ณ ชายแดนของเป่ยกว๋อซู่เยียนคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าเธอจะถูกพี่ชายแท้ๆ ขายใช้หนี้การพนันในราคาห้าแสนในสวนเทคโนโลยีที่มืดมนแห่งนี้ การฉ้อโกงทางโทรศัพท์ การซื้อขายมนุษย์ การซื้อขายอวัยวะ การทรมานและการฆ่า ล้วนแต่เห็นชีวิตมนุษย์เป็นเหมือนผักปลาหน้าตาเธอค่อนข้างสะสวย จึงถูกพวกอาชญากรบังคับให้รับแขกขายตัวแต่เพราะเธอยอมตายก็ไม่ยอมทำตาม ขัดขืนสู้สุดชีวิต จึงถูกทุบตีอย่างหนัก เสื้อผ้าถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ร่างกายล้วนเต็มไปด้วยบาดแผลซู่เยียนทั้งเจ็บปวดและหวาดกลัว ในขณะที่สิ้นหวังนั้นก็นึกถึงโม่หนานเจ๋อ ผู้เป็นสามีของเธอ"ฉันขอร้อง พวกคุณอย่าแตะต้องฉันเลย ฉันสามารถให้สามีของฉันส่งเงินให้พวกคุณได้... เท่าไหร่ก็ได้... ขอร้องพวกคุณล่ะ..." เธอสะอึกสะอื้นและขอร้อง พยายามดิ้นรนครั้งสุดท้ายการรีดไถเงินเป็นหนึ่งในธุรกิจของพวกเขาพี่เสือที่เป็นหัวหน้าดีใจจนออกนอกหน้า ตะโกนให้ลูกน้องที่กำลังลงมือกับซู่เยียนให้หยุด แล้วรีบหยิบโทรศัพท์โทรหาซู่เยียน "ให้สามีเธอเอาเงินหนึ่งร้อยล้านมา ถ้าขาดเงินไปแม้แต่แดงเดียว เธอต้องปรนนิบัติรับใช้พี่น้องทุกคนที่นี่ ใช้ร่างกายของเธอรับแขกหาเงิน"ซู่เยียนฟังจนขนลุก ในใจหวาด
ต่อสู้ผ่านสมรภูมิเลือดเพื่อปกป้องประเทศชาติจากผู้รุกราน โดยไม่เกรงกลัวใดๆพี่หู่คิดในใจว่า โม่หนานเจ๋อเป็นทหารราชันย์ที่เคยเข้าร่วมสงครามภายในตะวันออกกลาง เป็นวีรบุรุษผู้กอบกู้ชาติบ้านเมือง อีกทั้งยังเป็นผู้ที่ฝ่าฟันออกจากสงครามที่โหดร้ายที่สุดแต่หญิงสาวที่อ่อนโยนตรงหน้าคนนี้ จะเป็นภรรยาของโม่หนานเจ๋อได้อย่างไร?เขาปลอบโยนด้วยความไม่ใส่ใจว่า "วางใจได้เลย โม่หนานเจ๋อเป็นถึงใครกัน? เขามีอำนาจล้นฟ้า แค่ชื่อของเขาก็ทำให้คนกลัวจนตัวสั่นแล้ว ใครจะกล้าเอาภรรยาของเขามาขาย? เท่าที่ฉันรู้ โม่หนานเจ๋อยังไม่ได้แต่งงานเลย คงเป็นแค่คนชื่อเหมือนกัน ติดต่อสามีของเธอต่อไปเถอะ ให้เขาเอาเงินยี่สิบล้านมาไถ่ตัวเธอ"พวกผู้ชายเหล่านั้นจึงติดต่อโม่หนานเจ๋อต่อไปซู่เยียนรู้สึกหมดหวัง เธอนั่งทรุดตัวลงที่มุมห้อง หลับตาด้วยความสิ้นหวังไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ทั้งพื้นดินรู้สึกสั่นสะเทือน"ปั้ง!" เสียงระเบิดทำให้ตัวเธอรู้สึกสะเทือนซู่เยียนสะดุ้งและลืมตาขึ้นพวกผู้ชายในห้องที่กำลังเล่นไพ่รอค่าไถ่ต่างตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อลูกน้องที่อยู่ข้างนอกตะโกนเข้ามาด้วยความหวาดกลัว
พี่หู่ตกใจจนตัวสั่นระริก พร้อมพลางขู่ด้วยความโกรธว่า "ถ้าอย่างนั้นผมจะตายพร้อมกับเมียของคุณ"โม่หนานเจ๋อเด็ดขาดในเรื่องการฆ่าเสมอมา เขาไม่เคยถูกข่มขู่ นัยน์ตาของเขาแฝงไปด้วยความเย็นชาทันใดนั้น เสียงปืนเจ็ดนัดที่น่ากลัวก็ดังสนั่นในโสตประสาทหูของซู่เยียนซู่เยียนตัวสั่นอย่างรุนแรง ร่างกายเกร็งแน่นเหมือนการแข็งตัวของเลือด พร้อมกับหลับตาปี๋โดยไม่ขยับเขยื้อนการฆ่าที่โหดร้าย เลือดสาดกระเซ็นไปบนใบหน้าที่ซีดขาวของเธอเสี้ยววินาทีนั้น อัตลักษณ์การเป็นภรรยาของโม่หนานเจ๋อของเธอนี้เป็นเรื่องตลกและน่าเยาะเย้ยที่สุดคนที่โม่หนานเจ๋อช่วยไม่ใช่เธอ หากแต่เป็นผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกคุมขังอยู่ในสวนเทคโนโลยีหลายพันคนฆ่าเธอโดยไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?ร่างกายที่อ่อนแอของซู่เยียนไม่สามารถทนต่อความหวาดกลัวนี้ได้ เธอจึงล้มลงด้วยความเศร้าที่เจ็บปวดจนสุดหัวใจและหมดสติไป......สำนักงานใหญ่ของสงครามทหารกรุ๊ปฐานการผลิตอาวุธที่ใหญ่ที่สุดในเป่ยกว๋อ โรงงานผลิตอาวุธของรัฐที่มีป้อมปราการคุ้มกันแน่นหนา"ไม่เอา"ซู่เยียนตื่นจากฝันร้าย ลืมตาขึ้นอย่างแรงพร้อมกับเหงื่อที่ไหลชุ่มกายเธอหายใจติดขัดและหายใ
สายตาของโม่หนานเจ๋อเย็นยะเยือก สงบนิ่งแต่กลับเย็นชา "หมายความว่าอย่างไร?"สายตาที่แน่วแน่ของซู่เยียนจ้องมองเขา "เราหย่ากันเถอะ"เธอชอบผู้ชายคนนี้มาสามปี และแค่อยากได้ชีวิตคู่ที่บริสุทธิ์ก็เท่านั้นในเมื่อตอนนี้ ชีวิตคู่ไม่บริสุทธิ์อีกต่อไป เธอเองก็ไม่อยากฝืนและไม่ต้องการประนีประนอมอีกนัยน์ตาของโม่หนานเจ๋อดำสนิท สีหน้าของเขาดูเคร่งเครียดผู้ช่วยพิเศษโหลวชิงที่ยืนอยู่ด้านหลัง พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ "ซู่เยียน อายุ 25 ปี มาจากเมืองเฟิ่งของเป่ยกว๋อ พ่อของเธอเป็นนักดื่มสุราและมีประวัติใช้ความรุนแรงในครอบครัว แม่และพี่ชายของเธอเป็นนักพนัน อีกทั้งติดหนี้ก้อนใหญ่"ซู่เยียนตกใจและมองไปที่โหลวชิงโหลวชิงพูดต่ออย่างไม่เกรงใจ "เธอลาออกจากโรงเรียนตอนมัธยมสาม ถูกหลอกโดยเพื่อนชายออนไลน์และทำงานเป็นโฮสเตสที่ KTV มาหลายปี ตอนอายุยี่สิบปีได้แต่งงานกับชายอายุแปดสิบปีที่ต่างประเทศ จากนั้นเวลาไม่ถึงสองปีก็กลายเป็นหม้าย โดยไม่ได้รับมรดกแม้แต่บาทเดียว""เธอมีการศึกษาสูงสุดแค่ระดับประถม อีกทั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ไม่ประสบความสำเร็จ เธอมีพฤติกรรมผิดศีลธรรม เคยถูกจับในข้อหาเป็นโสเภณี 2 ครั้ง ทำศั
กลิ่นอายความเป็นชายที่อันตรายของเขาแผ่ซ่านออกมาอย่างรุนแรง "เธอกล้าขู่ฉันอย่างนั้นเหรอ"ซู่เยียนถูกความกดดันจากความแข็งกร้าวของเขาทำให้แทบจะหายใจไม่ออก พร้อมเอ่ยอย่างกระวนกระวายใจว่า "ขอร้องคุณล่ะ อย่าบังคับใจกันเลย"โม่หนานเจ๋อขมวดคิ้วด้วยแววตาที่เย็นชา นัยน์ตาสีดำลึกลับของเขาเป็นประกายประดุจดวงดาวในมหาสมุทร จ้องมองไปยังใบหน้าของซู่เยียนอย่างเงียบๆผิวของเธอขาวผ่องเป็นยองใย เรียบเนียนเต่งตึง เครื่องหน้างดงามชะมดชะม้อย ใบหน้ารูปไข่เล็กๆ ที่มีความกลมเล็กน้อย ยิ่งทำให้เธอดูอ่อนเยาว์และน่ารักอย่างเป็นธรรมชาติขึ้นไปอีกใบหน้านี้ของเธอจัดได้ว่าสวยมาก และยังมีเค้าโครงคล้ายกับไป๋จิ่นชูในวัยเด็กอีกด้วยโม่หนานเจ๋อมองจนตกเข้าไปในภวังค์ จากนั้นก็ค่อยๆ เผยรอยยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยและพลางขมวดคิ้วเบาๆ "ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเธอพยายามทำตัวให้เหมือนกับเธอในวัยเด็ก ไม่แปลกใจที่คุณย่าจะชอบเธอมากขนาดนี้"ท่าทางของเธอในวัยเด็ก?คนที่โม่หนานเจ๋อพูดว่า "เธอ" คือใครกันแน่?ขณะที่ซู่เยียนยังสับสนอยู่นั้น โม่หนานเจ๋อก็ตอบด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งว่า "ตกลง ฉันจะทำตามที่เธอขอ"หลังจากที่เอ่ยประโยคจบ โม่หนานเจ
โม่หนานเจ๋อเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและจริงจังว่า "เมียของโม่หนานเจ๋ออย่างฉันจะนอนบนพื้น ดูถูกใครเหรอ?"ฮอร์โมนชายของเขามีความแข็งแกร่งมากและแฝงไปด้วยความกดดัน ซึ่งทำให้ซู่เยียนรู้สึกหายใจไม่ออกเธอรู้สึกสับสน น้ำเสียงของเธอสั่นเทาด้วยความกังวล "ฉะ... ฉันแค่รู้สึกว่าคุณมีคนที่ชอบในใจอยู่ พวกเรานะ...นอนด้วยกันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไร"โม่หนานเจ๋อขมวดคิ้วเบาๆ และยิ้มที่มุมปากอย่างเย็นชา "ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเธอ ถึงแม้ว่าเธอจะถอดเสื้อผ้าและเต้นอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันก็ไม่ได้สนใจที่จะเหลือบมองเธอแม้แต่น้อย ยิ่งไม่แตะต้องเธอด้วย"ซู่เยียนรู้สึกถึงการบาดเจ็บ รวมถึงสิ่งที่อ่อนโยนที่สุดในก้นบึ้งของหัวใจเจ็บปวด ทรมานในใจอย่างมากเธออยากจะตอบโต้เขา แต่ลำคอของเธอรู้สึกแสบร้อนจนไม่สามารถพูดออกไปได้ กลัวว่าจะเผยความรู้สึกเจ็บปวดของตัวเองออกมาดวงตางดงามที่ใสแจ๋วของเธอเริ่มมีน้ำตาและกัดริมฝีปากล่างอย่างเงียบๆโม่หนานเจ๋อมองดวงตาที่สวยงามของซู่เยียน วินาทีที่แววตาของเธอเริ่มมีน้ำตานั้น ดูเหมือนว่าเขาถูกสะกดเหมือนถูกเสน่ห์อยู่ครู่หนึ่งเสี้ยววินาทีต่อมา เขาเคลื่อนไหวไปที่ขอบเตียงอย่างว่องไวและสั่งอย่าง
ลูกน้องตอบกลับอย่างเคารพ “รับทราบครับ”โม่หนานเจ๋อถอนหายใจบางเบาอย่างจนปัญญา เขาให้คำสัญญาได้ เพียงแต่“แนวทางการปฏิบัติตามกฎสามี”ของซู่เยียนนี้ ดูแปลกประหลาดมาก——สามวันต่อมาร่างกายซู่เยียนหายดีสมบูรณ์นับตั้งแต่วันที่โม่หนานเจ๋อไปรับนางในใจของเขามา ป่านนี้ก็ยังไม่กลับมา สามวันแล้วที่เธอไม่เจอแม้แต่เงาโม่หนานเจ๋ออารมณ์ของเธอดำดิ่งลงเรื่อยๆ เธอมายังฐานฝึกนี้ ก็เพื่อต้องการเรียนรู้วิชาป้องกันตัวจากเหล่าทหารทั้งหลายที่นี่ในสถานที่ที่ฮอร์โมนของบุรุษเพศพุ่งพล่านดังเช่นที่นี่ เห็นชัดว่าหุ่นอรชรได้รูปของซู่เยียนที่ร่ำเรียนการต่อสู้นั้นมีเสน่ห์ดึงดูดเป็นพิเศษสนามฝึกรายล้อมไปด้วยชายกำยำไม่ไกลนัก ไป๋จิ่นชูเดินตามผู้ช่วยพิเศษเฉิงฮ่าวเข้ามาเธอยู่ปากอย่างไม่สบอารมณ์ “ตั้งสามวันแล้ว ทำไมพี่เจ๋อยังไม่กลับมาอีก?”เฉิงฮ่าว : “นายท่านห้ามีธุระสำคัญต้องจัดการ วันนี้คงกลับมาแล้วครับ”ไป๋จิ่นชูชี้ไปยังซู่เยียนที่กำลังฝึกวิชาป้องกันตัว ดวงตาพลันฉายแววเย็นเยียบทันใด “ผู้หญิงคนนี้มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”เฉิงฮ่าว “นายหญิง...”เฉิงฮ่าวยังไม่ทันเอ่ยจบ ไป๋จิ่นชูชิงกลับโวยวายทันใด “ถุย เรียกหล่
ดวงตาโม่หนานเจ๋อฉายแววล้ำลึก ใบหน้าคมคายได้รูป เสียงเย็นเยียบเอ่ยถามเฉิงฮ่าว “นายกำลังสอนเธอ หรือกำลังแกล้งเธอกันแน่?”เฉิงฮ่าวกลืนน้ำลายอย่างเคร่งเครียด “นายท่านห้า ผมกำลังสอนวิชาป้องกันตัวให้นายหญิงครับ”ทุกคนในสนามต่างเหงื่อแตกแทนเฉิงฮ่าวกันถ้วนหน้ามีหรือการกลั่นแกล้งเล็กๆน้อยๆนี้จะรอดพ้นสายตาโม่หนานเจ๋อไปได้เขาดันซู่เยียนไปด้านข้าง “ถอยห่างไปหน่อย”หัวใจซู่เยียนสั่นไหว เต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูกตั้งแต่หัวจรดเท้าโม่หนานเจ๋อไม่แม้แต่มองเธอสักนิด หากแต่การกระทำกลับแสดงออกชัดว่ากำลังปกป้องเธอเธอแอบสงสัยว่า โม่หนานเจ๋อคิดจะทำอะไรกันแน่?โม่หนานเจ๋อค่อยๆถอดนาฬิกาข้อมือออกอย่างเชื่องช้า ท่าทางดูสงบนิ่งเกินคาดเดา “เรามาสู้กันหนึ่งรอบ หากนายชนะก็อยู่ต่อ หากแพ้ก็ไสหัวไปทันที”ฮ่าวเฉิงหวาดผวาจนหน้าถอดสี ละล่ำละลักอธิบายอย่างทำตัวไม่ถูก “นายท่านห้า ผม...ผมสู้คุณไม่ไหว ผมแค่สอนวิชาป้องกันตัวให้คุณหญิงเท่านั้น อย่าไล่ผมออกเลย ของร้องเถอะครับ นายท่านห้า...”โม่หนานเจ๋อหาได้แยแส ถอดนาฬิกาข้อมือส่งให้ซู่เยียนซู่เยียนรับนาฬิกาของเขามา พร้อมอาการใจเต้นไม่เป็นจังหวะอย่างน่าประหลาดเฉิงฮ