เหยาจิ่นเฉิงยื่นมือออกไปคลำแถบผ้ารัดเอว ดึงออกเบาๆแตะผิวเนียนนุ่มเรียบลื่นอย่างที่คิดไว้ภายในใจ กลับพบว่าคล้ายแตกต่างจากจินตนาการอยู่บ้างทว่าหลังคิดได้ว่าซ่งรั่วเจินกลายเป็นคนของตนแล้ว ซ่งเยี่ยนโจวจะมีท่าทางโศกเศร้าโทษตนเองชนิดที่ว่าอยากฆ่าตนแต่กลับไม่สามารถทำได้ ทันใดนั้นไม่ใส่ใจอื่นใด เร่งหุงข้าวสารให้เป็นข้าวสุกโดยเร็ว!ฉินซวงซวงกำลังสะลึมสะลือ ครั้นตื่นขึ้นมา เพียงลืมตาก็มองเห็นเรือนร่างของบุรุษไปจนถึงความรู้สึกสุขสมที่ไม่อาจเมินข้ามได้ภายในร่างกายทีแรกนางตกตะลึง ต่อมาคิดได้ว่าคนตรงหน้าก็คือฉู่จวินถิง จากตกตะลึงว้าวุ่นกลายเป็นตกตะลึงดีใจคิดไม่ถึงนางถึงขั้นกลายเป็นคนของท่านอ๋องจริง!ส่วนเพราะเหตุใดก่อนหน้านี้หมดสติไป ตอนนี้นางกลับไม่คิดอะไรมากนักเดิมทีเหยาจิ่นเฉิงคิดว่าซ่งรั่วเจินตื่นแล้วจะต้องตกตะลึงชนิดที่ว่าร้องตะโกนเสียงหลงออกมา ครู่ต่อมาเขาอยากปิดปากนาง คิดไม่ถึงฝ่ายหญิงไม่เพียงไม่ดิ้น ตรงข้ามกันยังให้ความร่วมมือมากอีกด้วยเขาแปลกใจขึ้นมาอย่างสุดระงับ คิดไม่ถึงซ่งรั่วเจินจะเร่าร้อนเพียงนี้ยามอยู่บนเตียง?......เช้าวันต่อมา ซ่งรั่วเจินเรียกคนในครอบครัวตนไปรับชมคว
นางบังเอิญได้รับข่าวในตอนนี้พอดี พูดว่าฉินซวงซวงขลุกอยู่กับชายอื่นภายในเรือนหลังนี้คิดไปคิดมา นางยังปิดบังหลินจือเยว่เอาไว้ ตนเองลอบเดินทางมายามเอ่ยถามย่อมไม่กล้าพูดว่ามาหาสะใภ้บ้านตน เพียงแต่งชื่อขึ้นมา หากไม่ใช่เรื่องจริงก็ช่างเถอะ หากเป็นเรื่องจริง...นั่นถึงแก่ชีวิตเชียวนะ!“ข้าพูดแล้วฮูหยินผู้เฒ่านี่คือที่พักของคุณชายพวกเรา ใช่ว่าท่านอยากดูก็สามารถดูได้?”“รีบไปเถอะ ที่ใดเย็นก็ไปที่นั่น หาไม่แล้วอย่าโทษข้าไม่เกรงใจ!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินถูกผลักทีหนึ่ง ล้มลงกับพื้นอย่างไม่ทันระวัง ทันใดนั้นร้องโอดครวญขึ้นมายามซ่งจืออวี้มาถึงก็มองเห็นฉากนี้ ตวาดเสียงเปี่ยมโทสะ “พวกเจ้านี่ทำอันใด? รู้หรือไม่ว่านี่คือฮูหยินผู้เฒ่าหลิน?”“เปิดประตูให้ข้า ข้าอยากเห็นนักว่าคุณชายบ้านใดโอหังเพียงนี้!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินมองซ่งจืออวี้อย่างแปลกใจ ต้องพูดว่าเมื่อสองวันก่อนนางรู้จักซ่งจืออวี้ดีแม้เด็กคนนี้ร่างกายกำยำแข็งแรง แต่เป็นคนเอ็นดูน้องสาวมากคนหนึ่ง ก่อนนี้เคยช่วยซ่งรั่วเจินวิ่งไปวิ่งมา ส่งของมาที่จวนไม่น้อย เกรงใจนางมากทว่าบัดนี้สองตระกูลถอนหมั้นแล้ว คิดไม่ถึงซ่งจืออวี้ถึงขั้นช่วยนางภายใต้สถา
หลังฉินซวงซวงตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองกำลังอิงแอบอยู่ภายในอ้อมกอดของบุรุษ รู้สึกหวานล้ำขึ้นภายในใจระลอกหนึ่งทันใดนั้นนางคิดว่าสวรรค์ให้นางกลับมาเกิดใหม่ แท้จริงแล้วมิใช่เพื่อให้เดินบนทางสายเดิม แต่เพื่อทำให้นางได้อยู่ร่วมกับฉู่อ๋องใหม่อีกครั้ง!ทว่านางคิดไม่ถึง นี่ผิดพลาดไปแล้ว!“ท่านอ๋อง สีท้องฟ้าไม่เช้าแล้ว สมควรตื่นได้แล้วเพคะ”สุ้มเสียงฉินซวงซวงแผ่วเบาดุจผ้าไหม ยังเจือกลิ่นอายออดอ้อน นึกลังเลอยู่ภายในใจ ตกลงท่านอ๋องรู้หรือไม่ว่านางคือฉินซวงซวง มิใช่ซ่งรั่วเจินเหยาจิ่นเฉิงได้ยินเสียงก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล เสียงของซ่งรั่วเจินคล้ายไม่ใช่แบบนี้...ต่อมาเขาก็ได้ยินเสียงแผดร้องของฝ่ายหญิง ก้มลงมองก็พบใบหน้าที่คาดไม่ถึง“เหตุใดเป็นเจ้า!”ดวงตาฉินซวงซวงเบิกกว้างอย่างตกตะลึงหวาดกลัว ทั้งๆ ที่คนเกี่ยวกระหวัดรัดรึงกับนางตลอดคืนคือฉู่อ๋อง เหตุใดเป็นคนตรงหน้าได้เล่า?เหยาจิ่นเฉิงมีสีหน้าตกตะลึง เขาก็พูดแล้วเหตุใดเมื่อวานรู้สึกไม่ชอบมาพากล ที่แท้ก็ไม่ใช่ซ่งรั่วเจินตั้งแต่แรก!ซ่งจืออวี้บุกเข้ามาภายในเรือนได้อย่างราบรื่น เดิมทีก็ไม่ใส่ใจบ่าวรับใช้สกุลเหยาที่กำลังขัดขวาง“คุณชายซ่ง ท่านไม่
เดิมทีเรือนหลังนี้ก็เป็นเหยาจิ่นเฉิงซื้อไว้เพื่อนัดพบกับสตรีอย่างเป็นความลับ วันปกติมิได้จัดคนไว้มากนัก ไฉนเลยจะสามารถขวางคนหนึ่งกลุ่มที่ซ่งจืออวี้พามาได้?ฮูหยินผู้เฒ่าหลินโมโหหนักหันมองทางเหยาจิ่นเฉิง “เจ้าคนไร้ยางอายคนนี้หน้าตาก็เหมือนสุนัข สตรีบนโลกนี้ยังมิได้ตายไปจนหมดเสียหน่อย เหตุใดเจ้าถึงยั่วยวนหญิงมีสามีแล้วกันเล่า?”เห็นว่าฮูหยินผู้เฒ่าหลินจะตีตน เหยาจิ่นเฉิงพลิกมือผลักทีหนึ่ง ทำให้คนล้มลงกับพื้น“โอ๊ย!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินร้องโอดครวญออกมา นั่งบนพื้นลุกไม่ขึ้น“สวรรค์ไม่ยุติธรรม ตกลงพวกเราสกุลหลินทำบาปกรรมอันใด ถึงขั้นพบเรื่องโชคร้ายเช่นนี้!”“เหยาจิ่นเฉิง เจ้าคนไม่สำรวมตนไร้ยางอายคนนี้ ยั่วยวนฉินซวงซวง นางคือหญิงมีสามีนะ!”“ฮูหยินผู้เฒ่าหลินมาจับชู้ด้วยตนเอง เจ้ายังคิดฆ่าคนปิดปากกลบเกลื่อนความจริงด้วยหรือนี่?”ซ่งจืออวี้สังเกตเห็นว่าคนสกุลลั่วตามเข้ามาจากทางข้างหลังแล้ว รู้สึกแปลกใจขึ้นมาระลอกหนึ่ง ร้องตะโกนเสียงดังโดยไม่สนใจอื่นใดอีก ต้องทำให้คนสกุลลั่วได้ยินอย่างชัดเจน!ยามลั่วหวยเฉิงและลั่วหวยหลี่มาถึงก็ได้ยินเสียงเปี่ยมโทสะของซ่งจืออวี้แล้ว ภายในใจเปี่ยมความรู้สึก
สีหน้าฮูหยินผู้เฒ่าหลินไม่สบอารมณ์มาก หลังหลินจือเยว่เสียตำแหน่งขุนนางไป มากน้อยอย่างไรคนก็เห็นเป็นเรื่องตลกหากตอนนี้มีข่าวว่าฉินซวงซวงลอบคนชู้สู่ชาย จือเยว่ก็ไม่ต้องเป็นคนแล้ว ไม่สามารถเงยหน้าขึ้นได้อีกภายในเมืองหลวง“เจ้า เจ้าก็คือคนไร้ยางอาย! ไร้ยางอายอย่างถึงที่สุด!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินโมโหมือสั่น กลับรู้สึกจนใจมากนางไม่สามารถแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไปได้จริง หาไม่แล้วสกุลหลินยังจะมีที่ยืนภายในเมืองหลวงอยู่อีกหรือ“ได้ ข้าจัดการเจ้าไม่ได้ ข้าก็จะจัดการนังแพศยาไม่สำรวมตนคนนี้!”ฮูหยินผู้เฒ่าหลินลากฉินซวงซวงลากจากเตียง ตบแรงๆ บนตัวนาง“เจ้านางแพศยาไม่สำรวมตน ก่อนนี้ข้าก็มองออกว่าเจ้ามิใช่ของดีอะไร!”“ยังไม่หมั้นหมายก็วิ่งไปยั่วยวนจือเยว่ที่ชายแดน หุงข้าวสารให้กลายเป็นข้าวสุก บังคับจือเยว่ให้แต่งงานรับเจ้าเข้าบ้าน ยกเลิกงานแต่งสกุลซ่งที่ดีเพียงนี้!”“บัดนี้เจ้ายังไม่สำรวมตน คบชู้กับชายอื่น เหตุใดเจ้าไม่ไปตายเสียเลย!”นางแค้นที่ไม่สามารถฆ่าฉินซวงซวงได้!เรื่องไร้ยางอายเช่นนี้ ยังต้องกัดฟันกลืนเลือดลงไป ไม่สามารถแพร่งพรายออกไปได้ ภายในใจจะโกรธแค้นมากเพียงใด?ลั่วหวยเฉิงและลั่วห
“ข้าว่านะ คุณชายใหญ่ตระกูลซ่งเปิดเผยตรงไปตรงมา สองขายังพิการเพราะไปออกรบ ไม่เคยได้ยินว่าเขารังแกใครมาก่อน ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างเป็นตระกูลเหยาที่กุเรื่องขึ้นมา!”“ว่ากันว่าแต่งภรรยาไร้คุณธรรมเคราะห์ร้ายไปสามรุ่น ตอนแรกหลินจือเยว่กำลังรุ่งขนาดนั้น แต่กลับทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเพื่อฉินซวงซวง ตอนนี้ดีนัก นอกจากสิ้นเนื้อประดาตัวแล้ว ฉินซวงซวงยังไปแอบมีชู้ข้างนอกอีกด้วย!”“พวกเจ้าว่าฉินซวงซวงเพิ่งแต่งงานกับหลินจือเยว่ได้ไม่นานก็ไปมีชู้อยู่ข้างนอกเสียแล้ว จะเป็นเพราะหลินจือเยว่ใช้การไม่ได้หรือเปล่านะ?”ทุกคนแสดงความคิดเห็นกันต่างๆ นานา เหยาจิ่นเฉิงกับฉินซวงซวงคนสองคนที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลยกลับมาเป็นชู้กันได้ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วแรกเริ่มเดิมทีเฉินเซียงและโหย่วฝูแค่อยากแพร่ข่าวลือเพื่อล้มงานแต่งระหว่างสกุลเหยากับสกุลลั่ว ทำให้ทุกคนตระหนักว่าคุณชายใหญ่ของตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนข่าวลือก่อนหน้านี้เป็นเรื่องเท็จแต่ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดกันไปพูดกันมาก็ไปถึงเรื่องที่หลินจือเยว่ใช้การไม่ได้ได้อย่างไรเฉินเซียงลอบยิ้มอย่างอดไม่ได้ “อย่างไรเสียหลินจื
“ฉู่อ๋องเป็นใครกัน? ก่อนที่จะแต่งงานฉินซวงซวงก็อาจเอื้อมไม่ถึง ตอนนี้แต่งงานแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะยังไม่ตัดใจอีก”“มิน่าแม่นางซ่งถอนหมั้นไปแล้ว ตระกูลหลินก็ยังตามหาเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่า ที่แท้ตัวการไม่ใช่หลินจือเยว่ แต่เป็นฉินซวงซวงนี่เอง!”“จุ๊ๆ ช่างไร้ยางอายโดยแท้ ครอบครัวแม่ทัพฉินเรียกได้ว่าผู้ใหญ่ประพฤติไม่ชอบอย่างไร ผู้เยาว์ก็เป็นอย่างนั้น ตอนที่ฉินฮูหยินแต่งเข้าจวนก็ไม่ได้มีศักดิ์ศรีนัก ดูซิ ลูกสองคนที่นางให้กำเนิดมาก็ยังประพฤติตัวเสื่อมเสียกันทั้งคู่”ทันใดนั้น เรื่องราวในอดีตที่กู้อวิ๋นเวยกับแม่ทัพฉินมาลงเอยกันได้อย่างไรก็ถูกขุดขึ้นมาอีกครั้ง ความไร้ยางอายของฉินเซี่ยงเหิงและฉินซวงซวงก็สามารถเข้าใจได้ไม่ยากเลย“เหยาจิ่นเฉิง สิ่งที่ฉินซวงซวงพูดเป็นเรื่องจริงงั้นรึ?”ซ่งรั่วเจินมองไปทางเหยาจิ่นเฉิง ตอนนี้เดิมก็เป็นละครที่สุนัขกับสุนัขกัดกันเอง นางไม่ถือสาถ้าจะต้องดูสกุลหลินและสกุลเหยาฉีกหน้ากันสีหน้าของเหยาจิ่นเฉิงมืดครึ้มดุจสายน้ำ ตอนนี้เขาตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคลายไม่ออกเสียแล้วถ้ายอมรับว่านี่เป็นเรื่องจริง สกุลซ่งคงไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ นอกจากจะต้องแบกรับชื่อเสียว่าเ
พิสูจน์ชัดว่าสิ่งที่ฉินซวงซวงพูดเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นเรื่องจริง!ความบริสุทธิ์ของฉินซวงซวงถูกย่ำยีไม่มีใครสนใจ แต่เหยาจิ่นเฉิงเจ้าเดรัจฉานคนนี้กลับหมายตาน้องสาวของตนเอง นั่นเท่ากับรนหาที่ตาย!ตอนที่สวี่ซืออี้มาเพื่อสอบถามก็ได้ยินฉินซวงซวงร่ำร้องเสียงแหลมว่าเหยาจิ่นเฉิงทำลายความบริสุทธิ์ของตนเองและต้องการจะแจ้งความ นางยังจะอยู่เฉยได้อีกหรือ?“นังแพศยา หลายวันก่อนเจ้าเทียวมานวยนาดอยู่หน้าเฉิงเอ๋อร์ ข้าก็ดูออกแล้วว่าเจ้าไม่ใช่คนดีอะไร!”“เปลี่ยนวิธีมาขึ้นเตียงของเฉิงเอ๋อร์ ตอนนี้พอถูกจับได้ก็คิดจะมาปรักปรำกันอีก? เจ้านับเป็นตัวอะไร? เฉิงเอ๋อร์ของข้าเป็นคนที่เจ้ามาใส่ร้ายได้ตามอำเภอใจอย่างนั้นรึ?”ทุกคนเห็นสวี่ซืออี้พราดพราดเข้ามาแล้วเงื้อมือตบฉาด จากนั้นก็กระชากผมฉินซวงซวงดึงทึ้งทันที“ผู้หญิงมักง่ายอย่างเจ้า ข้าเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว ตนเองไม่รักนวลสงวนตัว พอเกิดเรื่องก็อยากโยนความผิดให้คนอื่น!”“เฉิงเอ๋อร์ของข้าต้องการสตรีแบบไหนแล้วหาไม่ได้บ้าง? หญิงสาวที่ยังไม่ออกเรือนมีมากมายถมไป จำเป็นต้องสิ้นเปลืองความคิดมาเลือกผู้หญิงไร้ค่าอย่างเจ้าด้วยรึ?”สวี่ซืออี้ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เ
ฉู่อวิ๋นกุยและสี่พี่น้องสกุลซ่งสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องไม่ใช่คนปากไม่มีหูรูด ยิ่งไม่มีวันโจมตีองค์ชายสี่ร่างกายอ่อนแอโดยไร้สาเหตุในเมื่อเขาทำถึงเพียงนี้ ก็หมายความว่าเขาไม่ชอบเหลียงอ๋องเพราะเหตุนี้ ซ่งรั่วเจินจึงสังเกตเห็นว่าไม่ว่าอวิ๋นอ๋องหรือพี่ชายของตนก็ล้วนมีท่าทีเปลี่ยนไปในเวลาเพียงชั่วพริบตาฉู่เทียนเช่อเกิดความสงสัย หรือว่าฉู่อ๋องและเหลียงอ๋องมีความขัดแย้งใดที่เขาไม่รู้?“น้องสี่ ก่อนหน้านี้ข้ารู้เพียงว่าไม่ว่าโยนลูกศรลงไหหรือโยนห่วงเจ้าก็ล้วนแม่นยำทั้งสิ้น ในเมื่อวันนี้มาแล้ว ไม่สู้ให้พวกเราได้ประจักษ์ต่อสายตาสักหน่อย”ฉู่เทียนเช่อยังแย้มยิ้มดังเดิม หยิบห่วงทางด้านข้างวางไว้ในมือฉู่ซิ่นเหลียงเขาไม่สนใจหรอกว่าระหว่างทั้งสองคนมีความขัดแย้งกันหรือไม่ หากว่ามี นั่นก็ดีอย่างไม่ต้องสงสัย!“เช่นนั้นข้าจะลองดู”ฉู่ซิ่นเหลียงพยักหน้ายิ้มๆ สายตาสะท้อนแสงเย็นชาวูบหนึ่ง ครุ่นคิดภายในใจตกลงเขาปกปิดที่ใดไม่ดีถึงถูกฉู่อ๋องสังเกตเห็น?ทุกคนเห็นเหลียงอ๋องผู้อ่อนแอยกห่วงขึ้น มองแจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลๆ วัดระยะครู่หนึ่งแล้วโยนออกไปได้เห็นห่วงนั้นสั่นไหวเล็กน้อยบ
ชั่วขณะฉู่จวินถิงได้เห็นเหลียงอ๋อง นัยน์ตาไร้คลื่นอารมณ์สะท้อนแสงเย็นวูบหนึ่งซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉู่จวินถิง ลอบตกตะลึงภายในใจ ใช่หรือไม่ว่าเขาพบอะไรเข้าแล้ว?ภายในหนังสือ ทีแรกไม่มีใครสังเกตเห็นความเจ้าเล่ห์ทะเยอทะยานของเหลียงอ๋อง เขาลอบวางอุบายอยู่เบื้องหลังมาโดยตลอด รับชมองค์ชายท่านอื่นกัดกันเหมือนสุนัขด้วยสายตาเย็นชาอยู่วงนอกและได้รับผลปะโยชน์ไปในตอนสุดท้ายกอปรกับเดิมทีหลินจือเยว่และฉินซวงซวงก็มีรัศมีของพระเอกนางเอก เพียงสองคนลงมือก็ไม่มีเรื่องใดไม่สามารถจัดการได้ทว่า บัดนี้หลินจือเยว่และฉินซวงซวงไร้ประโยชน์ไปแล้ว คาดว่าเหลียงอ๋องต้องการทำถึงขั้นนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องยากกระมัง“ขอบคุณน้องหกมากที่ห่วงใย ระยะนี้ร่างกายข้าดีขึ้นบ้างแล้ว” เหลียงอ๋องผลิยิ้ม กลับไอออกมาสองทีโดยไม่รู้ตัว“เสด็จพี่ แม้ว่าระยะนี้อากาศอุ่นแล้ว แต่ท่านจะต้องรักษาสุขภาพให้ดี อย่าต้องความเย็นเป็นอันขาด ช่วงต้นวสันต์อากาศเย็นมากนัก เป็นหวัดได้ง่ายที่สุด” ฉู่มู่เหยาพูดอย่างห่วงใยฉู่เทียนเช่อมองสถานการณ์ของโยนลูกศรลงไหและพูดว่า “น้องสาม หากวันนี้เจ้าต้องการคว้าชัยชนะ น่ากลัวว่าไม่ง่ายถ
บัดนี้ได้เห็นท่าทางเช่นนี้ของนาง ก็อยากจะมอบสิ่งที่นางชอบทั้งหมดมาวางไว้ต่อหน้านาง“เสด็จพี่ มองเห็นแจกันดอกไม้อยู่ไกลที่สุดทางด้านหน้านั้นหรือไม่? ขอเพียงโยนลงเจ้านั่น ก็จะสามารถคว้าชัยชนะการแข่งขันโยนห่วงได้!”ฉู่อวิ๋นกุยชี้แจกันดอกไม้ที่อยู่ไกลที่สุด รอบข้างแจกันดอกไม้ล้วนเต็มไปด้วยห่วงที่คล้องเพียงความว่างเปล่า ตอนนี้ยังไม่มีคนโยนลงซ่งรั่วเจินเพ่งพินิจเล็กน้อย พบว่าแจกันดอกไม้ไม่เพียงแต่สูง ขนาดของปากแจกันยังแตกต่างจากห่วงไม่มากอีกด้วย คิดจะโยนให้ลงนั้นยากเสียยิ่งกว่ายาก!“งานเทศกาลโคมไฟของทุกปี การโยนห่วงนี้ยากที่สุด ข้าแทบจะไม่เคยเห็นคนโยนลงมาก่อน” ฉู่อวิ๋นกุยพูดอย่างเสียดายลั่วชิงอินเห็นแจกันดอกไม้ใหญ่ถึงเพียงนั้น ถอนหายใจออกมาอย่างอดไม่ได้ “เยี่ยนโจว การโยนห่วงนี้ยากเกินไปแล้วกระมัง มีคนโยนลงจริงหรือ?”“ยากจริงนั่นล่ะ แทบจะไม่มีใครสามารถโยนลงได้ จะต้องแม่นยำมากถึงจะใช้ได้ ต่อให้เป็นข้าก็ยากจะทำได้”ซ่งเยี่ยนโจวพยักหน้า แต่ไหนแต่ไรมาล้วนมีคนชื่นชมวิชายุทธ์ของเขา แต่บัดนี้ได้เห็นแจกันดอกไม้ขนาดเท่าห่วง รู้สึกเพียงว่าความยากนั้นมากเกินไป ดูท่าแล้วไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีคนส
ฉู่มู่เหยาเบิกตากว้าง เผยสีหน้าตกตะลึง นางคิดว่าซ่งจิงเซินได้สติแล้ว กลับคิดไม่ถึงว่าจะสูญเสียความทรงจำไป?“ข้ายังไม่แต่งงานเพราะคิดถึงเจ้า?” ซ่งจิ่งเซินถูกประโยคนี้ทำให้โมโหจนหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าวางใจได้ ข้าจะต้องแต่งงานแน่ เพียงแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีวันแต่งกับเจ้า”“เจ้าและชวีคั่วสมควรเป็นคู่รักสวรรค์สร้าง ข้าชี้แนะเจ้าให้รีบแต่งงาน ประเดี๋ยวจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน”เคอหยวนจื่อโมโหแทบแย่ “ท่านยังไม่ยอมรับ!”ฉู่มู่เหยาปิดปากหัวเราะ ลดเสียงให้เบาลง “คุณชายสี่ซ่ง เหตุใดเจ้ายังไม่ยอมแต่งงานเล่า? คงไม่ใช่ว่ากำลังรอเคอหยวนจื่อจริงๆ หรอกกระมัง?”ซ่งจิ่งเซินผินมองนางแวบหนึ่ง “องค์หญิง ท่านสนใจเรื่องงานแต่งของกระหม่อมทั้งวี่ทั้งวันเช่นนี้ไปทำไม? คงไม่ใช่...”ฉู่มู่เหยาเห็นสีหน้าหยอกเย้าของฝ่ายชาย สีหน้าแข็งทื่อไป “อะไรกันเล่า? ข้าไม่ได้สนใจงานแต่งของเจ้าเสียหน่อย”“ไม่ใช่ก็ดี” ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจโล่งอกเฮือกหนึ่ง “หาไม่แล้วองค์หญิงดีๆ คนหนึ่งคิดอยากเป็นแม่สื่อ นั่นจะดีได้อย่างไร?”ฉู่มู่เหยา “???”“พี่สะใภ้ ข้าทนไม่ไหวแล้ว เขาถึงขั้นพูดว่าข้าอยากเป็นแม่สื่อ เจ้ารีบหาทางอุดปากเขาเถอ
ตอนนั้นเกิดเรื่องวุ่นวายใหญ่โตในพิธีล่าสัตว์ ต่อให้ผ่านไปนานแล้ว ทุกคนก็ยังจำได้ดังเดิม“ซ่งจิ่งเซิน แม่นางเคอท่านนั้นของเจ้าถูกตีน่าสารยิ่งนัก เจ้าไม่ไปช่วยหรือ?”ฉู่มู่เหยากะพริบตามองซ่งจิ่งเซิน ใบหน้าเผยรอยยิ้ม ระยะนี้ซ่งจิ่งเซินมักได้เห็นเรื่องตลกของนาง วันนี้นับว่าถึงตานางหยอกล้อซ่งจิ่งเซินแล้วซ่งจิ่งเซินเหล่มองนาง “พูดเช่นนี้แล้ว วันนี้คุณชายเสิ่นท่านนั้นของท่านเองก็อาจจะมาเช่นกัน มิสู้ลองหาดู?”ฉู่มู่เหยา “...หุบปากเจ้าเสีย”ซ่งจิ่งเซินเห็นรอยยิ้มฉู่มู่เหยาหายวับไปในทันใด หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่หนังหน้านี้ของท่าน ยังคิดล้อกระหม่อมเล่นอีกหรือ? กลับไปฝึกดีๆ เถอะ”ฉู่มู่เหยา “! ! !”กู้ฮวนเอ๋อร์และซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางทะเลาะกันของสองคนนี้ สบตากันแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าสองคนนี้อยู่ด้วยกันช่างครึกครื้นเสียจริง“ที่นี่เอะอะเกินไปแล้ว พวกเราไปโยนห่วงทางนั้นเถอะ!” ฉู่อวิ๋นกุยเอ่ยปาก หันมองทางกู้ฮวนเอ๋อร์อีกครั้ง “อีกเดี๋ยวเจ้าชอบสิ่งใดก็บอกข้า ข้าจะช่วยเอามาให้เจ้า!”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้าลงด้วยความดีใจ จนกระทั่งตอนนี้ นางถึงเชื่อว่าอวิ๋นอ๋องชอบนางจริงๆ และยอมคบหากับน
ถังเสวี่ยหนิงย่อมไม่ยอมแพ้ เคอหยวนจื่อคนนี้มีดีอะไร ไม่ว่ามองอย่างไรซ่งจิ่งเซินก็ดีกว่านางมากนักไม่รู้จริงๆ ว่าเหตุใดถึงตาบอด ไปชอบผู้หญิงคนนี้ได้!ต้องรู้ว่าเมื่อแรกเคอหยวนจื่อร่ำรวยยิ่งกว่าบุตรีจวนอัครมหาเสนาบดีอย่างนางเสียอีก บัดนี้เห็นนางตกต่ำถึงขั้นนี้ นางกลับรู้สึกมีความสุขภายในใจ“มิน่าเล่าพวกเจ้าสองคนถึงสามารถเป็นสหายกันได้ ได้ยินมาว่าเสิ่นหวยอันทำได้กระทั่งทำลายชื่อเสียงขององค์หญิงเพื่อให้ได้เป็นราชบุตรเขย”“พวกเจ้ามีเวลาพูดไร้สาระอยู่ที่นี่ มิสู้ดูให้ดี องค์หญิงมู่เหยาและซ่งจิ่งเซินอยู่ด้วยกันแล้วเหมาะสมกันมากเพียงใด!”ต่อจากคำพูดของถังเสวี่ยหนิงที่เพิ่งจบลง สายตาของพวกเคอหยวนจื่อสองคนก็หันมองไปอย่างอดไม่ได้ มองเห็นฉู่มู่เหยาและซ่งจิ่งเซินกำลังพูดคุยหัวเราะให้กัน สนิทสนมกันไม่ธรรมดา“พวกเขาสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ตั้งแต่ยามใด?”เคอหยวนจื่อโง่งมแล้ว มองทางซ่งปี้อวิ๋นอย่างอดไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ซ่งปี้อวิ๋นพูดว่าองค์หญิงและเสิ่นหวยอันมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา เพราะเหตุนี้ซ่งปี้อวิ๋นจึงอารมณ์ไม่ดีนี่มันเรื่องอะไรกัน?ซ่งปี้อวิ๋นเองก็ตกใจอย่างสุดระงับ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้า
“ทว่าผ่านไปนานถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินข่าวหมั้นหมายของทั้งสองคนหรือไม่?” ถังเสวี่ยหนิงถามกลับเถียนเจียวเจียวนี่ถึงวางใจลง “เช่นนั้นก็ดีแล้ว เสื้อผ้าหนึ่งชุดไม่นับเป็นอะไร ตอนนั้นซ่งจิ่งเซินนำของดีมากมายมามอบให้เคอหยวนจื่อ แต่สุดท้ายเจ้าดูเถอะ ยังไม่ใช่พูดว่าไม่เอาก็ไม่เอาแล้วหรอกหรือ?”ถังเสวี่ยหนิงหัวเราะเบาๆ พวกเขาย่อมได้ยินสถานการณ์ของเคอหยวนจื่อมาก่อน“พวกเจ้ากำลังว่าข้าหรือ?”เคอหยวนจื่อและซ่งปี้อวิ๋นยืนอยู่ด้วยกัน วันนี้ครึกครื้นอย่างมาก ทั้งสองคนย่อมไม่พลาดไป กอปรกับฉู่อ๋องโยนลูกศรลงไห ไม่รู้ว่าเรียกความสนใจของคนมากี่มากน้อย ดังนั้นพวกนางสองคนก็มารับชมความครึกครื้นเฉกเดียวกันคิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้เห็นสถานการณ์อย่างชัดเจน ก็ได้ยินสองคนนี้นินทาตนเอง สีหน้าเคอหยวนจื่อเปลี่ยนเป็นไม่สบอารมณ์ถังเสวี่ยหนิงและเถียนเจียวเจียวเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าขณะกำลังนินทาคนก็จะบังเอิญได้พบเจ้าตัว ใบหน้าเผยแววเก้อกระดาก แต่กลับมาเป็นปกติอย่างว่องไวชาติกำเนิดของเคอหยวนจื่อยังไม่เพียงพอให้พวกนางชายตาแล!“ว่าเจ้าแล้วจะทำไมเล่า? หรือว่าไม่ใช่ความจริง?” เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน
ซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงท่ามกลางกลุ่มคน เขาคล้ายเกิดมาเป็นตัวเอก รัศมีเปล่งประกายเหนือผู้อื่น ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ทำให้คนยากจะเมินข้ามได้เทียบกับท่าทางเย็นชาในอดีต เขาในวันนี้มีรัศมีของชายหนุ่มมากหลายส่วนมองเห็นเขาคว้าชัยชนะครั้งแรกไปได้ ชั่วขณะหันใบหน้าประดับยิ้มมามองนาง หัวใจของนางเองก็ถูกทำให้หวั่นไหวโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นเร็วยิ่งขึ้น“องค์ชาย นี่คือรางวัลคว้าชัยชนะโยนลูกศรลงไหของท่าน”ฝ่ายชายยื่นพู่สีแดงหนึ่งพวงมาให้อย่างเคารพนบนอบฉู่จวินถิงรับพู่ไป เดินมาหยุดต่อหน้าซ่งรั่วเจินด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามยามสบมองนางอ่อนโยนเป็นพิเศษ“เก็บไว้ให้ดี ข้าจะไปคว้าชัยชนะกลับมาให้มากๆ”ซ่งรั่วเจินมองพู่แดงในมือของตน แม้ว่าเป็นเพียงของรางวัลของผู้ชนะ กลับทำได้งดงามประณีตมาก ถักหัวใจสีแดงอย่างซับซ้อนห้อยเหรียญเอาไว้ ต่อให้นำมาเป็นเครื่องประดับก็งดงามไม่น้อยสำคัญที่สุดคือ...เสียงเปี่ยมความมั่นใจ คล้ายสามีไปหาเงินกลับมาได้และมอบให้ฮูหยินจัดการแม่นางรอบข้างได้เห็นภาพนี้ ภายในสายตาเปี่ยมความอิจฉา ใครสามารถคิดออกเล่าว่าฉู่อ๋องผู้สูงส่งและเย็นชาจะมีวันที่อ่อนโยนต่อแม่นาง
ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง ลดเสียงให้เบาลง “ข้าจะคว้าชัยชนะกลับมาให้เจ้าให้ได้”ทุกคนล้วนเห็นว่าฉู่อ๋องคิดจะโยนลูกศรลงไหจริง ภายในสายตาเปี่ยมความตกตะลึงพรึงเพริด นี่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกหรือ!ภายในกลุ่มคน ถังเสวี่ยหนิงเองก็สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวทางฝั่งนี้แล้ว มองเห็นฉู่อ๋องพาซ่งรั่วเจินออกมาเปิดเผยในฐานะคนรัก ภายในสายตาเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าดูแล้วฉู่อ๋องไม่ได้ชอบแม่นางซ่งลึกซึ้งมากมายอะไร หากชอบถึงเพียงนั้น ป่านนี้คงแต่งงานรับคนกลับไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวไม่ใช่หรือ?”เถียนเจียวเจียวเผยสีหน้าเย้ยหยัน นางเองก็ริษยาซ่งรั่วเจิน ถือสิทธิ์อะไรสตรีคนนี้วาสนาดีถึงเพียงนี้!ทว่าเห็นฉู่อ๋องกลับมาแล้ว ทั้งสองคนยังไม่แต่งงานกัน นางรู้สึกมีความสุขไม่น้อยภายในใจบัดนี้เห็นซ่งอี้อันแสดงความสามารถในราชสำนักได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ บิดาของนางชื่นชมเป็นครั้งคราว มารดาเองก็เสียดายที่นางไม่สามารถแต่งกับซ่งอี้อันได้ หาไม่แล้วบัดนี้จะต้องกลายเป็นที่อิจฉาของทุกคนแน่ทั้งหมดนี้ล้วนต้องโทษซ่งรั่วเจิน!“ไม่มีความเคลื่อนไหวจริงนั่นแหละ แต่ข้าได้ยินว่าฉู่อ๋องคล้ายมีเจตนาสู่ข