“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”
วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ “ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น” “แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..” อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้ “รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้” เธอหลับตาลงช้าๆ “ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ” วินเทอร์พยักหน้า.. ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอ กับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ.. เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไหร่เธอก็เอื้อมมือไปจับมือของเขาเอาไว้พร้อมส่งยิ้มให้ “ท่านทารีน่ามาหาข้า..มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือครับ” นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้เจอกันหลังจากที่กาเล็ตสารภาพความในใจออกไป เพราะอย่างนั้นในใจของเขาก็เลยประหม่ามากทีเดียว แถมท่านทารีน่ายังมากับท่านเคาน์ทรอยอีกต่างหาก “ข้ารู้สาเหตุที่คาใจมานานแล้วค่ะ ว่าทำไมข้าถึงได้ทอดทิ้งท่านแล้วไปหาองค์รัชทายาท” “แต่ท่านบอกว่าท่านจำอะไรไม่ได้..” วินเทอร์มองหน้าทารีน่าในทันทีที่คาดินันกาเล็ตพูดว่าทารีน่า..จำอะไรไม่ได้ เขาคิดเอาไว้แล้วว่าสายตาของเธอมันแปลกไป แต่ไม่คิดว่าทารีน่าจะสูญเสียความทรงจำเพราะว่าเธอยังพูดคุยกับเขาอย่างปกติดีทุกอย่างเลย.. “เมื่อคืนข้าได้พบเจอกับอีกาเวทมนตร์โดยบังเอิญ มันมาหาข้าพร้อมกับเวทมนตร์ควบคุมจิตใจ” แก้วน้ำชาที่กาเล็ตถืออยู่พลันร่วงหล่นลงไปกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น แก้วน้ำชาแตกออกจากกันพร้อมกับกระจายออกไปเต็มพื้น อีกาตัวนั้นเป็นขององค์รัชทายาทฮาร์วีไม่ผิดแน่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของทารีน่าด้วยความเจ็บปวด ในหัวใจเกิดเป็นความยินดีขึ้นมาสายหนึ่ง เพราะนางไม่ได้หมดรักหรือว่าเล่นสนุกกับจิตใจของเขา เพียงแต่ในยามนั้นนางถูกเวทย์สะกดใจต่างหาก รอยยิ้มที่มุมปากของกาเล็ตมันบ่งบอกได้ดีว่าเขายินดีมากแค่ไหนที่ได้รับรู้ความจริงและนี่คือสิ่งที่ทารีน่าอยากจะมองเห็นมาโดยตลอด คาดินันกาเล็ตและทารีน่าคนเก่าน่าจะได้มีความสุขมากที่สุดแต่พวกเขากลับถูกพรากความสุขไปเพียงเพื่อให้ตัวละครพระเอกได้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น “ท่านทารีน่าโปรดวางใจเพราะว่าข้าจะร่ายเวทย์เอาไว้บนร่างกายของท่านเพื่อปกป้องการถูกควบคุมจิตใจ..” “ข้ามาที่นี่เพราะสิ่งนั้นแหละค่ะ อีกอย่างข้าต้องการแก้แค้นคนผู้นั้นที่ทำให้ข้าเป็นตัวตลกของชนชั้นสูงที่นี่” คาดินันกาเล็ตเดินเข้ามาหาเธอก่อนที่เขาจะคุกเข่าลงเบื้องหน้าของทารีน่า เขาจับมือเธอขึ้นมาแล้วจุมพิตลงไปบนหลังฝ่ามือเบาๆ “ข้าจะช่วยท่านเองครับ เรื่องใดก็ตามที่เป็นความสุขของท่าน กาเล็ตผู้นี้ยินดีที่จะทำ” เมื่อวินเทอร์เห็นเช่นนั้น เขาก็โอบเอวของทารีน่าเอาไว้ เขาเองก็ไม่คิดยอมแพ้กาเล็ตหรอกนะเรื่องนี้เขาเองก็จะช่วยทารีน่าอย่างสุดกำลังเหมือนกัน “ข้าเองก็จะช่วยเจ้าด้วย..ข้าขอสาบานด้วยเกียรติแห่งทรอย” วินเทอร์พรมจูบลงไปบนใบหน้าของเธอ และการกระทำแบบนั้นของเขามันทำให้กาเล็ตหรี่ตามองด้วยความไม่พอใจ กาเล็ตลุกขึ้นมานั่งข้างๆ ทารีน่าอีกฝั่งเขาเอนใบหน้าซบลงบนไหล่ของทารีน่า “ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้เราก็สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้แล้วสิครับ..คราวนี้ให้ข้าเป็นฝ่ายไปหาท่านทารีน่าบ้างได้ไหม” ทะ..ทำตัวไม่ถูกแฮะ พอได้รับความรักอันมากล้นจากบุรุษทั้งสองคนนี่พร้อมๆ กันมันทำให้เธอ..สับสนนิดหน่อย แต่เธอไม่สามารถทอดทิ้งหรือว่าปฏิเสธท่านพี่วินเทอร์ได้ เขาดีเกินกว่าจะเจ็บปวดเพราะเธอ ส่วนท่านกาเล็ต..เขารักกับทารีน่ามาดีๆ อยู่แล้ว และเขาน่าสงสารมากๆ เลยทีเดียว ในเมื่อเลือกใครไม่ได้ก็อยู่กันไปทั้งแบบนี้แหละ เธอจะเริ่มแก้แค้นและเอาคืนองค์รัชทายาทเอง แต่ก่อนหน้านั้นทารีน่าคิดว่าเธอต้องรู้สาเหตุให้ได้ว่าทำไมอเดเรียถึงหวาดกลัวท่านมาไคล์นัก สาเหตุที่นางอยากย้ายร่าง เป็นเพราะท่านมาไคล์รึเปล่า? ทารีน่ากำลังใช้ความคิดแต่กาเล็ตกลับพรมจูบไปที่ซอกคอขาวเนียนของเธอ เขาขบเม้มเบาๆ เพื่อสร้างรอยกุหลาบเล็กๆ เอาไว้บนผิวกายที่ขาวเนียน “ท่านทารีน่าไม่มีธุระที่ไหนแล้วใช่ไหมครับ..” เขาจับมือของเธอไปสัมผัสส่วนกึ่งกลางร่างกายของเขาที่มันตื่นตัวขึ้นมาจนเห็นเป็นท่อนลำภายใต้กางเกง ทารีน่าตกใจจนเผลอหันหน้าไปมองอีกทาง ซึ่งอีกทางที่เธอกำลังมองอยู่นั้นมันคือใบหน้าของท่านพี่วินเทอร์ “เจ้าสนใจเขามากเกินไปจนข้ารู้สึกเจ็บปวดไปหมดแล้วรินา..พี่เองก็ต้องการเจ้าไม่แพ้เขาหรอกนะ หันมาสนใจพี่บ้างสิครับ” มือของวินเทอร์กอบกุมใบหน้างามเอาไว้ก่อนที่เขาจะจุมพิตลงมาบนกลีบปากอวบอิ่มคู่สวย ที่นี่คือห้องรับรองในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่อาจจะมีคนเข้ามาได้ตลอด นี่พวกเขาทั้งสองคนเสียสติไปแล้วรึไงกัน “อื้อ” เธอร้องประท้วงในลำคอเมื่อท่านพี่วินเทอร์ทาบทับริมฝีปากลงมา ส่วนกาเล็ต เหมือนกับว่าเขาจะมองเห็นถึงความกังวลในสายตาของทารีน่า เขาดีดนิ้วเบาๆ บรรยากาศรอบๆ ก็พลันเปลี่ยนแปลงไป ที่นี่ไม่ใช่ห้องรับรองอีกแล้วแต่มันคือห้องนอนของเขา และเราไม่ได้นั่งอยู่บนโซฟาแต่นั่งอยู่บนเตียง เธอไม่รู้มาก่อนว่าพลังเวทย์ของท่านกาเล็ตจะแข็งแกร่งมากขนาดนี้ เชือกที่มัดชุดเดรสของทารีน่าพลันถูกดึงออก ครั้งแรกที่พบหน้าวินเทอร์ยังรู้สึกไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ที่คาดินันกาเล็ตแสดงความรักต่อทารีน่ามากมายขนาดนั้น แต่ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนกลับสามัคคีกันในการถอดชุดเดรสแสนหรูหราของทารีน่าออกจากร่างกายของเธอองค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
องค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด