ข้าก็ว่าอย่างนั้น ไม่รู้ทำไมทารีน่าถึงได้ชอบผู้ชายแบบฮาร์วีก็ไม่รู้
“บอกข้าหน่อยสิว่าเจ้ากำลังชอบใครอยู่ ท่านเคาน์ทรอยใช่รึเปล่า?” แล้วเธอควรจะตอบคำถามนี้ว่ายังไงดี “อ่า..เรื่องนั้นข้ายังบอกเจ้าตอนนี้ไม่ได้ รอให้ความรู้สึกของข้าชัดเจนเมื่อไหร่ ข้าจะบอกเจ้าคนแรกเลย” “ถามแค่นี้ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ แสดงว่าไม่ใช่ก็ต้องใกล้เคียงเป็นแน่” “ชะ..ใช่ที่ไหนกันเล่าเรื่องที่อยากรู้ข้าก็ถามเจ้าไปจนหมดแล้ว ข้าไม่รบกวนเวลาของเจ้าแล้ว” โอเรียน่าหัวเราะเบาๆ “แบบนั้นก็ดี ช่วยตามบุรุษหน้าห้องเข้ามาให้ข้าด้วย วันนี้ข้ายินดีจ่ายไม่อั้นให้บุรุษที่รับใช้ข้า” โอเรียน่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของทารีน่า สตรีผู้นี้นิสัยนับว่าไม่เลว เพียงแต่นับจากนี้อีกสองปีนางจะถูกส่งไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ หลังจากนั้นทางจักรวรรดิจะได้รับร่างอันไร้วิญญาณของนางกลับมาพร้อมกับสัญญาสงบศึกที่ถูกฉีกออก สงครามระหว่างดินแดนกินเวลากว่าสองปีจบลงเพราะอเดเรียนางเอกของเรื่องได้เข้าไปพูดคุยกับองค์จักรพรรดิซึ่งเป็นพี่ชายของนาง.. เดิมทีอเดเรียเป็นเด็กที่ถูกท่านลอร์ดคาเรนเก็บมาเลี้ยง คนที่รู้ว่านางคือราชวงศ์ก็คือคาดินันกาเล็ต สงครามยุติลงเพราะสาวงาม หลังจากสิ้นสุดสงครามก็เป็นช่วงก่อกบฏของมาไคล์ และเมื่อมาไคล์ตาย ทารีน่าก็ถูกประหารในวันรุ่งขึ้นเนื่องจากนางวางยาฆ่าอเดเรีย ถึงแม้ว่าเธอในยามนี้จะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับนางเอกของเรื่องแล้ว แต่ก็ยังไว้ใจเรื่องการตายที่ถูกกำหนดเอาไว้ไม่ได้ ทารีน่ายกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม เธอเลือกที่จะมานั่งด้านล่างเพื่อดูบรรยากาศโรงระบำรอบๆ ที่นี่เต็มไปด้วยสตรีมากมายที่เข้ามาหาความสุขจากชายหนุ่มหล่อเหลาที่เป็นนักระบำ เพราะอย่างนั้นที่นี่ถึงทำเงินให้โรแกนเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากสตรีที่เดินทางเข้ามาล้วนแล้วแต่ยอมจ่ายเงินไม่อั้นเพื่อชายหนุ่มรูปงาม ค่อยๆ ทำความเข้าใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้จะได้จัดการบริหารธุกิจที่มากมายของโรแกนได้ ทารีน่าเลือกที่จะเดินออกมาจากโรงระบำ เธอสวมเสื้อคลุมพร้อมกับใช้หมวกเพื่อปิดบังสีผมที่แสนจะสะดุดตา ตั้งแต่มาที่นี่เธอยังไม่เคยออกไปที่ไหนนอกจากคฤหาสน์เลย วันนี้ทารีน่าก็เลยถือโอกาสเดินเล่นสักหน่อย ที่นี่เป็นย่านการค้าภายในเมืองที่มีผู้คนพลุกพล่านยิ่งนัก มีอาหารขายเต็มสองข้างทาง ผู้คนต่างก็ยิ้มแย้มและมีความสุข เป็นโลกในนิยายที่สวยงามมากทีเดียวหากไม่ติดว่าเธอจะต้องตายน่ะนะ ในมือของทารีน่ากำลังถือผลไม้อยู่ เธอนั่งลงที่ม้านั่งก่อนจะทอดสายตามองไปยังทะเลสาบที่แสนกว้างใหญ่ ก่อนมาที่นี่เธอเป็นยังไงกันนะ เธอเคยคิดว่าถ้าเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องนี้จะวิ่งเข้าไปกอดท่านมาไคล์ และอุทิศตัวเพื่อรับใช้เขา แล้วตอนนี้..เธอกำลังทำอะไรอยู่? ผลไม้ในมือของทารีน่าพลันร่วงหล่นอยู่บนพื้น ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตกใจ เมื่อหวนคิดถึงความตั้งใจแรกของตัวเอง เธอกำลังกังวลเรื่องอะไรกัน? ทั้งๆ ที่ตั้งใจว่าจะมาหาเมนตัวเองแล้วรักและปกป้องเขาจากความเจ็บปวดทุกสิ่งทุกอย่างที่พบเจอ ริมฝีปากบางของทารีน่าหยักยิ้มขึ้นมา ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เข้ามาในนิยายที่เธอรัก เช่นนั้นต่อจากนี้เธอก็จะทำตามใจตัวเอง!! ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของท่านมาไคล์หรือว่าท่านพี่วินเทอร์ เธอจะทำตามเสียงหัวใจตัวเองเท่านั้น เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็ให้ตัวเธอในอนาคตจัดการก็แล้วกัน “ผลไม้ในมือของเลดี้ตกลงไปบนพื้นแล้วหากว่าท่านไม่รังกียจเอาผลไม้ของข้าไปทานก็ได้นะครับ” ทารีน่ากำลังจะหันไปปฏิเสธเขา แต่เมื่อเธอมองเห็นใบหน้าของชายที่กำลังส่งแอบเปิ้ลให้ เธอก็ถึงกับอ้าปากค้างในทันที เขาสวมแว่นตาเพียงข้างเดียวที่ทำให้ดูภูมิฐานมากๆ เสื้อคลุมของเขามันเป็นสีขาวบริสุทธิ์ที่ถูกสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีน้ำตาล บนคอของเขาสวมสร้อยรูปกางเขนเอาไว้ ใบหน้าที่เขร่งครึมนั่นทำให้เธอรู้สึกกลัว แต่โดยรวมแล้วเขาหล่อค่ะ.. และฉันเป็นโรคแพ้คนหล่อ “เพี๊ยะ!!" คาดินันกาเล็ตที่กำลังยื่นผลไม้ให้สตรีเบื้องหน้าถึงกับตกใจที่อยู่ๆ นางก็ยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง “ปะ..เป็นอะไรรึเปล่าครับ หรือว่าเลดี้ไม่สบายตรงไหน?” ทารีน่าไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น เธอเพียงตบหน้าเพียงตบหน้าเพื่อเรียกสติของตัวเองกลับมา จะมาหลงเสน่ห์คนอื่นอีกไม่ได้แล้ว ปัญหาของเธอตอนนี้ก็รุมเร้าเต็มไปหมดเลย “อ่า..ข้ารู้สึกมึนหัวนิดหน่อย” ถึงในใจจะคิดแบบนั้นแต่การกระทำกลับตรงข้ามเลย ทารีน่าแกล้งล้มลงในอ้อมแขนของเขา เธอซุกใบหน้าลงในอ้อมแขนของเขาอย่างถือวิสาสะ และในระหว่างที่เธอล้มลงในอ้อมแขนของชายแปลกหน้า หมวกที่คลุมผมของเธออยู่พลันเลื่อนออก ทำให้เส้นผมสีแดงสยายออกมาและเผยใบหน้างดงามให้ชายผู้นั้นได้มองเห็นอย่างถนัด ในวินาทีที่เขามองเห็นใบหน้าของสตรีในอ้อมแขนเขาก็ปล่อยมือที่ประคองเธออยู่ออกในทันที เป็นผลทำให้ทารีน่าร่วงลงไปกองกับพื้นเสียงดัง “อัก” จะ..เจ็บ ผู้ชายในนิยายเรื่องนี้ทำไมชอบทำรุนแรงกับผู้หญิงที่พบเจอกันนักนะ ท่านมาไคล์เจอเธอครั้งแรกก็แทงเธอ ส่วนหมอนี่เจอเธอครั้งแรกก็กล้าปล่อยมือเพื่อให้เธอร่วงลงมากระแทกพื้น “เลดี้โรแกน ข้าไม่คิดว่าจะเป็นท่าน ไม่อย่างนั้นคงจะไม่หยิบยื่นผลไม้ของตัวเองให้ ทำให้ท่านเข้าใจผิดแล้วเช่นนั้นข้าคงต้องขอตัว” โห รัศมีความเกลียดชังในสายตาของเขามันช่างน่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อจับขาของเขาเอาไว้ เธอยังไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร ถึงแม้ใบหน้าของเขาจะหล่อเหลาแต่เพราะว่าเขาสวมหมวกอยู่เธอจึงไม่รู้ว่าเขามีสีผมสีอะไร ไม่อย่างนั้นคงจะได้ชื่อของเขา เธอจะได้เข้าใจเหตุผลที่เขาเกลียดทารีน่าได้ “ดะ..เดี๋ยวก่อนค่ะ ช่วยพยุงข้าขึ้นไปด้วย ข้าเจ็บจนลุกไม่ขึ้น” นี่เรื่องจริงเลยไม่ได้แกล้งทำ เธอเจ็บจนไม่สามารถยืนขึ้นได้ด้วยตัวเอง เขาจะหนีไปจากเธออีกก็ให้มันรู้ไปสิเพราะว่าเธอจะกอดขาของเขาเอาไว้แบบนี้จนกว่าเขาจะช่วยเธอ ตรงนี้มีคนเดินผ่านไปมาเยอะแยะเขาคงไม่กล้าจะแล้งน้ำใจกับเธอหรอกใช่ไหม? กาเล็ตถอนหายใจก่อนที่เขาจะก้มลงเพื่อพยุงตัวของสตรีชั่วช้าผู้นี้ขึ้นมา แต่ทว่าในระหว่างที่เขากำลังจับแขนของเธอ สายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นเลือดสีแดงสดที่เปื้อนอยู่บนชุดเดรสที่ชมพูอ่อน เขายื่นมือไปสัมผัสตรงนั้นเบาๆเลดี้โรแกนก็ถึงกับกรีดร้องออกมาพร้อมกับทรุดตัวลงไปอีกครั้ง กาเล็ตหลับตาลงช้าๆ ด้วยความรู้สึกผิด ครั้งนี้นางไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ ดูเหมือนว่าเขาจะพบเจอเรื่องยุ่งยากเข้าให้แล้ว“ข้าเดินไม่ไหวค่ะ ไม่ใช่ว่าท่านจะต้องอุ้มข้าขึ้นไปอย่างนั้นหรือคะ ที่ข้าเป็นเช่นนี้ก็เพราะท่านจงใจทำร้ายข้าแท้ๆ ..”ได้คืบต้องเอาศอกสิ เธอจะต้องทำให้เขารู้สึกผิดเรื่องที่ทำร้ายเธอให้สาสมเลยคอยดู“เรื่องนั้นข้าไม่ได้ตั้งใจ และข้ายินดีที่จะพาเลดี้ไปรักษาอาการเจ็บปวดเหล่านี้ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์..”เขาไม่พาเธอไปหาหมอแต่กลับพาเธอไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ อย่าบอกนะว่าคนผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตที่จะมาฆ่าเมนของเธอน่ะและเมื่อเขาอุ้มทารีน่าขึ้นมาจากพื้นเธอก็ใช้โอกาสนี้ดึงผ้าคลุมของเขาลงเส้นผมสีเงินยาวสลวยปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของเธอ แน่นอนแล้ว..ชายผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตไม่ผิดแน่!!หรือว่าจะฉวยโอกาสนี้หยิบมีดขึ้นมาแทงทะลุหัวใจของเขาไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีไหมนะ เขาจะได้ไม่มาทำร้ายเมนของเธออีก“กำลังคิดหาทางทำร้ายข้าอยู่งั้นหรือ”“...”ในนิยายไม่เห็นบอกว่าเขาอ่านใจได้เลยนี่“ชาที่เลดี้ส่งมาให้ข้าทุกวัน ข้าไม่ได้ดื่มมันเลยเพราะว่าในชานั้นมีพิษอยู่ หากว่าท่านอยากจะสังหารข้าก็คิดแผนการที่มันรัดกุมมากกว่านี้หน่อยเถิด”เดี๋ยวนะ ยัยทารีน่าทำแบบนั้นไปทำไมกัน วางยาคาดินันเนี่ยนะ โง่สิ้นดี“ข้าไม่ได้..”“วาง
“แล้วเจ้ามาบอกกล่าวเรื่องนี้กับข้าทำไมกัน?”เอ้า..ก็เธอไม่อยากให้เขาเกลียดเธอโดยไม่มีเหตุผลอีกไง“เพราะว่าท่านคือคาดินันนี่คะ บางทีท่านอาจจะช่วยข้าเรื่องการสูญเสียความทรงจำได้”“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก แต่ข้ารับปากว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร แผลของเจ้า ข้ารักษาเรียบร้อยแล้วรีบสวมชุดสิข้าจะไปส่ง..”ต้องจากกันแล้วงั้นเหรอ?จะว่าไปแผลของเธอมันไม่มีความรู้สึกเจ็บอีกแล้ว ดูเหมือนว่าพลังเวทย์ของเขามันจะใช้ได้ดีมากทีเดียว ทารีน่าก้มหน้าลงไปมองที่แผลของตัวเองเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยจริงอยู่ที่มันไม่มีความเจ็บปวดอยู่แล้วแต่ทว่าเลือดสีดำกำลังไหลออกจากบาดแผล..“ข้าได้ขับเลือดเสียออกมา อีกไม่นานแผลจะหายสนิท..”ปกติแล้วเป็นนักบุญหรือว่านักเวทย์จะต้องรักษาแผลหายแบบหายวับไปจากร่างกายได้เลยนี่ แต่แล้วทำไม..แผลของเธอมันถึงไม่หายวับเหมือนที่เธอเข้าใจล่ะ“เพราะว่าก่อนหน้านี้เจ้าทำนิสัยแย่ๆ พอสมควร การที่ทิ้งบาดแผลนี้เอาไว้เพื่อไม่ให้หายในทันทีถือเป็นการเตือนสติเจ้า..ทารีน่า!!!”เธอล้มลงในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นลมไปเลย เพียงแค่เพราะมองแผลของตัวเองถึงกับเป็นลมล้มพับไปแบบนี้เ
เธอล้มตัวนอนบนเตียงก่อนจะเหลือบมองเสื้อคลุมสีขาวที่เธอสวมกลับมา ไม่น่าแปลกใจหรอกว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดทารีน่าคนเก่ามากขนาดนั้นเพราะสิ่งที่ทารีน่าทำมันคือการบังคับจิตใจ นางชื่นชอบใบหน้าและร่างกายของกาเล็ตเพราะอย่างนั้นนางถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขายินยอมเป็นของเล่นให้นางถึงขนาดวางยาในน้ำชาของเขา และกาเล็ตเหมือนจะได้รับพิษไปเต็มๆ ในครั้งแรก ยาแก้พิษอยู่ที่ทารีน่าและนางจะส่งมอบยาถอนพิษให้เขาก็ต่อเมื่อกาเล็ตยอมนอนกับนาง..บ้าไปแล้ว ยัยนั่นมันเข้าขั้นโรคจิตขั้นสุดเลยนี่หว่า แบบนั้นที่กาเล็ตหลงรักอเดเรียคงเพราะนางเอกมาช่วยเขาเป็นแน่เมื่อรู้เรื่องแบบนี้แล้วเธอจะยังเสนอหน้านี้ไปหาเขาอีกได้ยังไงกัน ละอายใจชะมัดเลยขนาดเธอไม่ได้เป็นคนทำยังอดเสียใจไม่ได้ แล้วไม่รู้ว่ายัยทารีน่าตัวจริงสำนึกบ้างรึเปล่า?ริมฝีปากของเธอเม้มๆ คลายๆ สลับไปมาด้วยความชั่งใจ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆห้องนอนของเธอยามนี้มีแต่งชุดเดรสมากมายเต็มไปหมดเพื่อจัดเตรียมเอาไว้สำหรับงานในวันพรุ่งนี้ ท่านพ่อบ้านได้จัดการส่งชุดไปที่คฤหาสน์ทารอน และส่งชุดไปที่คฤหาสน์ทรอยของท่านพี่วินเทอร์ด้วยพรุ่งนี้คืองานวันชาติ และงานในวันพรุ
การที่เขาจะต้องมาแต่งกายคล้ายๆ ดยุคแห่งทารอนเป็นเรื่องที่วินเทอร์ไม่ค่อยชอบใจเอาซะเลย“ไม่ใช่เจ้าคนเดียวที่ไม่ชอบใจ คิดว่าข้าชอบแต่งกายคล้ายเจ้ารึไงเคาน์ทรอย”วินเทอร์ยกยิ้มขึ้นมาจางๆ“หากว่าท่านดยุคไม่เต็มใจ โชคดียิ่งนักที่ในคฤหาสน์โรแกนมีชุดออกงานของบุรุษมากมายให้ท่านได้เปลี่ยน ข้าจะให้พ่อบ้านนำทางท่านไป”มาไคล์แสยะยิ้มออกมา“ทำไมข้าจะต้องเป็นคนเปลี่ยนเล่าเคาน์ทรอย เจ้าต่างหากที่จะต้องเป็นคนเปลี่ยน รู้จักทางที่นี่ดีไม่ใช่รึไง เช่นนั้นเจ้าก็รีบไปเปลี่ยนชุดซะสิ รีบๆ ด้วยล่ะเพราะทารีน่าคงจะใกล้ลงมาแล้ว”“ข้าจะไปเปลี่ยนทำไมกัน ในเมื่อชุดนี้ก็เหมาะสมกับข้าอยู่แล้ว..”“นี่เจ้ากล้า..”“ใครจะเปลี่ยนชุดอย่างนั้นหรือคะ? มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”ทารีน่ายกชายกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เดินลงมาจากบันได นางส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ก่อนจะหันไปมองท่านพี่วินเทอร์สลับกันปกติทารีน่าก็งดงามมากอยู่แล้ว วินเทอร์พึ่งรู้ว่านางสามารถงดงามเพิ่มมากขึ้นได้อีก“ไม่มีเลยรินา ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล..”วินเทอร์กล่าวพร้อมกับยื่นมือไปให้ทารีน่าจับ ในขณะที่เธอกำลังจะวางมือลงบนมือของเขา มาไคล์ก
ทารีน่าส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ เธอรู้ดีว่าเกลือในยุคนี้สำคัญมากและรู้อีกด้วยว่าเขาจะเอาบ่อเกลือไปต่อรองกับองค์รัชทายาท เพราะหากประชาชนไม่มีเกลือใช้ จะวิกฤตอย่างแน่นอนแต่โรแกนไม่ได้มีบ่อเกลือเพียงบ่อเดียว การที่เขาจะเอาเรื่องการค้าเกลือไปต่อรองกับองค์รัชทายาทเรื่องนั้นเธอต้องช่วยเมนของตัวเองอยู่แล้ว แต่เธอจะไม่ยอมให้พวกชาวบ้านต้องเดือดร้อนไปด้วยหรอก..ท่านมาไคล์ที่รัก ฉันจะสนับสนุนในทุกแผนการของคุณ แต่จะไม่ยอมให้มีคนมาเดือดร้อนกับแผนการของคุณหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นฉันจะทั้งซับพอร์ตและปกป้องคุณไปในเวลาเดียวกันหากรู้แบบนั้นแล้วก็หลอกใช้ฉันเยอะๆ เลยนะคะที่เขาเข้าหาเธอ มันเดาได้ไม่ยากเลยว่าเขามีจุดประสงค์อะไร แต่ถึงจะรู้เธอก็ยินยอมให้เขาหลอกใช้..เมื่อฮาร์วีเดินเข้ามาในสนามประลองสายตาของเขาก็บังเอิญเห็นสตรีผมสีแดงที่แสนจะโดดเด่น นางกำลังอยู่ข้างๆ ดยุคทารอน สายตาของนางจับจ้องอยู่บนใบหน้าของหมอนั่นด้วยความหลงใหล..สายตาคู่นั้นของทารีน่าไม่มีแม้แต่จะเบนมาทางเขา ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศออกมาแล้วว่าราชวงศ์กำลังเดินทางเข้ามาในสนามประลองไม่ปกติ..“องค์รัชทายาทเพคะ ได้เวลาที่จะย้ายไปนั่งยังที่ประทับ
วินเทอร์หอมแก้มของทารีน่าเบาๆ และการกระทำของเขานั้นมันทำให้ทารีน่ายิ่งนิ่งอึ้งขึ้นมาหนักกว่าเดิม เธอยกมือขึ้นมาถูแก้ม ตรงบริเวณที่พึ่งจะถูกวินเทอร์หอมแก้มมา“ท่านดยุคยังทำได้แล้วเหตุใดข้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้”มาไคล์แสยะยิ้มขึ้นมาเมื่อเขาเห็นท่าทีหัวเสียของวินเทอร์ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้วินเทอร์รู้สึกไม่ดี แต่เขาก็อดรู้สึกสนุกไม่ได้เมื่อวินเทอร์โกรธเดิมทีเคาน์ทรอยนั้นเป็นพวกเก็บสีหน้าเก่ง เขาคิดว่าหมอนี่จะไม่รู้สึกอะไรแต่ผิดคาดแฮะ..“จากนี้ไปจะเริ่มการประลองที่คู่แรก กติกาการประลองคือนำผู้ที่ชนะแข่งขัน มาประลองกันไปเรื่อยๆ จนเหลือคนสุดท้ายก็จะได้ป้ายคำสั่งขององค์จักรพรรดิไปครอบครอง”ป้ายคำสั่งนั้นสามารถเดินทางเข้าออกในพระราชวังและประตูเมืองไหนก็ได้ในจักรวรรดินี้อ่า..รางวัลของผู้ที่ชนะ น่าสนใจเหมือนกัน แต่การประลองจะเริ่มต้นขึ้นแล้วเพราะอย่างนั้นเรื่องโรคกลัวเลือดของเธอ..จะรับมือยังไงดีทารีน่าจึงเบนสายตาเพื่อหันหน้าไปทางอื่น“เจ้าไม่ชอบการต่อสู้อย่างนั้นหรือ ให้ข้าพาลงไปด้านล่างดีไหม?”นี่คงเป็นข้อเสนอที่ดีไม่น้อยเลย ทารีน่ารีบหันไปหาท่านมาไคล์เพื่อจะกล่าวอำลาเขา“ลงไปนั่งรอด้านล่างก็ได
หลังจากนั้นองค์รัชทายาทฮาร์วีก็เดินออกไปจากห้องรับรองของเธอ ทำให้ตอนนี้มีเพียงแค่ทารีน่ากับคาดินันกาเล็ตที่กำลังยืนอยู่เธอไม่ได้เตรียมใจมาก่อนเลยว่าจะได้พบเจอกันอย่างรวดเร็วปานนี้“ไปนอนต่อเถอะ ข้าจะไปแล้ว..”“ขอบคุณที่ช่วยข้านะคะ เพียงแต่ท่านเข้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน?”เขาชะงักกับคำถามที่ตรงไปตรงมาของเธอ กาเล็ตยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อกระแอมเล็กน้อย“ข้าเพียงผ่านมาเท่านั้นเอง”ทารีน่าช้อนสายตามองหน้าเขา ถึงแม้ว่าในใจเธออยากจะมองส่วนอื่นมากกว่าหน้าก็เถอะ“ท่านกล่าวว่าข้าคือสตรีของท่าน มันจะไม่เป็นการทำให้ตำแหน่งคาดินันของท่านกาเล็ตเสียเกียรติอย่างนั้นหรือคะ”“อย่างห่วงเลย ข้าขอตัวก่อน”เขาจะไปแล้วเรอะ ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันเลย“ข้า..สามารถไปหาท่านที่วิหารได้ไหมคะ?”เธอเอ่ยถามออกมาด้วยใบหน้าที่ขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ และคำถามนั้นมันทำให้กาเล็ตที่กำลังสวมเสื้อผ้าให้เข้าที่รู้สึกแปลกๆ“เจ้าจะไปที่นั่นทำไม”“อย่าเข้าใจผิดนะคะ ข้าไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอะไรเลย..อ่า จริงสิข้ายังมีเสื้อคลุมของท่านที่ต้องนำไปคืน”มุมปากของกาเล็ตยกสูงขึ้น เขารับหันหลังให้ทารีน่าในทันที“หากเป็นเรื่องการคืนเสื้อคลุม เช่
มาไคล์ยกมือขึ้นมาเสยผมที่ถูกเซ็ตเอาไว้อย่างดีของเขาไปด้านหลังอย่างลวกๆ งานเลี้ยงที่น่าเบื่อหน่ายยังไงก็ยังคงน่าเบื่อหน่ายแบบนั้นกว่าจะพูดคุยกับชนชั้นสูงที่ละโมบโลภมากพวกนั้นจบ เล่นเอาเขาเมื่อยปากมากทีเดียว เท้าที่กำลังก้าวเดินไปยังห้องรับรองของตระกูลทารอนพลันหยุดลงเมื่อเขามองเห็นห้องรับรองของตระกูลโรแกนสาวใช้คนสนิทของทารีน่านั่งอยู่ด้านหน้าประตู ในมือของนางกำลังปักผ้าเช็ดหน้าอยู่แสดงว่าทารีน่าคงจะตื่นแล้วสินะ เช่นนั้นเขาก็ควรจะเข้าไปเยี่ยมนางหน่อย เพียงแต่การเข้าไปเยี่ยมทางด้านหน้าประตูมันน่ารำคาญมากเกินไปเพราะว่าสาวใช้ของทารีน่าคงไม่ยอมให้เขาเข้าไปด้านในได้ง่ายๆแถมเขายังอยากเห็นใบหน้าที่ตื่นตกใจของทารีน่าในยามที่นางมองเห็นเขาด้วย มาไคล์เดินอ้อมมาที่ด้านหลังก่อนที่เขาจะกระโดดเข้าทางหน้าต่างงานเลี้ยงวันชาติอะไรกัน นี่มันงานเลี้ยงจับคู่ชัดๆ จัดเตรียมที่พักให้ชนชั้นสูงเอาไว้อย่างดิบดีเช่นนี้ จะมีจุดประสงค์ใดได้อีก ทุกปีเขาเข้าร่วมแค่ตอนเช้าเท่านั้น หลังจากพิธีประลองจบลงแล้วเขาจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ แต่ปีนี้เขาเห็นทารีน่ากระตือรือร้นในการเข้าร่วมงาน เขาก็เลยอยู่ที่นี่กับนาง..เพราะว่า
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
องค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด