กลิ่นอายความเป็นชายที่อันตรายของเขาแผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง "เธอกล้าขู่ฉันอย่างนั้นเหรอ"ซู่เยียนถูกความกดดันจากความแข็งกร้าวของเขาทำให้แทบจะหายใจไม่ออก พร้อมเอ่ยอย่างกระวนกระวายใจว่า "ขอร้องคุณล่ะ อย่าบังคับใจกันเลย"โม่หนานเจ๋อขมวดคิ้วด้วยแววตาที่เย็นชา นัยน์ตาสีดำลึกลับของเขาเป็นประกายประดุจดวงดาวในมหาสมุทร จ้องมองไปยังใบหน้าของซู่เยียนอย่างเงียบๆผิวของเธอขาวผ่องเป็นยองใย เรียบเนียนเต่งตึง เครื่องหน้างดงามชะมดชะม้อย ใบหน้ารูปไข่เล็กๆ ที่มีความกลมเล็กน้อย ยิ่งทำให้เธอดูอ่อนเยาว์และน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นไปอีกใบหน้านี้ของเธอจัดได้ว่าสวยมาก และยังมีเค้าโครงคล้ายกับไป๋จิ่นชูในวัยเด็กอีกด้วยโม่หนานเจ๋อมองจนตกเข้าไปในภวังค์ จากนั้นก็ค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยและพลางขมวดคิ้วเบาๆ "ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอพยายามทำตัวให้เหมือนกับเธอในวัยเด็ก ไม่แปลกใจที่คุณย่าจะชอบเธอมากขนาดนี้"ท่าทางของเธอในวัยเด็ก?คนที่โม่หนานเจ๋อพูดว่า "เธอ" คือใครกันแน่?ขณะที่ซู่เยียนยังสับสนอยู่นั้น โม่หนานเจ๋อก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งว่า "ตกลง ฉันจะทำตามที่เธอขอ"หลังจากที่เอ่ยประโยคจบ โม่หนานเจ
โม่หนานเจ๋อเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและจริงจังว่า "เมียของโม่หนานเจ๋ออย่างฉันจะนอนบนพื้น ดูถูกใครเหรอ?"ฮอร์โมนชายของเขามีความแข็งแกร่งมากและแฝงไปด้วยความกดดัน ซึ่งทำให้ซู่เยียนรู้สึกหายใจไม่ออกเธอรู้สึกสับสน น้ำเสียงของเธอสั่นเทาด้วยความกังวล "ฉะ... ฉันแค่รู้สึกว่าคุณมีคนที่ชอบในใจอยู่ พวกเรานะ...นอนด้วยกันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร"โม่หนานเจ๋อขมวดคิ้วเบาๆ และยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชา "ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะถอดเสื้อผ้าและเต้นอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันก็ไม่ได้สนใจที่จะเหลือบมองเธอแม้แต่น้อย ยิ่งไม่แตะต้องเธอด้วย"ซู่เยียนรู้สึกถึงการบาดเจ็บ รวมถึงสิ่งที่อ่อนโยนที่สุดในก้นบึ้งของหัวใจเจ็บปวด ทรมานในใจอย่างมากเธออยากจะตอบโต้เขา แต่ลำคอของเธอรู้สึกแสบร้อนจนไม่สามารถพูดออกไปได้ กลัวว่าจะเผยความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองออกมาดวงตางดงามที่ใสแจ๋วของเธอเริ่มมีน้ำตาและกัดริมฝีปากล่างอย่างเงียบๆโม่หนานเจ๋อมองดวงตาที่สวยงามของซู่เยียน วินาทีที่แววตาของเธอเริ่มมีน้ำตานั้น ดูเหมือนว่าเขาถูกสะกดเหมือนถูกเสน่ห์อยู่ครู่หนึ่งเสี้ยววินาทีต่อมา เขาเคลื่อนไหวไปที่ขอบเตียงอย่างว่องไวและสั่งอย่าง
ลูกน้องตอบกลับอย่างเคารพ “รับทราบครับ”โม่หนานเจ๋อถอนหายใจบางเบาอย่างจนปัญญา เขาให้คำสัญญาได้ เพียงแต่“แนวทางการปฏิบัติตามกฎสามี”ของซู่เยียนนี้ ดูแปลกประหลาดมาก——สามวันต่อมาร่างกายซู่เยียนหายดีสมบูรณ์นับตั้งแต่วันที่โม่หนานเจ๋อไปรับนางในใจของเขามา ป่านนี้ก็ยังไม่กลับมา สามวันแล้วที่เธอไม่เจอแม้แต่เงาโม่หนานเจ๋ออารมณ์ของเธอดำดิ่งลงเรื่อยๆ เธอมายังฐานฝึกนี้ ก็เพื่อต้องการเรียนรู้วิชาป้องกันตัวจากเหล่าทหารทั้งหลายที่นี่ในสถานที่ที่ฮอร์โมนของบุรุษเพศพุ่งพล่านดังเช่นที่นี่ เห็นชัดว่าหุ่นอรชรได้รูปของซู่เยียนที่ร่ำเรียนการต่อสู้นั้นมีเสน่ห์ดึงดูดเป็นพิเศษสนามฝึกรายล้อมไปด้วยชายกำยำไม่ไกลนัก ไป๋จิ่นชูเดินตามผู้ช่วยพิเศษเฉิงฮ่าวเข้ามาเธอยู่ปากอย่างไม่สบอารมณ์ “ตั้งสามวันแล้ว ทำไมพี่เจ๋อยังไม่กลับมาอีก?”เฉิงฮ่าว : “นายท่านห้ามีธุระสำคัญต้องจัดการ วันนี้คงกลับมาแล้วครับ”ไป๋จิ่นชูชี้ไปยังซู่เยียนที่กำลังฝึกวิชาป้องกันตัว ดวงตาพลันฉายแววเย็นเยียบทันใด “ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”เฉิงฮ่าว “นายหญิง...”เฉิงฮ่าวยังไม่ทันเอ่ยจบ ไป๋จิ่นชูชิงกลับโวยวายทันใด “ถุย เรียกหล่
ดวงตาโม่หนานเจ๋อฉายแววล้ำลึก ใบหน้าคมคายได้รูป เสียงเย็นเยียบเอ่ยถามเฉิงฮ่าว “นายกำลังสอนเธอ หรือกำลังแกล้งเธอกันแน่?”เฉิงฮ่าวกลืนน้ำลายอย่างเคร่งเครียด “นายท่านห้า ผมกำลังสอนวิชาป้องกันตัวให้นายหญิงครับ”ทุกคนในสนามต่างเหงื่อแตกแทนเฉิงฮ่าวกันถ้วนหน้ามีหรือการกลั่นแกล้งเล็กๆน้อยๆนี้จะรอดพ้นสายตาโม่หนานเจ๋อไปได้เขาดันซู่เยียนไปด้านข้าง “ถอยห่างไปหน่อย”หัวใจซู่เยียนสั่นไหว เต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูกตั้งแต่หัวจรดเท้าโม่หนานเจ๋อไม่แม้แต่มองเธอสักนิด หากแต่การกระทำกลับแสดงออกชัดว่ากำลังปกป้องเธอเธอแอบสงสัยว่า โม่หนานเจ๋อคิดจะทำอะไรกันแน่?โม่หนานเจ๋อค่อยๆถอดนาฬิกาข้อมือออกอย่างเชื่องช้า ท่าทางดูสงบนิ่งเกินคาดเดา “เรามาสู้กันหนึ่งรอบ หากนายชนะก็อยู่ต่อ หากแพ้ก็ไสหัวไปทันที”ฮ่าวเฉิงหวาดผวาจนหน้าถอดสี ละล่ำละลักอธิบายอย่างทำตัวไม่ถูก “นายท่านห้า ผม...ผมสู้คุณไม่ไหว ผมแค่สอนวิชาป้องกันตัวให้คุณหญิงเท่านั้น อย่าไล่ผมออกเลย ของร้องเถอะครับ นายท่านห้า...”โม่หนานเจ๋อหาได้แยแส ถอดนาฬิกาข้อมือส่งให้ซู่เยียนซู่เยียนรับนาฬิกาของเขามา พร้อมอาการใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างน่าประหลาดเฉิงฮ
ซู่เยียนยกมือขึ้นปราม ยั้งให้เขาหยุดพูดต่อ “พอแล้วล่ะ คุณไม่ต้องออกไปหรอก”เธอไม่ได้เป็นผู้หญิงใจไม้ไส้ระกำ ไม่ถึงขั้นปล่อยให้คนที่รักในงานต้องตกงานเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้อยู่แล้วเฉิงฮ่าวเงยหน้ามองด้วยความดีใจ ตื่นเต้นยินดีเกินบรรยาย “ขอบพระคุณนายหญิง นายหญิงช่างใจกว้าง เมตตาอารีย์ผู้คน กระผมเฉิงฮ่าวซาบซึ้งในบุญคุณจริงๆ จากนี้หากนายหญิงมีธุระอะไรโปรดสั่งการมา ผมจะคอยปรนนิบัติรับใช้ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ก็ไม่มีทางปฏิเสธครับ”ซู่เยียนจิตใจสับสน ยื่นนาฬิกาข้อมือให้เฉิงฮ่าวอย่างใจลอย “คุณไม่จำเป็นต้องบุกน้ำลุยไปหรอก ช่วยฉันเอานาฬิกาข้อมมือนี้ไปให้โม่หนานเจ๋อก็พอ”“ได้ครับ” เฉิงฮ่าวรับนาฬิกาข้อมือมาซู่เยียนถามอีกครั้ง “แถวนี้มีสถานีรถไฟหรือสนามบินไหม?”เฉิงฮ่าวตื่นตกใจ “นายหญิง จะไปแล้วหรือ?”ซู่เยียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้มขมขื่นแม้แต่วินาทีเดียวเธอก็ไม่อยากอยู่ที่นี่ ดูสามีของตนแสดงความรักออกหน้าออกตากับหญิงอื่นอีกต่อไปเธอไม่อยากทำร้ายตัวเองกลับไปอธิบายให้คุณย่าฟังดีๆ แล้วรีบจบการแต่งงานเฮงซวยนี่สักทีเฉินฮ่าวลังเลครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ย "นายหญิง พรุ่งนี้ผมจะยื่นเรื่องขอลาหย
อาคารวิจัยหมายเลข5คนมากมายปิดจมูกวิ่งออกมาอย่างต่อเนื่องเจ้าหน้าที่ที่โดนพิษมากมายต่างเกิดการอาเจียน บางคนเวียนหัวจนนอนหงายบนพื้นสถานการณ์ตอนนี้ชุลมุนวุ่นวาย หมอและพยาบาลของค่ายต่างวิ่งเข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็วซู่เยียนวิ่งเหนื่อยหอบเข้ามาถึงเหตุการณ์ ในใจเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของโม่หนานเจ๋อ สายตาสอดส่องหาทั่วสารทิศหากแต่ เธอกลับเห็นโม่หนานเจ๋ออุ้มไป๋จิ่นชูวิ่งออกจากอาคารหมายเลขห้าอย่างรวดเร็ว ก่อนวางไว้บนเตียงปฐมพยาบาลซู่เยียนรู้สึกตัวเองน่าขำเหลือเกินในสายตาแลหัวใจเธอมีแต่ผู้ชายคนนี้ แต่ในสายตาผู้ชายคนนี้กลับมีเพียงไป๋จิ่นชูโม่หนานเจ๋อส่งไป๋จิ่นชูให้หมด ก่อนหันหลังหมายเข้าไปช่วยคนอื่นต่อไป๋จิ่นชูรั้งแขนโม่หนานเจ๋อเอาไว้ ร้องห่มร้องไห้ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "พี่เจ๋อ อย่าไป ฉันรู้สึกไม่ดีมากๆ อยากอ้วก...""เด็กดี" โม่หนานเจ๋อเอ่ยเสียงอ่อนโยน "ไม่เป็นไรนะ หมออยู่ที่นี่แล้ว"ไป๋จิ่นชูส่ายหน้า บอกให้น้ำตามาก็มา ร้องไห้สะอึกสะอื้น "พี่อย่าไปนะ ฉันทรมานมาก จะตายอยู่แล้ว พี่เจ๋อ ฉันจะตายแล้วจริงๆ"เวลานั้นโหลวชิงเข้ามารายงาน "นายท่านห้า คนข้างในกระจายตัวออกมาหมดแล้ว มี
หรือว่า เขาสืบเรื่องของผู้หญิงคนนี้พลาดไป?มีเพียงศาสตราจารย์หลิงเท่านั้นที่เข้าใจกระจ่าง ราวกับว่าเพิ่งค้นพบสมบัติล้ำค่า รีบถามไถ่ด้วยความตื่นเต้นระคนถ่อมตน "นายหญิง คุณเคยเรียนสาขาเคมีมาเหรอ?"ดวงตากลมโตของซู่เยียนใสแจ๋ว ตอนนี้สมองของเธอขาวโพลน เธอส่ายหน้าตอบกลับเสียงอ่อน "ลืมไปแล้วล่ะ""ลืมแล้ว?" ศาสตราจารย์หลิวประหลาดใจ "งั้นคุณรู้เรื่องสารเหลวชิงหลีกับธาตุรีเนียมได้ยังไง? ไหนจะรู้ว่าต้องแก้พิษยังไงด้วย"ซู่เยียนครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยหน้าตาเฉย "ก็เหมือนกับการทำอาหารต้องเติมเกลือ การตกปลาต้องใส่เหยื่อล่อ ความรู้ทั่วไปก็เท่านั้น"คำว่าความรู้ทั่วไปก็เท่านั้น ทำเอาศาสตราจารย์หลิวนับถือชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง ยกย่องขึ้นหิ้งเลยทีเดียวไม่ไกลนัก เฉิงฮ่าวและโหลวชิงพาลูกน้องบางส่วนมา แยกกันป้อนน้ำด่างกินได้ให้เหล่าผู้ถูกพิษไม่นาน อาการอ้วกรุนแรงและปวดท้องของทุกคนก็หายไป แม้ยังเหลืออาการวิงเวียนอยู่บ้าง แต่เห็นผลลัพทธ์ได้ทันทีโหลวชิงถือน้ำด่างมาตรงหน้าโม่หนานเจ๋อ ยื่นให้เขาด้วยความเคารพ "นายท่านห้า สิ่งนี้ได้ผลมาก ให้คุณหนูไป๋ดื่มเถอะครับ"ไป๋จิ่นชูขบฟันกราม โกรธเกรี้ยวที่ปล่อยให
กลางดึกเงียบสงัดซู่เยียนอาบน้ำเสร็จ ก็มานั่งบนเก้าอี้หวายตรงระเบียง ดูข้อความในโทรศัพท์ที่เธอเคยทำหายไปแล้วได้คืนมาพี่หู่ที่จับเธอไว้เป็นตัวประกันถูกยิงตายคาที่ ผู้บาดเจ็บของสวนเทคโนโลยีได้รับการช่วยเหลือออกมา คนร้ายที่สมรู้ร่วมคิดเหล่านั้นก็โดนทีมของโม่หนานเจ๋อจับกุม ก่อนส่งตัวให้ทางตำรวจกระเป๋าและโทรศัพท์ของเธอกลับมาแล้ว แต่น่าเสียดายเงินเก็บตลอดสามปีของเธอ ถูกพี่ชายเอาไปหมดแล้วตัวเธอในตอนนี้ นอกจากโทรศัพท์เครื่องนี้ ก็ไม่เหลือเงินแม้แต่แดงเดียวปีนั้น หลังจากเธอสูญเสียความทรงจำ ได้เจอกับคุณนายผู้เฒ่า คุณหญิงเจอเธอครั้งแรกก็ดวงสมพงษ์ จะเอาเธอมาอยู่ด้วยให้ได้เธอจึงเป็นผู้ดูแลส่วนตัวให้คุณนายผู้เฒ่ามาตลอดสามปีเธอไม่มีเพื่อน ญาติพี่น้องก็นำพาแต่ความโชคร้ายและหายนะมาให้เธอ ตอนนี้ชีวิตอัตคัดขัดสน แต่กลับไม่รู้ว่าจะขอยืมเงินใครได้บ้างขณะซู่เยียนตกอยู่ในภวังค์ความคิด ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูพลันดังขึ้นเธอดึงสติกลับมา หันมองประตูทางเข้าแผ่นหลังกำยำของโม่หนานเจ๋อแทรกเข้ามาในสายตาเธอ ฝ่ายชายกำลังปิดประตูชั่วเวลานั้น หัวใจของเธอกลับสั่นไหวอย่างน่าประหลาดอีกครั้งเธอรีบดึงสา