การที่เขาจะต้องมาแต่งกายคล้ายๆ ดยุคแห่งทารอนเป็นเรื่องที่วินเทอร์ไม่ค่อยชอบใจเอาซะเลย
“ไม่ใช่เจ้าคนเดียวที่ไม่ชอบใจ คิดว่าข้าชอบแต่งกายคล้ายเจ้ารึไงเคาน์ทรอย” วินเทอร์ยกยิ้มขึ้นมาจางๆ “หากว่าท่านดยุคไม่เต็มใจ โชคดียิ่งนักที่ในคฤหาสน์โรแกนมีชุดออกงานของบุรุษมากมายให้ท่านได้เปลี่ยน ข้าจะให้พ่อบ้านนำทางท่านไป” มาไคล์แสยะยิ้มออกมา “ทำไมข้าจะต้องเป็นคนเปลี่ยนเล่าเคาน์ทรอย เจ้าต่างหากที่จะต้องเป็นคนเปลี่ยน รู้จักทางที่นี่ดีไม่ใช่รึไง เช่นนั้นเจ้าก็รีบไปเปลี่ยนชุดซะสิ รีบๆ ด้วยล่ะเพราะทารีน่าคงจะใกล้ลงมาแล้ว” “ข้าจะไปเปลี่ยนทำไมกัน ในเมื่อชุดนี้ก็เหมาะสมกับข้าอยู่แล้ว..” “นี่เจ้ากล้า..” “ใครจะเปลี่ยนชุดอย่างนั้นหรือคะ? มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า” ทารีน่ายกชายกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เดินลงมาจากบันได นางส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ก่อนจะหันไปมองท่านพี่วินเทอร์สลับกัน ปกติทารีน่าก็งดงามมากอยู่แล้ว วินเทอร์พึ่งรู้ว่านางสามารถงดงามเพิ่มมากขึ้นได้อีก “ไม่มีเลยรินา ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล..” วินเทอร์กล่าวพร้อมกับยื่นมือไปให้ทารีน่าจับ ในขณะที่เธอกำลังจะวางมือลงบนมือของเขา มาไคล์ก็ปัดมือของวินเทอร์ออกเพื่อให้เธอวางมือลงบนมือของเขา “เราสายมากแล้ว รีบไปเถอะ” ในใจมีคำถามมากมายว่าเขา..เถียงกับเคาน์ทรอยทำไมกัน? อันที่จริงคำถามมากมายมันกวนใจเขาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วว่าทำไมเขาจะต้องให้ทารีน่าเป็นคู่ควง ทั้งๆ ที่ไม่กี่วันก่อนเขาพึ่งจะสร้างบาดแผลบนร่างกายของนาง อีกทั้งยังทำร้ายนางด้วย.. แต่ไม่กี่วันก่อนเขากลับรู้สึกว่านางน่าสนใจ และอยากจะทดสอบว่านางรักเขาจริงๆ รึเปล่า เพื่อที่เขาจะได้หลอกใช้นาง เช่นนั้นเขาก็ได้คำตอบของเรื่องทั้งหมดนี้แล้วว่าที่เขาเข้ามาพัวพันกับทารีน่า ทั้งหมดที่เขาทำไปมันเป็นเพราะว่าเขาหลอกใช้นาง ใช้แล้วเหตุผลนี้แน่ๆ เมื่อทารีน่าเห็นใบหน้าของท่านพี่วินเทอร์ที่ดูสลดลงเล็กน้อย เธอก็ใช้มืออีกข้างจับมือของเขาเอาไว้ เมื่อวานเรา..พูดกันไม่เข้าใจนิดหน่อย เพราะแบบนั้นเธอไม่อยากจะผิดใจกับเขาอีกแล้ว “ขึ้นรถม้าของทารอนไปเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปยังที่นั่นที่ดีในสุดในการดูการแข่งขันของอัศวิน..” วะ..ว่าไงนะ? และเมื่อเดินทางมาถึงพระราชวังแน่นอนว่าผู้คนทั้งงานต่างจับจ้องมาที่เธอและท่านดยุค เพราะว่าพวกเราทั้งสามคนมางานพร้อมกับแถมท่าทีของเธอและเขายังนับว่าสนิทสนมกัน ซึ่งมันทำให้เกิดการจับกลุ่มพูดคุยกันของชนชั้นสูง ชื่อของเลดี้โรแกนก็อยู่ในหัวข้อการจับกลุ่มสนทนา “รินา..ไม่เป็นไรใช่ไหม?” เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ที่ส่งสายตาเป็นห่วงมาให้ “หากเป็นเรื่องที่ชื่อของข้าอยู่ในการสนทนาของพวกเขา ข้าไม่เป็นอะไรเลยค่ะ” ตอนนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงไม่ใช่ชื่อเสียงของเธอแต่มันคือพิธีการเปิดงานวันชาติต่างหาก เมื่อขบวนของราชวงศ์ขึ้นรถม้าเดินทางไปตามถนนหนทางในเมืองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีการกล่าวเปิดงานวันชาติสิบวันเต็มๆ ที่ลานประลอง.. อัศวินของตระกูลต่างๆ ก็จะเข้าร่วมเพื่อเป็นสีสันของงานวันชาติ และท่านมาไคล์พาเธอมานั่งยังที่นั่นที่สามารถมองเห็นการประลองได้ชัดเจนมากที่สุด แต่เธอกลัวเลือด..ตอนนี้ในใจก็เลยภาวนาว่าขอให้ตัวเองอดทนไม่เป็นลมไปก่อนที่การแข่งขันจะจบ เสียงตบมือดังขึ้นมาพร้อมๆ กับรถม้าของราชวงศ์ที่เคลื่อนที่เข้ามาในลานประลอง ผู้คนโดยรอบบริเวณต่างยืนขึ้นเพื่อทำความเคารพแด่องค์จักรพรรดิและองค์รัชทายาท นี่คงจะเป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นองค์รัชทายาทฮาร์วี ใบหน้าของเขานับว่าหล่อเหลาในแบบที่สมกับเป็นพระเอกของเรื่องนี้ แต่มันไม่ได้ว้าวอะไรขนาดนั้นเพราะในสายตาจองเธอแล้ว คนที่หล่อที่สุดในเรื่องคือท่านมาไคล์ต่างหาก ทารีน่าเงยหน้าขั้นมองใบหน้าของท่านมาไคล์ที่อยู่ด้านข้าง ที่มุมปากของเธออมยิ้มน้อยๆ เมื่อได้มองเห็นเขาในมุมที่ใกล้เช่นนี้ มาไคล์ปรายตามามองหน้าของทารีน่าเมื่อเขาเห็นองค์รัชทายาทเดินทางเข้ามาในสนามประลอง เขาแค่ตั้งใจจะมองท่าทีของทารีน่าว่านางจะแสดงท่าทีแบบไหนเมื่อพบเจอคนรักเก่า แต่ทว่าสายตาของนางกลับมองมาที่เขา..ตอนนี้มันก็เลยทำให้เรากำลังสบตากันอยู่ กล้ามเนื้อบนใบหน้าของทารีน่าเกร็งขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อท่านมาไคล์หันหน้ากลับมาแล้วเราสบตากันพอดี “รู้แล้วว่าหล่อ ไม่ต้องมองตลอดเวลาแบบนั้นก็ได้” เหมือนกับว่าเขามัดเธอเอาไว้ด้วยสายตาอันแสนเจ้าเล่ห์ของเขาเลย ท่านมาไคล์เมนของฉันหล่อที่สุดเลยให้ตายเถอะ!! “อยากจะเถียงออกไปเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าข้าจะเถียงท่านไม่ได้เพราะว่าท่านดยุคหล่อเหลามากจริงๆนั่นแหละค่ะ” เมื่อได้ยินคำกล่าวแบบนั้นของทารีน่า มันทำให้มาไคล์รีบหันไปมองทางอื่นโดยไม่รู้ตัว ใบหูของเขาทั้งสองกำลังแดงและเขากำลังพยายามเกร็งสีหน้าเอาไว้เพื่อให้ตัวเองดูปกติและไม่หวั่นไหวไปกับคำกล่าวของเธอ “ข้าอยากจะถามเจ้ามาตลอดเลยว่าเจ้าชอบข้าตรงไหนงั้นเหรอ?” เขาถามทั้งๆ ที่ไม่ได้มองหน้าเธอ แต่สายตาของทารีน่ายังคงจับจ้องที่ใบหน้าของเขาอยู่ “ทุกตรงเลยค่ะ การจะรักใครสักคนต้องมีเหตุผลด้วยอย่างนั้นหรือคะ?” มาไคล์รู้สึกว่าเขากำลังถูกต้อนให้อับจนในถ้อยคำที่จะกล่าวออกไป ตั้งสติหน่อยสิวะ ยิ่งเป็นแบบนี้ก็ดีมากเลยไม่ใช่รึไง เพราะว่าทารีน่านั้นชอบเขา..การจะหลอกใช้นางก็เลยง่ายดายมากยิ่งขึ้น.. เขาหันกลับมามองสบตาของเธออีกครั้งหนึ่ง โชคดีที่เคาน์ทรอยไปทักทายขุนนางคนอื่นอยู่ทำให้ตอนนี้มีแค่เขากับเธอเท่านั้น จังหวะดีๆ แบบนี้ต้องรีบฉวยเอาไว้สิ “ทารีน่า ข้าได้ยินว่าโรแกนพึ่งจะขุดบ่อเกลือขึ้นมาใหม่ หากว่าข้าอยากจะได้สัมปทานการผูกขาดค้าเกลือจากเจ้า..” “ท่านจะอยากได้สัมปทานการค้าไปทำไมกันคะ ข้าสามารถยกบ่อเกลือที่พึ่งขุดขึ้นมาใหม่ให้ท่านได้เลย ส่วนเรื่องจะผูกขาดหรือไม่เรื่องนั้นเชิญท่านตัดสินใจเองได้เลยค่ะ” ง่ายดาย..ขนาดนั้นเลย? เขาแค่จะหลอกใช้เธอ แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะง่ายดายขนาดนั้น เกลือถือเป็นสิ่งสำคัญมาก หากผู้ใดถือครองบ่อเกลือเอาไว้ ผู้นั้นจะร่ำรวยยิ่งกว่ามีเหมืองเพชรซะอีก.. มาไคล์แสยะยิ้มออกมา ทารีน่าเอ๋ย..ดูเหมือนว่าการหลอกใช้เจ้าจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับข้ามากกว่าที่คิดเอาไว้ทารีน่าส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ เธอรู้ดีว่าเกลือในยุคนี้สำคัญมากและรู้อีกด้วยว่าเขาจะเอาบ่อเกลือไปต่อรองกับองค์รัชทายาท เพราะหากประชาชนไม่มีเกลือใช้ จะวิกฤตอย่างแน่นอนแต่โรแกนไม่ได้มีบ่อเกลือเพียงบ่อเดียว การที่เขาจะเอาเรื่องการค้าเกลือไปต่อรองกับองค์รัชทายาทเรื่องนั้นเธอต้องช่วยเมนของตัวเองอยู่แล้ว แต่เธอจะไม่ยอมให้พวกชาวบ้านต้องเดือดร้อนไปด้วยหรอก..ท่านมาไคล์ที่รัก ฉันจะสนับสนุนในทุกแผนการของคุณ แต่จะไม่ยอมให้มีคนมาเดือดร้อนกับแผนการของคุณหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นฉันจะทั้งซับพอร์ตและปกป้องคุณไปในเวลาเดียวกันหากรู้แบบนั้นแล้วก็หลอกใช้ฉันเยอะๆ เลยนะคะที่เขาเข้าหาเธอ มันเดาได้ไม่ยากเลยว่าเขามีจุดประสงค์อะไร แต่ถึงจะรู้เธอก็ยินยอมให้เขาหลอกใช้..เมื่อฮาร์วีเดินเข้ามาในสนามประลองสายตาของเขาก็บังเอิญเห็นสตรีผมสีแดงที่แสนจะโดดเด่น นางกำลังอยู่ข้างๆ ดยุคทารอน สายตาของนางจับจ้องอยู่บนใบหน้าของหมอนั่นด้วยความหลงใหล..สายตาคู่นั้นของทารีน่าไม่มีแม้แต่จะเบนมาทางเขา ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศออกมาแล้วว่าราชวงศ์กำลังเดินทางเข้ามาในสนามประลองไม่ปกติ..“องค์รัชทายาทเพคะ ได้เวลาที่จะย้ายไปนั่งยังที่ประทับ
วินเทอร์หอมแก้มของทารีน่าเบาๆ และการกระทำของเขานั้นมันทำให้ทารีน่ายิ่งนิ่งอึ้งขึ้นมาหนักกว่าเดิม เธอยกมือขึ้นมาถูแก้ม ตรงบริเวณที่พึ่งจะถูกวินเทอร์หอมแก้มมา“ท่านดยุคยังทำได้แล้วเหตุใดข้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้”มาไคล์แสยะยิ้มขึ้นมาเมื่อเขาเห็นท่าทีหัวเสียของวินเทอร์ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้วินเทอร์รู้สึกไม่ดี แต่เขาก็อดรู้สึกสนุกไม่ได้เมื่อวินเทอร์โกรธเดิมทีเคาน์ทรอยนั้นเป็นพวกเก็บสีหน้าเก่ง เขาคิดว่าหมอนี่จะไม่รู้สึกอะไรแต่ผิดคาดแฮะ..“จากนี้ไปจะเริ่มการประลองที่คู่แรก กติกาการประลองคือนำผู้ที่ชนะแข่งขัน มาประลองกันไปเรื่อยๆ จนเหลือคนสุดท้ายก็จะได้ป้ายคำสั่งขององค์จักรพรรดิไปครอบครอง”ป้ายคำสั่งนั้นสามารถเดินทางเข้าออกในพระราชวังและประตูเมืองไหนก็ได้ในจักรวรรดินี้อ่า..รางวัลของผู้ที่ชนะ น่าสนใจเหมือนกัน แต่การประลองจะเริ่มต้นขึ้นแล้วเพราะอย่างนั้นเรื่องโรคกลัวเลือดของเธอ..จะรับมือยังไงดีทารีน่าจึงเบนสายตาเพื่อหันหน้าไปทางอื่น“เจ้าไม่ชอบการต่อสู้อย่างนั้นหรือ ให้ข้าพาลงไปด้านล่างดีไหม?”นี่คงเป็นข้อเสนอที่ดีไม่น้อยเลย ทารีน่ารีบหันไปหาท่านมาไคล์เพื่อจะกล่าวอำลาเขา“ลงไปนั่งรอด้านล่างก็ได
หลังจากนั้นองค์รัชทายาทฮาร์วีก็เดินออกไปจากห้องรับรองของเธอ ทำให้ตอนนี้มีเพียงแค่ทารีน่ากับคาดินันกาเล็ตที่กำลังยืนอยู่เธอไม่ได้เตรียมใจมาก่อนเลยว่าจะได้พบเจอกันอย่างรวดเร็วปานนี้“ไปนอนต่อเถอะ ข้าจะไปแล้ว..”“ขอบคุณที่ช่วยข้านะคะ เพียงแต่ท่านเข้ามาที่นี่ได้ยังไงกัน?”เขาชะงักกับคำถามที่ตรงไปตรงมาของเธอ กาเล็ตยกมือขึ้นมาปิดปากเพื่อกระแอมเล็กน้อย“ข้าเพียงผ่านมาเท่านั้นเอง”ทารีน่าช้อนสายตามองหน้าเขา ถึงแม้ว่าในใจเธออยากจะมองส่วนอื่นมากกว่าหน้าก็เถอะ“ท่านกล่าวว่าข้าคือสตรีของท่าน มันจะไม่เป็นการทำให้ตำแหน่งคาดินันของท่านกาเล็ตเสียเกียรติอย่างนั้นหรือคะ”“อย่างห่วงเลย ข้าขอตัวก่อน”เขาจะไปแล้วเรอะ ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันเลย“ข้า..สามารถไปหาท่านที่วิหารได้ไหมคะ?”เธอเอ่ยถามออกมาด้วยใบหน้าที่ขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ และคำถามนั้นมันทำให้กาเล็ตที่กำลังสวมเสื้อผ้าให้เข้าที่รู้สึกแปลกๆ“เจ้าจะไปที่นั่นทำไม”“อย่าเข้าใจผิดนะคะ ข้าไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดีอะไรเลย..อ่า จริงสิข้ายังมีเสื้อคลุมของท่านที่ต้องนำไปคืน”มุมปากของกาเล็ตยกสูงขึ้น เขารับหันหลังให้ทารีน่าในทันที“หากเป็นเรื่องการคืนเสื้อคลุม เช่
มาไคล์ยกมือขึ้นมาเสยผมที่ถูกเซ็ตเอาไว้อย่างดีของเขาไปด้านหลังอย่างลวกๆ งานเลี้ยงที่น่าเบื่อหน่ายยังไงก็ยังคงน่าเบื่อหน่ายแบบนั้นกว่าจะพูดคุยกับชนชั้นสูงที่ละโมบโลภมากพวกนั้นจบ เล่นเอาเขาเมื่อยปากมากทีเดียว เท้าที่กำลังก้าวเดินไปยังห้องรับรองของตระกูลทารอนพลันหยุดลงเมื่อเขามองเห็นห้องรับรองของตระกูลโรแกนสาวใช้คนสนิทของทารีน่านั่งอยู่ด้านหน้าประตู ในมือของนางกำลังปักผ้าเช็ดหน้าอยู่แสดงว่าทารีน่าคงจะตื่นแล้วสินะ เช่นนั้นเขาก็ควรจะเข้าไปเยี่ยมนางหน่อย เพียงแต่การเข้าไปเยี่ยมทางด้านหน้าประตูมันน่ารำคาญมากเกินไปเพราะว่าสาวใช้ของทารีน่าคงไม่ยอมให้เขาเข้าไปด้านในได้ง่ายๆแถมเขายังอยากเห็นใบหน้าที่ตื่นตกใจของทารีน่าในยามที่นางมองเห็นเขาด้วย มาไคล์เดินอ้อมมาที่ด้านหลังก่อนที่เขาจะกระโดดเข้าทางหน้าต่างงานเลี้ยงวันชาติอะไรกัน นี่มันงานเลี้ยงจับคู่ชัดๆ จัดเตรียมที่พักให้ชนชั้นสูงเอาไว้อย่างดิบดีเช่นนี้ จะมีจุดประสงค์ใดได้อีก ทุกปีเขาเข้าร่วมแค่ตอนเช้าเท่านั้น หลังจากพิธีประลองจบลงแล้วเขาจะกลับไปพักที่คฤหาสน์ แต่ปีนี้เขาเห็นทารีน่ากระตือรือร้นในการเข้าร่วมงาน เขาก็เลยอยู่ที่นี่กับนาง..เพราะว่า
ในขณะที่ทารีน่ากำลังห้ามใจตัวเองอย่างหนัก ลิ้นอุ่นของเขาก็เลียลงมาตรงยอดเชอร์รี่ชมพูระเรื่อ ก่อนดูดดึงหนักๆ สลับกับออกแรงงับเบาๆ ชวนให้ร่างกายของทารีน่าสะดุ้งเฮือกอ้อมแขนแกร่งของเขายังคงโอบกอดเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย“ท่านมาไคล์..”“สำหรับตอนนี้เรียกข้าว่าไคล์ก็พอ..รินามากกว่านี้ไม่ได้งั้นเหรอ ทำไมจะต้องยกมือนี่ขึ้นมาเพื่อผลักไสข้า ไม่ใช่ว่าในใจของเจ้าชื่นชอบข้าอยู่งั้นหรือ.”ใบหน้าของเธอขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อหนักยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาเอ่ยออกมาเช่นนั้น และใบหน้าเช่นนั้นของทารีน่ามันทั้งงดงามและน่ารักมากจนหัวใจของเขาเผลอสั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวความงามล้ำที่ไร้สตรีใดในจักรวรรดิจะเทียบเคียง ครั้งหนึ่งเขาเคยมองว่านางคือสตรีที่น่ารังเกียจและไร้ค่าเพราะนางเอาแต่วิ่งตามฮาร์วีไม่หยุดหย่อน แต่วันนี้เขากลับมองว่าเธอคือสตรีที่งดงามที่สุดเท่าที่สายตานี้เคยพบเห็นมาทำไมกันนะ..เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?จะดีแล้วอย่างงั้นเหรอ หากว่าเธอก้าวข้ามผ่านเส้นที่ขีดเอาไว้นี้ไปจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ เพราะเมื่อเริ่มความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งไปแล้วจะไม่สามารถถอยหลังได้อีกแน่นอนว่าในใจของเธอมันต้องการเข
ส่วนสำคัญนอกจากจะใหญ่แล้วยังตั้งชันขนานกับหน้าท้อง ทารีน่ากลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากเมื่อมองเห็นความใหญ่โตของเจ้าส่วนนั้นมาไคล์พรมจูบลงไปบนใบหน้าของทารีน่าเบาๆ ราวกับว่าเขากำลังพรมจูบเพื่อปลอบโยนเธอก่อนที่เขาจะจับมือของเธอทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อมากอบกุมใบหน้าของเขาเอาไว้“อย่าหลับตาเชียวรินา เจ้าต้องลืมตาขึ้นมามองให้ชัดว่าบุรุษที่อยู่เหนือร่างของเจ้ามันคือใครกันแน่..”ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาที่ขา ส่วนกลางกายของเขากำลังร่ำร้องขอการปลดปล่อยโดยเร็วท่อนล่างของเธอเริ่มรู้สึกชื้นแฉะถึงแม้ว่าในใจจะลังเลแต่ร่างกายกลับตอบสนองอย่างซื่อตรง สะโพกของเธอสั่นระริกเมื่อเขาแยกขาทั้งสองของของเธอออกจากกันช่องทางร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ดูดรั้งที่ดูยังไงก็เป็นการเชื้อเชิญมากกว่าผลักไสเขากดแทรกปลายนิ้วเข้าไปด้านในอีกครั้ง ส่วนคับแคบถูกคลี่ขยายอย่างระมัดระวังและอ่อนโยนจนทารีน่าคาดไม่ถึงว่าความอ่อนโยนนี้มันจะมาจากท่านมาไคล์ตามเนื้อเรื่องไม่มีการกล่าวถึงความรักหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสตรีเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะแบบนั้นเธอก็เลยคิดว่าเรื่องบนเตียงสำหรับท่านมาไคล์ เขาจะเป็นบุรุษที่เปรียบเสมือนผ้าขาวบริสุทธ
เมื่อเพอร์ร่าเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเห็นสภาพบนเตียงที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ สาวใช้ร่างท้วมก็รีบเดินไปหานายหญิงของเธอในทันใด และเป็นไปอย่างที่คิดเมื่อบนร่างกายของนายหญิงเต็มไปด้วยรอยกุหลาบมากมาย ทั้งบนลำคอและเหนือเนินอกเพอร์ร่าจัดการเรียกสาวใช้มาทำความสะอาดห้องพร้อมกับเปลี่ยนผ้าปูเตียงเพื่อให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เธอใช้ให้สาวใช้สองนางไปจัดการทำความสะอาดร่างกายของนายหญิง ส่วนตัวเองเดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าออกเพื่อตามหาชุดเดรสที่สามารถคลุมปิดจนถึงคอ..“นายหญิงควรรู้สิคะว่าจะต้องออกงาน การสวมใส่ชุดเดรสที่ปิดจนถึงคอไม่เผยส่วนที่งดงามที่สุดของท่านออกมามันจะทำให้คะแนนความนิยมของนายหญิงหายไปนะคะ”เพอร์ร่าบ่นเบาๆ ในขณะที่กำลังสวมชุดเดรสให้ทารีน่า ส่วนทารีน่าเธอกำลังยิ้มอยู่หลังจากที่ท่านมาไคล์ออกไปจากห้องนี้ให้ตายเถอะ เธอเหม่อลอยและเอาแต่ยิ้มราวกับคนบ้า ในใจกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ไม่รู้จะหาคำใดมาเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะพยายามหลอกตัวเองสักกี่ครั้ง สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริง คือการที่เธอตกหลุมรักท่านมาไคล์รอบที่ร้อยไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันคืออะไรกันแน่ ทารีน่าได้แต่ภาวนาอย่า
มีบางอย่างที่กำลังสร้างความงงงวยให้ทารีน่าก็คือ เมื่อเธอจับริบบิ้นในกล่องแล้วยังไม่ทันเห็นสีของริบบิ้นเธอก็รู้สึกมึนหัว แล้วพอลืมตาขึ้นมาอีกก็มาอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นตาเอาซะเลยทารีน่าเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองลงไปด้านล่างก็พบบุรุษจำนวนมากที่กำลังเดินตามหาสตรีกันอย่างใจจดใจจ่อแผนการของสหายของเธอคืออะไรกันนะ แล้ว..จะออกไปจากห้องนี้ยังไงในเมื่อห้องนี้ไม่มีประตู?อย่าบอกนะว่านี่คือเวทย์ของโอเรีย เธอออกไปจากห้องนี้ไม่ได้แล้วใครมันจะเข้ามาได้กันฟะฉับพลันด้านหลังของทารีน่าก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีของคาดินันกาเล็ต เขาเดินตรงเข้ามาหาเธอก่อนจะยื่นมือมาจับบนริบบิ้นที่ผูกอยู่บนแขนของเธอ..“หาเจอแล้ว..”ทารีน่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อเธอเห็นริบบิ้นที่ผูกอยู่ที่แขนของตัวเองมันเป็นสีเดียวกันกับริบบิ้นบนมือของท่านคาดินันกาเล็ตแล้วริบบิ้นมาผูกอยู่ที่แขนของเธอได้ยังไงกัน ใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ในเมื่อท่านกาเล็ตเข้ามาในห้องนี้ม่านหน้าต่างก็พลันปิดลงกาเล็ตนั่งลงบนเตียงด้วยท่าทีที่ไม่ได้ตื่นตกใจอะไร ตรงข้ามกับทารีน่าที่กำลังพยายามเปิดหน้าต่างออก“เว
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
องค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด