Home / โรแมนติก / ทระนงแค้นสีเลือด / ตอนที่ 8 คำดูถูกดูแคลน

Share

ตอนที่ 8 คำดูถูกดูแคลน

last update Last Updated: 2024-11-22 14:04:39

“ ขอบคุณเจ้าค่ะ อีกห้าวันจะนำมาขายอีก” เหวยผิงนำขวดกระเบื้องมาห่อใส่ผ้าไว้ ก่อนจะเอ่ยลา

“ป่ะ…ไปซื้อถังหูลู่ของเจ้ากัน” หลังออกจากร้านเหวยผิงพาอี้เหวินตรงไปยังร้านขายถังหูลู่

“ขอรับ” 

“ถังหูลู่ อร่อยๆ เชิญทางนี้เลยจร้า เจ้าหนูเอากี่ไม้” แม่ค้าที่เห็นสองแม่ลูกเดินเข้ามาก็เอ่ยขึ้น

“เอาหนึ่งไม้ขอรับ” อี้เหวินเอ่ยสั่งกับแม่ค้า ผลไม้เคลือบน้ำตาลดูอร่อย

“เอาสี่ไม้เจ้าค่ะ” เหวยผิงที่เห็นอี้เหวินสั่งแค่ไม้เดียวเศร้าใจไม่น้อย รู้ว่าที่บ้านคาดเเคลนเงินก็ไม่โลภสั่งแค่อยากกิน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนางมีเงิน หากอี้เหวินอยากกินสิบไม้นางก็จะซื้อให้กิน

“ขอบคุณขอรับท่านแม่” อี้เหวินเห็นท่านแม่สั่งสี่ไม้ก็ดีใจ ถึงแม้ตัวเขาจะพอรู้ว่าท่านแม่ได้เงินมาจากการขายปิ่นกับน้ำผึ้งของเฟยฮวา แต่ก็ต้องเก็บไว้ซื้ออาหารและไว้ซ่อมบ้าน

“ต่อไปนี้เจ้าอยากกินอะไรก็บอกแม่ ไม่ต้องห่วงเรื่องเงิน แม่จะจ่ายให้เจ้าเอง” 

“ขอรับ” 

“สี่ไม้ สิบสองอีแปะ” เหวยผิงหันไปจ่ายเงินกับแม่ค้า แล้วรับถังหูลู่มาให้อี้เหวิน

“ขอบคุณขอรับ” 

เมื่อได้ของที่ต้องการอี้เหวินก็กินอย่างมีความสุข ถังหูลู่อร่อยเช่นนี้เอง ถึงว่าเด็กในหมู่บ้านชอบกินกัน

“อร่อยหรือไม่” เหวยผิงที่เห็นอี้เหวินกินไปยิ้มไปก็เอ่ยถาม

“อร่อยขอรับ ท่านกินหรือไม่” อี้เหวินยืนถังหูลู่ให้ท่านแม่

“ไม่หรอกเจ้ากินเลย” เหวยผิงเอ่ยปฏิเสธ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือนางเคยกินตอนอยู่ร่างเดิมแล้วน้ำตาลที่เคลือบผลไม้มันติดฟัน นางเลยไม่ชอบแต่นั้นมา

เหวยผิงพาอี้เหวินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้า เนื่องจากเสื้อผ้าที่นางใส่ทั้งสีซีด ทั้งมีรอยปะเต็มไปหมดเสื้อผ้าก็บางจับนิดจับหน่อยก็ขาด

“พวกเจ้าเข้ามาทำไม ยี้…ออกไปพวกข้าทานอย่าเข้ามาร้านข้าให้สกปรก” ทันทีที่เหวยผิงก้าวเข้ามาในร้านก็โดนเสี่ยวเอ้อของร้านสาดคำหยาบใส่ไม่ยัง ทำให้เหวยผิงโมโหเป็นอย่างมาก ตอนแรกนางเข้าร้านนี้เพราะเห็นว่าเป็นร้านใหญ่ น่าจะมีแบบเสื้อให้เลือกหลายลาย แต่กลับไม่คิดว่าจะโดนแบบนี้

“ ไปอี้เหวินเราไปร้านอื่นกัน” เหวยผิงจูงมือออกจากร้านทันที นางรับไม่ได้กับคนที่ชอบเหยียดหยามคนแบบนี้ สาบานเลยว่านางจะไม่ซื้อเสื้อผ้าร้านนี้ตลอดชีวิต

“พวกขอทานพวกนี้คิดว่าเสื้อผ้าร้านข้าราคาถูกหรือไงถึงชอบเข้ามากัน” เสียงแสบแก้วหูของเสี่ยวเอ้อที่ดังมาก ตามหลังทำให้เหวยผิงอยากจะกลับไม่ตัดลิ้นเสียให้ขาด คนอะไรดูถูกคนอื่นได้ขนาดนี้

แต่นางก็ต้องหยุดห้ามใจไว้ ไม่ให้อี้เหวินเห็นในด้านที่ไม่ดีของนาง…

“ทำไมเขาต้องว่าพวกเราด้วยขอรับ” อี้เหวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เสี่ยวเอ้อคนนั้นว่าพวกเขาเป็นขอทาน เขาไม่ได้เป็นขอทานสักหน่อย

“ฟังแม่นะ ในโลกนี้มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ หากคนไหนดีกับเราก็ดีตอบ หากคนไหนไม่ดีกับเรา เราก็อย่าไปยุ่งกับเขา”

“แล้วทำไมเราถึงไม่ตอบกลับคนไม่ดีขอรับ ในเมื่อพวกเขาทำไม่ดีกับเรา”

“เอ่อ…บางคนก็ไม่ได้มีค่ากับเราขนาดนั้นก็อย่าไปสนใจ แต่ถ้าบางครั้งเจ้าทนไม่ไหวก็จัดการให้สุดเลย” เหวยผิงถึงกับไปไม่เป็น นั้นสิในเมื่อมันทำไม่ดีกับเราได้เราจะอยู่เฉยทำไม

หลังจากเดินออกมาจากร้านนั้น เหวยผิงก็มองหาร้านขายเสื้อผ้าร้านใหม่ ก็เจอร้านขายเสื้อผ้าซึ่งอยู่ถัดไปอีกห้าร้าน เป็นร้านที่ไม่ใหญ่มาก

“ไม่ทราบว่าแม่นางต้องการเสื้อผ้าแบบไหน” หญิงชราที่เห็นคนเข้ามาในร้านก็เอ่ยทัก

“ข้าอยากจะได้เสื้อตัวใหม่ขนาดข้ากับลูกชายข้าอย่างละสามสี่ชุดเจ้าค่ะ” เหวยผิงที่เห็นเป็นหญิงชราก็เอ่ยอย่างนอบน้อม

“ได้สิ แบบแม่นางมีราคาตั้งแต่หนึ่งร้อยอีแปะไปจนถึงห้าร้อยอีแปะ ส่วนของเจ้าหนูนั้นมีราคาตั้งแต่แปดสิบอีแปะไปจนถึงสี่ร้อยอีแปะ” หญิงชราพาทั้งสองมายังจุดที่มีชุดตัดสำเร็จรูปไว้แล้ว

“เจ้าค่ะ อี้เหวินเจ้าอยากได้แบบไหนเลือกได้เลย เดี๋ยวแม่ซื้อให้”

“ขอรับ” อี้เหวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้เสื้อผ้าใหม่

เหวยผิงเองก็เลือกดู มีตั้งแต่เนื้อผ้าหยาบไปจนถึงเนื้อผ้าอย่างดี ซึ่งก็ตามราคา นางจึงเลือกมาสามชุด เป็นผ้าธรรมดาสองชุดแล้วเนื้อผ้าอย่างดีสองชุด หันไปทางอี้เหวิน ก็เห็นว่าเลือกได้สองสามชุดแล้ว

“พอหรือยัง” เหวยผิงที่เห็นอี้เหวินเดินถือชุดเข้ามาก็เอ่ยถาม

“พอแล้วขอรับ” มือน้อยลูบเสื้ออย่างมีความสุข

เหวยผิงจึงนำเสื้อที่เลือกไว้กับของอี้เหวินไปจ่ายเงิน แต่พอดูเสื้อผ้าที่อี้เหวินเลือกแล้วมีแต่แบบธรรมดา จึงเดินไปเลือกเนื้อผ้าอย่างดีมาให้อีกสองตัว

“ท่านยาย ที่นี่มีรองเท้าขายหรือไม่เจ้าค่ะ” เหวยผิงหันไปถามหญิงชรา หากจะให้นางเย็บใส่เองคงลำบาก ซื้อนั่นแหละเป็นวิธีง่ายที่สุด

“อยู่ทางนี้ เจ้าเลือกได้เลย” หญิงชราพายมือไปทางอีกฝั่งของร้าน

เหวยผิงจึงเดินไปเลือก โดนนางเลือกมาทั้งหมดสี่คู่ ของนางสองคู่ของอี้เหวินสองคู่ หนึ่งคู่สำหรับใส่ทั่วไปอีกหนึ่งคู่สำหรับไว้ใส่มาในอำเภอ จากนั้นนางก็นำมาให้หญิงชราคิดเงิน

“ท่านยาย ท่านยังมีผ้าไว้สำหรับห่มนอนหรือไหมเจ้าคะ” เหวยผิงคิดที่จะซื้อผ้าห่มอีก เพราะผืนเดิมขาดจนแทบจะให้ความอุ่นไม่ได้แล้ว

“มีสิ เจ้าต้องการแบบใด เนื้อผ้าหยาบสามร้อยอีแปะ เนื้อผ้าธรรมดาสี่ร้อยอีแปะ” 

“เอาแบบเนื้อผ้าธรรมดาสองผืนเจ้าค่ะ” ราคาถือว่าแพงไม่น้อย ราคาพอๆ กับเสื้อผ้าเลย

หญิงชราก็เข้าไปเอาผ้าห่มจากหลังร้านมาสองผืน ก่อนจะทำการคิดเงิน

“ชุดคนโตธรรมดาสองชุดสามร้อยอีแปะ เนื้อผ้าอย่างดีของสองชุดหนึ่งตำลึง ชุดเด็กธรรมดาสามชุดสามร้อยเจ็ดสิบห้า เนื้อผ้าอย่างดีสองชุดสี่ร้อยอีแปะ รองเท้าคนโตสองคู่สามร้อยห้าสิบอีแปะรองเท้าเด็กสองคู่สามร้อยอีแปะ ผ้าห่มสองผืนแปดร้อยอีแปะ ทั้งหมดสามตำลึงห้าร้อยยี่สิบห้าอีแปะ” 

เหวยผิงนำเงินออกมาจ่าย ถือว่าราคาสูงไม่น้อยสำหรับชาวบ้านปกติ แต่ก็สำหรับนางแล้วถือว่าเป็นจำนวนที่นางจ่ายได้

“ท่านยาย มีห้องสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือไม่เจ้าค่ะ” หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย เหวยผิงก็เอ่ยถามหาห้องเปลี่ยนเสื้อ

“มี อยู่ตรงประตูนั้น” หญิงชราชี้ไปที่ประตู ซึ่งห้องแต่งตัวที่หญิงชราว่าเป็นเพียงห้องขนาดเล็กที่ใช้ผ้าขึงไว้

“ขอบคุณเจ้าค่ะ” เหวยผิงจึงพาอี้เหวินเจ้าไปเปลี่ยนชุด พอเปลี่ยนให้อี้เหวินแล้ว นางจึงให้อี้เหวินไปรอข้างนอกแล้วนางก็เปลี่ยนในส่วนของนาง

เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยเหวยผิงก็พาอี้เหวินออกจากร้าน เดินเข้าไปในซอกร้าน แล้วเอาเสื้อผ้าทั้งหมดเก็บเข้าไปในมิติ หากนางถือกลับทั้งหมดนี้คงเป็นที่สงสัยเกินไป นางยังต้องซื้ออาหารกลับไปอีก

“เราจะไปไหนกันต่อขอรับท่านแม่” อี้เหวินเอ่ยถามหลังจากเดินออกมาซอกร้าน

Related chapters

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 9 หยางเหมย

    “เย็นนี้เจ้าอยากกินอะไรหรือไม่ เเม่จะทำให้เจ้าเอง” เหวยผิงหันมาถามอี้เหวิน เพราะนางกำลังจะพาอี้เหวินไปซื้ออาหารตุนไว้“อะไรก็ได้ขอรับ ท่านแม่ทำอะไรก็อร่อย”“หืม…ลูกใครเนี่ย ช่างปากหวานเสียจริง” เหวยผิงก้มหอมแก้มอี้เหวินด้วยความหมั่นเขี้ยวเหวยผิงพาอี้เหวินมาตรงพวกขายของกิน เนื่องจากเป็นเวลาช่วงเช้าๆ ทำให้มีผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก“เนื้อหมู เนื้อหมูสด พึ่งฆ่าเลย มาเลือกซื้อกันได้เลย” เสียงแม่ค้าส่งเสียงเรียกผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมา“ขายอย่างไรเจ้าค่ะ” เหวยผิงพาอี้เหวินเดินเข้าไปร้านขายหมูที่ดูใหญ่ที่สุด“เนื้อล้วนชั่งละสามร้อยอีแปะ เนื้อติดมันชั่งละสองร้อยห้าสิบอีแปะ ไม่ทราบว่าแม่นางต้องการแบบไหน” “ข้าเอาเนื้อติดมันสองชั่ง ข้าอยากจะรู้ว่ามีส่วนที่เป็นมันล้วนหรือไม่” เหวยผิงเอ่ยถามแม่ค้าดู เพราะนางไม่มั่นใจว่าคนที่นี่จะกินล้วนหรือไม่“มันล้วนหรือ แม่นางจะเอามันไปทำอะไร มันไม่อร่อยเลย” แม่ค้ามองเหวยผิงด้วยความแปลกใจ เหวยผิงเป็นคนแรกที่มาถามหามันล้วน“ข้ามีวิธีของข้าเจ้าค่ะ ไม่ทราบว่าท่านมีหรือไม่เจ้าค่ะ” “มี ข้ามีเยอะเลย คนส่วนมากไม่ค่อยซื้อมันทำให้ข้าต้องปาดมันทิ้งทุกวัน ว่า

    Last Updated : 2024-11-22
  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 10 สุราสายน้ำผึ้ง

    เมื่อมาถึงบ้านเหวยผิงก็แบ่งหยางเหมยออกมาประมาณสามจินล้างน้ำให้สะอาด ส่วนที่เหลือนางเก็บในมิติโดยมีอี้เหวินน้อยคอยเป็นลูกมือ กิจการแรกที่นางคิดจะทำก็คือสุราสายน้ำผึ้ง เมื่อภพที่แล้วนางถูกพี่สาวพาไปเรียนทำสุราสายน้ำผึ้ง จึงทำให้พอมีความรู้ติดตัวมาอยู่บ้าง อีกทั้งในภพนี้สุราก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้คนต่างซื้อกัน สุราที่นางจะหมักนี้มันหอมนุ่มจนสตรีสามารถทานได้เริ่มแรกนางเอาหยางเหมยมาบดให้พอแตกๆ แล้วก็ใส่ถังแล้วใช้ผ้าปิดหน้าถังไว้ไม่ให้อากาศเข้า“คงต้องไปซื้อถังใหม่เสียแล้วล่ะ” ถังที่เหวยผิงใช้เป็นถังที่ไว้ใช้สำหรับตักน้ำ เมื่อวานนางก็ลืมซื้อ เอาไว้คราวหน้าค่อยไปสั่งทำใหม่ ซึ่งนางเองก็ไม่รู้ว่าที่นางทำนี้จะได้ผลหรือเปล่า นางจึงเก็บถังหยางเหมยไว้ในมิติหลังจากหมักเสร็จแล้ว นางก็ไม่รู้จะทำอันใดอีกจึงมานั่งเล่นหน้าบ้านกับอี้เหวิน“ทำอันใดอยู่หรือ” เหวยผิงเดินเข้ามา ก็เห็นอี้เหวินกำลังขีดเขียนอะไรสักอย่างบนพื้นดิน“ข้าเขียนพวกเราขอรับ นี่ท่านแม่ นี่อี้เหวิน ส่วนนี่เฟยฮวา” อี้เหวินชี้ไปบนพื้นให้ท่านแม่ดูเหวยผิงที่เห็นรูปที่อี้เหวินวาดก็น้ำตาซึม นั่งลงข้างๆ อี้เหวินแล้วเอ่ยว่า“สวยมากๆ อี้เหวิ

    Last Updated : 2024-11-22
  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 11 พังพอนขาว

    เหวยผิงจึงหยิบขวดกระเบื้องที่ใส่น้ำทิพย์ขึ้นมากิน กลิ่นอันหอมหวานลอยคลุ้งไปทั่ว ทำให้ทั้งเฟยฮวาและเหล่าผึ้งงานบินมาหยุดต่อหน้าเหวยผิง มองน้ำทิพย์ที่อยู่ในขวดกระเบื้องตาเป็นประกาย“ถือว่าเป็นรางวัลของพวกเจ้าสำหรับวันนี้” เหวยผิงหยดน้ำทิพย์ลงใบไม้แล้วยื่นให้กับเหล่าผึ้งงานที่นำทางนางมาหาต้นหยางเหมยเหล่าผึ้งงานเองที่ได้รับอนุญาตก็บินมาเกาะใบไม้อย่างรวดเร็ว ดูดกินน้ำทิพย์อย่างเอร็ดอร่อย“นี่เหวยผิง ท่านต้องให้ข้าด้วยสิ ข้าก็พาท่านมานะ” เฟยฮวาเอ่ยประท้วงที่ตนไม่ได้รับน้ำทิพย์ เหมือนผึ้งงานของนาง“ได้สิ” เหวยผิงหยดน้ำทิพย์ไปที่หลังมือแล้วยืนไปใกล้ๆ เฟยฮวา“ขอบคุณ” เหวยผิงนั่งมองเหล่าผึ้งกินน้ำทิพย์อยู่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างสะกิดที่ขาหลังของนาง นางจึงหันไปมองก็พบว่าเป็นพังพอนขาวที่กำลังใช้เท้าอันน้อยเขี่ยนางไปมา“แล้วนี่มีพังพอนขาวด้วยหรือ” เหวยผิงมองเจ้าพังพอนน้อยอย่างแปลกใจ เพราะปกตินางเห็นแต่พังพอนสีน้ำตาล นางยังไม่เคยเห็นพังพอนตัวสีขาวมาก่อนเลย“อี้ๆ…” เจ้าพังพอนน้อยก็เขี่ยขาหลังไปมา“เจ้าต้องการอันใดหรือ” เหวยผิงที่เห็นพังพอนขาวเขี่ยอยู่อย่างนั้นจึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“อี้ๆ…อี้” เหมือ

    Last Updated : 2024-11-22
  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 12 บ้านใหม่ของเฟยฮวา

    หลังจากที่นางกำลังเตรียมของแล้วก็ได้ให้เฟยฮวาไปตามอี้เหวินกับเสี่ยวไป๋มาเปลี่ยนชุดเพื่อไปในตัวอำเภอ นี่ก็ยามอู่แล้วนางไม่รู้ว่าท่านลุงไป๋ซานจะเข้าไปในตัวอำเภออีกหรือไม่ ไม่งั้นคงต้องจ้างไปตัวอำเภอโดยเฉพาะเสียแล้วอี้เหวินที่ได้ยินว่าท่านแม่จะพาไปเที่ยวในตัวอำเภอก็อุ้มเสี่ยวไป๋วิ่งกลับเร็ว แล้วเข้าไปเปลี่ยนซื้อผ้าตัวที่สำหรับออกบ้าน“เสร็จหรือยังอี้เหวิน” เหวยผิงเตรียมตัวเสร็จแล้ว จึงส่งเสียงเรียกอี้เหวิน“เสร็จแล้วขอรับ ไปตัวอำเภอกัน” อี้เหวินพร้อมชุดใหม่เดินอุ้มเสี่ยวไป๋ออกมาจากห้อง และยังมีเฟยฮวาที่เกาะอยู่บนไหล่อี้เหวินอีกด้วยระหว่างเดินผ่านบ้านท่านป้ากุ้ยฉิน เหวยผิงก็ตะโกนเรียก“ท่านป้าท่านอยู่หรือไม่เจ้าคะ เหวยผิงเองเจ้าค่ะ” “อ่าวพวกเจ้านั้นเอง มีอันใดหรือ” กุ้ยฉินที่ได้ยินคนส่งเสียงเรียกก็ออกมาจากบ้าน“ข้าเอาหยางเหมยมาให้เจ้าค่ะ พอดีข้าชิมแล้วมันหวาน สดชื่นมากๆ ข้าเลยแบ่งมาให้ท่าน” เหวยผิงส่งตะกร้าที่นางแบ่งหยางเหมยมาให้บ้านกุ้ยฉินได้ลองกินบ้าง“ขอบใจเจ้ามากๆ ข้าก็ไม่ได้กินหยางเหมยนานแล้ว ดูสิมีแต่ลูกแดงๆ น่ากินไม่น้อย ว่าแต่พวกเจ้าจะไปไหนหรือแต่งตัวซะดีเชียว”“ข้าจะเข้าไปตัวอ

    Last Updated : 2024-11-22
  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 13 ลองทำเมี่ยนเปา

    “อ้าวแม่นาง ครั้งนี้เจ้าต้องการอันใดหรือ” เสี่ยวเอ้อที่เห็นคนคุ้นหน้าจึงเอ่ยถามขึ้น“ข้าต้องการถั่วห้าจิน แป้งขาวสิบจิน” “ถั่วจินละสามร้อยอีแปะ แป้งขาวจินละสองร้อยอีแปะ ทั้งหมดสามตำลึงห้าร้อยอีแปะ ยังต้องการอันใดอีกหรือไม่” เสี่ยวเอ้อเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ ก่อนจะไปเตรียมของที่เหวยผิงสั่งไว้“ไม่ทราบว่าไปส่งที่เกวียนของข้าได้หรือ” ตอนนี้ตะกร้านางก็เต็มแล้ว หากจะให้นางแบกของเพิ่มอีกสิบกว่าจินคงไม่ไหว ตอนสั่งนางไม่ได้คิดเลยว่าจะเอากลับอย่างไร“ได้ข้าจะให้คนของข้าไปส่งให้ ว่าแต่เกวียนของแม่นางอยู่ตรงไหนหรือ” เหวยผิงได้บอกตำแหน่งของเกวียนให้เสี่ยวเอ้อได้ทราบ พร้อมกับให้ค่าแรงอีกส่วนหนึ่งสำหรับคนที่ไปส่งของให้นาง“เหนื่อยหรือไม่” เหวยผิงหันมาถามอี้เหวินด้วยความเป็นห่วงเพราะนางพาอี้เหวินเดินเยอะไม่น้อย“ไม่เหนื่อยขอรับ สนุกมากข้าได้เห็นอะไรใหม่ๆ เยอะเลย” อี้เหวินเอ่ยตอบ เพราะมาเที่ยวในตัวอำเภอสนุกกว่าอยู่ที่บ้านไม่น้อย“ยังเหลือเวลาอีกนิดหนึ่ง แม่เห็นร้านขายตำราอยู่ร้านหนึ่ง เจ้าอยากได้กระดาษไว้วาดรูปหรือไม่” นอกจากเสี่ยวไป๋ที่เป็นเพื่อนเล่นแล้ว อี้เหวินก็ไม่มีอะไรทำอีกเลย“อยากขอรับ ข้าอยาก

    Last Updated : 2024-11-22
  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 14 เหตุใดเมี่ยนเปาราคาแพง

    ยามเฉิน…เช้านี้เหวยผิงตื่นมาก็เข้ามาดูแป้งที่ทำไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เปิดผ้าคลุมออกก็เห็นก้อนแป้งที่มีขนาดใหญ่ว่าในตอนแรกอยู่มากเหวยผิงเอาแป้งขาวมาโรยเป็นพื้นรองไม่ให้แป้งติดกับพื้น แล้วตัดแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ส่วนละเท่าๆ กันจากนั้นก็นวดขึ้นรูปจนเนื้อเนียนเป็นก้อนกลมๆ เมื่อทำเสร็จทั้งสี่ก้อน นางก็ใช้มีดกรีดหน้าแป้งให้เป็นลวดลายนำแป้งไปวางในหม้อเหล็กที่นางได้ทาน้ำมันมะกอกไว้ ปิดฝาแล้วเอาไปตั้งบนกองไฟ เหวยผิงตักฟืนบางส่วนไปวางบนฝาหม้อ วิธีนี้เป็นวิธีอบเมี่ยนเปาอีกแบบหนึ่ง รอเวลาที่เมี่ยนเปาสุกได้ที่กลิ่นหอมของเมี่ยนเปาส่งกลิ่นหอมยั่วยวน ให้อี้เหวินกับเสี่ยวไป๋ที่กำลังเล่นอยู่หลังบ้านวิ่งตามกลิ่นมาอย่างรวดเร็ว“หอมมาก ท่านแม่ท่านทำอันใดหรือ กลิ่นหอมไปถึงหลังบ้านเลย” อี้เหวินจ้องมองไปที่เตาอย่างอยากรู้ว่าท่านแม่ทำอาหารชนิดใดถึงได้หอมขนาดนี้“เมี่ยนเปา เจ้ารอก่อนอีกไม่ถึงหนึ่งเค่อก็ใกล้สุกแล้ว” “ขอรับ” หนึ่งเด็กน้อยหนึ่งพังพอนขาวนั่งรอหน้าเตาอย่างใจจดใจจ่อ อยากรู้ว่าสิ่งที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วมีหน้าตาเป็นอย่างไรระหว่างที่รอเมี่ยนเปาก้อนแรกสุก เหวยผิงก็เอาหยางเหมยมาหันเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วโรยไปก

    Last Updated : 2024-11-22
  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 15 ของโปรดของเหวยผิง

    “หน้าธรรมดาก้อนละยี่สิบอีแปะขอรับ ส่วนหน้าหยางเหมยก้อนละยี่สิบห้าอีแปะขอรับ ท่านลุงจะเอาอันไหน”“หน้าหยางเหมยเป็นอย่างไรหรือ” “ท่านแม่ใส่หยางเหมยลงไปด้วย มันจะให้รสเปรี้ยวหวานขอรับ” อี้เหวินเอ่ยอธิบายให้จางเหว่ยได้ฟังหลังจากได้ฟังท่านแม่อธิบายให้ลูกค้าคนก่อนๆ“งั้นข้าเอาทั้งหมดเลย”“จริงหรือขอรับ” อี้เหวิยเอ่ยถามเพื่อความแน่ชัด“จริงสิ”“ท่านแม่ ท่านลุงเอาหมดเลย” อี้เหวินหันมาบอกเหวยผิงที่อยู่ข้างๆ ด้วยความดีใจ“ทั้งหมดหนึ่งร้อยหกสิบอีแปะ คุณชายโปรดรอสักครู่นะเจ้าค่ะ”“ได้เลย ข้ายังไม่รีบสักเท่าไหร่” เนื่องจากกระทงใบไม้ที่เตรียมมาใส่ได้แค่หนึ่งถึงสองชิ้นเท่านั้น นางจึงต้องทำมันขึ้นมาใหม่“นี่เจ้าค่ะ” “แล้วท่านจะไปที่ไหนอีกหรือไม่” จางเหว่ยรับเมี่ยนเปามา แล้วเอ่ยถามเหวยผิง“ข้าจะไปซื้อของอีก หลังจากนั้นคงกลับบ้านเจ้าค่ะ” เนื่องจากจางเหว่ยเหมาเมี่ยนเปาไปหมดแล้ว ก็เริ่มเก็บของนางจะไปซื้อของไว้ทำสำหรับพรุ่งนี้เพิ่ม อีกทั้งหลังจากหักส่วนที่ไว้ลองชิม นางก็ขายได้หกร้อยสามสิบอีแปะ หักค่าแป้ง ค่าหยางเหมย ค่าจิปาถะอื่นๆ แล้วนางยังได้กำไรตั้งสามร้อยแปดสิบอีแปะ การค้าขายวันแรกถือว่าเป็นไปด้วยด

    Last Updated : 2024-11-22
  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 16 ค่าเล่าเรียน

    เช้าวันรุ่งขึ้น…วันนี้อี้เหวินตื่นตั้งแต่ยามเฉินมาช่วยเหวยผิงจัดเมี่ยนเปาใส่ตะกร้า หลังจากที่นางซื้อหม้อมาเพิ่มอีกสองใบ ทำให้ใช้เวลาในการอบขนมน้อยลง จำนวนเมี่ยนเปาหกสิบลูกสำหรับเช้านี้ เหวยผิงใช้เวลาไปแค่หนึ่งชั่วยามครึ่งเมื่ออบเสร็จนางก็มุ่งตรงไปยังลานหมู่บ้านก็ไม่พบเห็นเกวียนของไป๋ซานแล้ว นางเอ่ยถามคนเเถวนั้นก็บอกว่าเกวียนของไป๋ซานออกไปตั้งแต่สองเค่อจะได้แล้ว“เอาอย่างไรดีขอรับท่านแม่” อี้เหวินเอ่ยถามขึ้น เมี่ยนเปาเต็มตะกร้าขนาดนี้หากจะไม่เอาไปขายก็ไม่ได้“งั้นเราไปหาท่านลุงกัน ใช้เกวียนของท่านลุงไปตัวอำเภอ” เมื่อได้อย่างนั้น เหวยผิงจูงมืออี้เหวินกลับขึ้นมาที่บ้านชุนเทียน“ท่านลุง ท่านลุงเจ้าค่ะ อยู่บ้านหรือไม่” เหวยผิงส่งเสียงเรียกคนในบ้าน ไม่นานชายวัยกลางคนก็เดินออกมาจากบ้าน“มีอะไรหรือเหวยผิง มาเรียกลุงที่หน้าบ้าน” “ข้าอยากจะจ้างท่านลุงไปส่งข้าในตัวอำเภอเสียหน่อยเจ้าค่ะ พอดีข้ามาไม่ทันเกวียนของท่านลุงไป๋ซานข้าจะไปขายเมี่ยนเปาเจ้าค่ะ” “งั้นหรือ รอข้าสักครู่ข้าไปเอาเกวียนก่อน เมี่ยนเปาของเจ้าเมื่อวานที่กุ้ยฉินเอามาให้ข้าอร่อยไม่น้อย เอาเป็นว่าเจ้าเอาเมี่ยนเปาจ่ายเป็นค่าเกวียนก็

    Last Updated : 2024-11-22

Latest chapter

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 44 จบบริบูรณ์

    เช้าวันรุ่งขึ้น…ในตำหนักของหนิงเซียนต่างวุ่นวายตามหาหมอหลวงอย่างเร่งรีบ เมื่อพบว่าหนิงเซียนโดนทำลายร้ายตอนนี้ทั้งวังหลวงต่างอยู่ในความตื่นตระหนก เหตุใดเมื่อคืนถึงบังอาจมีผู้ลักลอบเข้ามาทำลายว่าที่ฮองเฮาได้“ฝ่าบาทหมอหลวงมาแล้วเจ้าค่ะ” เข่อซิงวิ่งมาพร้อมกับหมอหลวง เข้ามาในห้องของที่มีร่างของหนิงเซียนนอนเจ็บอยู่ที่แขนของนางนั้นยังมีเลือดซึมอยู่ตลอดหมอหลวงเข้ามาแล้วก็รีบจัดการกับแผลของหนิงเซียน “ฝ่าบาทพระองค์โปรดออกไปก่อนได้หรือไม่ ข้าต้องใช้สมาธิอย่างมากในการรักษาคุณหนูหนิงเซียน” หมอหลวงหันมาบอกจางหมิงที่ยังยืนอยู่ในห้องดู“ข้า…” ทีแรกจางหมิงมีท่าทียึกยัก แต่พอคิดว่าจะต้องรีบรักษาหนิงเซียนให้เร็วที่สุดจึงตัดสินใจออกจากห้องไปพอหมองหลวงเห็นว่าฝ่าบาทออกไปแล้วก็หันมารักษาให้กับหนิงเซียน หยิบยาขึ้นมาก่อนจะป้อนให้กับหนิงเซียน ดวงตาที่หลับอยู่ของหนิงเซียนเปิดขึ้นทันทีคว้ายาในมือของหมอหลวงก่อนจะป้อนใส่ปากของหมอหลวงอย่างรวดเร็วนางตวัดร่างขึ้นก่อนจะล็อกร่างของหมอหลวงไว้ให้กลืนยาเม็ดนั้นลงไป ด้วยความที่ร่างหมอหลวงบอบบางเกือบเท่านางทำให้หมอหลวงไม่สามารถขัดขืนได้เลยทำใจต้องกลืนยาเม็ดนั้นลงไป“เจ

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 43 ยามวิกาล

    “เจ้าหัวเราะอันใด” ซูเม่ยมองไปที่หนิงเซียนอย่างไม่เข้าใจ เหตุใดมันจึงไม่เป็นไปตามที่นางคาดไว้“ข้าแค่เพียงชื่นชมในบทละครที่คุณหนูซูเม่ยตั้งใจเล่นเป็นอย่างมาก แต่เพียงคุณหนูบทของท่านกลับไม่เป็นจริงสักเรื่อง”“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”“ท่านยังต้องถามข้าอีกหรือ ข้าอยากจะรู้นักว่าคนที่ไปสืบเรื่องนี้มาเหตุใดจึงสืบมาได้เพียงแค่นี้ เรื่องราวที่เหตุขึ้นที่ซีฉินออกจะใหญ่โต งั้นตัวข้าหนิงเซียนจะเล่าให้ทุกคนฟังในเรื่องที่ถูกต้อง จะได้เล่าเรื่องของตระกูลข้าได้อย่างตรงไปตรงมาไม่บิดเบือน” หนิงเซียนไล่สายตาไปหาผู้คนในงานนี้ ผู้ที่เผลอสบสายตากับนางก็รีบหลบสายตาหนีทันที“เรื่องที่ตระกูลหม่าของข้าถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏนั้นเป็นความจริง แต่มันก็เป็นสิ่งที่ตระกูลข้าถูกใส่ร้ายเท่านั้น พวกบ้าหลงระเริงอยู่ในอำนาจหวาดกลัวต่อตระกูลของข้าที่ย่อมสละเลือดเนื้อเพื่อแผ่นดิน คุณหนูซูเม่ยต่อจากนี้ท่านจงตั้งใจฟังให้ดี… “หนิงเซียนจ้องเข้าไปในดวงตาของซูเม่ยที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก” ตัวข้ากองทัพทมิฬของท่านพ่อข้าและยังมีกองทัพหนันเหลียงร่วมจัดการโค่นบัลลังก์ตระกูลราชวงศ์องค์ก่อนนั้นคือสิ่งที่คุณหนูซูเม่ยขาดหายไป” หลังจาก

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 42 คณะทูตจากซีฉิน

    ภายในท้องพระโรง“ฝ่าบาทมีม้าเร็วจากซีฉินส่งสารมาว่าเหล่าคณะขุนนางของซีฉินจะมาเยี่ยมเยือนหนันเหลียงในอีกห้าวันข้างหน้าขอรับ” สิ้นสุดเสียงของนางกองทำให้เหล่าขุนนางในท้องพระโรงต่างถกเถียงกันกับการมาเยือนของคณะซีฉินในครั้งนี้ เพราะทั้งสองแคว้นนั้นก็นับว่าไม่ได้ปรองดองกันถึงขนาดที่ว่าจะไปมาหาสู่กันได้แต่ข้อถกเถียงก็ข้อถกเถียงเมื่อจางหมิงสั่งให้ขุนนางทุกคนเตรียมความพร้อมให้ดีในการมาเยือนของคณะซีฉินอีกห้าวันข้างหน้า“คุณหนูเจ้าคะ คณะจากซีฉินจะมาเยี่ยมเยือนที่นี่ในอีกห้าวันข้างหน้า” เหมยฮวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น“ท่านลุงจะมาที่นี่หรือ” หนิงเซียนแปลกใจเหตุใดนางถึงไม่รู้ข่าวเกี่ยวกับซีฮัน“ใช่เจ้าค่ะ ตอนนี้ฝ่าบาทสั่งให้เหล่าขุนนางเตรียมความพร้อมต่างๆ ท่านซ่งเสี่ยนเองก็เริ่มสั่งให้นางกำนัลเตรียมการสถานที่วังหลวงรอแล้วเจ้าค่ะ”หนิงเซียนพยักหน้าเข้าใจ นางก็อยากรู้ว่าที่ซีฮันมาเยือนหนันเหลียงครั้งนี้ด้วยเหตุอันใด “คงจะมีเรื่องให้ตื่นเต้นอีกแล้ว”ห้าวันผ่านไปตลอดเวลาที่ซีฉินส่งมาแล้วมาว่าจะมาเยี่ยมเยือนให้อีกห้าวันข้างหน้า คนในวังหลวงต่างมีหน้าที่จัดเตรียมสถานที่ให้พร้อม และวันนี้เป็นวันที่คณะของ

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 41 ราชโองการ

    “คุณหนูเกิดเรื่องใหญ่เข้าเจ้าค่ะ” เสียงของเข่อซิงดังมาตั้งแต่หน้าตำหนัก ทำให้หนิงเซียนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องยาต้องออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น“เกิดอะไรขึ้นหรือเข่อซิง” ท่าทีของเข่อซิงดูร้อนรนไม่น้อย“ข่าวเกี่ยวกับท่านเจ้าค่ะ ตอนนี้ในเมืองต่างกล่าวถึงตัวท่านอย่างสนุกเลยเจ้าค่ะ เกี่ยวกับที่ตระกูลหม่าของท่านเป็นตระกูลแม่ทัพที่ก่อกบฏร้ายแรงสังหารชาวบ้านไม่เว้น แต่ดีที่ราชวงศ์ของตงหยางสั่งประหารได้ทัน พวกเขายังเล่นกันอีกกว่าเป็นท่านที่หนีรอดมาได้” เข่อซิงที่ออกไปซื้อของให้กับลี่หลิน นางจึงบังเอิญได้ยินเข้าหนิงเซียนได้ยินอย่างนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนแปลงไปมากนัก” งั้นหรือเจ้าจะตกใจไม่ใย “ทำให้เข่อซิงสงสัยไม่น้อยตอนนี้ตระกูลของท่านกำลังถูกมองไม่ดีอยู่นะเจ้าคะ” แต่… “” มันไม่ใช่ความจริง เหตุใดข้าต้องเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องพวกนั้นด้วยล่ะ“เรื่องที่กล่าวมาไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น เหตุใดจึงไม่บอกไปด้วยละว่านางคนนี้ที่เป็นคนล้มราชวงศ์ซีฉินกับมือเอง” เจ้าค่ะ “เข่อซิงพยักหน้าตอบรับ ในเมื่อหนิงเซียนไม่ดูเดือดร้อนกับข่าวที่เกิดขึ้นเลยนางก็หาได้เดือดร้อนไม่“ขบวนองค์หญิงสามเสด็จ” เสียงของใครบางคนดัง

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 40 ข่าวลือ

    หนิงเซียนที่ได้ฟังเรื่องราวของก็รู้สึกสงสารจางหมิงไม่น้อย เป็นถึงเชื่อราชวงศ์ใช่ว่าจะสุขสบาย ต้องคอยระวังภัยกันเอง“แล้วฝ่าบาทจะตื่นจากบรรทมเมื่อใด”“หากไม่มีดอกไม้นั้นแล้ว กว่าพิษที่อยู่ในร่างกายของจางหมิงจะหายหมด ข้าคิดว่าอย่างต่ำสี่ถึงห้าวัน”ซ่งเสี่ยนพยักหน้าอย่างโล่งใจ คิดว่าจางหมิงจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้เสียอีกเมื่อจัดการตรงนี้เสร็จรีบร้อยนางจึงลาซ่งเสี่ยนกลับตำหนักวันนี้นางคิดที่จะไปเยี่ยมพวกเสี่ยวเปาเสียหน่อย นางเดินมาถึงทางออกเห็นว่ามู่เฉินยืนอยู่หน้าประตูด้วยสีหน้านิ่งเรียบ” มีอันใดหรือมู่เฉิน “” คุณหนูท่านจะกลับตำหนักแล้วหรือขอรับ “” ใช่ ว่าแต่เกิดอันใดขึ้น “” ตอนนี้เหล่าขุนนางต่างหมายจะเข้ามาเยี่ยมฝ่าบาทขอรับ “ตอนนี้มีเหล่าขุนนางประมาณหกเจ็ดคนยืนรออยู่หน้าตำหนักของจางหมิงเพื่อหวังจะเข้ามาดูอาการ” มีทางออกอื่นหรือไม่ “หนิงเซียนเองก็ไม่อยากปะทะขุนนางพวกนั้นในตอนนี้หรอกมู่เฉินได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้า ทางลับของตำหนักของฝ่าบาทย่อมมีอยู่แล้ว” ตามข้ามาขอรับ “หนิงเซียนเดินตามมู่เฉินออกไปทางลับที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของตำหนัก” ทางเดินไปทางนี้แล้วเลี้ยวซ้าย ท่านจะไปออกหลังน้ำตกใ

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 39 ดอกนิดนิรันดร์

    ทันทีที่นางเข้ามาในห้องบรรทมของจางหมิง สิ่งที่ทำให้นางขมวดคิ้วอย่างแรกก็คือกลิ่นของกำยานนางรู้สึกว่าในกลิ่นของกำยานนี้มีบางอย่างแอบแฝงอยู่ แต่นางปล่อยผ่านมองไปที่เตียงก็เห็นร่างอันคุ้นเคยนอนแน่นิ่งอยู่กับเตียง ผิวกายซีดขาวราวกับคนตายระหว่างนั้นนางก็ยืนรอเพราะตอนนี้กำลังมีหมอหลวงคอยตรวจอาการของจางหมิงอยู่“หมอหลวงอาการของฝ่าบาทเป็นเช่นไรบ้าง” หลังจากที่หมอหวังเหว่ยตรวจเสร็จแล้วก็เข้าไปถามหมอหลวงหันมาพบว่ามีหญิงสาวผู้หญิงยื่นจ้องมองมาที่เขาด้วยสายตาเรียบนิ่งก็ชะงักเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบหวังเหว่ย “อาการฝ่าบาทคล้ายคนปกติ ชีพจรเต้นมั่นคงดูเหมือนคนแข็งแรงทั่วไปแต่ที่ข้าสงสัยคือผิวที่ซีดราวกับคนตายของฝ่าบาท ข้าคงต้องขอไปปรึกษาหารือกลับหมอหลวงคนอื่นๆเสียก่อน ท่านองครักษ์หวังเหว่ยท่านโปรดวางใจ” หมองหลวงเอ่ยตอบพลางเหลือบตาไปมองหญิงสาวที่ยืมอยู่ในห้องนี้อีกคน“เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านมาก คุณหนูเชิญท่านตรวจดูอาการของฝ่าบาทได้เลย” หวังเหว่ยเอ่ยขอบคุณหมอก่อนจะหันมาบอกกับหนิงเซียน“ไม่ได้ ท่านหวังเหว่ยนางเป็นใครกล้าดีอย่างไรถึงให้นางมาจับตัวฝ่าบาทท่านไม่รู้หรือว่าตอนนี้ฝ่าบาทกำลังจะประชวรอยู่” หมอหลวง

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 38 เกิดเรื่องกับฝ่าบาท

    ขบวนรถม้าของหนิงเซียนมาจอดอยู่หน้าเรือนขนาดใหญ่ ทำให้เด็กต่างมองด้วยความตื่นเต้น“พี่หนิงเซียนพวกเราจะอยู่ที่นี่กันหรือเจ้าคะ” เปาซานเอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น มองไปภายในเรือนด้วยความอยากรู้อยากเห็น นางไม่เคยเห็นเรือนที่มีขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อนเลยหนิงเซียนพยักหน้าตอบลง” ใช่นับตั้งแต่วันนี้ไปพวกเจ้าจะต้องอยู่ที่นี่ ข้าจะมีอาหารให้พวกเจ้ากินทุกมื้อและยังจะจ้างคนมาสอนหนังสือให้กับพวกเจ้าด้วย “นางคิดมาดีแล้ว เด็กๆ พวกนี้นางจะรับดูแลเอง” จริงหรือขอรับ “เสี่ยวเปามองไปที่หนิงเซียนด้วยสายตาเปล่งประกายไม่คิดว่าเขาจะได้เรียนหนังสือเหมือนกับคุณหนูคุณชายตระกูลใหญ่” ใช่ “” เอาละทุกคนอยู่ที่นี่ต้องทำตามกฎเข้าใจหรือไม่ หากใครดื้อเกเรจะต้องถูกลงโทษ พวกเจ้าทุกคนแยกชายหญิงแล้วจับคู่กัน “เด็กที่ได้ยินอย่างนั้นก็ทำตามที่หนิงเซียนบอกโดยมีพวกเหมยฮวาคอยช่วยเสี่ยวเปาที่สงสัยจึงเอ่ยถามออกไป” เหตุใดต้องแยกชายหญิงแล้วจะต้องจับคู่ด้วยขอรับ “” พวกเจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าชายหญิงมีความแตกต่างกันนั้นจึงเป็นเหตุที่ข้าให้พวกเจ้าแยกชายหญิง ส่วนที่เจ้าถามว่าจับคู่ทำไม เพราะคู่ของพวกเจ้านั้นจะต้องพักอยู่ในห้องเดียวกัน คอยช

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 37 คนของท่านพ่อ

    “พี่หนิงเซียนท่านลุงป่วยเป็นอันใดขอรับ”“ท่านลุงก่อนที่ท่านจะล้มป่วยท่านทำงานอย่างหนักใช่หรือไม่”“ขอรับ” ฮุ่ยซานเอ่ยตอบตามจริง เพราะเขาเองก็อยากหาจากโรคบ้าๆ นี้แล้ว“บ้างเวลาท่านรู้สึกแน่นที่อกข้างซ้ายใช่หรือไม่ “” ขอรับ ข้าเป็นอันใดหรือขอรับ “เพราะอาการที่หญิงสาวตรงหน้าเอ่ยตรงตามที่เขาเป็นทุกอย่าง” จะนับว่าร้ายแรงสิ่งที่ท่านเป็นมันก็ไม่ได้ดูร้ายแรงเท่านั้น ร่างกายท่านเพียงอ่อนล้าจากการทำงานอย่างหนักทำให้ร่างกายของท่านมีบางอย่างผิดปกติ ดังนั้นเวลาที่ท่านทำงานหนักพักผ่อนไม่เพียงพอ มันจะทำให้อาการเหล่านี้กลับมาอีก ส่วนที่ท่านยังไม่หายก็เพราะไม่ได้รับอาหารที่เพียงพอและยาที่ตรงตามโรค“แล้วข้าจะต้องทำอย่างไรถึงจะต้องไม่เป็นมันอีกขอรับ” ฮุ่ยซานไม่อยากเป็นโรคนี้อีกแล้ว มันช่างทรมานเหลือเกินที่จะต้องนอนอยู่บนเตียงเฉยไม่มีแรงไปทำสิ่งใด“ง่ายต่อจากนี้ท่านต้องหยุดทำงาน แล้วดูแลตัวของท่านให้ดี”“ไม่ได้ข้าหยุดทำงานไม่ได้ หากข้าหยุดพวกเด็กๆ ก็จะไม่มีอาหารประทังชีวิต”“ท่านลุงทางอารามไม่ส่งอาหารมาให้พวกเราแล้วขอรับ” เสียงของเสี่ยวเปาทำให้ฮุ่ยซานหันไปโดยเร็ว“อะไรกันข้าไม่ได้ไปทำงานเพียงไม่กี่วันพ

  • ทระนงแค้นสีเลือด   ตอนที่ 36 ให้ความช่วยเหลือ

    “เด็กน้อยเจ้าเป็นอย่างไร” หนิงเซียนพยายามปลุกเด็กน้อย แต่ไม่ว่านางจะทำอย่างไรเด็กชายก็ไม่ตื่นขึ้น ดูจากอาการแล้วน่าจะอดอาหารมาเป็นเวลานาน นางจับชีพจรพบว่าชีพจรเต้นเบาอย่างมาก“จางหมิงท่านไปซื้อยาสมุนไพรแถวนี้มาให้ข้าหน่อย” หนิงเซียนบอกรายชื่อสมุนไพรที่ต้องการให้กับจางหมิง เพราะกระเป๋ายาของนางไม่ได้เอามาด้วยเลยต้องหาเอาจากที่นี่แทน“คุณชายเกิดอันใดขึ้นขอรับ” คนขับรถม้าเห็นว่าเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้นจึงเข้ามาถาม“เจ้าไปซื้อสมุนไพรพวกนี้มาให้นาง” จางหมิงหันไปบอกกับคนขับรถม้าอีกหน“ขอรับ”หนิงเซียนเอาน้ำให้เด็กชายจิบอย่างช้าๆ รอเวลาที่คนของจางหมิงไปซื้อสมุนไพรมาให้นาง หนิงเซียนเห็นว่าเริ่มมีคนสนใจมากขึ้น นางจึงอุ้มเด็กชายขึ้นแล้วพาตรงไปยังรถม้าเวลารักษานางไม่ค่อยชอบให้คนมาดูมากนัก มันจะชอบมีพวกปากมากติติงการรักษาของนาง“ข้าอุ้มเอง” จางหมิงเข้าไปแย่งเด็กชายมาอุ้มด้วยตัวเองก่อนจะพาไปยังรถม้าหนิงเซียนที่เห็นอย่างนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมากรีบตามจางหมิงไปติด ไม่นานคนขับรถม้าก็นำสมุนไพรที่ซื้อมาให้กับนาง“ท่านโปรดรออยู่ข้างนอก” หนิงเซียนให้จางหมิงออกไปรออยู่ข้างนอกก่อนที่นางจะเริ่มทำการรักษาให้กั

DMCA.com Protection Status