ส่วนสำคัญนอกจากจะใหญ่แล้วยังตั้งชันขนานกับหน้าท้อง ทารีน่ากลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบากเมื่อมองเห็นความใหญ่โตของเจ้าส่วนนั้น
มาไคล์พรมจูบลงไปบนใบหน้าของทารีน่าเบาๆ ราวกับว่าเขากำลังพรมจูบเพื่อปลอบโยนเธอ ก่อนที่เขาจะจับมือของเธอทั้งสองข้างขึ้นมาเพื่อมากอบกุมใบหน้าของเขาเอาไว้ “อย่าหลับตาเชียวรินา เจ้าต้องลืมตาขึ้นมามองให้ชัดว่าบุรุษที่อยู่เหนือร่างของเจ้ามันคือใครกันแน่..” ความเป็นชายร้อนผ่าวแนบลงมาที่ขา ส่วนกลางกายของเขากำลังร่ำร้องขอการปลดปล่อยโดยเร็ว ท่อนล่างของเธอเริ่มรู้สึกชื้นแฉะถึงแม้ว่าในใจจะลังเลแต่ร่างกายกลับตอบสนองอย่างซื่อตรง สะโพกของเธอสั่นระริกเมื่อเขาแยกขาทั้งสองของของเธอออกจากกัน ช่องทางร้อนผ่าวเต้นตุบๆ ดูดรั้งที่ดูยังไงก็เป็นการเชื้อเชิญมากกว่าผลักไส เขากดแทรกปลายนิ้วเข้าไปด้านในอีกครั้ง ส่วนคับแคบถูกคลี่ขยายอย่างระมัดระวังและอ่อนโยนจนทารีน่าคาดไม่ถึงว่าความอ่อนโยนนี้มันจะมาจากท่านมาไคล์ ตามเนื้อเรื่องไม่มีการกล่าวถึงความรักหรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสตรีเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะแบบนั้นเธอก็เลยคิดว่าเรื่องบนเตียงสำหรับท่านมาไคล์ เขาจะเป็นบุรุษที่เปรียบเสมือนผ้าขาวบริสุทธิ์ แต่ที่ไหนได้เขากลับกระทำอย่างช่ำชองจนเธอแทบเจียนจะขาดใจลงเบื้องหน้าของเขา เธอเกร็งไปทั้งตัวเมื่อเรียวนิ้วแข็งเสียดสีกับผนังอ่อนด้านใน เขาหมุนวนข้อมือช้าๆ พร้อมๆ กับขยับปลายนิ้วเพื่อตามหาตรงจุดที่จะสามารถทำทำให้เธอเปล่งเสียงร้องครางออกมาได้ดังที่สุด “อ๊า..” เมื่อเห็นท่าทีตอบสนองอย่างไร้ประสบการณ์ของทารีน่าในใจก็นึกอยากจะมองดูความสวยงามของร่างเธอให้นานมากกว่านี้ เขาจุมพิตที่โคนขาอ่อนด้านในก่อนที่เกลียวลิ้นจะแทรกเข้าไปช้าๆ ตรงปากทางเข้าด้วยสัมผัสที่นุ่มหยุ่นแตกต่างจากปลายนิ้วอย่างสิ้นเชิง ช่องทางรักสั่นสะท้านเมื่อถูกเลียอย่างช้าๆ จนถึงข้างใน ทารีน่าหลับตาลงเพราะเธอไม่อาจทนมองหน้าเขาได้อีกแล้ว ความสุขล้นที่เอ่อล้นออกมาเหล่านี้มันคืออะไรกัน เหมือนเธอกำลังนอนอยู่บนปุยเมฆที่นุ่มฟู ล่องลอยเคว้งคว้างอยู่บนอากาศ ส่วนนั้นชุ่มไปด้วยน้ำลายหยาดเยิ้มยั่วยวนให้รู้สึกอยากแทรกกายเข้าหา มีเวลาไม่มาก ก่อนงานเลี้ยงจะเริ่มเขาจะต้องรีบครอบครองเธอให้เสร็จสิ้น มาไคล์ไม่คิดรั้งรออีกแล้ว เขายกเรียวขาของเธอมาพาดเอาไว้บนบ่ากว้างก่อนจะกดแทรกความแข็งแกร่งกลางกายเข้าไปอย่างช้าๆ ตามจังหวะของลมหายใจ.. “อื้อ” เธอร้องครางออกมาเสียงดังก่อนจะรีบยกมือขึ้นมาเพื่อปิดปากเอาไว้ ร่างกายสั่นเทิ้มแม้แต่ในส่วนที่แนบสนิทด้านในก็ยังสั่นสะท้าน ความตื่นตัวร้อนผ่าวถูกกดแทรกเข้ามาซ้ำๆ และฝังลึกในกายในส่วนที่ลึกที่สุด มาไคล์กัดกรามแน่นเพื่อบรรเทาอาการเสียดเสียวที่เขาได้รับ ด้านในที่คับแคบนั่นกำลังโอบรัดตัวตนที่กดแทรกเข้าไปราวกับต้องการให้ส่วนนั้นของเขาปริแตก “เบาหน่อยรินา ตอดรัดเช่นนั้นมันอดทนได้ยากยิ่งรู้ไหม?” มีเวลาไม่มาก..คำนี้กำลังเล่นงานเขาเข้าแล้ว ความหอมหวานภายนอกเหมือนเป็นภาพลวงตาเมื่อเขาได้ลิ้มรสหวานจากร่างกายของเธออย่างแท้จริง เพราะห่างจากการทำเรื่องแบบนี้มานานมากเกินไปรึเปล่า เขาถึงได้..แทบคลั่งเมื่อสอดแทรกเข้าไป สะโพกขยับจ้วงแทงเข้าไปครั้งแล้วครั้งเล่าโดยไม่เว้นระยะ ปลายนิ้วของมาไคล์สัมผัสลงบนรอยแผลเป็นที่ถูกแทงบริเวณเอวของเธอ.. เขากลั้นหัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงตอนที่เขากดดาบลงไปในร่างกายนี้..ตอนนี้ร่องรอยแผลเป็นมันเด่นชัดมากทีเดียวบนร่างกายสวยๆ ของเธอ ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวรุนแรงขึ้น เช่นเดียวกับสีหน้าที่บอกให้รู้ว่าตื่นตัวจนแทบทนไม่ไหว และในยามที่ปลายนิ้วของเขาสัมผัสบนรอยแผลเป็นของเธอ หัวใจก็เต้นเร็วขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ครั้งแรกเขาแทงเธอด้วยดาบ และครั้งนี้เขาก็กำลัง...แทงเธออีกครั้งเพียงแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้ดาบ ร่างกายสั่นเทิ้มกับรสสัมผัสที่ไม่เคยเจอมาก่อน เธอได้แต่ไล่ตามความต้องการด้วยความละโมบจนเผลอส่ายสะโพกตามเขาอย่างไม่รู้ตัว “อ่า..จะถึงแล้วงั้นเหรอ? อย่าพึ่งรีบร้อนสิ” ขาทั้งสองข้างถูกแยกออก แผ่นหลังบางลอยขึ้นจากที่นอนเมื่อเขายกสะโพกของเธอขึ้นมาเพื่อให้แอ่นรับพอดีกับการกระแทกเข้าไป ส่วนแข็งขืนจมลึกเข้าไปจนสุดความยาว เขารู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดอย่างหนักราวกับกำลังตอบสนองด้วยความต้องการ ร่างกายร้อนขึ้นในพริบตาเพราะถูกครอบงำด้วยความสุขสม ความวาบหวามก่อตัวขึ้นเป็นความรู้สึกเสียวซ่านแล่นแผ่ไปตามแนวกระดูกสันหลังจนถึงสมอง เธอจิกทึ้งผ้าปูที่นอนจนยับยู่ยี่ เพื่อต้องการระบายความกระสันนี้จากการกระทำรุนแรงของเขา และเมื่อเห็นท่าทีของทารีน่า มาไคล์ขบกัดแน่น สันกรามนูนเด่นชัด ราวกับพยายามข่มอารมณ์ดิบไม่ให้พลุ่งพล่านใส่เธอมากเกินไป “อื้อ..มะ ไม่ไหวแล้วค่ะ” ใบหน้าหวานส่ายไปมาบนหมอนใบใหญ่ ในขณะที่เขากระแทกกระทั้นเธอไม่หยุดหย่อน เธอพยายามใช้มือดันแผงอกของเขาให้ออกห่าง แต่เขากลับรวบมือทั้งสองข้างของเธอเอาไว้เหนือศีรษะ “เสร็จเลยสิ จะกลั้นไว้ทำไม” เสียงครางแว่วหวานหลุดออกมาทุกครั้งที่ทารีน่าหายใจ เธอปรือตามองหน้าเขา.. ในใจรู้สึกจมลงไปเรื่อยๆ กับคลื่นความสุขที่ซัดสาดเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่า เลือดในตัวคล้ายจะเดือดพล่านกระทั่งปลายนิ้วยังชาวาบ ริมฝีปากของเขาทาบทับลงมาบนริมฝีปากอ่อนนุ่มของเธอก่อนที่การขยับที่แสนรุนแรงจะเริ่มต้นขึ้นเพราะต่างฝ่ายต่างไม่อาจอดทนได้อีกแล้ว “อื้อ” เธอร้องครางออกมาในลำคอ สัญญาณแห่งความปริ่มเปรมเอ่อล้นขึ้นมาในร่างกายพร้อมกับอาการร้อนในช่องท้อง.. เขายังไม่ยอมผละริมฝีปากออกไปทั้งๆ ที่เอวของเขาหยุดขยับแล้ว เธอยกมือขึ้นมาเพื่อทำท่าจะผลักไสเขาออก มาไคล์ยินยอมถอยออกจากร่างกายของทารีน่าตามที่เธอต้องการในขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังสบถคำหยาบคายออกมา เขาปรายตามองทารีน่าที่กำลังลุกขึ้นจากเตียง ผมสีทับทิมที่ยาวสลวยดูยุ่งเหยิงไปหมด ใบหน้านั้นก็ฉายแววเหนื่อยล้า ดวงตาฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตา ริมฝีปากบวมเจ่อเผยอขึ้นเพราะเขาพึ่งจะขบกัดลงไปบนนั้นเบาๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะผละร่างกายออก แต่ถึงทารีน่าจะเป็นเช่นนั้นเธอก็ยังงดงามจนน่าหงุดหงิด.. “ข้าคิดว่าอีกไม่นานสาวใช้ของข้าจะเข้ามาแล้ว ท่านมาไคล์ควรจะรีบกลับไปแต่งตัวเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงตอนค่ำ..” ต่อให้เธอไม่บอกเขาก็รู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร เพียงแต่ตอนนี้ส่วนกลางกายของเขามันดันแข็งขืนขึ้นมาอีกรอบนะสิ.. ไม่น่าพูดเอาไว้เลยว่าจะทำครั้งเดียว บ้าชะมัด!!!เมื่อเพอร์ร่าเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเห็นสภาพบนเตียงที่ไม่ค่อยน่าดูเท่าไหร่ สาวใช้ร่างท้วมก็รีบเดินไปหานายหญิงของเธอในทันใด และเป็นไปอย่างที่คิดเมื่อบนร่างกายของนายหญิงเต็มไปด้วยรอยกุหลาบมากมาย ทั้งบนลำคอและเหนือเนินอกเพอร์ร่าจัดการเรียกสาวใช้มาทำความสะอาดห้องพร้อมกับเปลี่ยนผ้าปูเตียงเพื่อให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เธอใช้ให้สาวใช้สองนางไปจัดการทำความสะอาดร่างกายของนายหญิง ส่วนตัวเองเดินไปเปิดกระเป๋าเสื้อผ้าออกเพื่อตามหาชุดเดรสที่สามารถคลุมปิดจนถึงคอ..“นายหญิงควรรู้สิคะว่าจะต้องออกงาน การสวมใส่ชุดเดรสที่ปิดจนถึงคอไม่เผยส่วนที่งดงามที่สุดของท่านออกมามันจะทำให้คะแนนความนิยมของนายหญิงหายไปนะคะ”เพอร์ร่าบ่นเบาๆ ในขณะที่กำลังสวมชุดเดรสให้ทารีน่า ส่วนทารีน่าเธอกำลังยิ้มอยู่หลังจากที่ท่านมาไคล์ออกไปจากห้องนี้ให้ตายเถอะ เธอเหม่อลอยและเอาแต่ยิ้มราวกับคนบ้า ในใจกำลังเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขที่ไม่รู้จะหาคำใดมาเปรียบเทียบ ไม่ว่าจะพยายามหลอกตัวเองสักกี่ครั้ง สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริง คือการที่เธอตกหลุมรักท่านมาไคล์รอบที่ร้อยไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขามันคืออะไรกันแน่ ทารีน่าได้แต่ภาวนาอย่า
มีบางอย่างที่กำลังสร้างความงงงวยให้ทารีน่าก็คือ เมื่อเธอจับริบบิ้นในกล่องแล้วยังไม่ทันเห็นสีของริบบิ้นเธอก็รู้สึกมึนหัว แล้วพอลืมตาขึ้นมาอีกก็มาอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นตาเอาซะเลยทารีน่าเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองลงไปด้านล่างก็พบบุรุษจำนวนมากที่กำลังเดินตามหาสตรีกันอย่างใจจดใจจ่อแผนการของสหายของเธอคืออะไรกันนะ แล้ว..จะออกไปจากห้องนี้ยังไงในเมื่อห้องนี้ไม่มีประตู?อย่าบอกนะว่านี่คือเวทย์ของโอเรีย เธอออกไปจากห้องนี้ไม่ได้แล้วใครมันจะเข้ามาได้กันฟะฉับพลันด้านหลังของทารีน่าก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่คุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีของคาดินันกาเล็ต เขาเดินตรงเข้ามาหาเธอก่อนจะยื่นมือมาจับบนริบบิ้นที่ผูกอยู่บนแขนของเธอ..“หาเจอแล้ว..”ทารีน่ากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อเธอเห็นริบบิ้นที่ผูกอยู่ที่แขนของตัวเองมันเป็นสีเดียวกันกับริบบิ้นบนมือของท่านคาดินันกาเล็ตแล้วริบบิ้นมาผูกอยู่ที่แขนของเธอได้ยังไงกัน ใบหน้าหวานขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อ ในเมื่อท่านกาเล็ตเข้ามาในห้องนี้ม่านหน้าต่างก็พลันปิดลงกาเล็ตนั่งลงบนเตียงด้วยท่าทีที่ไม่ได้ตื่นตกใจอะไร ตรงข้ามกับทารีน่าที่กำลังพยายามเปิดหน้าต่างออก“เว
“เกมบ้าบออะไรกัน แล้วข้ากำลังทำอะไรอยู่วะเนี่ย”มาไคล์เควี้ยงริบบิ้นในมือลงไปที่พื้น เขาเห็นว่าทารีน่าเป็นผู้ที่หยิบริบบิ้นออกมาจากกล่องเป็นคนแรก เพราะแบบนั้นเขาถึงได้ร่วมลงเล่นเกมนี้ แต่เขาหานางมาค่อนคืนยังไม่เจอแม้เงาของนางเลยไม่ใช่ว่าองค์หญิงโอเรียน่าเล่นสกปรกอย่างนั้นหรือ? เขาถึงได้หาทารีน่าไม่เจอ นางไปซ่อนอยู่ที่ไหนของพระราชวังอันกว้างใหญ่นี้กัน..แล้วเขา..เป็นบ้าอะไรอยู่มาไคล์ยกมือขึ้นมานวดหว่างคิ้วเบาๆ เขาจะมาตามหาสตรีผู้นั้นทำไมกัน? แล้วทำไมถึงจะอยากเจอนางมากขนาดนั้น ในเมื่อนางส่งมอบบ่อเกลือที่เขาต้องการให้แล้วเช่นนั้นเขาก็ไม่มีอะไรจะต้องยุ่งเกี่ยวกับนางอีกด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าเมื่อช่วงเย็นเขาเผลอไปมีความสัมพันธ์หวานซึ้งกับนาง ที่ปลายจมูกยังคงได้กลิ่นหอมหวานของทารีน่าอยู่เลยดวงตาที่ฉ่ำวาวและน้ำเสียงที่สั่นเครือของนางมันชวนให้เขารู้สึกอยากจะ..สัมผัสนางอีกสักครั้งไม่ปกติแล้ว เขาในยามนี้กำลังสับสนอยู่..หรือว่าเขาต้องการเงิน โรแกนร่ำรวยมากแต่ทว่าทารอนเองก็ไม่ได้น้อยหน้า เรื่องเงินเขาไม่ได้เดือดร้อนสักนิดเดียวแล้วทำไมถึงอยากจะพบหน้าของนางอีกสักครั้ง ทำไมต้องรู้สึกไม่ชอบใจยามที่
เขาพยายามอดกลั้นเอาไว้ และตั้งใจว่าจะทำความรู้จักกับท่านทารีน่าคนใหม่ให้มากกว่านี้ แต่ยิ่งเขาอดกลั้น พร้อมกันนั้นก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักอย่างรวดเร็วถ้าหากว่าความโหดร้ายที่งดงามคือความรัก เขาก็คงได้แต่ยอมปล่อยให้มันเข้ามาโดยไม่สามารถต่อต้านอะไรได้เลย..ทารีน่าอ้าปากค้าง เธอไม่คิดมาก่อนว่าท่านกาเล็ตจะสารภาพรักกับเธอเพราะว่าเขาได้พบเจอนางเอกของเรื่องนี้แล้วนี่ตอนนี้เขาควรจะชอบอเดเรียแล้วทำไมถึงได้มาสารภาพรักกับเธอได้..เส้นเรื่องหลักของนิยายเรื่องนี้ กำลังเปลี่ยนไปสินะ ด้วยฝีมือของผู้สวมร่างอย่างเธอและอเดเรีย“ช่างน่าเศร้าท่านกาเล็ต เพราะว่าข้าจำเรื่องที่ผ่านมาไม่ได้เลย ข้าไม่สามารถดีใจได้ด้วยซ้ำที่ท่านมาสารภาพรักเช่นนั้น เพราะดูเหมือนว่าสตรีผู้นั้นที่ท่านกำลังหลงรัก นางไม่ใช่ข้า..”เขายื่นมือมาจับมือของเธอเอาไว้“เรื่องนั้นข้าไม่ได้รีบร้อน..ข้าแค่อยากบอกกล่าวความในใจให้ท่านได้รู้ เราออกไปจากห้องนี้กันเถอะครับ”เพียงเธอสบตาเขามันก็ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เขาจับจูงมือของเธอเพื่อพาเธอเดินออกมาด้านนอกโดยที่บนร่างกายของทารีน่ามีเสื้อคลุมสีขาวบริสุทธิ์ของเขาคลุมทับอยู่“ข้าเองก็อยาก
ฮาร์วีจุดซิการ์ในมือก่อนที่เขาจะสูบมันเข้าไปเต็มปอด ริมฝีปากที่เชิดรั้นอย่างเอาแต่ใจของเขาพ่นควันสีขาวจางๆ ออกมาด้วยท่าทางเยือกเย็น รังสีความอำมหิตแผ่ออกมาจากร่างดวงตาดุจพญาเหยี่ยวจ้องมองลงไปด้านล่างซึ่งเป็นสวนที่แสนสวยงามของพระราชวังโอเรียกำลังเล่นสนุกอยู่ และจุดมุ่งหมายของยัยนั่นคงเป็นการหาคู่ให้กับทารีน่าสตรีที่ยินยอมหมอบกราบแทบเท้าเขาเพื่อร้องขอความรัก สตรีที่วิ่งตามเขาอย่างบ้าคลั่งเพราะความรู้สึกที่อัดแน่นในใจ บัดนี้นางกลับหันไปให้ความสนใจคาดินันกาเล็ต ไหนจะดยุคทารอนอีก..ไม่ดีแล้วแบบนี้ เพราะการที่นางไม่เห็นเขาในสายตามันหมายความว่าเวทมนตร์ที่เขาควบคุมนางเอาไว้กำลังเสื่อมลง ทารีน่า โรแกน จะต้องรักเขาสิ ไม่อย่างนั้นเขาจะเป็นองค์รัชทายาทที่ถูกพูดถึงอยู่ตลอดได้อย่างไรกัน ความสามารถของทารีน่าคือการอยู่เหนือกว่าสตรีทุกนางในแวดวงสังคม และเขาจำเป็นที่จะต้องสร้างความนิยมนั้นอยู่เสมอ..ฮาร์วีลูบไล้บนขนนกสีดำสนิทของอีกา ริมฝีปากของเขาปรากฏรอยยิ้มที่แสนเย้ยหยันขึ้นมา“ไปสิอีกาตัวน้อย ไปหาสตรีที่เปล่งประกายที่สุดแล้วย้ำเตือนให้นางรู้ถึงหน้าที่ของตัวเองว่าสิ่งที่นางควรจะมองคือดวงตะวันดวงนี
มาไคล์สัมผัสได้ถึงความเศร้าที่อยู่ในดวงตาของทารีน่า เขาไม่ได้พูดออกไปว่าใครกันแน่คือผู้อยู่เบื้องหลัง แต่เขาคิดว่านางน่าจะพอเดาได้ว่านี่มันคือฝีมือของใคร ทารีน่าซุกใบหน้าโผเข้าหาอ้อมกอดของเขา..เธอเอื้อมมือไปโอบกอดแผ่นหลังของท่านมาไคล์ด้วยความแผ่วเบาราวกับว่าเขาคือที่พึ่งพิงเดียวของเธอในยามนี้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาไม่ได้..สนใจเธออะไรมากขนาดนั้น “ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ว่าแต่จะนอนไหม เพราะหากว่าเจ้าไม่นอนเราจะทำอย่างอื่น” สายตาของเขาที่กำลังมองมาที่เธอมันแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์อย่างร้ายกาจ อันที่จริงตอนนี้น่าจะเป็นเวลาสายมากแล้ว แต่เพราะว่าเมื่อคืนกว่างานเลี้ยงจะจบลงก็เป็นช่วงเกือบรุ่งสาง ทำให้ชนชั้นสูงทุกคนที่มาร่วมงานต่างก็ไม่มีใครเปิดห้องรับรองออกมาเลยเพราะว่าทุกคนกำลังนอนหลับพักผ่อน อันที่จริงเธอไม่ได้ง่วง แต่คำว่าทำอย่างอื่นของท่านมาไคล์นั้น สายตาของเขามันชัดเจนมากยิ่งกว่าคำพูดเสียอีกว่าเขาจะทำอะไร “นะ..นอนค่ะ ข้าง่วงแล้วค่ะ” เขาอุตส่าห์ตั้งความหวังกับคำตอบของเธอ แต่คำตอบที่เธอกล่าวออกมามันชวนให้เขารู้สึกหงุดหงิดไม่น้อยเลย เขาวางเธอลงบนเตียงก่อนจะโบกมือไปมาเพื่อปิดหน้าต่าง พร้อมทั้งปิ
“นายหญิงไม่ได้กลับมาที่นี่ค่ะท่านเคาน์ มีข้ารับใช้มาแจ้งว่านายหญิงพักอยู่กับท่านดยุคแห่งทารอน”มือของวินเทอร์พลันกำแน่นมากยิ่งขึ้นเมื่อเขาได้ยินคำกล่าวของเพอร์ร่าทารีน่าอยู่กับดยุคแห่งทารอน เหมือนว่าเขาจะช้าไปก้าวหนึ่งเสมอไม่ว่าเมื่อใดก็ตามแต่เขาจะไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ เหมือนครั้งที่แล้วอีกแน่ วินเทอร์พาตัวเองมาที่เรือนรับรองของทารอน เขาชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านในแน่นอนว่ามันล็อกอยู่ เขาวาดมือไปมาเพื่อคลายกลอนประตูที่ปิดอยู่ และเมื่อประตูห้องนี้เปิดออก เขาก็เห็นใบหน้าของสตรีที่เขาอยากพบเจอนางมากที่สุดทารีน่าที่กำลังนั่งกินชูครีมอยู่ตกใจเล็กน้อยที่ประตูถูกเปิดออกและผู้ที่อยู่เบื้องหลังของประตูมันคือท่านพี่วินเทอร์“ไม่มีใครคอยสอนมารยาทให้ท่านเคาน์รึไง”มาไคล์กล่าวพร้อมกับกอดอกมองหน้าของวินเทอร์ ในขณะที่ทารีน่ายกมือขึ้นมาเพื่อตีเขาเบาๆ“มาร่วมทานน้ำชายามบ่ายด้วยกันสิคะ ข้ากำลังจะกลับหลังจากดื่มน้ำชากับท่านดยุคเสร็จ..”นัยน์ตาของวินเทอร์มีแววกังวลและห่วงใยคละเคล้ากัน เขายื่นมือไปปัดเส้นผมของเธอออกจากตาเพื่อจะได้มองเห็นใบหน้าของทารีน่าชัดๆ ว่าเธอไม่เป็นอะไร“เอาสิ..หากดื่ม
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
องค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด