หลังจากนอนพักฟื้นอยู่หลายวันในที่สุดแผลของทารีน่าก็ดีขึ้น วันนี้เธอจึงมาที่ห้องทำงานเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับทุกธุรกิจที่อยู่ในนามของโรแกน
โรงระบำเปลื้องผ้าชาย..มันเป็นสถานที่แบบไหนกันวะนั่น? และเมื่อเลื่อนสายตาลงมาดูยอดของรายได้ก็พบว่ามันมหาศาลมากทีเดียว เธอยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตื่นตกใจ “พ่อบ้าน เรื่องโรงระบำเปลื้องผ้า..” “อ่า..ท่านทารีน่าไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้ว อยากไปตรวจตราที่โรงระบำใช่ไหมครับ ข้าจะแจ้งไปที่นั่นพร้อมกับจัดเตรียมนักระบำไว้รับรอง..” จากการบอกเล่าของพ่อบ้าน ที่โรงระบำน่าจะเป็นสถานที่แบบที่เธอคิดจริงๆ ด้วย อยากไปดูเหมือนกันแฮะ “ก็ดีเหมือนกัน เย็นนี้ข้าจะไปที่นั่นช่วยจัดเตรียมให้เรียบร้อยด้วย” “ครับท่านหญิง” ไม่มีอะไรแน่นอนสักนิดสำหรับการที่ฉันได้มาอยู่ในร่างของทารีน่า หากเข้าไปอยู่นิยายเรื่องอื่นก็จะต้องปกป้องเมนของตัวเองจากการถูกใส่ร้ายหรือรวมไปถึงการแย่งชิงอำนาจ แต่นี่เมนของฉันคือมาไคล์..ตัวร้ายของเรื่องนี้ แทนที่จะเอาเวลาไปปกป้องเขา ควรจะเอาเวลาไปปกป้องคนที่เขาจะฆ่าดีกว่า จะว่าไปแล้วเมนของฉันนี่ไม่เหมือนใครจริงๆ ด้วยสินะ น่ารักน่าหยิกที่สุดเลย “ท่านหญิงครับ ว่าที่พระชายาคาเรน อเดเรียมาขอเข้าพบ..ตอนนี้พระนางรออยู่ที่ห้องรับรองพร้อมกับดยุคแห่งทารอน..” ตอนนี้ฉันควรจะตกใจเรื่องไหนก่อนดีนะ เรื่องที่นางเอกของเรื่องมาหาหรือว่าเรื่องที่เขาทั้งสองคนมาพร้อมกัน ในเนื้อเรื่องอเดเรียเกลียดมาไคล์มากเลย จนแทบไม่อยากเห็นหน้าแล้วทำไมพวกเขาทั้งสองคนถึงได้พากันมาที่นี่ได้ ทารีน่าเดินไปที่ห้องรับรองด้วยหัวใจที่เป็นกังวล เธอก้มมองตัวเองเพื่อสำรวจอีกรอบ ทรงผมสวยดีแล้ว ชุดเดรสวันนี้ก็ไม่มากไปไม่น้อยไป ส่วนใบหน้าก็แต่งแต้มเครื่องสำอางเล็กๆ น้อยๆ ดูมีความธรรมชาติ นางร้ายของเรื่องนี้มีเทสการแต่งตัวที่ดีเลิศแบบที่เปิดตู้เสื้อผ้าออกมาแล้วแทบจะต้องกรีดร้องเลยทีเดียว ชุดเดรสของทารีน่าล้วนแล้วแต่งดงามในแบบที่ไม่ใช่กระโปรงสุ่มไก่ แต่มีความหรูหราแบบที่ทำให้สวมใส่สบายแล้วยังคงมีความหรูหราจนน่าจับตามอง มันดีเยี่ยมมากๆ เลยที่ได้มาอยู่ในร่างของทารีน่า เธอคิดแบบนั้นจนถึงเวลาที่เดินเข้ามาในห้องรับรอง สายตาของเธอจับจ้องไปที่ใบหน้าที่คิดถึงอยู่ตลอดเวลา วันนี้ท่านมาไคล์ก็ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่ผิดเพี้ยนไปเลยจริงๆ อยากตรงเข้าไปแล้วโอบกอดเขาสักสองสามที “ยินดีต้อนรับเข้าสู่คฤหาสน์โรแกนค่ะว่าที่พระชายาและท่านดยุคแห่งทารอน..” นางเอกของเรื่องนี้..เป็นผู้หญิงที่ดูปุ๊บรู้ปั๊บเลยว่านี่คือนางเอก รอยยิ้มที่เจิดจ้าราวกับแสงตะวัน ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไร้เดียงสาและท่าทีที่ดูสง่างาม อเดเรีย คาเรน นางเอกของเรื่องนี้ดูน่ารักนุ่มนิ่มน่าทนุถนอมชะมัดเลย “ข้าอยากจะพูดคุยกับท่านหญิงมาโดยตลอดเลยค่ะ เพียงแต่ครั้งที่แล้วยังไม่ทันได้พูดคุย...ท่านหญิงก็..” จับข้ามัดมือมัดเท้าแล้วโยนขึ้นรถม้าเพื่อส่งไปที่ชนบทอันแสนห่างไกล นางร้ายก็คือนางร้ายเรื่องนั้นอเดเรียเข้าใจถึงความรักที่ทารีน่ามีต่อองค์รัชทายาทดี และนางอยากจะเจรจากันดีๆ พูดคุยและหาทางออกด้วยกันกับทารีน่า ทารีน่าเหลือบมองหน้าของท่านดยุค ก่อนที่เธอจะหันมามองหน้าของอเดเรีย หากจะว่ากันไปตามเนื้อเรื่อง ทารีน่าผิดที่ไปทำร้ายอเดเรียก่อน เช่นนั้นเธอควรจะขอโทษออกไปสินะ “หากเป็นเรื่องครั้งที่แล้วข้าต้องขอโทษ..” “ข้าเป็นกังวลเรื่องการออกงานวันชาติในฐานะคู่ควงขององค์รัชทายาท คงจะดีหากว่าท่านหญิงพาข้าไปเลือกชุดเดรสที่ท่านมองว่าเหมาะสมกับข้า” ทำไมเธอถึงคิดว่าอเดเรียต้องการพูดคุยกับเธอตามลำพังกันนะ ทั้งๆ ที่เธออยากจะนั่งมองหน้าของท่านมาไคล์อีกสักหน่อย.. “หากว่าที่พระชายากังวลเรื่องนั้น เชิญตามข้าขึ้นไปด้านบนได้เลยค่ะ..ขออภัยที่จะต้องบอกให้ท่านดยุคนั่งรออยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวข้ากลับมานะคะ” เมื่อกล่าวจบเธอก็ขยิบตาให้เขาพร้อมๆ กับส่งยิ้มหวานให้ มาไคล์รีบเบือนหน้าหนีในทันทีและการกระทำของเขาทำให้ทารีน่าอดจิ๊ปากไม่ได้ น้ำเซาะหินทุกวันหินยังกร่อนเลย นับประสาอะไรกับหัวใจของตัวร้ายแบบเขา แต่ไม่รู้ว่าระหว่างเขาหันกลับมารักเธอ กับเขาจับดาบมาแทงเธออีกรอบไม่รู้วันไหนจะมาถึงก่อนกัน.. ทารีน่าพาอเดเรียเดินมาที่ด้านหลังคฤหาสน์ มันคือห้องเสื้อขนาดใหญ่ของโรแกน เรื่องความสามารถเธอไม่มีเทสแฟชั่นที่ดีเหมือนกับทารีน่าคนเก่า แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ตั้งใจว่าจะช่วยนางเอกของเรื่องเลือกชุดเดรสที่สวยที่สุดอย่างเต็มที่ “ผิวกายที่ขาวสว่างอย่างว่าที่พระชายาควรจะสวมชุดเดรสสีม่วงเข้มตัดกับสีแดงอย่างชุดนี้..” “ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องจะคุยกับท่านหญิงเป็นการส่วนตัวค่ะ” ไม่แตกต่างจากที่คิดเอาไว้จริงๆ ด้วย หรือว่าอเดเรียจะขอร้องให้เธอเลิกยุ่งกับองค์รัชทายาท ถ้าเป็นเรื่องนั้นล่ะก็วางใจได้เลยเราสามารถตกลงกันได้ง่ายๆ เลยเพราะว่าเธอไม่ได้รักเศษสวะผู้นั้นอีกแล้ว!! “หากเป็นเรื่ององค์รัชทายาทล่ะก็ พระชายาไม่ต้องเป็นกังวล..” “ท่านหญิงเชื่อเรื่องการสวมร่างไหมคะ การที่วิญญาณย้ายร่างแล้วเข้ามาสวมอยู่ในร่างกายของอีกคน” มือที่กำลังจับชุดเดรสที่หุ่นอยู่ของทารีน่าพลันไร้เรี่ยวแรงลงมาดื้อๆ ที่ลำคอแห้งผากราวกับผุยผง ใบหน้าของเธอมันชาเหมือนกับถูกสาดด้วยน้ำเย็นจัด “ว่าที่พระชายา..มะ..หมายความว่ายังไงกัน?” อเดเรียยื่นมือมาจับมือของทารีน่า “ข้ารู้ว่าเรื่องนี้มันทำใจเชื่อได้ลำบาก แต่ท่านสามารถเข้ามาอยู่ในร่างข้าได้นะคะ มาเป็นอเดเรียสตรีที่มีแต่คนรัก ความรักของท่านที่มีต่อองค์รัชทายาทจะสมหวัง ท่านจะเป็นสตรีที่บุรุษต่างหมายปอง ไม่ใช่ทารีน่าตัวร้ายที่ทุกคนต่างรังเกียจ..แค่ท่านเชื่อใจข้าเท่านั้น ข้าจะทำให้ท่านเป็นอเดเรียเอง” ตอนแรกทารีน่าคิดว่าตัวเองเข้าใจผิดไป เธอไม่คิดว่าอเดเรียเองก็จะเป็นผู้สวมร่างเหมือนกันกับเธอ..นี่มันเรื่องอะไรกันแน่? แล้วจุดประสงค์ที่อเดเรียทำแบบนี้คืออะไรกันแน่ การเป็นนางเอกไม่ใช่ความฝันอันสูงสุดของชีวิตผู้หญิงงั้นหรือ? หรือว่านางไม่มีความสุขที่ได้อยู่ในร่างของอเดเรีย?หากเข้าไปอยู่ในร่างอเดเรีย เธอจะได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่จากท่านดยุคทารอน เมนของเธอจะมีความสุขเพราะได้มองหน้าหล่อๆ ของเขาทั้งวัน ชีวิตมันคงจะดีมากแน่ๆ เลยเพียงแต่ว่า..เขารักอเดเรีย ไม่ได้รักเธอตอนที่ท่านวินเทอร์สารภาพรัก เธอก็ยังเจ็บจี๊ดๆ ในใจเลยเพราะว่าเขาไม่ได้สารภาพรักกับเธอ แต่เขารักทารีน่าคนเก่า เพราะอย่างนั้นหากเธอเข้าไปอยู่ในร่างของอเดเรียความรักที่เธอได้รับจากท่านมาไคล์มันจะว่างเปล่าไปหมดแถมอเดเรียน่าจะมีปัญหาอยู่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นนางไม่กล้ามาขอให้เธอเข้าไปอยู่ในร่างนั้นหรอกอยากรู้จังโว้ยว่าอเดเรียมีปัญหาอะไร แต่จะแสดงออกว่าเธอเองก็เป็นผู้สวมร่างไม่ได้อย่างเด็ดขาด“ข้าไม่เข้าใจเรื่องที่ว่าที่พระชายากำลังกล่าวออกมาหรอกค่ะ ท่านเห็นข้าเป็นอะไรกันถึงได้ล้อเล่นแบบนั้น”“ข้าไม่ได้ล้อเล่น ข้าสามารถทำให้องค์รัชทายาทที่ไม่เคยชายตามองท่าน หันมารักท่านได้..”“ข้าไม่ต้องการ องค์รัชทายาทอะไรนั่นข้าไม่ต้องการอีกแล้วเพราะว่าตอนนี้ข้ารักท่านดยุคมาไคล์ และข้าจะทำให้เขารักข้าเพราะว่าข้าเป็นทารีน่า หากว่าที่พระชายายังกล่าวเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้กับข้าอีก ข้าจะไม่ขอพูดคุยกับท่านแล้วนะค
สิ่งที่ปกคลุมเราเอาไว้คงเป็นความเงียบที่ไร้ที่สิ้นสุด ในใจของทารีน่านั้นอัดแน่นไปด้วยความรักอันมากมายจนแทบจะล้นทะลักออกมา แต่มันกลับพูดออกไปไม่ได้เลย..เธอบอกเขาได้เพียงแค่เธอนั้นรักเขา แต่เรื่องเหตุผลของการตกหลุมรักนั้น..บอกเขาไม่ได้อย่างเด็ดขาดสายตาของทารีน่าทอดมองใบหน้าที่เย็นชาของเขาซึ่งกำลังเดินถอยออกไปจากในห้องนอนของเธออย่างช้าๆประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับมาไคล์ที่เหมือนจะทำตัวไม่ถูก เขาแค่ตกใจเล็กน้อยกับท่าทีการแสดงออกของนางโรแกนคืออดีตตระกูลอาร์ดดยุค ถึงแม้ว่าพอทารีน่าขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแทนพ่อของนาง อำนาจทางการเมืองจะลดถอยลงไปบ้างแต่เรื่องอำนาจในแวดวงสังคม ทารีน่ายังคงกุมมือเอาไว้ในมืออย่างเหนียวแน่น ทุกธุรกิจของโรแกนร่ำรวยมาจากทารีน่าทั้งสิ้น สตรีผู้นี้มิได้มีดีแค่หน้าตาแต่ความสามารถในการทำงานของนาง นับว่าดียิ่งนัก“ข้าไม่คิดว่าท่านดยุคยังสมควรจะอยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้าของคฤหาสน์โรแกนไม่สะดวกออกมาต้อนรับท่านในฐานะแขกของที่นี่แล้ว เช่นนั้นท่านก็ควรจะเดินทางกลับได้แล้ว”ปัญหาเล็กๆ ของทารีน่าคือนางมีคู่หมั้นที่หวังดีกับนางมากกว่าใครอย่างวินเทอร์“เคาน์ทรอย ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช่คู่ห
วินเทอร์พาทารีน่าไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาว เขานั่งลงข้างๆ เธอก่อนจะยื่นมือไปแตะที่เอวคอดกิ่ว..“ตรงนี้ยังเจ็บอยู่รึเปล่า?”อันที่จริงเธอไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่เมื่อทารีน่าเงยหน้าขึ้นมาเธอก็ต้องตกใจที่ได้มองเห็นใบหน้าของท่านพี่วินเทอร์ในระยะประชิดเช่นนี้ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขาเป่ารดอยู่บริเวณข้างแก้มของเธอ ความใกล้ชิดที่มากเกินไปนี้ทำให้ทารีน่าเผลอถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่าเมื่อเธอถอยหลังเขากลับยื่นมือมาโอบกอดเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสถอยหนีอ่า..บอกไปแล้วไงว่าเธอเป็นโรคแพ้คนหล่อ แล้วความใกล้ชิดอะไรแบบนี้มันทำใจให้ชินได้ที่ไหนกันเล่า“มะ..ไม่เจ็บแล้วค่ะ”ริมฝีปากของเขาพลันยกสูงขึ้น“แน่ใจว่าไม่เจ็บแล้ว..ให้พี่ดูหน่อยเถิดว่าแผลของเจ้ามันสมานกันดีหรือไม่”จะให้เขาดูได้ยังไงกันเพราะว่าแผลอยู่ที่เอวของเธอ จะให้เขาดูเธอไม่ต้องแก้ผ้าออกก่อนเรอะ!“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าหายดีแล้ว”“หายดีแล้ว..เช่นนั้นเราก็ทำเรื่องที่ค้างเอาไว้ได้แล้วสินะ”โอ้พระเจ้า เขาไม่ได้คิดจะดูแผลของเธอตั้งแต่ทีแรก แต่เขาต้องการให้เธอบอกว่าหายดี เพื่อที่เขาจะได้ทำเรื่องต่อจากคราวที่แล้ว เห็นทีว่าเธอจะต้องมองท่านพี่วินเท
บนมุมปากของวินเทอร์หยักยิ้มขึ้นมา เขาก้มหน้าลงไปพรมจูบที่ซอกคอของทารีน่าอีกครั้งนี่เป็นเรื่องยากสำหรับการหักห้ามใจ ทารีน่าในยามนี้เหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานออกเพื่อเขา..แต่ทว่าในแววตาของเธอมันยังคงมีความกังวลมากมายแฝงอยู่ในนั้นแต่เขาสามารถแน่ใจได้ว่าในแววตานั้นไม่ได้มีความรังเกียจเลยแม้แต่นิดเดียว“การห้ามใจนั้นเป็นเรื่องยาก..รินา เจ้ากำลังทำให้พี่เป็นบ้ารู้ไหม?”ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ร่างกายของเธอมันร้อนไปหมดและมันกำลังร่ำร้องอยากหนักว่าเธอต้องการเขา อยากให้เขาสัมผัสมากกว่านั้นไม่ว่าจะส่วนใดของร่างกายก็ตามเพียงแต่ยังไม่ใช่วันนี้“ที่ข้าปฏิเสธไม่ใช่เพราะว่าข้ารังเกียจท่านพี่..”“อ่า..เรื่องนั้นพี่รู้รินา เอาเป็นว่าวันนี้พี่จะพอเท่านี้ก่อน ไว้เจ้าพร้อมมากกว่านี้เราค่อยมาจัดการเรื่องที่ค้างคาวันนี้ให้จบสิ้น”เขาไม่อยากผิดใจกับทารีน่า อันที่จริงเขาจะใช้กำลังและฝืนทำตามความต้องการก็ได้ แต่วินเทอร์ไม่คิดทำแบบนั้นทารีน่าล้ำค่ามากเกินกว่าที่เขาจะกินนางให้หมดในวันเดียว เขาจะค่อยๆ เคี้ยวทั้งเลือดเนื้อและกระดูกของนางลงท้องอย่างช้าๆ เองตอนนี้แค่ต้องทำให้นางสนใจเขาให้มากกว่าดยุคแห่งทารอน ให
ข้าก็ว่าอย่างนั้น ไม่รู้ทำไมทารีน่าถึงได้ชอบผู้ชายแบบฮาร์วีก็ไม่รู้“บอกข้าหน่อยสิว่าเจ้ากำลังชอบใครอยู่ ท่านเคาน์ทรอยใช่รึเปล่า?”แล้วเธอควรจะตอบคำถามนี้ว่ายังไงดี“อ่า..เรื่องนั้นข้ายังบอกเจ้าตอนนี้ไม่ได้ รอให้ความรู้สึกของข้าชัดเจนเมื่อไหร่ ข้าจะบอกเจ้าคนแรกเลย”“ถามแค่นี้ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ แสดงว่าไม่ใช่ก็ต้องใกล้เคียงเป็นแน่”“ชะ..ใช่ที่ไหนกันเล่าเรื่องที่อยากรู้ข้าก็ถามเจ้าไปจนหมดแล้ว ข้าไม่รบกวนเวลาของเจ้าแล้ว”โอเรียน่าหัวเราะเบาๆ“แบบนั้นก็ดี ช่วยตามบุรุษหน้าห้องเข้ามาให้ข้าด้วย วันนี้ข้ายินดีจ่ายไม่อั้นให้บุรุษที่รับใช้ข้า”โอเรียน่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของทารีน่า สตรีผู้นี้นิสัยนับว่าไม่เลว เพียงแต่นับจากนี้อีกสองปีนางจะถูกส่งไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ หลังจากนั้นทางจักรวรรดิจะได้รับร่างอันไร้วิญญาณของนางกลับมาพร้อมกับสัญญาสงบศึกที่ถูกฉีกออกสงครามระหว่างดินแดนกินเวลากว่าสองปีจบลงเพราะอเดเรียนางเอกของเรื่องได้เข้าไปพูดคุยกับองค์จักรพรรดิซึ่งเป็นพี่ชายของนาง..เดิมทีอเดเรียเป็นเด็กที่ถูกท่านลอร์ดคาเรนเก็บมาเลี้ยง คนที่รู้ว่านางคือราชวงศ์ก็คือคาดินันกาเล็ตสงครามยุติลงเพราะส
“ข้าเดินไม่ไหวค่ะ ไม่ใช่ว่าท่านจะต้องอุ้มข้าขึ้นไปอย่างนั้นหรือคะ ที่ข้าเป็นเช่นนี้ก็เพราะท่านจงใจทำร้ายข้าแท้ๆ ..”ได้คืบต้องเอาศอกสิ เธอจะต้องทำให้เขารู้สึกผิดเรื่องที่ทำร้ายเธอให้สาสมเลยคอยดู“เรื่องนั้นข้าไม่ได้ตั้งใจ และข้ายินดีที่จะพาเลดี้ไปรักษาอาการเจ็บปวดเหล่านี้ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์..”เขาไม่พาเธอไปหาหมอแต่กลับพาเธอไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ อย่าบอกนะว่าคนผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตที่จะมาฆ่าเมนของเธอน่ะและเมื่อเขาอุ้มทารีน่าขึ้นมาจากพื้นเธอก็ใช้โอกาสนี้ดึงผ้าคลุมของเขาลงเส้นผมสีเงินยาวสลวยปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของเธอ แน่นอนแล้ว..ชายผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตไม่ผิดแน่!!หรือว่าจะฉวยโอกาสนี้หยิบมีดขึ้นมาแทงทะลุหัวใจของเขาไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีไหมนะ เขาจะได้ไม่มาทำร้ายเมนของเธออีก“กำลังคิดหาทางทำร้ายข้าอยู่งั้นหรือ”“...”ในนิยายไม่เห็นบอกว่าเขาอ่านใจได้เลยนี่“ชาที่เลดี้ส่งมาให้ข้าทุกวัน ข้าไม่ได้ดื่มมันเลยเพราะว่าในชานั้นมีพิษอยู่ หากว่าท่านอยากจะสังหารข้าก็คิดแผนการที่มันรัดกุมมากกว่านี้หน่อยเถิด”เดี๋ยวนะ ยัยทารีน่าทำแบบนั้นไปทำไมกัน วางยาคาดินันเนี่ยนะ โง่สิ้นดี“ข้าไม่ได้..”“วาง
“แล้วเจ้ามาบอกกล่าวเรื่องนี้กับข้าทำไมกัน?”เอ้า..ก็เธอไม่อยากให้เขาเกลียดเธอโดยไม่มีเหตุผลอีกไง“เพราะว่าท่านคือคาดินันนี่คะ บางทีท่านอาจจะช่วยข้าเรื่องการสูญเสียความทรงจำได้”“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก แต่ข้ารับปากว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร แผลของเจ้า ข้ารักษาเรียบร้อยแล้วรีบสวมชุดสิข้าจะไปส่ง..”ต้องจากกันแล้วงั้นเหรอ?จะว่าไปแผลของเธอมันไม่มีความรู้สึกเจ็บอีกแล้ว ดูเหมือนว่าพลังเวทย์ของเขามันจะใช้ได้ดีมากทีเดียว ทารีน่าก้มหน้าลงไปมองที่แผลของตัวเองเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยจริงอยู่ที่มันไม่มีความเจ็บปวดอยู่แล้วแต่ทว่าเลือดสีดำกำลังไหลออกจากบาดแผล..“ข้าได้ขับเลือดเสียออกมา อีกไม่นานแผลจะหายสนิท..”ปกติแล้วเป็นนักบุญหรือว่านักเวทย์จะต้องรักษาแผลหายแบบหายวับไปจากร่างกายได้เลยนี่ แต่แล้วทำไม..แผลของเธอมันถึงไม่หายวับเหมือนที่เธอเข้าใจล่ะ“เพราะว่าก่อนหน้านี้เจ้าทำนิสัยแย่ๆ พอสมควร การที่ทิ้งบาดแผลนี้เอาไว้เพื่อไม่ให้หายในทันทีถือเป็นการเตือนสติเจ้า..ทารีน่า!!!”เธอล้มลงในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นลมไปเลย เพียงแค่เพราะมองแผลของตัวเองถึงกับเป็นลมล้มพับไปแบบนี้เ
เธอล้มตัวนอนบนเตียงก่อนจะเหลือบมองเสื้อคลุมสีขาวที่เธอสวมกลับมา ไม่น่าแปลกใจหรอกว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดทารีน่าคนเก่ามากขนาดนั้นเพราะสิ่งที่ทารีน่าทำมันคือการบังคับจิตใจ นางชื่นชอบใบหน้าและร่างกายของกาเล็ตเพราะอย่างนั้นนางถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขายินยอมเป็นของเล่นให้นางถึงขนาดวางยาในน้ำชาของเขา และกาเล็ตเหมือนจะได้รับพิษไปเต็มๆ ในครั้งแรก ยาแก้พิษอยู่ที่ทารีน่าและนางจะส่งมอบยาถอนพิษให้เขาก็ต่อเมื่อกาเล็ตยอมนอนกับนาง..บ้าไปแล้ว ยัยนั่นมันเข้าขั้นโรคจิตขั้นสุดเลยนี่หว่า แบบนั้นที่กาเล็ตหลงรักอเดเรียคงเพราะนางเอกมาช่วยเขาเป็นแน่เมื่อรู้เรื่องแบบนี้แล้วเธอจะยังเสนอหน้านี้ไปหาเขาอีกได้ยังไงกัน ละอายใจชะมัดเลยขนาดเธอไม่ได้เป็นคนทำยังอดเสียใจไม่ได้ แล้วไม่รู้ว่ายัยทารีน่าตัวจริงสำนึกบ้างรึเปล่า?ริมฝีปากของเธอเม้มๆ คลายๆ สลับไปมาด้วยความชั่งใจ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆห้องนอนของเธอยามนี้มีแต่งชุดเดรสมากมายเต็มไปหมดเพื่อจัดเตรียมเอาไว้สำหรับงานในวันพรุ่งนี้ ท่านพ่อบ้านได้จัดการส่งชุดไปที่คฤหาสน์ทารอน และส่งชุดไปที่คฤหาสน์ทรอยของท่านพี่วินเทอร์ด้วยพรุ่งนี้คืองานวันชาติ และงานในวันพรุ
เส้นทางความรักของเขานั้นต่อให้เปื้อนเลือดนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพื่อรอยยิ้มของทารีน่าแล้ว เขาจำเป็นต้องทำทุกอย่างแม้จะลงมือสังหารใครไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกเธอบอกว่าเขาคือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้และตำแหน่งนั้นมันช่างเหมาะสมกับเขามากเหลือเกิน..มาไคล์เลือกที่จะอาบน้ำเพื่อชะล้างรอยเลือดที่ติดอยู่ตามร่างกายให้หมด หลังจากนั้นเมื่อเขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก็ยังคงมืดครึ้มอยู่ ตอนนี้เป็นเวลาสายมาแล้วและทารีน่ายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มุมปากของมาไคล์ยกสูงขึ้นมาเมื่อเขานึกถึงใบหน้ายามเหนื่อยล้าของเธอ เพราะว่าร่างกายของเธอมันหอมหวานมากเกินไป เขาถึงได้กลืนกินจนไม่หลงเหลือสติเช่นนี้มาไคล์เดินไปจุมพิตทารีน่าอีกครั้ง แล้วสวมเสื้อคลุมเพื่อเดินออกไปด้านนอกวันนี้หิมะตกลงมาเบาบางมากเหลือเกิน เหมือนกับว่าอากาศเป็นใจให้เขาได้นำพาเถ้ากระดูกของท่านอาจารย์มาฝังเอาไว้ที่สุสานของตระกูลทารอนบนใบหน้าของมาไคล์ไม่มีร่องรอยความเสียใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาเสียใจมากพอแล้วกับการกระทำที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการสูญเสียท่านอาจารย์ไป เขาร้องไห้มามากจริงๆ แถมยังจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่อัดแน่น
ฝ่ามือหนาของมาไคล์บรรจงลูบลงไปที่แผ่นหลังของทารีน่า หัวใจของเขามันเต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมอาจจะเพราะว่าเขาได้ปรับความเข้าใจกับเธอ หรือไม่ก็เพราะว่าเขาได้กระทำเรื่องบนเตียงหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทารีน่าผลอยหลับไปในอ้อมแขนของเขา เธอยังคงงดงามถึงแม้ว่าดวงตาจะปิดสนิทมาไคล์จุมพิตลงไปบนหน้าผากของเธอก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมร่างกายของทารีน่าให้อบอุ่นเช่นเดียวกันกับในยามที่เธออยู่ในอ้อมแขนของเขาเขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เธอตื่นขึ้นมา ที่มุมปากของมาไคล์หยักยิ้มขึ้นมาด้วยความเอ็นดูเหมือนว่าเขาจะหลงเสน่ห์เธออย่างหัวปักหัวปำแล้วล่ะสิ เขาไม่อยากลุกออกจากเตียงในยามนี้เลยให้ตายเถอะเพียงแต่ยังมีเรื่องที่เขาต้องการจัดการให้เสร็จสิ้น มาไคล์เดินลงมายังชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ เขาปรายตามองเซอร์เดนิซาที่นั่งพิงกำแพงอยู่ด้านในคุก“เจ้าโชคดีที่ได้ทารีน่าออกหน้าเพื่อช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นในยามนี้ศพของเจ้าคงจะถูกแขวนอยู่ที่ประตูเข้าคฤหาสน์ทารอนไปแล้ว”เดนิซาก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพท่านดยุค“เรื่องการวางเพลิงข้ากระทำเพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับเลดี้โรแกนเลยครับ ท่านดยุคได
มาไคล์วางทารีน่าลงบนเตียง เพียงแค่เขาดีดนิ้วเบาๆ ประตูและหน้าต่างทั้งหมดก็ปิดลงพร้อมๆ กับม่านหน้าต่างที่ปิดทึบลงมา “ทารีน่าเจ้ากำลังก่อเรื่องอะไร? ..” เธอละสายตาจากใบหน้าของเขาเพื่อหันมองไปทางอื่น “ข้าไม่ได้ก่อเรื่องค่ะ เพราะว่าข้าทำจริงๆ” “เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดที่มองไม่ออกอย่างนั้นหรือว่านี่มันคือฝีมือของใคร ทำไมถึงปกป้องเซอร์เดนิซา” เขาผลักเธอให้ล้มตัวลงไปบนเตียง เรือนผมสีแดงเพลิงของทารีน่าสยายลงไปบนหมอน มาไคล์จ้องมองความงามล้ำบนใบหน้านั้นด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะคล่อมทับร่างของเธอเอาไว้ “เพราะว่าท่านเซอร์เป็นคนดีค่ะ” “เหอะ! เช่นนั้นข้าเป็นคนเลวหรืออย่างไรเจ้าถึงได้ไม่ปกป้องข้าบ้าง” ก็ใช่นะสิ เพราะว่าท่านมาไคล์คือตัวร้าย..แถมยังเป็นคนใจร้ายด้วย!! “ข้าคิดว่าท่านจะร้องไห้เสียใจที่ร่างของสตรีผู้นั้นถูกเผาจนวอดไปหมด..” มาไคล์ไม่ได้ตกใจกับคำกล่าวตัดพ้อของทารีน่าเลย เขาใช้มือฉีกทึ้งชุดเดรสของเธอออกจากร่าง ตามมาด้วยเสื้อซับในตัวบาง “เรื่องของข้ากับท่านอาจารย์มันเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ที่ข้ายังเด็กมากๆ ข้ารู้สึกกับผิดนางมากกว่า เจ้าเองเถิดทารีน่า..ข้ามั่นใจว่าไม่มีใคร
เมื่อมาไคล์มองเห็นใบหน้าของคนร้ายที่วางเพลิงเผาเรือนหลังเล็กของเขา ที่มุมปากของมาไคล์ก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น เขาดึงดาบที่เอวของทหารออกมาก่อนจะพาดลงไปที่คอของเซอร์เดนิซา“เซอร์เดนิซา เจ้าต้องเป็นคนโง่แบบไหนถึงบุกเข้ามาในคฤหาสน์ของข้าเพื่อทำเรื่องเช่นนี้ได้”เดนิสกำมือแน่น เขาผิดจริงๆ ในเรื่องนี้และเขาในยามนี้ก็กำลังทำใจให้สบายเพื่อพร้อมที่จะตายแล้ว เมื่อสตรีในโลงแก้วผู้นั้นไม่หลงเหลือร่างกาย ดยุคทารอนก็ไม่ต้องใช้เลือดหัวใจของอเดเรียอีก คราวนี้นางจะสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขโดยไร้ซึ่งความหวาดระแวง“ข้าผิดเองครับท่านดยุค การกระทำของข้าในครั้งนี้ข้ายินยอมรับทุกอย่างด้วยความตายที่ท่านจะประทานให้”ทารีน่าเม้มปากแน่น ท่านเซอร์เดนิซานี่..พอมองๆ ไปแล้ว เขาเหมือนกับเธอในตอนแรกเลยแฮะ เพราะว่ารักถึงได้ยินยอมส่งมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ไม่เสียดายแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง..ความรักเมื่อมีอิทธิพลเหนือสมองแล้ว จะส่งผลทำให้เราหูตามืดบอดแถมยังโง่อีกต่างหาก..“เจ้าตายไปแล้วร่างกายของอาจารย์ข้าที่มอดไหม้ไปแล้วจะกลับคืนมาอย่างนั้นหรือเซอร์ ข้ารู้ว่าเจ้าถูกสั่งมาเพราะอย่างนั้นกล่าวรายนามของผู้ที่สั่งการ
ไม่ว่าจะปลายนิ้วหรือว่าปลายลิ้นที่ลากไล้ผ่านเรือนร่าง ต่างก็ส่งผลให้ตรงจุดนั้นร้อนผ่าวคล้ายจะมีไฟลุกขึ้นมาในทารีน่าช้อนสายตามองใบหน้าที่เธอเคยลุ่มหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ดวงตาสีเลือดนั้นทำให้เธอเคยตกหลุมรักเขาซ้ำๆ อย่างไม่อาจหักห้ามหัวใจเธอเทิดทูนบูชาเขาราวกับเป็นเทพเจ้า หลงรักเขาที่มั่นคงในความรักต่อนางเอกของเรื่อง..ทว่าเขาไม่ใช่บุรุษในแบบที่เธอเคยเลยสักนิดแน่นอนว่าใบหน้าของท่านมาไคล์ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่ผิดเพี๊ยนไปแต่ทว่านิสัยความโลและความไม่มั่นคงของเขามันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา ชุดเดรสที่ทารีน่าสวมใส่พลันถูกเลิกขึ้นมาจนเกือบถึงเอวมาไคล์ไม่สนด้วยซ้ำว่าในยามนี้เรานั่งอยู่ในห้องอาหารที่ไม่ใช้ห้องนอน เขารู้สึกเพียงแค่อยากสัมผัสเธอจนแทบคลั่ง หัวใจของเขามันแทบจะหยุดหายใจเพียงเพราะเธอมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจความเจ็บปวดที่ไร้ที่มาพาดผ่านหัวใจไปเงียบๆ ราวกับขนนกที่ปัดผ่าน“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าตัดใจจากข้าไปจนสิ้น..”คำกล่าวของมาไคล์ถูกกลืนลงคอเมื่อเขามองเห็น..ดวงตาที่คลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำ
หลังจากที่เพอร์ร่าพูดคุยกับพ่อบ้านเสร็จเรียบร้อย สาวใช้ร่างท้วมก็เดินมาที่หน้าห้องนอนของนายหญิง เธอเคาะประตูเล็กน้อยตามมารยาท แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับเพอร์ร่าจึงเดินเข้าไปด้านในเพราะคิดว่านายหญิงอาจจะกำลังหลับอยู่ เธอจึงไม่ได้เข้าไปด้านในและรอคอยอีกพักใหญ่ๆ ถึงเดินมาเคาะประตูใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเช่นเคยเมื่อเห็นท่าไม่ดีเพอร์ร่าจึงเปิดประตูเข้าไปในทันที ด้านในห้องนอนของนายหญิงไม่มีร่องรอยของใครเลย“นายหญิงออกมาจากห้องนอนรึเปล่า?”สาวใช้ที่เฝ้าหน้าห้องนอนของนายหญิงส่ายหน้าพร้อมกัน“ข้าทั้งสองไม่เห็นว่ามีใครเข้าหรือว่าออกจากห้องนอนของนายหญิงเลยค่ะคุณหัวหน้าสาวใช้”เพอร์ร่ายกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้ เธอพยายามระงับความตกใจที่เกิดขึ้นเอาไว้ก่อนจะรีบดึงสติของตัวเองกลับมา“ส่งคนไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์และคฤหาสน์ทรอย รายงานว่าท่านทารีน่าหายตัวไป..”แน่นอนว่าเมื่อกาเล็ตได้รับข่าวสารจากสาวใช้ของทารีน่าเขาก็ตรงมาที่คฤหาสน์โรแกนในทันที วันนี้หิมะตกหนักมากกว่าทุกวันอีกทั้งการเดินทางด้วยรถม้านั้นลำบากและกินเวลายิ่งนัก แต่เมื่อเขามาถึงหน้าคฤหาสน์ก็เห็นเคาน์ทรอยยืนรอเขาอยู่ด้วยสภาพเหนื่อยหอบ“ข
เมื่อได้ยินคำกล่าวของทารีน่า มาไคล์ก็ตัวแข็งทื่อไปพักหนึ่ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทำแบบนั้น..ดวงตาที่เบิกกว้างของเขาพลันอ่อนลงก่อนจะเดินเข้าไปหาทารีน่าที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้นช้าๆ มือของเขาสอดรับเข้าไปยังใบหน้าของเธอเพื่อจงใจเชยคางมนให้เงยขึ้นมามองสบตาเขา“ทารีน่า..ข้าไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรเพื่อให้เจ้าเข้าใจ แต่ข้ากับอเดเรีย ข้าไม่ได้รักนาง”ทารีน่าช้อนสายตามองหน้าเขา มือของเธอกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม? จะหลอกลวงเธอจนถึงนาทีสุดท้ายเลยใช่ไหม!!“ใครบอกว่าข้าหมายถึงว่าที่พระชายาอเดเรียล่ะคะ ท่านดยุคแห่งทารอน ท่านน่ะมักจะมองข้าว่าข้าคือสตรีที่โง่งมเสมอเลย ท่านดูถูกดูแคลนสายข่าวของโรแกนมากเกินไปแล้ว”ใบหน้าของมาไคล์ซีดเซียวจนไร้สีเลือด เขาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ลงไปบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นของเธอ“ข้าเสียนางไปไม่ได้ กับเจ้าก็เช่นกัน”“เพี๊ยะ!!”มือของเธอที่พึ่งจะฟาดลงไปบนใบหน้าของเขา มันทำให้มาไคล์รู้สึกชาไปหมดทั้งใบหน้า และท่าทีตกใจของท่านมาไคล์ที่ถูกเธอตบมันยิ่งทำให้ในใจของทารีน่ารู้สึกดียิ่งนัก!!“ข้าไม่ต้องการเป็นสตรีที่สองรองจากใครทั้งนั้น หากว่
ทารีน่ายังคงนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ เธอทอดสายตามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังเตาผิงเมื่อวานหลังจากกลับมาจากพระราชวังเธอก็ใช้เวลาไปกับสมุดบันทึกของอเดเรียทารีน่าคิดว่าอเดเรียตัวจริงน่าจะเป็นผู้จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ ที่น่าตกใจมากๆ ก็คือนางเอกของเรื่องมีพลังในการมองเห็นอนาคต และอนาคตที่อเดเรียมองเห็นมันถูกเขียนเอาไว้ในสมุดบันทึกเล่มนี้หมดแล้วเมื่อทารีน่ามายืนอยู่ที่ด้านหน้าเตาผิง นางก็โยนสมุดบันทึกในมือไปใส่ในกองไฟเธอมั่นใจว่าอเดเรียผู้สวมร่างน่าจะยังไม่ได้อ่านบันทึกนี้จบ ไม่อย่างนั้นนางคงจะไม่ใช้ชีวิตสบายๆ อย่างตอนนี้เป็นแน่เมื่อเพอร์ร่าได้ยินเสียงฝีเท้าที่ด้านใน สาวใช้ก็คิดว่านายหญิงของเธอจะต้องตื่นแล้วเป็นแน่ เธอจึงสั่งให้สาวใช้ด้านนอกยกถาดอาหารเข้ามาด้านใน“สายไปนิดสำหรับมื้อเช้านะคะนายหญิง”ทารีน่ายักไหล่“เพอร์ร่าหิมะตกหนักมากขนาดนี้ เจ้าเองก็ไม่ต้องตื่นเช้าอะไรมากมายนักหรอก”เพอร์ร่าส่งยิ้มให้กับนายหญิงก่อนจะก้มหน้าลง“ทหารในนามของตระกูลโรแกนได้นำผ้าห่มและเสื้อคลุมกันหนาวไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านตามที่นายหญิงสั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ”ทารีน่าหยั
ดวงตาของอเดเรียนั้นกำลังสั่นระริก ริมฝีปากคู่สวยขบเม้มคลายเข้าคลายออกซ้ำๆ ด้วยความสับสนเมื่อเธอกลับมายังพระราชวังของตัวเอง นั่นก็คือที่ประทับของพระชายากลับมีบางอย่างหายไปจากหีบไม้ที่เธอเฝ้าระมัดระวังบันทึกของอเดเรียตัวจริงหายตัวไป หายไปไหนกันนะ?ไม่มีทางที่เธอจะหลงลืมเอาไปไว้ที่อื่นเพราะว่าเรื่องนี้เธอระวังมากกว่าเรื่องไหนๆ ในนั้นมีเรื่องราวมากมายที่เธอยังไม่ได้อ่านไปจนถึงหน้าสุดท้ายเลย เพราะการเป็นว่าที่พระชายาทำให้อเดเรียไม่มีเวลาส่วนตัวเลยก็ว่าได้ แถมองค์รัชทายาทก็ตามติดเธอแทบจะตลอดเวลา..สีหน้าของอเดเรียนั้นเคร่งเครียดแสดงถึงความคิดอันยุ่งเหยิงในจิตใจมือของเธอสั่นเทาจนแทบจะหยิบจับอะไรไม่ได้ เธอชั่งใจมากเกินไป เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครมายุ่งเกี่ยวกับบันทึกนั้น ก็เลยไม่ได้รีบอ่านรีบทำลายมันทิ้งไปไม่ว่าบันทึกนั้นจะอยู่ที่ใคร ความเป็นอยู่ของเธอในยามนี้ก็ล้วนแล้วแต่อันตรายทั้งสิ้นเลย“อเดเรีย..”เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่หน้าต่างละเมื่อหันกลับไปมองก็เห็นเซอร์เดนิซาที่กำลังปีนหน้าต่างเข้ามาหาเธอ เขายังคงส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดเอวของเธอเอาไว้ด้วยความรักใ