Share

บทที่ 288

Penulis: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินรับฟังข่าวนี้อย่างเงียบๆ นางไม่ค่อยคุ้นเคยกับตรอกหย่งอันมากนัก รู้เพียงว่าที่นั่นมีคนเยอะมาก

พอเกิดเรื่อง เรื่องก็จะแพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว

พอได้ยินเช่นนั้น ช่วงสองวันนี้เหอฮูหยินก็ไปตั้งโรงทานแจกโจ๊กอยู่ที่นั่นพอดี ในใจก็พลันเข้าใจแล้ว

เหอเซียงหนิงและฉินซวงซวงเพื่อที่จะวางแผนร้ายต่อนางแล้วก็ช่างเค้นสมองครุ่นคิดอย่างหนักจริงๆ จงใจเลือกสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านมากที่สุด

หากทำสำเร็จ วันนี้เหอเซียงหนิงและฉินซวงซวงก็จะใช้ข้ออ้างไปแจกโจ๊กกับเหอฮูหยินเพื่อเปิดโปงพฤติกรรมอื้อฉาวของนางต่อหน้าสาธารณชน ทำให้ชื่อเสียงของนางย่อยยับป่นปี้!

เห็นที ไม่ว่าเด็กสาวคนไหนต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ ทั้งยังถูกเปิดโปงต่อหน้าผู้คนมากมาย เรื่องทั้งหมดนี้ก็เพียงพอทำให้นางโกรธแค้นอับอายจนตายได้เลยทีเดียว!

พวกนางไม่เพียงแต่อยากทำลายนาง แต่อยากเอาชีวิตของนางอีกด้วย!

แต่ตอนนี้ นางสนองคืนเรื่องทั้งหมดให้เหอเซียงหนิง กรรมที่ตนเองก่อ ยามนี้ได้รับผลกรรมนั้นก็เป็นเพราะนางทำตัวเองทั้งสิ้น!

ตอนที่ซ่งจืออวี้ฟังเรื่องที่ตรอกหย่งอันก็นึกถึงเรื่องที่ตนเองทำไปเมื่อคืนวาน เขาหันไปมองน้องสาวของตัวเองอย่างอดไม่ได้
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 289

    ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แผนการเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในใจ...……เหอเซียงหนิงตื่นขึ้นเพราะถูกน้ำเย็นอ่างหนึ่งสาดใส่นางมองภาพเบื้องหน้าอย่างงุนงง จนกระทั่งจดจำหน้าตาของมารดาตนเองได้“ท่านแม่? ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรเจ้าคะ?”เหอเซียงหนิงตะลึงงัน ไม่เข้าใจว่าเหตุใดมารดาจึงมองตนเองอย่างโกรธเกรี้ยวเช่นนั้น ท่าทางเหมือนอยากจะบีบคอนางให้ตายเสียกระนั้นในเวลาเดียวกัน นางก็รู้สึกเจ็บระบมไปทั่วสรรพางค์กาย โดยเฉพาะร่างกายท่อนล่างยังมีความเจ็บแสบซ่านออกมา ก้มหน้าดูโดยสัญชาตญาณก็พบว่าบนเนื้อตัวของตนเต็มไปด้วยร่องรอยคลุมเครือสมองที่ขาวโพลนในที่สุดก็นึกเรื่องก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้นางกำลังรอดูเรื่องงามหน้าของซ่งรั่วเจินชัดๆ ต่อมาพลันรู้สึกว่าท้ายทอยเจ็บวูบ หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ตัวเลยสักนิดจนกระทั่งเห็นสารรูปขอทานรอบตัว รวมถึงผ้ากันอายที่ห่มร่างตนเองอยู่ นางก็ราวกับร่วงลงสู่หุบเหวลึก เหลือเพียงความพรั่นกลัวอย่างลึกล้ำเท่านั้น“ไม่หรอก ไม่หรอกน่า! เรื่องแบบนี้จะมาเกิดขึ้นกับข้าได้อย่างไร!”เหอฮูหยินเงื้อมือตบฉาด ในดวงตาเต็มไปด้วยความชิงชังรังเกียจ “ข้าคลอดคนน่าอับอายอย่างเจ้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 290

    ซ่งรั่วเจินฟังเฉินเซียงเล่าเรื่องวุ่นวายที่ตรอกหย่งอันอย่างสมจริงสมจังอยู่ในเรือน มุมปากโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบางตระกูลซ่งในนิยายมีชีวิตตกต่ำเพียงไหน ยามนี้ผลกรรมก็ควรไปตกที่คนพวกนั้น!“คราวนี้เหอเซียงหนิงจบสิ้นแล้ว สกุลเหอไม่ยอมรับนางแล้ว ได้ยินว่าหลังนางออกมาจากตรอกหย่งอันก็กลับไปที่จวนสกุลเหอ แต่ถูกขวางไว้หน้าประตูไม่ยอมให้นางเข้าไป”“คนในจวนสกุลเหอล้วนรังเกียจว่านางน่าอับอายขายหน้า นางจะคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนอย่างไรล้วนไร้ประโยชน์”“สุดท้ายก็เป็นเหอฮูหยินที่โยนสิ่งของของนางออกมา ให้เงินจำนวนหนึ่ง บอกให้นางไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ต่อไปอย่าได้กลับมาอีก”รอยยิ้มเกลื่อนใบหน้าของเฉินเซียง “คนชั่วได้ชั่วโดยแท้ แค่บ่าวคิดว่าพวกเขาคิดจะทำร้ายคุณหนูด้วยวิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ก็รู้สึกหนาววาบไปทั้งตัวแล้ว โชคดีที่ตอนนี้พวกเขาได้รับผลกรรมของตัวเอง!”หากไม่ใช่เพราะคุณหนูมีฝีมือ คนที่ถูกทั้งเมืองหลวงหัวเราะเยาะในตอนนี้คงเป็นนางกับคุณหนูแล้ว“พวกนั้นสมควรแล้ว!”ซ่งรั่วเจินแววตาเย็นชา คิดว่าหลังเกิดเรื่องนี้ ฉินซวงซวงและเหอเซียงหนิงคงจะยอมรามือไปสักพัก“ได้ยินข่าวคราวฝั่งตระกูลหลินหรือไม่?”เฉิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 291

    “คารวะฉู่อ๋อง” สวีเฮ่ออันกล่าวทำความเคารพฉู่จวินถิงมองสวีเฮ่ออันด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้อย “ช่วงนี้ดูท่าคุณชายสวีจะว่างไม่เบา ข้าได้พบเจอเจ้าบ่อยจริงๆ”“กระหม่อมนั้นต่อให้ยุ่งเพียงใดก็คงไม่เท่าท่านอ๋อง วันนี้ได้ยินข่าวลือมาบ้าง จึงตั้งใจจะมาเยี่ยมเยียนแม่นางซ่งพ่ะย่ะค่ะ”สวีเฮ่ออันเผยยิ้มอย่างสุภาพ คำพูดแฝงไปด้วยนอบน้อม “ซึ่งก็เป็นคำขอของมารดากระหม่อมด้วย”ฉู่จวินถิงทำสีหน้าราบเรียบ ก่อนจะก้าวเดินเข้าไปยังจวนตระกูลซ่งโดยไม่ได้ใส่ใจสวีเฮ่ออันซ่งรั่วเจินซึ่งกำลังจะพักผ่อน ได้ยินเสียงสาวใช้รีบร้อนเข้ามารายงาน“คุณหนูเจ้าคะ ฉู่อ๋องกับคุณชายสวีมาหาคุณหนูเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ “มาหาข้าหรือ?”“ตอนนี้ทั้งสองท่านอยู่ที่โถงหลักแล้วเจ้าค่ะ ฮูหยินกำลังต้อนรับพวกเขาอยู่ และให้บ่าวมาแจ้งคุณหนูให้รีบไปเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”ภายในโถงหลักหลิ่วหรูเยียนมองสองชายหนุ่มตรงหน้า ในใจสงสัยใครรู้ คุณชายสวีจะมานั้นไม่ได้แปลกหรอก แต่ฉู่อ๋องนี่สิเหตุใดจึงมาด้วยอีกคน?ไม่ใช่ว่ากันว่าปกติฉู่อ๋องมักจะยุ่งมากไม่ใช่หรือ?เหตุใดระยะนี้ถึงได้พบเห็นท่านบ่อยขึ้นเร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 292

    “ในกล่องผ้าไหมนี้เป็นเออเจียว[1]และเขากวาง ครั้งก่อนเจ้าบาดเจ็บเสียจนกระอักเลือด ข้ารู้สึกผิดในใจเป็นยิ่ง หวังว่าเจ้าจะใช้มันรักษาบำรุงกายให้ดี”ฉู่จวินถิงกล่าวพลางมองซ่งรั่วเจิน หญิงสาวตรงหน้าเอวบางราวน้อยราวกิ่งหลิวลู่ลม เขารู้สึกนางควรได้รับการบำรุงให้ดีกว่านี้หน่อยคำพูดนี้เปี่ยมเต็มด้วยความอ่อนโยน ทำเอาให้ซ่งรั่วเจินถึงกับประหลาดใจในความอบอุ่นที่ตนได้รับมานี้ในคืนนั้นนางแกล้งทำเป็นบาดเจ็บ แต่ท่านอ๋องกลับส่งของบำรุงมาให้อย่างจริงจัง นางเองก็ทุ่มเทเพื่อช่วยสกุลไป๋ไปไม่น้อยจึงน้อมรับไว้ได้โดยไม่กระดากใจ“ขอบพระทัยท่านอ๋องเพคะ”ครานี้สวีเฮ่ออันจึงยื่นของที่ถือมาให้ไปบ้างเช่นกัน “แม่นางซ่ง มารดาข้าได้ยินว่าเจ้าบาดเจ็บเมื่อสองวันก่อน จึงให้ข้านำของขวัญมาให้เจ้าด้วย”“เช่นนั้นฝากขอบคุณท่านป้าแทนข้าด้วย” ซ่งรั่วเจินกล่าวขอบคุณ“เรื่องวันนี้ที่ตรอกหย่งอันข้าได้ยินมาแล้ว แม้เหตุการณ์จะเกิดขึ้นกับเหอเซียงหนิง แต่หลังข้าสืบโดยละเอียดแล้วก็พบว่าที่จริงเดิมทีเกรงว่าเป้าหมายอาจจะเป็นเจ้า”“ความผิดนี้ผิดอยู่ที่ข้าจริงๆ เป็นข้าที่ทำให้เจ้าต้องพบเจอเรื่องเช่นนี้”ดวงตาของสวีเฮ่ออันเต็มด้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 293

    ดวงตาลึกล้ำของฉู่จวินถิงเต็มเปี่ยมด้วยความจริงจัง เขาจ้องมองซ่งรั่วเจินอย่างลึกซึ้งพลางกล่าว “หากข้าจะเชิญเจ้า ย่อมต้องมารับเจ้าด้วยตัวของข้าเอง คำเชื้อเชิญอื่นใดล้วนไม่ต้องเชื่อถือ”ซ่งรั่วเจินแทบไม่เคยเห็นชายหนุ่มผู้นี้มีท่าทีเคร่งขรึมจริงจังเช่นนี้มาก่อน นางจึงพยักหน้าลงโดยไม่รู้ตัว ทว่าหัวใจกลับเต้นระรัวแรงโดยไร้เหตุผลเป็นมีศักดิ์เป็นถึงฉู่อ๋อง อะไรคือย่อมต้องมารับนางด้วยตัวของเขาเองกันเล่า? ครานี้อย่าว่าแต่ซ่งเยี่ยนโจวและซ่งจืออวี้เลย กระทั่งหลิ่วหรูเยียนที่ความรู้สึกค่อนข้างช้า ยามนี้ก็มองออกแล้วว่าฉู่อ๋องผู้นี้มีความรู้สึกพิเศษต่อบุตรสาวของตนอย่างไรใครหน้าไหนกันเล่าที่ทำให้ฉู่อ๋องมารับถึงที่ด้วยตนเองได้?กระทั่งคุณหนูจวนเสนาบดีก็ไม่มีผู้ใดเคยได้รับเกียรติเช่นนี้มาก่อนยิ่งไปกว่านั้นพอได้ยินว่ารั่วเจินเกิดเรื่องก็ยังถ่อมาหาด้วยตนเอง ทั้งยังนำของบำรุงมาให้อีก หากเป็นแต่ก่อนเรียกได้ว่าไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนสวีเฮ่ออันกำหมัดแน่น เผลอมองไปยังซ่งรั่วเจินโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว นับตั้งแต่ได้พบกับนางเมื่อครั้งก่อนเขาก็เกิดสั่นไหวขึ้นในจิตใจอย่างไม่หยุดหย่อน เดิมทีคิดว่ามีมารดาคอยเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 294

    หลังจากที่เหอเซียงหนิงถูกไล่ออกจากตระกูลนางก็พยายามไปถามหามิตรสหายเก่าๆ แต่กลับพบว่าทุกคนต่างตีตัวออกห่างจากนางไปกันหมดทำเช่นนั้นราวกับกลัวจะถูกนางตามรังควานก็มิปานทั้งๆ ที่เติบโตในเมืองหลวงตั้งแต่ยังเยาว์ รอบกายรายล้อมด้วยญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ทว่าบัดนี้มองไปทางใดก็หาได้มีผู้ใดไม่ ไม่มีแม้แต่สักคนที่ยอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือนาง ในใจจึงเกิดเศร้าหมองขมขื่นอย่างยากจะพรรณนาขณะที่นางสะพายห่อสัมภาระเดินอยู่บนถนน พยายามอดรนทนต่อสุ้มเสียงติฉินนินทาจากคนรอบข้าง นางก็พลันได้ยินข่าวคราวของฉินซวงซวงเข้า“ได้ข่าวว่า พอฟื้นขึ้นมาฮูหยินผู้เฒ่าหลินก็มิยอมให้ฉินซวงซวงกลับเข้าจวน ตอนนี้นางถูกส่งกลับจวนตระกูลฉินไปเสียแล้ว ทำเอาสองสะใภ้ฉุนโกรธกันเสียจนหนีกลับไปยังบ้านตนกันหมด”“พวกเขากลับบ้านตนไปก็สมควรแล้วล่ะนะ หากเป็นข้าก็มิยินยอมอยากจะอยู่ร่วมบ้านกับน้องสามีเช่นนั้นหรอก! คนประเภทใดกัน!”“แต่ก็ยังมิได้ข่าวว่าทางสกุลหลินจะหย่าร้างกันแต่อย่างใด หรือเรื่องราวใหญ่โตถึงเพียงนี้แล้วยังคิดรักษานางไว้?”คนรอบข้างต่างจ้อกแจ้กจอแจกันด้วยความอนาถใจ หากเป็นครอบครัวทั่วไปแล้วล่ะก็ เมื่อได้ยินว่ามีเรื่องเช่น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 295

    “ได้ เจ้ารอข้าก่อน ข้าจะให้คนช่วยหาที่อยู่ให้เจ้า” “เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะอยู่กับเจ้าที่นี่ไปก่อนก็แล้วกัน ข้าไม่อยากพักอยู่ในที่ห่วยๆ หรอกนะ” เหอเซียงหนิงกล่าวเสริมฉินซวงซวงขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ย่อมได้ ข้าจะหาที่ที่เจ้าพอใจให้แน่นอน!”......เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เพียงการสอบฤดูใบไม้ผลิก็จบลง ล่วงเลยมาจนถึงวันประกาศผลสอบช่วงหลายวันนี้ซ่งรั่วเจินก็ไม่ได้ว่างเว้น นางไปเยี่ยมเยียนสกุลไป๋ ประกอบพิธีให้กับอวี้เยว่หลิงและแม่นมสวี ช่วยให้ไป๋จื่อมู่ได้ปลดเปลื้องภาระทางใจที่แบกรับมานานจนหมดสิ้นส่วนสมุนไพรบำรุงที่ฉู่จวินถิงส่งมาให้นั้น นับว่าเป็นของหายาก นางจึงนำมาหลอมเป็นยาลูกกลอน นอกจากจะแบ่งให้มารดากับตนเองไปคนละขวดแล้ว ยังส่งอีกสองขวดให้ลั่วฮูหยินและลั่วชิงอินไปหลังถูกจับได้คาหนังคาเขาแล้วเหยาจิ่นเฉิงก็อับอายเกินกว่าจะเอ่ยเรื่องสู่ขอต่อสกุลลั่วอีก ส่วนลั่วกั๋วกงเองก็อาศัยจังหวะตีเหล็กตอนร้อน โดยไม่รีรอก็รีบยกเลิกการหมั้นหมายนี้ไปเสียครอบครัวเช่นนี้ สกุลลั่วไม่ขอเกี่ยวดองด้วยเป็นอันขาดกลุ่มซ่งรั่วเจินพากันไปออยังปากทางสนามสอบตั้งแต่เช้าตรู่ ด้านในล้วนเต็มไปด้วยผู้คนเบียดเสียดแน่นข

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 296

    “ฉินเซี่ยงเหิงสอบผ่านจริง!”ทันใดนั้น เสียงอุทานอย่างตกตะลึงดังออกจากกลุ่มคนระลอกหนึ่ง จากนั้นก็คือเสียงชื่นชม“ฉินเซี่ยงเหิงช่างมีพรสวรรค์โดยแท้ ก่อนนี้คิดว่าเรียงความที่ทุกคนต่างพากันพูดถึงล้วนเป็นเขาขโมยซ่งอี้อันมา บัดนี้มองดูแล้วมิเป็นเช่นนั้น”ได้ยินเสียงทางด้านหน้า ใบหน้าฉินเซี่ยงเหิงเผยรอยยิ้มลำพองใจ เขาก็รู้ครั้งนี้อันดับหนึ่งจะต้องเป็นเขา!“เห็นแล้วหรือไม่? อันดับหนึ่งเป็นของข้า ข้ายังต้องทำร้ายอวิ๋นเฉิงเจ๋ออีกหรือ?”สีหน้าอวิ๋นเฉิงเจ๋อตึงเครียด เขาถามนักเรียนภายในสำนักศึกษาหลวงส่วนใหญ่ด้วยตนเอง ทำให้เขายอมเชื่อได้ก็คือซ่งอี้อันส่วนฉินเซี่ยงเหิง เขากลับไม่เห็นอยู่ในสายตา เรียงความก่อนหน้านี้เพียงได้ฟังก็รู้ได้ว่าขโมยซ่งอี้อันมา ทว่าบัดนี้ฉินเซี่ยงเหิงถึงขั้นสามารถได้เป็นอันดับหนึ่งของการสอบฤดูใบไม้ผลิ ชวนให้คนสงสัยโดยแท้จ้าวซูหว่านได้ยินว่าฉินเซี่ยงเหิงถึงขั้นได้อันดับหนึ่ง ใบหน้าเผยแววปลื้มปีติดีใจอย่างมากแม้พูดว่าบัดนี้นางเป็นเพียงอนุคนหนึ่ง แต่ขอเพียงฉินเซี่ยงเหิงได้เป็นอันดับหนึ่ง ภายภายหน้ากลายเป็นขุนนาง ก็พิสูจน์ได้ว่านางมิได้เลือกผิดไปหลังสร้างความอับอายให้

Bab terbaru

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 970

    ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 969

    ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 968

    บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 967

    ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 966

    ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 965

    ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 964

    “ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 963

    ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 962

    ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status