ฉันพูดโป้งออกไปขนาดนี้ ยังไม่มีเสียงตอบกลับมาอีก นายนิมันน่าทุบให้ตายคามือจริงๆ
"ฉันอาบพอแล้ว เดี๋ยวต้องไปเช็ดอ้วกตัวเองบนเตียงอีก"
แต่มือใหญ่กลับรั้งแขนของฉันเอาไว้อย่างแน่นหนา นัยน์ตาประกายไปด้วยความห่วงใย ที่มีต่อฉันอย่างมากล้น จนตัวฉันเผลอนั่งลงบนตักกว้าง
เขาดึงตัวฉันเข้าไปบรรจงจูบอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกอดรัดตัวฉันไว้ในอ้อมแขนแกร่ง จนยากที่จะอธิบายความรู้สึกนี้เป็นคำพูดได้
"เปียโน!"
ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรออกไป ริมฝีปากอิ่ม ก็จู่โจมบรรจงจูบฉันอย่างดุดัน ปลายลิ้นร้อนสอดใส่เข้ามาในโพรงช่องปากเก็บกวาดข้างในนั้น อย่างไม่รังเกียจ
คือแบบว่า ฉันจะบอกเขาว่า กูพึ่งอ้วกเสร็จ มึงจะจูบทำไมมมมมม ><¡ แต่มันก็คงไม่ทันแล้ว เพราะร่างกายของฉันในตอนนี้ มันกลับไม่ยอมต่อต้านเขาเลย
มันยิ่งตอบสนองอยากให้เขา เข้ามาในร่างกายเสียอย่างนั้น ปลายลิ้นร้อนถอดออกจากกันอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะเลื่อนตัว มามุดซอกคอขาว
"เอิ่มมมมม!"
มือใหญ่ ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังขาว ไล่ระดับมา
"เอิ่มมมมม!"ดวงตาคม ตาเบิกโพรงขึ้นด้วยความงัวงง เมื่อเห็นฉันนั่งมองขาตัวเอง ที่ถูกมัดติดไว้กับเขาอย่างแน่นหนา ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง"ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ เธอหิวไหม?"ฉันดึงผ้าห่มมาคลุมกายไว้ และลงไปนอนตะแคงข้าง หันหนีเขาอย่างเงียบครึม ราวกับเขาเป็นเพียงอากาศที่ไร้ตัวตน"เกลียดฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอ พักพิง!""ใช่"เสียงพูดเงียบลง เมื่อฉันเอ่ยตอบออกไปแบบนั้น ก่อนที่คนตัวใหญ่จะจุมพิตลงที่ไหล่ของฉันอย่างแผ่วเบา"พักพิง เธอให้อภัยกับความโง่ของฉันไม่ได้เลยเหรอ?"".........""พักพิง ตอบฉันหน่อย!""ตอบสิ""ตอบฉัน!"ฉันเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว พร้อมตวาดเสียงใส่หน้าเขา อย่างเดือดดาล"ก็เพราะกูชอบกีต้าร์ กูไม่ได้ชอบมึง มึงหลอกให้กูแต่งงานกับมึง มึงสวมรอยเป็นกีต้าร์ แล้วมึงก็พรากครั้งแรกของกูไป แล้วมาวันนี้ มึงยังจะขังให้กูอยู่กับมึง โดยการจะให้กูมีลูกกับมึง อีกอย่างงั้นเหรอ?""ทุกอย่างตั้งแต่แรกเริ่ม มึงโกหกหลอกลวง
"ถ้ามึงไม่ยอมหย่าให้กู กูจะฟ้องหย่า!"เมื่อพูดจบ เขาก็ฉุดกระชากลากถูฉันขึ้นไปบนเตียงอย่างดุดัน ก่อนจะขึ้นคร่อมตัวฉัน ด้วยน้ำตาที่อาบหน้า"ฉันไม่หย่า ก็บอกแล้วว่าไม่หย่าไง ฟังกันหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?""ออกไปจากตัวกู กูขยะแขยงตัวมึง ไอ้ขยะ!"พูดจบ เขาก็ถลกเสื้อผ้าฉันจนขาดวิ่น และซุกไซร์ซอกคอขาวจนแดงเป็นจ้ำ ๆ"อ๊ายยยยยยยย! ไอ้สปรก ออกไปจากตัวกูนะ"ฉันสบถด่าเขาออกมาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับดิ้นทุรนทุรายสู้เขาอย่างหนักหน่วง แต่ยิ่งฉันดิ้นสู้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกระชากเสื้อผ้าฉันออกให้เร็วมากขึ้นเท่านั้นกระทั่ง ฉันใช้เท้าถีบเข้ายอดอกหนาได้ จนเขาหงายหลัง เกือบตกเตียง ฉันจึงรีบหันหลังตะกายจะทรงตัวลุกขึ้น แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้วท่อนเอ็นหนา สอดใส่เข้ามาในร่องแคบจากด้านหลังจนมิดด้าม ทำให้ร่างกายทุกส่วนของฉันอ่อนแรงลงอย่างฉับพลันมือกำผ้าปูที่นอนไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด"กรี๊ดดด
"อย่านะ!" "พี่ผลักมันเลย" "ไม่!!!!! อ๊ากกกก!" โครม!!! ร่างใหญ่ในชุดนักเรียนมัธยมปลาย ถูกรถคันหรูชนอัดเข้าร่างอย่างเต็มแรง จนตัวลอยขึ้นไปกระแทกกับกระจกหน้ารถเข้าอย่างจัง รถที่ชนต้องหยุดลงกระทันหัน อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มือของคนขับเย็นเฉียบใบหน้าซีดเผือด จนต้องรีบลนลานลงจากรถ เพื่อมาดูคนเจ็บ ปัง! "ไอ้เหี้ย มันตายเปล่าว่ะ?" "หุบปาก! พวกมึงเงียบไว้ อย่าให้ใครรู้ ทำตัวให้ปกติที่สุด" เด็กในกลุ่มทั้ง 5 คนยืนมุงดูภาพของชายหนุ่มถูกรถชนไปต่อหน้าต่อตาอย่างนิ่งเฉย มีเพียงคนที่ขับรถเพียงคนเดียว ที่ยังลนลานขาดสติ "มึง กูแค่ตั้งใจชนเบาๆ เองนะ แล้วจะทำไงดี" ชายร่างสูงนิ่งเงียบ จ้องมองดูภาพชายที่นอนแน่นิ่งบนกระโปรงรถอยู่ตรงหน้าอย่างคิดวิเคราะห์ ก่อนจะเริ่มทำการจัดฉาก "เดี๋ยวกูจัดการเอง" ************************ ปัจจุบัน แกร๊ก!!! แคร่ง!!! “ออกไป!” “กินข้าวซะ ฉันไม่ได้มีเวลามาง้อเธอมากมายหรอกนะ” “กูบอกให้ออกไป!” ร่างบางนั่งกอดเข่า แผ่นหลังพิงผนังห้องอย่างหมดความหวัง นัยน์ตาแผ่รังสีความเกลียดชังออกมาอย่างรุนแรง “เธออยู่ที่นี่มา 1 อาทิตย์แล้วนะ ถ้าเธอจะไม่กินข้าวกินน้ำแบบนี
บรรยาย First person#พักพิงค์3 ปีก่อน“เรียนจบแล้ว แต่งงานกันนะ?”“ฮะ?”วินาทีที่ผู้ชายที่ฉันแอบรักแอบชอบมานานแสนนาน มาขอฉันแต่งงานกลางห้องเรียนในวันสอบวันสุดท้าย ก่อนเรียนจบ วินาทีนั้นหัวใจฉันแทบจะหลุดออกจากอกเลยทีเดียวฉันได้แต่ยืนสตัน อ้าปากค้างต่อหน้าเขา ท่ามกลางสายตาของเพื่อนในห้องนับ 20 คน เพราะไม่รู้จะตอบออกไปว่าอย่างไงดี“ว่าไง?” “วะ.....ว่าไง คะ...คะ.....คืออะไรเหรอ?”“ที่ฉันถามไป?”ใบหน้าหล่อเหลาสุดแสนเย็นชายืนฟังคำตอบจากฉันด้วยความนิ่งเฉย เหมือนเป็นคำพูดแบบขอไปที แต่คนฟังอย่างฉันกลับหวั่นไหวไปเอง“เออ.........”“โอเค! วันเสาร์นี้ฉันจะไปขอเธอที่บ้านนะ”มือใหญ่ยื่นมือมาลูบหัวฉันเบาๆ ก่อนจะเดินออกห้องเรียนของฉันไปตามปกติ ปล่อยให้ฉันยืนงงเป็นไก่ตาแตก อยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ มากมาย ที่รีบเดินตรงเข้ามาหาฉัน เพื่อถามเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้“เกิดอะไรขึ้น มึงไปคบกับไอ้กีต้าร์เมื่อไหร่ว่ะ ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย?”“แต่กูว่ามันแปลกๆ นะ ร้อยวัน
ฉันกระตุกมือวาวาเบาๆ เพื่อบอกให้เธอหยุดโต้เถียงกับคนตรงหน้า ก่อนที่ร่างใหญ่จะเอ่ยถามขึ้น“ในห้อง 6/6 ก็มีใครชื่อ พิง เหมือนยัยนี่บ้างล่ะ?”“………”“ถ้าไม่มี งั้นก็แปลว่า ยัยนี่เป็นเมียฉัน”“ห๊ะ?”ฉันอุทานออกมาเสียงดัง จนวาวาต้องรีบหันมอง ก่อนที่เธอจะเดินขึ้นมา เอาตัวบังร่างฉันไว้อย่างกล้าหาญ“นี่ กีต้าร์ ฉันว่านายต้องเข้าใจอะไรผิดแล้วแน่ๆ เลยว่ะ เมื่อก่อนนายไม่เคยแล สายตามอง ยัยพักพิง เลยด้วยซ้ำ แต่พอมาวันนี้ นายบอกว่า ยัยพักพิงเป็นเมียนาย สมองนายผิดปกติอะไรรึเปล่าเนี้ย?”“ช่างเถอะ กีต้าร์เขาพึ่งออกจากโรงพยาบาลนะ สติ สตัง คงยังไม่ค่อยกลับมาหรอก เรากลับบ้านกันเถอะ วาวา เดี๋ยวแม่ด่าฉันแย่เลย ถ้าฉันกลับค่ำน่ะ”“เดี๋ยวฉันจะไปส่ง ขึ้นรถเถอะ ฉันไม่ทำอะไรพวกเธอหรอก”แขนใหญ่กระชากแขนฉันอย่างแรง ก่อนจะรีบลากตัวฉันกับวาวาขึ้นรถ“โอ๊ย! กีต้าร์เราเจ็บ”ปึก! ประตูรถหรูปิดลงอย่างรวดเร็ว ราวกับกลัวว่าฉันกับวาวาจะรีบวิ่งหนีออกจากรถไปอย่างไงอย่างงั้น“บ้านเธออยู่ไหน?”“บะ….บ้านฉันอยู่ ซ
จากนั้น แม่ฉันก็ลุกขึ้นจากโซฟาห้องโถง แล้วเดินขึ้นบันไดไม้ ไปยังชั้น 2 โดยไม่ได้หันกลับมามองฉัน หรือ นายกีต้าร์เลย“กีต้าร์ ฉันขอคุยอะไรด้วยหน่อย?”“ว่าไง?”“ออกมาข้างนอก ฉันไม่อยากคุยในบ้าน”พูดจบ ฉันก็เดินออกจากบ้าน โดยมีคนตัวใหญ่ตามหลังมาติดๆ จนกระทั่งเดินไปถึง หน้าประตูรั้วบ้าน ฉันก็รีบหันหลังจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาของคนตรงหน้า อย่างไม่ชอบใจนัก พลางย่นคิ้วใส่เล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามคนตัวใหญ่ออกไป ด้วยความไม่พอใจ“นายเล่นอะไรของนายอยู่!”ร่างใหญ่ ไม่ได้เอ่ยตอบอะไร แต่กลับพุ่งตัวเข้ามา ประกบริมฝีปากจูบฉันอย่างดูดดื่ม ราวกับว่าเขาต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง กับตัวฉันแขนหนากอดรัดตัวฉันอย่างดุดัน ริมฝีปากเขาขบเคี้ยวบดขยี้ริมฝีปากบางไปมา จนขาของฉันถึงกับอ่อนแรงลง เพราะไม่เคยโดนทำแบบนี้มาก่อน"อ้า" เมื่อริมฝีปากถูกถอดออก ฉันก็รีบใช้หลังมือถูปากตัวเองไปมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เสียงทุ้มจะเอ่ยขึ้น “โถ่! จูบแค่นี้ ยังแกล้งทำไม่เป็น เธอคิดว่าฉันจะเชื่อคำพูดของเธอเหรอ?”“นี่…นาย!”
"นี่มันอะไรกัน ข้อแม้หรือพาไปขังคุกกันแน่" "หนูพักพิง ฟังแม่ก่อนนะคะ" ฉันยืนตัวเกร็งแข็งทื่อไปทั้งตัว ด้วยความเดือดดาลอย่างสุดขีด คนอะไรไม่มีอิสระให้กันเลยแม้แต่น้อย "ฟังแม่ก่อนนะคะ" "...........""ที่แม่ทำข้อตกลงขึ้นมา ก็เพราะ บ้านเราค่อนข้างมีฐานะ การจะออกไปไหนมาไหน มันค่อนข้างไม่ปลอดภัย เราทำธุรกิจหลายตัว คนอยากลงทุนกับเราก็มีเยอะ ส่วนคนอยากทำร้ายเราก็มีเยอะ แล้วถ้าหนูแต่งเข้าบ้าน แม่กลัวว่าหนูจะไม่ปลอดภัยเอานะลูก" "เฮอะ! หนูไม่แต่งค่ะ อย่างไงหนูก็ไม่แต่ง" "เธอต้องแต่ง" เสียงทุ้มต่ำ พูดแทรกขึ้นอย่างรวดเร็ว จนฉันต้องหันไปมองตามเสียงนั้น ก่อนที่เขาจะเดินตรงเข้ามาหาฉันอย่างรวดเร็ว พลางใช้มือกุมไปที่ท้องน้อยของฉัน "ถ้าเธอไม่แต่ง แล้วลูกล่ะ?" "หาาาา!" "ท้องเธอจะโตขึ้นทุกวันนะ เธอไม่อายคนอื่นเหรอ?" ฉันเหลือบสายตาจ้องมองไปที่แม่ของตัวเอง ที่นั่งอึ้งกับสิ่งที่กีต้าร์เอ่ยออกมา พลางเห็นเนื้อตัวของท่านสั่นเทาไปทั้งตัว ท่านคงตกใจมาก ผิดกับพ่อแม่ของกีต้าร์ ที่มีท่าทีนิ่งสงบ
เมื่องานแต่งได้จบลง ตอนนี้คงเหลือแต่การเข้าหอ ให้ตายเถอะ! เขาจะทำอะไรอย่างว่ากับฉันหรือเปล่านะ หวังว่าคงจะไม่ทำนะ "พักพิง นั่งเหม่ออะไร กราบ พ่อแม่สิ" "อ่อๆ " ฉันและกีต้าร์ กราบพ่อและแม่ ตามธรรมเนียมเข้าหอ อย่างปกติ ก่อนจะได้รับคำอวยพรจากพวกท่าน"พ่อแม่ ขอให้ลูกๆ ทั้งสองรักกันนานๆ มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง ขอให้ชีวิตมีแต่ความสุข อย่าได้มีสิ่งใดมาทำให้พรากจากกันนะลูก""ขอบพระคุณค่ะ พ่อแม่"เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่พวกท่านจะเดินออกจากห้องไป และ ปิดประตูห้องหอ เป็นอันเสร็จพิธี "เฮ้อ! " ฉันถอนหายใจฟอดใหญ่ออกมา แต่ลืมนึกไปว่า ยังมีภูเขาลูกใหญ่ อยู่ตรงหน้าอยู่ และภูเขาลูกนี้ ดูท่าจะหนักอึ้งกว่าสิ่งใดบนโลกซะด้วย "กะ...กีต้าร์" "ว่าไง?" "นายจะยังไม่ทำอะไร ฉันใช่ไหม?" "ทำอะไร คือ?" "ก็แบบ...." ร่างใหญ่ ที่กำลังถอดชุดสูทแต่งงาน ถึงกับหลุดขำออกมา "ฮ่าๆๆ" จนท้องแทบแข็ง ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาฉันอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา
"ถ้ามึงไม่ยอมหย่าให้กู กูจะฟ้องหย่า!"เมื่อพูดจบ เขาก็ฉุดกระชากลากถูฉันขึ้นไปบนเตียงอย่างดุดัน ก่อนจะขึ้นคร่อมตัวฉัน ด้วยน้ำตาที่อาบหน้า"ฉันไม่หย่า ก็บอกแล้วว่าไม่หย่าไง ฟังกันหน่อยไม่ได้เลยเหรอ?""ออกไปจากตัวกู กูขยะแขยงตัวมึง ไอ้ขยะ!"พูดจบ เขาก็ถลกเสื้อผ้าฉันจนขาดวิ่น และซุกไซร์ซอกคอขาวจนแดงเป็นจ้ำ ๆ"อ๊ายยยยยยยย! ไอ้สปรก ออกไปจากตัวกูนะ"ฉันสบถด่าเขาออกมาอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับดิ้นทุรนทุรายสู้เขาอย่างหนักหน่วง แต่ยิ่งฉันดิ้นสู้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งกระชากเสื้อผ้าฉันออกให้เร็วมากขึ้นเท่านั้นกระทั่ง ฉันใช้เท้าถีบเข้ายอดอกหนาได้ จนเขาหงายหลัง เกือบตกเตียง ฉันจึงรีบหันหลังตะกายจะทรงตัวลุกขึ้น แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้วท่อนเอ็นหนา สอดใส่เข้ามาในร่องแคบจากด้านหลังจนมิดด้าม ทำให้ร่างกายทุกส่วนของฉันอ่อนแรงลงอย่างฉับพลันมือกำผ้าปูที่นอนไว้อย่างแน่นหนา พร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด"กรี๊ดดด
"เอิ่มมมมม!"ดวงตาคม ตาเบิกโพรงขึ้นด้วยความงัวงง เมื่อเห็นฉันนั่งมองขาตัวเอง ที่ถูกมัดติดไว้กับเขาอย่างแน่นหนา ก่อนจะเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง"ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ เธอหิวไหม?"ฉันดึงผ้าห่มมาคลุมกายไว้ และลงไปนอนตะแคงข้าง หันหนีเขาอย่างเงียบครึม ราวกับเขาเป็นเพียงอากาศที่ไร้ตัวตน"เกลียดฉันถึงขนาดนี้เลยเหรอ พักพิง!""ใช่"เสียงพูดเงียบลง เมื่อฉันเอ่ยตอบออกไปแบบนั้น ก่อนที่คนตัวใหญ่จะจุมพิตลงที่ไหล่ของฉันอย่างแผ่วเบา"พักพิง เธอให้อภัยกับความโง่ของฉันไม่ได้เลยเหรอ?"".........""พักพิง ตอบฉันหน่อย!""ตอบสิ""ตอบฉัน!"ฉันเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว พร้อมตวาดเสียงใส่หน้าเขา อย่างเดือดดาล"ก็เพราะกูชอบกีต้าร์ กูไม่ได้ชอบมึง มึงหลอกให้กูแต่งงานกับมึง มึงสวมรอยเป็นกีต้าร์ แล้วมึงก็พรากครั้งแรกของกูไป แล้วมาวันนี้ มึงยังจะขังให้กูอยู่กับมึง โดยการจะให้กูมีลูกกับมึง อีกอย่างงั้นเหรอ?""ทุกอย่างตั้งแต่แรกเริ่ม มึงโกหกหลอกลวง
ฉันพูดโป้งออกไปขนาดนี้ ยังไม่มีเสียงตอบกลับมาอีก นายนิมันน่าทุบให้ตายคามือจริงๆ"ฉันอาบพอแล้ว เดี๋ยวต้องไปเช็ดอ้วกตัวเองบนเตียงอีก"แต่มือใหญ่กลับรั้งแขนของฉันเอาไว้อย่างแน่นหนา นัยน์ตาประกายไปด้วยความห่วงใย ที่มีต่อฉันอย่างมากล้น จนตัวฉันเผลอนั่งลงบนตักกว้างเขาดึงตัวฉันเข้าไปบรรจงจูบอย่างแผ่วเบา ก่อนจะกอดรัดตัวฉันไว้ในอ้อมแขนแกร่ง จนยากที่จะอธิบายความรู้สึกนี้เป็นคำพูดได้"เปียโน!"ไม่ทันที่ฉันจะได้พูดอะไรออกไป ริมฝีปากอิ่ม ก็จู่โจมบรรจงจูบฉันอย่างดุดัน ปลายลิ้นร้อนสอดใส่เข้ามาในโพรงช่องปากเก็บกวาดข้างในนั้น อย่างไม่รังเกียจคือแบบว่า ฉันจะบอกเขาว่า กูพึ่งอ้วกเสร็จ มึงจะจูบทำไมมมมมม ><¡แต่มันก็คงไม่ทันแล้ว เพราะร่างกายของฉันในตอนนี้ มันกลับไม่ยอมต่อต้านเขาเลยมันยิ่งตอบสนองอยากให้เขาเข้ามาในร่างกายเสียอย่างนั้น ปลายลิ้นร้อนถอดออกจากกันอย่างแผ่วเบา ก่อนที่เขาจะเลื่อนตัว มามุดซอกคอขาว"เอิ่มมมมม!"มือใหญ่ ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังขาว ไล่ระดับมา
ฉันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เพื่อรอฟังคำตอบจากปากคนตัวใหญ่อย่างนิ่งเงียบ ก่อนที่เขาจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน จับมือฉันขึ้นมาแนบแก้มขาวอย่างอ่อนโยน"พักพิง เรามามีลูกกันเถอะ ต่อไปนี้ เธอไม่ต้องกินยาคุมแล้วนะ เราจะมีลูกที่น่ารัก ๆ ด้วยกัน สัก 2 - 3 คน ดีไหม?"เมื่อเขาพูดจบ ฉันก็ฉีกยิ้มออกพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งน้ำตาที่หลั่งไหลพรั่งพรูออกมากระทบจนเต็มแก้ม"ฮ่าาาาๆๆๆๆ"เพี้ยะ!ฉันตบหน้าเขาไป 1 ฉาก ให้กับความสกปรกโสโครกที่ฉันได้รับมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับเขา อย่างเดือดดาล"พักพิง เธอตบฉันทำไม?""มึงต้องการให้กูมีลูก เพื่อที่มึงจะได้รั้งกู ให้อยู่กับมึงตลอดไปใช่ไหม เปียโน!"เขายืนขึ้น อย่างลนลาน ก่อนจะดึงมือฉันเข้าไปกุมไว้อีกครั้งแน่นหนา"มันไม่ใช่แบบนั้นนะ พักพิง ฟังเราก่อน""ปล่อยกู!"เสียงสั่นเครือของฉัน บ่งบอกชัดเจนแล้วว่า วันนี้ มันต้องจบ ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม"พักพิง คือ แบบนี้นะ เราไม่ได
สถานกักกันหญิง"สวัสดีค่ะ ฉันมาพบ นักโทษที่ชื่อฟ้าค่ะ""กรุณา บอกชื่อ นามสกุลของ นักโทษด้วยค่ะ เป็นอะไรกับนักโทษคะ?"ฉันทำได้เพียงแต่ เงียบลง เพราะจำไม่ได้จริง ๆ ว่าเธอชื่ออะไร ก่อนจะ ดึงมือถือขึ้นมาเปิดรูปภาพของฟ้า ให้แก่ผู้คุมได้ดู"อ๋อ งั้นรับคิวแล้ว รอสัญญาณเรียกนะคะ วันนี้ ญาตินักโทษน้อย อาจจะใช้เวลาไม่นาน สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ ไม่เกิน 40 นาทีนะคะ หากหมดเวลา จะมีสัญญาณเตือน""ขอบคุณค่ะ"ฉันนั่งรอคิวอยู่นานพอสมควร ก่อนที่เสียงเตือนให้เข้าพบ คุณฟ้า จะดังขึ้นติ๊ดดดดดดดดดดดดดด!"ญาตินักโทษ คิวต่อไป เชิญค่ะ"ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอด พร้อมกับต่อแถวเดินเข้าไป ยังห้องเยี่ยมนักโทษด้วยใจที่ลังเลแต่เมื่อคุณฟ้า ได้พบหน้าฉัน เธอก็สะดุ้งสุดตัว ก่อนจะลนลาน และหยิบโทรศัพท์ข้างม่านกระจกขึ้นมาแนบหูอย่างหวาดหวั่น"สวัสดีค่ะ ฟ้า"ม่านกระจกใส ทำให้เห็นถึงร่างกายที่ผอมบางของเธอ อย่างชัดเจน ราวกับว่า เธอยังไม่สามารถปรับตัวเข
อ้วก! อ้วก! อ้วก!"พักพิง เธอเป็นอะไรน่ะ ทำไมตื่นเช้ามา ก็อ้วกแบบนี้ ไม่สบายเหรอ ไปหาหมอไหม?""ไม่เป็นไร ฉันโอเค""แต่ เธอหน้าซีดมากเลยนะ""เดี๋ยวมันก็หาย นายไปทำงานเถอะ เดี๋ยวจะสายเอานะ""ไม่อ่ะ ถ้าเธอเป็นแบบนี้ เราหยุดงานดูแลเธอดีกว่า"คำพูดที่ดูห่วงใยตัวฉัน มันบ่งบอกถึงความใส่ใจที่เขามีให้ฉันมากมายเหลือเกิน แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันคิดว่า มันก็เป็นแค่ เกมส์หลอกลวงเท่านั้นเมื่อกีต้าร์ฟื้นแล้ว สุดท้ายฉันก็ต้องออกไปจากบ้านหลังนี้อยู่ดี โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เขาทำกับฉันในวันนี้ และวันผ่าน ๆ มา ฉันจะไม่ยอมให้ใจของฉันต้องอ่อนแอเพราะเขาอีกต่อไปแล้วกระทั่ง 1 อาทิตย์ ต่อมา"พักพิง เราออกไปทำธุระก่อนนะ อยากกินอะไรไหม?"คำพูดเดิม โทนเสียงเดิม บ่งบอกให้ฉันรับรู้ว่า เขาจะออกไปที่ไหน วันนี้ ฉันจึงเลือกที่จะตามเขาไป เพราะจะได้หายจากข้
ยัยโง่พักพิง ย่นคิ้วใส่ฉันอีกครั้งอย่างงวยงง เธอคงมีสงสัยฉันบางแหละ เพราะตอนเรียนมัธยม เราไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ช่วงพัก ฉันก็จะต้องไปอยู่กับพี่บอม"พักพิง แกจำฉันได้ไหม?""ใครอ่ะ?""ฉันไง ฟ้า ที่เรียนห้องเดียวกับแกอ่ะ""ฟ้า"ยัยนี่ขี้ลืม หรือ จำฉันไม่ได้จริง ๆ กันนะ ห่างจากเรียนมัธยมได้ไม่กี่ปีเองนะ ลืมฉันแล้วเหรอ ฉันน่ะ ฮอตจะตาย จะมาลืมกันแบบนี้ได้ไง"อ๋อ เราจำได้แล้ว ฟ้าที่หายไปช่วงเทอมสองใช่ป้ะ""อื้ม ใช่ ๆ "ในที่สุดก็จำฉันได้สักทีนะ ยัยนี่แอ๊บหรือเรื่องจริงกันแน่เนี่ย"เป็นไงบ้าง ทำไมถึงพึ่งมาหากันตอนนี้!""คือเรา"ฉันเหลือบตามองหน้าลูกสาวของฉันอย่างร้ายกาจ ก่อนจะเอ่ยออกมา ด้วยเสียงสั่นเครือ"ตอนนั้นเราท้องน่ะ เลยพักการเรียน"พักบ้าบออะไร ฉันเรียนจบม.6 แล้วยะ แค่เลี้ยงลูกไม่ได้เรียนต่อ มหาลัยแบบพวกแกเฉยๆ แหละ ถ้าฉันเร
ฉันสติแตก จนคลั่งออกมา วิ่งไปทุบร่างของไอ้กีต้าร์ที่นอนโคม่าอยู่ เพื่อให้มันตื่นมาช่วยฉัน แต่ที่ไหนได้ กีต้าร์มันกลับ นอนนิ่งเป็นผัก ราวกับรอความตายเพียงเท่านั้นณ โรงพัก"จ่า เอาตัวไปฝากขังได้เลย""คับ ท่าน"ฉันเอาแต่ เหม่อลอยน้ำตาซึมอยู่ตลอดเวลา ที่อยู่ในโรงพัก ก่อนจะเดินตามจ่าเข้าไปยังห้องขัง ที่เหม็นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นของเสียจนอยากอ้วก"ทางผู้กองเขาไม่ให้ประกันตัวนะ พรุ่งนี้จะส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำใหญ่ เพื่อรอขึ้นศาล""สวัสดีค่ะ ฉันมาเยี่ยม คนที่ชื่อ พิงฟ้าค่ะ"เสียงนั่น คือเสียงของแม่กีต้าร์อย่างแน่นอน เพราะเมื่อเช้า ฉันได้ยินเสียงของท่านและได้เห็นหน้าพวกเขาแล้วด้วยฉันรีบลุกขึ้นยืน มองตามเสียงนั่นอย่างฉับพลัน ก่อนที่คนตัวใหญ่ จะเดินเข้ามาหาฉัน ที่ห้องฝากขัง"ฮึก! ปะ.....เปียโน""ฉันพา น้องพราวมาหา""อะไรนะ!"&nb
บรรยาย First person#พักพิงเมื่อฉันส่งพ่อแม่และน้องพราวขึ้นเครื่องไปอังกฤษแล้ว ฉันกับอี่ตาเปียโน ก็นั่งเงียบกันมาตลอดทาง ราวกับไม่มีสิ่งใดจะโต้ตอบกันอีกกระทั่ง เขาเริ่มเปิดพูดขึ้นมาก่อน"เออคือ!""ว่าไง?""พักพิง เธอมีความคิดเห็นอย่างไงกับน้องพราวเหรอ?""จริงๆ มันก็แปลกๆ นะ ที่อยู่ดีๆ พ่อแม่นายก็รับน้องพราวเป็นหลานซะงั้น ว่าแต่ ฟ้าเขาไปไหนเหรอ?"ร่างใหญ่ที่กำลังนั่งขับรถอยู่ทำท่าทางเลิ่กลั่กเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน พร้อมกับใช้มือลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา"เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยยัยพิง เฮ้ย! ยัยคนชื่อฟ้า คงอยากให้ลูกของเธอมีชีวิตที่ดีมั้ง""อ่อ แบบนี้เอง"ฉันรู้ดีว่าเขาโกหก แต่ฉันก็ยังทำตัวปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันรู้สึกว่า เปียโนมีอะไรปิดบังฉันอยู่ราวกับไม่ต้องการให้ฉันรู้เรื่องนี้เป็นอันขาดเสียอ