อ่า..ฉันคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในช่วงตกหลุมรักล่ะ เวลาตกหลุมรักใครสักคนหัวใจก็จะเต้นแรง หน้าแดงทุกที ในตอนที่เจอเขาใช่ไหม?
อาการมันเป็นแบบนั้นเลยในยามที่หันไปมองภาพวาดขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ตรงหัวเตียง “วันนี้ก็ยังคงหล่อเหมือนเดิมเลยนะคะมาไคล์ ถ้าได้ฝันถึงคุณก็ดีสิ” เธอรู้แล้วน่า..ว่าเขาเป็นตัวร้าย แต่เขาโตมาในครอบครัวประสาทแดกแบบนั้นมันเลยหล่อหลอมให้เขาต้องร้ายเพื่อมีชีวิตรอด ถึงแม้ว่าเขาจะสังหารผู้คนมากมาย แต่เพราะเขาเป็นแม่ทัพนี่ เขาต้องปกป้องจักรวรรดิ แถมยังต้องปกป้ององค์รัชทายาทที่ไม่ได้เรื่องนั่นอีก เป็นพระเอกประสาอะไรไม่ยอมออกไปรบ อยู่แต่ในพระราชวังเพื่อสั่งการ ผู้ที่ต้องออกไปจับดาบออกรบและปกป้องราชวงศ์มีแค่ตัวร้ายสุดหล่อของเธอเท่านั้นเอง.. ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่หรอกที่เขาลุกขึ้นมาก่อกบฏในตอนที่รู้ว่าอเดเรียกับองค์รัชทายาทฮาร์วีจะแต่งงานกันน่ะ ถึงแม้นิยายเรื่องเจ้าหญิงผู้ถูกรักจะเป็นนิยายฮาเร็มแต่ก็ไม่มีฉากรักของอเดเรียกับมาไคล์เลย ซึ่งมัน..ดีมากๆ เขาเป็นของฉันจ้า นางเอกของเรื่องมีผู้ชายที่รักเยอะแล้วอย่ามายุ่งกับเมนของฉันเลย ฉันค่อยๆ หลับตาลงช้าๆ เพราะทำงานมาเหนื่อยทั้งวัน ฉันจึงเข้าสู่ห้วงนิทราได้อย่างง่ายดาย.. วันนี้ฉันอยากฝันถึงคุณนะคะมาไคล์ อยากเจอคุณสักครั้ง..ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากโอบกอดคุณจากทุกความเจ็บปวดทั้งปวด นางเอกของเรื่องไม่รักคุณก็ไม่เป็นไรนะคะ เพราะว่าฉันที่อยู่ตรงนี้จะรักคุณเอง!! “ลืมตาขึ้นมา อย่าแสร้งทำเป็นอ่อนแออยู่เลยทารีน่า รีบมาคุยเรื่องนี้ให้จบ เราจะได้แยกย้ายกันกลับบ้าน” น้ำเย็นจัดถูกสาดเข้ามาใส่ใบหน้าของเธอ และแน่นอนเธอลืมตาขึ้นมาด้วยความรวดเร็วเพราะว่าน้ำที่สาดมามันเย็นราวกับน้ำแข็งเลย ดวงตากลมโตพลันเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอเห็นใบหน้านี้มานับครั้งไม่ถ้วนจากรูปภาพบนหัวนอนแต่ในตอนนี้เขากำลัง กะพริบตา.. เธอยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองก่อนจะกรีดร้องออกมาในใจ นี่เธอกำลังฝันอยู่ใช่ไหม เธอฝันเห็นมาไคล์ แถมยังอยู่ใกล้กันในระยะประชิดอีกด้วย มือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมากอบกุมใบหน้าของเขาเอาไว้ มันอบอุ่นเหมือนกับว่าเขากำลังมีชีวิตอยู่เลย “มาไคล์...” “เหอะ! นี่เจ้ากล้าเรียกชื่อของข้าอย่างนั้นหรือ? ช่างไม่หวาดกลัวความตายหรืออย่างไร ถึงได้กล้าเรียกชื่อของผู้กุมความตายเช่นนี้?” ฉายาของเขาในสนามรบคือทารอนผู้กุมความตาย ไม่มีใครกล้าเรียกชื่อของเขาออกมาเพราะทุกคนต่างหวาดกลัว “นี่คงเป็นความฝันที่เหมือนจริงที่สุดเลย ขะ..ขอจูบสักครั้งได้ไหมคะ จะไม่ลืมพระคุณเลย” หลังจากนั้นเธอก็เคลื่อนใบหน้าไปหาเขาแต่ทว่าทำไมริมฝีปากของมาไคล์ถึงได้เย็นเฉียบขนาดนี้กันนะ เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังจูบบนดาบของเขา “หากกล้าทำเรื่องเช่นนี้อีก ดาบเล่มนี้จะแทงเข้าไปในปากเจ้าแทน” อ่า..โหดชะมัดเลยล่ะพ่อคุณ เธอรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองในทันทีเมื่อเขาขู่ออกมาเช่นนั้น “อย่าทำให้ข้าเสียเวลาทารีน่า รีบบอกมาเถอะว่าอเดเรียอยู่ที่ไหน ความอดทนของข้ามันไม่ได้มีจำกัดอย่างที่เจ้าคิดหรอกนะ” ทารีน่างั้นเหรอ? นี่นางร้ายคนนั้นก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอเนี่ย ว้าว..เป็นความฝันที่คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยได้เห็นใบหน้าสวยๆ ของนางร้ายอย่างทารีน่าด้วย เธอหันไปมองด้านหลังของตัวเองก็ไม่เจอใคร ไม่อยู่ข้างหลังแบบนี้ แสดงว่าอยู่ด้านหลังของท่านมาไคล์ใช่หรือไม่ เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอก็โยกใบหน้าไปด้านข้างเพื่อมองไปยังด้านหลังของท่านมาไคล์ ไม่มีใครอยู่เลยนี่นา..ในที่แห่งนี้มีแค่เธอและเขาเท่านั้นเอง มีแค่เราสองคนแต่เมื่อครู่เขาทำท่าทางเหมือนกับกำลังคุยกับทารีน่า ฮะ..ฮ่า!! ไม่ใช่หรอกมั้ง เธอคงไม่ได้ฝันว่าตัวเองเป็นทารีน่าหรอกใช่ไหม? เธอหันไปหาเงาน้ำที่สะท้อนอยู่บนพื้น สิ่งที่เด่นชัดไม่ใช่ใบหน้านี้แต่เป็นผมสีแดงแปร๊ดที่อยู่บนศีรษะของเธอต่างหาก..อย่างไม่ต้องสงสัยนี่เธอฝันว่าตัวเองเป็นทารีน่าจริงๆ ด้วยสินะ!! “อะ.เอ่อ ท่านดยุคกำลังเข้าใจผิด คือข้าไม่ได้..” “ข้าจะนับถึงสาม หากเจ้ายังไม่เปิดปากบอกที่อยู่ของอเดเรีย ดาบนี่จะแทงทะลุร่างกายของเจ้าเป็นแน่..” ก็แทงมาสิโว้ย นี่มันในฝัน เพราะอย่างนั้นมันไม่เจ็บหรอก เธอน่ะไม่ยอมให้เขาไปหาอเดเรียหรอก ไหนๆก็ฝันว่าเข้ามาอยู่ในร่างของนางร้ายแล้วก็จะร้ายซะให้สาแก่ใจเลย!! “ข้าไม่มีทางบอกที่อยู่ของอเดเรียให้ท่านหรอกค่ะ ข้าไม่อยากให้ท่านหานางพบเจอเพราะว่าข้ารักท่าน...” “ฉึก!!..” ดาบในมือของเขาแทงลงไปที่สีข้างของเธอ เลือดสีแดงสดไหลรินออกมายังส่วนที่ถูกแทง พร้อมๆ กับ..ความเจ็บปวด... ห๊ะ!! ทำไมเจ็บเหมือนถูกแทงจริงเลยวะเนี่ย!! แถมกลิ่นคาวเลือดที่ไหลออกมายัง..อุ่นๆ เหมือนเป็นเลือดของเธอจริงๆ เลย หรือว่านี่มันไม่ใช่ความฝัน แต่ถ้าไม่ใช่ความฝันแล้วเธอจะได้เจอเมนของตัวเองได้ยังไงกัน.. ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อคิดถึงเรื่องการทะลุมิติแบบในนิยายสามร้อยห้าสิบเรื่องที่เคยอ่านมา แต่เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน เธอยังไม่ตายสักหน่อย.. เอ๊ะ..หรือว่าตัวเธอตายไปแล้ว นอนหลับไหลตายไปเลยงั้นเหรอ? “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าอย่าพูดอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับอเดเรีย ข้าจะถามเจ้าอีกครั้งว่านางอยู่ที่ไหน?” เธอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขา ก่อนที่หยาดน้ำตาจะไหลออกมาโดยที่เธอเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองร้องไห้ออกมาทำไมกัน “ท่านดยุคแทงข้า อ่า..ให้ตายเถอะ ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บปวดแต่มันก็มีความสุขมากจริงๆ ช่วยแทงข้าอีกสักครั้งจะได้ไหมคะ?” เสียสติไปแล้วรึไง? แต่แววตาของทารีน่านั้นเปลี่ยนไปเมื่อนางฟื้นขึ้นมา หลังจากล้มหัวกระแทกพื้น นางมองเขาราวกับว่าเขาคือความหวังเดียวของนาง มองเขาเหมือนกับว่านางกำลังตกหลุมรักเขายังไงอย่างนั้น นี่มัน..บ้าไปแล้วแน่ๆ “ท่านดยุคทารอน นี่ท่านทำร้ายคู่หมั้นของข้าอย่างนั้นหรือครับ” นี่ใช้คำว่าเกือบหลับแต่ยังกลับมาได้ ได้รึเปล่านะ เพราะเสียงที่ดังขึ้นมานั้นทำให้เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแล้วหันไปมองบุรุษที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเธอ เขายกมือขึ้นมาโอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนพร้อมกับกดแผลที่พึ่งถูกแทงเอาไว้ “ไม่ต้องกลัวนะทารีน่า ข้ามาช่วยเจ้าแล้ว” ผมสีทองแบบนี้คงจะเป็น วินเทอร์คู่หมั้นของทารีน่าสินะผมสีทองที่สว่างราวกับแสงของดวงตะวัน แววตาของเขาในยามที่มองมาที่เธอมันอ่อนโยนเหมือนกับว่าเขาหลงลืมไป ว่าทารีน่าคือตัวร้ายที่ชั่วช้าแบบสุดๆ ..วินเทอร์และทารีน่าหมั้นหมายกันตั้งแต่ทั้งสองยังเด็ก และทารีน่าพยายามยกเลิกการหมั้นหมายนั้นเป็นอย่างมาก หากแต่วินเทอร์ไม่ยินยอมในตอนที่อ่านนิยายมุมมองของเธอที่มีต่อความสัมพันธ์ของวินเทอร์และนางร้าย มันเหมือนกับว่านี่ไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาวแต่มันคือความอยากปกป้องน้องสาวของวินเทอร์ต่างหากเขาน่าจะมองทารีน่าเป็นน้องสาวมากกว่าคนรัก..เพียงแต่มีบางอย่างที่เธอไม่รู้มาก่อนเลยว่าวินเทอร์จะหล่อขนาดนี้แม่เจ้า..เขาหล่อเหลาราวกับรูปเทพบนผนังของวิหารเลย ใบหน้าที่อ่อนโยนมาพร้อมๆ กับดวงตาที่เต็มไปด้วยความเมตตา“เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความสามารถของท่านเคาน์ทรอย ข้าได้รับคำสั่งจากองค์รัชทายาทให้มาตามหาเลดี้คาเรน จากเบาะแสทั้งหมดที่ข้าตามสืบมา ผู้ที่น่าสงสัยมากที่สุดคือคู่หมั้นของท่าน”“ดยุคทารอน หากท่านจะสอบสวนนาง ข้าย่อมไม่ขัดแต่ว่านี่ท่านกำลังทำร้ายร่างกายของนาง ข้ายอมไม่ได้ที่ท่านกระทำการหยาบช้าเช่นนี้กับสตรีตัวเล็กๆ อย่างทารีน่า”ดวงตาคมเข้มแฝงไปด้วยความทรงอำน
“กลับไปพร้อมกันเถอะอเดเรีย เจ้าก็รู้ว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้มาที่นี่เพราะอยากมาแต่มันเป็นเพราะเลดี้โรแกนใช่ไหม นางบังคับเจ้ามาที่นี่ใช่รึเปล่า?”องค์รัชทายาทฮาร์วีกล่าวพร้อมกับยื่นมือไปจับมือของอเดเรีย หากจะเปรียบเทียบความงดงามนี้ จริงอยู่ที่อเดเรียอาจจะสู้ทารีน่าไม่ได้ แต่อเดเรียนางเป็นสตรีที่ดูอ่อนโยน ดวงตานั้นเต็มไปด้วยความเมตตาอีกทั้งนางยังอ่อนแอและน่าปกป้อง ตามนิสัยของบุรุษแล้วย่อมชื่นชอบสตรีที่ว่านอนสอนง่าย มิใช่สตรีที่อารมณ์ร้ายเช่นทารีน่าเพราะแบบนั้นเขาถึงได้ไม่เคยชายตามองทารีน่าเลย นางไม่ใช่สตรีในแบบที่เขาชื่นชอบยังไงล่ะ..“ข้ามาที่นี่เพราะว่าอยากมาเพคะองค์รัชทายาท อย่าใส่ร้ายเลดี้โรแกนอีกเลย นางมิได้รู้เรื่องด้วย”“อเดเรีย ข้าล้วนแล้วแต่ตามใจเจ้า..เรื่องของเลดี้โรแกนข้าจะไม่ถามอีก แต่เจ้าต้องเดินทางกลับไปที่เมืองหลวงพร้อมกันกับข้า ที่พระราชวังได้จัดเตรียมห้องของว่าที่พระชายาเอาไว้แล้ว..อย่าได้เป็นกังวลเพราะไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็จะได้เป็นจักรพรรดินีเคียงข้างข้าที่จะขึ้นเป็นองค์จักรพรรดิของจักรวรรดินี้”อเดเรียส่งยิ้มให้กับองค์รัชทายาท ดวงตาของเธอหรี่เล็กล
คฤหาสน์โรแกนนั้นช่างหรูหรามากจริงๆ ทารีน่ากวาดสายตามองไปรอบๆ ก็เห็นสาวใช้จำนวนมากที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า ถึงแม้จะได้เป็นนางร้ายแต่รวยไม่ใช่เล่นแบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ ไม่มีพี่น้องมาคอยก่อดราม่าแถมพ่อแม่ก็เสียไปหมดแล้วไม่มีปมเรื่องครอบครัว แย่งชิงตำแหน่งผู้นำตระกูล.. นี่มัน..สุขสบายสุดๆ ไปเลยไม่ใช่รึไง? เธอหันมามองสบตากับเจ้าของเรือนผมสีทองสว่างที่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ตั้งแต่ที่ทารีน่าเอ่ยว่าจะยกเลิกเรื่องการหมั้นหมายออกไป.. วินเทอร์ก็ไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย ภายในใจของเขากำลังว้าวุ่นและสับสนเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ที่เขาเลือกจะไม่เข้าหานางมันเป็นเพราะว่าทารีน่าหลงรักองค์รัชทายาทฮาร์วีทั้งหัวใจ เขาหวาดกลัวว่าหากแสดงออกไปว่าเขารักนาง นางจะยิ่งหลบหนีไปจากเขาจึงแอบมองและคอยห่วงอยู่ไกลๆ เท่านั้น วินเทอร์ไม่รู้เลยว่าการกระทำเช่นนั้นจะทำให้นางเข้าใจไปว่าเขารักนางเหมือนน้องสาว เหมือนคนในครอบครัว เขาไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอย่างไรดีเมื่อนางกล่าวออกมาว่าชอบ ดยุคแห่งทารอน.. ยามนี้เขาควรจะเป็นวินเทอร์ที่ขี้ขลาดหวาดกลัวว่านางจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมาย หรือจะพุ่งชนเข้าไปแ
เมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่มีท่าทางขัดขืนหรือว่ารังเกียจ ในใจก็รู้สึกดีจนบอกไม่ถูกอีกนิดเดียวริมฝีปากของเขาจะจรดลงบนริมฝีปากนั้นแล้ว หากว่าที่มือของเขาในตอนนี้มันไม่ได้รู้สึกเปียกชื้น..วินเทอร์เหลือบไปมองที่มือของตัวเองก็ปรากฏว่ามือของเขามันชุ่มโชกไปด้วยเลือดสีแดงสดที่ไหลซึมออกมาจากชุดเดรสของทารีน่า“ให้ตายเถอะเจ้าเลือดออก..ข้าจะรีบไปตามหมอ..”เธอรีบยกมือขึ้นมาฉุดรั้งแขนของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว นี่กำลังหมายความว่าเธอกำลังจะชวดจุมพิตจากหนุ่มหล่ออีกครั้งแล้วใช่ไหม?“เรื่องแผลของข้าเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ ตอนนี้ท่านพี่ควรจะทำเรื่องที่ทำค้างเมื่อครู่เอาไว้ให้เสร็จก่อน..”วินเทอร์ขมวดคิ้วมองหน้าของทารีน่าก่อนที่ใบหน้าของเขามันจะเห่อร้อนขึ้นมา นี่นางหมายความว่าให้เขาจุมพิตนางให้เสร็จก่อนอย่างนั้นหรือ?“ทารีน่า..ไม่ต้องรีบร้อนเพราะเมื่อแผลของเจ้าหายดี ข้าจะมาทำเรื่องที่ค้างเอาไว้ในวันนี้กับเจ้าบ่อยๆ จนกว่าเจ้าจะร้องขอให้พี่หยุดเลยดีหรือไม่..”จะว่าดีมันก็...ดีอยู่“สุขภาพของเจ้าสำคัญยิ่งนัก นอนรออยู่ตรงนี้พี่จะส่งคนไปตามหมอมา อย่าเคลื่อนไหวไม่อย่างนั้นปากแผลอาจจะปริแตกออกมาอีก”เธอล้มตัวนอนช้าๆ อย่างท
หลังจากนอนพักฟื้นอยู่หลายวันในที่สุดแผลของทารีน่าก็ดีขึ้น วันนี้เธอจึงมาที่ห้องทำงานเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับทุกธุรกิจที่อยู่ในนามของโรแกนโรงระบำเปลื้องผ้าชาย..มันเป็นสถานที่แบบไหนกันวะนั่น?และเมื่อเลื่อนสายตาลงมาดูยอดของรายได้ก็พบว่ามันมหาศาลมากทีเดียว เธอยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตื่นตกใจ“พ่อบ้าน เรื่องโรงระบำเปลื้องผ้า..”“อ่า..ท่านทารีน่าไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้ว อยากไปตรวจตราที่โรงระบำใช่ไหมครับ ข้าจะแจ้งไปที่นั่นพร้อมกับจัดเตรียมนักระบำไว้รับรอง..”จากการบอกเล่าของพ่อบ้าน ที่โรงระบำน่าจะเป็นสถานที่แบบที่เธอคิดจริงๆ ด้วยอยากไปดูเหมือนกันแฮะ“ก็ดีเหมือนกัน เย็นนี้ข้าจะไปที่นั่นช่วยจัดเตรียมให้เรียบร้อยด้วย”“ครับท่านหญิง”ไม่มีอะไรแน่นอนสักนิดสำหรับการที่ฉันได้มาอยู่ในร่างของทารีน่า หากเข้าไปอยู่นิยายเรื่องอื่นก็จะต้องปกป้องเมนของตัวเองจากการถูกใส่ร้ายหรือรวมไปถึงการแย่งชิงอำนาจแต่นี่เมนของฉันคือมาไคล์..ตัวร้ายของเรื่องนี้ แทนที่จะเอาเวลาไปปกป้องเขา ควรจะเอาเวลาไปปกป้องคนที่เขาจะฆ่าดีกว่าจะว่าไปแล้วเมนของฉันนี่ไม่เหมือนใครจริงๆ ด้วยสินะ น่ารักน่าหยิกที่สุดเลย“ท่านหญิงครับ ว่าท
หากเข้าไปอยู่ในร่างอเดเรีย เธอจะได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่จากท่านดยุคทารอน เมนของเธอจะมีความสุขเพราะได้มองหน้าหล่อๆ ของเขาทั้งวัน ชีวิตมันคงจะดีมากแน่ๆ เลยเพียงแต่ว่า..เขารักอเดเรีย ไม่ได้รักเธอตอนที่ท่านวินเทอร์สารภาพรัก เธอก็ยังเจ็บจี๊ดๆ ในใจเลยเพราะว่าเขาไม่ได้สารภาพรักกับเธอ แต่เขารักทารีน่าคนเก่า เพราะอย่างนั้นหากเธอเข้าไปอยู่ในร่างของอเดเรียความรักที่เธอได้รับจากท่านมาไคล์มันจะว่างเปล่าไปหมดแถมอเดเรียน่าจะมีปัญหาอยู่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นนางไม่กล้ามาขอให้เธอเข้าไปอยู่ในร่างนั้นหรอกอยากรู้จังโว้ยว่าอเดเรียมีปัญหาอะไร แต่จะแสดงออกว่าเธอเองก็เป็นผู้สวมร่างไม่ได้อย่างเด็ดขาด“ข้าไม่เข้าใจเรื่องที่ว่าที่พระชายากำลังกล่าวออกมาหรอกค่ะ ท่านเห็นข้าเป็นอะไรกันถึงได้ล้อเล่นแบบนั้น”“ข้าไม่ได้ล้อเล่น ข้าสามารถทำให้องค์รัชทายาทที่ไม่เคยชายตามองท่าน หันมารักท่านได้..”“ข้าไม่ต้องการ องค์รัชทายาทอะไรนั่นข้าไม่ต้องการอีกแล้วเพราะว่าตอนนี้ข้ารักท่านดยุคมาไคล์ และข้าจะทำให้เขารักข้าเพราะว่าข้าเป็นทารีน่า หากว่าที่พระชายายังกล่าวเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้กับข้าอีก ข้าจะไม่ขอพูดคุยกับท่านแล้วนะค
สิ่งที่ปกคลุมเราเอาไว้คงเป็นความเงียบที่ไร้ที่สิ้นสุด ในใจของทารีน่านั้นอัดแน่นไปด้วยความรักอันมากมายจนแทบจะล้นทะลักออกมา แต่มันกลับพูดออกไปไม่ได้เลย..เธอบอกเขาได้เพียงแค่เธอนั้นรักเขา แต่เรื่องเหตุผลของการตกหลุมรักนั้น..บอกเขาไม่ได้อย่างเด็ดขาดสายตาของทารีน่าทอดมองใบหน้าที่เย็นชาของเขาซึ่งกำลังเดินถอยออกไปจากในห้องนอนของเธออย่างช้าๆประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับมาไคล์ที่เหมือนจะทำตัวไม่ถูก เขาแค่ตกใจเล็กน้อยกับท่าทีการแสดงออกของนางโรแกนคืออดีตตระกูลอาร์ดดยุค ถึงแม้ว่าพอทารีน่าขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแทนพ่อของนาง อำนาจทางการเมืองจะลดถอยลงไปบ้างแต่เรื่องอำนาจในแวดวงสังคม ทารีน่ายังคงกุมมือเอาไว้ในมืออย่างเหนียวแน่น ทุกธุรกิจของโรแกนร่ำรวยมาจากทารีน่าทั้งสิ้น สตรีผู้นี้มิได้มีดีแค่หน้าตาแต่ความสามารถในการทำงานของนาง นับว่าดียิ่งนัก“ข้าไม่คิดว่าท่านดยุคยังสมควรจะอยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้าของคฤหาสน์โรแกนไม่สะดวกออกมาต้อนรับท่านในฐานะแขกของที่นี่แล้ว เช่นนั้นท่านก็ควรจะเดินทางกลับได้แล้ว”ปัญหาเล็กๆ ของทารีน่าคือนางมีคู่หมั้นที่หวังดีกับนางมากกว่าใครอย่างวินเทอร์“เคาน์ทรอย ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช่คู่ห
วินเทอร์พาทารีน่าไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาว เขานั่งลงข้างๆ เธอก่อนจะยื่นมือไปแตะที่เอวคอดกิ่ว..“ตรงนี้ยังเจ็บอยู่รึเปล่า?”อันที่จริงเธอไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่เมื่อทารีน่าเงยหน้าขึ้นมาเธอก็ต้องตกใจที่ได้มองเห็นใบหน้าของท่านพี่วินเทอร์ในระยะประชิดเช่นนี้ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขาเป่ารดอยู่บริเวณข้างแก้มของเธอ ความใกล้ชิดที่มากเกินไปนี้ทำให้ทารีน่าเผลอถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่าเมื่อเธอถอยหลังเขากลับยื่นมือมาโอบกอดเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสถอยหนีอ่า..บอกไปแล้วไงว่าเธอเป็นโรคแพ้คนหล่อ แล้วความใกล้ชิดอะไรแบบนี้มันทำใจให้ชินได้ที่ไหนกันเล่า“มะ..ไม่เจ็บแล้วค่ะ”ริมฝีปากของเขาพลันยกสูงขึ้น“แน่ใจว่าไม่เจ็บแล้ว..ให้พี่ดูหน่อยเถิดว่าแผลของเจ้ามันสมานกันดีหรือไม่”จะให้เขาดูได้ยังไงกันเพราะว่าแผลอยู่ที่เอวของเธอ จะให้เขาดูเธอไม่ต้องแก้ผ้าออกก่อนเรอะ!“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าหายดีแล้ว”“หายดีแล้ว..เช่นนั้นเราก็ทำเรื่องที่ค้างเอาไว้ได้แล้วสินะ”โอ้พระเจ้า เขาไม่ได้คิดจะดูแผลของเธอตั้งแต่ทีแรก แต่เขาต้องการให้เธอบอกว่าหายดี เพื่อที่เขาจะได้ทำเรื่องต่อจากคราวที่แล้ว เห็นทีว่าเธอจะต้องมองท่านพี่วินเท
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
องค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด