สิ่งที่ปกคลุมเราเอาไว้คงเป็นความเงียบที่ไร้ที่สิ้นสุด ในใจของทารีน่านั้นอัดแน่นไปด้วยความรักอันมากมายจนแทบจะล้นทะลักออกมา แต่มันกลับพูดออกไปไม่ได้เลย..
เธอบอกเขาได้เพียงแค่เธอนั้นรักเขา แต่เรื่องเหตุผลของการตกหลุมรักนั้น..บอกเขาไม่ได้อย่างเด็ดขาด สายตาของทารีน่าทอดมองใบหน้าที่เย็นชาของเขาซึ่งกำลังเดินถอยออกไปจากในห้องนอนของเธออย่างช้าๆ ประตูห้องถูกปิดลงพร้อมกับมาไคล์ที่เหมือนจะทำตัวไม่ถูก เขาแค่ตกใจเล็กน้อยกับท่าทีการแสดงออกของนาง โรแกนคืออดีตตระกูลอาร์ดดยุค ถึงแม้ว่าพอทารีน่าขึ้นเป็นผู้นำตระกูลแทนพ่อของนาง อำนาจทางการเมืองจะลดถอยลงไปบ้างแต่เรื่องอำนาจในแวดวงสังคม ทารีน่ายังคงกุมมือเอาไว้ในมืออย่างเหนียวแน่น ทุกธุรกิจของโรแกนร่ำรวยมาจากทารีน่าทั้งสิ้น สตรีผู้นี้มิได้มีดีแค่หน้าตาแต่ความสามารถในการทำงานของนาง นับว่าดียิ่งนัก “ข้าไม่คิดว่าท่านดยุคยังสมควรจะอยู่ที่นี่ ในเมื่อเจ้าของคฤหาสน์โรแกนไม่สะดวกออกมาต้อนรับท่านในฐานะแขกของที่นี่แล้ว เช่นนั้นท่านก็ควรจะเดินทางกลับได้แล้ว” ปัญหาเล็กๆ ของทารีน่าคือนางมีคู่หมั้นที่หวังดีกับนางมากกว่าใครอย่างวินเทอร์ “เคาน์ทรอย ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ใช่คู่หมั้นของนางแต่ข้ารับรองได้เลยว่าผู้นำตระกูลโรแกนในยามนี้นางต้องการข้ามากกว่าท่านแน่นอน” ท่าทีมั่นอกมั่นใจของดยุคแห่งทารอนมันชวนให้วินเทอร์รู้สึกหมั่นไส้จนต้องเบือนหน้าหนี “แล้วอย่างไร ครั้งก่อนกับองค์รัชทายาท รินาก็เป็นเช่นนี้แต่แล้วในยามนี้นางก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับองค์รัชทายาทอีกแล้ว จริงอยู่ที่ในยามนี้นางสนใจท่านแต่ระยะเวลาในความสนใจของนาง มันจะนานเท่าไหร่กันเชียว” มาไคล์หัวเราะเสียงดัง เขายกมือขึ้นมาเสยผมสีดำสนิทจนตอนนี้มันไม่เป็นทรงอีกแล้วก่อนจะจ้องมองใบหน้าของวินเทอร์ “นานเท่าไหร่เรื่องนั้นข้าเองก็ไม่ได้สนใจเหมือนกัน เพราะว่าในยามนี้ทารีน่าในมุมมองของข้า นางคงจะเป็นของเล่นแก้เบื่อชิ้นใหม่ของข้าเพียงเท่านั้น แต่เคาน์ทรอยตัวเจ้าเองเถอะควรจะพยายามมากกว่านี้หน่อยเถอะ เพราะขนาดเจ้าอยู่ข้างกายนางมาหลายปีขนาดนี้นางยังไม่สนใจเจ้าเลย..” วินเทอร์คิดว่าการเถียงกับดยุคแห่งทารอนนั้นเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ เขาจึงเปิดประตูเข้าไปด้านในเพื่อจะเข้าไปดูอาการของทารีน่า แต่เมื่อเขาเปิดประตูออกก็พบว่าทารีน่ากำลังยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าของทารีน่าพลันเห่อร้อนขึ้นมาเมื่อนางถูกจับได้ว่ากำลังแอบฟัง อันที่จริงนางไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหนเพียงแค่ดีใจมากไปหน่อยเท่านั้น นางกำลังจะเดินออกไปหาท่านมาไคล์ แต่กลับมาได้ยินบทสนทนาของเขากำลังพูดคุยกับท่านพี่วินเทอร์ จริงอยู่ที่ท่านมาไคล์คือเมนของเธอ จริงอยู่ที่เธอชอบเขาจนแทบบ้า แต่ครั้งนี้เขาทำตัวไม่น่ารักเกินไปหน่อย เพราะเขากล้าพูดทำร้ายจิตใจท่านพี่วินเทอร์ของนาง!! ทารีน่าเดินเข้าไปหาวินเทอร์ก่อนที่เธอจะจับมือของเขาเอาไว้ “ข้าไม่เป็นไรแล้วค่ะท่านพี่ ขอบคุณที่ท่านรีบมาหาข้า..” วินเทอร์ยกมือขึ้นมาเพื่อลูบผมของทารีน่าเบาๆ ด้วยความเอ็นดู เขาแตะฝ่ามือลงไปที่หน้าผากของนางเพื่อทำการวัดไข้ “ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เจ้าพักสักหน่อยเถิดอย่าพึ่งกลับไปทำงานเลย” แบบนั้นไม่ได้สิ เธอพึ่งจะให้พ่อบ้านจัดการเตรียมนักระบำชายเอาไว้ต้อนรับแล้ว จะพักได้ไง.. “เข้าใจแล้วค่ะ ท่านพี่กลับไปทำงานของท่านเถิดไม่ต้องเป็นห่วงข้า” ดวงตาของมาไคล์พลันหรี่ตาลง นี่ทั้งสองคนนั่นกำลังพูดคุยเหมือนมองไม่เห็นเขายังไงอย่างนั้น “ข้าเองก็จะกลับแล้วเหมือนกัน อย่าลืมเรื่องที่ข้านัดหมายเอาไว้ งานวันชาติข้าจะมารับเจ้า..” ทารีน่าเหลือบมองท่านพี่วินเทอร์เล็กน้อย “เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณท่านดยุคที่เลือกข้าเป็นคู่ควงเพียงแต่ท่านพี่วินเทอร์ของข้าเองก็ไม่มีคู่ควงเช่นกัน เราไปพร้อมกันสามคน..” “นี่เป็นโอกาสที่ข้าหยิบยื่นให้เจ้านะทารีน่า ไหนบอกว่ารักและชื่นชอบข้าแล้วเหตุใดยังต้องสนใจพี่ชายของเจ้าอีกล่ะ?” เขาจงใจเน้นย้ำคำว่าพี่ชายเพื่อให้วินเทอร์รับรู้ฐานะของตัวเอง และการเน้นย้ำของมาไคล์มันทำให้วินเทอร์รู้สึกเดือดดาลขึ้นมา “ท่านดยุค..” ทารีน่ารีบเอาตัวไปขวางระหว่างทั้งสองคนเอาไว้ บอกตามตรงว่าเธอกำลังทำตัวไม่ถูก แน่นอนว่าเธออยากจะไปงานวันชาติพร้อมกันกับมาไคล์ แต่เพราะคำสารภาพรักของท่านพี่วินเทอร์เมื่อวันก่อนมันทำให้เธอไม่สามารถทำร้ายจิตใจของเขาได้ดี แถมช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาล้วนทำดีกับเธอมาโดยตลอด ในเมื่อมันเลือกไม่ได้จะไปพร้อมกันสามคนมันผิดตรงไหนกันล่ะ? “ข้าคิดว่าการไปพร้อมกันทั้งสามคนไม่ใช่เรื่องผิด เอาเป็นว่าข้าจะจัดเตรียมชุดที่ใส่คู่กันส่งไปให้ท่านดยุคที่คฤหาสน์ทารอนนะคะ” มาไคล์มองหน้าของทารีน่านิ่งๆ เขาจับปลายผมสีแดงสดของเธอมาจุมพิตลงไปเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มให้เธอ “เอาตามที่เจ้าว่าก็ได้ หวังว่าการสัมผัสในครั้งนี้เจ้าจะไม่เป็นลมไปอีกเพราะหากทำแค่นี้เจ้ายังเป็นลม เวลาที่ทำมากกว่านี้เจ้าจะรับข้าไหวได้อย่างไรกัน” เป็นอีกครั้งที่ทารีน่ารู้สึกเหมือนว่าพื้นที่ตัวเองยืนอยู่นั้นมันกำลังพังทลายลงไป เหมือนร่างกายของเธอร่วงลงไปจากตึกยี่สิบชั้นกระแทกลงที่พื้นด้านล่าง เธอยกมือขึ้นมากุมหัวใจเอาไว้พร้อมกับมองตามแผ่นหลังของเขาไปจนลับสายตา ให้ตายเถอะ เมนของฉันทำไมทำท่าทางแบบไหนก็ดูดีไปซะหมด หัวใจของฉันจะรับไหวได้ยังไงกัน “รินา หากว่ายืนไม่ไหวพี่พาเจ้าไปนั่งในห้องก่อนดีไหม?” วินเทอร์จับจูงมือของเธอเข้าไปในห้องนอน เขาส่งสายตาเพื่อไล่หมอและสาวใช้ออกไปให้หมด อันที่จริงในตอนที่พูดคุยกันกับดยุคทารอน เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูและเขาค่อนข้างมั่นใจว่ามันคือฝีเท้าของทารีน่า เพราะอย่างนั้นเขาจึงได้จงใจพูดจายั่วยุดยุคทารอนออกไป เพื่อให้หมอนั่นพูดเรื่องแย่ๆ ออกมา เขาหวังว่าจะได้เห็นสายตาที่โกรธเคืองของทารีน่าที่มองไปยังท่านดยุค แต่ไม่เลย.. นางไม่แม้แต่จะโกรธหมอนั่น แสดงว่าความรักที่ทารีน่ามีต่อท่านดยุคนั้นเป็นเรื่องจริงสินะ คราวนี้คงไม่ได้เล่นๆ แล้วเพราะดูเหมือนว่านางจะหลงรักดยุคซะเต็มหัวใจ พี่ปล่อยให้เจ้าสนใจเขาขนาดนั้นไม่ได้หรอกทารีน่า..คราวนี้พี่ไม่ยอมอยู่เฉยๆ เพื่อมองเจ้าถูกแย่งชิงไปอีกแล้ววินเทอร์พาทารีน่าไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาว เขานั่งลงข้างๆ เธอก่อนจะยื่นมือไปแตะที่เอวคอดกิ่ว..“ตรงนี้ยังเจ็บอยู่รึเปล่า?”อันที่จริงเธอไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว แต่เมื่อทารีน่าเงยหน้าขึ้นมาเธอก็ต้องตกใจที่ได้มองเห็นใบหน้าของท่านพี่วินเทอร์ในระยะประชิดเช่นนี้ลมหายใจที่อุ่นร้อนของเขาเป่ารดอยู่บริเวณข้างแก้มของเธอ ความใกล้ชิดที่มากเกินไปนี้ทำให้ทารีน่าเผลอถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว แต่ทว่าเมื่อเธอถอยหลังเขากลับยื่นมือมาโอบกอดเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสถอยหนีอ่า..บอกไปแล้วไงว่าเธอเป็นโรคแพ้คนหล่อ แล้วความใกล้ชิดอะไรแบบนี้มันทำใจให้ชินได้ที่ไหนกันเล่า“มะ..ไม่เจ็บแล้วค่ะ”ริมฝีปากของเขาพลันยกสูงขึ้น“แน่ใจว่าไม่เจ็บแล้ว..ให้พี่ดูหน่อยเถิดว่าแผลของเจ้ามันสมานกันดีหรือไม่”จะให้เขาดูได้ยังไงกันเพราะว่าแผลอยู่ที่เอวของเธอ จะให้เขาดูเธอไม่ต้องแก้ผ้าออกก่อนเรอะ!“ไม่เป็นไรค่ะ ข้าหายดีแล้ว”“หายดีแล้ว..เช่นนั้นเราก็ทำเรื่องที่ค้างเอาไว้ได้แล้วสินะ”โอ้พระเจ้า เขาไม่ได้คิดจะดูแผลของเธอตั้งแต่ทีแรก แต่เขาต้องการให้เธอบอกว่าหายดี เพื่อที่เขาจะได้ทำเรื่องต่อจากคราวที่แล้ว เห็นทีว่าเธอจะต้องมองท่านพี่วินเท
บนมุมปากของวินเทอร์หยักยิ้มขึ้นมา เขาก้มหน้าลงไปพรมจูบที่ซอกคอของทารีน่าอีกครั้งนี่เป็นเรื่องยากสำหรับการหักห้ามใจ ทารีน่าในยามนี้เหมือนดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานออกเพื่อเขา..แต่ทว่าในแววตาของเธอมันยังคงมีความกังวลมากมายแฝงอยู่ในนั้นแต่เขาสามารถแน่ใจได้ว่าในแววตานั้นไม่ได้มีความรังเกียจเลยแม้แต่นิดเดียว“การห้ามใจนั้นเป็นเรื่องยาก..รินา เจ้ากำลังทำให้พี่เป็นบ้ารู้ไหม?”ไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก ร่างกายของเธอมันร้อนไปหมดและมันกำลังร่ำร้องอยากหนักว่าเธอต้องการเขา อยากให้เขาสัมผัสมากกว่านั้นไม่ว่าจะส่วนใดของร่างกายก็ตามเพียงแต่ยังไม่ใช่วันนี้“ที่ข้าปฏิเสธไม่ใช่เพราะว่าข้ารังเกียจท่านพี่..”“อ่า..เรื่องนั้นพี่รู้รินา เอาเป็นว่าวันนี้พี่จะพอเท่านี้ก่อน ไว้เจ้าพร้อมมากกว่านี้เราค่อยมาจัดการเรื่องที่ค้างคาวันนี้ให้จบสิ้น”เขาไม่อยากผิดใจกับทารีน่า อันที่จริงเขาจะใช้กำลังและฝืนทำตามความต้องการก็ได้ แต่วินเทอร์ไม่คิดทำแบบนั้นทารีน่าล้ำค่ามากเกินกว่าที่เขาจะกินนางให้หมดในวันเดียว เขาจะค่อยๆ เคี้ยวทั้งเลือดเนื้อและกระดูกของนางลงท้องอย่างช้าๆ เองตอนนี้แค่ต้องทำให้นางสนใจเขาให้มากกว่าดยุคแห่งทารอน ให
ข้าก็ว่าอย่างนั้น ไม่รู้ทำไมทารีน่าถึงได้ชอบผู้ชายแบบฮาร์วีก็ไม่รู้“บอกข้าหน่อยสิว่าเจ้ากำลังชอบใครอยู่ ท่านเคาน์ทรอยใช่รึเปล่า?”แล้วเธอควรจะตอบคำถามนี้ว่ายังไงดี“อ่า..เรื่องนั้นข้ายังบอกเจ้าตอนนี้ไม่ได้ รอให้ความรู้สึกของข้าชัดเจนเมื่อไหร่ ข้าจะบอกเจ้าคนแรกเลย”“ถามแค่นี้ทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะ แสดงว่าไม่ใช่ก็ต้องใกล้เคียงเป็นแน่”“ชะ..ใช่ที่ไหนกันเล่าเรื่องที่อยากรู้ข้าก็ถามเจ้าไปจนหมดแล้ว ข้าไม่รบกวนเวลาของเจ้าแล้ว”โอเรียน่าหัวเราะเบาๆ“แบบนั้นก็ดี ช่วยตามบุรุษหน้าห้องเข้ามาให้ข้าด้วย วันนี้ข้ายินดีจ่ายไม่อั้นให้บุรุษที่รับใช้ข้า”โอเรียน่าเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของทารีน่า สตรีผู้นี้นิสัยนับว่าไม่เลว เพียงแต่นับจากนี้อีกสองปีนางจะถูกส่งไปแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ หลังจากนั้นทางจักรวรรดิจะได้รับร่างอันไร้วิญญาณของนางกลับมาพร้อมกับสัญญาสงบศึกที่ถูกฉีกออกสงครามระหว่างดินแดนกินเวลากว่าสองปีจบลงเพราะอเดเรียนางเอกของเรื่องได้เข้าไปพูดคุยกับองค์จักรพรรดิซึ่งเป็นพี่ชายของนาง..เดิมทีอเดเรียเป็นเด็กที่ถูกท่านลอร์ดคาเรนเก็บมาเลี้ยง คนที่รู้ว่านางคือราชวงศ์ก็คือคาดินันกาเล็ตสงครามยุติลงเพราะส
“ข้าเดินไม่ไหวค่ะ ไม่ใช่ว่าท่านจะต้องอุ้มข้าขึ้นไปอย่างนั้นหรือคะ ที่ข้าเป็นเช่นนี้ก็เพราะท่านจงใจทำร้ายข้าแท้ๆ ..”ได้คืบต้องเอาศอกสิ เธอจะต้องทำให้เขารู้สึกผิดเรื่องที่ทำร้ายเธอให้สาสมเลยคอยดู“เรื่องนั้นข้าไม่ได้ตั้งใจ และข้ายินดีที่จะพาเลดี้ไปรักษาอาการเจ็บปวดเหล่านี้ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์..”เขาไม่พาเธอไปหาหมอแต่กลับพาเธอไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ อย่าบอกนะว่าคนผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตที่จะมาฆ่าเมนของเธอน่ะและเมื่อเขาอุ้มทารีน่าขึ้นมาจากพื้นเธอก็ใช้โอกาสนี้ดึงผ้าคลุมของเขาลงเส้นผมสีเงินยาวสลวยปรากฏขึ้นมาเบื้องหน้าของเธอ แน่นอนแล้ว..ชายผู้นี้คือคาดินันกาเล็ตไม่ผิดแน่!!หรือว่าจะฉวยโอกาสนี้หยิบมีดขึ้นมาแทงทะลุหัวใจของเขาไปให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีไหมนะ เขาจะได้ไม่มาทำร้ายเมนของเธออีก“กำลังคิดหาทางทำร้ายข้าอยู่งั้นหรือ”“...”ในนิยายไม่เห็นบอกว่าเขาอ่านใจได้เลยนี่“ชาที่เลดี้ส่งมาให้ข้าทุกวัน ข้าไม่ได้ดื่มมันเลยเพราะว่าในชานั้นมีพิษอยู่ หากว่าท่านอยากจะสังหารข้าก็คิดแผนการที่มันรัดกุมมากกว่านี้หน่อยเถิด”เดี๋ยวนะ ยัยทารีน่าทำแบบนั้นไปทำไมกัน วางยาคาดินันเนี่ยนะ โง่สิ้นดี“ข้าไม่ได้..”“วาง
“แล้วเจ้ามาบอกกล่าวเรื่องนี้กับข้าทำไมกัน?”เอ้า..ก็เธอไม่อยากให้เขาเกลียดเธอโดยไม่มีเหตุผลอีกไง“เพราะว่าท่านคือคาดินันนี่คะ บางทีท่านอาจจะช่วยข้าเรื่องการสูญเสียความทรงจำได้”“ข้าช่วยเจ้าไม่ได้หรอก แต่ข้ารับปากว่าจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้กับใคร แผลของเจ้า ข้ารักษาเรียบร้อยแล้วรีบสวมชุดสิข้าจะไปส่ง..”ต้องจากกันแล้วงั้นเหรอ?จะว่าไปแผลของเธอมันไม่มีความรู้สึกเจ็บอีกแล้ว ดูเหมือนว่าพลังเวทย์ของเขามันจะใช้ได้ดีมากทีเดียว ทารีน่าก้มหน้าลงไปมองที่แผลของตัวเองเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยจริงอยู่ที่มันไม่มีความเจ็บปวดอยู่แล้วแต่ทว่าเลือดสีดำกำลังไหลออกจากบาดแผล..“ข้าได้ขับเลือดเสียออกมา อีกไม่นานแผลจะหายสนิท..”ปกติแล้วเป็นนักบุญหรือว่านักเวทย์จะต้องรักษาแผลหายแบบหายวับไปจากร่างกายได้เลยนี่ แต่แล้วทำไม..แผลของเธอมันถึงไม่หายวับเหมือนที่เธอเข้าใจล่ะ“เพราะว่าก่อนหน้านี้เจ้าทำนิสัยแย่ๆ พอสมควร การที่ทิ้งบาดแผลนี้เอาไว้เพื่อไม่ให้หายในทันทีถือเป็นการเตือนสติเจ้า..ทารีน่า!!!”เธอล้มลงในอ้อมแขนของเขาอีกครั้งและครั้งนี้ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นลมไปเลย เพียงแค่เพราะมองแผลของตัวเองถึงกับเป็นลมล้มพับไปแบบนี้เ
เธอล้มตัวนอนบนเตียงก่อนจะเหลือบมองเสื้อคลุมสีขาวที่เธอสวมกลับมา ไม่น่าแปลกใจหรอกว่าทำไมเขาถึงได้เกลียดทารีน่าคนเก่ามากขนาดนั้นเพราะสิ่งที่ทารีน่าทำมันคือการบังคับจิตใจ นางชื่นชอบใบหน้าและร่างกายของกาเล็ตเพราะอย่างนั้นนางถึงยอมทำทุกอย่างเพื่อให้เขายินยอมเป็นของเล่นให้นางถึงขนาดวางยาในน้ำชาของเขา และกาเล็ตเหมือนจะได้รับพิษไปเต็มๆ ในครั้งแรก ยาแก้พิษอยู่ที่ทารีน่าและนางจะส่งมอบยาถอนพิษให้เขาก็ต่อเมื่อกาเล็ตยอมนอนกับนาง..บ้าไปแล้ว ยัยนั่นมันเข้าขั้นโรคจิตขั้นสุดเลยนี่หว่า แบบนั้นที่กาเล็ตหลงรักอเดเรียคงเพราะนางเอกมาช่วยเขาเป็นแน่เมื่อรู้เรื่องแบบนี้แล้วเธอจะยังเสนอหน้านี้ไปหาเขาอีกได้ยังไงกัน ละอายใจชะมัดเลยขนาดเธอไม่ได้เป็นคนทำยังอดเสียใจไม่ได้ แล้วไม่รู้ว่ายัยทารีน่าตัวจริงสำนึกบ้างรึเปล่า?ริมฝีปากของเธอเม้มๆ คลายๆ สลับไปมาด้วยความชั่งใจ ก่อนจะค่อยๆ หลับตาลงอย่างช้าๆห้องนอนของเธอยามนี้มีแต่งชุดเดรสมากมายเต็มไปหมดเพื่อจัดเตรียมเอาไว้สำหรับงานในวันพรุ่งนี้ ท่านพ่อบ้านได้จัดการส่งชุดไปที่คฤหาสน์ทารอน และส่งชุดไปที่คฤหาสน์ทรอยของท่านพี่วินเทอร์ด้วยพรุ่งนี้คืองานวันชาติ และงานในวันพรุ
การที่เขาจะต้องมาแต่งกายคล้ายๆ ดยุคแห่งทารอนเป็นเรื่องที่วินเทอร์ไม่ค่อยชอบใจเอาซะเลย“ไม่ใช่เจ้าคนเดียวที่ไม่ชอบใจ คิดว่าข้าชอบแต่งกายคล้ายเจ้ารึไงเคาน์ทรอย”วินเทอร์ยกยิ้มขึ้นมาจางๆ“หากว่าท่านดยุคไม่เต็มใจ โชคดียิ่งนักที่ในคฤหาสน์โรแกนมีชุดออกงานของบุรุษมากมายให้ท่านได้เปลี่ยน ข้าจะให้พ่อบ้านนำทางท่านไป”มาไคล์แสยะยิ้มออกมา“ทำไมข้าจะต้องเป็นคนเปลี่ยนเล่าเคาน์ทรอย เจ้าต่างหากที่จะต้องเป็นคนเปลี่ยน รู้จักทางที่นี่ดีไม่ใช่รึไง เช่นนั้นเจ้าก็รีบไปเปลี่ยนชุดซะสิ รีบๆ ด้วยล่ะเพราะทารีน่าคงจะใกล้ลงมาแล้ว”“ข้าจะไปเปลี่ยนทำไมกัน ในเมื่อชุดนี้ก็เหมาะสมกับข้าอยู่แล้ว..”“นี่เจ้ากล้า..”“ใครจะเปลี่ยนชุดอย่างนั้นหรือคะ? มีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”ทารีน่ายกชายกระโปรงขึ้นมาเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ เดินลงมาจากบันได นางส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ก่อนจะหันไปมองท่านพี่วินเทอร์สลับกันปกติทารีน่าก็งดงามมากอยู่แล้ว วินเทอร์พึ่งรู้ว่านางสามารถงดงามเพิ่มมากขึ้นได้อีก“ไม่มีเลยรินา ไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น เจ้าไม่ต้องเป็นกังวล..”วินเทอร์กล่าวพร้อมกับยื่นมือไปให้ทารีน่าจับ ในขณะที่เธอกำลังจะวางมือลงบนมือของเขา มาไคล์ก
ทารีน่าส่งยิ้มให้กับท่านมาไคล์ เธอรู้ดีว่าเกลือในยุคนี้สำคัญมากและรู้อีกด้วยว่าเขาจะเอาบ่อเกลือไปต่อรองกับองค์รัชทายาท เพราะหากประชาชนไม่มีเกลือใช้ จะวิกฤตอย่างแน่นอนแต่โรแกนไม่ได้มีบ่อเกลือเพียงบ่อเดียว การที่เขาจะเอาเรื่องการค้าเกลือไปต่อรองกับองค์รัชทายาทเรื่องนั้นเธอต้องช่วยเมนของตัวเองอยู่แล้ว แต่เธอจะไม่ยอมให้พวกชาวบ้านต้องเดือดร้อนไปด้วยหรอก..ท่านมาไคล์ที่รัก ฉันจะสนับสนุนในทุกแผนการของคุณ แต่จะไม่ยอมให้มีคนมาเดือดร้อนกับแผนการของคุณหรอกค่ะ เพราะฉะนั้นฉันจะทั้งซับพอร์ตและปกป้องคุณไปในเวลาเดียวกันหากรู้แบบนั้นแล้วก็หลอกใช้ฉันเยอะๆ เลยนะคะที่เขาเข้าหาเธอ มันเดาได้ไม่ยากเลยว่าเขามีจุดประสงค์อะไร แต่ถึงจะรู้เธอก็ยินยอมให้เขาหลอกใช้..เมื่อฮาร์วีเดินเข้ามาในสนามประลองสายตาของเขาก็บังเอิญเห็นสตรีผมสีแดงที่แสนจะโดดเด่น นางกำลังอยู่ข้างๆ ดยุคทารอน สายตาของนางจับจ้องอยู่บนใบหน้าของหมอนั่นด้วยความหลงใหล..สายตาคู่นั้นของทารีน่าไม่มีแม้แต่จะเบนมาทางเขา ถึงแม้ว่าจะมีการประกาศออกมาแล้วว่าราชวงศ์กำลังเดินทางเข้ามาในสนามประลองไม่ปกติ..“องค์รัชทายาทเพคะ ได้เวลาที่จะย้ายไปนั่งยังที่ประทับ
ความวาบหวามแล่นริ้วขึ้นมาทันทีที่ปลายนิ้วของท่านพี่วินเทอร์สัมผัสร่างกาย ทารีน่าช้อนสายตามามองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ผมสีเหลืองทองสว่างถูกปล่อยสยายอย่างไม่ใส่ใจนัก และในยามนี้มันกำลังเปียกลู่ไปตามแผ่นหลังเพราะว่าเราต่างก็นั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำเธอกำลังนั่งอยู่บนร่างกายของท่านกาเล็ต ผมสีเงินของเขาเปล่งประกายเมื่อต้องแสงจันทร์ในยามค่ำคืน เขาถอดแว่นที่ปกติมักจะสวมเอาไว้บนใบหน้าออกไป ทำให้จากใบหน้าที่เคร่งขรึมของคาดินันผู้ปกครองวิหารศักดิ์สิทธิ์ยามนี้หลงเหลือเอาไว้เพียงแค่ใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของบุรุษผู้หนึ่งเท่านั้นเองริมฝีปากของกาเล็ตพรมจูบไปตามแผ่นหลังของทารีน่าเพื่อสร้างร่องรอยของความรักให้หลงเหลือเอาไว้ ส่วนมือทั้งสองข้างของเขากำลังบีบเคล้นเนื้อเนินอวบอิ่มคู่นั้นอย่างไม่ยอมลดละสัมผัสอ่อนนุ่มจากริมฝีปากของท่านกาเล็ตกำลังทำให้เธอหลงมัวเมา ริมฝีปากของเขาทั้งเร่าร้อนและร้ายกาจในคราวเดียวกัน สติของเธอแทบไม่หลงเหลืออยู่แล้วในร่างกายนี้การทำใจให้ชินกับบุรุษที่มีใบหน้าราวกับพระเจ้าทรงปั้นทั้งสองคนนี้ไม่ง่ายเลย และความอ่อนโยนจากสัมผัสของพวกเขาที่ถูกส่งมอบมาให้เธอพร้อมๆ กัน มันยิ่งทำให้ทารีน่า
อุณหภูมิข้างแก้มพลันร้อนผ่าวขึ้นมาเมื่อได้ยินคำกล่าวเช่นนั้นของท่านพี่วินเทอร์ส่วนมือของท่านกาเล็ตก็กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ กางเกงซับในของเธออยู่ทารีน่ารีบยกมือขึ้นมาเพื่อขัดขวางเขาเอาไว้“อ่า!..ขะ..ข้ายังคุยเรื่องสำคัญไม่จบเลยค่ะ”กาเล็ตหัวเราะเบาๆ เขาลุกขึ้นไปนั่งบนเตียงกับทารีน่าพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ“ตามเจตนาของท่านทารีน่าแล้ว ท่านต้องการให้องค์รัชทายาทฮาร์วีลงจากตำแหน่งองค์รัชทายาทที่กำลังดำรงอยู่ มันอาจจะง่ายดายมากขึ้นหากว่าท่านเล็งเห็นถึงผู้ที่จะขึ้นมาเป็นองค์รัชทายาทแทนฮาร์วี เพราะบุคคลผู้นั้นน่าจะยินดียื่นมือเข้ามาช่วยเหลือท่านทารีน่า..”เธอยื่นมือไปจับมือของคาดินันกาเล็ตเอาไว้“ท่านไงคะ ท่านกาเล็ตคือผู้ที่ข้ามองว่าท่านเหมาะสมที่สุดในการขึ้นเป็นองค์รัชทายาทและองค์จักรพรรดิ”กาเล็ตนิ่งอึ้งไปหลายนาที คำกล่าวของทารีน่าทำให้เขาแทบหยุดหายใจ“ท่านทารีน่า ข้าไม่สามารถเป็นองค์จักรพรรดิหรือว่าองค์รัชทายาทได้หรอกครับ ข้าหลบหนีมาก็เพราะว่าข้าไม่ต้องการแย่งชิงอำนาจในพระราชวัง และข้าเองก็คาดหวังอย่างยิ่งว่าลูกชายของข้าจะไม่ต้องแย่งชิงอำนาจจากใครทั้งนั้น” ทารีน่าส่งยิ้มหวานให้เขา มันเป
เดนิซาได้ยินทุกคำกล่าวและมองเห็นในทุกการกระทำที่องค์รัชทายาทฮาร์วีและเลดี้โรแกนกระทำในระเบียงชมวิวที่ชั้นสองของห้องโถงจัดเลี้ยงเขาเดินเข้ามาหาเลดี้โรแกนด้วยหัวใจที่รู้สึกสับสน นางมิได้มีทีท่าว่าจะฆ่าเขาเหมือนกับที่รับปากเอาไว้กับองค์รัชทายาทเลยแม้แต่น้อยทารีน่าในยามนี้กำลังถูมือไปมาบนหน้าผากที่พึ่งจะถูกจุมพิตเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าที่เหยเก“เลดี้โรแกน..”“อ่า ได้ยินแล้วใช่ไหมคะท่านเซอร์ ดูเหมือนว่าองค์รัชทายาทผู้นั้นจะต้องการให้ข้าสังหารท่าน เหตุผลของพระองค์คงจะเป็นการที่ท่านทำตัวเด่นเกินไปในสายตาของว่าที่พระชายาอเดเรีย”ในใจของเดนิซานั้นเกิดคำถามขึ้นมามากมาย เขาทวนคำกล่าวของเลดี้โรแกนซ้ำๆ อีกครั้งในใจตระกูลของเขาภักดีต่อราชวงศ์มาโดยตลอด ชีวิตของเซอร์เดนิซาสามารถยกให้องค์จักรพรรดิก็ยังได้ แต่ทว่าองค์รัชทายาทกลับสั่งให้เลดี้ผู้หนึ่งมาสังหารเขา“แล้วเลดี้..ในยามนี้ต้องการดาบสักเล่มไหมครับ”ทารีน่าหัวเราะเบาๆ หลังจากที่เช็ดหน้าผากจนพอใจ เธอก็มองออกไปที่สวนในยามค่ำคืนของพระราชวัง“ข้าไม่คิดทำตามคำสั่งเขาหรอกค่ะ แต่อย่างน้อยในยามนี้ข้าคิดว่าข้ากำลังจะได้เพื่อนใหม่คนหนึ่งที่มีอุดมการณ์เดี
เมื่องานเลี้ยงล่วงเลยถึงเวลาเที่ยงคืน ทารีน่าที่ดื่มไปประมาณหนึ่งก็เริ่มที่จะยืนไม่ไหว“ข้าขอตัวไปรับลมก่อนนะคะท่านพี่”วินเทอร์จับมือของทารีน่าเอาไว้“ข้าว่าเรากลับกันเลยดีไหม? คาดินันกาเล็ตเองก็น่าจะใกล้เสร็จธุระแล้ว"“ข้า..ขอออกไปรับลมสักพักนะคะ”เธอส่งยิ้มให้กับท่านพี่วินเทอร์ และรอยยิ้มเช่นนั้นของทารีน่ามันหมายความว่านางกำลัง มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ เขาเหลือบมององค์รัชทายาทฮาร์วีที่กำลังพูดคุยอยู่กับขุนนาง ก่อนจะยินยอมปล่อยมือจากทารีน่า“ข้าจะรออยู่ตรงนี้..”“ค่ะ ข้าจะรีบกลับมา”ตั้งแต่ที่เธอเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งนี้ ความรู้สึกแรกของทารีน่ามันบอกว่าองค์รัชทายาทจะต้องหาทางเข้ามาพูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัวอย่างแน่นอน ตามนิสัยของพระเอกในนิยายแล้ว ฮาร์วีเป็นบุรุษที่เจ้าแผนการและชื่นชอบความสมบูรณ์แบบ คนเช่นนั้นย่อมทำให้ตัวเองเป็นที่สนใจและสตรีที่จะสามารถดึงความสนใจของเหล่าชนชั้นสูงมาที่เขาได้ก็คงจะหนีไม่พ้นทารีน่าผู้นี้..เพื่อให้ตัวเองเป็นที่นิยมชมชอบก็เลยเหยียบย่ำสตรีผู้หนึ่งขึ้นไปยังจุดนั้นสินะอ่า..คันมืออยากจะซัดใบหน้านั้นสักครั้งจังโว้ย!! นี่เธอโมโหเหมือนกับว่าเขากำลังหลอกใช้ตัวเ
ตระกูลทารอนเป็นตระกูลผู้ถูกสาปให้ไร้หัวใจ เด็กชายที่เกิดขึ้นมาในตระกูลนี้จะถูกคำสาปครอบงำ การจะได้มาซึ่งพลังอันแข็งแกร่งของซาตาน จะต้องสังหารสตรีอันเป็นที่รักยิ่ง แล้วนำเลือดหัวใจของนางมาเป็นเครื่องสังเวยให้กับซาตานในวันที่มาไคล์อายุสิบเจ็ดปี เขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของตระกูลก็จริง แต่ทว่าท่านพ่อต้องสังหารแม่ของเขาเพื่อให้ตัวเองได้พลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่นั้นมา ทำให้ดยุคคนก่อนของทารอนเลือกที่จะหลบหนีออกไปจากตระกูลทารอนเงียบๆ เพราะเขาไม่อาจทนเห็นลูกชายที่เหมือนภรรยาไปทุกกระเบียดนิ้วอย่างมาไคล์ได้อีกต่อไปอีกทั้งพลังอำนาจที่มีคำกล่าวเล่าขานว่ายิ่งใหญ่นักหนา มันว่างเปล่าไปหมดเลย เมื่อไม่มีภรรยาอยู่ข้างกาย..ดยุคคนเก่าแห่งทารอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย โดยไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ตระกูลทารอนถูกส่งมอบมาให้มาไคล์ และเขามีสตรีที่ผูกพันยิ่งกว่าสตรีใด นั่นก็คือท่านอาจารย์มอนเน่สตรีใบหน้าธรรมดาๆ นางมิได้งดงามจับใจเหมือนกับเลดี้ชนชั้นสูงในจักรวรรดิ แต่ทว่าท่านอาจารย์มอนเน่ก็อยู่เคียงข้างมาไคล์ทุกช่วงเวลาของชีวิต นางพร่ำสอนเขาเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในจักรวรรดิ เรื่องการนำพาทารอนให้กลับไปยิ่งใหญ่ และสอนเรื
ฉันเหนื่อยกับการทำงานมากจนรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองหมดแรงที่จะตื่นขึ้นไปทำงานวัยผู้ใหญ่ที่ฉันคิดเอาไว้มันไม่ใช่แบบนี้เลยนี่หว่า ทำไมเป็นผู้ใหญ่ต้องเหนื่อยขนาดนี้ด้วยฟะ!!เหมือนกับว่าชีวิตจะต้องนอน ตื่นขึ้นไปทำงาน เหนื่อย หมดแรง นอน ตื่นไปทำงาน หมดแรง ร้องไห้...วนลูบแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุดจนวันหยุดฉันได้พบเจอกับนิยายเรื่องหนึ่ง ฉันเคยรู้ว่าการนอนจะทำให้พลังชีวิตของตัวเองกลับมา แต่มันไม่ใช่เลยเพราะเมื่อได้อ่านนิยายเรื่องนั้นมันทำให้ฉันมีแรงต่อสู้กับการทำงานตัวร้ายที่ทำเพื่อพระเอกของเรื่องและนางเอกแทบเป็นแทบตายคนนั้น..ชื่อว่ามาไคล์ท่านมาไคล์ในนิยายเป็นตัวร้ายที่ค่อนข้างน่าสงสาร เขาไม่มีใคร ไม่มีครอบครัว..แถมยังถูกองค์รัชทายาทพระเอกของเรื่องใส่ร้ายอีกต่างหากหลังจากนั้นชีวิตของฉันก็มีเป้าหมาย หลังจากทำงานกลับมาฉันจะมารอคอยคุณนักเขียนอัพนิยายทุกเย็น ก่อนนอนจะตามอ่านเรื่องของท่านมาไคล์ซ้ำๆฉันหวังว่าท่านมาไคล์ในตอนจบจะได้ออกไปจากเรื่องของพระเอกและนางเอก เขาอาจจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลทารอนของเขาหรือไม่ก็ไปอยู่ที่อื่นซะ หนีไปให้ไกลจากสองคนนั่นแต่ตอนสุดท้าย ท่านมาไคล์กลับตายด้วยฝีมือของค
มาไคล์พาตัวเองกลับมาที่คฤหาสน์ทารอน เขาเดินไปที่เรือนเล็กด้านหลังที่ถูกปิดตายเอาไว้เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็พบเจอภาพวาดของสตรีผู้หนึ่ง ปลายนิ้วของมาไคล์แตะลงไปเบาๆ บนภาพวาดนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด“ข้าขอโทษครับท่านอาจารย์ ข้าเผลอลืมเลือนท่านไปชั่วขณะ ข้ากลับมาหาท่านแล้วนะครับ ได้โปรดอย่างโกรธข้าเลย”ด้านหลังภาพวาดขนาดใหญ่นั้นคือร่างกายอันไร้วิญญาณของสตรีผู้หนึ่ง นางมีเรือนผมสีทองสว่างและกำลังนอนนิ่งในโล่งแก้วที่ดูผิวเผินเหมือนกับว่านางยังมีชีวิตอยู่ แต่ทว่านางได้ลาลับจากโลกใบนี้ไปสิบปีแล้วสิบปีที่ยาวนานมากเหลือเกินของมาไคล์ เป็นสิบปีที่เขาเฝ้าพยายามตามหาทุกหนทางที่จะสามารถทำให้สตรีผู้นี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา“อีกไม่นานอเดเรียน่าจะรักฮาร์วีเมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะนำเลือดหัวใจของนางมาฟื้นคืนชีพให้ท่านนะครับ..”..........งานวันที่สองของพระราชวัง ซึ่งเป็นงานวันชาติที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับวีรบุรุษสงครามวันนี้องค์รัชทายาทฮาร์วีเสด็จมาร่วมงานพร้อมๆ กับว่าที่พระชายาอเดเรีย พิธีอภิเษกได้กำหนดวันขึ้นมาแล้วเหลือเพียงรอคอยเวลาเท่านั้น อเดเรียก็จะได้เป็นพระชายาของฮาร์วีเขาจับมือพร้อมกับมองหน้าของอ
องค์หญิงโอเรียน่าค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาเมื่อแสงของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาในห้องนอน เธอปรายตามองไปรอบๆ ก็เห็นเหล่าอนุสามีมากมายที่กำลังนอนอยู่รอบๆ เตียงในสภาพเปลือยเปล่าอ่า..ช่างเป็นเช้าที่แสนสดใสซะจริงและเมื่อโอเรียน่ากำลังจะลุกขึ้นจากเตียงก็มีมือมาคว้าแขนของนางเอาไว้“องค์หญิง..จะไปจากกระหม่อมแล้วอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ”เธอยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมที่นุ่มลื่นของบุรุษผู้นั้นเอาไว้ แม้จะจดจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ใบหน้าของเขานั้นถูกใจเธอยิ่งนัก..“ข้ามีงานที่ต้องทำ ที่ข้าลุกออกจากเตียงไม่ได้หมายความว่าข้าจะทอดทิ้งเจ้าสักหน่อย รอข้าอยู่ที่นี่หลังจากทำงานเสร็จแล้วข้าจะกลับมาหาเจ้า”เธอจุมพิตลงไปบนหน้าผากของเขาเพื่อเป็นการกล่าวอำลา ส่วนอนุคนอื่นๆ ยังไม่ตื่น เพราะแบบนั้นโอเรียน่าถึงได้เดินด้วยฝีเท้าที่แผ่วเบาออกมาจากห้องนอนของตัวเอง“องค์หญิงเพคะ เมื่อวานว่าที่พระชายาเสด็จไปบรรทมที่ห้องขององค์รัชทายาท หม่อมฉันจึงเข้าไปในพระราชวังของว่าที่พระชายาอเดเรีย ไม่มีอะไรน่าสงสัยนอกจากบันทึกเล่มนี้..”สาวใช้ส่งสมุดบันทึกเล่มหนาให้กับโอเรียน่า เธอรับมาถือเอาไว้โดยไม่ได้ปิดดูเนื้อหาด้านในเลยแม้แต่น้อย“นำมันไปมอ
“ข้า..ไม่อยากถูกควบคุมจิตใจอีกแล้วค่ะ”วินเทอร์ยกมือขึ้นมาก่อนที่เขาจะรวบทารีน่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาจุมพิตลงไปบนเรือนผมของเธอเบาๆ“ในอ้อมกอดของข้าจะไม่มีใครหน้าไหนมาทำร้ายเจ้าได้ทั้งนั้น”“แต่ข้าไม่อยากเป็นเพียงผู้ที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ฝ่ายเดียว ข้าอยากจะโต้กลับไปบ้าง..”อีกฝ่ายคือองค์รัชทายาทก็จริง แต่เธอไม่ได้กลัวเขาเลยสักนิดเพราะทารีน่ามั่นใจว่าเธอสามารถโค่นเขาลงมาจากหอคอยสูงชันที่เขากำลังนั่งอยู่ได้“รินา นั่นมันอันตรายมากเลยรู้ไหม ไม่ใช่ว่าข้ากังวลจนเกินเหตุแต่หากว่าเจ้าจะโต้กลับละก็ พี่อยากให้เราวางแผนการอย่างรอบคอบมากกว่านี้”เธอหลับตาลงช้าๆ“ได้ค่ะ ข้าจะคิดอย่างรอบคอบในทุกย่างก้าวที่กำลังเดิน แต่ตอนนี้ท่านพี่ช่วยพาข้าไปหาคนผู้หนึ่งก่อนได้ไหมคะ”วินเทอร์พยักหน้า..ตอนนี้เขากำลังนั่งอยู่ในห้องรับรองของวิหารศักดิ์สิทธิ์และเบื้องหน้าของเขาคือคาดินันกาเล็ต ชายผู้ที่ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้ทุกครั้งที่พบเจอกับดยุคทารอนเขายังไม่รู้สึกด้อยกว่าเท่ากับคาดินันกาเล็ตเลย อาจจะเพราะว่าทารีน่าและท่านกาเล็ตมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากเกินที่เขาเข้าใจ..เมื่อเห็นสีหน้าของท่านพี่วินเทอร์ไม่ค่อยสู้ด