ทำไม ฉันจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขาสักหน่อย ตอนถูกรถชน ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาถูกรถชนได้อย่างไง มารู้อีกที ก็มีข่าวลือ ทั่วโรงเรียนแล้วว่าเขาถูกรถชน
แต่นี่อะไร ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เขาถูกรถชนก็ไม่เชื่อ ปึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ! "พักพิง เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!" "พี่กีต้าร์ ใจเย็นสิคะ เรากลับห้องไปสนุกด้วยกันเถอะ" "ออกไป เอาเงินที่ห้องฉันแล้วออกไปซะ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี" "อ่าว! แล้วที่คุยกันว่าจะพาไปดูหนังล่ะ?" "ก็บอกว่า วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีไง" "ได้ค่ะ" เสียงเคาะประตูห้องฉัน พร้อมกับเสียงทะเลาะกันของสองคนนั้น ทำให้ฉันเริ่มจะหงุดหงิดใจ เอาว่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไปเป็นขอทานข้างถนน มันก็คงไม่ได้แย่เท่าไหร่ กลับบ้านเถอะ แล้วค่อยทำงานใช้หนีไอ้เวรนี่ อย่างน้อยมันอาจจะสบายใจกว่าอยู่ที่ๆ ทำให้ฉันทุกข์ใจแบบนี้ ก็ได้ พอคิดได้แบบนี้ ฉันก็ไม่รีรอ ที่จะรีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋า และทิ้งห้องที่หรูหรานี้เอาไว้อยู่เบื้องหลัง "พักพิง ฉันบอกให้เปิดประตูไง ไม่ได้ยินหรือไง!" แกร๊ก!! ฉันเปิดประตูมาพร้อมกับ กระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย จนร่างสูงตรงหน้าถึงกับชะงักไป กับสิ่งที่ฉันทำอยู่ต่อหน้าเขา "พักพิง!" เขาเอ่ยชื่อฉันด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก พร้อมกับกัดกรามแน่นจนเป็นสันนูน "เธอกล้าดีอย่างไง ถึงจะออกไปจากบ้าน" ฉันไม่ได้สนใจคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย กลับกันฉันรีบเดินลากกระเป๋าเสื้อผ้า ลงบันไดบ้านอย่างรวดเร็ว แต่แล้ว มือใหญ่ก็กระชากแขนของฉันอย่างแรง จนตัวฉันหันไปกระแทกใส่แผงอกกว้าง ตุบ! "ไม่ได้ยินที่ฉันถามเหรอ?" แววตาเดือดดาลของเขา ทำให้ฉันรู้สึกกลัวอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าให้เทียบกับความเจ็บปวดภายในใจที่มีมากล้น ฉันก็คงรับมันไม่ไหวอีกแล้ว "มึงเป็นเมียกู มึงต้องอยู่ที่นี่ เพื่อชดใช้ในสิ่งที่มึงทำ พักพิง" เพี้ยะ! ฉันตบหน้าเขาอย่างแรงเพื่อเรียกสติอันบ้าคลั่งของเขา ให้หยุดฟุ่งซ่าน กับสิ่งที่ฉันไม่ได้ทำ "อย่ามาใช้คำพูดหยาบคายกับฉันนะ กีต้าร์ นายมีอะไรให้ฉันบ้าง ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ มีแต่ฉัน ที่เสียกับเสีย เสียตัว เสียใจ เสียทุกอย่าง เสียแม้กระทั่งความรู้สึกที่จะรักนาย" ฉันตะคอกเสียงใส่เขาด้วยน้ำเสียงสะอื้นออกไปอย่างเจ็บปวด หัวใจฉันแตกสลายจนแทบจะต่อกันไม่ติดแล้ว "เสียงั้นเหรอ! พิง แล้วสิ่งที่มึงทำกับกีต้าร์น้องกูล่ะ มันเรียกอะไร?" "อะไรนะ?" ใจฉันกระตุกวูบ เมื่อได้ยินผู้ชายตรงหน้าเอ่ยว่า กีต้าร์คือน้องชาย แล้วคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันล่ะ เขาคือใคร "นายบอกว่า กีต้าร์คือน้องชาย แล้วนายคือใครกัน?" "เธออยากรู้มากนักใช่ไหม มานี่!" เขากระชากแขนฉันอย่างแรง ให้เดินตามไปยังห้องของน้องชายตัวเอง ที่ฉันเห็นรถโรงพยาบาลขับมาส่งเมื่อช่วงเย็นของวันนี้ หลังจากที่ฉันกลับมาจากมหาลัย ก่อนจะเปิดประตูห้องนั้นออก แต่แล้ว ฉันก็ต้องตะลึงงังอีกครั้ง เพราะคนที่นอนบนเตียงใหญ่ ในห้องคือ ชายหนุ่มร่างสูง หน้าตาเหมือนกับผู้ชายที่ดึงแขนฉันเอาไว้อย่างกับฝาแฝด แต่เขามีเครื่องช่วยหายใจ และสายน้ำเกลืออยู่ที่ตัว ณ เวลานั้น ร่างกายฉันสั่นระรัว หัวใจเต้นจนนับจังหวะไม่ได้ หูมันอื้อไปหมด นี่มันเรื่องอะไรกัน มันเกิดอะไรขึ้นกับฉัน ผู้ชายที่กระชากแขนฉันให้เดินมาตรงนี้คือใคร แล้วผู้ชายที่นอนเป็นผักตรงนั้นคือใคร ตัวฉันแทบยืนไม่อยู่ ทำได้เพียงเดินเข้าไปใกล้ๆ ร่างที่นอนโคม่าอยู่ตรงนั้น อย่างเจ็บปวด มันเป็นเพราะฉันจริงๆ เหรอ เพราะฉัน ที่ทำให้กีต้าร์ต้องเป็นแบบนี้ ต้องมานอนโคม่าอยู่แบบนี้เหรอ ถ้าวันนั้น กีต้าร์ไม่ได้ยินที่ฉันแอบคุยกับ วาวา ว่าฉันชอบเขา เขาคงไม่รีบวิ่งหนีไปแบบนั้น "หมอบอก ตอนถูกรถชน สมองของน้องชายฉันได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่ถึงกับสมองตาย อาจจะแค่โคม่า อีก 4 สัปดาห์ ก็น่าจะฟื้น" " 4 อาทิตย์หลังจากกีต้าร์ ถูกรถชน" ฉันสบถออกมาก่อนเอ่ยถาม คนที่ยืนอยู่ข้างฉันอย่างสงสัย "ตั้งแต่ตอนที่ นายไปขอฉันแต่งงานที่โรงเรียนนั่นเหรอ?" "ใช่! แม่เลยโทรมาหาพ่อ ขอให้ช่วยพาน้องชายของฉัน ไปรักษาต่อที่ อเมริกา แต่เพราะมีปัญหาหลายอย่างในการเดินทาง พ่อจึงส่งแค่หมอมา จากนั้นพวกท่านก็ทะเลาะกันใหญ่โต เรื่องของน้องชายฉัน ประจวบเหมาะกับ ตอนนั้นก็ใกล้เป็นวันสอบจบ ม.6 ของกีต้าร์พอดี" "งั้นข่าวลือ ที่วาวาบอกก็เรื่องจริงน่ะสิ" ฉันพึมพำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา ครุ่นคิดถึงสิ่งที่วาวา เล่าให้ฟัง ก่อนจะหันไปมองชายร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างฉัน "เธอรู้ไหม ว่าวันที่น้องชายฝาแฝดของฉันถูกรถชน มันคือวันที่ฉัน บินมาเซอร์ไพรส์พวกเขา ที่เมืองไทย" ฉันเริ่มน้ำตาคลอตามคำพูดของเขา ที่ฟังแล้ว มันสุดแสนจะเจ็บปวด จนฉันไม่อาจที่จะให้อภัยตัวเองได้อีกแล้ว "พอฉันบินมาถึงสนามบิน แม่ก็โทรมาบอกว่า ให้ฉันไปหาที่โรงพยาบาล ตอนนี้น้องชายของฉันถูกรถชน อาการสาหัส เธอรู้ไหม หัวใจฉันแทบแตกสลาย พ่อก็คนหนึ่งแล้ว ที่ทำให้ครอบครัวแตกแยก แล้วนี่เธอ ยังจะพรากน้องชายของฉันไปอีกเหรอ?!" เขากระชากแขนเสื้อฉันลุกขึ้นจากเตียงนอนของกีต้าร์ แล้วผลักตัวฉันล้มลงกับพื้นอย่างแรง ตุบ! วินาทีนี้ ฉันรู้แล้ว ฉันมันผิดเอง ที่ทำให้ เขาต้องผลัดพรากจากกัน "เธอรู้ไหม พิง พอฉันไปถึง โรงพยาบาล น้องชายของฉัน มันเรียกแต่ชื่อของเธอ มันเหม่อลอย เรียกแต่ชื่อของเธอ พิง พิง! พิง พิง!" "ฉันรู้แล้ว ฮื้ออออออ!!! ฉันผิดเอง ฮื้อออออออ!!!" ฉันยกมือขึ้นไหว้คนตรงหน้าอย่างรู้สึกผิด ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ว่าทำไมเขาถึงอยากแก้แค้นฉัน เพราะฉันเอง ฉันเองที่ทำร้ายเขาก่อน "มึงไหว้กูทำไม พิง มึงควรไปไหว้ขอโทษคนที่นอนอยู่บนเตียงนู่น อาการน้องกู จากโคม่า 4 สัปดาห์ที่หมอบอกว่า จะฟื้น กลับกลายเป็น เจ้าชายนินทา มาจนถึงทุกวันนี้ มึงได้ยินไหมมมมม" ฉันสะอื้นหนักขึ้น ในใจก็คิดอยากจะไปเป็น เจ้าหญิงนินทา แทนเขาเหลือเกิน ฉันมันผิดเอง ที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ "กีต้าร์ เราขอโทษ เราขอโทษนะ ฮื้อออออ! ฮึก" "ที่มึงบอกว่า มึงเสีย มึงเสียแค่นี้ มันยังน้อยไป กับชีวิต ที่ต้องแลกกับน้องกู ที่นอนเป็นผักแบบนี้มึงคิดว่า มึงเสียแค่นี้ มึงบอกมึงรับไม่ได้งั้นเหรอ?" เสียงเดือดดาลของเขาดังขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับอารมณ์ ที่เริ่มรุนแรงใส่ฉัน"คนอย่างมึง มันสมควรตายแทนน้องกู""คุณ ฉันขอโทษ""มึงรู้ไหม วันที่กูไปดูกล้องวงจรปิด ที่โรงเรียน กูต้องเห็นอะไรบ้าง กูนั่งอ่านไดอารี่ของน้องตัวเอง แล้วรู้สึกอย่างไงบ้าง! ""ฮึก! ฮึก!""กูต้องเห็นน้องชายตัวเองถูกแกล้งทุกวัน ถูกกระทืบ ถูกตี ถูกใช้ให้กราบตีนไอ้พวกเวรนั่น ถูกเขียนเต็มเสื้อผ้า ถูกประจานว่าเป็นผู้ชายขายตัว และ สุดท้าย ก็ถูกคนรักอย่างมึง หักหลัง จนต้องมานอนเป็นผักอยู่แบบเนี่ย แบบเนี่ย! มึงเห็นไหม"เขากระชากคอเสื้อฉัน ให้ลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้มือไปที่คนบนเตียงอย่างเดือดดาล ดวงตาคม จ้องมองฉันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้ ก่อนจะเดินไปหยิบ ไดอารี่ ของน้องชายตัวเองออกมาจากในลิ้นชักข้างเตียง"มึงลองดูสิ มันเขียนไดอารี่เล่มนี้ ทุกวัน ว่ามันถูกทำอะไรบ้าง ว่ามันโดนอะไรบ้าง ว่ามันรักมึงขนาดไหน?"ฉันรีบหยิบไดอารี่จากมือของเขามาเปิดอ่านดูอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างมันดูเจ็บปวด ในไดอารี่เขาบอกว่า เขาอยากจะสู้พวกมัน แต่หากมีเรื่องแม่ของเขาจะเดือดร้อน เพราะลำพังแม่ของเขาก็หาเช้ากินค่ำ หลังจาก
เขาดึงท่อนแข็งหนาออก พร้อมกับรูดซิปกางเกงขึ้นในทันที และดึงกระเป๋าตังออกมา เอาเงินโยนใส่ตัวฉันที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา "เอาไปซื้อยาคุมกินซะ! ของฉันเข้าไปลึกขนาดนั้น ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้แล้ว" ฉันที่ลุกขึ้นนั่งด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ก็พยายามข่มน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเอาไว้ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เหมือนเดิมมากที่สุด ก่อนจะลุกขึ้น ดึงกระโปรงลง "ฉันออกไปได้หรือยัง?" "ฮึก!" "ออกไปสิ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับเอา แอลกอฮอล์ มาเช็ดมือและฉีดไปตามร่างกายของตัวเอง ฉันคงดูสกปรกสำหรับเขามากเลยสินะ ฉันพยายามข่มน้ำตาตัวเองไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนจะเดินไป เปิดประตูห้องเพื่อจะได้ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จะได้ชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในตัวฉัน"เดี๋ยวก่อน!" "ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาอยู่ดูแลน้องชายของฉัน เธอต้องนอนอยู่ในห้องนี้ จนกว่าน้องชายของฉันจะฟื้น พอน้องชายของฉันฟื้นแล้ว เธอก็ค่อยไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วอย่ากลับมาให้พวกเราเห็นหน้าอีก" "เข้าใจที่ฉันพูดไหม พักพิง" ฉันพยั
บรรยาย First person#เปียโน ผมนั่งดูกล้องวงจรปิด ที่ยัยนั่นกำลังเช็ดตัวให้กับน้องชายตัวเอง แล้วรู้สึกรังเกียจขึ้นมาทันที รังเกียจจนไม่อยากให้ยัยนี่เข้าใกล้ น้องชายของผม ปึก! "แม่งเอ๊ย" ผมละ แค้นเธอจริงๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ที่เธอคิดว่าผมเป็นกีต้าร์น้องชายตัวเอง ก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ยัยนี่มีดีอะไร ทำไมน้องผมถึงหลงเธอ ถึงขนาดยอมถูกล่อให้ไปโดนรถชน คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ "ฮัลโหล?" "ฮัลโหล ไอ้เปียโน ทำไมมึงรับสายช้าจังว่ะ" "มึงมีอะไร?" "พรุ่งนี้ มีสอบ มึงจะมาไหม?" "อื้ม! ไปดิ ต้องไปแทนไอ้เจ้าชายนินทานี่อยู่แล้ว" ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่เพื่อน จนมันรู้สึกสงสัย "ไอ้เปียโน มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ น้ำเสียงอย่างกับหงุดหงิดอะไรมา" "ไม่มีอะไรหรอก" "แน่เหรอว่ะ หรือว่า ยัยนั่นทำอะไรมึง" "ใคร?" "เอ้า ก็แฟนน้องชายฝาแฝดมึงไง ที่มึงไปหลอกมาแต่งงานด้วยอ่ะ" "เสือก!" "เอ้า กูได้ข่าว สวยใช่เล่นเลยเหรอว่ะ พรุ่
เช้าวันรุ่งขึ้นผมนั่งจิบกาแฟและขนมปังเหมือนทุกเช้าก่อนไป มหาลัย เพื่อรอยัยนั่นลงมาจากห้องเพราะวันนี้ผมตั้งใจจะไป มหาลัยพร้อมกับเธอ แกร๊ก! เสียงประตูห้องเปิดออก พร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในชุดนักศึกษา กระโปรงสั้นอยู่บนหัวเข่าประมาณ 1 คืบเห็นจะได้ ลนลานผลัดวิ่งผลัดเดินลงบันได จนน่าสงสัย "สายแน่เลย!" "ฮัลโหล วาวา รอหน่อยนะกำลังออกไป" เมื่อเธอวิ่งมาถึงห้องโถง ผมก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เดินตามเธอมาติดๆ พร้อมกับรีบคว้าแขนเธอเอาไว้ อย่างรวดเร็ว จนเธอสะดุ้งสุดตัว"โอ๊ยเจ็บ!" ผมชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรอยช้ำที่แขนขวาด้านที่ผมจับอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป และพูดกลบเกลื่อนสิ่งที่เห็นแทน"ปล่อย! มีอะไร?" "รีบขนาดนี้ มีสอบใช่ไหม?" "อื้ม!" "งั้นไปกับฉัน" พูดจบผมก็ดึงแขนเธอให้เดินตามผมมาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะเรียกให้ป้านายไปเอากระโปรงตัวใหม่มาให้เธอ "ป้านายครับ รบกวนช่วยไปหยิบกระโปรงของพักพิงมาให้ผมทีนะคับ ขอตัวที่ยาวที่สุดนะคับ" ก่อนจะเหลือบมองไปยังกระโปรงตัวจิ๋วของเธอที่เห็นแทบจะทะลุไประหว่างขา"พอดี ผมไม่ชอบให้ใครมาเห็นขาขาวๆ ของเม
16อย่าลืมสถานะตัวเอง ณ สวนหย่อมในมหาลัย ผมที่นั่งติวข้อสอบของวันพรุ่งนี้ ให้กับเพื่อนๆ อยู่ ก็เหลือบไปเห็นยัยนั่น นั่งอยู่กับ ยัยวาวา และ เพื่อนผู้ชายอีก 3 คน ดูทรงคงสนิทสนมกันน่าดู แต่สิ่งที่มันทำให้ผมขัดหูขัดตามากเป็นพิเศษก็คือ เธอนั่งข้างเพื่อนผู้ชาย แถมยังทำหน้าตาระรื่น หัวเราะคิกคักจนอย่างจะเข้าไปกระทืบมันจริงๆ "เฮ้ย! ไอ้เปียโน มึงดูอะไรอยู่ว่ะ จ้องตาไม่กระพริบเลย" "ไอ้คัง มึงไปหาเด็กมาให้กูซักคนดิ" "ฮะ! เอาใครอ่ะ?" ผมพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆ สวนหย่อม เพื่อหาผู้หญิงมาควงเย้ยยัยนั่น ก่อนจะไปสะดุดตากับผู้หญิงคนนึงเข้า "เอาน้องคนนั้นอ่ะ" "ไหนว่ะ?" ผมชี้มือไปที่ ผู้หญิงที่ผมสะดุดตา ให้เพื่อนดู ก่อนที่มันจะพยักหน้าแล้วลุกขึ้นไปจีบน้องเขาให้ "น้องคับ?" "คะ?" "คือ พอดี พี่มีเรื่องให้ช่วยหน่อย" เพื่อนผมพยายามพูดกับน้องคนนั้น จนเธอลุกขึ้น เดินตรงมาพร้อมกับเพื่อนของผม เธอยกมือไหว้ผม ก่อนจะมานั่งลงบนเก้าอี้ไม้หินอ่อนข้างผม "น้องเขาชื่อ ข้าวฟ่าง มึงมีไรให้น้องเขาช่วยอ่ะ?" ผมเหลือบมองน้องข้าวฟ่างก่อนจะพยักหน้ารับไหว้ใส่เบาๆ และจ้องมองไปยังยัยนั่น "ข้าวฟ่าง หนูเห็นผู้หญิงคนน
"อย่านะ!" "พี่ผลักมันเลย" "ไม่!!!!! อ๊ากกกก!" โครม!!! ร่างใหญ่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย ถูกรถคันหรูชนอัดเข้าร่างอย่างเต็มแรง จนตัวลอยขึ้นไปกระแทกกับกระจกหน้ารถเข้าอย่างจัง รถที่ชนต้องหยุดลงกระทันหัน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มือของคนขับเย็นเฉียบใบหน้าซีดเผือด จนต้องรีบลนลานลงจากรถ เพื่อมาดูคนเจ็บ ปัง! "ไอ้เหี้ย มันตายเปล่าว่ะ?" "หุบปาก! พวกมึงเงียบไว้ อย่าให้ใครรู้ ทำตัวให้ปกติที่สุด" เด็กในกลุ่มทั้ง 5 คนยืนมุงดูภาพของชายหนุ่มถูกรถชนไปต่อหน้าต่อตาอย่างนิ่งเฉย มีเพียงคนที่ขับรถเพียงคนเดียว ที่ยังลนลานขาดสติ "มึง กูแค่ตั้งใจชนเบาๆ เองนะ แล้วจะทำไงดี" ชายร่างสูงนิ่งเงียบ จ้องมองดูภาพชายที่นอนแน่นิ่งบนกระโปรงรถอยู่ตรงหน้าอย่างคิดวิเคราะห์ ก่อนจะเริ่มทำการจัดฉาก "เดี๋ยวกูจัดการเอง" ************************ ปัจจุบัน แกร๊ก!!! แคร่ง!!! “ออกไป!” “กินข้าวซะ ฉันไม่ได้มีเวลามาง้อเธอมากมายหรอกนะ” “กูบอกให้ออกไป!” ร่างบางนั่งกอดเข่า แผ่นหลังพิงผนังห้องอย่างหมดความหวัง นัยน์ตาแผ่รังสีความเกลียดชังออกมาอย่างรุนแรง “เธออยู่ที่นี่มา 1 อาทิตย์แล้วนะ ถ้าเธอจะไม่กินข้าวกินน้ำแบบนี
บรรยาย First person#พักพิงค์3 ปีก่อน“เรียนจบแล้ว แต่งงานกันนะ?”“ฮะ?”วินาทีที่ผู้ชายที่ฉันแอบรักแอบชอบมานานแสนนาน มาขอฉันแต่งงานกลางห้องเรียนในวันสอบวันสุดท้าย ก่อนเรียนจบ วินาทีนั้นหัวใจฉันแทบจะหลุดออกจากอกเลยทีเดียวฉันได้แต่ยืนสตัน อ้าปากค้างต่อหน้าเขา ท่ามกลางสายตาของเพื่อนในห้องนับ 20 คน เพราะไม่รู้จะตอบออกไปว่าอย่างไงดี“ว่าไง?” “วะ.....ว่าไง คะ...คะ.....คืออะไรเหรอ?”“ที่ฉันถามไป?”ใบหน้าหล่อเหลาสุดแสนเย็นชายืนฟังคำตอบจากฉันด้วยความนิ่งเฉย เหมือนเป็นคำพูดแบบขอไปที แต่คนฟังอย่างฉันกลับหวั่นไหวไปเอง“เออ.........”“โอเค! วันเสาร์นี้ฉันจะไปขอเธอที่บ้านนะ”มือใหญ่ยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนจะเดินออกห้องเรียนของฉันไปตามปกติ ปล่อยให้ฉันยืนงงเป็นไก่ตาแตก อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ มากมาย ที่รีบเดินตรงเข้ามาหาฉัน เพื่อถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้“เกิดอะไรขึ้น มึงไปคบกับไอ้กีต้าร์เมื่อไหร่ว่ะ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย?”“แต่กูว่ามันแปลกๆ นะ ร้อยวัน
ฉันกระตุกมือวาวาเบาๆ เพื่อบอกให้เธอหยุดโต้เถียงกับคนตรงหน้า ก่อนที่ร่างใหญ่จะเอ่ยถามขึ้น“ในห้อง 6/6 ก็มีใครชื่อ พิง เหมือนยัยนี่บ้างล่ะ?”“………”“ถ้าไม่มี งั้นก็แปลว่า ยัยนี่เป็นเมียฉัน”“ห๊ะ?”ฉันอุทานออกมาเสียงดัง จนวาวาต้องรีบหันมอง ก่อนที่เธอจะเดินขึ้นมา เอาตัวบังร่างฉันไว้อย่างกล้าหาญ“นี่ กีต้าร์ ฉันว่านายต้องเข้าใจอะไรผิดแล้วแน่ๆ เลยว่ะ เมื่อก่อนนายไม่เคยแล สายตามอง ยัยพักพิง เลยด้วยซ้ำ แต่พอมาวันนี้ นายบอกว่า ยัยพักพิงเป็นเมียนาย สมองนายผิดปกติอะไรรึเปล่าเนี้ย?”“ช่างเถอะ กีต้าร์เขาพึ่งออกจากโรงพยาบาลนะ สติ สตัง คงยังไม่ค่อยกลับมาหรอก เรากลับบ้านกันเถอะ วาวา เดี๋ยวแม่ด่าฉันแย่เลย ถ้าฉันกลับค่ำน่ะ”“เดี๋ยวฉันจะไปส่ง ขึ้นรถเถอะ ฉันไม่ทำอะไรพวกเธอหรอก”แขนใหญ่กระชากแขนฉันอย่างแรง ก่อนจะรีบลากตัวฉันกับวาวาขึ้นรถ“โอ๊ย! กีต้าร์เราเจ็บ”ปึก! ประตูรถหรูปิดลงอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าฉันกับวาวาจะรีบวิ่งหนีออกจากรถไปอย่างไงอย่างงั้น“บ้านเธออยู่ไหน?”“บะ….บ้านฉันอยู่ ซ
16อย่าลืมสถานะตัวเอง ณ สวนหย่อมในมหาลัย ผมที่นั่งติวข้อสอบของวันพรุ่งนี้ ให้กับเพื่อนๆ อยู่ ก็เหลือบไปเห็นยัยนั่น นั่งอยู่กับ ยัยวาวา และ เพื่อนผู้ชายอีก 3 คน ดูทรงคงสนิทสนมกันน่าดู แต่สิ่งที่มันทำให้ผมขัดหูขัดตามากเป็นพิเศษก็คือ เธอนั่งข้างเพื่อนผู้ชาย แถมยังทำหน้าตาระรื่น หัวเราะคิกคักจนอย่างจะเข้าไปกระทืบมันจริงๆ "เฮ้ย! ไอ้เปียโน มึงดูอะไรอยู่ว่ะ จ้องตาไม่กระพริบเลย" "ไอ้คัง มึงไปหาเด็กมาให้กูซักคนดิ" "ฮะ! เอาใครอ่ะ?" ผมพยายามกวาดสายตามองไปรอบๆ สวนหย่อม เพื่อหาผู้หญิงมาควงเย้ยยัยนั่น ก่อนจะไปสะดุดตากับผู้หญิงคนนึงเข้า "เอาน้องคนนั้นอ่ะ" "ไหนว่ะ?" ผมชี้มือไปที่ ผู้หญิงที่ผมสะดุดตา ให้เพื่อนดู ก่อนที่มันจะพยักหน้าแล้วลุกขึ้นไปจีบน้องเขาให้ "น้องคับ?" "คะ?" "คือ พอดี พี่มีเรื่องให้ช่วยหน่อย" เพื่อนผมพยายามพูดกับน้องคนนั้น จนเธอลุกขึ้น เดินตรงมาพร้อมกับเพื่อนของผม เธอยกมือไหว้ผม ก่อนจะมานั่งลงบนเก้าอี้ไม้หินอ่อนข้างผม "น้องเขาชื่อ ข้าวฟ่าง มึงมีไรให้น้องเขาช่วยอ่ะ?" ผมเหลือบมองน้องข้าวฟ่างก่อนจะพยักหน้ารับไหว้ใส่เบาๆ และจ้องมองไปยังยัยนั่น "ข้าวฟ่าง หนูเห็นผู้หญิงคนน
เช้าวันรุ่งขึ้นผมนั่งจิบกาแฟและขนมปังเหมือนทุกเช้าก่อนไป มหาลัย เพื่อรอยัยนั่นลงมาจากห้องเพราะวันนี้ผมตั้งใจจะไป มหาลัยพร้อมกับเธอ แกร๊ก! เสียงประตูห้องเปิดออก พร้อมกับเสียงฝีเท้าเดินลงบันไดมาอย่างรวดเร็ว หญิงสาวในชุดนักศึกษา กระโปรงสั้นอยู่บนหัวเข่าประมาณ 1 คืบเห็นจะได้ ลนลานผลัดวิ่งผลัดเดินลงบันได จนน่าสงสัย "สายแน่เลย!" "ฮัลโหล วาวา รอหน่อยนะกำลังออกไป" เมื่อเธอวิ่งมาถึงห้องโถง ผมก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เดินตามเธอมาติดๆ พร้อมกับรีบคว้าแขนเธอเอาไว้ อย่างรวดเร็ว จนเธอสะดุ้งสุดตัว"โอ๊ยเจ็บ!" ผมชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะเหลือบไปเห็นรอยช้ำที่แขนขวาด้านที่ผมจับอยู่ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป และพูดกลบเกลื่อนสิ่งที่เห็นแทน"ปล่อย! มีอะไร?" "รีบขนาดนี้ มีสอบใช่ไหม?" "อื้ม!" "งั้นไปกับฉัน" พูดจบผมก็ดึงแขนเธอให้เดินตามผมมาขึ้นรถอย่างรวดเร็ว และไม่ลืมที่จะเรียกให้ป้านายไปเอากระโปรงตัวใหม่มาให้เธอ "ป้านายครับ รบกวนช่วยไปหยิบกระโปรงของพักพิงมาให้ผมทีนะคับ ขอตัวที่ยาวที่สุดนะคับ" ก่อนจะเหลือบมองไปยังกระโปรงตัวจิ๋วของเธอที่เห็นแทบจะทะลุไประหว่างขา"พอดี ผมไม่ชอบให้ใครมาเห็นขาขาวๆ ของเม
บรรยาย First person#เปียโน ผมนั่งดูกล้องวงจรปิด ที่ยัยนั่นกำลังเช็ดตัวให้กับน้องชายตัวเอง แล้วรู้สึกรังเกียจขึ้นมาทันที รังเกียจจนไม่อยากให้ยัยนี่เข้าใกล้ น้องชายของผม ปึก! "แม่งเอ๊ย" ผมละ แค้นเธอจริงๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ที่เธอคิดว่าผมเป็นกีต้าร์น้องชายตัวเอง ก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ยัยนี่มีดีอะไร ทำไมน้องผมถึงหลงเธอ ถึงขนาดยอมถูกล่อให้ไปโดนรถชน คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ "ฮัลโหล?" "ฮัลโหล ไอ้เปียโน ทำไมมึงรับสายช้าจังว่ะ" "มึงมีอะไร?" "พรุ่งนี้ มีสอบ มึงจะมาไหม?" "อื้ม! ไปดิ ต้องไปแทนไอ้เจ้าชายนินทานี่อยู่แล้ว" ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่เพื่อน จนมันรู้สึกสงสัย "ไอ้เปียโน มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ น้ำเสียงอย่างกับหงุดหงิดอะไรมา" "ไม่มีอะไรหรอก" "แน่เหรอว่ะ หรือว่า ยัยนั่นทำอะไรมึง" "ใคร?" "เอ้า ก็แฟนน้องชายฝาแฝดมึงไง ที่มึงไปหลอกมาแต่งงานด้วยอ่ะ" "เสือก!" "เอ้า กูได้ข่าว สวยใช่เล่นเลยเหรอว่ะ พรุ่
เขาดึงท่อนแข็งหนาออก พร้อมกับรูดซิปกางเกงขึ้นในทันที และดึงกระเป๋าตังออกมา เอาเงินโยนใส่ตัวฉันที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา "เอาไปซื้อยาคุมกินซะ! ของฉันเข้าไปลึกขนาดนั้น ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้แล้ว" ฉันที่ลุกขึ้นนั่งด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ก็พยายามข่มน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเอาไว้ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เหมือนเดิมมากที่สุด ก่อนจะลุกขึ้น ดึงกระโปรงลง "ฉันออกไปได้หรือยัง?" "ฮึก!" "ออกไปสิ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับเอา แอลกอฮอล์ มาเช็ดมือและฉีดไปตามร่างกายของตัวเอง ฉันคงดูสกปรกสำหรับเขามากเลยสินะ ฉันพยายามข่มน้ำตาตัวเองไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนจะเดินไป เปิดประตูห้องเพื่อจะได้ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จะได้ชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในตัวฉัน"เดี๋ยวก่อน!" "ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาอยู่ดูแลน้องชายของฉัน เธอต้องนอนอยู่ในห้องนี้ จนกว่าน้องชายของฉันจะฟื้น พอน้องชายของฉันฟื้นแล้ว เธอก็ค่อยไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วอย่ากลับมาให้พวกเราเห็นหน้าอีก" "เข้าใจที่ฉันพูดไหม พักพิง" ฉันพยั
"คนอย่างมึง มันสมควรตายแทนน้องกู""คุณ ฉันขอโทษ""มึงรู้ไหม วันที่กูไปดูกล้องวงจรปิด ที่โรงเรียน กูต้องเห็นอะไรบ้าง กูนั่งอ่านไดอารี่ของน้องตัวเอง แล้วรู้สึกอย่างไงบ้าง! ""ฮึก! ฮึก!""กูต้องเห็นน้องชายตัวเองถูกแกล้งทุกวัน ถูกกระทืบ ถูกตี ถูกใช้ให้กราบตีนไอ้พวกเวรนั่น ถูกเขียนเต็มเสื้อผ้า ถูกประจานว่าเป็นผู้ชายขายตัว และ สุดท้าย ก็ถูกคนรักอย่างมึง หักหลัง จนต้องมานอนเป็นผักอยู่แบบเนี่ย แบบเนี่ย! มึงเห็นไหม"เขากระชากคอเสื้อฉัน ให้ลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้มือไปที่คนบนเตียงอย่างเดือดดาล ดวงตาคม จ้องมองฉันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้ ก่อนจะเดินไปหยิบ ไดอารี่ ของน้องชายตัวเองออกมาจากในลิ้นชักข้างเตียง"มึงลองดูสิ มันเขียนไดอารี่เล่มนี้ ทุกวัน ว่ามันถูกทำอะไรบ้าง ว่ามันโดนอะไรบ้าง ว่ามันรักมึงขนาดไหน?"ฉันรีบหยิบไดอารี่จากมือของเขามาเปิดอ่านดูอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างมันดูเจ็บปวด ในไดอารี่เขาบอกว่า เขาอยากจะสู้พวกมัน แต่หากมีเรื่องแม่ของเขาจะเดือดร้อน เพราะลำพังแม่ของเขาก็หาเช้ากินค่ำ หลังจาก
ทำไม ฉันจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขาสักหน่อย ตอนถูกรถชน ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาถูกรถชนได้อย่างไง มารู้อีกที ก็มีข่าวลือ ทั่วโรงเรียนแล้วว่าเขาถูกรถชนแต่นี่อะไร ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เขาถูกรถชนก็ไม่เชื่อปึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!"พักพิง เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!""พี่กีต้าร์ ใจเย็นสิคะ เรากลับห้องไปสนุกด้วยกันเถอะ""ออกไป เอาเงินที่ห้องฉันแล้วออกไปซะ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี""อ่าว! แล้วที่คุยกันว่าจะพาไปดูหนังล่ะ?""ก็บอกว่า วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีไง""ได้ค่ะ"เสียงเคาะประตูห้องฉัน พร้อมกับเสียงทะเลาะกันของสองคนนั้น ทำให้ฉันเริ่มจะหงุดหงิดใจ เอาว่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไปเป็นขอทานข้างถนน มันก็คงไม่ได้แย่เท่าไหร่ กลับบ้านเถอะ แล้วค่อยทำงานใช้หนีไอ้เวรนี่อย่างน้อยมันอาจจะสบายใจกว่าอยู่ที่ๆ ทำให้ฉันทุกข์ใจแบบนี้ ก็ได้ พอคิดได้แบบนี้ ฉันก็ไม่รีรอ ที่จะรีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋า และทิ้งห้องที่หรูหรานี้เอาไว้อยู่เบื้องหลัง "พักพิง ฉันบอกให้เปิดประตูไง ไม่ได้ยินหรือไง!"
กลับสู่ปัจจุบัน บรรยายแบบ Third person บุรุษที่ 3."โอ๊ย!!!! ไอ้คัง เบาๆ สิว่ะ เจ็บไอ้สัส" "ดีนะ นี่แค่หัวแตก เขาไม่เอาโซ่ล่ามขามัดคอมึงตายก็บุญแล้ว" คังเพื่อนสนิทของชายหนุ่มช่วยประคบเย็นแก้บวมช้ำให้กับเขาอย่างหัวเสีย เพราะไม่ชอบใจที่ ชายหนุ่มนั้นจับตัวเมียเก่าของตนเข้ามาขังไว้ "ไอ้เพื่อนโง่ มึงเป็นโรคประสาทอะไรเนี่ย ไปจับยัยนั่นมาทำไม แล้วงี้ ลูกๆ มึงจะอยู่อย่างไงก่อน" "ช่างกูเถอะ แม่งเมียหอบลูกหนี ใครจะไปทนรับได้ว่ะ" "เฮอะๆ นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่ามึงผิดอะไร เป็นกู ถ้ากูเป็นยัยพักพิง กูก็ทำเหมือนกันแหละ ไอ้ชิบหาย" "ไอ้เวร มึงควรจะช่วยกู ไม่ใช่ซ้ำเติม" "นี่ ยัยพักพิง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแฝดน้องมึงถูกรถชนเลยด้วยซ้ำ แล้วมึงก็ได้ทำร้ายจิตใจเขาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า มึงคิดว่าเขาจะยอมให้อภัยมึงง่ายๆ เลยเหรอ ไอ้เวร" "ก็กูไม่รู้ไง" "ก็เขาก็ไม่รู้ว่าผิดอะไรเหมือนกัน มึงควรง้อเขาดีๆ ไม่ใช่จับตัวเขามาแบบนี้ มึงมันโคตรเห็นแก่ตัวเลย" "เออ กูมันเห็นแก่ตัวก็กูรักเขา กูไม่อ
"ตายจริง ล้มทั้งยืนเลยเหรอคะ?" "ตายแล้ว คุณพักพิง ทำไมไปนั่งที่พื้นแบบนี้ละคะ" ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ ร่างกายชาไปหมด มันขยับไปไหนไม่ได้เลย ทำได้เพียงนั่งจ้องหน้าชายตรงหน้า ที่ฉันรักสุดหัวใจ "อ๋อ นี่เหรอคะ ป้านายแม่บ้านของที่นี่ สวัสดีค่ะ หนูเป็นแฟน ของพี่กีต้าร์ ชื่อ เอมมี่ค่ะ " ป้านายรับไหว้ผู้หญิงคนนั้นอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะรีบมาประคองตัวฉันให้ลุกขึ้น "คุณพักพิงลุกขึ้นนะคะ เดี๋ยวป้าพากลับห้องค่ะ" "ค่ะ ป้านาย" ฉันพูดกับป้านายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนจะมีเสียงทุ้มแทรกขึ้น "ทำไม รับไม่ได้เหรอ?" ฉันไม่ได้หันหลังกลับไปมองตามเสียงนั้น แต่กลับรีบเดินตรงไปยังบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากทนเห็น คนที่ฉันรักมีคนอื่นแทนฉัน "ในเมื่อนายก็มีคนอื่นแทนฉันแล้ว งั้นฉันคงไม่มีอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่อีก" "เธอว่าไงนะ พักพิง" เสียงทุ้มตะคอกถามฉันอย่างดุดัน จนฉันเองก็เริ่มกลัวเขาเข้าแล้วเหมือนกัน มือใหญ่พุ่งตัวมากระชากแขนฉันอย่างแรง จนฉันตัวเซ เพื่อให้หันไปมองหน้าเขา ที่กำลังเดือดดาลก
นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขายอมกอดฉัน โดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอ กีต้าร์นายจะรู้ไหม ว่าฉันดีใจขนาดไหน ที่นายยอมกอดฉัน เหมือนกับที่ฉันสัมผัสนาย "เราขอพรให้ พักพิงรักเรา และหายน้อยใจเราไง เราขอโทษนะ ที่เมื่อคืนผิดนัด พอดี เราเมามากไปหน่อย แต่ต่อไป เราจะปรับปรุงตัวนะคับ" โถ่!! หัวใจ แค่เขาขอโทษแค่นี้ ใจฉันก็บางจนไม่สามารถที่จะน้อยใจเขาต่อได้อีกแล้ว คนอะไร ทำให้ใจฉันบางได้ขนาดนี้นะ "พักพิง หันหน้ามาหน่อยได้ไหม?" ฉันหันหน้าไปหาเขาอย่างรวดเร็วราวกับถูกต้องมนต์สะกด ก่อนที่ริมฝีปากหนา จะเข้ามาประกบจูบฉันอย่างแผ่วเบา และค่อยๆ เริ่มดูดดื่มขึ้น "อื้ม" ฉันเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่าครั้งนี้ ฉันอาจจะต้องให้ครั้งแรกกับเขาแล้วล่ะ เพราะในเมื่อเขาเริ่มเปิด และดูดดื่มขนาดนี้ มันก็คงเป็นอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว "กีต้าร์?" "ขึ้นห้องกันนะคับ" "อื้ม!" บนห้องนอนของกีต้าร์ ที่สุดแสนจะหรูหรา เขาได้วางฉันลงบนเตียงใหญ่สีขาว ที่อบอุ่นไปด้วยไออุ่น ที่เขาพึ่งตื่นนอน ริ