Share

บทที่ 10

อาคารวิจัยหมายเลข5

คนมากมายปิดจมูกวิ่งออกมาอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ที่โดนพิษมากมายต่างเกิดการอาเจียน บางคนเวียนหัวจนนอนหงายบนพื้น

สถานการณ์ตอนนี้ชุลมุนวุ่นวาย หมอและพยาบาลของค่ายต่างวิ่งเข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว

ซู่เยียนวิ่งเหนื่อยหอบเข้ามาถึงเหตุการณ์ ในใจเป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของโม่หนานเจ๋อ สายตาสอดส่องหาทั่วสารทิศ

หากแต่ เธอกลับเห็นโม่หนานเจ๋ออุ้มไป๋จิ่นชูวิ่งออกจากอาคารหมายเลขห้าอย่างรวดเร็ว ก่อนวางไว้บนเตียงปฐมพยาบาล

ซู่เยียนรู้สึกตัวเองน่าขำเหลือเกิน

ในสายตาแลหัวใจเธอมีแต่ผู้ชายคนนี้ แต่ในสายตาผู้ชายคนนี้กลับมีเพียงไป๋จิ่นชู

โม่หนานเจ๋อส่งไป๋จิ่นชูให้หมด ก่อนหันหลังหมายเข้าไปช่วยคนอื่นต่อ

ไป๋จิ่นชูรั้งแขนโม่หนานเจ๋อเอาไว้ ร้องห่มร้องไห้ด้วยน้ำเสียงออดอ้อน "พี่เจ๋อ อย่าไป ฉันรู้สึกไม่ดีมากๆ อยากอ้วก..."

"เด็กดี" โม่หนานเจ๋อเอ่ยเสียงอ่อนโยน "ไม่เป็นไรนะ หมออยู่ที่นี่แล้ว"

ไป๋จิ่นชูส่ายหน้า บอกให้น้ำตามาก็มา ร้องไห้สะอึกสะอื้น "พี่อย่าไปนะ ฉันทรมานมาก จะตายอยู่แล้ว พี่เจ๋อ ฉันจะตายแล้วจริงๆ"

เวลานั้นโหลวชิงเข้ามารายงาน "นายท่านห้า คนข้างในกระจายตัวออกมาหมดแล้ว มีทั้งหมด35คนที่โดนพิษครับ"

โม่หนานเจ๋อถามนักวิจัยด้านข้าง "ศาสตราจารย์หลิว สรุปแล้วสารอะไรรั่วไหลกันแน่? อัตรายถึงชีวิตไหม?"

ศาสตราจารย์หลิวหน้าซีด ตอบกลับด้วยความตื่นตระหนก "คือสารเหลวชิงหลี พวกเรายังไม่ได้วิจัย จึงไม่ได้คุ้นเคยกับมันแม้แต่น้อย"

โม่หนานเจ๋อเบนสายตามองไปทางหมอ

หมอชะงักงัน เคร่งเครียดยิ่งกว่าใคร "นายท่านห้า ผมเรียนแพทย์มาหลายปี ไม่เคยได้ยินคำว่าวัตถุเคมีอย่างสารเหลวชิงหลีมาก่อน ไม่รู้ว่ามันเป็นสารพิษ จำต้องผลรายงานผลการตรวจสอบผู้ป่วยทุกคนออกมา แล้วให้ยาตามอาการครับ"

"ของสำคัญขนาดนี้ ทำไมถึงเก็บรักษาไม่รอบคอบ เป็นเหตุทำให้สารรั่วไหลกัน?" โม่หนานเจ๋อถามด้วยความโมโห เสียงจริงจังเคร่งขรึมทำเอาทุกคนหนาวสั่นสะท้าน

ศาสตราจารย์หลิวสูดหายใจลึกด้วยความคร่ำเครียด ตอบกลับเสียงแผ่วอย่างขี้ขลาด "คือ...คือว่าคุณหนูไป๋วิ่งเข้าอาคารวิจัยเพื่อตามหาของ แต่ไม่ระวังทำคว่ำครับ"

สีหน้าทุกคนย่ำแย่สุดขีด สายตาตำหนิเหลือบมองไปยังไป๋จิ่นชู

ไป๋จิ่นชูร้องไห้โฮไม่ยั้ง โต้กลับอีกฝ่าย "นั่นเป็นเพราะพวกคุณไม่เก็บของวางไว้ให้ดี เกี่ยวอะไรกับฉัน?"

น้ำเสียงที่โม่หนานเจ๋อพูดกับไป๋จิ่นชูเคร่งขรึมขึ้นหลายส่วน "อาคารวิจัยเป็นหน่วยงานลับ การดูแลป้องกันแน่นหนา หากไม่ได้รับอนุญาตห้ามเข้าไปโดยพลการเด็กขาด เธอเข้าไปหาอะไร?"

ไป๋จิ่นชูหลบงานหนักรับงานเบา ร้องไห้กระซิกเสียงอ่อน "พี่เจ๋อ พี่ไม่เชื่อฉันหรอ? ฮือฮือ......ทุกคนโดนพิษ ตอนนี้ทรมานกันหมด......พี่ยังจะโทษคนอื่นอยู่เหรอ?"

เหล่าหมอพยาบาลและศาสตราจารย์หลิวที่อยู่ตรงนั้น รวมถึงผู้ช่วยพิเศษสองคนต่างใช้สายตารังเกียจปราดมองไปยังไป๋จิ่นชู รู้สึกว่าการที่เธอเล่นใหญ่ไม่ถูกที่ถูกเวลานั้นยิ่งทำให้ใครเกลียดชังเป็นพิเศษ

ซู่เยียนที่ยืนดูสถานการณ์อยู่ด้านข้างสักพัก เดินเข้าไปอย่างใจเย็น ก่อนเอ่ยกับศาสตราจารย์หลิว "สารชิงหลีไม่มีพิษ แต่วัตถุที่ทำคว่ำยังเจือธาตุรีเนียมใช่ไหม?"

ซู่เยียนโพล่งขึ้น ทำเอาทุกคนตะลึงงัน สายตาประหลาดใจมองไปทางเธอ กระนั้นกลับไม่มีใครเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด

ศาสตราจารย์หลิวมองซู่เยียนด้วยความตกตะลึง สายตาเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าก็ยังตอบไปตามความจริง "ใช่ครับ สารเคมีที่เจือรีเนียมคว่ำไปด้วยเหมือนกัน แต่ปกติแล้วรีเนียมที่ใช้ในเครื่องยนต์ของเครื่องบินรบนั้น ก็ไม่มีพิษเช่นกัน"

ซู่เยียนชี้แจงต่อด้วยท่าทีสบายๆ "สารเหลวชิงหลีกับรีเนียมจะเกิดปฏิกิริยาเคมีต่อกัน แยกสังเคราะห์ได้เป็นก๊าซพิษชนิดหนึ่ง ไร้สีไร้กลิ่น ผู้ที่โดนพิษตเวียนหัวตาลาย ปวดท้องอยากอาเจียน ระยะต่อมาจะอ้วกและท้องเสีย ร่างกายสูญเสียน้ำจนตาย"

"ตอนนี้ระดับฤทธิ์กรดในร่างกายผู้โดนพิษสูงเกินไป สามารถดื่มน้ำด่างได้ เท่านี้ก็คลายอาการป่วยได้แล้ว" ซู่เยียนมองเฉิงฮ่าวด้วยสายตาราบเรียบ "นายไปห้องครัวดูว่ามีด่างที่กินได้หรือไม่ แล้วชงน้ำมาให้ทุกคนดื่มที"

เฉิงฮ่าวที่ไม่รู้เรื่องวิชาเคมีมาแต่ไหนแต่ไร แต่เขากลับเข้าใจคำสั่งของซู่เยียน รีบรับคำสั่งโดยไม่ลังเล "รับทราบครับ นายหญิง ผมจะไปเดี๋ยวนี้"

เฉิงฮ่าวสาวเท้าเดินเร็วไปทันที

ทุกคนในเหตุการณ์ต่างอึ้งตะลึงงันกันถ้วนหน้า

โม่หนานเจ๋อมองซู่เยียน ดวงตาดำสนิทล้ำลึกไม่อาจคาดเดากว่าที่เคย มวลคลื่นกระเพื่อมผุดขึ้นในใจเขาอย่างไม่ได้ตั้งใจ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status