื้อเรือนไว้ข้างนอก ความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือเรือนทองซ่อนโฉมงามเหมือนกับฉินซวงซวงก็พามาที่เรือนหลังนี้เหมือนกัน แต่ไม่ได้พาไปที่จวนสกุลเหยา เกรงว่าคงเกิดเรื่องทำนองนี้ที่เรือนหลังนี้ขึ้นมาไม่น้อยแล้ว แต่ค่อนข้างปกปิดมิดชิด คนจำนวนมากจึงไม่รู้“ถ้าสืบพบว่าเหยาจิ่นเฉิงเคยพาคนมามั่วที่นี่หรือไม่ ถ้าอย่างนั้นคำโกหกที่บอกว่ารักฮูหยินคนเก่าอย่างลึกซึ้งก็จะถูกเปิดโปงโดยสิ้นเชิง!”ลั่วหวยหลี่แววตาสว่างวาบ เขารังเกียจเหยาจิ่นเฉิงจนถึงที่สุด อยากเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของคนผู้นี้ให้ทุกคนเห็นใจจะขาด“ได้ยินว่าติงเซวียนฮูหยินคนเก่าของเขาลื่นล้มก่อนคลอด เลือดลมไม่มั่นคงจนทำให้เสียชีวิตเพราะคลอดยาก ไม่รอดทั้งแม่และลูก”“ก่อนหน้านี้สกุลเหยาให้ความสำคัญกับครรภ์นี้มาก ด้านหนึ่งเพราะเป็นลูกคนแรกของเหยาจิ่นเฉิง อีกด้านหนึ่งตำแหน่งของสกุลติงก็ไม่แย่เช่นกัน ใต้เท้าติงรักลูกสาวคนนี้มาก”“มีคนคอยปรนนิบัติข้างกายมากขนาดนั้น จะออกมานอกห้องจนลื่นล้มกลางฤดูหนาวแบบนั้นได้อย่างไร?”ซ่งเยี่ยนโจวครุ่นคิดแววตาลุ่มลึก ช่วงนี้เขาก็กำลังตรวจสอบเรื่องของเหยาจิ่นเฉิงอยู่เหมือนกัน ย่อมสืบทราบสถานการณ
กู้อวิ๋นเวยได้ยินดังนั้นก็พลันชักสีหน้า “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้ากับซวงซวงทะเลาะกัน นางจะโกรธจนหายไปแบบนี้งั้นรึ? ตอนนี้เจ้าตกอับแบบนี้ แต่ซวงซวงกลับไม่ได้รังเกียจเจ้า เจ้ายังทำไม่ดีกับนางอีก จะต่ำช้าเกินไปแล้ว!”หากเป็นเมื่อก่อน กู้อวิ๋นเวยอาจเกรงใจหลินจือเยว่อยู่บ้าง แต่หลังจากที่สองครอบครัวฉีกหน้ากันตอนอยู่ในคุก นางก็รังเกียจสกุลหลินจนถึงที่สุด“ท่านแม่ยายเข้าใจผิดแล้ว ข้ากับซวงซวงไม่ได้ทะเลาะกัน เย็นวานนางบอกว่าจะออกไปข้างนอกสักครู่ หลังจากนั้นก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย”“คืนวานข้าไปตามหาตามสถานที่ที่สามารถไปได้มาหมดแล้ว วันนี้จึงมาถามที่บ้านว่านางได้กลับมาที่บ้านเดิมหรือไม่” หลินจือเยว่อธิบายกู้อวิ๋นเวยมุ่นคิ้ว “ซวงซวงไม่ได้มีนิสัยรักสนุก จะจากบ้านไปโดยไม่บอกอะไรไว้เลยได้อย่างไร? เจ้าตามหาให้ข้าดีๆ เลยนะ ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ข้าจะเอาเรื่องเจ้าแน่!”เมื่อกู้อวิ๋นเวยและหลินจือเยว่ตระเตรียมออกไปตามหาคนก็พบว่าบนท้องถนนมีคนจำนวนไม่น้อยมองหลินจือเยว่พลางป้องปากลอบหัวเราะหากเป็นคนเดียวก็คงไม่เท่าไร แต่เมื่อหลายคนล้วนเป็นเช่นนี้ ทำให้หลินจือเยว่งุนงงขึ้นมา“พวกเจ้าหัวเราะอะไรกันแน่?” หลิน
ตอนหลินจือเยว่มาถึงก็ได้ยินน้ำเสียงเสียดสีของสวี่ซืออี้พอดี จิตใจที่เดิมทียังมีความหวังอยู่บ้างพลันดิ่งวูบลงในชั่วพริบตาทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง!ซวงซวงไม่ได้กลับมาทั้งคืน ที่แท้ก็ไปมั่วสุมกับชายอื่น ทั้งยังถูกจับชู้ได้คาเตียง!กู้อวิ๋นเวยถึงกับหน้ามืด คิดไม่ถึงเลยว่าซวงซวงจะทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ ครอบครัวของนางขายหน้าไม่เหลือชิ้นดีแล้ว!ฉินซวงซวงมองดูเงินหนึ่งพันตำลึงตรงหน้า เพียงรู้สึกว่าถูกหยามเกียรติจนถึงที่สุด ความบริสุทธิ์และชื่อเสียงของนางมีค่าแค่หนึ่งพันตำลึงเนี่ยนะ?เหยาจิ่นเฉิงสมควรตาย! ซ่งรั่วเจินสมควรตาย!ถ้าไม่ใช่เพราะสองคนนี้ ตนเองคงไม่ตกต่ำถึงขั้นนี้!ขณะนางกำลังจะเอ่ยปากก็เห็นหลินจือเยว่ตรงเข้ามาหาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว “ฉินซวงซวง เจ้าทำแบบนี้กับข้าได้อย่างไร!”หลินจือเยว่โกรธจัด ดวงตาทั้งสองแดงก่ำ เส้นเลือดข้างขมับปูดโปน ท่าทางเหมือนจะชักดาบออกมาสังหารคนเสียเดี๋ยวนั้น!ฉินซวงซวงร้อนรนเสียแล้ว“ท่านพี่ ท่านฟังข้าอธิบายก่อน เรื่องไม่ได้เป็นแบบที่ท่านคิด ข้าถูกพวกเขาทำร้าย!”“คืนวานข้าเดินบนถนนอยู่ดีๆ ก็ถูกคนของเหยาจิ่นเฉิงทำให้สลบ พอลืมตาขึ้นมาอีกทีก็เป็นเช้
“เจ้าพูดว่าคนสกุลเหยาของข้าลงทำไปโดยเจตนา มีหลักฐานหรือไม่? ถ้าไม่มีหลักฐานก็เท่ากับว่าพวกเจ้าใส่ร้าย!”“ท่านแม่ แจ้งความ! พวกเราแจ้งความจะต้องหาหลักฐานเจอแน่นอนเจ้าค่ะ!” ฉินซวงซวงรีบร้อนเอ่ยดวงตาเหยาจิ่นเฉิงสาดประกายดูแคลน “ตอนนี้ข้ายังไม่ได้แต่งอนุภรรยา แม่นางที่อยากเข้าจวนสกุลเหยาของพวกข้ามีมากมาย ข้ายังต้องชายตาแลคนที่ไม่สะอาดอย่างเจ้าด้วยรึ?”“ถ้าเจ้าอยากแจ้งความ งั้นเจ้าก็เชิญไปแจ้งความได้เลย ข้าอยากเห็นเหมือนกันว่าทุกคนจะเชื่อเจ้าหรือว่าเชื่อข้า!”สวี่ซืออี้และเหยาจิ่นเฉิงสบตากัน ทราบว่าหากตนเองจัดการเก็บกวาดให้ดีจะต้องไม่มีหลักฐานให้คนจับได้แน่นอน จิตใจก็พลันสงบลง“ข้าขอเตือนเจ้าสักหน่อย เรื่องมาถึงตอนนี้ก็ไม่น่าดูมากพอแล้ว ถ้าเจ้ายังจะโพนทะนาต่อไป คนที่เสียหน้าก็คือพวกเจ้าเอง!”สวี่ซืออี้มีสีหน้าไม่แยแส เรื่องนี้ถ้าเอาเรื่องกันจนถึงที่สุด คนที่เสื่อมเสียชื่อเสียงสุดท้ายแล้วก็เป็นฝ่ายหญิงส่วนผู้ชาย อย่างมากก็แค่ถูกเยาะเย้ยถากถางพักหนึ่งเท่านั้น นับประสาอะไรกับที่ภรรยาของเหยาจิ่นเฉิงยังเสียชีวิตไปแล้ว พอมีเรื่องนี้ขึ้นมา คนอื่นอย่างมากก็คงพูดว่าประพฤติตัวไม่เหมาะสมที่ไป
ซ่งรั่วเจินรับฟังข่าวนี้อย่างเงียบๆ นางไม่ค่อยคุ้นเคยกับตรอกหย่งอันมากนัก รู้เพียงว่าที่นั่นมีคนเยอะมากพอเกิดเรื่อง เรื่องก็จะแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็วพอได้ยินเช่นนั้น ช่วงสองวันนี้เหอฮูหยินก็ไปตั้งโรงทานแจกโจ๊กอยู่ที่นั่นพอดี ในใจก็พลันเข้าใจแล้วเหอเซียงหนิงและฉินซวงซวงเพื่อที่จะวางแผนร้ายต่อนางแล้วก็ช่างเค้นสมองครุ่นคิดอย่างหนักจริงๆ จงใจเลือกสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านมากที่สุดหากทำสำเร็จ วันนี้เหอเซียงหนิงและฉินซวงซวงก็จะใช้ข้ออ้างไปแจกโจ๊กกับเหอฮูหยินเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมอื้อฉาวของนางต่อหน้าสาธารณชน ทำให้ชื่อเสียงของนางย่อยยับป่นปี้!เห็นที ไม่ว่าเด็กสาวคนไหนต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ ทั้งยังถูกเปิดโปงต่อหน้าผู้คนมากมาย เรื่องทั้งหมดนี้ก็เพียงพอทำให้นางโกรธแค้นอับอายจนตายได้เลยทีเดียว!พวกนางไม่เพียงแต่อยากทำลายนาง แต่อยากเอาชีวิตของนางอีกด้วย!แต่ตอนนี้ นางสนองคืนเรื่องทั้งหมดให้เหอเซียงหนิง กรรมที่ตนเองก่อ ยามนี้ได้รับผลกรรมนั้นก็เป็นเพราะนางทำตัวเองทั้งสิ้น!ตอนที่ซ่งจืออวี้ฟังเรื่องที่ตรอกหย่งอันก็นึกถึงเรื่องที่ตนเองทำไปเมื่อคืนวาน เขาหันไปมองน้องสาวของตัวเองอย่างอดไม่ได้
เหอเซียงหนิงตัวไร้ประโยชน์คนนี้ถึงขั้นคิดดึงนางมารับเคราะห์ไปด้วย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พูดว่าไม่อยากดึงนางออกมาถังเสวี่ยหนิงก็ยืนอยู่ทางฝั่งนาง สกุลถังเป็นตระกูลแนวหน้าของเมืองหลวง เดิมทีก็ไม่กลัวสกุลซ่ง ตัวโง่งมคนนี้ใช้ประโยชน์จากสกุลถังเป็นโล่กำบัง ต้องการโยนความผิดมาที่ตน!“หากไม่ใช่เจ้า ข้าจะตกลำบากถึงขั้นนี้ได้เยี่ยงไร?”เหอเซียงหนิงไม่ใส่ใจความสัมพันธ์อะไรอีกแล้ว นางย่อมรู้ว่าสกุลถังยอดเยี่ยมกว่าสกุลฉิน ไฉนเลยนางจะกล้าป้ายความผิดให้สกุลถัง?ต่อให้ทำสำเร็จ ตนเองก็ถูกตัดขาดความสัมพันธ์ไปแล้ว ล่วงเกินสกุลถังยังมีผลดีอะไรกันเล่า?“เจ้าเกลียดซ่งรั่วเจินมาโดยตลอด เก็บข้าไว้ก็เพื่อใช้เป็นหมากตัวหนึ่งเท่านั้น”“เดิมทีก็ไม่ต้องตกลำบากถึงขั้นนี้ มุ่งร้ายต่อซ่งรั่วเจินมีอะไรดีต่อข้าเล่า? อย่างไรเสียคุณชายสวีก็ไม่ชอบข้า ปาไข่กระทบหินเช่นนี้ข้ายังไม่กลายเป็นตัวโง่งมอีกหรือ?”“ทั้งๆ ที่เป็นฝีมือของเจ้า ข้าไม่รู้เรื่องด้วยเลย ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าข้าหวังดีรับเจ้าไว้ เจ้าจะเนรคุณปรักปรำข้า!” ฉินซวงซวงพูดอย่างโมโหซ่งรั่วเจินมองสองคนตรงหน้าทะเลาะกัน ก่อนหน้านี้รู้สึกแปลกใจที่ฉินซวงซวงเก็บเหอ
“ข้า ข้าเปล่า”เหอเซียงหนิงว้าวุ่นหนัก ไม่รู้ว่าสมควรทำเช่นไรถึงจะดี นึกเสียใจภายหลังคิดว่าสมควรยอมแพ้ตั้งแต่ตอนที่กังวลใจ บัดนี้ชุลมุนวุ่นวายจนจบไม่ลงแล้ว“เจ้ายังพูดว่าเปล่า? พวกเขาล้วนสารภาพแล้วว่าทั้งหมดเป็นฝีมือเจ้า หากเจ้าไม่ได้ทำจริงก็สาบานต่อฟ้าสิ!”ถังหงจี้สีหน้าปึ่งชา มีตัวอย่างดั่งเช่นพวกอวิ๋นจู๋สองคน ขอเพียงโยนความผิดทั้งหมดให้ถังเสวี่ยหนิงก็เพียงพอแล้ว“ข้า ข้า...” เหอเซียงหนิงรีบหันมองทางฉินซวงซวง หวังให้นางช่วยตนคิดหาวิธีก่อนหน้านี้ทั้งๆ ที่เป็นนางรับปากว่าจะจัดการทั้งหมดอย่างดี ไม่มีวันเกิดข้อผิดพลาด!จากนั้น ฉินซวงซวงเห็นสถานการณ์เปลี่ยนไปไม่เหมือนที่คาดการณ์ไว้ ถูกเปิดโปงอย่างว่องไวก็ตกตะลึงเหม่อไป รีบหลบเข้ากลุ่มคน ต้องการลอบออกจากที่นี่นางจะปล่อยให้เรื่องนี้เข้ามาพัวพันกับตนเองไม่ได้อีก หาไม่แล้วจะต้องซวยไปด้วยกัน!เพียงเหอเซียงหนิงมองไปก็เห็นฉินซวงซวงเตรียมพาหลินจือเยว่หนีไป ไฉนเลยจะยอมปล่อยให้นางไปเช่นนี้ได้?“เป็นฉินซวงซวง! เป็นนางบงการให้ข้าทำเช่นนี้!”ทุกคนล้วนหันมองตามมือของเหอเซียงหนิงไป ก็ได้เห็นใบหน้าร้อนตัวของฉินซวงซวง ท่าทางคือกำลังต้องการหนีไ
ได้ยินถ้อยคำเจ้าเล่ห์ของเหอเฉิงหยาง พี่น้องสกุลซ่งรู้สึกเพียงน่าขันก่อนหน้านี้ดีดลูกคิดว่องไวจนแผนการภายในใจแทบจะระเบิดออกมาใส่หน้าพวกเขาแล้ว บัดนี้เพียงหนึ่งประโยคขอขมาก็อยากให้เรื่องจบลง ฝันหวานเกินไปแล้วกระมัง!ซ่งเยี่ยนโจวและซ่งอี้อันสบตากันแวบหนึ่ง เกิดความคิดแล้วซ่งรั่วเจินกำลังจะอ้าปากก็มองเห็นสายตาของพี่ชายทั้งสอง ทันใดนั้นเข้าใจแล้วว่าตนเองไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้าไป“ก่อนหน้านี้เหอเซียงหนิงถูกขับไล่ออกจากสกุลเหอ ตัดขาดความสัมพันธ์กับสกุลเหอไปแล้ว”“ได้ยินมาว่ายามนางถูกขับไล่ออกไปก็ได้เงินติดตัวไปไม่มาก ทว่าคนเหล่านี้ล้วนถูกนางซื้อมา พูดว่าไม่มีคนช่วยเหลือ นั่นเป็นไปไม่ได้”“คุณชายเหอ เจ้าไม่คิดจะอธิบายสักหน่อยหรือ?” ซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยถามสายตาซ่งอี้อันตกลงบนตัวถังหงจี้ ครุ่นคิดพลางพูด “หรือว่าคนที่มีส่วนร่วมด้วยก็คือสกุลถังกันเล่า? มิสู้พวกเจ้าพูดออกมาตามตรง มีฮองเฮาและท่านอ๋องเป็นผู้ตัดสิน ก็ไม่จำเป็นต้องรบกวนศาลาว่าการแล้ว”ถ้อยคำนี้พูดออกมา ทุกคนย่อมรู้ความหมาย“พูดไปแล้วก็จริงเสียด้วย! เหอเซียงหนิงกลายเป็นหมาหัวเน่าไปแล้ว ได้ยินมาว่าไม่มีที่ไป ทำได้เพียงไปอาศัยที่
เมิ่งชิ่นพูดแขวะ “เพียงได้เห็นท่าทางร้อนตัวเช่นนี้ก็รู้ว่าหลอกลวง ยังไม่ต้องพูดว่าตนเองต่ำช้าแต่ยังทำให้สองคนต้องตายไปอีกด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้เยี่ยงไร มิสู้ตายไปให้รู้แล้วรู้รอด!”ฉู่จวินถิงสบมองซ่งรั่วเจินด้วยสายตาลุ่มลึกแวบหนึ่ง ทันใดนั้นรู้สึกว่าไม่มีใครบนโลกนี้สามารถรังแกนางได้นาง...จะต้องไม่ใช่ซ่งรั่วเจินในตอนแรก กลับเป็นแม่นางที่เขาชมชอบด้วยใจจริงบางที ความหมายในการเกิดใหม่ของเขาก็คือได้พบกับนาง“ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” สายตาซ่งรั่วเจินจับจ้องคนที่เหลือเหล่านั้น หยิบกระดาษเขียนยันต์ออกมาหนึ่งแผ่นอย่างไม่ใส่ใจ“ข้าไม่มีความอดทนมากถึงเพียงนั้น พวกเจ้ารู้ความสักหน่อย อย่าให้ข้าถามทีละคนเลย”เดิมทีคนเหล่านั้นก็ตกใจจนหน้าเผือดซีดอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ฟ้าสว่างจ้ากลับเกิดฟ้าผ่าได้ คราวนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าซ่งรั่วเจินมีวิธีอีกอย่างที่สามารถจัดการกับพวกเขาได้ จึงรีบพูดความจริงทั้งหมดออกมา“ข้าพูด ข้าจะพูดทั้งหมดเลย!”“เรื่องทั้งหมดก่อนหน้านี้ล้วนเป็นเท็จ เป็นเหอเซียงหนิงมอบเงินให้พวกเรา ให้พวกเรารวมหัวกันพูดปด”“พวกเราตอบตกลงก็เพราะเงิน ขอร้องแม่นางซ่งได้โปรดไว้ชีวิตพว
เวลาคล้ายหยุดนิ่งก็มิปานบัดนี้ความครึกครื้นของเขตล่าสัตว์เงียบงันไร้เสียง ทุกคนหันมองซ่งรั่วเจิน เพียงคิดว่านางดุจดั่งเซียนเดินดิน วิธีการนี้ชวนให้คนรู้สึกประหวั่นพรั่นพรึงไม่มีใครสงสัยว่านี่คือความสามารถของซ่งรั่วเจินสามารถทำให้สวรรค์ลงทัณฑ์ทันท่วงทีเช่นนี้ได้ นี่คือวิธีการน่าทึ่งอะไรกัน?อวิ๋นเนี่ยนชูและเมิ่งชิ่นลืมตาอ้าปากค้าง ปากที่อ้าออกลืมปิดให้สนิท ตนเองสามารถมีสหายหญิงเช่นนี้ได้ นับเป็นวาสนายิ่งใหญ่!เรื่องนี้พูดออกไปสามารถโอ้อวดได้ชั่วชีวิต!พี่น้องชายทั้งสี่ของสกุลซ่งหันหน้าสบตากัน มองเห็นท่าทางตกตะลึงของอีกฝ่าย หลังตอบสนองกลับมาได้ก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกน้องหญิงของตนมีความสามารถยอดเยี่ยมเกินไปแล้วกระมัง!เพียงสถานการณ์ในวันนี้ ภายภาคหน้าใครยังขวัญกล้าทำตัวโอหังต่อหน้าน้องสาว นั่นก็คือรนหาที่ตาย!ไม่เห็นหรือว่าแม้แต่สวรรค์ก็ยืนทางฝั่งน้องหญิงห้า?“ไม่รู้ว่าพวกเจ้าคิดเห็นเช่นไรต่อคำอธิบายนี้?”ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วขึ้น สายตาเย็นชาสบมองถังหงจี้ เหอเฉิงหยางและคนอื่น เจือความเย้ยหยันหลายส่วนสีหน้าถังหงจี้และคนอื่นล้วนไม่สบอารมณ์มาก นึกเสียใจภายหลังภายในใจ
เหอเฉิงหยางสบมองซ่งรั่วเจินอย่างโกรธแค้น “โหดเหี้ยมจริงนั่นล่ะ! หากครั้งนี้ข้าไม่สามารถลงโทษเจ้าได้ ไฉนเลยข้าจะมีหน้าพบเซียงหนิงได้?”“สกุลซ่งจะต้องมอบคำอธิบายให้พวกเราอย่างหนึ่ง นี่คือต้องการจะเอาชีวิตของเซียงหนิงจริงๆ!”ถังหงจี้ย่อมไม่พลาดโอกาสอันดีนี้ไป พูดว่า “ซ่งอี้อัน คราวนี้ไม่ใช่ข้ามอบคำอธิบายให้เจ้า แต่เป็นพวกเจ้าสกุลซ่งสมควรมอบคำอธิบายให้คนทั่วหล้า!”เวลาเพียงชั่วพริบตา นับตั้งแต่อวิ๋นจู๋สองคนสาบานในช่วงเวลาสั้นๆ การแสดงของสกุลเหอและสกุลถังก็มากเพียงพอแล้วฉู่จวินถิงและสี่พี่น้องสกุลซ่งกลับไม่รีบ เพราะเคยเห็นความสามารถของซ่งรั่วเจินมาก่อน ก็รู้ว่าในเมื่อนางพูดเช่นนี้จะต้องทำได้อย่างแน่นอน“รีบอะไรกัน? ต่อให้ต้องการฟ้าผ่าท่ามกลางอากาศแจ่มใสเช่นนี้ก็ต้องใช้เวลาสักหน่อยมิใช่หรือ?” ซ่งจืออวี้พูดอย่างไม่พอใจถ้อยคำนี้ทำให้ถังหงจี้และเหอเฉิงหยางหัวเราะลั่น “ซ่งจืออวี้ เพื่อปกป้องน้องสาวไม่ว่าคำใดเจ้าก็สามารถพูดออกมาได้ เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกว่าฟ้าผ่าก็ต้องรอเวลา!”คนรอบข้างหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ คิดไม่ตกว่าอยู่ดีๆ เหตุใดซ่งรั่วเจินจึงต้องรนหาที่ด้วยอธิบายออกมายังมีโอกา
เขตล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ตกอยู่ในความเงียบอย่างแปลกประหลาด ทั้งๆ ที่มีคนมากมายถึงเพียงนี้ แต่สายตายามทุกคนสบมองซ่งรั่วเจิน กลับรู้สึกใจสั่นอย่างไร้สาเหตุฮองเฮาเห็นภาพนี้อยู่ภายในสายตา ท่าทีรับมืออย่างสุขุมของซ่งรั่วเจินทำให้นางเปลี่ยนความคิดไม่มีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เหมือนสตรีเกิดในตระกูลเล็กๆ เผชิญหน้ากับความสงสัยโดยไม่ลนลาน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถชี้จุดปัญหาได้อย่างตรงประเด็นเพียงแต่สำหรับเรื่องคำสาบานทำนองนี้กลับไม่น่ากลัวมากนัก กระนั้นเพียงออกจากปากแม่นางคนนี้ ถึงขั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงได้ทุกคนที่นี่ล้วนนึกถึงความสามารถด้านศาสตร์ลี้ลับของซ่งรั่วเจิน โดยเฉพาะหลังจุดกระดาษเขียนยันต์แล้ว รู้สึกลึกลับมากยิ่งขึ้น ไม่กล้าพูดเหลวไหลส่งเดชอีกถังเสวี่ยหนิงเห็นคนเหล่านั้นกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าพูด เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ “เดิมทีพวกเจ้าก็ไม่มีเรื่องให้ต้องละอายใจอยู่แล้ว ยังกังวลอะไรอีกเล่า? รีบพูดออกมาเถอะ!”อวิ๋นจู๋และเพ่ยอวิ๋นสบตากันแวบหนึ่ง รู้สึกกังวลภายในใจ ไม่มีใครกล้าพูดก่อนเหอเซียงหนิงกระซิบเร่ง “กลัวอะไร? ก็แค่จงใจข่มขู่พวกเจ้าเท่านั้น หรือพวกเจ้าเชื่อจริง?”“ทุกวันมีคนสาบานไม่รู
“ข้าได้ยินมาว่าหลังเจ้าถูกขับไล่ออกจากสกุลเหอก็ไม่มีเงินติดตัว ทำได้เพียงไปอยู่ที่สกุลฉินชั่วคราว ส่วนฉินซวงซวงและหลินจือเยว่ติดเงินข้ายังไม่ได้คืน น่าจะไม่มีเงินมากถึงเพียงนั้นมอบให้เจ้าไปตามหาคนได้กระมัง?”เมิ่งชิ่นเองก็ช่วยพูด “องครักษ์จวนแม่ทัพของพวกเรามีฝีมือไม่เลว ไม่ว่ามองอย่างไรทำเรื่องลับๆ พรรค์นี้ก็สมควรให้คนสนิทไปลงมือ รั่วเจินไม่ใช่คนโง่ ยังไม่ต้องพูดว่าไปหาอวิ๋นจู๋ตัวไร้ประโยชน์คนนี้ ยังให้เขาไปตามหาคนช่วยที่นอกจวนอีกรึ?”“เรื่องนี้เพียงได้ยินก็รู้ว่าเป็นความเท็จ ใครเชื่อก็โง่แล้ว!”คนอื่นเองก็คิดว่าเป็นเช่นนี้จริง เรื่องนี้ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!เหอเซียงหนิงเห็นสถานการณ์แล้วกลับไม่รีบ “จะต้องเป็นเพราะนางกังวลว่าจะถูกคนในครอบครัวรู้เรื่องนี้ จึงไปหาคนที่นอกเมือง”“คนอื่นในสกุลซ่งล้วนเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่มีวันปล่อยให้นางทำเรื่องโหดเหี้ยมพรรค์นี้”ซ่งจืออวี้หัวเราะออกมาอย่างสุดระงับ “คราวนี้กล่าวหาพวกเรา ต้องการยุแยงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของพวกเรา? ข้าจะบอกเจ้าให้นะ ไม่มีวันเสียหรอก!”“เดิมทีน้องหญิงห้าของข้าก็ไม่ใช่คนใจคอโหดเหี้ยม หาไม่แล้วนางคิดอยากได้ชีวิตของเจ้
“พูดจาเหลวไหลอะไร? พวกเขาล้วนพูดความจริง!” ถังเสวี่ยหนิงรีบตอบโต้กลับ“เจ้ามีหลักฐานอะไรว่าพวกเขาพูดความจริง?” ซ่งรั่วเจินถามกลับ “ล้วนอาศัยปากพูดทั้งนั้นมิใช่หรือ? ข้าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นพวกเจ้าซื้อตัวพวกเขามาปรักปรำข้า!”ถังเสวี่ยหนิงรู้สึกเหลือเชื่อ “พวกเขาล้วนพูดความจริงต่อหน้าแล้ว เจ้ายังปฏิเสธไม่ยอมรับ ไร้ยางอายเกินไปแล้วกระมัง!”“หาสองสามคนออกมาตั้งใจปรักปรำข้า นี่ง่ายดายเกินไปแล้วกระมัง!”ซ่งรั่วเจินเผยสีหน้าเยาะหยัน เลื่อนสายตาหันมองทางคนโกหกเหล่านั้น สายตาคมกริบ“ข้าขอเตือนพวกเจ้า วันนี้ฮองเฮาเป็นผู้ตัดสินคืนความยุติธรรม มิใช่สถานที่ให้พวกเจ้าพูดจาเหลวไหลได้!”“หากเป็นไปตามที่พวกเจ้าพูดจริง ยืนกรานป้ายความผิดให้ข้า พวกเจ้าเองก็หนีไม่พ้น ทั้งหมดล้วนต้องเข้าคุกหลวง!”“ข้าขอชี้แนะพวกเจ้าให้คิดให้ดี ถึงตอนนั้นเข้าคุกแล้วอย่าได้นึกเสียใจภายหลัง!”ได้ยินดังนั้น สายตาอวิ๋นจู๋สะท้อนแววตกตะลึง “เข้าคุกหลวง?”พวกเขาถึงขั้นต้องเข้าคุกหลวง?“ย่อมต้องเข้าคุกหลวง ต่อให้น้องหญิงของข้าเป็นผู้สั่งการ แต่คนลงมือคือพวกเจ้า พวกเจ้าคิดว่าจะอยู่รอดปลอดภัยได้หรือ?” ซ่งอี้อันพูดเสียงเ