วินเทอร์พาทารีน่าไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาว เขานั่งลงข้างๆ เธอก่อนจะยื่นมือไปแตะที่เอวคอดกิ่ว..
“ตรงนี้ยังเจ็บอยู่รึเปล่า?” อันที่จริงเธอไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่เมื่อทารีน่าเงยหน้าขึ้นมาเธอก็ต้องตกใจที่ได้มองเห็นใบหน้าของท่านพี่วินเทอร์ในระยะประชิดเช่นนี้ ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขาเป่ารดอยู่บริเวณข้างแก้มของเธอ ความใกล้ชิดที่มากเกินไปนี้ทำให้ทารีน่าเผลอถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่าเมื่อเธอถอยหลังเขากลับยื่นมือมาโอบกอดเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสถอยหนี อ่า..บอกไปแล้วไงว่าเธอเป็นโรคแพ้คนหล่อ แล้วความใกล้ชิดอะไรแบบนี้มันทำใจให้ชินได้ที่ไหนกันเล่า “มะ..ไม่เจ็บแล้วค่ะ” ริมฝีปากของเขาพลันยกสูงขึ้น “แน่ใจว่าไม่เจ็บแล้ว..ให้พี่ดูหน่อยเถิดว่าแผลของเจ้ามันสมานกันดีหรือไม่” จะให้เขาดูได้ยังไงกันเพราะว่าแผลอยู่ที่เอวของเธอ จะให้เขาดูเธอไม่ต้องแก้ผ้าออกก่อนเรอะ! “ไม่เป็นไรค่ะ ข้าหายดีแล้ว” “หายดีแล้ว..เช่นนั้นเราก็ทำเรื่องที่ค้างเอาไว้ได้แล้วสินะ” โอ้พระเจ้า เขาไม่ได้คิดจะดูแผลของเธอตั้งแต่ทีแรก แต่เขาต้องการให้เธอบอกว่าหายดี เพื่อที่เขาจะได้ทำเรื่องต่อจากคราวที่แล้ว เห็นทีว่าเธอจะต้องมองท่านพี่วินเทอร์ใหม่ซะแล้ว เขาไม่ใช่ลูกแกะตัวน้อยเลยสักนิด แต่อาจจะเป็นหมาป่าที่ห่มหนังแกะต่างหาก เมื่อมองเห็นแววตาที่สั่นไหวของทารีน่า วินเทอร์ก็ยกมือขึ้นมาขึ้นมากอบกุมใบหน้างามของเธอเอาไว้ เขาค่อยๆ เคลื่อนใบหน้าเข้ามาอย่างเชื่องช้า ทารีน่าเลือกที่จะหลับตาลง เธอไม่อาจมองหน้าเขาได้เพราะเธออาจจะเผลอเป็นลมหรือไม่ก็เลือกกำเดาพุ่งออกมามาอีก เขาจูบปิดปากของเธอจนแนบสนิทพร้อมกับฝังความเสน่ห์หาเข้าไปด้วย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่มีประสบการณ์เรื่องการจูบมาก่อน แต่ทารีน่าก็พูดได้เต็มปากเลยว่า..มันดี นี่ไม่ใช่จุมพิตที่เร่าร้อน แต่เป็นจูบที่ลึกล้ำ แผ่วเบา และนุ่มนวลทำให้ผ่อนคลายกับทุกจุดที่ปลายลิ้นของเขาสัมผัสลงมา ริมฝีปากของเขาแนบประกบย้ำๆ ก่อนจะถอยร่นและกลับเข้าไปใหม่วนซ้ำไปมาจนเมื่อวินเทอร์เริ่มรู้สึกว่าทารีน่ากำลังตอบรับปลายลิ้นของเขา เขาจึงเปลี่ยนริมฝีปากให้เป็นมุมที่ลึกล้ำยิ่งขึ้น ลิ้นที่สอดเข้ามาพัวพันจนทำให้ร่างกายร้อนขึ้นตามลำดับ ในหัวของเธอมันขาวโพลนไปหมดเลย เธอยกมือขึ้นมาจับที่ไหล่กว้างของเขาก่อนจะค่อยๆ เคลื่อนไปด้านหลังเพื่อโอบกอดเขาเอาไว้แทน ยิ่งเขาเพิ่มน้ำหนักในรสจูบ เธอก็ยิ่งกำเสื้อของเขาเอาไว้แน่น เขาโอบกอดเธอจากด้านหลังเอาไว้อย่างแนบแน่น เพื่อยืนยันความรู้สึกราวกับจะปกป้องเธอจากอันตรายทั้งปวง ก่อนจะผละริมฝีปากออกช้าๆ วินเทอร์มองสบตากับทารีน่า ดวงตาของเธอฉ่ำวาวไปด้วยหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา ใบหน้างามแดงซ่าน ริมฝีเผยอขึ้นมาราวกับกำลังเย้ายวนเขา เขาใช้ริมฝีปากหว่านพรมไปตามใบหน้าของเธอก่อนจะค่อยๆ ไล่ลงมาเรื่อยๆ จากใบหู ไปจนถึงซอกคอ ปลายจมูกของเขาซุกไซ้ลงมาที่ซอกคอพร้อมกับลมหายใจที่ถี่กระชั้น เขาอุ้มเธอขึ้นมานั่งบนตักก่อนจะกดสะโพกของเธอลงไปให้แนบชิดกับส่วนนั้นที่กำลังตื่นตัวอยู่ภายใจกางเกง ร่างกายของเธอมันร้อนไปหมดเลย และตอนนี้เมื่อเขาอุ้มเธอมานั่งบนตักของเขา ท่านพี่วินเทอร์ก่อนเริ่มขยับเอวช้าๆ เพื่อให้ส่วนนั้นเสียดสีกัน ใบหน้าของเขามัน..โอ้พระเจ้า สาบานได้เลยว่าเธอไม่คิดว่าท่านพี่วินเทอร์ที่แสนดีจะมีสีหน้าแบบนี้ด้วย ดวงตาของเขานั้นฉายแววเจ็บปวดและทรมาน ราวกับกำลังร้องขอหรือวิงวอนต่อเธอ “รินา..” ไม่ได้ เธอต้องห้ามเขา จะเกินเลยมากไปกว่านี้ไม่ได้ เธอยังกังวลเรื่องผู้สวมร่างของตัวเอง เพราะไม่อยากให้เขาเจ็บปวดเธอจึงไม่อยากให้ความหวัง แต่เรื่องที่กำลังทำนี่ก็เกินเลยไปจากคำว่าให้ความหวังพอสมควรแล้วนะ.. ในระหว่างที่เธอกำลังทะเลาะกับความคิดของตัวเองอยู่นั้น ฝ่ามือของวินเทอร์ก็ลากไล้ขึ้นมาจากหัวเข่า ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงขาอ่อนด้านใน ทารีน่าสะดุ้งเฮือกเมื่อปลายนิ้วของเขากำลังสัมผัสส่วนนั้นของเธอผ่านกางเกงซับในที่สวมอยู่ “ยะ..หยุดก่อนค่ะ” เขาใช้ริมฝีปากขบเม้มใบหูของเธอเบาๆ ก่อนจะงับต้นคอเรียวยาวไล่ไปจนถึงจุดชีพจร “พี่น่ารังเกียจมากอย่างนั้นหรือ? รินาชั่วชีวิตของพี่ไม่เคยชายตามองสตรีใดทั้งนั้น พี่มั่นคงในความรักที่มีต่อเจ้า การกระทำเช่นนี้ของพี่ทำให้เจ้ารังเกียจพี่อย่างนั้นหรือ?” หน้าแบบนั้นอีกแล้ว ใบหน้าที่กำลังอ้อนวอนของเขามันทำให้เธอพ่านแพ้อย่างสิ้นเชิง เธอไม่ได้รังเกียจเลยสักนิด เขาดีเกินไปสำหรับนางร้ายอย่างทารีน่าด้วยซ้ำ เธอรู้ดีกว่าใครว่าตัวละครวินเทอร์น่าสงสารมากที่สุด เพราะเขาหวังดีกับทารีน่าจริงๆ เขาน่าสงสาร น่าเห็นใจขนาดนั้นเธอจะรังเกียจเขาได้อย่างไรกัน แต่จะยอมง่ายๆ มันก็.. “อ๊ะ..” ปลายนิ้วของเขามันกำลังกรีดไปตามร่องรักของเธอเบาๆ “รินา..ตรงนี้เปียกหมดแล้ว เป็นพี่ไม่ได้อย่างนั้นหรือ?” การสัมผัสของเขามันเป็นการสัมผัสที่ไม่รุนแรงแต่มันกลับเร่าร้อนเหลือกำลัง ผิวกายมีปฏิกิริยาคลายถูกสัมผัสโดยตรงทั้งๆ ที่เธอยังสวมเสื้อผ้าครอบชิ้น ปลายจมูกของเขาซุกลงกับเส้นผมก่อนจะพรมจูบไปทั่วทั้งศีรษะ บอกตามตรงว่าร่างกายนี้เริ่มจะไม่ฟังคำสั่งของเธออีกแล้ว ทารีน่ารู้สึกร้อนไปหมดตั้งแค่ศีรษะจรดปลายเท้า เขาร้ายกาจมากกว่าที่เธอคิดเอาไว้ ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ผิวกายค่อยๆ หว่านเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขสมทีละเมล็ด ก่อนที่มันจะแตกหน่ออยู่ใต้ผิวของเธออย่างรวดเร็วจนร่างกายของทารีน่าสั่นเทิ่มไปทั้งตัว เขาขบเม้มบนต้นคอเพื่อฝากรอยกุหลาบเอาไว้ เธอบิดตัวหนีตามสัญชาตญาณแต่ริมฝีปากของเขายังคงตามมาอย่างไม่ลดละ มืออีกข้างของวินเทอร์กำลังดึงเชือกด้านหลังที่มัดชุดเดรสของทารีน่าเอาไว้ และเมื่อเชือกที่พันธนาการชุดของทารีน่าคลายลง เนินอกคู่สวยก็ปรากฏเด่นชัดในสายตาของวินเทอร์ ผิวกายของทารีน่าขาวราวกับหิมะ ส่วนปลายยอดถันคู่สวยนั่นก็ราวกับกลีบกุหลาบสีแดงที่แต่งแต้มลงไปบนพื้นหิมะ มันสวยงามจนเขาไม่อาจละสายตาไปจากเนินเนื้อคู่นั้นได้เลย “ท่านพี่วินเทอร์..ไม่ใช่วันนี้ค่ะ!" เธอยกมือขึ้นมาเพื่อปกปิดส่วนที่ไม่ควรปรากฏในสายตาของเขา..บนมุมปากของวินเทอร์หยักยิ้มขึ้นมา เขาก้มหน้าลงไปพรมจูบที่ซอกคอของทารีน่าอีกครั้งนี่เป็นเรื่องยากสำหรับการหักห้ามใจ ทารีน่าในยามนี้เหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานออกเพื่อเขา..แต่ทว่าในแววตาของเธอมันยังคงมีความกังวลมากมายแฝงอยู่ในนั้นแต่เขาสามารถแน่ใจได้ว่าในแววตานั้นไม่ได้มีความรังเกียจเลยแม้แต่นิดเดียว“การห้ามใจนั้นเป็นเรื่องยาก..รินา เจ้ากำลังทำให้พี่เป็นบ้ารู้ไหม?”ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ร่างกายของเธอมันร้อนไปหมดและมันกำลังร่ำร้องอยากหนักว่าเธอต้องการเขา อยากให้เขาสัมผัสมากกว่านั้นไม่ว่าจะส่วนใดของร่างกายก็ตามเพียงแต่ยังไม่ใช่วันนี้“ที่ข้าปฏิเสธไม่ใช่เพราะว่าข้ารังเกียจท่านพี่..”“อ่า..เรื่องนั้นพี่รู้รินา เอาเป็นว่าวันนี้พี่จะพอเท่านี้ก่อน ไว้เจ้าพร้อมมากกว่านี้เราค่อยมาจัดการเรื่องที่ค้างคาวันนี้ให้จบสิ้น”เขาไม่อยากผิดใจกับทารีน่า อันที่จริงเขาจะใช้กำลังและฝืนทำตามความต้องการก็ได้ แต่วินเทอร์ไม่คิดทำแบบนั้นทารีน่าล้ำค่ามากเกินกว่าที่เขาจะกินนางให้หมดในวันเดียว เขาจะค่อยๆ เคี้ยวทั้งเลือดเนื้อและกระดูกของนางลงท้องอย่างช้าๆ เองตอนนี้แค่ต้องทำให้นางสนใจเขาให้มากกว่าดยุคแห่งทารอน ให
ข้าก็ว่าอย่างนั้น ไม่รู้ทำไมทารีน่าถึงได้ชอบผู้ชายแบบฮาร์วีก็ไม่รู้“บอกข้าหน่อยสิว่าเจ้ากำลังชอบใครอยู่ ท่านเคาน์ทรอยใช่รึเปล่า?”แล้วเธอควรจะตอบคำถามนี้ว่ายังไงดี“อ่า..เรื่องนั้นข้ายังบอกเจ้าตอนนี้ไม่ได้ รอให้ความรู้สึกของข้าชัดเจนเมื่อไหร่ ข้าจะบอกเจ้าคนแรกเลย”“ถามแค่นี้ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ แสดงว่าไม่ใช่ก็ต้องใกล้เคียงเป็นแน่”“ชะ..ใช่ที่ไหนกันเล่าเรื่องที่อยากรู้ข้าก็ถามเจ้าไปจนหมดแล้ว ข้าไม่รบกวนเวลาของเจ้าแล้ว”โอเรียน่าหัวเราะเบาๆ“แบบนั้นก็ดี ช่วยตามบุรุษหน้าห้องเข้ามาให้ข้าด้วย วันนี้ข้ายินดีจ่ายไม่อั้นให้บุรุษที่รับใช้ข้า”โอเรียน่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของทารีน่า สตรีผู้นี้นิสัยนับว่าไม่เลว เพียงแต่นับจากนี้อีกสองปีนางจะถูกส่งไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ หลังจากนั้นทางจักรวรรดิจะได้รับร่างอันไร้วิญญาณของนางกลับมาพร้อมกับสัญญาสงบศึกที่ถูกฉีกออกสงครามระหว่างดินแดนกินเวลากว่าสองปีจบลงเพราะอเดเรียนางเอกของเรื่องได้เข้าไปพูดคุยกับองค์จักรพรรดิซึ่งเป็นพี่ชายของนาง..เดิมทีอเดเรียเป็นเด็กที่ถูกท่านลอร์ดคาเรนเก็บมาเลี้ยง คนที่รู้ว่านางคือราชวงศ์ก็คือคาดินันกาเล็ตสงครามยุติลงเพราะส
“ข้าเดินไม่ไหวค่ะ ไม่ใช่ว่าท่านจะต้องอุ้มข้าขึ้นไปอย่างนั้นหรือคะ ที่ข้าเป็นเช่นนี้ก็เพราะท่านจงใจทำร้ายข้าแท้ๆ ..”ได้คืบต้องเอาศอกสิ เธอจะต้องทำให้เขารู้สึกผิดเรื่องที่ทำร้ายเธอให้สาสมเลยคอยดู“เรื่องนั้นข้าไม่ได้ตั้งใจ และข้ายินดีที่จะพาเลดี้ไปรักษาอาการเจ็บปวดเหล่านี้ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์..”เขาไม่พาเธอไปหาหมอแต่กลับพาเธอไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ อย่าบอกนะว่าคนผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตที่จะมาฆ่าเมนของเธอน่ะและเมื่อเขาอุ้มทารีน่าขึ้นมาจากพื้นเธอก็ใช้โอกาสนี้ดึงผ้าคลุมของเขาลงเส้นผมสีเงินยาวสลวยปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของเธอ แน่นอนแล้ว..ชายผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตไม่ผิดแน่!!หรือว่าจะฉวยโอกาสนี้หยิบมีดขึ้นมาแทงทะลุหัวใจของเขาไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีไหมนะ เขาจะได้ไม่มาทำร้ายเมนของเธออีก“กำลังคิดหาทางทำร้ายข้าอยู่งั้นหรือ”“...”ในนิยายไม่เห็นบอกว่าเขาอ่านใจได้เลยนี่“ชาที่เลดี้ส่งมาให้ข้าทุกวัน ข้าไม่ได้ดื่มมันเลยเพราะว่าในชานั้นมีพิษอยู่ หากว่าท่านอยากจะสังหารข้าก็คิดแผนการที่มันรัดกุมมากกว่านี้หน่อยเถิด”เดี๋ยวนะ ยัยทารีน่าทำแบบนั้นไปทำไมกัน วางยาคาดินันเนี่ยนะ โง่สิ้นดี“ข้าไม่ได้..”“วาง
“แล้วเจ้ามาบอกกล่าวเรื่องนี้กับข้าทำไมกัน?”เอ้า..ก็เธอไม่อยากให้เขาเกลียดเธอโดยไม่มีเหตุผลอีกไง“เพราะว่าท่านคือคาดินันนี่คะ บางทีท่านอาจจะช่วยข้าเรื่องการสูญเสียความทรงจำได้”“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก แต่ข้ารับปากว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร แผลของเจ้า ข้ารักษาเรียบร้อยแล้วรีบสวมชุดสิข้าจะไปส่ง..”ต้องจากกันแล้วงั้นเหรอ?จะว่าไปแผลของเธอมันไม่มีความรู้สึกเจ็บอีกแล้ว ดูเหมือนว่าพลังเวทย์ของเขามันจะใช้ได้ดีมากทีเดียว ทารีน่าก้มหน้าลงไปมองที่แผลของตัวเองเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยจริงอยู่ที่มันไม่มีความเจ็บปวดอยู่แล้วแต่ทว่าเลือดสีดำกำลังไหลออกจากบาดแผล..“ข้าได้ขับเลือดเสียออกมา อีกไม่นานแผลจะหายสนิท..”ปกติแล้วเป็นนักบุญหรือว่านักเวทย์จะต้องรักษาแผลหายแบบหายวับไปจากร่างกายได้เลยนี่ แต่แล้วทำไม..แผลของเธอมันถึงไม่หายวับเหมือนที่เธอเข้าใจล่ะ“เพราะว่าก่อนหน้านี้เจ้าทำนิสัยแย่ๆ พอสมควร การที่ทิ้งบาดแผลนี้เอาไว้เพื่อไม่ให้หายในทันทีถือเป็นการเตือนสติเจ้า..ทารีน่า!!!”เธอล้มลงในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นลมไปเลย เพียงแค่เพราะมองแผลของตัวเองถึงกับเป็นลมล้มพับไปแบบนี้เ
เธอล้มตัวนอนบนเตียงก่อนจะเหลือบมองเสื้อคลุมสีขาวที่เธอสวมกลับมา ไม่น่าแปลกใจหรอกว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดทารีน่าคนเก่ามากขนาดนั้นเพราะสิ่งที่ทารีน่าทำมันคือการบังคับจิตใจ นางชื่นชอบใบหน้าและร่างกายของกาเล็ตเพราะอย่างนั้นนางถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขายินยอมเป็นของเล่นให้นางถึงขนาดวางยาในน้ำชาของเขา และกาเล็ตเหมือนจะได้รับพิษไปเต็มๆ ในครั้งแรก ยาแก้พิษอยู่ที่ทารีน่าและนางจะส่งมอบยาถอนพิษให้เขาก็ต่อเมื่อกาเล็ตยอมนอนกับนาง..บ้าไปแล้ว ยัยนั่นมันเข้าขั้นโรคจิตขั้นสุดเลยนี่หว่า แบบนั้นที่กาเล็ตหลงรักอเดเรียคงเพราะนางเอกมาช่วยเขาเป็นแน่เมื่อรู้เรื่องแบบนี้แล้วเธอจะยังเสนอหน้านี้ไปหาเขาอีกได้ยังไงกัน ละอายใจชะมัดเลยขนาดเธอไม่ได้เป็นคนทำยังอดเสียใจไม่ได้ แล้วไม่รู้ว่ายัยทารีน่าตัวจริงสำนึกบ้างรึเปล่า?ริมฝีปากของเธอเม้มๆ คลายๆ สลับไปมาด้วยความชั่งใจ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆห้องนอนของเธอยามนี้มีแต่งชุดเดรสมากมายเต็มไปหมดเพื่อจัดเตรียมเอาไว้สำหรับงานในวันพรุ่งนี้ ท่านพ่อบ้านได้จัดการส่งชุดไปที่คฤหาสน์ทารอน และส่งชุดไปที่คฤหาสน์ทรอยของท่านพี่วินเทอร์ด้วยพรุ่งนี้คืองานวันชาติ และงานในวันพรุ
การที่เขาจะต้องมาแต่งกายคล้ายๆ ดยุคแห่งทารอนเป็นเรื่องที่วินเทอร์ไม่ค่อยชอบใจเอาซะเลย“ไม่ใช่เจ้าคนเดียวที่ไม่ชอบใจ คิดว่าข้าชอบแต่งกายคล้ายเจ้ารึไงเคาน์ทรอย”วินเทอร์ยกยิ้มขึ้นมาจางๆ“หากว่าท่านดยุคไม่เต็มใจ โชคดียิ่งนักที่ในคฤหาสน์โรแกนมีชุดออกงานของบุรุษมากมายให้ท่านได้เปลี่ยน ข้าจะให้พ่อบ้านนำทางท่านไป”มาไคล์แสยะยิ้มออกมา“ทำไมข้าจะต้องเป็นคนเปลี่ยนเล่าเคาน์ทรอย เจ้าต่างหากที่จะต้องเป็นคนเปลี่ยน รู้จักทางที่นี่ดีไม่ใช่รึไง เช่นนั้นเจ้าก็รีบไปเปลี่ยนชุดซะสิ รีบๆ ด้วยล่ะเพราะทารีน่าคงจะใกล้ลงมาแล้ว”“ข้าจะไปเปลี่ยนทำไมกัน ในเมื่อชุดนี้ก็เหมาะสมกับข้าอยู่แล้ว..”“นี่เจ้ากล้า..”“ใครจะเปลี่ยนชุดอย่างนั้นหรือคะ? มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”ทารีน่ายกชายกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เดินลงมาจากบันได นางส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ก่อนจะหันไปมองท่านพี่วินเทอร์สลับกันปกติทารีน่าก็งดงามมากอยู่แล้ว วินเทอร์พึ่งรู้ว่านางสามารถงดงามเพิ่มมากขึ้นได้อีก“ไม่มีเลยรินา ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล..”วินเทอร์กล่าวพร้อมกับยื่นมือไปให้ทารีน่าจับ ในขณะที่เธอกำลังจะวางมือลงบนมือของเขา มาไคล์ก
ทารีน่าส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ เธอรู้ดีว่าเกลือในยุคนี้สำคัญมากและรู้อีกด้วยว่าเขาจะเอาบ่อเกลือไปต่อรองกับองค์รัชทายาท เพราะหากประชาชนไม่มีเกลือใช้ จะวิกฤตอย่างแน่นอนแต่โรแกนไม่ได้มีบ่อเกลือเพียงบ่อเดียว การที่เขาจะเอาเรื่องการค้าเกลือไปต่อรองกับองค์รัชทายาทเรื่องนั้นเธอต้องช่วยเมนของตัวเองอยู่แล้ว แต่เธอจะไม่ยอมให้พวกชาวบ้านต้องเดือดร้อนไปด้วยหรอก..ท่านมาไคล์ที่รัก ฉันจะสนับสนุนในทุกแผนการของคุณ แต่จะไม่ยอมให้มีคนมาเดือดร้อนกับแผนการของคุณหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นฉันจะทั้งซับพอร์ตและปกป้องคุณไปในเวลาเดียวกันหากรู้แบบนั้นแล้วก็หลอกใช้ฉันเยอะๆ เลยนะคะที่เขาเข้าหาเธอ มันเดาได้ไม่ยากเลยว่าเขามีจุดประสงค์อะไร แต่ถึงจะรู้เธอก็ยินยอมให้เขาหลอกใช้..เมื่อฮาร์วีเดินเข้ามาในสนามประลองสายตาของเขาก็บังเอิญเห็นสตรีผมสีแดงที่แสนจะโดดเด่น นางกำลังอยู่ข้างๆ ดยุคทารอน สายตาของนางจับจ้องอยู่บนใบหน้าของหมอนั่นด้วยความหลงใหล..สายตาคู่นั้นของทารีน่าไม่มีแม้แต่จะเบนมาทางเขา ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศออกมาแล้วว่าราชวงศ์กำลังเดินทางเข้ามาในสนามประลองไม่ปกติ..“องค์รัชทายาทเพคะ ได้เวลาที่จะย้ายไปนั่งยังที่ประทับ
วินเทอร์หอมแก้มของทารีน่าเบาๆ และการกระทำของเขานั้นมันทำให้ทารีน่ายิ่งนิ่งอึ้งขึ้นมาหนักกว่าเดิม เธอยกมือขึ้นมาถูแก้ม ตรงบริเวณที่พึ่งจะถูกวินเทอร์หอมแก้มมา“ท่านดยุคยังทำได้แล้วเหตุใดข้าจะทำเช่นนี้ไม่ได้”มาไคล์แสยะยิ้มขึ้นมาเมื่อเขาเห็นท่าทีหัวเสียของวินเทอร์ เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้วินเทอร์รู้สึกไม่ดี แต่เขาก็อดรู้สึกสนุกไม่ได้เมื่อวินเทอร์โกรธเดิมทีเคาน์ทรอยนั้นเป็นพวกเก็บสีหน้าเก่ง เขาคิดว่าหมอนี่จะไม่รู้สึกอะไรแต่ผิดคาดแฮะ..“จากนี้ไปจะเริ่มการประลองที่คู่แรก กติกาการประลองคือนำผู้ที่ชนะแข่งขัน มาประลองกันไปเรื่อยๆ จนเหลือคนสุดท้ายก็จะได้ป้ายคำสั่งขององค์จักรพรรดิไปครอบครอง”ป้ายคำสั่งนั้นสามารถเดินทางเข้าออกในพระราชวังและประตูเมืองไหนก็ได้ในจักรวรรดินี้อ่า..รางวัลของผู้ที่ชนะ น่าสนใจเหมือนกัน แต่การประลองจะเริ่มต้นขึ้นแล้วเพราะอย่างนั้นเรื่องโรคกลัวเลือดของเธอ..จะรับมือยังไงดีทารีน่าจึงเบนสายตาเพื่อหันหน้าไปทางอื่น“เจ้าไม่ชอบการต่อสู้อย่างนั้นหรือ ให้ข้าพาลงไปด้านล่างดีไหม?”นี่คงเป็นข้อเสนอที่ดีไม่น้อยเลย ทารีน่ารีบหันไปหาท่านมาไคล์เพื่อจะกล่าวอำลาเขา“ลงไปนั่งรอด้านล่างก็ได
เส้นทางความรักของเขานั้นต่อให้เปื้อนเลือดนิดหน่อยก็คงไม่เป็นไร เพื่อรอยยิ้มของทารีน่าแล้ว เขาจำเป็นต้องทำทุกอย่างแม้จะลงมือสังหารใครไปบ้างก็ไม่เป็นไรหรอกเธอบอกว่าเขาคือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้และตำแหน่งนั้นมันช่างเหมาะสมกับเขามากเหลือเกิน..มาไคล์เลือกที่จะอาบน้ำเพื่อชะล้างรอยเลือดที่ติดอยู่ตามร่างกายให้หมด หลังจากนั้นเมื่อเขามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก็ยังคงมืดครึ้มอยู่ ตอนนี้เป็นเวลาสายมาแล้วและทารีน่ายังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย มุมปากของมาไคล์ยกสูงขึ้นมาเมื่อเขานึกถึงใบหน้ายามเหนื่อยล้าของเธอ เพราะว่าร่างกายของเธอมันหอมหวานมากเกินไป เขาถึงได้กลืนกินจนไม่หลงเหลือสติเช่นนี้มาไคล์เดินไปจุมพิตทารีน่าอีกครั้ง แล้วสวมเสื้อคลุมเพื่อเดินออกไปด้านนอกวันนี้หิมะตกลงมาเบาบางมากเหลือเกิน เหมือนกับว่าอากาศเป็นใจให้เขาได้นำพาเถ้ากระดูกของท่านอาจารย์มาฝังเอาไว้ที่สุสานของตระกูลทารอนบนใบหน้าของมาไคล์ไม่มีร่องรอยความเสียใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาคิดว่าช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ เขาเสียใจมากพอแล้วกับการกระทำที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการสูญเสียท่านอาจารย์ไป เขาร้องไห้มามากจริงๆ แถมยังจมอยู่กับความรู้สึกผิดที่อัดแน่น
ฝ่ามือหนาของมาไคล์บรรจงลูบลงไปที่แผ่นหลังของทารีน่า หัวใจของเขามันเต็มเปี่ยมไปด้วยความอิ่มเอมอาจจะเพราะว่าเขาได้ปรับความเข้าใจกับเธอ หรือไม่ก็เพราะว่าเขาได้กระทำเรื่องบนเตียงหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทารีน่าผลอยหลับไปในอ้อมแขนของเขา เธอยังคงงดงามถึงแม้ว่าดวงตาจะปิดสนิทมาไคล์จุมพิตลงไปบนหน้าผากของเธอก่อนจะค่อยๆ ดึงผ้าห่มขึ้นมาปกคลุมร่างกายของทารีน่าให้อบอุ่นเช่นเดียวกันกับในยามที่เธออยู่ในอ้อมแขนของเขาเขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้เธอตื่นขึ้นมา ที่มุมปากของมาไคล์หยักยิ้มขึ้นมาด้วยความเอ็นดูเหมือนว่าเขาจะหลงเสน่ห์เธออย่างหัวปักหัวปำแล้วล่ะสิ เขาไม่อยากลุกออกจากเตียงในยามนี้เลยให้ตายเถอะเพียงแต่ยังมีเรื่องที่เขาต้องการจัดการให้เสร็จสิ้น มาไคล์เดินลงมายังชั้นใต้ดินของคฤหาสน์ เขาปรายตามองเซอร์เดนิซาที่นั่งพิงกำแพงอยู่ด้านในคุก“เจ้าโชคดีที่ได้ทารีน่าออกหน้าเพื่อช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นในยามนี้ศพของเจ้าคงจะถูกแขวนอยู่ที่ประตูเข้าคฤหาสน์ทารอนไปแล้ว”เดนิซาก้มหน้าลงเพื่อทำความเคารพท่านดยุค“เรื่องการวางเพลิงข้ากระทำเพียงผู้เดียวไม่เกี่ยวกับเลดี้โรแกนเลยครับ ท่านดยุคได
มาไคล์วางทารีน่าลงบนเตียง เพียงแค่เขาดีดนิ้วเบาๆ ประตูและหน้าต่างทั้งหมดก็ปิดลงพร้อมๆ กับม่านหน้าต่างที่ปิดทึบลงมา “ทารีน่าเจ้ากำลังก่อเรื่องอะไร? ..” เธอละสายตาจากใบหน้าของเขาเพื่อหันมองไปทางอื่น “ข้าไม่ได้ก่อเรื่องค่ะ เพราะว่าข้าทำจริงๆ” “เจ้าคิดว่าข้าโง่ขนาดที่มองไม่ออกอย่างนั้นหรือว่านี่มันคือฝีมือของใคร ทำไมถึงปกป้องเซอร์เดนิซา” เขาผลักเธอให้ล้มตัวลงไปบนเตียง เรือนผมสีแดงเพลิงของทารีน่าสยายลงไปบนหมอน มาไคล์จ้องมองความงามล้ำบนใบหน้านั้นด้วยความพึงพอใจก่อนที่เขาจะคล่อมทับร่างของเธอเอาไว้ “เพราะว่าท่านเซอร์เป็นคนดีค่ะ” “เหอะ! เช่นนั้นข้าเป็นคนเลวหรืออย่างไรเจ้าถึงได้ไม่ปกป้องข้าบ้าง” ก็ใช่นะสิ เพราะว่าท่านมาไคล์คือตัวร้าย..แถมยังเป็นคนใจร้ายด้วย!! “ข้าคิดว่าท่านจะร้องไห้เสียใจที่ร่างของสตรีผู้นั้นถูกเผาจนวอดไปหมด..” มาไคล์ไม่ได้ตกใจกับคำกล่าวตัดพ้อของทารีน่าเลย เขาใช้มือฉีกทึ้งชุดเดรสของเธอออกจากร่าง ตามมาด้วยเสื้อซับในตัวบาง “เรื่องของข้ากับท่านอาจารย์มันเกิดขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ที่ข้ายังเด็กมากๆ ข้ารู้สึกกับผิดนางมากกว่า เจ้าเองเถิดทารีน่า..ข้ามั่นใจว่าไม่มีใคร
เมื่อมาไคล์มองเห็นใบหน้าของคนร้ายที่วางเพลิงเผาเรือนหลังเล็กของเขา ที่มุมปากของมาไคล์ก็แสยะยิ้มออกมาอย่างเลือดเย็น เขาดึงดาบที่เอวของทหารออกมาก่อนจะพาดลงไปที่คอของเซอร์เดนิซา“เซอร์เดนิซา เจ้าต้องเป็นคนโง่แบบไหนถึงบุกเข้ามาในคฤหาสน์ของข้าเพื่อทำเรื่องเช่นนี้ได้”เดนิสกำมือแน่น เขาผิดจริงๆ ในเรื่องนี้และเขาในยามนี้ก็กำลังทำใจให้สบายเพื่อพร้อมที่จะตายแล้ว เมื่อสตรีในโลงแก้วผู้นั้นไม่หลงเหลือร่างกาย ดยุคทารอนก็ไม่ต้องใช้เลือดหัวใจของอเดเรียอีก คราวนี้นางจะสามารถมีชีวิตอย่างมีความสุขโดยไร้ซึ่งความหวาดระแวง“ข้าผิดเองครับท่านดยุค การกระทำของข้าในครั้งนี้ข้ายินยอมรับทุกอย่างด้วยความตายที่ท่านจะประทานให้”ทารีน่าเม้มปากแน่น ท่านเซอร์เดนิซานี่..พอมองๆ ไปแล้ว เขาเหมือนกับเธอในตอนแรกเลยแฮะ เพราะว่ารักถึงได้ยินยอมส่งมอบทุกสิ่งทุกอย่างให้ ไม่เสียดายแม้กระทั่งชีวิตของตัวเอง..ความรักเมื่อมีอิทธิพลเหนือสมองแล้ว จะส่งผลทำให้เราหูตามืดบอดแถมยังโง่อีกต่างหาก..“เจ้าตายไปแล้วร่างกายของอาจารย์ข้าที่มอดไหม้ไปแล้วจะกลับคืนมาอย่างนั้นหรือเซอร์ ข้ารู้ว่าเจ้าถูกสั่งมาเพราะอย่างนั้นกล่าวรายนามของผู้ที่สั่งการ
ไม่ว่าจะปลายนิ้วหรือว่าปลายลิ้นที่ลากไล้ผ่านเรือนร่าง ต่างก็ส่งผลให้ตรงจุดนั้นร้อนผ่าวคล้ายจะมีไฟลุกขึ้นมาในทารีน่าช้อนสายตามองใบหน้าที่เธอเคยลุ่มหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้น ดวงตาสีเลือดนั้นทำให้เธอเคยตกหลุมรักเขาซ้ำๆ อย่างไม่อาจหักห้ามหัวใจเธอเทิดทูนบูชาเขาราวกับเป็นเทพเจ้า หลงรักเขาที่มั่นคงในความรักต่อนางเอกของเรื่อง..ทว่าเขาไม่ใช่บุรุษในแบบที่เธอเคยเลยสักนิดแน่นอนว่าใบหน้าของท่านมาไคล์ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิมไม่ผิดเพี๊ยนไปแต่ทว่านิสัยความโลและความไม่มั่นคงของเขามันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดฝ่ามือใหญ่ไล้ไปตามผิวเนื้อเปลือยเปล่าที่สั่นเทาน้อยๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปตามสีข้าง เอว จนถึงระหว่างขา ชุดเดรสที่ทารีน่าสวมใส่พลันถูกเลิกขึ้นมาจนเกือบถึงเอวมาไคล์ไม่สนด้วยซ้ำว่าในยามนี้เรานั่งอยู่ในห้องอาหารที่ไม่ใช้ห้องนอน เขารู้สึกเพียงแค่อยากสัมผัสเธอจนแทบคลั่ง หัวใจของเขามันแทบจะหยุดหายใจเพียงเพราะเธอมองหน้าเขาด้วยสายตาไม่ชอบใจความเจ็บปวดที่ไร้ที่มาพาดผ่านหัวใจไปเงียบๆ ราวกับขนนกที่ปัดผ่าน“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าตัดใจจากข้าไปจนสิ้น..”คำกล่าวของมาไคล์ถูกกลืนลงคอเมื่อเขามองเห็น..ดวงตาที่คลอหน่วยไปด้วยหยดน้ำ
หลังจากที่เพอร์ร่าพูดคุยกับพ่อบ้านเสร็จเรียบร้อย สาวใช้ร่างท้วมก็เดินมาที่หน้าห้องนอนของนายหญิง เธอเคาะประตูเล็กน้อยตามมารยาท แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับเพอร์ร่าจึงเดินเข้าไปด้านในเพราะคิดว่านายหญิงอาจจะกำลังหลับอยู่ เธอจึงไม่ได้เข้าไปด้านในและรอคอยอีกพักใหญ่ๆ ถึงเดินมาเคาะประตูใหม่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับเช่นเคยเมื่อเห็นท่าไม่ดีเพอร์ร่าจึงเปิดประตูเข้าไปในทันที ด้านในห้องนอนของนายหญิงไม่มีร่องรอยของใครเลย“นายหญิงออกมาจากห้องนอนรึเปล่า?”สาวใช้ที่เฝ้าหน้าห้องนอนของนายหญิงส่ายหน้าพร้อมกัน“ข้าทั้งสองไม่เห็นว่ามีใครเข้าหรือว่าออกจากห้องนอนของนายหญิงเลยค่ะคุณหัวหน้าสาวใช้”เพอร์ร่ายกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้ เธอพยายามระงับความตกใจที่เกิดขึ้นเอาไว้ก่อนจะรีบดึงสติของตัวเองกลับมา“ส่งคนไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์และคฤหาสน์ทรอย รายงานว่าท่านทารีน่าหายตัวไป..”แน่นอนว่าเมื่อกาเล็ตได้รับข่าวสารจากสาวใช้ของทารีน่าเขาก็ตรงมาที่คฤหาสน์โรแกนในทันที วันนี้หิมะตกหนักมากกว่าทุกวันอีกทั้งการเดินทางด้วยรถม้านั้นลำบากและกินเวลายิ่งนัก แต่เมื่อเขามาถึงหน้าคฤหาสน์ก็เห็นเคาน์ทรอยยืนรอเขาอยู่ด้วยสภาพเหนื่อยหอบ“ข
เมื่อได้ยินคำกล่าวของทารีน่า มาไคล์ก็ตัวแข็งทื่อไปพักหนึ่ง เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะทำแบบนั้น..ดวงตาที่เบิกกว้างของเขาพลันอ่อนลงก่อนจะเดินเข้าไปหาทารีน่าที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงนั้นช้าๆ มือของเขาสอดรับเข้าไปยังใบหน้าของเธอเพื่อจงใจเชยคางมนให้เงยขึ้นมามองสบตาเขา“ทารีน่า..ข้าไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรเพื่อให้เจ้าเข้าใจ แต่ข้ากับอเดเรีย ข้าไม่ได้รักนาง”ทารีน่าช้อนสายตามองหน้าเขา มือของเธอกำแน่นด้วยความคับแค้นใจ จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม? จะหลอกลวงเธอจนถึงนาทีสุดท้ายเลยใช่ไหม!!“ใครบอกว่าข้าหมายถึงว่าที่พระชายาอเดเรียล่ะคะ ท่านดยุคแห่งทารอน ท่านน่ะมักจะมองข้าว่าข้าคือสตรีที่โง่งมเสมอเลย ท่านดูถูกดูแคลนสายข่าวของโรแกนมากเกินไปแล้ว”ใบหน้าของมาไคล์ซีดเซียวจนไร้สีเลือด เขาขบเม้มริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะใช้ปลายนิ้วไล้ลงไปบนริมฝีปากนุ่มหยุ่นของเธอ“ข้าเสียนางไปไม่ได้ กับเจ้าก็เช่นกัน”“เพี๊ยะ!!”มือของเธอที่พึ่งจะฟาดลงไปบนใบหน้าของเขา มันทำให้มาไคล์รู้สึกชาไปหมดทั้งใบหน้า และท่าทีตกใจของท่านมาไคล์ที่ถูกเธอตบมันยิ่งทำให้ในใจของทารีน่ารู้สึกดียิ่งนัก!!“ข้าไม่ต้องการเป็นสตรีที่สองรองจากใครทั้งนั้น หากว่
ทารีน่ายังคงนอนอยู่บนเตียงพร้อมกับผ้าห่มผืนใหญ่ เธอทอดสายตามองออกไปด้านนอกหน้าต่างก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปยังเตาผิงเมื่อวานหลังจากกลับมาจากพระราชวังเธอก็ใช้เวลาไปกับสมุดบันทึกของอเดเรียทารีน่าคิดว่าอเดเรียตัวจริงน่าจะเป็นผู้จดบันทึกเรื่องราวต่างๆ เอาไว้ ที่น่าตกใจมากๆ ก็คือนางเอกของเรื่องมีพลังในการมองเห็นอนาคต และอนาคตที่อเดเรียมองเห็นมันถูกเขียนเอาไว้ในสมุดบันทึกเล่มนี้หมดแล้วเมื่อทารีน่ามายืนอยู่ที่ด้านหน้าเตาผิง นางก็โยนสมุดบันทึกในมือไปใส่ในกองไฟเธอมั่นใจว่าอเดเรียผู้สวมร่างน่าจะยังไม่ได้อ่านบันทึกนี้จบ ไม่อย่างนั้นนางคงจะไม่ใช้ชีวิตสบายๆ อย่างตอนนี้เป็นแน่เมื่อเพอร์ร่าได้ยินเสียงฝีเท้าที่ด้านใน สาวใช้ก็คิดว่านายหญิงของเธอจะต้องตื่นแล้วเป็นแน่ เธอจึงสั่งให้สาวใช้ด้านนอกยกถาดอาหารเข้ามาด้านใน“สายไปนิดสำหรับมื้อเช้านะคะนายหญิง”ทารีน่ายักไหล่“เพอร์ร่าหิมะตกหนักมากขนาดนี้ เจ้าเองก็ไม่ต้องตื่นเช้าอะไรมากมายนักหรอก”เพอร์ร่าส่งยิ้มให้กับนายหญิงก่อนจะก้มหน้าลง“ทหารในนามของตระกูลโรแกนได้นำผ้าห่มและเสื้อคลุมกันหนาวไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านตามที่นายหญิงสั่งเรียบร้อยแล้วค่ะ”ทารีน่าหยั
ดวงตาของอเดเรียนั้นกำลังสั่นระริก ริมฝีปากคู่สวยขบเม้มคลายเข้าคลายออกซ้ำๆ ด้วยความสับสนเมื่อเธอกลับมายังพระราชวังของตัวเอง นั่นก็คือที่ประทับของพระชายากลับมีบางอย่างหายไปจากหีบไม้ที่เธอเฝ้าระมัดระวังบันทึกของอเดเรียตัวจริงหายตัวไป หายไปไหนกันนะ?ไม่มีทางที่เธอจะหลงลืมเอาไปไว้ที่อื่นเพราะว่าเรื่องนี้เธอระวังมากกว่าเรื่องไหนๆ ในนั้นมีเรื่องราวมากมายที่เธอยังไม่ได้อ่านไปจนถึงหน้าสุดท้ายเลย เพราะการเป็นว่าที่พระชายาทำให้อเดเรียไม่มีเวลาส่วนตัวเลยก็ว่าได้ แถมองค์รัชทายาทก็ตามติดเธอแทบจะตลอดเวลา..สีหน้าของอเดเรียนั้นเคร่งเครียดแสดงถึงความคิดอันยุ่งเหยิงในจิตใจมือของเธอสั่นเทาจนแทบจะหยิบจับอะไรไม่ได้ เธอชั่งใจมากเกินไป เพราะคิดว่าไม่น่าจะมีใครมายุ่งเกี่ยวกับบันทึกนั้น ก็เลยไม่ได้รีบอ่านรีบทำลายมันทิ้งไปไม่ว่าบันทึกนั้นจะอยู่ที่ใคร ความเป็นอยู่ของเธอในยามนี้ก็ล้วนแล้วแต่อันตรายทั้งสิ้นเลย“อเดเรีย..”เธอสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงเรียกที่หน้าต่างละเมื่อหันกลับไปมองก็เห็นเซอร์เดนิซาที่กำลังปีนหน้าต่างเข้ามาหาเธอ เขายังคงส่งยิ้มให้เธอพร้อมกับยกมือขึ้นมาแล้วโอบกอดเอวของเธอเอาไว้ด้วยความรักใ