ณ วันเกิดของ กีต้าร์
คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ !! "ฮัลโหล พักพิง" "คะ กีต้าร์ เตงอยู่ไหน?" เสียงเพลงและเสียงคนดังสนั่นผ่านมือถือเข้ามา จนแทบจะไม่ได้ยินเสียงพูดของคนปลายสาย ฉันทำได้เพียงแค่ขมวดคิ้ว และเอามือถือแนบหูฟังอย่างใจจดจ่อ "ผมอยู่กับพวกเพื่อนๆ มหาลัย ที่ร้านเหล้า วันนี้ อาจจะกลับประมาณ ไม่น่าเกิน 5 ทุ่มนะคับ" " 5 ทุ่มเลยเหรอ?" ฉันเปรยตามองเค้กวันเกิดที่อยู่บนโต๊ะอาหารอย่างน้อยใจ แต่เพราะฉันรักเขาไปแล้ว และวันนี้ก็วันเกิดของเขาด้วย ฉันเองก็ไม่อยากจะทะเลาะ อะไรที่ปล่อยผ่านได้ก็ควรทำ "ใช่ครับ พอดี วันเกิดน่ะ พอเพื่อนๆ รู้ว่าเป็นวันเกิดผม เขาก็ดึงผมมาเที่ยวด้วยเลย ขอโทษนะ ที่ต้องกลับดึก" "ไม่เป็นไรคับ เตง เที่ยวให้สนุกนะ เราโอเค" "ขอบคุณนะ ที่เข้าใจ" "อื้ม เที่ยวเผื่อเราด้วยนะ" "คับ" เมื่อวางสายจากเขา น้ำตาแห่งความน้อยใจของฉันก็ไหลพรากออกมาโดยไม่รู้ตัว นี่ฉันน้อยใจเขาขนาดนี้เลยเหรอ ทำเซอร์ไพรส์เอาไว้ขนาดนี้ แต่เขากลับไปเที่ยวกับเพื่อนซะงั้น ไม่เป็นไรหรอก อย่างน้อยๆ เขาก็บอกอยู่ว่าจะกลับบ้าน ไม่เกิน 5 ทุ่มหนิ อย่างไง ก็รอให้เขามาก่อนแล้วกัน ค่อยจุดไฟให้เขาเป่าเค้ก ก็ยังได้ เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันก็เอา เค้ก ปิดฝาไว้ แล้วเอาไปแช่ตู้เย็น เหมือนเดิม ก่อนจะไปนั่งรอเขาบนโซฟา ห้องรับแขก ที่อยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าบ้าน 5 ทุ่ม ติ๊งต๊อง คลื่น~ คลื่น~ เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น จนฉันสะดุ้งสุดตัวตื่นขึ้นมาปิดนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้ "5 ทุ่มแล้วนะ ทำไมยังไม่มาอีก" ฉันลุกขึ้นเดินไปยังประตูหน้าต่างอย่างงัวเงีย เพื่อไปส่องดูว่ารถของเขาเข้ามาหรือยัง แต่เปล่าเลย มันเงียบมาก มันไม่มีแม้แต่วี่แววของรถคันไหน เข้ามาเลย แม้แต่ผ่านถนนหน้าบ้านก็ยังไม่มี "5 ทุ่มแล้วนะ ทำไมยังไม่กลับมาอีก เราอุตสาห์นั่งรอ หรือว่าเมากันนะ" ฉันหยิบมือถือขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกดโทรมาเขา ด้วยความเป็นห่วง บวกกับมันใกล้จะเลยเวลาที่เขาบอกไว้แล้ว "เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้" "ปิดเครื่องเหรอ นี่วันเกิดนายนะ ทำไมถึงต้องปิดเครื่องด้วย" ฉันเปรยตามองนาฬิกาบนโต๊ะ ห้องโถงอย่างรู้สึกน้อยใจ ก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟา เหมือนอย่างเก่า ด้วยหัวใจที่เจ็บปวดผสมผสานกับความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ จนเผลอหลับไปอีกครั้ง โดยไม่รู้ตัว เช้าวันรุ่งขึ้น ติ๊งต๊อง คลื่น~ คลื่น~ ถึงเวลาที่ฉันจะต้องอาบน้ำแต่งตัวไป มหาลัยแล้วสินะ แล้วเขาเองก็ยังไม่กลับมา จะทำไงดีนะ จะรอเขา หรือ ตามเขาดีนะ แต่ที่แน่ๆ ฉันเองก็ไม่รู้จักเพื่อนๆ เขาสักคน เพราะฉันเป็นคนไม่ค่อยเข้าสังคม เขาเองก็ไม่เคยพาฉันไปแนะนำให้เพื่อนคนไหนรู้จักเลยด้วยซ้ำ แบบนี้ฉันจะไปตามเขาอย่างไงกัน ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งรู้สึกน้อยใจมากยิ่งขึ้น นี่สินะ ผู้ชาย ต้องเที่ยวต้องเข้าสังคม สนุกสนาน อยู่กับเพื่อนๆ แล้วแบบนี้ จะพยายามแต่งงานกับฉันทำไมกัน ช่างมันเถอะ เดี๋ยวเขาก็คงกลับมา ไปอาบน้ำแต่งตัว ไป มหาลัยดีกว่า ปึก! เสียงประตูรถปิดลง พร้อมชายร่างใหม่ ในชุดเที่ยวจากเมื่อคืน เดินตรงเข้าบ้านมา ในขณะที่ฉัน อาบน้ำแต่งตัวกำลังจะออกไปมหาลัยแล้ว "อ๋อ กำลังจะออกไป มหาลัยแล้วเหรอ วันนี้ให้คนขับรถไปส่งนะครับ เราไม่ไปอ่ะ พอดี เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย" ฉันไม่ได้อ้าปากเอ่ยพูด หรือ ถามอะไรออกไป ได้แต่เก็บความน้อยใจเอาไว้ ไม่ให้มันพรั่งพรูออกมา "อื้ม ได้สิ เราไปเรียนก่อนนะ เตง" "คับ บาย" ฉันเดินเข้าไปหาเขาเพื่อที่จะเข้าไปหอมแก้ม แต่เขากลับเดินหลบฉัน พร้อมกับเดินผ่านตัวฉันไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเสียใจจนน้ำตาคลอออกมานั่น ไม่ใช่ที่เขาเดินหนีฉัน แต่เป็นรอยลิปสติก และกลิ่นน้ำหอม ที่ติดอยู่บนตัวเขาต่างหาก ที่ทำให้ฉันถึงกับทำตัวไม่ถูก และได้แต่ยืนมองเขาเดินผ่านตัวฉันไปอย่างเฉยชา ก็แค่นั้น แต่ฉันก็ยังพูดปลอบใจตัวเอง ว่าเขานั้น เมา ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับใครสักหน่อย ตอนเย็นหลังกลับมาจาก มหาลัย ฉันตรงกลับบ้านมาทันที โดยไม่ลืมที่จะ ซื้อกับข้าวของโปรดเขา ติดไม้ติดมือเข้ามาด้วย เพราะต้องการจัดโต๊ะอาหาร และเอาเค้กจากเมื่อคืน มาให้เขาเป่าด้วย แต่แล้ว ฉันก็ต้องรู้สึก เสียใจอีกครั้ง เมื่อเห็นเค้ก ปอนด์ใหญ่ ที่ซื้อไว้ให้เขา ถูกทิ้งไว้ในถังขยะ "ป้านายคะ ป้านาย" "คะ....คะ คุณพักพิง" "ทำไมเค้กวันเกิดของกีต้าร์ ถึงอยู่ในขยะละคะ?" "อ่อ คุณกีต้าร์ เห็นว่ามันละลายแล้วค่ะ เลยให้ป้าเอามาทิ้ง" "อ๋อ ขอบคุณค่ะ ป้านาย" "แต่ป้า ซื้อปอนด์ใหม่มาให้ แล้วนะคะ อยู่ในตู้เย็นเหมือนเดิมเลยค่ะ" "เหรอคะ ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ" ฉันรีบตรงไปที่ตู้เย็น พร้อมกับหยิบเค้ก และกับข้าว ใส่จานไว้รอ กีต้าร์อีกครั้ง อย่างไรเสีย วันนี้ กีต้าร์ก็คงจะมากินกับฉัน คลื่น~ คลื่น~ "อืมมม~ ฮัลโหล ว่าไง พิง?" "กีต้าร์ ลงมาที่ห้องอาหารหน่อยสิ" "อื้มๆ ได้ เดี๋ยวลงไปนะคับ" กีต้าร์ที่ตื่นจากที่นอน ยังงัวเงียแต่ก็ยอมเดินตรงมายังห้องอาหารตามที่ฉันบอก ก่อนที่ฉันจะจุดเทียนวันเกิด และถือเค้กมาหยุด อยู่ตรงหน้าเขา "Happy Birthday to you คับ ที่รัก" ใบหน้าเปื้อนยิ้มของเขา ทำให้ฉันรู้สึกดีใจจนบอกไม่ถูก ถุงแม้ว่าฉันจะรู้สึกเสียใจในตัวเขาเล็กน้อย แต่อย่างน้อยเขาก็ยอมที่จะกลับบ้าน "โห่! นี่เค้กวันเกิดเหรอ น่ารักจัง งั้นเราขอพร และเป่าเลยนะ" "อื้ม ค่ะ" กีต้าร์ เอามือประสานกันพร้อมกับหลับตาลง และเป่าเค้กที่อยู่บนมือของฉันอย่างอ่อนโยน เขาทำทุกอย่างราวกับฉันเป็นเจ้าหญิงจริงๆ "อยากรู้ไหม เราขอพรอะไร?" "นั่นมันพรวันเกิดเตงนะ จะมาบอกเราทำไม" ฉันเขินจนต้องรีบหมุนตัว เอาเค้กมาวางไว้บนโต๊ะในทันที ก่อนที่มือใหญ่ จะขยับเข้ามากอดฉันจากด้านหลังนี่คงเป็นครั้งแรกที่เขายอมกอดฉัน โดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอ กีต้าร์นายจะรู้ไหม ว่าฉันดีใจขนาดไหน ที่นายยอมกอดฉัน เหมือนกับที่ฉันสัมผัสนาย "เราขอพรให้ พักพิงรักเรา และหายน้อยใจเราไง เราขอโทษนะ ที่เมื่อคืนผิดนัด พอดี เราเมามากไปหน่อย แต่ต่อไป เราจะปรับปรุงตัวนะคับ" โถ่!! หัวใจ แค่เขาขอโทษแค่นี้ ใจฉันก็บางจนไม่สามารถที่จะน้อยใจเขาต่อได้อีกแล้ว คนอะไร ทำให้ใจฉันบางได้ขนาดนี้นะ "พักพิง หันหน้ามาหน่อยได้ไหม?" ฉันหันหน้าไปหาเขาอย่างรวดเร็วราวกับถูกต้องมนต์สะกด ก่อนที่ริมฝีปากหนา จะเข้ามาประกบจูบฉันอย่างแผ่วเบา และค่อยๆ เริ่มดูดดื่มขึ้น "อื้ม" ฉันเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่าครั้งนี้ ฉันอาจจะต้องให้ครั้งแรกกับเขาแล้วล่ะ เพราะในเมื่อเขาเริ่มเปิด และดูดดื่มขนาดนี้ มันก็คงเป็นอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว "กีต้าร์?" "ขึ้นห้องกันนะคับ" "อื้ม!" บนห้องนอนของกีต้าร์ ที่สุดแสนจะหรูหรา เขาได้วางฉันลงบนเตียงใหญ่สีขาว ที่อบอุ่นไปด้วยไออุ่น ที่เขาพึ่งตื่นนอน ริ
"ตายจริง ล้มทั้งยืนเลยเหรอคะ?" "ตายแล้ว คุณพักพิง ทำไมไปนั่งที่พื้นแบบนี้ละคะ" ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ ร่างกายชาไปหมด มันขยับไปไหนไม่ได้เลย ทำได้เพียงนั่งจ้องหน้าชายตรงหน้า ที่ฉันรักสุดหัวใจ "อ๋อ นี่เหรอคะ ป้านายแม่บ้านของที่นี่ สวัสดีค่ะ หนูเป็นแฟน ของพี่กีต้าร์ ชื่อ เอมมี่ค่ะ " ป้านายรับไหว้ผู้หญิงคนนั้นอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะรีบมาประคองตัวฉันให้ลุกขึ้น "คุณพักพิงลุกขึ้นนะคะ เดี๋ยวป้าพากลับห้องค่ะ" "ค่ะ ป้านาย" ฉันพูดกับป้านายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนจะมีเสียงทุ้มแทรกขึ้น "ทำไม รับไม่ได้เหรอ?" ฉันไม่ได้หันหลังกลับไปมองตามเสียงนั้น แต่กลับรีบเดินตรงไปยังบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากทนเห็น คนที่ฉันรักมีคนอื่นแทนฉัน "ในเมื่อนายก็มีคนอื่นแทนฉันแล้ว งั้นฉันคงไม่มีอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่อีก" "เธอว่าไงนะ พักพิง" เสียงทุ้มตะคอกถามฉันอย่างดุดัน จนฉันเองก็เริ่มกลัวเขาเข้าแล้วเหมือนกัน มือใหญ่พุ่งตัวมากระชากแขนฉันอย่างแรง จนฉันตัวเซ เพื่อให้หันไปมองหน้าเขา ที่กำลังเดือดดาลก
กลับสู่ปัจจุบัน บรรยายแบบ Third person บุรุษที่ 3."โอ๊ย!!!! ไอ้คัง เบาๆ สิว่ะ เจ็บไอ้สัส" "ดีนะ นี่แค่หัวแตก เขาไม่เอาโซ่ล่ามขามัดคอมึงตายก็บุญแล้ว" คังเพื่อนสนิทของชายหนุ่มช่วยประคบเย็นแก้บวมช้ำให้กับเขาอย่างหัวเสีย เพราะไม่ชอบใจที่ ชายหนุ่มนั้นจับตัวเมียเก่าของตนเข้ามาขังไว้ "ไอ้เพื่อนโง่ มึงเป็นโรคประสาทอะไรเนี่ย ไปจับยัยนั่นมาทำไม แล้วงี้ ลูกๆ มึงจะอยู่อย่างไงก่อน" "ช่างกูเถอะ แม่งเมียหอบลูกหนี ใครจะไปทนรับได้ว่ะ" "เฮอะๆ นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่ามึงผิดอะไร เป็นกู ถ้ากูเป็นยัยพักพิง กูก็ทำเหมือนกันแหละ ไอ้ชิบหาย" "ไอ้เวร มึงควรจะช่วยกู ไม่ใช่ซ้ำเติม" "นี่ ยัยพักพิง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแฝดน้องมึงถูกรถชนเลยด้วยซ้ำ แล้วมึงก็ได้ทำร้ายจิตใจเขาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า มึงคิดว่าเขาจะยอมให้อภัยมึงง่ายๆ เลยเหรอ ไอ้เวร" "ก็กูไม่รู้ไง" "ก็เขาก็ไม่รู้ว่าผิดอะไรเหมือนกัน มึงควรง้อเขาดีๆ ไม่ใช่จับตัวเขามาแบบนี้ มึงมันโคตรเห็นแก่ตัวเลย" "เออ กูมันเห็นแก่ตัวก็กูรักเขา กูไม่อ
ทำไม ฉันจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขาสักหน่อย ตอนถูกรถชน ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาถูกรถชนได้อย่างไง มารู้อีกที ก็มีข่าวลือ ทั่วโรงเรียนแล้วว่าเขาถูกรถชนแต่นี่อะไร ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เขาถูกรถชนก็ไม่เชื่อปึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!"พักพิง เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!""พี่กีต้าร์ ใจเย็นสิคะ เรากลับห้องไปสนุกด้วยกันเถอะ""ออกไป เอาเงินที่ห้องฉันแล้วออกไปซะ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี""อ่าว! แล้วที่คุยกันว่าจะพาไปดูหนังล่ะ?""ก็บอกว่า วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีไง""ได้ค่ะ"เสียงเคาะประตูห้องฉัน พร้อมกับเสียงทะเลาะกันของสองคนนั้น ทำให้ฉันเริ่มจะหงุดหงิดใจ เอาว่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไปเป็นขอทานข้างถนน มันก็คงไม่ได้แย่เท่าไหร่ กลับบ้านเถอะ แล้วค่อยทำงานใช้หนีไอ้เวรนี่อย่างน้อยมันอาจจะสบายใจกว่าอยู่ที่ๆ ทำให้ฉันทุกข์ใจแบบนี้ ก็ได้ พอคิดได้แบบนี้ ฉันก็ไม่รีรอ ที่จะรีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋า และทิ้งห้องที่หรูหรานี้เอาไว้อยู่เบื้องหลัง "พักพิง ฉันบอกให้เปิดประตูไง ไม่ได้ยินหรือไง!"
"คนอย่างมึง มันสมควรตายแทนน้องกู""คุณ ฉันขอโทษ""มึงรู้ไหม วันที่กูไปดูกล้องวงจรปิด ที่โรงเรียน กูต้องเห็นอะไรบ้าง กูนั่งอ่านไดอารี่ของน้องตัวเอง แล้วรู้สึกอย่างไงบ้าง! ""ฮึก! ฮึก!""กูต้องเห็นน้องชายตัวเองถูกแกล้งทุกวัน ถูกกระทืบ ถูกตี ถูกใช้ให้กราบตีนไอ้พวกเวรนั่น ถูกเขียนเต็มเสื้อผ้า ถูกประจานว่าเป็นผู้ชายขายตัว และ สุดท้าย ก็ถูกคนรักอย่างมึง หักหลัง จนต้องมานอนเป็นผักอยู่แบบเนี่ย แบบเนี่ย! มึงเห็นไหม"เขากระชากคอเสื้อฉัน ให้ลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้มือไปที่คนบนเตียงอย่างเดือดดาล ดวงตาคม จ้องมองฉันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้ ก่อนจะเดินไปหยิบ ไดอารี่ ของน้องชายตัวเองออกมาจากในลิ้นชักข้างเตียง"มึงลองดูสิ มันเขียนไดอารี่เล่มนี้ ทุกวัน ว่ามันถูกทำอะไรบ้าง ว่ามันโดนอะไรบ้าง ว่ามันรักมึงขนาดไหน?"ฉันรีบหยิบไดอารี่จากมือของเขามาเปิดอ่านดูอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างมันดูเจ็บปวด ในไดอารี่เขาบอกว่า เขาอยากจะสู้พวกมัน แต่หากมีเรื่องแม่ของเขาจะเดือดร้อน เพราะลำพังแม่ของเขาก็หาเช้ากินค่ำ หลังจาก
เขาดึงท่อนแข็งหนาออก พร้อมกับรูดซิปกางเกงขึ้นในทันที และดึงกระเป๋าตังออกมา เอาเงินโยนใส่ตัวฉันที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา "เอาไปซื้อยาคุมกินซะ! ของฉันเข้าไปลึกขนาดนั้น ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้แล้ว" ฉันที่ลุกขึ้นนั่งด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ก็พยายามข่มน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเอาไว้ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เหมือนเดิมมากที่สุด ก่อนจะลุกขึ้น ดึงกระโปรงลง "ฉันออกไปได้หรือยัง?" "ฮึก!" "ออกไปสิ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับเอา แอลกอฮอล์ มาเช็ดมือและฉีดไปตามร่างกายของตัวเอง ฉันคงดูสกปรกสำหรับเขามากเลยสินะ ฉันพยายามข่มน้ำตาตัวเองไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนจะเดินไป เปิดประตูห้องเพื่อจะได้ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จะได้ชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในตัวฉัน"เดี๋ยวก่อน!" "ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาอยู่ดูแลน้องชายของฉัน เธอต้องนอนอยู่ในห้องนี้ จนกว่าน้องชายของฉันจะฟื้น พอน้องชายของฉันฟื้นแล้ว เธอก็ค่อยไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วอย่ากลับมาให้พวกเราเห็นหน้าอีก" "เข้าใจที่ฉันพูดไหม พักพิง" ฉันพยั
บรรยาย First person#เปียโน ผมนั่งดูกล้องวงจรปิด ที่ยัยนั่นกำลังเช็ดตัวให้กับน้องชายตัวเอง แล้วรู้สึกรังเกียจขึ้นมาทันที รังเกียจจนไม่อยากให้ยัยนี่เข้าใกล้ น้องชายของผม ปึก! "แม่งเอ๊ย" ผมละ แค้นเธอจริงๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ที่เธอคิดว่าผมเป็นกีต้าร์น้องชายตัวเอง ก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ยัยนี่มีดีอะไร ทำไมน้องผมถึงหลงเธอ ถึงขนาดยอมถูกล่อให้ไปโดนรถชน คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ "ฮัลโหล?" "ฮัลโหล ไอ้เปียโน ทำไมมึงรับสายช้าจังว่ะ" "มึงมีอะไร?" "พรุ่งนี้ มีสอบ มึงจะมาไหม?" "อื้ม! ไปดิ ต้องไปแทนไอ้เจ้าชายนินทานี่อยู่แล้ว" ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่เพื่อน จนมันรู้สึกสงสัย "ไอ้เปียโน มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ น้ำเสียงอย่างกับหงุดหงิดอะไรมา" "ไม่มีอะไรหรอก" "แน่เหรอว่ะ หรือว่า ยัยนั่นทำอะไรมึง" "ใคร?" "เอ้า ก็แฟนน้องชายฝาแฝดมึงไง ที่มึงไปหลอกมาแต่งงานด้วยอ่ะ" "เสือก!" "เอ้า กูได้ข่าว สวยใช่เล่นเลยเหรอว่ะ พรุ่
เช้าวันรุ่งขึ้นผมนั่งจิบกาแฟและขนมปังเหมือนทุกเช้าก่อนไป มหาลัย เพื่อรอยัยนั่นลงมาจากห้องเพราะวันนี้ผมตั้งใจจะไป มหาลัยพร้อมกับเธอ แกร๊ก! เสียงประตูห้องเปิดออก พร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในชุดนักศึกษา กระโปรงสั้นอยู่บนหัวเข่าประมาณ 1 คืบเห็นจะได้ ลนลานผลัดวิ่งผลัดเดินลงบันได จนน่าสงสัย "สายแน่เลย!" "ฮัลโหล วาวา รอหน่อยนะกำลังออกไป" เมื่อเธอวิ่งมาถึงห้องโถง ผมก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เดินตามเธอมาติดๆ พร้อมกับรีบคว้าแขนเธอเอาไว้ อย่างรวดเร็ว จนเธอสะดุ้งสุดตัว"โอ๊ยเจ็บ!" ผมชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรอยช้ำที่แขนขวาด้านที่ผมจับอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป และพูดกลบเกลื่อนสิ่งที่เห็นแทน"ปล่อย! มีอะไร?" "รีบขนาดนี้ มีสอบใช่ไหม?" "อื้ม!" "งั้นไปกับฉัน" พูดจบผมก็ดึงแขนเธอให้เดินตามผมมาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะเรียกให้ป้านายไปเอากระโปรงตัวใหม่มาให้เธอ "ป้านายครับ รบกวนช่วยไปหยิบกระโปรงของพักพิงมาให้ผมทีนะคับ ขอตัวที่ยาวที่สุดนะคับ" ก่อนจะเหลือบมองไปยังกระโปรงตัวจิ๋วของเธอที่เห็นแทบจะทะลุไประหว่างขา"พอดี ผมไม่ชอบให้ใครมาเห็นขาขาวๆ ของเม
16อย่าลืมสถานะตัวเอง ณ สวนหย่อมในมหาลัย ผมที่นั่งติวข้อสอบของวันพรุ่งนี้ ให้กับเพื่อนๆ อยู่ ก็เหลือบไปเห็นยัยนั่น นั่งอยู่กับ ยัยวาวา และ เพื่อนผู้ชายอีก 3 คน ดูทรงคงสนิทสนมกันน่าดู แต่สิ่งที่มันทำให้ผมขัดหูขัดตามากเป็นพิเศษก็คือ เธอนั่งข้างเพื่อนผู้ชาย แถมยังทำหน้าตาระรื่น หัวเราะคิกคักจนอย่างจะเข้าไปกระทืบมันจริงๆ "เฮ้ย! ไอ้เปียโน มึงดูอะไรอยู่ว่ะ จ้องตาไม่กระพริบเลย" "ไอ้คัง มึงไปหาเด็กมาให้กูซักคนดิ" "ฮะ! เอาใครอ่ะ?" ผมพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆ สวนหย่อม เพื่อหาผู้หญิงมาควงเย้ยยัยนั่น ก่อนจะไปสะดุดตากับผู้หญิงคนนึงเข้า "เอาน้องคนนั้นอ่ะ" "ไหนว่ะ?" ผมชี้มือไปที่ ผู้หญิงที่ผมสะดุดตา ให้เพื่อนดู ก่อนที่มันจะพยักหน้าแล้วลุกขึ้นไปจีบน้องเขาให้ "น้องคับ?" "คะ?" "คือ พอดี พี่มีเรื่องให้ช่วยหน่อย" เพื่อนผมพยายามพูดกับน้องคนนั้น จนเธอลุกขึ้น เดินตรงมาพร้อมกับเพื่อนของผม เธอยกมือไหว้ผม ก่อนจะมานั่งลงบนเก้าอี้ไม้หินอ่อนข้างผม "น้องเขาชื่อ ข้าวฟ่าง มึงมีไรให้น้องเขาช่วยอ่ะ?" ผมเหลือบมองน้องข้าวฟ่างก่อนจะพยักหน้ารับไหว้ใส่เบาๆ และจ้องมองไปยังยัยนั่น "ข้าวฟ่าง หนูเห็นผู้หญิงคนน
เช้าวันรุ่งขึ้นผมนั่งจิบกาแฟและขนมปังเหมือนทุกเช้าก่อนไป มหาลัย เพื่อรอยัยนั่นลงมาจากห้องเพราะวันนี้ผมตั้งใจจะไป มหาลัยพร้อมกับเธอ แกร๊ก! เสียงประตูห้องเปิดออก พร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในชุดนักศึกษา กระโปรงสั้นอยู่บนหัวเข่าประมาณ 1 คืบเห็นจะได้ ลนลานผลัดวิ่งผลัดเดินลงบันได จนน่าสงสัย "สายแน่เลย!" "ฮัลโหล วาวา รอหน่อยนะกำลังออกไป" เมื่อเธอวิ่งมาถึงห้องโถง ผมก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เดินตามเธอมาติดๆ พร้อมกับรีบคว้าแขนเธอเอาไว้ อย่างรวดเร็ว จนเธอสะดุ้งสุดตัว"โอ๊ยเจ็บ!" ผมชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรอยช้ำที่แขนขวาด้านที่ผมจับอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป และพูดกลบเกลื่อนสิ่งที่เห็นแทน"ปล่อย! มีอะไร?" "รีบขนาดนี้ มีสอบใช่ไหม?" "อื้ม!" "งั้นไปกับฉัน" พูดจบผมก็ดึงแขนเธอให้เดินตามผมมาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะเรียกให้ป้านายไปเอากระโปรงตัวใหม่มาให้เธอ "ป้านายครับ รบกวนช่วยไปหยิบกระโปรงของพักพิงมาให้ผมทีนะคับ ขอตัวที่ยาวที่สุดนะคับ" ก่อนจะเหลือบมองไปยังกระโปรงตัวจิ๋วของเธอที่เห็นแทบจะทะลุไประหว่างขา"พอดี ผมไม่ชอบให้ใครมาเห็นขาขาวๆ ของเม
บรรยาย First person#เปียโน ผมนั่งดูกล้องวงจรปิด ที่ยัยนั่นกำลังเช็ดตัวให้กับน้องชายตัวเอง แล้วรู้สึกรังเกียจขึ้นมาทันที รังเกียจจนไม่อยากให้ยัยนี่เข้าใกล้ น้องชายของผม ปึก! "แม่งเอ๊ย" ผมละ แค้นเธอจริงๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ที่เธอคิดว่าผมเป็นกีต้าร์น้องชายตัวเอง ก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ยัยนี่มีดีอะไร ทำไมน้องผมถึงหลงเธอ ถึงขนาดยอมถูกล่อให้ไปโดนรถชน คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ "ฮัลโหล?" "ฮัลโหล ไอ้เปียโน ทำไมมึงรับสายช้าจังว่ะ" "มึงมีอะไร?" "พรุ่งนี้ มีสอบ มึงจะมาไหม?" "อื้ม! ไปดิ ต้องไปแทนไอ้เจ้าชายนินทานี่อยู่แล้ว" ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่เพื่อน จนมันรู้สึกสงสัย "ไอ้เปียโน มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ น้ำเสียงอย่างกับหงุดหงิดอะไรมา" "ไม่มีอะไรหรอก" "แน่เหรอว่ะ หรือว่า ยัยนั่นทำอะไรมึง" "ใคร?" "เอ้า ก็แฟนน้องชายฝาแฝดมึงไง ที่มึงไปหลอกมาแต่งงานด้วยอ่ะ" "เสือก!" "เอ้า กูได้ข่าว สวยใช่เล่นเลยเหรอว่ะ พรุ่
เขาดึงท่อนแข็งหนาออก พร้อมกับรูดซิปกางเกงขึ้นในทันที และดึงกระเป๋าตังออกมา เอาเงินโยนใส่ตัวฉันที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา "เอาไปซื้อยาคุมกินซะ! ของฉันเข้าไปลึกขนาดนั้น ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้แล้ว" ฉันที่ลุกขึ้นนั่งด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ก็พยายามข่มน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเอาไว้ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เหมือนเดิมมากที่สุด ก่อนจะลุกขึ้น ดึงกระโปรงลง "ฉันออกไปได้หรือยัง?" "ฮึก!" "ออกไปสิ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับเอา แอลกอฮอล์ มาเช็ดมือและฉีดไปตามร่างกายของตัวเอง ฉันคงดูสกปรกสำหรับเขามากเลยสินะ ฉันพยายามข่มน้ำตาตัวเองไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนจะเดินไป เปิดประตูห้องเพื่อจะได้ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จะได้ชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในตัวฉัน"เดี๋ยวก่อน!" "ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาอยู่ดูแลน้องชายของฉัน เธอต้องนอนอยู่ในห้องนี้ จนกว่าน้องชายของฉันจะฟื้น พอน้องชายของฉันฟื้นแล้ว เธอก็ค่อยไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วอย่ากลับมาให้พวกเราเห็นหน้าอีก" "เข้าใจที่ฉันพูดไหม พักพิง" ฉันพยั
"คนอย่างมึง มันสมควรตายแทนน้องกู""คุณ ฉันขอโทษ""มึงรู้ไหม วันที่กูไปดูกล้องวงจรปิด ที่โรงเรียน กูต้องเห็นอะไรบ้าง กูนั่งอ่านไดอารี่ของน้องตัวเอง แล้วรู้สึกอย่างไงบ้าง! ""ฮึก! ฮึก!""กูต้องเห็นน้องชายตัวเองถูกแกล้งทุกวัน ถูกกระทืบ ถูกตี ถูกใช้ให้กราบตีนไอ้พวกเวรนั่น ถูกเขียนเต็มเสื้อผ้า ถูกประจานว่าเป็นผู้ชายขายตัว และ สุดท้าย ก็ถูกคนรักอย่างมึง หักหลัง จนต้องมานอนเป็นผักอยู่แบบเนี่ย แบบเนี่ย! มึงเห็นไหม"เขากระชากคอเสื้อฉัน ให้ลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้มือไปที่คนบนเตียงอย่างเดือดดาล ดวงตาคม จ้องมองฉันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้ ก่อนจะเดินไปหยิบ ไดอารี่ ของน้องชายตัวเองออกมาจากในลิ้นชักข้างเตียง"มึงลองดูสิ มันเขียนไดอารี่เล่มนี้ ทุกวัน ว่ามันถูกทำอะไรบ้าง ว่ามันโดนอะไรบ้าง ว่ามันรักมึงขนาดไหน?"ฉันรีบหยิบไดอารี่จากมือของเขามาเปิดอ่านดูอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างมันดูเจ็บปวด ในไดอารี่เขาบอกว่า เขาอยากจะสู้พวกมัน แต่หากมีเรื่องแม่ของเขาจะเดือดร้อน เพราะลำพังแม่ของเขาก็หาเช้ากินค่ำ หลังจาก
ทำไม ฉันจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขาสักหน่อย ตอนถูกรถชน ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาถูกรถชนได้อย่างไง มารู้อีกที ก็มีข่าวลือ ทั่วโรงเรียนแล้วว่าเขาถูกรถชนแต่นี่อะไร ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เขาถูกรถชนก็ไม่เชื่อปึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!"พักพิง เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!""พี่กีต้าร์ ใจเย็นสิคะ เรากลับห้องไปสนุกด้วยกันเถอะ""ออกไป เอาเงินที่ห้องฉันแล้วออกไปซะ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี""อ่าว! แล้วที่คุยกันว่าจะพาไปดูหนังล่ะ?""ก็บอกว่า วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีไง""ได้ค่ะ"เสียงเคาะประตูห้องฉัน พร้อมกับเสียงทะเลาะกันของสองคนนั้น ทำให้ฉันเริ่มจะหงุดหงิดใจ เอาว่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไปเป็นขอทานข้างถนน มันก็คงไม่ได้แย่เท่าไหร่ กลับบ้านเถอะ แล้วค่อยทำงานใช้หนีไอ้เวรนี่อย่างน้อยมันอาจจะสบายใจกว่าอยู่ที่ๆ ทำให้ฉันทุกข์ใจแบบนี้ ก็ได้ พอคิดได้แบบนี้ ฉันก็ไม่รีรอ ที่จะรีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋า และทิ้งห้องที่หรูหรานี้เอาไว้อยู่เบื้องหลัง "พักพิง ฉันบอกให้เปิดประตูไง ไม่ได้ยินหรือไง!"
กลับสู่ปัจจุบัน บรรยายแบบ Third person บุรุษที่ 3."โอ๊ย!!!! ไอ้คัง เบาๆ สิว่ะ เจ็บไอ้สัส" "ดีนะ นี่แค่หัวแตก เขาไม่เอาโซ่ล่ามขามัดคอมึงตายก็บุญแล้ว" คังเพื่อนสนิทของชายหนุ่มช่วยประคบเย็นแก้บวมช้ำให้กับเขาอย่างหัวเสีย เพราะไม่ชอบใจที่ ชายหนุ่มนั้นจับตัวเมียเก่าของตนเข้ามาขังไว้ "ไอ้เพื่อนโง่ มึงเป็นโรคประสาทอะไรเนี่ย ไปจับยัยนั่นมาทำไม แล้วงี้ ลูกๆ มึงจะอยู่อย่างไงก่อน" "ช่างกูเถอะ แม่งเมียหอบลูกหนี ใครจะไปทนรับได้ว่ะ" "เฮอะๆ นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่ามึงผิดอะไร เป็นกู ถ้ากูเป็นยัยพักพิง กูก็ทำเหมือนกันแหละ ไอ้ชิบหาย" "ไอ้เวร มึงควรจะช่วยกู ไม่ใช่ซ้ำเติม" "นี่ ยัยพักพิง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแฝดน้องมึงถูกรถชนเลยด้วยซ้ำ แล้วมึงก็ได้ทำร้ายจิตใจเขาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า มึงคิดว่าเขาจะยอมให้อภัยมึงง่ายๆ เลยเหรอ ไอ้เวร" "ก็กูไม่รู้ไง" "ก็เขาก็ไม่รู้ว่าผิดอะไรเหมือนกัน มึงควรง้อเขาดีๆ ไม่ใช่จับตัวเขามาแบบนี้ มึงมันโคตรเห็นแก่ตัวเลย" "เออ กูมันเห็นแก่ตัวก็กูรักเขา กูไม่อ
"ตายจริง ล้มทั้งยืนเลยเหรอคะ?" "ตายแล้ว คุณพักพิง ทำไมไปนั่งที่พื้นแบบนี้ละคะ" ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ ร่างกายชาไปหมด มันขยับไปไหนไม่ได้เลย ทำได้เพียงนั่งจ้องหน้าชายตรงหน้า ที่ฉันรักสุดหัวใจ "อ๋อ นี่เหรอคะ ป้านายแม่บ้านของที่นี่ สวัสดีค่ะ หนูเป็นแฟน ของพี่กีต้าร์ ชื่อ เอมมี่ค่ะ " ป้านายรับไหว้ผู้หญิงคนนั้นอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะรีบมาประคองตัวฉันให้ลุกขึ้น "คุณพักพิงลุกขึ้นนะคะ เดี๋ยวป้าพากลับห้องค่ะ" "ค่ะ ป้านาย" ฉันพูดกับป้านายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนจะมีเสียงทุ้มแทรกขึ้น "ทำไม รับไม่ได้เหรอ?" ฉันไม่ได้หันหลังกลับไปมองตามเสียงนั้น แต่กลับรีบเดินตรงไปยังบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากทนเห็น คนที่ฉันรักมีคนอื่นแทนฉัน "ในเมื่อนายก็มีคนอื่นแทนฉันแล้ว งั้นฉันคงไม่มีอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่อีก" "เธอว่าไงนะ พักพิง" เสียงทุ้มตะคอกถามฉันอย่างดุดัน จนฉันเองก็เริ่มกลัวเขาเข้าแล้วเหมือนกัน มือใหญ่พุ่งตัวมากระชากแขนฉันอย่างแรง จนฉันตัวเซ เพื่อให้หันไปมองหน้าเขา ที่กำลังเดือดดาลก
นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขายอมกอดฉัน โดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอ กีต้าร์นายจะรู้ไหม ว่าฉันดีใจขนาดไหน ที่นายยอมกอดฉัน เหมือนกับที่ฉันสัมผัสนาย "เราขอพรให้ พักพิงรักเรา และหายน้อยใจเราไง เราขอโทษนะ ที่เมื่อคืนผิดนัด พอดี เราเมามากไปหน่อย แต่ต่อไป เราจะปรับปรุงตัวนะคับ" โถ่!! หัวใจ แค่เขาขอโทษแค่นี้ ใจฉันก็บางจนไม่สามารถที่จะน้อยใจเขาต่อได้อีกแล้ว คนอะไร ทำให้ใจฉันบางได้ขนาดนี้นะ "พักพิง หันหน้ามาหน่อยได้ไหม?" ฉันหันหน้าไปหาเขาอย่างรวดเร็วราวกับถูกต้องมนต์สะกด ก่อนที่ริมฝีปากหนา จะเข้ามาประกบจูบฉันอย่างแผ่วเบา และค่อยๆ เริ่มดูดดื่มขึ้น "อื้ม" ฉันเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่าครั้งนี้ ฉันอาจจะต้องให้ครั้งแรกกับเขาแล้วล่ะ เพราะในเมื่อเขาเริ่มเปิด และดูดดื่มขนาดนี้ มันก็คงเป็นอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว "กีต้าร์?" "ขึ้นห้องกันนะคับ" "อื้ม!" บนห้องนอนของกีต้าร์ ที่สุดแสนจะหรูหรา เขาได้วางฉันลงบนเตียงใหญ่สีขาว ที่อบอุ่นไปด้วยไออุ่น ที่เขาพึ่งตื่นนอน ริ