ในขณะที่ทารีน่ากำลังห้ามใจตัวเองอย่างหนัก ลิ้นอุ่นของเขาก็เลียลงมาตรงยอดเชอร์รี่ชมพูระเรื่อ ก่อนดูดดึงหนักๆ สลับกับออกแรงงับเบาๆ ชวนให้ร่างกายของทารีน่าสะดุ้งเฮือกอ้อมแขนแกร่งของเขายังคงโอบกอดเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย“ท่านมาไคล์..”“สำหรับตอนนี้เรียกข้าว่าไคล์ก็พอ..รินามากกว่านี้ไม่ได้งั้นเหรอ ทำไมจะต้องยกมือนี่ขึ้นมาเพื่อผลักไสข้า ไม่ใช่ว่าในใจของเจ้าชื่นชอบข้าอยู่งั้นหรือ.”ใบหน้าของเธอขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อหนักยิ่งกว่าเดิมเมื่อเขาเอ่ยออกมาเช่นนั้น และใบหน้าเช่นนั้นของทารีน่ามันทั้งงดงามและน่ารักมากจนหัวใจของเขาเผลอสั่นไหวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวความงามล้ำที่ไร้สตรีใดในจักรวรรดิจะเทียบเคียง ครั้งหนึ่งเขาเคยมองว่านางคือสตรีที่น่ารังเกียจและไร้ค่าเพราะนางเอาแต่วิ่งตามฮาร์วีไม่หยุดหย่อน แต่วันนี้เขากลับมองว่าเธอคือสตรีที่งดงามที่สุดเท่าที่สายตานี้เคยพบเห็นมาทำไมกันนะ..เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่?จะดีแล้วอย่างงั้นเหรอ หากว่าเธอก้าวข้ามผ่านเส้นที่ขีดเอาไว้นี้ไปจะกลับไปเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนะ เพราะเมื่อเริ่มความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งไปแล้วจะไม่สามารถถอยหลังได้อีกแน่นอนว่าในใจของเธอมันต้องการเข
ส่วนสำคัญนอกจากจะใหญ่แล้วยังตั้งชันขนานกับหน้าท้อง ทารีน่ากลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากเมื่อมองเห็นความใหญ่โตของเจ้าส่วนนั้นมาไคล์พรมจูบลงไปบนใบหน้าของทารีน่าเบาๆ ราวกับว่าเขากำลังพรมจูบเพื่อปลอบโยนเธอก่อนที่เขาจะจับมือของเธอทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อมากอบกุมใบหน้าของเขาเอาไว้“อย่าหลับตาเชียวรินา เจ้าต้องลืมตาขึ้นมามองให้ชัดว่าบุรุษที่อยู่เหนือร่างของเจ้ามันคือใครกันแน่..”ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาที่ขา ส่วนกลางกายของเขากำลังร่ำร้องขอการปลดปล่อยโดยเร็วท่อนล่างของเธอเริ่มรู้สึกชื้นแฉะถึงแม้ว่าในใจจะลังเลแต่ร่างกายกลับตอบสนองอย่างซื่อตรง สะโพกของเธอสั่นระริกเมื่อเขาแยกขาทั้งสองของของเธอออกจากกันช่องทางร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ดูดรั้งที่ดูยังไงก็เป็นการเชื้อเชิญมากกว่าผลักไสเขากดแทรกปลายนิ้วเข้าไปด้านในอีกครั้ง ส่วนคับแคบถูกคลี่ขยายอย่างระมัดระวังและอ่อนโยนจนทารีน่าคาดไม่ถึงว่าความอ่อนโยนนี้มันจะมาจากท่านมาไคล์ตามเนื้อเรื่องไม่มีการกล่าวถึงความรักหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสตรีเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะแบบนั้นเธอก็เลยคิดว่าเรื่องบนเตียงสำหรับท่านมาไคล์ เขาจะเป็นบุรุษที่เปรียบเสมือนผ้าขาวบริสุทธ
เมื่อเพอร์ร่าเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเห็นสภาพบนเตียงที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ สาวใช้ร่างท้วมก็รีบเดินไปหานายหญิงของเธอในทันใด และเป็นไปอย่างที่คิดเมื่อบนร่างกายของนายหญิงเต็มไปด้วยรอยกุหลาบมากมาย ทั้งบนลำคอและเหนือเนินอกเพอร์ร่าจัดการเรียกสาวใช้มาทำความสะอาดห้องพร้อมกับเปลี่ยนผ้าปูเตียงเพื่อให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เธอใช้ให้สาวใช้สองนางไปจัดการทำความสะอาดร่างกายของนายหญิง ส่วนตัวเองเดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าออกเพื่อตามหาชุดเดรสที่สามารถคลุมปิดจนถึงคอ..“นายหญิงควรรู้สิคะว่าจะต้องออกงาน การสวมใส่ชุดเดรสที่ปิดจนถึงคอไม่เผยส่วนที่งดงามที่สุดของท่านออกมามันจะทำให้คะแนนความนิยมของนายหญิงหายไปนะคะ”เพอร์ร่าบ่นเบาๆ ในขณะที่กำลังสวมชุดเดรสให้ทารีน่า ส่วนทารีน่าเธอกำลังยิ้มอยู่หลังจากที่ท่านมาไคล์ออกไปจากห้องนี้ให้ตายเถอะ เธอเหม่อลอยและเอาแต่ยิ้มราวกับคนบ้า ในใจกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ไม่รู้จะหาคำใดมาเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะพยายามหลอกตัวเองสักกี่ครั้ง สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริง คือการที่เธอตกหลุมรักท่านมาไคล์รอบที่ร้อยไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันคืออะไรกันแน่ ทารีน่าได้แต่ภาวนาอย่า
มีบางอย่างที่กำลังสร้างความงงงวยให้ทารีน่าก็คือ เมื่อเธอจับริบบิ้นในกล่องแล้วยังไม่ทันเห็นสีของริบบิ้นเธอก็รู้สึกมึนหัว แล้วพอลืมตาขึ้นมาอีกก็มาอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นตาเอาซะเลยทารีน่าเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองลงไปด้านล่างก็พบบุรุษจำนวนมากที่กำลังเดินตามหาสตรีกันอย่างใจจดใจจ่อแผนการของสหายของเธอคืออะไรกันนะ แล้ว..จะออกไปจากห้องนี้ยังไงในเมื่อห้องนี้ไม่มีประตู?อย่าบอกนะว่านี่คือเวทย์ของโอเรีย เธอออกไปจากห้องนี้ไม่ได้แล้วใครมันจะเข้ามาได้กันฟะฉับพลันด้านหลังของทารีน่าก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีของคาดินันกาเล็ต เขาเดินตรงเข้ามาหาเธอก่อนจะยื่นมือมาจับบนริบบิ้นที่ผูกอยู่บนแขนของเธอ..“หาเจอแล้ว..”ทารีน่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อเธอเห็นริบบิ้นที่ผูกอยู่ที่แขนของตัวเองมันเป็นสีเดียวกันกับริบบิ้นบนมือของท่านคาดินันกาเล็ตแล้วริบบิ้นมาผูกอยู่ที่แขนของเธอได้ยังไงกัน ใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ในเมื่อท่านกาเล็ตเข้ามาในห้องนี้ม่านหน้าต่างก็พลันปิดลงกาเล็ตนั่งลงบนเตียงด้วยท่าทีที่ไม่ได้ตื่นตกใจอะไร ตรงข้ามกับทารีน่าที่กำลังพยายามเปิดหน้าต่างออก“เว
“เกมบ้าบออะไรกัน แล้วข้ากำลังทำอะไรอยู่วะเนี่ย”มาไคล์เควี้ยงริบบิ้นในมือลงไปที่พื้น เขาเห็นว่าทารีน่าเป็นผู้ที่หยิบริบบิ้นออกมาจากกล่องเป็นคนแรก เพราะแบบนั้นเขาถึงได้ร่วมลงเล่นเกมนี้ แต่เขาหานางมาค่อนคืนยังไม่เจอแม้เงาของนางเลยไม่ใช่ว่าองค์หญิงโอเรียน่าเล่นสกปรกอย่างนั้นหรือ? เขาถึงได้หาทารีน่าไม่เจอ นางไปซ่อนอยู่ที่ไหนของพระราชวังอันกว้างใหญ่นี้กัน..แล้วเขา..เป็นบ้าอะไรอยู่มาไคล์ยกมือขึ้นมานวดหว่างคิ้วเบาๆ เขาจะมาตามหาสตรีผู้นั้นทำไมกัน? แล้วทำไมถึงจะอยากเจอนางมากขนาดนั้น ในเมื่อนางส่งมอบบ่อเกลือที่เขาต้องการให้แล้วเช่นนั้นเขาก็ไม่มีอะไรจะต้องยุ่งเกี่ยวกับนางอีกด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าเมื่อช่วงเย็นเขาเผลอไปมีความสัมพันธ์หวานซึ้งกับนาง ที่ปลายจมูกยังคงได้กลิ่นหอมหวานของทารีน่าอยู่เลยดวงตาที่ฉ่ำวาวและน้ำเสียงที่สั่นเครือของนางมันชวนให้เขารู้สึกอยากจะ..สัมผัสนางอีกสักครั้งไม่ปกติแล้ว เขาในยามนี้กำลังสับสนอยู่..หรือว่าเขาต้องการเงิน โรแกนร่ำรวยมากแต่ทว่าทารอนเองก็ไม่ได้น้อยหน้า เรื่องเงินเขาไม่ได้เดือดร้อนสักนิดเดียวแล้วทำไมถึงอยากจะพบหน้าของนางอีกสักครั้ง ทำไมต้องรู้สึกไม่ชอบใจยามที่
เขาพยายามอดกลั้นเอาไว้ และตั้งใจว่าจะทำความรู้จักกับท่านทารีน่าคนใหม่ให้มากกว่านี้ แต่ยิ่งเขาอดกลั้น พร้อมกันนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักอย่างรวดเร็วถ้าหากว่าความโหดร้ายที่งดงามคือความรัก เขาก็คงได้แต่ยอมปล่อยให้มันเข้ามาโดยไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย..ทารีน่าอ้าปากค้าง เธอไม่คิดมาก่อนว่าท่านกาเล็ตจะสารภาพรักกับเธอเพราะว่าเขาได้พบเจอนางเอกของเรื่องนี้แล้วนี่ตอนนี้เขาควรจะชอบอเดเรียแล้วทำไมถึงได้มาสารภาพรักกับเธอได้..เส้นเรื่องหลักของนิยายเรื่องนี้ กำลังเปลี่ยนไปสินะ ด้วยฝีมือของผู้สวมร่างอย่างเธอและอเดเรีย“ช่างน่าเศร้าท่านกาเล็ต เพราะว่าข้าจำเรื่องที่ผ่านมาไม่ได้เลย ข้าไม่สามารถดีใจได้ด้วยซ้ำที่ท่านมาสารภาพรักเช่นนั้น เพราะดูเหมือนว่าสตรีผู้นั้นที่ท่านกำลังหลงรัก นางไม่ใช่ข้า..”เขายื่นมือมาจับมือของเธอเอาไว้“เรื่องนั้นข้าไม่ได้รีบร้อน..ข้าแค่อยากบอกกล่าวความในใจให้ท่านได้รู้ เราออกไปจากห้องนี้กันเถอะครับ”เพียงเธอสบตาเขามันก็ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เขาจับจูงมือของเธอเพื่อพาเธอเดินออกมาด้านนอกโดยที่บนร่างกายของทารีน่ามีเสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ของเขาคลุมทับอยู่“ข้าเองก็อยาก
ฮาร์วีจุดซิการ์ในมือก่อนที่เขาจะสูบมันเข้าไปเต็มปอด ริมฝีปากที่เชิดรั้นอย่างเอาแต่ใจของเขาพ่นควันสีขาวจางๆ ออกมาด้วยท่าทางเยือกเย็น รังสีความอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างดวงตาดุจพญาเหยี่ยวจ้องมองลงไปด้านล่างซึ่งเป็นสวนที่แสนสวยงามของพระราชวังโอเรียกำลังเล่นสนุกอยู่ และจุดมุ่งหมายของยัยนั่นคงเป็นการหาคู่ให้กับทารีน่าสตรีที่ยินยอมหมอบกราบแทบเท้าเขาเพื่อร้องขอความรัก สตรีที่วิ่งตามเขาอย่างบ้าคลั่งเพราะความรู้สึกที่อัดแน่นในใจ บัดนี้นางกลับหันไปให้ความสนใจคาดินันกาเล็ต ไหนจะดยุคทารอนอีก..ไม่ดีแล้วแบบนี้ เพราะการที่นางไม่เห็นเขาในสายตามันหมายความว่าเวทมนตร์ที่เขาควบคุมนางเอาไว้กำลังเสื่อมลง ทารีน่า โรแกน จะต้องรักเขาสิ ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นองค์รัชทายาทที่ถูกพูดถึงอยู่ตลอดได้อย่างไรกัน ความสามารถของทารีน่าคือการอยู่เหนือกว่าสตรีทุกนางในแวดวงสังคม และเขาจำเป็นที่จะต้องสร้างความนิยมนั้นอยู่เสมอ..ฮาร์วีลูบไล้บนขนนกสีดำสนิทของอีกา ริมฝีปากของเขาปรากฏรอยยิ้มที่แสนเย้ยหยันขึ้นมา“ไปสิอีกาตัวน้อย ไปหาสตรีที่เปล่งประกายที่สุดแล้วย้ำเตือนให้นางรู้ถึงหน้าที่ของตัวเองว่าสิ่งที่นางควรจะมองคือดวงตะวันดวงนี
มาไคล์สัมผัสได้ถึงความเศร้าที่อยู่ในดวงตาของทารีน่า เขาไม่ได้พูดออกไปว่าใครกันแน่คือผู้อยู่เบื้องหลัง แต่เขาคิดว่านางน่าจะพอเดาได้ว่านี่มันคือฝีมือของใคร ทารีน่าซุกใบหน้าโผเข้าหาอ้อมกอดของเขา..เธอเอื้อมมือไปโอบกอดแผ่นหลังของท่านมาไคล์ด้วยความแผ่วเบาราวกับว่าเขาคือที่พึ่งพิงเดียวของเธอในยามนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไม่ได้..สนใจเธออะไรมากขนาดนั้น “ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ว่าแต่จะนอนไหม เพราะหากว่าเจ้าไม่นอนเราจะทำอย่างอื่น” สายตาของเขาที่กำลังมองมาที่เธอมันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ อันที่จริงตอนนี้น่าจะเป็นเวลาสายมากแล้ว แต่เพราะว่าเมื่อคืนกว่างานเลี้ยงจะจบลงก็เป็นช่วงเกือบรุ่งสาง ทำให้ชนชั้นสูงทุกคนที่มาร่วมงานต่างก็ไม่มีใครเปิดห้องรับรองออกมาเลยเพราะว่าทุกคนกำลังนอนหลับพักผ่อน อันที่จริงเธอไม่ได้ง่วง แต่คำว่าทำอย่างอื่นของท่านมาไคล์นั้น สายตาของเขามันชัดเจนมากยิ่งกว่าคำพูดเสียอีกว่าเขาจะทำอะไร “นะ..นอนค่ะ ข้าง่วงแล้วค่ะ” เขาอุตส่าห์ตั้งความหวังกับคำตอบของเธอ แต่คำตอบที่เธอกล่าวออกมามันชวนให้เขารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเลย เขาวางเธอลงบนเตียงก่อนจะโบกมือไปมาเพื่อปิดหน้าต่าง พร้อมทั้งปิ
เส้นทางความรักของเขานั้นต่อให้เปื้อนเลือดนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพื่อรอยยิ้มของทารีน่าแล้ว เขาจำเป็นต้องทำทุกอย่างแม้จะลงมือสังหารใครไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกเธอบอกว่าเขาคือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้และตำแหน่งนั้นมันช่างเหมาะสมกับเขามากเหลือเกิน..มาไคล์เลือกที่จะอาบน้ำเพื่อชะล้างรอยเลือดที่ติดอยู่ตามร่างกายให้หมด หลังจากนั้นเมื่อเขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก็ยังคงมืดครึ้มอยู่ ตอนนี้เป็นเวลาสายมาแล้วและทารีน่ายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มุมปากของมาไคล์ยกสูงขึ้นมาเมื่อเขานึกถึงใบหน้ายามเหนื่อยล้าของเธอ เพราะว่าร่างกายของเธอมันหอมหวานมากเกินไป เขาถึงได้กลืนกินจนไม่หลงเหลือสติเช่นนี้มาไคล์เดินไปจุมพิตทารีน่าอีกครั้ง แล้วสวมเสื้อคลุมเพื่อเดินออกไปด้านนอกวันนี้หิมะตกลงมาเบาบางมากเหลือเกิน เหมือนกับว่าอากาศเป็นใจให้เขาได้นำพาเถ้ากระดูกของท่านอาจารย์มาฝังเอาไว้ที่สุสานของตระกูลทารอนบนใบหน้าของมาไคล์ไม่มีร่องรอยความเสียใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาเสียใจมากพอแล้วกับการกระทำที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการสูญเสียท่านอาจารย์ไป เขาร้องไห้มามากจริงๆ แถมยังจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่อัดแน่น
ฝ่ามือหนาของมาไคล์บรรจงลูบลงไปที่แผ่นหลังของทารีน่า หัวใจของเขามันเต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมอาจจะเพราะว่าเขาได้ปรับความเข้าใจกับเธอ หรือไม่ก็เพราะว่าเขาได้กระทำเรื่องบนเตียงหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทารีน่าผลอยหลับไปในอ้อมแขนของเขา เธอยังคงงดงามถึงแม้ว่าดวงตาจะปิดสนิทมาไคล์จุมพิตลงไปบนหน้าผากของเธอก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมร่างกายของทารีน่าให้อบอุ่นเช่นเดียวกันกับในยามที่เธออยู่ในอ้อมแขนของเขาเขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เธอตื่นขึ้นมา ที่มุมปากของมาไคล์หยักยิ้มขึ้นมาด้วยความเอ็นดูเหมือนว่าเขาจะหลงเสน่ห์เธออย่างหัวปักหัวปำแล้วล่ะสิ เขาไม่อยากลุกออกจากเตียงในยามนี้เลยให้ตายเถอะเพียงแต่ยังมีเรื่องที่เขาต้องการจัดการให้เสร็จสิ้น มาไคล์เดินลงมายังชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ เขาปรายตามองเซอร์เดนิซาที่นั่งพิงกำแพงอยู่ด้านในคุก“เจ้าโชคดีที่ได้ทารีน่าออกหน้าเพื่อช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นในยามนี้ศพของเจ้าคงจะถูกแขวนอยู่ที่ประตูเข้าคฤหาสน์ทารอนไปแล้ว”เดนิซาก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพท่านดยุค“เรื่องการวางเพลิงข้ากระทำเพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับเลดี้โรแกนเลยครับ ท่านดยุคได
มาไคล์วางทารีน่าลงบนเตียง เพียงแค่เขาดีดนิ้วเบาๆ ประตูและหน้าต่างทั้งหมดก็ปิดลงพร้อมๆ กับม่านหน้าต่างที่ปิดทึบลงมา “ทารีน่าเจ้ากำลังก่อเรื่องอะไร? ..” เธอละสายตาจากใบหน้าของเขาเพื่อหันมองไปทางอื่น “ข้าไม่ได้ก่อเรื่องค่ะ เพราะว่าข้าทำจริงๆ” “เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดที่มองไม่ออกอย่างนั้นหรือว่านี่มันคือฝีมือของใคร ทำไมถึงปกป้องเซอร์เดนิซา” เขาผลักเธอให้ล้มตัวลงไปบนเตียง เรือนผมสีแดงเพลิงของทารีน่าสยายลงไปบนหมอน มาไคล์จ้องมองความงามล้ำบนใบหน้านั้นด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะคล่อมทับร่างของเธอเอาไว้ “เพราะว่าท่านเซอร์เป็นคนดีค่ะ” “เหอะ! เช่นนั้นข้าเป็นคนเลวหรืออย่างไรเจ้าถึงได้ไม่ปกป้องข้าบ้าง” ก็ใช่นะสิ เพราะว่าท่านมาไคล์คือตัวร้าย..แถมยังเป็นคนใจร้ายด้วย!! “ข้าคิดว่าท่านจะร้องไห้เสียใจที่ร่างของสตรีผู้นั้นถูกเผาจนวอดไปหมด..” มาไคล์ไม่ได้ตกใจกับคำกล่าวตัดพ้อของทารีน่าเลย เขาใช้มือฉีกทึ้งชุดเดรสของเธอออกจากร่าง ตามมาด้วยเสื้อซับในตัวบาง “เรื่องของข้ากับท่านอาจารย์มันเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ที่ข้ายังเด็กมากๆ ข้ารู้สึกกับผิดนางมากกว่า เจ้าเองเถิดทารีน่า..ข้ามั่นใจว่าไม่มีใคร
เมื่อมาไคล์มองเห็นใบหน้าของคนร้ายที่วางเพลิงเผาเรือนหลังเล็กของเขา ที่มุมปากของมาไคล์ก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น เขาดึงดาบที่เอวของทหารออกมาก่อนจะพาดลงไปที่คอของเซอร์เดนิซา“เซอร์เดนิซา เจ้าต้องเป็นคนโง่แบบไหนถึงบุกเข้ามาในคฤหาสน์ของข้าเพื่อทำเรื่องเช่นนี้ได้”เดนิสกำมือแน่น เขาผิดจริงๆ ในเรื่องนี้และเขาในยามนี้ก็กำลังทำใจให้สบายเพื่อพร้อมที่จะตายแล้ว เมื่อสตรีในโลงแก้วผู้นั้นไม่หลงเหลือร่างกาย ดยุคทารอนก็ไม่ต้องใช้เลือดหัวใจของอเดเรียอีก คราวนี้นางจะสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขโดยไร้ซึ่งความหวาดระแวง“ข้าผิดเองครับท่านดยุค การกระทำของข้าในครั้งนี้ข้ายินยอมรับทุกอย่างด้วยความตายที่ท่านจะประทานให้”ทารีน่าเม้มปากแน่น ท่านเซอร์เดนิซานี่..พอมองๆ ไปแล้ว เขาเหมือนกับเธอในตอนแรกเลยแฮะ เพราะว่ารักถึงได้ยินยอมส่งมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ไม่เสียดายแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง..ความรักเมื่อมีอิทธิพลเหนือสมองแล้ว จะส่งผลทำให้เราหูตามืดบอดแถมยังโง่อีกต่างหาก..“เจ้าตายไปแล้วร่างกายของอาจารย์ข้าที่มอดไหม้ไปแล้วจะกลับคืนมาอย่างนั้นหรือเซอร์ ข้ารู้ว่าเจ้าถูกสั่งมาเพราะอย่างนั้นกล่าวรายนามของผู้ที่สั่งการ
ไม่ว่าจะปลายนิ้วหรือว่าปลายลิ้นที่ลากไล้ผ่านเรือนร่าง ต่างก็ส่งผลให้ตรงจุดนั้นร้อนผ่าวคล้ายจะมีไฟลุกขึ้นมาในทารีน่าช้อนสายตามองใบหน้าที่เธอเคยลุ่มหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ดวงตาสีเลือดนั้นทำให้เธอเคยตกหลุมรักเขาซ้ำๆ อย่างไม่อาจหักห้ามหัวใจเธอเทิดทูนบูชาเขาราวกับเป็นเทพเจ้า หลงรักเขาที่มั่นคงในความรักต่อนางเอกของเรื่อง..ทว่าเขาไม่ใช่บุรุษในแบบที่เธอเคยเลยสักนิดแน่นอนว่าใบหน้าของท่านมาไคล์ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่ผิดเพี๊ยนไปแต่ทว่านิสัยความโลและความไม่มั่นคงของเขามันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา ชุดเดรสที่ทารีน่าสวมใส่พลันถูกเลิกขึ้นมาจนเกือบถึงเอวมาไคล์ไม่สนด้วยซ้ำว่าในยามนี้เรานั่งอยู่ในห้องอาหารที่ไม่ใช้ห้องนอน เขารู้สึกเพียงแค่อยากสัมผัสเธอจนแทบคลั่ง หัวใจของเขามันแทบจะหยุดหายใจเพียงเพราะเธอมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจความเจ็บปวดที่ไร้ที่มาพาดผ่านหัวใจไปเงียบๆ ราวกับขนนกที่ปัดผ่าน“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าตัดใจจากข้าไปจนสิ้น..”คำกล่าวของมาไคล์ถูกกลืนลงคอเมื่อเขามองเห็น..ดวงตาที่คลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำ
หลังจากที่เพอร์ร่าพูดคุยกับพ่อบ้านเสร็จเรียบร้อย สาวใช้ร่างท้วมก็เดินมาที่หน้าห้องนอนของนายหญิง เธอเคาะประตูเล็กน้อยตามมารยาท แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับเพอร์ร่าจึงเดินเข้าไปด้านในเพราะคิดว่านายหญิงอาจจะกำลังหลับอยู่ เธอจึงไม่ได้เข้าไปด้านในและรอคอยอีกพักใหญ่ๆ ถึงเดินมาเคาะประตูใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเช่นเคยเมื่อเห็นท่าไม่ดีเพอร์ร่าจึงเปิดประตูเข้าไปในทันที ด้านในห้องนอนของนายหญิงไม่มีร่องรอยของใครเลย“นายหญิงออกมาจากห้องนอนรึเปล่า?”สาวใช้ที่เฝ้าหน้าห้องนอนของนายหญิงส่ายหน้าพร้อมกัน“ข้าทั้งสองไม่เห็นว่ามีใครเข้าหรือว่าออกจากห้องนอนของนายหญิงเลยค่ะคุณหัวหน้าสาวใช้”เพอร์ร่ายกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้ เธอพยายามระงับความตกใจที่เกิดขึ้นเอาไว้ก่อนจะรีบดึงสติของตัวเองกลับมา“ส่งคนไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์และคฤหาสน์ทรอย รายงานว่าท่านทารีน่าหายตัวไป..”แน่นอนว่าเมื่อกาเล็ตได้รับข่าวสารจากสาวใช้ของทารีน่าเขาก็ตรงมาที่คฤหาสน์โรแกนในทันที วันนี้หิมะตกหนักมากกว่าทุกวันอีกทั้งการเดินทางด้วยรถม้านั้นลำบากและกินเวลายิ่งนัก แต่เมื่อเขามาถึงหน้าคฤหาสน์ก็เห็นเคาน์ทรอยยืนรอเขาอยู่ด้วยสภาพเหนื่อยหอบ“ข
เมื่อได้ยินคำกล่าวของทารีน่า มาไคล์ก็ตัวแข็งทื่อไปพักหนึ่ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทำแบบนั้น..ดวงตาที่เบิกกว้างของเขาพลันอ่อนลงก่อนจะเดินเข้าไปหาทารีน่าที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้นช้าๆ มือของเขาสอดรับเข้าไปยังใบหน้าของเธอเพื่อจงใจเชยคางมนให้เงยขึ้นมามองสบตาเขา“ทารีน่า..ข้าไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรเพื่อให้เจ้าเข้าใจ แต่ข้ากับอเดเรีย ข้าไม่ได้รักนาง”ทารีน่าช้อนสายตามองหน้าเขา มือของเธอกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม? จะหลอกลวงเธอจนถึงนาทีสุดท้ายเลยใช่ไหม!!“ใครบอกว่าข้าหมายถึงว่าที่พระชายาอเดเรียล่ะคะ ท่านดยุคแห่งทารอน ท่านน่ะมักจะมองข้าว่าข้าคือสตรีที่โง่งมเสมอเลย ท่านดูถูกดูแคลนสายข่าวของโรแกนมากเกินไปแล้ว”ใบหน้าของมาไคล์ซีดเซียวจนไร้สีเลือด เขาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ลงไปบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นของเธอ“ข้าเสียนางไปไม่ได้ กับเจ้าก็เช่นกัน”“เพี๊ยะ!!”มือของเธอที่พึ่งจะฟาดลงไปบนใบหน้าของเขา มันทำให้มาไคล์รู้สึกชาไปหมดทั้งใบหน้า และท่าทีตกใจของท่านมาไคล์ที่ถูกเธอตบมันยิ่งทำให้ในใจของทารีน่ารู้สึกดียิ่งนัก!!“ข้าไม่ต้องการเป็นสตรีที่สองรองจากใครทั้งนั้น หากว่
ทารีน่ายังคงนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ เธอทอดสายตามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังเตาผิงเมื่อวานหลังจากกลับมาจากพระราชวังเธอก็ใช้เวลาไปกับสมุดบันทึกของอเดเรียทารีน่าคิดว่าอเดเรียตัวจริงน่าจะเป็นผู้จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ ที่น่าตกใจมากๆ ก็คือนางเอกของเรื่องมีพลังในการมองเห็นอนาคต และอนาคตที่อเดเรียมองเห็นมันถูกเขียนเอาไว้ในสมุดบันทึกเล่มนี้หมดแล้วเมื่อทารีน่ามายืนอยู่ที่ด้านหน้าเตาผิง นางก็โยนสมุดบันทึกในมือไปใส่ในกองไฟเธอมั่นใจว่าอเดเรียผู้สวมร่างน่าจะยังไม่ได้อ่านบันทึกนี้จบ ไม่อย่างนั้นนางคงจะไม่ใช้ชีวิตสบายๆ อย่างตอนนี้เป็นแน่เมื่อเพอร์ร่าได้ยินเสียงฝีเท้าที่ด้านใน สาวใช้ก็คิดว่านายหญิงของเธอจะต้องตื่นแล้วเป็นแน่ เธอจึงสั่งให้สาวใช้ด้านนอกยกถาดอาหารเข้ามาด้านใน“สายไปนิดสำหรับมื้อเช้านะคะนายหญิง”ทารีน่ายักไหล่“เพอร์ร่าหิมะตกหนักมากขนาดนี้ เจ้าเองก็ไม่ต้องตื่นเช้าอะไรมากมายนักหรอก”เพอร์ร่าส่งยิ้มให้กับนายหญิงก่อนจะก้มหน้าลง“ทหารในนามของตระกูลโรแกนได้นำผ้าห่มและเสื้อคลุมกันหนาวไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านตามที่นายหญิงสั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ”ทารีน่าหยั
ดวงตาของอเดเรียนั้นกำลังสั่นระริก ริมฝีปากคู่สวยขบเม้มคลายเข้าคลายออกซ้ำๆ ด้วยความสับสนเมื่อเธอกลับมายังพระราชวังของตัวเอง นั่นก็คือที่ประทับของพระชายากลับมีบางอย่างหายไปจากหีบไม้ที่เธอเฝ้าระมัดระวังบันทึกของอเดเรียตัวจริงหายตัวไป หายไปไหนกันนะ?ไม่มีทางที่เธอจะหลงลืมเอาไปไว้ที่อื่นเพราะว่าเรื่องนี้เธอระวังมากกว่าเรื่องไหนๆ ในนั้นมีเรื่องราวมากมายที่เธอยังไม่ได้อ่านไปจนถึงหน้าสุดท้ายเลย เพราะการเป็นว่าที่พระชายาทำให้อเดเรียไม่มีเวลาส่วนตัวเลยก็ว่าได้ แถมองค์รัชทายาทก็ตามติดเธอแทบจะตลอดเวลา..สีหน้าของอเดเรียนั้นเคร่งเครียดแสดงถึงความคิดอันยุ่งเหยิงในจิตใจมือของเธอสั่นเทาจนแทบจะหยิบจับอะไรไม่ได้ เธอชั่งใจมากเกินไป เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครมายุ่งเกี่ยวกับบันทึกนั้น ก็เลยไม่ได้รีบอ่านรีบทำลายมันทิ้งไปไม่ว่าบันทึกนั้นจะอยู่ที่ใคร ความเป็นอยู่ของเธอในยามนี้ก็ล้วนแล้วแต่อันตรายทั้งสิ้นเลย“อเดเรีย..”เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่หน้าต่างละเมื่อหันกลับไปมองก็เห็นเซอร์เดนิซาที่กำลังปีนหน้าต่างเข้ามาหาเธอ เขายังคงส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดเอวของเธอเอาไว้ด้วยความรักใ