Share

บทที่ 3

Author: ซุนซาง
last update Last Updated: 2024-12-17 14:30:54
เมื่อเสิ่นเอ้อร์หลางกลับมาถึงบ้าน ทุกคนในตระกูลเสิ่นก็มานั่งล้อมวงพร้อมหน้า รอคุณนายจางแบ่งอาหาร

บนโต๊ะมีซาลาเปาวางอยู่จานหนึ่ง ทั้งแบบแป้งสองชนิดและแบบแป้งชนิดเดียว มีหม้อหนึ่งใส่ผัดผักกาดขาวกับเต้าหู้ จานหนึ่งใส่ผักดองน้ำมัน และมีชามใบใหญ่ใส่ซุปไข่

ชาวนาจะกินข้าววันละสองมื้อ เพราะต้องออกแรงทำงานหนัก คุณนายจางจึงให้หวังซื่อนึ่งซาลาเปาให้มีขนาดใหญ่กว่าปกติ

แรงงานชายได้คนละสองลูก เป็นซาลาเปาแป้งสองชนิด พร้อมกับซุปไข่ข้นหนึ่งชาม ส่วนผู้หญิงได้คนละหนึ่งลูก เป็นซาลาเปาแป้งชนิดเดียว เด็กๆ ได้คนละครึ่งลูก

ในบ้านมีเด็กที่กำลังโตสองคน คุณนายจางจึงตักซุปไข่ให้เอ้อร์หลางกับต้ายา(คำเรียกของบุตรสาวคนโตของเสิ่นเยี่ยนหลินกับสวีซื่อ ซึ่งก็คือเสิ่นชิวเยว่)คนละครึ่งชาม ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตักให้เจียงเมี่ยวอีกครึ่งชาม

ชามดินเผาสีเขียวสะท้อนกับไข่สีเหลืองนวล กลิ่นหอมของไข่โชยมาเตะจมูก เจียงเมี่ยวมองชามที่วางอยู่ตรงหน้าด้วยความงุนงง นางไม่คิดว่าคุณนายจางจะแบ่งให้ เพราะปกติเจ้าของร่างเดิมรบเร้าขอแค่ไหน คุณนายจางก็ไม่เคยให้

เพียงเพราะนางเอาใจเสิ่นเยี่ยนชิง คุณนายจางก็ดีกับนาง เจียงเมี่ยวรู้สึกสับสน ก่อนจะแย้มยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้ม นางเป็นคนหน้าตาสะสวย ยามยิ้มยิ่งดูงดงามน่ารัก

"ขอบพระคุณท่านแม่!"

"อืม" คุณนายจางขานรับด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ฝ่ายสวีซื่อมองตาขุ่นเคืองรู้สึกว่ามารดาลำเอียงอย่างสุดๆ

"สะใภ้สามนอนตื่นสาย ไม่ได้ทำงานอะไร ทำไมถึงได้กินไข่? ข้าท้องแก่ก็ยังช่วยพี่สะใภ้ทำงานหัวหมุน แม้แต่กลิ่นไข่ยังไม่ได้กลิ่นเลย..."

หวังซื่อก้มหน้ารู้สึกน้อยใจอยู่บ้าง

คุณนายจางหน้าเครียด ตบโต๊ะเสียงดังจนชามจานสั่นสะเทือน สวีซื่อถึงกับสะดุ้ง

"ข้ายังไม่ตาย พวกเจ้าก็คิดจะแย่งอาหารกันแล้วหรือ? อยากกินก็กิน ไม่กินก็ไสหัวไป! ตระกูลเสิ่นไม่ขาดคนทำงานหรอก ทำงานก็ไม่ได้เรื่อง คิดเล็กคิดน้อย คิดว่าข้าจะอยากดูแลเจ้ารึไง?"

สวีซื่อถูกด่าจนหน้าหงาย รู้สึกเสียใจ นางก็แค่มิได้ให้กำเนิดบุตรชายให้เสิ่นเหล่าเอ้อร์ ทำให้ไม่มีที่ยืนในบ้านนี้ ถูกแม่สามีด่าก็ไม่กล้าโต้ตอบ

ต้ายาเห็นมารดาถูกด่าก็ตัวหดด้วยความกลัว นางยกชามซุปไข่ไปให้สวีซื่อด้วยมือเล็กๆ เสียงสั่นเครือ "ท่านแม่ ท่านกินเถิดเจ้าค่ะ"

สวีซื่อเห็นต้ายายิ่งโมโห คว้าชามไปจากมือ ของขาดทุนอย่างเจ้าจะกินไข่ทำไม ของดีๆ ก็ควรเก็บไว้ให้ลูกชายในท้องสิ!

เห็นนางทำตัวเหลวไหล แม้แต่อาหารของลูกก็ยังแย่ง คุณนายจางจึงโกรธขึ้นมาจริงๆ

"เจ้ามันหน้าไม่อาย แม้แต่อาหารของลูกก็ยังจะกิน ตระกูลเสิ่นขาดเจ้ากินขาดเจ้าใช้หรือไร? ไข่ไก่ทุกเช้าข้าเอาไปให้หมากินรึ? อยากกินของดีก็กลับไปกินที่บ้านพ่อแม่เจ้าโน่น! เหล่าเอ้อร์ เก็บข้าวของให้สวีซื่อ แล้วไล่นางกลับบ้านไปซะ!"

เสิ่นเหล่าเอ้อร์หน้าแดงก่ำ ปากก็ขมุบขมิบพึมพำ พลางดึงตัวสวีซื่อให้คุกเข่าลงต่อหน้ามารดาของตน

"ท่านแม่ ใจเย็นก่อน ข้าจะกลับไปสั่งสอนนางเอง หากท่านเห็นแก่กุ้ยฮวาที่กำลังท้องอ่อนๆ ก็ยกโทษให้นางสักครั้งเถิด..."

สวีซื่อได้ยินว่าคุณนายจางจะไล่นางกลับบ้านก็ตกใจ ท้องแก่ขนาดนี้กลับไปก็เป็นภาระ พี่ชายพี่สะใภ้จะยอมรับนางได้อย่างไร

"ท่านแม่ ข้าผิดไปแล้ว ท่านอย่าโกรธข้าเลย"

คุณนายจางหัวเราะเยาะ คนแบบนี้ต้องสั่งสอนบ้างถึงจะรู้จักที่ต่ำที่สูง

"พวกเราตระกูลเสิ่นต้องร่วมใจกัน ต่อไปเมื่อเหล่าซานมีอนาคตที่ดี เขาและเมี่ยวเอ๋อร์จะลืมบุญคุณพวกเจ้าได้อย่างไร? เจ้ามันใจแคบ คิดแต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ สร้างความวุ่นวายไม่หยุดหย่อน ตระกูลเสิ่นไม่ต้องการคนแบบนี้! ถ้าเจ้าคิดว่าข้าลำเอียง ก็รีบๆ ไสหัวไปซะ!"

สวีซื่อไม่กล้าโวยวายอีก นางรู้ว่าถ้ายังทำตัวเหลวไหล แม่สามีคงไล่นางกลับบ้านจริงๆ

คุณนายจางเห็นว่าสั่งสอนพอสมควรแล้ว สีหน้าจึงอ่อนลง

"กินข้าวกันได้แล้ว!"

เจียงเมี่ยวค่อยๆ กินซาลาเปา แป้งชนิดเดียวทั้งแข็งทั้งกระด้าง ทำให้นางกลืนลำบาก ต้องรีบซดน้ำซุปตาม ไม่งั้นคงติดคอตาย

แม่สามีของนางทั้งเฉลียวฉลาดและเด็ดขาด สมกับเป็นผู้หญิงที่เข้าสังคมกับเหล่ากุลสตรีในเมืองหลวงได้ สั่งสอนลูกสะใภ้ทุกคนให้อยู่ในโอวาท แถมยังเลี้ยงดูลูกชายจนได้เป็นถึงอัครเสนาบดี

เจียงเมี่ยวมองคุณนายจางด้วยความนับถือ คุณนายจางกำลังคีบกับข้าว พอเห็นสายตาของนางก็รู้สึกพอใจ

ปกติไม่เห็นจะรู้สึกว่าเมียวเอ๋อร์น่าเอ็นดูขนาดนี้

อืม เห็นทีซุปไข่ครึ่งชามนี้ให้ไปจะไม่เสียเปล่า

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 4

    ครั้นพักผ่อนยามบ่ายแล้ว เหล่าบุรุษตระกูลเสิ่นก็ออกไปทำงานที่ไร่นาอีกครั้ง ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรง หวังซื่อ ภรรยาของบุตรชายคนโต ก็ช่วยงานด้วยการแบกน้ำไปให้ ส่วนสวีซื่อนั้นตั้งครรภ์อยู่ ไม่สามารถทำงานหนักได้ นางจึงอยู่บ้านเพื่อจัดการงานบ้านต่างๆหลังจากทานอาหารเสร็จ เจียงเมี่ยวนั่งอยู่เฉยๆ ในห้องโถง เธอคิดอยากจะทำงานบ้าง เพราะเจ้าของร่างเดิมนั้นเป็นคนเกียจคร้าน งานบ้านที่คุณนายจางสั่ง นางมักจะทำลวกๆ หรือไม่ก็ผลักภาระไปให้พี่สะใภ้ทั้งสอง ถึงแม้จะดูถูกตระกูลเสิ่น แต่ก็ยังถือตัวว่าเป็นภรรยาของซิ่วไฉคุณนายจางเชื่อว่าเจียงเมี่ยวเป็นคนมีบุญวาสนา นางจะช่วยให้สามีรุ่งเรือง ตราบใดที่นางไม่ทำเรื่องร้ายแรง คุณนายจางก็พร้อมจะตามใจ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้สวีซื่ออิจฉาและคอยหาเรื่องนางอยู่เสมอเจียงเมี่ยวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนคนในตระกูลเสิ่นจะไม่ได้เลวร้ายอะไร เพียงแต่ยากจนไปหน่อยเท่านั้นตามเนื้อเรื่องในนิยาย พระเอกจะสอบผ่านระดับอำเภอในปีหน้า และอีกสามปีต่อมาจะเข้าเมืองหลวงเพื่อสอบจอหงวนและได้เป็นขุนนางนั่นหมายความว่า เธอจะต้องทนกินซาลาเปาแป้งหยาบๆ ไปอีกสี่ปี เจียงเมี่ยวรู้สึกหน้ามืด

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 5

    "ท่านย่า! ท่านย่า! รีบออกมาเร็ว! ท่านป้าเล็กจับปลาได้ล่ะ!"เสิ่นเอ้อร์หลางร้องตะโกนเสียงดังตั้งแต่ยังไม่ทันเข้าบ้าน ฮูหยินจางถือไม้กวาดเดินออกมา สีหน้าบึ้งตึง"ร้องเสียงดังอะไรกัน? ย่ายังไม่ได้หูหนวกนะ!""ท่านย่า ปลา! ท่านป้าเล็กจับได้ขอรับ!" เสิ่นเอ้อร์หลางวางกะละมังลง ฮูหยินจางเหลือบมองก็เห็นปลาเฉาตัวใหญ่สองตัวอยู่ในมือเจียงเมี่ยว"โอ้โห! จับได้ยังไงเนี่ย?" ฮูหยินจางรับปลามาด้วยความตื่นเต้น ปลาไม่ใช่จะจับกันได้ง่ายๆ ไม่อย่างนั้นทุกบ้านคงได้กินเนื้อกันแล้ว"ท่านป้าเล็กลงไปในน้ำ ใช้เสื้อผ้าจับ...""ลงน้ำ? พวกเจ้าลงไปในน้ำ?" สีหน้าฮูหยินจางเคร่งขรึมลง แม่น้ำชิงเฉวียนไม่ได้ตื้นๆ ทุกปีมีคนจมน้ำตาย นางกำชับลูกหลานในบ้านแล้วว่าอย่าเข้าใกล้แม่น้ำ หากต้องเสียชีวิตเพราะเรื่องแค่นี้ ย่อมไม่คุ้ม"ท่านแม่ ข้าแค่ยืนอยู่ริมตลิ่งเจ้าค่ะ ปลาพวกนี้ไม่กลัวคน จับได้ง่ายมาก!" เจียงเมี่ยวทำหน้าออดอ้อน ด้วยใบหน้าที่งดงามน่ารัก ยามออดอ้อนเช่นนี้ ยิ่งทำให้คนใจอ่อน"ห้ามมีครั้งต่อไปนะ เอ้อร์หลางกับต้ายาก็ห้ามไปแม่น้ำตามลำพัง เข้าใจหรือไม่?""ขอรับ/เจ้าค่ะ ท่านย่า!" ทั้งสองพยักหน้ารับ ฮูหยินจางจึงเลิก

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 6

    เดิมทีเจ้าของร่างเดิมมักจะไปขายผ้าเช็ดหน้าที่ตัวเมือง และเพราะได้เห็นความเจริญรุ่งเรืองของเมือง จึงคิดอยากจะหนีไปจากตระกูลเสิ่นกลิ่นหอมของซุปปลาในตะกร้าโชยมาเตะจมูก เจียงเมี่ยวรู้สึกหิวจนท้องร้อง นางรีบหยิบหมั่นโถวสองชนิดที่ฮูหยินจางให้มา กินจนหมดในสองสามคำ ความหิวจึงบรรเทาลงนางเดินไปอย่างไม่รีบร้อน พอถึงโรงเรียน ก็เห็นผู้คนมากมายอยู่หน้าประตูมีทั้งคนที่เอาข้าวมาส่งเหมือนนาง และพ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งแผงลอยขายของ เจียงเมี่ยวสังเกตเห็นว่า ของที่ขายส่วนใหญ่เป็นซาลาเปา ขนม และบะหมี่ หน้าตาและรสชาติธรรมดา แต่ให้ปริมาณเยอะมากเหล่านักเรียนอยู่ในวัยกำลังกินกำลังโต การอ่านหนังสือทำให้เสียพลังงาน ต้องกินเยอะๆ ถึงจะอิ่มท้องเจียงเมี่ยวยืนนิ่งอยู่กลางแดด แสงแดดตอนเที่ยงนั้นร้อนแรง นางยกมือบังแดด เขย่งเท้ามองเข้าไปในโรงเรียนเสิ่นเยี่ยนชิงยังไม่ออกมาอีกหรือ?"เหตุใดเจ้าจึงมาที่นี่?"มีคนมาตบบ่านาง เจียงเมี่ยวหันไปมอง ทันใดนั้นก็รู้สึกราวกับว่าแสงแดดร้อนแรงยามเที่ยงพลันดับวูบลงเขายืนย้อนแสง ร่างกายสง่างาม คิ้วเข้ม ดวงตาเรียวคม ขนตายาวงอน ราวกับเทพบุตร งดงามดุจแสงจันทร์ หนุ่มน้อยวัยเพียง 1

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 7

    เมื่อเจียงเมี่ยวออกจากร้านจินซิ่วเก๋อ นางกำเงินในมือด้วยความรู้สึกพึงพอใจ นี่นี่คือรายได้ก้อนแรกของนางในยุคโบราณเชียวนา!เมื่อมีเงินแล้ว นางก็อยากจะใช้จับจ่าย โดยเฉพาะการซื้อเนื้อ นางจึงหยิบเงินสิบอีแปะออกมาซื้อเนื้อหมูหนึ่งชั่ง เป็นหมูสามชั้นที่มีมันแทรกพอเหมาะ นางนึกภาพหมูตุ๋นหอมกรุ่นที่ไม่เลี่ยนปากขึ้นมาในใจข้างๆ แผงขายเนื้อ มีเครื่องในหมูวางอยู่สองพวง พ่อค้าเห็นเจียงเมี่ยวมองอยู่ จึงขายหัวใจและตับหมูให้นางในราคาอีแปะเดียว แถมกระดูกหมูให้อีกสองชิ้นใหญ่เจียงเมี่ยวยิ้มรับมาด้วยรอยยิ้ม พ่อค้าส่ายหน้า คิดในใจว่าสะใภ้คนนี้คงโง่เขลา เครื่องในหมูเหม็นสาบเฉกเช่นนี้ ใครเล่าจะเสียเงินซื้อของพรรค์นี้ทว่าเจียงเมี่ยวไม่สนใจว่าพ่อค้าจะคิดอย่างไร เครื่องในหมูถ้าทำให้ดีย่อมอร่อยยิ่งกว่าเนื้อเสียอีกแดดยามเที่ยงร้อนจัดนางรีบเดินกลับบ้าน โดยอาศัยร่มเงาของต้นไม้ ที่บ้านตระกูลเสิ่นกำลังจะกินข้าวเสร็จพอดีปลาสองชั่งที่จับได้ ส่วนที่อร่อยที่สุดให้เสิ่นเยี่ยนชิง ส่วนที่เหลือก็แบ่งให้พวกผู้ชาย ส่วนผู้หญิงและเด็กได้แต่น้ำแกง โชคดีที่เจียงเมี่ยวใส่ผักไว้มาก ผักที่ชุ่มน้ำซุปปลาก็อร่อยจนแทบกลืนลิ้นตามไ

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 8

    บัดนี้ อยู่ในช่วงฤดูร้อน พืชพันธุ์ในหุบเขางอกงามเขียวชอุ่ม เจียงเมี่ยวถือไม้มาเพื่อไล่พวกแมลงต่างๆต้ายาเดินตามหลังนางเงียบๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยซักผ้ากับเจียงเมี่ยว อีกทั้งในบ้านตระกูลเสิ่น นางก็ไม่มีเพื่อนเล่น จึงกลายเป็นเงาตามตัวของเจียงเมี่ยวไป "พวกเจ้ารัดแขนเสื้อให้แน่น ระวังอย่าให้โดนหนามทิ่มหรือแมลงกัดล่ะ" เจียงเมี่ยวกำชับ"เจ้าค่ะ ท่านป้าเล็ก"เจียงเมี่ยวสะพายตะกร้าไม้ไผ่ เดินหาสมุนไพรในป่านางตั้งใจจะทำถุงหอม ปกติในร้านมีแต่ถุงผ้าสำหรับใส่เงิน หรือของเล็กๆ น้อยๆ ถ้าใส่สมุนไพรหอมๆ ลงไปในถุง มิใช่แค่สวยงาม แถมยังมีกลิ่นหอมติดมาด้วย ลูกค้าต้องชอบแน่ๆอีกอย่าง หน้าร้อนมียุงชุม สามารถทำถุงยาไล่ยุงและมดได้ น่าจะขายดีทีเดียวนางดอกสายน้ำผึ้ง ใบโหระพา สะระแหน่ โกฐจุฬาลัมพา กานพลู...เจียงเมี่ยวเก็บสมุนไพรที่รู้จักใส่ตะกร้า ต้ายาเดินตามหลัง เห็นนางเก็บสมุนไพรก็เก็บตามบ้าง ถึงแม้จะตัวเล็ก แต่ก็ทำงานอย่างละเอียด เก็บสมุนไพรมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์เจียงเมี่ยวรู้สึกประหลาดใจ แต่เดิมนางก็ไม่ได้หวังว่าเด็กๆ จะช่วยทำงาน คิดว่าแค่พาเด็กๆ มาเที่ยว แต่ต้ายาช่างรู้ความเหลือเกิน"ต้ายาเก่งมาก

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 9

    ฮูหยินจางเป็นคนรักสะอาด ลานบ้านจึงถูกกวาดเช็ดถูจนเอี่ยมอ่องเจียงเมี่ยวซักผ้าเสร็จในยามสาย ก็เริ่มจัดการทำถุงหอมของนางนางนำสมุนไพรทั้งหมดมาตากให้แห้ง ส่วนพริกก็นำมาร้อยด้วยเชือก แล้วแขวนไว้ที่มุมห้องหากตากพริกไว้จนแห้งจะสามารถเก็บไว้ได้นานเจียงเมี่ยวตัดผ้าเป็นสองผืน ผืนหนึ่งแช่ในน้ำย้อมที่ต้มจากเปลือกองุ่น ผ้าขาวพลันเปลี่ยนเป็นสีม่วงคราม นางล้างด้วยน้ำสะอาดหลายครั้ง แล้วนำไปตากบนราวผ้าผ้าผืนนี้ไม่ได้ใหญ่นัก จึงไม่เป็นที่สะดุดตาท่ามกลางเสื้อผ้ามากมายสวีซื่อออกมาดูหลายครั้ง แต่ก็มองไม่ออกว่าทำอะไร จึงบ่นพึมพำว่า "วุ่นวายไปเสียเปล่า ๆ" แล้วเดินกลับเข้าเรือนแต่เดิมของสวีซื่อเป็นคนทำอาหารกลางวัน แต่เมื่อวานเจียงเมี่ยวซื้อเนื้อมา ฮูหยินจางจึงถามว่าจะทำอย่างไร ถ้าให้สวีซื่อทำก็คงเอาไปต้มกับผักกาดขาว แบ่งเนื้อให้คนละสองชิ้นเล็กๆ ไม่เพียงกินไม่อิ่มท้อง แถมยังไร้รสชาติ เจียงเมี่ยวไม่อยากให้เนื้อที่ซื้อมาต้องเสียเปล่า"ทำเกี๊ยวซ่าน่าจะดีกว่า ส่วนหัวใจหมูก็เอามาทำยำ กระดูกสองท่อนเก็บไว้ต้มซุปให้ท่านพี่"เจียงเมี่ยวจัดแจงเมนูอาหารเรียบร้อย ฮูหยินจางไม่ขัดข้อง สวีซื่อก็พยักหน้าเห็นด้วย

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 10

    หน้าร้อนมาเยือนแล้ว ดวงอาทิตย์ส่องแสงแผดเผาลงมายังพื้นดิน เสียงจักจั่นร้องระงมไม่หยุดหย่อน อากาศที่ร้อนอบอ้าวอยู่แล้วยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดขึ้นไปอีกเหล่าบุรุษตระกูลเสิ่นกลับจากไร่นา พอเข้าประตูบ้านก็ได้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายกลิ่นหอมนี้บอกไม่ถูก แต่ช่างชวนน้ำลายสอ ทั้งหอมทั้งฉุน ใครได้กลิ่นก็อดใจไว้ไม่อยู่"อืม~ สะใภ้รองทำอะไรอร่อย ๆ กินหรือ?" เสิ่นเหล่าตี้สูดจมูกดม ร่างกายที่เมื่อยล้าจากการทำงานหนักครึ่งวันดูผ่อนคลายลงบ้างคนอื่นๆ ถึงแม้จะไม่เอ่ยถาม แต่ก็รีบเก็บอุปกรณ์ทำไร่นา อย่างรวดเร็ว"หึ! ฝีมือห่วยๆอย่างสวีนั่นน่ะหรือจะทำอาหารอร่อยขนาดนี้ได้ นี่เป็นฝีมือเมี่ยวเอ๋อร์ของเราเป็นคนทำต่างหาก!"ฮูหยินจางถืออาหารออกมา พอได้ยินเสิ่นเหล่าตี้พูดก็เบ้ปาก แล้วตะโกนเสียงดังสวีซื่อชะงัก จ้องเจียงเมี่ยวด้วยสายตาเกรี้ยวกราดเจียงเมี่ยวคิดในใจ: ฉันไปทำอะไรให้นางกันนะ? เพราะสวีซื่อไม่กล้าทำหน้าบึ้งใส่ฮูหยินจางก็เลยมารังแกนางที่เป็นสนามอารมณ์แทนเจียงเมี่ยวไม่สนใจ ยกอาหารเข้าไปในห้องโถงสวีซื่อโกรธจนกระทืบเท้า นังตัวดีนั่น! จงใจแกล้งข้างั้นหรือ!"กินข้าวกันได้แล้ว!"คนอื่นๆ ล้างมือ แล้วมา

    Last Updated : 2024-12-17
  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 11

    อรุณรุ่งแห่งวันใหม่ เจียงเมี่ยวออกจากบ้านแต่เช้าตรู่ ขณะที่นางกำลังจะก้าวออกประตู สวีซื่อยังจะเปิดปากกระแนะกระแหน แต่เพียงสายตาดุๆ จากคุณนายจางก็ทำให้นางต้องกลืนคำพูดกลับลงคอเมืองฝูหรงเริ่มคึกคัก ร้ทั้งร้านขายอาหารและแผงลอยต่างๆ เริ่มทยอยออกมาตั้งร้าน ผู้คนพลุกพล่านไปมากลิ่นอาหารหอมกรุ่นลอยมาเตะจมูก จนท้องของเจียงเมี่ยวร้องจ๊อกๆ โจ๊กเหลวจืดชืดที่กินตอนเช้าย่อยหมดไปนานแล้วนางพยายามข่มความอยากอาหาร แล้วตรงไปที่ร้านจินซิ่วเก๋อในร้านมีสาวน้อยไม่กี่คนกำลังเดินดูสินค้า หญิงสาวที่ดูเป็นหัวหน้ากลุ่มสวมกระโปรงสีเขียวอมฟ้าตัดจากผ้าสไตล์สุ่ยเยียนลั่ว ปิ่นหยกขาวปักผมดำขลับ ดูเรียบง่ายแต่แฝงความงามประณีต รูปโฉมของนางงดงามอ่อนหวาน ผิวขาวผ่องดั่งหยก ริมฝีปากแดงระเรื่อโดยมิต้องแต่งแต้ม ดูจากการแต่งกายคงเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่พวกนางเหลือบมองเจียงเมี่ยวที่เดินเข้ามาแวบหนึ่งอย่างไม่ใส่ใจ แล้วหันไปสนใจอย่างอื่นเถ้าแก่เนี้ยฉินเดินออกมาจากหลังโต๊ะด้วยรอยยิ้ม"คุณหนูเจียงมาแล้ว"ผ้าเช็ดหน้าที่เจียงเมี่ยวปักครั้งก่อนเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้ามาก ขายหมดในพริบตา เถ้าแก่เนี้ยฉินรอคอยนางมาหลายวันแล้ว"เถ้

    Last Updated : 2024-12-17

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 40

    เจียงเมี่ยวหั่นเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ ลวกน้ำเพื่อขจัดกลิ่นคาว แล้วนำน้ำตาลกรวดไปผัดในกระทะฮูหยินจางไม่เสียดายน้ำตาลและน้ำมันอีกต่อไป มองอย่างตื่นตาตื่นใจ นางใช้ชีวิตมาทั้งชีวิตก็ไม่เคยเห็นการทำอาหารที่มีความหลากหลายขนาดนี้พอผัดน้ำตาลจนได้ที่ เจียงเมี่ยวก็ใส่เนื้อลงไปผัดให้ทั่ว เติมน้ำพะโล้หนึ่งทัพพี กลิ่นหอมก็โชยออกมา"หอมจัง!"สวีซื่อเป็นคนก่อไฟ กลิ่นหอมลอยไปทางนางตลอด ทำให้นางรู้สึกหิวจนท้องก็ร้องจ๊อกๆเที่ยงนี้นางต้องแย่งหมูสามชั้นตุ๋นเพิ่มอีกสองชิ้นระหว่างตุ๋นเนื้อ เจียงเมี่ยวก็ไปเด็ดแตงกวาจากสวนมาสองลูกมาทำยำ หากกินแต่เนื้อก็จะเลี่ยน ซึ่งผักจะช่วยตัดเลื่อนทำให้กินอาหารอร่อยมากขึ้น"ท่านแม่ เที่ยงนี้กินข้าวสวยนะเจ้าคะ"นางมาอยู่ในโลกยุคโบราณนานแล้ว ยังไม่ได้กินข้าวสวยเลย น้ำหมูสามชั้นตุ๋นราดข้าวสวยร้อน ๆ แค่คิดนางก็อยากกินแทบอดใจไม่ไหว"ข้าวที่บ้านยังมีพอหรือ?"ปกติตระกูลเสิ่นกินแค่ข้าวต้มตอนเช้า ข้าวสารจึงมีไม่มาก"เมื่อวานข้าซื้อมาจากเมืองแล้วเจ้าค่ะ""งั้นเจ้าก็ผสมข้าวไม่ขัดสีลงไปด้วย"ข้าวสารในเมืองขายชั่งละสามอีแปะ ข้าวไม่ขัดสีชั่งละอีแปะเดียว ข้าวที่ตระกูลเสิ่นปลูกก็เอ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 39

    เขาแสร้งทำเป็นสงบ เจียงเมี่ยวพยักหน้าอย่างไม่แน่ใจ"ขอบพระคุณเจ้าค่ะท่านพี่ ที่นี่มีควันเยอะ ท่านพี่เข้าไปในห้องเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะสำลัก""ไม่เป็นไร"ข้าแค่อยากอยู่กับเจ้า...เสิ่นเยี่ยนชิงกลืนคำพูดที่เหลือลงคอ ปลายนิ้วยังรู้สึกถึงความนุ่มของแก้มหญิงสาว เจียงเมี่ยวไม่ได้สนใจเขา นางกำลังกลั่นน้ำมันหอมระเหยขั้นตอนสุดท้าย หม้อที่ซื้อมาใหม่นำความร้อนได้ดี น้ำมันหอมระเหยที่กลั่นออกมาจึงไม่มีสิ่งเจือปน ไม่นานน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบก็เสร็จ เจียงเมี่ยวจึงใส่ขี้ผึ้งลงไปผสมให้แข็งตัวเสิ่นเยี่ยนชิงมองลูกหอมกลมใสในมือเจียงเมี่ยว กลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ลอยมา ทำเอาเขารู้สึกแปลกใจเจียงเมี่ยวไม่ได้ปิดบังเรื่องทำลูกหอม ลูกหอมเป็นของที่ผู้หญิงใช้ เสิ่นเยี่ยนชิงอาจจะไม่รู้ว่านางทำอะไรอยู่ อาจจะคิดว่า นางกำลังเล่นอะไรแปลก ๆ ถ้าเขารู้ก็ไม่เป็นไร พอดีเลยจะได้อธิบายเรื่องที่นางหาเงินได้ เพราะช่วงนี้นางใช้เงินเปลืองเสิ่นเยี่ยนชิงต้องสงสัยแน่ ๆ ว่านางเอาเงินมาจากไหนเสิ่นเยี่ยนชิงเคยสงสัยจริง แต่คิดว่าเจียงเมี่ยวทำแต่ถุงหอม เพราะถุงหอมในมือซูจื่อเหวินมีฝีมือการปักเหมือนที่เจียงเมี่ยวให้เขาไม่มีผิด ตามท

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 38

    "ถ้าเจ้าไม่อยู่ ข้าก็จะไม่ได้กินข้าวบ้านเจ้าแล้ว"ซูจื่อเหวินยิ้มแหยๆ เขาเป็นคนติดรสชาติอาหาร ตั้งแต่อาหารบ้านตระกูลเสิ่นอร่อยขึ้น เขาก็แอบมากินทุกที ทั้งอาหารหมักดองรสเผ็ดหอม กุยช่ายทอดเหลืองกรอบหอมฟุ้ง อร่อยกว่าอาหารในโรงเตี๊ยมบ้านเขาเสียอีก ทำให้รู้สึกว่าอาหารที่เคยกินมาไม่มีรสชาติเลย ถ้าได้ไปกินที่บ้านตระกูลเสิ่นให้หนำใจล่ะก็...ซูจื่อเหวินคิดพลางกลืนน้ำลายเสิ่นเยี่ยนชิงมองเขาด้วยความรังเกียจ แค่นี้น่ะหรือ?"ไม่ได้!"เขาไม่ยอมเด็ดขาด วันหยุดมีแค่วันเดียว เขาอยากอยู่กับเมี่ยวเอ๋อร์ตามลำพัง พาเพื่อนกลับบ้านจะดูเป็นอย่างไร "บ้านข้าจน ต้อนรับเจ้าไม่ได้หรอก"เสิ่นเยี่ยนชิงปฏิเสธอย่างหนักแน่น ซูจื่อเหวินหน้าสลดห่อเหี่ยวสุดๆ"ข้าจะจ่ายเงิน ไม่กินฟรี ๆ หรอก"เขาพยายามอ้อนวอน แต่เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สะทกสะท้าน ซูจื่อเหวินจึงต้องล้มเลิก พูดต่อไปคงน่ารำคาญ ถึงตอนนี้เสิ่นเยี่ยนชิงก็รำคาญเขามากแล้ว "เฮ้อ ไม่มีพะโล้รสจัดจ้านกิน วันนี้ข้าคงอดตายแน่ๆ""หึ!"เสิ่นเยี่ยนชิงไม่สนว่าซูจื่อเหวินจะอดตายหรือไม่ ตอนนี้เขาแค่อยากกลับบ้านเร็วๆแต่เมี่ยวเอ๋อร์จะทำอะไรอร่อยๆ ให้เขากินนะ ชายหนุ่มที่ไ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 37

    เจียงเมี่ยวมองดูแม่สามีลูกสะใภ้ทะเลาะกัน อารมณ์ก็ดีขึ้นเยอะ"ท่านแม่ ข้ายังซื้อข้าวสาร แป้ง น้ำตาลมาด้วย พรุ่งนี้ท่านพี่หยุดเรียน ข้าจะทำขนมให้ท่านพี่กิน"เสิ่นเยี่ยนชิงอยากกินไหม นางไม่รู้ จริงๆ แล้วนางอยากกินเองต่างหากขนมที่เสิ่นเยี่ยนชิงซื้อมาให้หวานเกินไป นางกินแล้วเลี่ยน แต่เพราะเหตุนั้นนางเลยอยากกินขนมขึ้นมาขนมนุ่ม ๆ หอม ๆ ไม่ได้กินนานแล้วสิฮูหยินจางพูดไม่ออก"ทำก็ทำสิ"นางดูออกว่าเมี่ยวเอ๋อร์อยากกินต่างหากสะใภ้สามถึงจะขยันขึ้น แต่ก็ยังตะกละเหมือนเดิมเจียงเมี่ยวยังไม่รู้ตัวว่าถูกจับได้ ตอนนี้นางกำลังบดแป้งอยู่ต้ายานั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ มองเจียงเมี่ยวใส่ข้าวที่แช่น้ำไว้แล้วลงในโม่หิน เมล็ดข้าวขาวใสถูกบดเป็นผง เจียงเมี่ยวเทน้ำเชื่อมลงไปคนให้เข้ากัน หมักหนึ่งชั่วโมงแล้วนำไปนึ่งไอร้อนพวยพุ่งออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวและน้ำตาลแดง ขนมหอมนุ่มน่ากินสุด ๆเจียงเมี่ยวป้อนขนมให้ต้ายาหนึ่งชิ้น รสชาติหวานละลายในปากทำให้นางยิ้มตาหยี"หวาน""อร่อยไหม?""อร่อยเจ้าค่ะ!อร่อยมาก"เจียงเมี่ยวลองชิมดูเช่นกัน ข้าวสมัยโบราณปลูกแบบปลอดสารพิษ กลิ่นจึงหอมกว่า เนื้อขนมเหนียวนุ่มหนึบอร

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 36

    ซูจื่อหลานไม่ได้คะยั้นคะยอ นางมองเจียงเมี่ยวลงจากรถแล้วจากไป"กลับจวน"...เจียงเมี่ยวถือของกลับบ้าน เดินช้าๆ มาตลอดทาง ใบหน้าของนางยังคงซีดเล็กน้อยนางฮูหยินจางกับสวีซื่อกำลังทำงานอยู่ที่ลานบ้าน เห็นนางดูใจลอยก็เป็นห่วง"เมี่ยวเอ๋อร์เป็นอะไรไป?เจอเรื่องอะไรมาหรือ?"ฮูหยินจางจับมือของนาง มือเย็นเฉียบมีเหงื่อเย็น ๆ เต็มฝ่ามือ"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านแม่ ข้าคงเหนื่อยที่เดินเยอะ พักสักหน่อยก็หายแล้ว"นางรู้สึกอบอุ่นใจ ความกังวลหายไป เจียงเมี่ยวนั่งลงดื่มน้ำแล้วหยิบของในตะกร้าออกมา"ท่านแม่ ข้าซื้อผ้ามาให้ท่านเจ้าค่ะ ใกล้จะเปลี่ยนฤดูแล้วพอดีจะได้ตัดเสื้อใหม่""ซื้อของมาให้ข้าอีกแล้ว!เสื้อผ้าข้ายังดีอยู่ ไม่เห็นต้องตัดใหม่เลย เก็บไว้ให้เหล่าซานเถอะ"ฮูหยินจางบ่น สะใภ้สามใช้เงินเปลืองจริงๆแต่พอมองผ้าสีครามผืนนั้น นางก็รู้สึกชื่นชอบขึ้นมาหน่อยๆตระกูลเสิ่นไม่ได้ซื้อผ้ามาสองปีแล้ว เสื้อผ้าของทุกคนก็มีแต่รอยปะชุน"ท่านพี่มีแล้วเจ้าค่ะ"าแล้วนางก็หยิบผ้าสีขาวอมฟ้าผืนนั้นออกมา "ข้าคิดว่าจะตัดชุดยาวให้เขาไว้ใส่ตอนสอบในระดับมณฑล จะได้ดูดีมีหน้ามีตา" เดือนหน้าเสิ่นเยี่ยนชิงจะไปสอบในระดับมณฑ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 35

    "หึ! เจ้าเป็นตัวอะไร? กล้าคิดเกินตัว หมายปองคุณหนูของข้างั้นหรือ!"ไฉ่อวิ๋นโกรธจนตัวสั่น เป็นแค่คางคกริอาจกินเนื้อหงส์ ไม่ดูสารรูปตัวเองเสียเลยซูจื่อหลานจิกเล็บจนจมเนื้อ ดวงตาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ในเมื่อไม่ยอมดื่มสุราคารวะ ชอบสุราลงทัณฑ์ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำดีด้วย"ลุงเจิง ซ้อมมันให้หนัก!"คนขับรถระงับความโกรธไว้ไม่อยู่ ไอ้สารเลวนี่กล้าลบหลู่คุณหนูของพวกเขา คงอยากตายแล้วกระมังลุงเจิงเคยเป็นทหาร ถูกบิดาของซูจื่อหลานจ้างมาคุ้มครองนางด้วยเงินจำนวนมาก เขาปล่อยหมัดไม่ยั้ง ลูกน้องทั้งสองของซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหน้าตาบวมปูด ส่วนซุนหยวนเป่าก็โดนเตะล้มลงแล้วต่อยท้องซ้ำซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนปัสสาวะราด ปวดท้องเหมือนไส้จะทะลัก"โอ๊ยๆ หยุดซ้อม หยุดซ้อมได้แล้ว โอ๊ย เจ็บปางตายแล้ว...""ตีให้ตายไปเลย ไอ้สารเลวกล้าล่วงเกินคุณหนูข้า!"ลุงเจิงไม่ปรานี ซุนหยวนเป่าถูกซ้อมจนหัวบวม ปากมีเลือดไหล ฟันหลุดออกมาหลายซี่"ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าแล้ว คุณหนูสวีไว้ชีวิตข้าเถอะ"พอได้สติซุนหยวนเป่าก็รู้ตัวว่าทำเรื่องโง่ ๆ ลงไป พี่ชายเขาเจอตระกูลสวียังต้องหลีกทาง เขาทำเช่นนี้ หาเรื่องใส่ตัวชัด ๆเขาห

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 34

    บุรุษที่ยืนอยู่ข้างหน้านั้นเตี้ยอ้วน ร่างกายกลมป้อม สวมชุดผ้าไหมชั้นดี ทว่ากลับดูตลกขบขัน ใบหน้าบวมเต็มไปด้วยไขมัน ตาเล็ก จมูกแดงเบียดกัน เขามองเจียงเมี่ยวอย่างหื่นกระหายยื่นมือจะมาลวนลามนางซุนหยวนเป่าดื่มเหล้ามาจากหอมงคล อยู่ในสภาวะมึนเมาเห็นเจียงเมี่ยวเลยคิดว่าเป็นนางฟ้า"สาวงามให้ข้าจุ๊บหน่อยสิ"เจียงเมี่ยวขยะแขยงจนทนไม่ไหว อาหารที่เพิ่งกินเกือบพุ่งออกมา ไม่คิดว่ากลางวันแสกๆ จะเจออันธพาล นางขมวดคิ้ว สายตาเย็นชา คว้าม้านั่งจากแผงบะหมี่ฟาดใส่"โอ๊ย! เจ็บ!"ซุนหยวนเป่าโดนตีที่แขน เจ็บปางตาย จึงได้สติ"บัดซบ !นังตัวดี กล้าตีข้างั้นหรือ?จับมันไป!"เขาโบกมือลูกน้องก็เข้ามามาดหมายจับเจียงเมี่ยว ทั้งสองยิ้มอย่างหื่นกระหาย ดูก็รู้ว่าทำเรื่องแบบนี้บ่อยครั้ง"กลางวันแสก ๆ แบบนี้ไม่มีกฎหมายหรือไง?"เจียงเมี่ยวถือม้านั่งขวางไว้พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว"กฎหมาย? ในเมืองฝูหรง ข้าคือกฎหมาย!"ซุนหยวนเป่าพูดอย่างอวดดีปกติเขามักใช้อำนาจของพี่ชายรังแกคนอื่น พอเห็นหญิงสาวคนไหนถูกใจก็ให้ลูกน้องไปลักพาตัวมา โดยไม่มีใครกล้าหืออือพ่อค้าแม่ค้าข้าง ๆ รู้นิสัยเขาดีจึงหลบไปไกล ๆ ไม่กล้าช่วยนางลูกน้อ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 33

    "มีสิ เมิ่งเอ๋อร์ปีนี้ก็หกขวบแล้ว"พูดถึงตรงนี้น้ำตาก็ไหล ลูกสองคนอยู่กับบ้านสามี ชาตินี้คงไม่มีโอกาสได้พบหน้าอีกแล้ว เจียงเมี่ยวเห็นว่าเป็นเรื่องเศร้าของเถ้าแก่เนี้ยฉินจึงไม่ถามต่อ เถ้าแก่เนี้ยฉินเช็ดน้ำตาแล้วฝืนยิ้ม "ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว"ทั้งสองคุยกันพลางดื่มชาก็มีคนรู้จักเดินเข้ามาในร้าน"มีลูกหอมเหลือไหม?""คุณหนูสวีมาพอดี วันนี้มีลูกหอมมาใหม่เจ้าค่ะ"เถ้าแก่เนี้ยฉินยิ้มเดินเข้ามาวางลูกหอมสามกลิ่นบนโต๊ะ"นี่กลิ่นผลไม้หรือ?"ซูจื่อหลานได้กลิ่นลูกพีช หวานอ่อนๆ ไม่ฉุน "ใช่แล้วเจ้าค่ะ นี่เป็นสินค้าใหม่ลูกหอมกลิ่นผลไม้""ข้าเอาทั้งหมดนี่แหละ"ทั้งสามกลิ่นนางชอบหมด อีกอย่างสิบลูกที่ซื้อครั้งก่อน เมื่อเอาไปให้คนอื่น ทุกคนต่างก็ชมนาง"เอ่อ...คุณหนูคงยังไม่รู้ ตอนนี้ร้านจำกัดจำนวนขายคนละสองลูกเจ้าค่ะ คุณหนูก็รู้ว่าร้านเล็ก ๆ มีลูกหอมแค่นี้ ถ้าคุณหนูซื้อไปหมด พวกเราจะทำการค้าได้อย่างไร?"ซูจื่อหลานไม่ได้มาหลายวันจึงไม่รู้เรื่องนี้ นางขมวดคิ้วเสียดายนางอยากได้ทั้งหมดนี่นาแต่นางก็เข้าใจความลำบากในของเถ้าแก่เนี้ยฉิน สุดท้ายจึงจำใจเลือกมาแค่สองลูก"งั้นข้าเอากลิ่นดอกกล้วยไม้กับกลิ่นผ

  • ทะลุมิติเข้ามาเป็นภรรยาตัวประกอบของท่านเสนาบดี   บทที่ 32

    "งั้นเจ้าต้องสัญญากับพี่ว่าจะอยู่ให้ห่างจากร้านของตระกูลเสิ่น""แน่นอน!"ไข่ที่หวังซื่อเอามาถูกน้องสะใภ้เก็บไว้ พอหวังเอ้อร์จู้ฟังสูตรเสร็จก็อ้างว่าบ้านไม่มีข้าวให้นางรีบกลับ ระหว่างทางหวังซื่อรู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าไม่ถูกต้อง ถ้าฮูหยินจางรู้เข้าจะเกิดอะไรขึ้น?...ตอนเจียงเมี่ยวออกจากบ้านเจอหวังซื่อกำลังกลับมาพอดี นางสะพายตะกร้า ท่าทางใจลอย"พี่สะใภ้ใหญ่ ท่านลุงกับท่านป้าเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?""อ๊ะ"หวังซื่อสะดุ้งตกใจ"สบายดี สบายดี"นางตอบตะกุกตะกักรีบเดินเข้าบ้านไปเจียงเมี่ยวขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ดูมีพิรุธแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจ คิดว่าหวังซื่อคงเหนื่อยจากการเดินทาง ฤดูร้อนผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาเยือนใบไม้ข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ถนนเพิ่งฝนตกจึงมีดินโคลนเละเทะ เจียงเมี่ยวจับชายกระโปรงเดินเลือกที่แห้งเมืองฝูหรงคึกคักไปด้วยผู้คน พอถึงหน้าประตูเมือง นางเกือบโดนรถม้าที่วิ่งมาด้วยความเร็วชน โชคดีที่หญิงวัยกลางคนข้าง ๆ ดึงนางไว้ไม่งั้นคงบาดเจ็บ"ให้ตายเถอะ! เป็นบ้าหรือไง? ขับรถเร็วบนถนนรีบไปเกิดใหม่งั้นหรือ?"หญิงวัยกลางคนคนนั้นเป็นคนใจร้อน จึง

DMCA.com Protection Status