กลับสู่ปัจจุบัน
บรรยายแบบ Third person บุรุษที่ 3. "โอ๊ย!!!! ไอ้คัง เบาๆ สิว่ะ เจ็บไอ้สัส" "ดีนะ นี่แค่หัวแตก เขาไม่เอาโซ่ล่ามขามัดคอมึงตายก็บุญแล้ว" คังเพื่อนสนิทของชายหนุ่มช่วยประคบเย็นแก้บวมช้ำให้กับเขาอย่างหัวเสีย เพราะไม่ชอบใจที่ ชายหนุ่มนั้นจับตัวเมียเก่าของตนเข้ามาขังไว้ "ไอ้เพื่อนโง่ มึงเป็นโรคประสาทอะไรเนี่ย ไปจับยัยนั่นมาทำไม แล้วงี้ ลูกๆ มึงจะอยู่อย่างไงก่อน" "ช่างกูเถอะ แม่งเมียหอบลูกหนี ใครจะไปทนรับได้ว่ะ" "เฮอะๆ นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่ามึงผิดอะไร เป็นกู ถ้ากูเป็นยัยพักพิง กูก็ทำเหมือนกันแหละ ไอ้ชิบหาย" "ไอ้เวร มึงควรจะช่วยกู ไม่ใช่ซ้ำเติม" "นี่ ยัยพักพิง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแฝดน้องมึงถูกรถชนเลยด้วยซ้ำ แล้วมึงก็ได้ทำร้ายจิตใจเขาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า มึงคิดว่าเขาจะยอมให้อภัยมึงง่ายๆ เลยเหรอ ไอ้เวร" "ก็กูไม่รู้ไง" "ก็เขาก็ไม่รู้ว่าผิดอะไรเหมือนกัน มึงควรง้อเขาดีๆ ไม่ใช่จับตัวเขามาแบบนี้ มึงมันโคตรเห็นแก่ตัวเลย" "เออ กูมันเห็นแก่ตัวก็กูรักเขา กูไม่อยากเสียเขาไปหนิ ยิ่งมีลูกๆ ด้วยแล้ว มึงคิดว่าชีวิตกูจะทำไงต่อไปได้ว่ะ" คังพยายามข่มอารมณ์ของตนอย่างหนักหน่วง เมื่อเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้เขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไงให้เพื่อนฟัง เพราะความบ้าอำนาจของเพื่อน ที่ได้มาจากพ่อของเขาอย่างเต็มๆ มันทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้ "ช่างมึงละกัน ขอให้ง้อสำเร็จนะ" "เอ้า เกือบลืม นี่เย็นแล้ว กูเอาข้าวไปให้เมียก่อนนะ วันนี้กูซื้อของโปรดมาให้เขาด้วย" "เออๆ อย่าลืมใส่เครื่องป้องกันตัวด้วยล่ะ บางทีเมียมึงอาจจะไม่ทำมึงแค่หัวแตกอีกก็ได้นะ แต่อาจจะรุนแรงกว่าเดิม" "เออๆ รู้แล้ว" ณ ห้องมืด แกร๊ก! "เมียจ๋า ผัวเอาข้าวมาให้จ๋า" ตุบบบ!! โครม!!! "ออกไป......!!" "โอ๊ยยยยย!" งานนี้ มีตายกันไปข้างแน่ๆ ขอให้ง้อเมีย สำเร็จนะคะ คุณพ่อ 10 ความเจ็บปวดที่ยาวนาน บรรยาย First person #พักพิง กี่เดือนแล้วนะ ที่เขาพาผู้หญิงเข้าบ้านไม่ซ้ำหน้า กี่เดือนแล้วนะ ที่ฉันต้องทนทุกข์ทรมาน และกลายเป็นความชินชา กี่เดือนแล้วนะ ที่ฉันจะต้องฟังเสียงเขาเรียกชื่อผู้หญิงคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า "คิคิ ! พี่กีต้าร์ อย่าสิคะ ไม่อายบ้างเหรอนี่มันห้องโถงนะคะ" "อายทำไมล่ะ คนกันเองทั้งนั้น วันนี้ น้องบูม อยากกินอะไรคับ?" "อยากกินพี่ไงคะ มันอร่อย ใหญ่ และแซ่บดี~" ฉันที่ยืนฟังพวกเขาหยอกล้อกันอยู่หน้าประตู ก็แทบทำใจไม่ไหว แต่เพราะความชินชา ถึงจะรู้สึกอย่างไง ก็ต้องทนเก็บเอาไว้ไม่ให้มันพรั่งพรูออกมา ก่อนจะเดินออกไปจากบ้านเพื่อไปมหาลัย วี้วอ~ วี้วอ~ วี้วอ~ หลังฉันกลับมาจากบ้าน ก็เห็นรถของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ขับเข้ามาในบ้านพร้อมกับนำตัว คนบนเตียงที่นอนราบกับเตียงขึ้นไปยังบนบ้านของฉันอย่างรวดเร็ว จนฉันต้องรีบผลัดวิ่งผลัดเดินเข้าไปดู ว่าคนบนเตียงนั้นเป็นใครกันแน่ "ไม่ได้ค่ะ คุณพักพิง คุณกีต้าร์สั่งเอาไว้ ถ้าคุณเข้าไป คุณอาจจะติดเชื้อก็ได้นะคะ" "ป้านายคะ คนนั้นเป็นใครเหรอคะ?" "เป็นน้องชายของคุณกีต้าร์ค่ะ" "ฮะ?" ฉันสับสนปะป่นกับความงงงวย เพราะไม่เคยรู้ว่าก่อน ว่าสามีตัวเองมีน้องชาย แถมประวัติความหลังหรือเรื่องครอบครัวของเขา ฉันก็ไม่เคยรู้มาก่อนด้วย ว่าคืออะไร "นะ.....น้องชาย กีต้าร์มีน้องชายด้วยเหรอ?" "ใช่ค่ะ คุณพักพิง แต่เรื่องอื่นๆ ป้าคงตอบให้ไม่ได้นะคะ เรื่องแบบนี้ คงต้องถามกับทางคุณกีต้าร์เอง" ฉันทำได้เพียงนิ่งเงียบ และพูดอะไรไม่ถูก ทำได้เพียงเดินออกไปจากตรงนั้น และไม่หันกลับไปมองคนบนเตียงอีก แต่แล้ว เมื่อฉันกำลังจะเปิดประตู เข้าห้องนอนของตัวเอง เสียงจากด้านหลังก็พูดแทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว "นี่! ชอบเสือกเหรอ ถึงอยากเห็นน้องชายฉัน" ฉันถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ก่อนจะหันตัวไปมองเจ้าของเสียง แต่แล้ว ฉันก็ต้องเจ็บปวดอีกครั้ง ที่มีผู้หญิงหน้าใหม่ประกบควงแขนเขา เดินเข้ามาหาฉันติดๆ "เสือก ในเรื่องที่ควรเสือก ดีกว่านะพักพิง ไม่ใช่เห็นอะไรก็เสือก" "เฮอะ! คำก็เสือก สองคำก็เสือก จริงๆ ฉันว่า ฉันก็ควรจะเสือกให้สุดนะ แต่เสียดาย ที่เสือกได้แค่ผ่านๆ แย่จัง" "พักพิง" ดวงตาคมจ้องมองฉันอย่างเดือดดาล น้ำเสียงที่เรียกชื่อฉัน กลับเป็นโทนเสียงที่ต่ำ จนน่าเกรงขาม แต่เพราะตอนนี้ฉันแข็งแรงมากพอ ที่จะต่อปากต่อคำกับเขาโดยไม่มีน้ำตาแล้ว ฉันจึงไม่ได้ รู้สึกถึงความกลัวใดๆ กับเขาอีก "เดี๋ยวนี้ กล้ามากนะ ต่อปากต่อคำกับฉันเก่งจังนะ ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทำตัวเงียบ เดินหนี ไม่กล้าสู้หน้าฉัน มาตอนนี้ กลับกล้าพูดจาต่อปากต่อคำขนาดนี้" "แล้วอย่างไงเหรอ ก็มันไม่ใช่เรื่องจริงหรือไง นายว่าให้ฉันว่าเสือก แล้วที่ผ่านมา ฉันเคยเสือกเรื่องของนายไหม?" "พักพิง" มือใหญ่กระชากแขนฉันอย่างแรง นัยน์ตาคมมีเส้นเลือดฝายแดงก่ำด้วยความเดือดดาล "ปล่อย" "ทำไม ผัวตัวเอง จับนิดจับหน่อย มันจะตายหรือไง?" "เฮอะ! ผัวงั้นเหรอ?" คำว่า ผัวที่หลุดออกจากปากของคนที่ทำร้ายจิตใจฉันอย่างแสนสาหัส มันยิ่งตรอกย้ำให้ฉัน ต้องเจ็บปวดขึ้นมาอีกครั้ง จนแทบจะหลุดร้องไห้ออกมา ฉันไม่น่าไปชอบ ไปรักคนแบบเขาเลย ความทรมานที่ฉันได้รับ มันก็สุดแสนจะเกินบรรยายแล้ว ถึงแม้เขาจะไม่เคยทำร้ายร่างกายฉัน แต่เขาทำร้ายจิตใจฉัน จนมันไม่สามารถกู้คืนกลับมาได้อีกแล้ว "ผัวงั้นเหรอ กีต้าร์ ที่ผ่านมา นายทำหน้าที่ผัวกับคนอื่นไม่ใช่ฉัน "และนี่ไง!" ฉันชี้มือไปที่ผู้หญิงที่ยืนกอดอก แสยะยิ้มใส่ฉันอย่างชอบใจ ก่อนจะเอ่ยตอบเขาออกมาอีกครั้ง "นี่ไง นายทำหน้าที่ เป็นผัวให้คนอื่นไง อ๋อ แล้วเธอน่ะ!" ฉันสบัดแขนออกจากมือของกีต้าร์ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้น อย่างเดือดดาล "เธอน่ะ อย่าคิดว่ามันจะจริงจังด้วยล่ะ เพราะตั้งแต่ฉันอยู่บ้านหลังนี้มา มันเอาผู้หญิงคนอื่นมาเป็นร้อยแล้ว" ก่อนจะหันหน้า มาจ้องหน้าสามีเลวๆ ของตัวเอง เพราะสุดที่จะทนกับความเลวของเขาต่อไปไม่ได้อีกแล้ว "ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอให้ฉันพูดบ้างเถอะ นี่บ้าน ไม่ใช่โรงแรมม่านรูด เอาผู้หญิงเข้ามาไม่เคยซ้ำหน้าแบบเนี่ย หัดเกรงใจ คนอื่นเขาบ้างนะไม่ใช่ เอามานอนด้วยเสร็จ ก็ทำเสียงดังลั่นบ้าน หัดเกรงใจคนที่เขาจะหลับจะนอนบ้าง" "นี่เธอ หึงเหรอ?" "หึง?" เฮอะ! ให้ตายเถอะ ฉันแทบจะเป็นบ้าตาย ฉันพูดมาตั้งเยอะ เขากลับถามฉันกลับมาว่า ฉันหึงเหรอ คนอะไร เข้าข้างตัวเองได้ขนาดนี้นะ "หึง! นี่ตลกดีนะ นายเข้าข้างตัวเองมากไปหน่อยไหม หึงงั้นเหรอ ใครจะหึงคนอย่างนาย น่าขยะแขยง สกปรก" พูดจบฉันก็เดินหนีเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว โดยไม่ได้หันมามองคนตรงหน้าเลยด้วยซ้ำ ให้ตายเถอะ ฉันอยู่บ้านหลังนี้มานานขนาดนี้ได้อย่างไงกันทำไม ฉันจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขาสักหน่อย ตอนถูกรถชน ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาถูกรถชนได้อย่างไง มารู้อีกที ก็มีข่าวลือ ทั่วโรงเรียนแล้วว่าเขาถูกรถชนแต่นี่อะไร ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เขาถูกรถชนก็ไม่เชื่อปึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!"พักพิง เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!""พี่กีต้าร์ ใจเย็นสิคะ เรากลับห้องไปสนุกด้วยกันเถอะ""ออกไป เอาเงินที่ห้องฉันแล้วออกไปซะ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี""อ่าว! แล้วที่คุยกันว่าจะพาไปดูหนังล่ะ?""ก็บอกว่า วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีไง""ได้ค่ะ"เสียงเคาะประตูห้องฉัน พร้อมกับเสียงทะเลาะกันของสองคนนั้น ทำให้ฉันเริ่มจะหงุดหงิดใจ เอาว่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไปเป็นขอทานข้างถนน มันก็คงไม่ได้แย่เท่าไหร่ กลับบ้านเถอะ แล้วค่อยทำงานใช้หนีไอ้เวรนี่อย่างน้อยมันอาจจะสบายใจกว่าอยู่ที่ๆ ทำให้ฉันทุกข์ใจแบบนี้ ก็ได้ พอคิดได้แบบนี้ ฉันก็ไม่รีรอ ที่จะรีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋า และทิ้งห้องที่หรูหรานี้เอาไว้อยู่เบื้องหลัง "พักพิง ฉันบอกให้เปิดประตูไง ไม่ได้ยินหรือไง!"
"คนอย่างมึง มันสมควรตายแทนน้องกู""คุณ ฉันขอโทษ""มึงรู้ไหม วันที่กูไปดูกล้องวงจรปิด ที่โรงเรียน กูต้องเห็นอะไรบ้าง กูนั่งอ่านไดอารี่ของน้องตัวเอง แล้วรู้สึกอย่างไงบ้าง! ""ฮึก! ฮึก!""กูต้องเห็นน้องชายตัวเองถูกแกล้งทุกวัน ถูกกระทืบ ถูกตี ถูกใช้ให้กราบตีนไอ้พวกเวรนั่น ถูกเขียนเต็มเสื้อผ้า ถูกประจานว่าเป็นผู้ชายขายตัว และ สุดท้าย ก็ถูกคนรักอย่างมึง หักหลัง จนต้องมานอนเป็นผักอยู่แบบเนี่ย แบบเนี่ย! มึงเห็นไหม"เขากระชากคอเสื้อฉัน ให้ลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้มือไปที่คนบนเตียงอย่างเดือดดาล ดวงตาคม จ้องมองฉันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้ ก่อนจะเดินไปหยิบ ไดอารี่ ของน้องชายตัวเองออกมาจากในลิ้นชักข้างเตียง"มึงลองดูสิ มันเขียนไดอารี่เล่มนี้ ทุกวัน ว่ามันถูกทำอะไรบ้าง ว่ามันโดนอะไรบ้าง ว่ามันรักมึงขนาดไหน?"ฉันรีบหยิบไดอารี่จากมือของเขามาเปิดอ่านดูอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างมันดูเจ็บปวด ในไดอารี่เขาบอกว่า เขาอยากจะสู้พวกมัน แต่หากมีเรื่องแม่ของเขาจะเดือดร้อน เพราะลำพังแม่ของเขาก็หาเช้ากินค่ำ หลังจาก
เขาดึงท่อนแข็งหนาออก พร้อมกับรูดซิปกางเกงขึ้นในทันที และดึงกระเป๋าตังออกมา เอาเงินโยนใส่ตัวฉันที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา "เอาไปซื้อยาคุมกินซะ! ของฉันเข้าไปลึกขนาดนั้น ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้แล้ว" ฉันที่ลุกขึ้นนั่งด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ก็พยายามข่มน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเอาไว้ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เหมือนเดิมมากที่สุด ก่อนจะลุกขึ้น ดึงกระโปรงลง "ฉันออกไปได้หรือยัง?" "ฮึก!" "ออกไปสิ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับเอา แอลกอฮอล์ มาเช็ดมือและฉีดไปตามร่างกายของตัวเอง ฉันคงดูสกปรกสำหรับเขามากเลยสินะ ฉันพยายามข่มน้ำตาตัวเองไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนจะเดินไป เปิดประตูห้องเพื่อจะได้ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จะได้ชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในตัวฉัน"เดี๋ยวก่อน!" "ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาอยู่ดูแลน้องชายของฉัน เธอต้องนอนอยู่ในห้องนี้ จนกว่าน้องชายของฉันจะฟื้น พอน้องชายของฉันฟื้นแล้ว เธอก็ค่อยไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วอย่ากลับมาให้พวกเราเห็นหน้าอีก" "เข้าใจที่ฉันพูดไหม พักพิง" ฉันพยั
บรรยาย First person#เปียโน ผมนั่งดูกล้องวงจรปิด ที่ยัยนั่นกำลังเช็ดตัวให้กับน้องชายตัวเอง แล้วรู้สึกรังเกียจขึ้นมาทันที รังเกียจจนไม่อยากให้ยัยนี่เข้าใกล้ น้องชายของผม ปึก! "แม่งเอ๊ย" ผมละ แค้นเธอจริงๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ที่เธอคิดว่าผมเป็นกีต้าร์น้องชายตัวเอง ก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ยัยนี่มีดีอะไร ทำไมน้องผมถึงหลงเธอ ถึงขนาดยอมถูกล่อให้ไปโดนรถชน คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ "ฮัลโหล?" "ฮัลโหล ไอ้เปียโน ทำไมมึงรับสายช้าจังว่ะ" "มึงมีอะไร?" "พรุ่งนี้ มีสอบ มึงจะมาไหม?" "อื้ม! ไปดิ ต้องไปแทนไอ้เจ้าชายนินทานี่อยู่แล้ว" ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่เพื่อน จนมันรู้สึกสงสัย "ไอ้เปียโน มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ น้ำเสียงอย่างกับหงุดหงิดอะไรมา" "ไม่มีอะไรหรอก" "แน่เหรอว่ะ หรือว่า ยัยนั่นทำอะไรมึง" "ใคร?" "เอ้า ก็แฟนน้องชายฝาแฝดมึงไง ที่มึงไปหลอกมาแต่งงานด้วยอ่ะ" "เสือก!" "เอ้า กูได้ข่าว สวยใช่เล่นเลยเหรอว่ะ พรุ่
เช้าวันรุ่งขึ้นผมนั่งจิบกาแฟและขนมปังเหมือนทุกเช้าก่อนไป มหาลัย เพื่อรอยัยนั่นลงมาจากห้องเพราะวันนี้ผมตั้งใจจะไป มหาลัยพร้อมกับเธอ แกร๊ก! เสียงประตูห้องเปิดออก พร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในชุดนักศึกษา กระโปรงสั้นอยู่บนหัวเข่าประมาณ 1 คืบเห็นจะได้ ลนลานผลัดวิ่งผลัดเดินลงบันได จนน่าสงสัย "สายแน่เลย!" "ฮัลโหล วาวา รอหน่อยนะกำลังออกไป" เมื่อเธอวิ่งมาถึงห้องโถง ผมก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เดินตามเธอมาติดๆ พร้อมกับรีบคว้าแขนเธอเอาไว้ อย่างรวดเร็ว จนเธอสะดุ้งสุดตัว"โอ๊ยเจ็บ!" ผมชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรอยช้ำที่แขนขวาด้านที่ผมจับอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป และพูดกลบเกลื่อนสิ่งที่เห็นแทน"ปล่อย! มีอะไร?" "รีบขนาดนี้ มีสอบใช่ไหม?" "อื้ม!" "งั้นไปกับฉัน" พูดจบผมก็ดึงแขนเธอให้เดินตามผมมาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะเรียกให้ป้านายไปเอากระโปรงตัวใหม่มาให้เธอ "ป้านายครับ รบกวนช่วยไปหยิบกระโปรงของพักพิงมาให้ผมทีนะคับ ขอตัวที่ยาวที่สุดนะคับ" ก่อนจะเหลือบมองไปยังกระโปรงตัวจิ๋วของเธอที่เห็นแทบจะทะลุไประหว่างขา"พอดี ผมไม่ชอบให้ใครมาเห็นขาขาวๆ ของเม
16อย่าลืมสถานะตัวเอง ณ สวนหย่อมในมหาลัย ผมที่นั่งติวข้อสอบของวันพรุ่งนี้ ให้กับเพื่อนๆ อยู่ ก็เหลือบไปเห็นยัยนั่น นั่งอยู่กับ ยัยวาวา และ เพื่อนผู้ชายอีก 3 คน ดูทรงคงสนิทสนมกันน่าดู แต่สิ่งที่มันทำให้ผมขัดหูขัดตามากเป็นพิเศษก็คือ เธอนั่งข้างเพื่อนผู้ชาย แถมยังทำหน้าตาระรื่น หัวเราะคิกคักจนอย่างจะเข้าไปกระทืบมันจริงๆ "เฮ้ย! ไอ้เปียโน มึงดูอะไรอยู่ว่ะ จ้องตาไม่กระพริบเลย" "ไอ้คัง มึงไปหาเด็กมาให้กูซักคนดิ" "ฮะ! เอาใครอ่ะ?" ผมพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆ สวนหย่อม เพื่อหาผู้หญิงมาควงเย้ยยัยนั่น ก่อนจะไปสะดุดตากับผู้หญิงคนนึงเข้า "เอาน้องคนนั้นอ่ะ" "ไหนว่ะ?" ผมชี้มือไปที่ ผู้หญิงที่ผมสะดุดตา ให้เพื่อนดู ก่อนที่มันจะพยักหน้าแล้วลุกขึ้นไปจีบน้องเขาให้ "น้องคับ?" "คะ?" "คือ พอดี พี่มีเรื่องให้ช่วยหน่อย" เพื่อนผมพยายามพูดกับน้องคนนั้น จนเธอลุกขึ้น เดินตรงมาพร้อมกับเพื่อนของผม เธอยกมือไหว้ผม ก่อนจะมานั่งลงบนเก้าอี้ไม้หินอ่อนข้างผม "น้องเขาชื่อ ข้าวฟ่าง มึงมีไรให้น้องเขาช่วยอ่ะ?" ผมเหลือบมองน้องข้าวฟ่างก่อนจะพยักหน้ารับไหว้ใส่เบาๆ และจ้องมองไปยังยัยนั่น "ข้าวฟ่าง หนูเห็นผู้หญิงคนน
"อย่านะ!" "พี่ผลักมันเลย" "ไม่!!!!! อ๊ากกกก!" โครม!!! ร่างใหญ่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย ถูกรถคันหรูชนอัดเข้าร่างอย่างเต็มแรง จนตัวลอยขึ้นไปกระแทกกับกระจกหน้ารถเข้าอย่างจัง รถที่ชนต้องหยุดลงกระทันหัน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มือของคนขับเย็นเฉียบใบหน้าซีดเผือด จนต้องรีบลนลานลงจากรถ เพื่อมาดูคนเจ็บ ปัง! "ไอ้เหี้ย มันตายเปล่าว่ะ?" "หุบปาก! พวกมึงเงียบไว้ อย่าให้ใครรู้ ทำตัวให้ปกติที่สุด" เด็กในกลุ่มทั้ง 5 คนยืนมุงดูภาพของชายหนุ่มถูกรถชนไปต่อหน้าต่อตาอย่างนิ่งเฉย มีเพียงคนที่ขับรถเพียงคนเดียว ที่ยังลนลานขาดสติ "มึง กูแค่ตั้งใจชนเบาๆ เองนะ แล้วจะทำไงดี" ชายร่างสูงนิ่งเงียบ จ้องมองดูภาพชายที่นอนแน่นิ่งบนกระโปรงรถอยู่ตรงหน้าอย่างคิดวิเคราะห์ ก่อนจะเริ่มทำการจัดฉาก "เดี๋ยวกูจัดการเอง" ************************ ปัจจุบัน แกร๊ก!!! แคร่ง!!! “ออกไป!” “กินข้าวซะ ฉันไม่ได้มีเวลามาง้อเธอมากมายหรอกนะ” “กูบอกให้ออกไป!” ร่างบางนั่งกอดเข่า แผ่นหลังพิงผนังห้องอย่างหมดความหวัง นัยน์ตาแผ่รังสีความเกลียดชังออกมาอย่างรุนแรง “เธออยู่ที่นี่มา 1 อาทิตย์แล้วนะ ถ้าเธอจะไม่กินข้าวกินน้ำแบบนี
บรรยาย First person#พักพิงค์3 ปีก่อน“เรียนจบแล้ว แต่งงานกันนะ?”“ฮะ?”วินาทีที่ผู้ชายที่ฉันแอบรักแอบชอบมานานแสนนาน มาขอฉันแต่งงานกลางห้องเรียนในวันสอบวันสุดท้าย ก่อนเรียนจบ วินาทีนั้นหัวใจฉันแทบจะหลุดออกจากอกเลยทีเดียวฉันได้แต่ยืนสตัน อ้าปากค้างต่อหน้าเขา ท่ามกลางสายตาของเพื่อนในห้องนับ 20 คน เพราะไม่รู้จะตอบออกไปว่าอย่างไงดี“ว่าไง?” “วะ.....ว่าไง คะ...คะ.....คืออะไรเหรอ?”“ที่ฉันถามไป?”ใบหน้าหล่อเหลาสุดแสนเย็นชายืนฟังคำตอบจากฉันด้วยความนิ่งเฉย เหมือนเป็นคำพูดแบบขอไปที แต่คนฟังอย่างฉันกลับหวั่นไหวไปเอง“เออ.........”“โอเค! วันเสาร์นี้ฉันจะไปขอเธอที่บ้านนะ”มือใหญ่ยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนจะเดินออกห้องเรียนของฉันไปตามปกติ ปล่อยให้ฉันยืนงงเป็นไก่ตาแตก อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ มากมาย ที่รีบเดินตรงเข้ามาหาฉัน เพื่อถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้“เกิดอะไรขึ้น มึงไปคบกับไอ้กีต้าร์เมื่อไหร่ว่ะ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย?”“แต่กูว่ามันแปลกๆ นะ ร้อยวัน
16อย่าลืมสถานะตัวเอง ณ สวนหย่อมในมหาลัย ผมที่นั่งติวข้อสอบของวันพรุ่งนี้ ให้กับเพื่อนๆ อยู่ ก็เหลือบไปเห็นยัยนั่น นั่งอยู่กับ ยัยวาวา และ เพื่อนผู้ชายอีก 3 คน ดูทรงคงสนิทสนมกันน่าดู แต่สิ่งที่มันทำให้ผมขัดหูขัดตามากเป็นพิเศษก็คือ เธอนั่งข้างเพื่อนผู้ชาย แถมยังทำหน้าตาระรื่น หัวเราะคิกคักจนอย่างจะเข้าไปกระทืบมันจริงๆ "เฮ้ย! ไอ้เปียโน มึงดูอะไรอยู่ว่ะ จ้องตาไม่กระพริบเลย" "ไอ้คัง มึงไปหาเด็กมาให้กูซักคนดิ" "ฮะ! เอาใครอ่ะ?" ผมพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆ สวนหย่อม เพื่อหาผู้หญิงมาควงเย้ยยัยนั่น ก่อนจะไปสะดุดตากับผู้หญิงคนนึงเข้า "เอาน้องคนนั้นอ่ะ" "ไหนว่ะ?" ผมชี้มือไปที่ ผู้หญิงที่ผมสะดุดตา ให้เพื่อนดู ก่อนที่มันจะพยักหน้าแล้วลุกขึ้นไปจีบน้องเขาให้ "น้องคับ?" "คะ?" "คือ พอดี พี่มีเรื่องให้ช่วยหน่อย" เพื่อนผมพยายามพูดกับน้องคนนั้น จนเธอลุกขึ้น เดินตรงมาพร้อมกับเพื่อนของผม เธอยกมือไหว้ผม ก่อนจะมานั่งลงบนเก้าอี้ไม้หินอ่อนข้างผม "น้องเขาชื่อ ข้าวฟ่าง มึงมีไรให้น้องเขาช่วยอ่ะ?" ผมเหลือบมองน้องข้าวฟ่างก่อนจะพยักหน้ารับไหว้ใส่เบาๆ และจ้องมองไปยังยัยนั่น "ข้าวฟ่าง หนูเห็นผู้หญิงคนน
เช้าวันรุ่งขึ้นผมนั่งจิบกาแฟและขนมปังเหมือนทุกเช้าก่อนไป มหาลัย เพื่อรอยัยนั่นลงมาจากห้องเพราะวันนี้ผมตั้งใจจะไป มหาลัยพร้อมกับเธอ แกร๊ก! เสียงประตูห้องเปิดออก พร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในชุดนักศึกษา กระโปรงสั้นอยู่บนหัวเข่าประมาณ 1 คืบเห็นจะได้ ลนลานผลัดวิ่งผลัดเดินลงบันได จนน่าสงสัย "สายแน่เลย!" "ฮัลโหล วาวา รอหน่อยนะกำลังออกไป" เมื่อเธอวิ่งมาถึงห้องโถง ผมก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เดินตามเธอมาติดๆ พร้อมกับรีบคว้าแขนเธอเอาไว้ อย่างรวดเร็ว จนเธอสะดุ้งสุดตัว"โอ๊ยเจ็บ!" ผมชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรอยช้ำที่แขนขวาด้านที่ผมจับอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป และพูดกลบเกลื่อนสิ่งที่เห็นแทน"ปล่อย! มีอะไร?" "รีบขนาดนี้ มีสอบใช่ไหม?" "อื้ม!" "งั้นไปกับฉัน" พูดจบผมก็ดึงแขนเธอให้เดินตามผมมาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะเรียกให้ป้านายไปเอากระโปรงตัวใหม่มาให้เธอ "ป้านายครับ รบกวนช่วยไปหยิบกระโปรงของพักพิงมาให้ผมทีนะคับ ขอตัวที่ยาวที่สุดนะคับ" ก่อนจะเหลือบมองไปยังกระโปรงตัวจิ๋วของเธอที่เห็นแทบจะทะลุไประหว่างขา"พอดี ผมไม่ชอบให้ใครมาเห็นขาขาวๆ ของเม
บรรยาย First person#เปียโน ผมนั่งดูกล้องวงจรปิด ที่ยัยนั่นกำลังเช็ดตัวให้กับน้องชายตัวเอง แล้วรู้สึกรังเกียจขึ้นมาทันที รังเกียจจนไม่อยากให้ยัยนี่เข้าใกล้ น้องชายของผม ปึก! "แม่งเอ๊ย" ผมละ แค้นเธอจริงๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ที่เธอคิดว่าผมเป็นกีต้าร์น้องชายตัวเอง ก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ยัยนี่มีดีอะไร ทำไมน้องผมถึงหลงเธอ ถึงขนาดยอมถูกล่อให้ไปโดนรถชน คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ "ฮัลโหล?" "ฮัลโหล ไอ้เปียโน ทำไมมึงรับสายช้าจังว่ะ" "มึงมีอะไร?" "พรุ่งนี้ มีสอบ มึงจะมาไหม?" "อื้ม! ไปดิ ต้องไปแทนไอ้เจ้าชายนินทานี่อยู่แล้ว" ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่เพื่อน จนมันรู้สึกสงสัย "ไอ้เปียโน มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ น้ำเสียงอย่างกับหงุดหงิดอะไรมา" "ไม่มีอะไรหรอก" "แน่เหรอว่ะ หรือว่า ยัยนั่นทำอะไรมึง" "ใคร?" "เอ้า ก็แฟนน้องชายฝาแฝดมึงไง ที่มึงไปหลอกมาแต่งงานด้วยอ่ะ" "เสือก!" "เอ้า กูได้ข่าว สวยใช่เล่นเลยเหรอว่ะ พรุ่
เขาดึงท่อนแข็งหนาออก พร้อมกับรูดซิปกางเกงขึ้นในทันที และดึงกระเป๋าตังออกมา เอาเงินโยนใส่ตัวฉันที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา "เอาไปซื้อยาคุมกินซะ! ของฉันเข้าไปลึกขนาดนั้น ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้แล้ว" ฉันที่ลุกขึ้นนั่งด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ก็พยายามข่มน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเอาไว้ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เหมือนเดิมมากที่สุด ก่อนจะลุกขึ้น ดึงกระโปรงลง "ฉันออกไปได้หรือยัง?" "ฮึก!" "ออกไปสิ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับเอา แอลกอฮอล์ มาเช็ดมือและฉีดไปตามร่างกายของตัวเอง ฉันคงดูสกปรกสำหรับเขามากเลยสินะ ฉันพยายามข่มน้ำตาตัวเองไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนจะเดินไป เปิดประตูห้องเพื่อจะได้ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จะได้ชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในตัวฉัน"เดี๋ยวก่อน!" "ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาอยู่ดูแลน้องชายของฉัน เธอต้องนอนอยู่ในห้องนี้ จนกว่าน้องชายของฉันจะฟื้น พอน้องชายของฉันฟื้นแล้ว เธอก็ค่อยไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วอย่ากลับมาให้พวกเราเห็นหน้าอีก" "เข้าใจที่ฉันพูดไหม พักพิง" ฉันพยั
"คนอย่างมึง มันสมควรตายแทนน้องกู""คุณ ฉันขอโทษ""มึงรู้ไหม วันที่กูไปดูกล้องวงจรปิด ที่โรงเรียน กูต้องเห็นอะไรบ้าง กูนั่งอ่านไดอารี่ของน้องตัวเอง แล้วรู้สึกอย่างไงบ้าง! ""ฮึก! ฮึก!""กูต้องเห็นน้องชายตัวเองถูกแกล้งทุกวัน ถูกกระทืบ ถูกตี ถูกใช้ให้กราบตีนไอ้พวกเวรนั่น ถูกเขียนเต็มเสื้อผ้า ถูกประจานว่าเป็นผู้ชายขายตัว และ สุดท้าย ก็ถูกคนรักอย่างมึง หักหลัง จนต้องมานอนเป็นผักอยู่แบบเนี่ย แบบเนี่ย! มึงเห็นไหม"เขากระชากคอเสื้อฉัน ให้ลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้มือไปที่คนบนเตียงอย่างเดือดดาล ดวงตาคม จ้องมองฉันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้ ก่อนจะเดินไปหยิบ ไดอารี่ ของน้องชายตัวเองออกมาจากในลิ้นชักข้างเตียง"มึงลองดูสิ มันเขียนไดอารี่เล่มนี้ ทุกวัน ว่ามันถูกทำอะไรบ้าง ว่ามันโดนอะไรบ้าง ว่ามันรักมึงขนาดไหน?"ฉันรีบหยิบไดอารี่จากมือของเขามาเปิดอ่านดูอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างมันดูเจ็บปวด ในไดอารี่เขาบอกว่า เขาอยากจะสู้พวกมัน แต่หากมีเรื่องแม่ของเขาจะเดือดร้อน เพราะลำพังแม่ของเขาก็หาเช้ากินค่ำ หลังจาก
ทำไม ฉันจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขาสักหน่อย ตอนถูกรถชน ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาถูกรถชนได้อย่างไง มารู้อีกที ก็มีข่าวลือ ทั่วโรงเรียนแล้วว่าเขาถูกรถชนแต่นี่อะไร ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เขาถูกรถชนก็ไม่เชื่อปึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!"พักพิง เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!""พี่กีต้าร์ ใจเย็นสิคะ เรากลับห้องไปสนุกด้วยกันเถอะ""ออกไป เอาเงินที่ห้องฉันแล้วออกไปซะ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี""อ่าว! แล้วที่คุยกันว่าจะพาไปดูหนังล่ะ?""ก็บอกว่า วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีไง""ได้ค่ะ"เสียงเคาะประตูห้องฉัน พร้อมกับเสียงทะเลาะกันของสองคนนั้น ทำให้ฉันเริ่มจะหงุดหงิดใจ เอาว่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไปเป็นขอทานข้างถนน มันก็คงไม่ได้แย่เท่าไหร่ กลับบ้านเถอะ แล้วค่อยทำงานใช้หนีไอ้เวรนี่อย่างน้อยมันอาจจะสบายใจกว่าอยู่ที่ๆ ทำให้ฉันทุกข์ใจแบบนี้ ก็ได้ พอคิดได้แบบนี้ ฉันก็ไม่รีรอ ที่จะรีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋า และทิ้งห้องที่หรูหรานี้เอาไว้อยู่เบื้องหลัง "พักพิง ฉันบอกให้เปิดประตูไง ไม่ได้ยินหรือไง!"
กลับสู่ปัจจุบัน บรรยายแบบ Third person บุรุษที่ 3."โอ๊ย!!!! ไอ้คัง เบาๆ สิว่ะ เจ็บไอ้สัส" "ดีนะ นี่แค่หัวแตก เขาไม่เอาโซ่ล่ามขามัดคอมึงตายก็บุญแล้ว" คังเพื่อนสนิทของชายหนุ่มช่วยประคบเย็นแก้บวมช้ำให้กับเขาอย่างหัวเสีย เพราะไม่ชอบใจที่ ชายหนุ่มนั้นจับตัวเมียเก่าของตนเข้ามาขังไว้ "ไอ้เพื่อนโง่ มึงเป็นโรคประสาทอะไรเนี่ย ไปจับยัยนั่นมาทำไม แล้วงี้ ลูกๆ มึงจะอยู่อย่างไงก่อน" "ช่างกูเถอะ แม่งเมียหอบลูกหนี ใครจะไปทนรับได้ว่ะ" "เฮอะๆ นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่ามึงผิดอะไร เป็นกู ถ้ากูเป็นยัยพักพิง กูก็ทำเหมือนกันแหละ ไอ้ชิบหาย" "ไอ้เวร มึงควรจะช่วยกู ไม่ใช่ซ้ำเติม" "นี่ ยัยพักพิง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแฝดน้องมึงถูกรถชนเลยด้วยซ้ำ แล้วมึงก็ได้ทำร้ายจิตใจเขาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า มึงคิดว่าเขาจะยอมให้อภัยมึงง่ายๆ เลยเหรอ ไอ้เวร" "ก็กูไม่รู้ไง" "ก็เขาก็ไม่รู้ว่าผิดอะไรเหมือนกัน มึงควรง้อเขาดีๆ ไม่ใช่จับตัวเขามาแบบนี้ มึงมันโคตรเห็นแก่ตัวเลย" "เออ กูมันเห็นแก่ตัวก็กูรักเขา กูไม่อ
"ตายจริง ล้มทั้งยืนเลยเหรอคะ?" "ตายแล้ว คุณพักพิง ทำไมไปนั่งที่พื้นแบบนี้ละคะ" ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ ร่างกายชาไปหมด มันขยับไปไหนไม่ได้เลย ทำได้เพียงนั่งจ้องหน้าชายตรงหน้า ที่ฉันรักสุดหัวใจ "อ๋อ นี่เหรอคะ ป้านายแม่บ้านของที่นี่ สวัสดีค่ะ หนูเป็นแฟน ของพี่กีต้าร์ ชื่อ เอมมี่ค่ะ " ป้านายรับไหว้ผู้หญิงคนนั้นอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะรีบมาประคองตัวฉันให้ลุกขึ้น "คุณพักพิงลุกขึ้นนะคะ เดี๋ยวป้าพากลับห้องค่ะ" "ค่ะ ป้านาย" ฉันพูดกับป้านายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนจะมีเสียงทุ้มแทรกขึ้น "ทำไม รับไม่ได้เหรอ?" ฉันไม่ได้หันหลังกลับไปมองตามเสียงนั้น แต่กลับรีบเดินตรงไปยังบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากทนเห็น คนที่ฉันรักมีคนอื่นแทนฉัน "ในเมื่อนายก็มีคนอื่นแทนฉันแล้ว งั้นฉันคงไม่มีอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่อีก" "เธอว่าไงนะ พักพิง" เสียงทุ้มตะคอกถามฉันอย่างดุดัน จนฉันเองก็เริ่มกลัวเขาเข้าแล้วเหมือนกัน มือใหญ่พุ่งตัวมากระชากแขนฉันอย่างแรง จนฉันตัวเซ เพื่อให้หันไปมองหน้าเขา ที่กำลังเดือดดาลก
นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขายอมกอดฉัน โดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอ กีต้าร์นายจะรู้ไหม ว่าฉันดีใจขนาดไหน ที่นายยอมกอดฉัน เหมือนกับที่ฉันสัมผัสนาย "เราขอพรให้ พักพิงรักเรา และหายน้อยใจเราไง เราขอโทษนะ ที่เมื่อคืนผิดนัด พอดี เราเมามากไปหน่อย แต่ต่อไป เราจะปรับปรุงตัวนะคับ" โถ่!! หัวใจ แค่เขาขอโทษแค่นี้ ใจฉันก็บางจนไม่สามารถที่จะน้อยใจเขาต่อได้อีกแล้ว คนอะไร ทำให้ใจฉันบางได้ขนาดนี้นะ "พักพิง หันหน้ามาหน่อยได้ไหม?" ฉันหันหน้าไปหาเขาอย่างรวดเร็วราวกับถูกต้องมนต์สะกด ก่อนที่ริมฝีปากหนา จะเข้ามาประกบจูบฉันอย่างแผ่วเบา และค่อยๆ เริ่มดูดดื่มขึ้น "อื้ม" ฉันเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่าครั้งนี้ ฉันอาจจะต้องให้ครั้งแรกกับเขาแล้วล่ะ เพราะในเมื่อเขาเริ่มเปิด และดูดดื่มขนาดนี้ มันก็คงเป็นอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว "กีต้าร์?" "ขึ้นห้องกันนะคับ" "อื้ม!" บนห้องนอนของกีต้าร์ ที่สุดแสนจะหรูหรา เขาได้วางฉันลงบนเตียงใหญ่สีขาว ที่อบอุ่นไปด้วยไออุ่น ที่เขาพึ่งตื่นนอน ริ