เมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่มีท่าทางขัดขืนหรือว่ารังเกียจ ในใจก็รู้สึกดีจนบอกไม่ถูก
อีกนิดเดียวริมฝีปากของเขาจะจรดลงบนริมฝีปากนั้นแล้ว หากว่าที่มือของเขาในตอนนี้มันไม่ได้รู้สึกเปียกชื้น.. วินเทอร์เหลือบไปมองที่มือของตัวเองก็ปรากฏว่ามือของเขามันชุ่มโชกไปด้วยเลือดสีแดงสดที่ไหลซึมออกมาจากชุดเดรสของทารีน่า “ให้ตายเถอะเจ้าเลือดออก..ข้าจะรีบไปตามหมอ..” เธอรีบยกมือขึ้นมาฉุดรั้งแขนของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว นี่กำลังหมายความว่าเธอกำลังจะชวดจุมพิตจากหนุ่มหล่ออีกครั้งแล้วใช่ไหม? “เรื่องแผลของข้าเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ ตอนนี้ท่านพี่ควรจะทำเรื่องที่ทำค้างเมื่อครู่เอาไว้ให้เสร็จก่อน..” วินเทอร์ขมวดคิ้วมองหน้าของทารีน่าก่อนที่ใบหน้าของเขามันจะเห่อร้อนขึ้นมา นี่นางหมายความว่าให้เขาจุมพิตนางให้เสร็จก่อนอย่างนั้นหรือ? “ทารีน่า..ไม่ต้องรีบร้อนเพราะเมื่อแผลของเจ้าหายดี ข้าจะมาทำเรื่องที่ค้างเอาไว้ในวันนี้กับเจ้าบ่อยๆ จนกว่าเจ้าจะร้องขอให้พี่หยุดเลยดีหรือไม่..” จะว่าดีมันก็...ดีอยู่ “สุขภาพของเจ้าสำคัญยิ่งนัก นอนรออยู่ตรงนี้พี่จะส่งคนไปตามหมอมา อย่าเคลื่อนไหวไม่อย่างนั้นปากแผลอาจจะปริแตกออกมาอีก” เธอล้มตัวนอนช้าๆ อย่างที่เขาสั่งและนี่คงเป็นอีกครั้งที่ท่ารีน่าไม่หันไปมองแผลของตัวเอง โรคกลัวเลือดนี่ทำยังไงจะหายนะ เธอไม่อยากเห็นเลือดเลยให้ตายเถอะ ไม่นานนักวินเทอร์ก็เดินเข้ามาพร้อมกับหมอจำนวนมาก ที่สำคัญคือหมอเหล่านั้นต่างก็เป็นสตรี เขามองที่ทารีน่าด้วยความเป็นห่วงก่อนจะเดินออกไปจากห้องนี้เพื่อให้หมอทั้งหลายได้ทำงานอย่างสะดวก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคู่หมั้นแต่เขาก็ให้เกียรติทารีน่าเสมอ.. .......... “คนเช่นเลดี้โรแกนไม่สมควรจะพูดคุยกับเจ้าด้วยซ้ำอเดเรีย จะไปหานางทำไมกัน?” “หม่อมฉันเพียงอยากเป็นเพื่อนกับสตรีที่งดงามที่สุดของจักรวรรดิ อีกทั้งเรื่องการแต่งกายของเลดี้โรแกนก็เป็นที่กล่าวถึงว่านางมีความสามารถเรื่องการแต่งกาย ชุดที่เลดี้โรแกนสวมจะขายหมดในวันถัดไป หม่อมฉันอยากจะให้เลดี้โรแกนไปช่วยเลือกชุดที่จะสวมในวันงานวันชาติเพคะ” เรื่องที่อเดเรียกล่าวมานั้นก็ไม่ผิด เพราะทารีน่าถือเป็นสตรีที่อยู่จุดสูงสุดบนแวดวงสังคม “อเดเรียยอดรักเจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าเป็นห่วงเจ้ามากแค่ไหน จะไปหานางก็ได้แต่ต้องมีทหารองครักษ์ไปด้วย” อเดเรียลุกขึ้นเพื่อย่อตัวลงทำความเคารพองค์รัชทายาท “ขอพระทัยที่ทรงเมตตาเพคะ” เขายื่นมือมาจับมือของเธอเอาไว้ก่อนจะจุมพิตลงไป “ใช้อย่างอื่นขอบคุณข้าสิ อย่างเช่นร่างกายของเจ้า..เอาไว้กลับมา ช่วยมาอาบน้ำให้ข้าทีนะ ข้าเมื่อยตัวมาหลายวันแล้ว..” มือของอเดเรียกำแน่น แต่ทว่าบนใบหน้านั้นยังคงส่งยิ้มให้กับองค์รัชทายาทฮาร์วีอยู่ “รับทราบแล้วเพคะ” น่ารังเกียจที่สุดเลย!! เมื่อไหร่เธอจะสามารถออกไปให้พ้นจากหมอนี่สักที!! อเดเรียกำลังออกเดินทางไปขึ้นรถม้า แต่ระหว่างทางเธอกลับพบเจอกับดยุคทารอน.. “จะไปไหนกันอเดเรีย ข้าพึ่งมาเจ้าก็จะหนีไปจากข้าแล้วอย่างนั้นหรือ?” หากจะถามเรื่องความเกลียดชังที่ตัวของเธอมีต่อคนในเรื่อง ถึงแม้ว่าองค์รัชทายาทฮาร์วีจะลุ่มหลงในร่างกายของเธอและทำตัวน่าขยะแขยงมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังไม่เกลียดเขาเท่ากับดยุคแห่งทารอน ฮาร์วีลุ่มหลงอเดเรียเพราะว่าเขารักนาง แต่มาไคล์มายุ่งเกี่ยวกับอเดเรียเพราะว่าเขามีเป้าหมายที่ไม่มีใครล่วงรู้ เรื่องนี้ไม่ได้กล่าวถึงในนิยายแต่เธอรู้เรื่องนี้จากบันทึกของนางเอกตัวจริงของเรื่องนี้ อเดเรียเขียนบรรยายในบันทึกเอาไว้ว่ามาไคล์ต้องการเลือดหัวใจของเธอเพื่อเอาไปฟื้นคืนชีพอาจารย์ของเขา.. สตรีผู้ซึ่งเป็นรักแรกของมาไคล์และเลือดหัวใจที่จะนำไปฟื้นคืนชีพท่านอาจารย์ของเขานั้นจะต้องได้จากสตรีที่กำลังอยู่ในช่วงมีความรัก เจตนาของมาไคล์ที่มีต่ออเดเรียมันไม่มีความบริสุทธิ์ใจอยู่เลย หมอนี่ชั่วช้าแบบสารเลวสุดๆ เขาเป็นตัวร้ายที่รับมือได้ยากเพราะเปลือกนอกของเขามันแสดงออกว่ารักอเดเรีย.. “ข้ากำลังจะเดินทางไปหาเลดี้โรแกนค่ะท่านดยุค ขออภัยที่ไม่อาจอยู่ต้อนรับท่านได้ เอาไว้วันหลังข้าจะไปหาท่านที่คฤหาสน์ทารอน..” “ไม่เป็นไรอเดเรีย ข้าจะไปหาทารีน่าเป็นเพื่อนเจ้าเอง พอดีว่าข้ามีธุระกับสตรีผู้นั้นพอดี” ไม่รู้ว่าตาของเธอมันฝาดไปรึเปล่าเพราะในตอนที่เธอกล่าวถึงท่ารีน่า สายตาของดยุคทารอนมันวูบไหวราวกับเปลวเทียนที่ต้องสายลม.. ไม่น่าเป็นไปได้หรอก คนเช่นเขาจะรู้สึกนึกถึงสตรีอื่นได้อย่างไรกัน บุรุษผู้นี้รักแต่ตัวเองเท่านั้น “เช่นนั้นก็รบกวนท่านดยุคแล้วค่ะ” “ไปสิ ไปขึ้นรถม้าของตระกูลทารอนเถอะ ข้าจะดูแลเจ้าเองอเดเรีย” อเดเรียพลันรู้สึกหวาดหวั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอกำลังหวาดกลัวเขา อวัยวะภายในรู้สึกปั่นป่วนไปหมดเลย “ข้าได้ยินมาว่าวันชาติที่กำลังจะถึง เจ้าจะเป็นคู่ควงให้กับองค์รัชทายาทอย่างนั้นหรือ?” “ค่ะ ในวันนั้นองค์รัชทายาทจะประกาศกำหนดการหมั้นหมายของข้ากับพระองค์ออกมาอย่างเป็นทางการ..” ใบหน้าของมาไคล์ไม่ได้มีวี่แววความตกใจแม้แต่น้อยเลย ราวกับว่าเขารู้เรื่องการหมั้นหมายของอเดเรียเอาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว “นั่นสินะ ถึงอย่างไรเจ้าก็อยากจะเป็นพระชายามากกว่าดัชเชสอยู่แล้วนี่ ข้าขออวยพรจากใจจริงเลยอเดเรีย ข้าขอให้เจ้ามีความสุขและรักเขามากๆ อย่างที่เขารักเจ้า..” ทุกคืนเธอจะฝันร้าย ความฝันจะวนเวียนอยู่กับดยุคทารอนซ้ำๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ หากว่าเธอรักใครสักคนเขาจะฆ่าเธอเพื่อแย่งชิงเลือดหัวใจของเธอไปอย่างแน่นอน เพราะอย่างนั้นตั้งแต่มาอยู่ในร่างนางเอกของเรื่องนี้ เธอถึงได้ตั้งมั่นเอาไว้แล้วว่าจะไม่รักใครทั้งนั้น!! หากไม่อยากตายล่ะก็ ต้องไม่รักใคร!! “เรื่องนั้น..ข้ายังไม่มั่นใจเพราะข้ากับองค์รัชทายาทแต่งงานกันตามหน้าที่..” มาไคล์หัวเราะเบาๆ “เขาจะทำให้เจ้ารักเขาอย่างแน่นอนฮาร์วีน่ะ แต่หากว่าเจ้าอยู่กับเขาสักระยะแล้วยังไม่รักเขา ข้าจะไปแย่งชิงเจ้ามาเอง” การแย่งชิงของเขา มันหมายความว่าจะมาฆ่าเธอรึเปล่านะ.. อเดเรียยังไม่ทันได้ตอบ รถม้าก็จอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์โรแกนแล้ว เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินลงจากรถม้าโดยมีดยุคทารอยช่วยประคอง “ไปรายงานนายหญิงของพวกเจ้ามาพระชายาอเดเรียมาขอเข้าพบ..”หลังจากนอนพักฟื้นอยู่หลายวันในที่สุดแผลของทารีน่าก็ดีขึ้น วันนี้เธอจึงมาที่ห้องทำงานเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับทุกธุรกิจที่อยู่ในนามของโรแกนโรงระบำเปลื้องผ้าชาย..มันเป็นสถานที่แบบไหนกันวะนั่น?และเมื่อเลื่อนสายตาลงมาดูยอดของรายได้ก็พบว่ามันมหาศาลมากทีเดียว เธอยกมือขึ้นมาปิดปากด้วยความตื่นตกใจ“พ่อบ้าน เรื่องโรงระบำเปลื้องผ้า..”“อ่า..ท่านทารีน่าไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้ว อยากไปตรวจตราที่โรงระบำใช่ไหมครับ ข้าจะแจ้งไปที่นั่นพร้อมกับจัดเตรียมนักระบำไว้รับรอง..”จากการบอกเล่าของพ่อบ้าน ที่โรงระบำน่าจะเป็นสถานที่แบบที่เธอคิดจริงๆ ด้วยอยากไปดูเหมือนกันแฮะ“ก็ดีเหมือนกัน เย็นนี้ข้าจะไปที่นั่นช่วยจัดเตรียมให้เรียบร้อยด้วย”“ครับท่านหญิง”ไม่มีอะไรแน่นอนสักนิดสำหรับการที่ฉันได้มาอยู่ในร่างของทารีน่า หากเข้าไปอยู่นิยายเรื่องอื่นก็จะต้องปกป้องเมนของตัวเองจากการถูกใส่ร้ายหรือรวมไปถึงการแย่งชิงอำนาจแต่นี่เมนของฉันคือมาไคล์..ตัวร้ายของเรื่องนี้ แทนที่จะเอาเวลาไปปกป้องเขา ควรจะเอาเวลาไปปกป้องคนที่เขาจะฆ่าดีกว่าจะว่าไปแล้วเมนของฉันนี่ไม่เหมือนใครจริงๆ ด้วยสินะ น่ารักน่าหยิกที่สุดเลย“ท่านหญิงครับ ว่าท
หากเข้าไปอยู่ในร่างอเดเรีย เธอจะได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่จากท่านดยุคทารอน เมนของเธอจะมีความสุขเพราะได้มองหน้าหล่อๆ ของเขาทั้งวัน ชีวิตมันคงจะดีมากแน่ๆ เลยเพียงแต่ว่า..เขารักอเดเรีย ไม่ได้รักเธอตอนที่ท่านวินเทอร์สารภาพรัก เธอก็ยังเจ็บจี๊ดๆ ในใจเลยเพราะว่าเขาไม่ได้สารภาพรักกับเธอ แต่เขารักทารีน่าคนเก่า เพราะอย่างนั้นหากเธอเข้าไปอยู่ในร่างของอเดเรียความรักที่เธอได้รับจากท่านมาไคล์มันจะว่างเปล่าไปหมดแถมอเดเรียน่าจะมีปัญหาอยู่แน่ๆ ไม่อย่างนั้นนางไม่กล้ามาขอให้เธอเข้าไปอยู่ในร่างนั้นหรอกอยากรู้จังโว้ยว่าอเดเรียมีปัญหาอะไร แต่จะแสดงออกว่าเธอเองก็เป็นผู้สวมร่างไม่ได้อย่างเด็ดขาด“ข้าไม่เข้าใจเรื่องที่ว่าที่พระชายากำลังกล่าวออกมาหรอกค่ะ ท่านเห็นข้าเป็นอะไรกันถึงได้ล้อเล่นแบบนั้น”“ข้าไม่ได้ล้อเล่น ข้าสามารถทำให้องค์รัชทายาทที่ไม่เคยชายตามองท่าน หันมารักท่านได้..”“ข้าไม่ต้องการ องค์รัชทายาทอะไรนั่นข้าไม่ต้องการอีกแล้วเพราะว่าตอนนี้ข้ารักท่านดยุคมาไคล์ และข้าจะทำให้เขารักข้าเพราะว่าข้าเป็นทารีน่า หากว่าที่พระชายายังกล่าวเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้กับข้าอีก ข้าจะไม่ขอพูดคุยกับท่านแล้วนะค
สิ่งที่ปกคลุมเราเอาไว้คงเป็นความเงียบที่ไร้ที่สิ้นสุด ในใจของทารีน่านั้นอัดแน่นไปด้วยความรักอันมากมายจนแทบจะล้นทะลักออกมา แต่มันกลับพูดออกไปไม่ได้เลย..เธอบอกเขาได้เพียงแค่เธอนั้นรักเขา แต่เรื่องเหตุผลของการตกหลุมรักนั้น..บอกเขาไม่ได้อย่างเด็ดขาดสายตาของทารีน่าทอดมองใบหน้าที่เย็นชาของเขาซึ่งกำลังเดินถอยออกไปจากในห้องนอนของเธออย่างช้าๆประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับมาไคล์ที่เหมือนจะทำตัวไม่ถูก เขาแค่ตกใจเล็กน้อยกับท่าทีการแสดงออกของนางโรแกนคืออดีตตระกูลอาร์ดดยุค ถึงแม้ว่าพอทารีน่าขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแทนพ่อของนาง อำนาจทางการเมืองจะลดถอยลงไปบ้างแต่เรื่องอำนาจในแวดวงสังคม ทารีน่ายังคงกุมมือเอาไว้ในมืออย่างเหนียวแน่น ทุกธุรกิจของโรแกนร่ำรวยมาจากทารีน่าทั้งสิ้น สตรีผู้นี้มิได้มีดีแค่หน้าตาแต่ความสามารถในการทำงานของนาง นับว่าดียิ่งนัก“ข้าไม่คิดว่าท่านดยุคยังสมควรจะอยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้าของคฤหาสน์โรแกนไม่สะดวกออกมาต้อนรับท่านในฐานะแขกของที่นี่แล้ว เช่นนั้นท่านก็ควรจะเดินทางกลับได้แล้ว”ปัญหาเล็กๆ ของทารีน่าคือนางมีคู่หมั้นที่หวังดีกับนางมากกว่าใครอย่างวินเทอร์“เคาน์ทรอย ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช่คู่ห
วินเทอร์พาทารีน่าไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาว เขานั่งลงข้างๆ เธอก่อนจะยื่นมือไปแตะที่เอวคอดกิ่ว..“ตรงนี้ยังเจ็บอยู่รึเปล่า?”อันที่จริงเธอไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่เมื่อทารีน่าเงยหน้าขึ้นมาเธอก็ต้องตกใจที่ได้มองเห็นใบหน้าของท่านพี่วินเทอร์ในระยะประชิดเช่นนี้ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขาเป่ารดอยู่บริเวณข้างแก้มของเธอ ความใกล้ชิดที่มากเกินไปนี้ทำให้ทารีน่าเผลอถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่าเมื่อเธอถอยหลังเขากลับยื่นมือมาโอบกอดเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสถอยหนีอ่า..บอกไปแล้วไงว่าเธอเป็นโรคแพ้คนหล่อ แล้วความใกล้ชิดอะไรแบบนี้มันทำใจให้ชินได้ที่ไหนกันเล่า“มะ..ไม่เจ็บแล้วค่ะ”ริมฝีปากของเขาพลันยกสูงขึ้น“แน่ใจว่าไม่เจ็บแล้ว..ให้พี่ดูหน่อยเถิดว่าแผลของเจ้ามันสมานกันดีหรือไม่”จะให้เขาดูได้ยังไงกันเพราะว่าแผลอยู่ที่เอวของเธอ จะให้เขาดูเธอไม่ต้องแก้ผ้าออกก่อนเรอะ!“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าหายดีแล้ว”“หายดีแล้ว..เช่นนั้นเราก็ทำเรื่องที่ค้างเอาไว้ได้แล้วสินะ”โอ้พระเจ้า เขาไม่ได้คิดจะดูแผลของเธอตั้งแต่ทีแรก แต่เขาต้องการให้เธอบอกว่าหายดี เพื่อที่เขาจะได้ทำเรื่องต่อจากคราวที่แล้ว เห็นทีว่าเธอจะต้องมองท่านพี่วินเท
บนมุมปากของวินเทอร์หยักยิ้มขึ้นมา เขาก้มหน้าลงไปพรมจูบที่ซอกคอของทารีน่าอีกครั้งนี่เป็นเรื่องยากสำหรับการหักห้ามใจ ทารีน่าในยามนี้เหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานออกเพื่อเขา..แต่ทว่าในแววตาของเธอมันยังคงมีความกังวลมากมายแฝงอยู่ในนั้นแต่เขาสามารถแน่ใจได้ว่าในแววตานั้นไม่ได้มีความรังเกียจเลยแม้แต่นิดเดียว“การห้ามใจนั้นเป็นเรื่องยาก..รินา เจ้ากำลังทำให้พี่เป็นบ้ารู้ไหม?”ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ร่างกายของเธอมันร้อนไปหมดและมันกำลังร่ำร้องอยากหนักว่าเธอต้องการเขา อยากให้เขาสัมผัสมากกว่านั้นไม่ว่าจะส่วนใดของร่างกายก็ตามเพียงแต่ยังไม่ใช่วันนี้“ที่ข้าปฏิเสธไม่ใช่เพราะว่าข้ารังเกียจท่านพี่..”“อ่า..เรื่องนั้นพี่รู้รินา เอาเป็นว่าวันนี้พี่จะพอเท่านี้ก่อน ไว้เจ้าพร้อมมากกว่านี้เราค่อยมาจัดการเรื่องที่ค้างคาวันนี้ให้จบสิ้น”เขาไม่อยากผิดใจกับทารีน่า อันที่จริงเขาจะใช้กำลังและฝืนทำตามความต้องการก็ได้ แต่วินเทอร์ไม่คิดทำแบบนั้นทารีน่าล้ำค่ามากเกินกว่าที่เขาจะกินนางให้หมดในวันเดียว เขาจะค่อยๆ เคี้ยวทั้งเลือดเนื้อและกระดูกของนางลงท้องอย่างช้าๆ เองตอนนี้แค่ต้องทำให้นางสนใจเขาให้มากกว่าดยุคแห่งทารอน ให
ข้าก็ว่าอย่างนั้น ไม่รู้ทำไมทารีน่าถึงได้ชอบผู้ชายแบบฮาร์วีก็ไม่รู้“บอกข้าหน่อยสิว่าเจ้ากำลังชอบใครอยู่ ท่านเคาน์ทรอยใช่รึเปล่า?”แล้วเธอควรจะตอบคำถามนี้ว่ายังไงดี“อ่า..เรื่องนั้นข้ายังบอกเจ้าตอนนี้ไม่ได้ รอให้ความรู้สึกของข้าชัดเจนเมื่อไหร่ ข้าจะบอกเจ้าคนแรกเลย”“ถามแค่นี้ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ แสดงว่าไม่ใช่ก็ต้องใกล้เคียงเป็นแน่”“ชะ..ใช่ที่ไหนกันเล่าเรื่องที่อยากรู้ข้าก็ถามเจ้าไปจนหมดแล้ว ข้าไม่รบกวนเวลาของเจ้าแล้ว”โอเรียน่าหัวเราะเบาๆ“แบบนั้นก็ดี ช่วยตามบุรุษหน้าห้องเข้ามาให้ข้าด้วย วันนี้ข้ายินดีจ่ายไม่อั้นให้บุรุษที่รับใช้ข้า”โอเรียน่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของทารีน่า สตรีผู้นี้นิสัยนับว่าไม่เลว เพียงแต่นับจากนี้อีกสองปีนางจะถูกส่งไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ หลังจากนั้นทางจักรวรรดิจะได้รับร่างอันไร้วิญญาณของนางกลับมาพร้อมกับสัญญาสงบศึกที่ถูกฉีกออกสงครามระหว่างดินแดนกินเวลากว่าสองปีจบลงเพราะอเดเรียนางเอกของเรื่องได้เข้าไปพูดคุยกับองค์จักรพรรดิซึ่งเป็นพี่ชายของนาง..เดิมทีอเดเรียเป็นเด็กที่ถูกท่านลอร์ดคาเรนเก็บมาเลี้ยง คนที่รู้ว่านางคือราชวงศ์ก็คือคาดินันกาเล็ตสงครามยุติลงเพราะส
“ข้าเดินไม่ไหวค่ะ ไม่ใช่ว่าท่านจะต้องอุ้มข้าขึ้นไปอย่างนั้นหรือคะ ที่ข้าเป็นเช่นนี้ก็เพราะท่านจงใจทำร้ายข้าแท้ๆ ..”ได้คืบต้องเอาศอกสิ เธอจะต้องทำให้เขารู้สึกผิดเรื่องที่ทำร้ายเธอให้สาสมเลยคอยดู“เรื่องนั้นข้าไม่ได้ตั้งใจ และข้ายินดีที่จะพาเลดี้ไปรักษาอาการเจ็บปวดเหล่านี้ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์..”เขาไม่พาเธอไปหาหมอแต่กลับพาเธอไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ อย่าบอกนะว่าคนผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตที่จะมาฆ่าเมนของเธอน่ะและเมื่อเขาอุ้มทารีน่าขึ้นมาจากพื้นเธอก็ใช้โอกาสนี้ดึงผ้าคลุมของเขาลงเส้นผมสีเงินยาวสลวยปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของเธอ แน่นอนแล้ว..ชายผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตไม่ผิดแน่!!หรือว่าจะฉวยโอกาสนี้หยิบมีดขึ้นมาแทงทะลุหัวใจของเขาไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีไหมนะ เขาจะได้ไม่มาทำร้ายเมนของเธออีก“กำลังคิดหาทางทำร้ายข้าอยู่งั้นหรือ”“...”ในนิยายไม่เห็นบอกว่าเขาอ่านใจได้เลยนี่“ชาที่เลดี้ส่งมาให้ข้าทุกวัน ข้าไม่ได้ดื่มมันเลยเพราะว่าในชานั้นมีพิษอยู่ หากว่าท่านอยากจะสังหารข้าก็คิดแผนการที่มันรัดกุมมากกว่านี้หน่อยเถิด”เดี๋ยวนะ ยัยทารีน่าทำแบบนั้นไปทำไมกัน วางยาคาดินันเนี่ยนะ โง่สิ้นดี“ข้าไม่ได้..”“วาง
“แล้วเจ้ามาบอกกล่าวเรื่องนี้กับข้าทำไมกัน?”เอ้า..ก็เธอไม่อยากให้เขาเกลียดเธอโดยไม่มีเหตุผลอีกไง“เพราะว่าท่านคือคาดินันนี่คะ บางทีท่านอาจจะช่วยข้าเรื่องการสูญเสียความทรงจำได้”“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก แต่ข้ารับปากว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร แผลของเจ้า ข้ารักษาเรียบร้อยแล้วรีบสวมชุดสิข้าจะไปส่ง..”ต้องจากกันแล้วงั้นเหรอ?จะว่าไปแผลของเธอมันไม่มีความรู้สึกเจ็บอีกแล้ว ดูเหมือนว่าพลังเวทย์ของเขามันจะใช้ได้ดีมากทีเดียว ทารีน่าก้มหน้าลงไปมองที่แผลของตัวเองเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยจริงอยู่ที่มันไม่มีความเจ็บปวดอยู่แล้วแต่ทว่าเลือดสีดำกำลังไหลออกจากบาดแผล..“ข้าได้ขับเลือดเสียออกมา อีกไม่นานแผลจะหายสนิท..”ปกติแล้วเป็นนักบุญหรือว่านักเวทย์จะต้องรักษาแผลหายแบบหายวับไปจากร่างกายได้เลยนี่ แต่แล้วทำไม..แผลของเธอมันถึงไม่หายวับเหมือนที่เธอเข้าใจล่ะ“เพราะว่าก่อนหน้านี้เจ้าทำนิสัยแย่ๆ พอสมควร การที่ทิ้งบาดแผลนี้เอาไว้เพื่อไม่ให้หายในทันทีถือเป็นการเตือนสติเจ้า..ทารีน่า!!!”เธอล้มลงในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นลมไปเลย เพียงแค่เพราะมองแผลของตัวเองถึงกับเป็นลมล้มพับไปแบบนี้เ
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
องค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด