เมื่องานแต่งได้จบลง ตอนนี้คงเหลือแต่การเข้าหอ ให้ตายเถอะ! เขาจะทำอะไรอย่างว่ากับฉันหรือเปล่านะ หวังว่าคงจะไม่ทำนะ
"พักพิง นั่งเหม่ออะไร กราบ พ่อแม่สิ" "อ่อๆ " ฉันและกีต้าร์ กราบพ่อและแม่ ตามธรรมเนียมเข้าหอ อย่างปกติ ก่อนจะได้รับคำอวยพรจากพวกท่าน "พ่อแม่ ขอให้ลูกๆ ทั้งสองรักกันนานๆ มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง ขอให้ชีวิตมีแต่ความสุข อย่าได้มีสิ่งใดมาทำให้พรากจากกันนะลูก" "ขอบพระคุณค่ะ พ่อแม่" เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย ก่อนที่พวกท่านจะเดินออกจากห้องไป และ ปิดประตูห้องหอ เป็นอันเสร็จพิธี "เฮ้อ! " ฉันถอนหายใจฟอดใหญ่ออกมา แต่ลืมนึกไปว่า ยังมีภูเขาลูกใหญ่ อยู่ตรงหน้าอยู่ และภูเขาลูกนี้ ดูท่าจะหนักอึ้งกว่าสิ่งใดบนโลกซะด้วย "กะ...กีต้าร์" "ว่าไง?" "นายจะยังไม่ทำอะไร ฉันใช่ไหม?" "ทำอะไร คือ?" "ก็แบบ...." ร่างใหญ่ ที่กำลังถอดชุดสูทแต่งงาน ถึงกับหลุดขำออกมา "ฮ่าๆๆ" จนท้องแทบแข็ง ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาฉันอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา "นี่เธอคิดอะไรของเธออยู่น่ะ?" "เอ้า ก็นายบอกแม่ฉัน และครอบครัวนายว่าฉันท้อง ฉันก็กลัวนายจะทำแบบนั้นจริงๆ" "ยัยโง่ เราเป็นแฟนกันนะ ฉันแค่อยากจะทำให้มันถูกต้องเท่านั้นเอง ฉันสัญญาถ้าเธอไม่ยินยอม ฉันจะไม่ทำอะไรเธอเด็ดขาด จนกว่าเธอจะพร้อมให้ฉันเอง" "ฟะ....แฟนกัน?" ฉันขมวดคิ้วชนกันอย่างสงสัย เพราะฉันไม่รู้ว่า ตัวเองไปเป็นแฟนเขาตั้งแต่ตอนไหนเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ช่างเถอะ! ไม่มีผู้หญิงคนไหนโผล่หัวมา และไม่มีใครแย้งเรื่องงานแต่ง กีต้าร์คงคิดว่า ฉันเป็นแฟนเขาจริงๆ เพราะตอนนี้เขาความจำเสื่อม แถมตอนนั้น ฉันเองก็เคยคุยกับวาวา จนเผลอให้เขาได้ยินว่าฉันชอบเขา และชอบเขามากๆ ซะด้วย ก่อนที่เขาจะถูกรถชน ในวันนั้น เขาอาจจะหลงเหลือความทรงจำในวันนั้นก็เป็นได้ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เมื่อได้แต่งงานกันมาขนาดนี้แล้ว ได้แต่งงานกับคนที่ชอบ แถมเขายังเอ่ยเรียกฉันออกมาเต็มปากเต็มคำ ว่าฉันเป็นแฟน งั้นฉันก็ขออนุญาตให้เขาเป็นแฟนของฉัน โดยไม่สงสัยหรือลังเลอะไรในตัวเขาก็แล้วกัน และ ฉันเองนี่แหละ ที่จะเป็นคนฟื้นความทรงจำดีๆ ของเขาขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เขาได้รับรู้แต่สิ่งดีๆ และ ความรู้สึกดีๆ ที่ฉันมีให้ต่อเขา อย่างหมดหัวใจ "พิง?" "คะ?" "ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ? " "อ๋อ ขอโทษที พอดีฉันตกใจนิดหน่อยน่ะ" "ตกใจเรื่องอะไรเหรอ?" "อ๋อ เปล่าๆ ไม่มีอะไร ใช่ต่อไปนี้ เราจะเป็นแฟนของกีต้าร์นะ เราจะเป็นแฟนที่ดีที่สุดให้กีต้าร์เอง และเราก็จะฟื้นแต่ความทรงจำดีๆ ให้กีต้าร์นะ" "ฟื้นความทรงจำ?" "ใช่ๆ เราขอกอดกีต้าร์ได้ไหม?" "กอด?" ฉันพุ่งตัวเข้าไปกอดเขาอย่างหายสงสัย ไม่มีความสงสัยหรือขัดขืนสิ่งใดในตัวเขาเลย ความชอบที่ทำให้ ฉันได้แต่งงานกับเขา มันเป็นความบังเอิญที่แสนวิเศษที่สุด ที่ฉันพบเจอมา และฉันคิดว่า จากความชอบของฉัน จะแปลเปลี่ยนเป็นความรักเข้าในสักวัน อย่างไม่มีอะไรมากั้นขวาง "กอดกันให้นานๆ นะ พักพิง กอดฉันให้นานที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เพราะถ้ามีอะไรเกิดขึ้น มันจะทำให้เจ็บปวดมาก" มือที่สัมผัสกอดตอบฉัน และคำพูดนั้นมันช่างเย็นยะเยือกเข้าไปถึงในหัวใจอันบอบบางของฉัน แต่มันก็ช่างแสนอบอุ่นในเวลาเดียวกัน สักวันฉันจะต้องรักเขาให้มากกว่าที่ฉันชอบเขาให้ได้อย่างแน่นอน 6 เดือนต่อมา และนับตั้งแต่วันเข้าหอจนถึงวันนี้ ก็ผ่านมาถึง ครึ่งปีเต็ม ฉันก็เริ่มเข้าหา กีต้าร์มากขึ้น สนิทกับเขามากขึ้นถึงแม้ว่า เขาจะดูเย็นชาใส่ฉันไปหน่อย แต่พอเวลามันผ่านไป เขาก็เริ่มจะสดใสและดูรักฉันมากขึ้น "พิงคับ" "จ๋า ว่าไงจ๊ะที่รัก?" "หวานตลอดเลยนะ ไม่น่า ถึงทำให้ผมหลงคุณ" "ไม่หรอก เพราะกีต้าร์น่ารักต่างหาก" ฉันโอบกอดเขาจากด้านหลัง อย่างทุกครั้งที่เขาทำอาหารให้ฉัน ก่อนที่เราจะไปมหาลัยด้วยกัน ตอนนี้ ฉันรักเขามากกว่า ที่ฉันชอบเขาได้แล้วนะ เพราะเขาให้เกียรติฉันในทุกอย่าง ทั้งไม่เคยหอมฉันก่อน หรือ แตะเนื้อต้องตัวฉันก่อนเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาจะพูดเสมอ ว่ากลัวฉันจะไม่พอใจ และกลัวฉันอึดอัด เพราะแบบนี้ ฉันจึงต้องเป็นคนเข้าหาเขาก่อนเสมอ เพื่อให้เขารู้ว่า สามารถกอดและหอมฉันได้ตลอด ตามที่เขาต้องการ "กีต้าร์ " "คับผม" "เดือนหน้า วันเกิด เตงแล้วนะ อยากได้อะไรเหรอ?" "อืมมมม....อะไรดี?" "ถ้า เตงไม่รู้ งั้นเราจะเป็นคนขอเองนะ?" "หึ! แล้ว พักพิงอยากได้อะไรครับ?" ใบหน้าของฉันเปื้อนรอยยิ้มขึ้นมาในทันที ที่เขาถาม ก่อนที่ฉันจะหมุนตัวเขาให้หันมาหาฉัน "เราอยากมีคืนแรกกับเตง" ใบหน้าของกีต้าร์ดูตื่นตกใจมาก หน้าเขาซีดเผือดราวกับได้ยินคำพูดที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินมาก่อน ออกจากปากฉัน "คืนแรกเหรอ? " "อื้มใช่ ได้ไหม กีต้าร์" ใบหน้าคม ฉีกยิ้มออกเพียงเล็กน้อยเหมือนลังเลใจอะไรบางอย่าง ก่อนที่ฉันจะรีบเปลี่ยนเรื่อง "เออ คือ ช่างมันเถอะเนาะ เรารีบกินข้าว แล้วไป มหาลัยกันดีกว่านะคับ" "อื้ม ครับผม คุณนายของผม" พักพิง เธอรักเขาแหละ รักเขาจนลืมไปว่า ที่เขาแต่งมันไม่ใช่เพราะรัก แบร่! นี่แหละนะ ความรัก มันทำให้คนตาบอดณ วันเกิดของ กีต้าร์ คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ !! "ฮัลโหล พักพิง" "คะ กีต้าร์ เตงอยู่ไหน?" เสียงเพลงและเสียงคนดังสนั่นผ่านมือถือเข้ามา จนแทบจะไม่ได้ยินเสียงพูดของคนปลายสาย ฉันทำได้เพียงแค่ขมวดคิ้ว และเอามือถือแนบหูฟังอย่างใจจดจ่อ "ผมอยู่กับพวกเพื่อนๆ มหาลัย ที่ร้านเหล้า วันนี้ อาจจะกลับประมาณ ไม่น่าเกิน 5 ทุ่มนะคับ" " 5 ทุ่มเลยเหรอ?" ฉันเปรยตามองเค้กวันเกิดที่อยู่บนโต๊ะอาหารอย่างน้อยใจ แต่เพราะฉันรักเขาไปแล้ว และวันนี้ก็วันเกิดของเขาด้วย ฉันเองก็ไม่อยากจะทะเลาะ อะไรที่ปล่อยผ่านได้ก็ควรทำ "ใช่ครับ พอดี วันเกิดน่ะ พอเพื่อนๆ รู้ว่าเป็นวันเกิดผม เขาก็ดึงผมมาเที่ยวด้วยเลย ขอโทษนะ ที่ต้องกลับดึก" "ไม่เป็นไรคับ เตง เที่ยวให้สนุกนะ เราโอเค" "ขอบคุณนะ ที่เข้าใจ" "อื้ม เที่ยวเผื่อเราด้วยนะ" "คับ" เมื่อวางสายจากเขา น้ำตาแห่งความน้อยใจของฉันก็ไหลพรากออกมาโดยไม่รู้ตัว นี่ฉันน้อยใจเขาขนาดนี้เลยเหร
นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขายอมกอดฉัน โดยที่ฉันไม่ได้ร้องขอ กีต้าร์นายจะรู้ไหม ว่าฉันดีใจขนาดไหน ที่นายยอมกอดฉัน เหมือนกับที่ฉันสัมผัสนาย "เราขอพรให้ พักพิงรักเรา และหายน้อยใจเราไง เราขอโทษนะ ที่เมื่อคืนผิดนัด พอดี เราเมามากไปหน่อย แต่ต่อไป เราจะปรับปรุงตัวนะคับ" โถ่!! หัวใจ แค่เขาขอโทษแค่นี้ ใจฉันก็บางจนไม่สามารถที่จะน้อยใจเขาต่อได้อีกแล้ว คนอะไร ทำให้ใจฉันบางได้ขนาดนี้นะ "พักพิง หันหน้ามาหน่อยได้ไหม?" ฉันหันหน้าไปหาเขาอย่างรวดเร็วราวกับถูกต้องมนต์สะกด ก่อนที่ริมฝีปากหนา จะเข้ามาประกบจูบฉันอย่างแผ่วเบา และค่อยๆ เริ่มดูดดื่มขึ้น "อื้ม" ฉันเริ่มรู้ตัวแล้ว ว่าครั้งนี้ ฉันอาจจะต้องให้ครั้งแรกกับเขาแล้วล่ะ เพราะในเมื่อเขาเริ่มเปิด และดูดดื่มขนาดนี้ มันก็คงเป็นอื่นไปไม่ได้อีกแล้ว "กีต้าร์?" "ขึ้นห้องกันนะคับ" "อื้ม!" บนห้องนอนของกีต้าร์ ที่สุดแสนจะหรูหรา เขาได้วางฉันลงบนเตียงใหญ่สีขาว ที่อบอุ่นไปด้วยไออุ่น ที่เขาพึ่งตื่นนอน ริ
"ตายจริง ล้มทั้งยืนเลยเหรอคะ?" "ตายแล้ว คุณพักพิง ทำไมไปนั่งที่พื้นแบบนี้ละคะ" ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ ร่างกายชาไปหมด มันขยับไปไหนไม่ได้เลย ทำได้เพียงนั่งจ้องหน้าชายตรงหน้า ที่ฉันรักสุดหัวใจ "อ๋อ นี่เหรอคะ ป้านายแม่บ้านของที่นี่ สวัสดีค่ะ หนูเป็นแฟน ของพี่กีต้าร์ ชื่อ เอมมี่ค่ะ " ป้านายรับไหว้ผู้หญิงคนนั้นอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะรีบมาประคองตัวฉันให้ลุกขึ้น "คุณพักพิงลุกขึ้นนะคะ เดี๋ยวป้าพากลับห้องค่ะ" "ค่ะ ป้านาย" ฉันพูดกับป้านายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนจะมีเสียงทุ้มแทรกขึ้น "ทำไม รับไม่ได้เหรอ?" ฉันไม่ได้หันหลังกลับไปมองตามเสียงนั้น แต่กลับรีบเดินตรงไปยังบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากทนเห็น คนที่ฉันรักมีคนอื่นแทนฉัน "ในเมื่อนายก็มีคนอื่นแทนฉันแล้ว งั้นฉันคงไม่มีอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่อีก" "เธอว่าไงนะ พักพิง" เสียงทุ้มตะคอกถามฉันอย่างดุดัน จนฉันเองก็เริ่มกลัวเขาเข้าแล้วเหมือนกัน มือใหญ่พุ่งตัวมากระชากแขนฉันอย่างแรง จนฉันตัวเซ เพื่อให้หันไปมองหน้าเขา ที่กำลังเดือดดาลก
กลับสู่ปัจจุบัน บรรยายแบบ Third person บุรุษที่ 3."โอ๊ย!!!! ไอ้คัง เบาๆ สิว่ะ เจ็บไอ้สัส" "ดีนะ นี่แค่หัวแตก เขาไม่เอาโซ่ล่ามขามัดคอมึงตายก็บุญแล้ว" คังเพื่อนสนิทของชายหนุ่มช่วยประคบเย็นแก้บวมช้ำให้กับเขาอย่างหัวเสีย เพราะไม่ชอบใจที่ ชายหนุ่มนั้นจับตัวเมียเก่าของตนเข้ามาขังไว้ "ไอ้เพื่อนโง่ มึงเป็นโรคประสาทอะไรเนี่ย ไปจับยัยนั่นมาทำไม แล้วงี้ ลูกๆ มึงจะอยู่อย่างไงก่อน" "ช่างกูเถอะ แม่งเมียหอบลูกหนี ใครจะไปทนรับได้ว่ะ" "เฮอะๆ นี่มึงยังไม่รู้ตัวอีกเหรอ ว่ามึงผิดอะไร เป็นกู ถ้ากูเป็นยัยพักพิง กูก็ทำเหมือนกันแหละ ไอ้ชิบหาย" "ไอ้เวร มึงควรจะช่วยกู ไม่ใช่ซ้ำเติม" "นี่ ยัยพักพิง ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับแฝดน้องมึงถูกรถชนเลยด้วยซ้ำ แล้วมึงก็ได้ทำร้ายจิตใจเขาซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า มึงคิดว่าเขาจะยอมให้อภัยมึงง่ายๆ เลยเหรอ ไอ้เวร" "ก็กูไม่รู้ไง" "ก็เขาก็ไม่รู้ว่าผิดอะไรเหมือนกัน มึงควรง้อเขาดีๆ ไม่ใช่จับตัวเขามาแบบนี้ มึงมันโคตรเห็นแก่ตัวเลย" "เออ กูมันเห็นแก่ตัวก็กูรักเขา กูไม่อ
ทำไม ฉันจะต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขาสักหน่อย ตอนถูกรถชน ฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าเขาถูกรถชนได้อย่างไง มารู้อีกที ก็มีข่าวลือ ทั่วโรงเรียนแล้วว่าเขาถูกรถชนแต่นี่อะไร ฉันบอกไปแล้วว่าฉันไม่ใช่คนที่ทำให้เขาถูกรถชนก็ไม่เชื่อปึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!"พักพิง เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ!""พี่กีต้าร์ ใจเย็นสิคะ เรากลับห้องไปสนุกด้วยกันเถอะ""ออกไป เอาเงินที่ห้องฉันแล้วออกไปซะ วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี""อ่าว! แล้วที่คุยกันว่าจะพาไปดูหนังล่ะ?""ก็บอกว่า วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดีไง""ได้ค่ะ"เสียงเคาะประตูห้องฉัน พร้อมกับเสียงทะเลาะกันของสองคนนั้น ทำให้ฉันเริ่มจะหงุดหงิดใจ เอาว่ะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ไปเป็นขอทานข้างถนน มันก็คงไม่ได้แย่เท่าไหร่ กลับบ้านเถอะ แล้วค่อยทำงานใช้หนีไอ้เวรนี่อย่างน้อยมันอาจจะสบายใจกว่าอยู่ที่ๆ ทำให้ฉันทุกข์ใจแบบนี้ ก็ได้ พอคิดได้แบบนี้ ฉันก็ไม่รีรอ ที่จะรีบเก็บเสื้อผ้าของตัวเองใส่กระเป๋า และทิ้งห้องที่หรูหรานี้เอาไว้อยู่เบื้องหลัง "พักพิง ฉันบอกให้เปิดประตูไง ไม่ได้ยินหรือไง!"
"คนอย่างมึง มันสมควรตายแทนน้องกู""คุณ ฉันขอโทษ""มึงรู้ไหม วันที่กูไปดูกล้องวงจรปิด ที่โรงเรียน กูต้องเห็นอะไรบ้าง กูนั่งอ่านไดอารี่ของน้องตัวเอง แล้วรู้สึกอย่างไงบ้าง! ""ฮึก! ฮึก!""กูต้องเห็นน้องชายตัวเองถูกแกล้งทุกวัน ถูกกระทืบ ถูกตี ถูกใช้ให้กราบตีนไอ้พวกเวรนั่น ถูกเขียนเต็มเสื้อผ้า ถูกประจานว่าเป็นผู้ชายขายตัว และ สุดท้าย ก็ถูกคนรักอย่างมึง หักหลัง จนต้องมานอนเป็นผักอยู่แบบเนี่ย แบบเนี่ย! มึงเห็นไหม"เขากระชากคอเสื้อฉัน ให้ลุกขึ้นอีกครั้งพร้อมชี้มือไปที่คนบนเตียงอย่างเดือดดาล ดวงตาคม จ้องมองฉันด้วยสายตาเคียดแค้นชิงชัง ราวกับจะกินเลือดกินเนื้อกันให้ได้ ก่อนจะเดินไปหยิบ ไดอารี่ ของน้องชายตัวเองออกมาจากในลิ้นชักข้างเตียง"มึงลองดูสิ มันเขียนไดอารี่เล่มนี้ ทุกวัน ว่ามันถูกทำอะไรบ้าง ว่ามันโดนอะไรบ้าง ว่ามันรักมึงขนาดไหน?"ฉันรีบหยิบไดอารี่จากมือของเขามาเปิดอ่านดูอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างมันดูเจ็บปวด ในไดอารี่เขาบอกว่า เขาอยากจะสู้พวกมัน แต่หากมีเรื่องแม่ของเขาจะเดือดร้อน เพราะลำพังแม่ของเขาก็หาเช้ากินค่ำ หลังจาก
เขาดึงท่อนแข็งหนาออก พร้อมกับรูดซิปกางเกงขึ้นในทันที และดึงกระเป๋าตังออกมา เอาเงินโยนใส่ตัวฉันที่นอนหมดสภาพอยู่บนโซฟา "เอาไปซื้อยาคุมกินซะ! ของฉันเข้าไปลึกขนาดนั้น ครั้งเดียวก็ทำให้เธอท้องได้แล้ว" ฉันที่ลุกขึ้นนั่งด้วยเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ย ก็พยายามข่มน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเอาไว้ จัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เหมือนเดิมมากที่สุด ก่อนจะลุกขึ้น ดึงกระโปรงลง "ฉันออกไปได้หรือยัง?" "ฮึก!" "ออกไปสิ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พร้อมกับเอา แอลกอฮอล์ มาเช็ดมือและฉีดไปตามร่างกายของตัวเอง ฉันคงดูสกปรกสำหรับเขามากเลยสินะ ฉันพยายามข่มน้ำตาตัวเองไม่ให้มันไหลออกมา ก่อนจะเดินไป เปิดประตูห้องเพื่อจะได้ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ จะได้ชำระล้างสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ในตัวฉัน"เดี๋ยวก่อน!" "ทำธุระเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เข้ามาอยู่ดูแลน้องชายของฉัน เธอต้องนอนอยู่ในห้องนี้ จนกว่าน้องชายของฉันจะฟื้น พอน้องชายของฉันฟื้นแล้ว เธอก็ค่อยไสหัวออกไปจากบ้านหลังนี้ แล้วอย่ากลับมาให้พวกเราเห็นหน้าอีก" "เข้าใจที่ฉันพูดไหม พักพิง" ฉันพยั
บรรยาย First person#เปียโน ผมนั่งดูกล้องวงจรปิด ที่ยัยนั่นกำลังเช็ดตัวให้กับน้องชายตัวเอง แล้วรู้สึกรังเกียจขึ้นมาทันที รังเกียจจนไม่อยากให้ยัยนี่เข้าใกล้ น้องชายของผม ปึก! "แม่งเอ๊ย" ผมละ แค้นเธอจริงๆ ยิ่งเห็นก็ยิ่งไม่ชอบใจ ยิ่งเห็นรอยยิ้ม ที่เธอคิดว่าผมเป็นกีต้าร์น้องชายตัวเอง ก็ยิ่งไม่พอใจเข้าไปใหญ่ ยัยนี่มีดีอะไร ทำไมน้องผมถึงหลงเธอ ถึงขนาดยอมถูกล่อให้ไปโดนรถชน คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ คลื่น~ "ฮัลโหล?" "ฮัลโหล ไอ้เปียโน ทำไมมึงรับสายช้าจังว่ะ" "มึงมีอะไร?" "พรุ่งนี้ มีสอบ มึงจะมาไหม?" "อื้ม! ไปดิ ต้องไปแทนไอ้เจ้าชายนินทานี่อยู่แล้ว" ผมทำเสียงหงุดหงิดใส่เพื่อน จนมันรู้สึกสงสัย "ไอ้เปียโน มึงเป็นอะไรของมึงว่ะ น้ำเสียงอย่างกับหงุดหงิดอะไรมา" "ไม่มีอะไรหรอก" "แน่เหรอว่ะ หรือว่า ยัยนั่นทำอะไรมึง" "ใคร?" "เอ้า ก็แฟนน้องชายฝาแฝดมึงไง ที่มึงไปหลอกมาแต่งงานด้วยอ่ะ" "เสือก!" "เอ้า กูได้ข่าว สวยใช่เล่นเลยเหรอว่ะ พรุ่
ฉันยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย เพื่อรอฟังคำตอบจากปากคนตัวใหญ่อย่างนิ่งเงียบ ก่อนที่เขาจะนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าฉัน จับมือฉันขึ้นมาแนบแก้มขาวอย่างอ่อนโยน"พักพิง เรามามีลูกกันเถอะ ต่อไปนี้ เธอไม่ต้องกินยาคุมแล้วนะ เราจะมีลูกที่น่ารัก ๆ ด้วยกัน สัก 2 - 3 คน ดีไหม?"เมื่อเขาพูดจบ ฉันก็ฉีกยิ้มออกพร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ทั้งน้ำตาที่หลั่งไหลพรั่งพรูออกมากระทบจนเต็มแก้ม"ฮ่าาาาๆๆๆๆ"เพี้ยะ!ฉันตบหน้าเขาไป 1 ฉาก ให้กับความสกปรกโสโครกที่ฉันได้รับมา ก่อนจะลุกขึ้นยืนประจันหน้ากับเขา อย่างเดือดดาล"พักพิง เธอตบฉันทำไม?""มึงต้องการให้กูมีลูก เพื่อที่มึงจะได้รั้งกู ให้อยู่กับมึงตลอดไปใช่ไหม เปียโน!"เขายืนขึ้น อย่างลนลาน ก่อนจะดึงมือฉันเข้าไปกุมไว้อีกครั้งแน่นหนา"มันไม่ใช่แบบนั้นนะ พักพิง ฟังเราก่อน""ปล่อยกู!"เสียงสั่นเครือของฉัน บ่งบอกชัดเจนแล้วว่า วันนี้ มันต้องจบ ไม่ว่า อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม"พักพิง คือ แบบนี้นะ เราไม่ได
สถานกักกันหญิง"สวัสดีค่ะ ฉันมาพบ นักโทษที่ชื่อฟ้าค่ะ""กรุณา บอกชื่อ นามสกุลของ นักโทษด้วยค่ะ เป็นอะไรกับนักโทษคะ?"ฉันทำได้เพียงแต่ เงียบลง เพราะจำไม่ได้จริง ๆ ว่าเธอชื่ออะไร ก่อนจะ ดึงมือถือขึ้นมาเปิดรูปภาพของฟ้า ให้แก่ผู้คุมได้ดู"อ๋อ งั้นรับคิวแล้ว รอสัญญาณเรียกนะคะ วันนี้ ญาตินักโทษน้อย อาจจะใช้เวลาไม่นาน สามารถเข้าไปเยี่ยมได้ ไม่เกิน 40 นาทีนะคะ หากหมดเวลา จะมีสัญญาณเตือน""ขอบคุณค่ะ"ฉันนั่งรอคิวอยู่นานพอสมควร ก่อนที่เสียงเตือนให้เข้าพบ คุณฟ้า จะดังขึ้นติ๊ดดดดดดดดดดดดดด!"ญาตินักโทษ คิวต่อไป เชิญค่ะ"ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอด พร้อมกับต่อแถวเดินเข้าไป ยังห้องเยี่ยมนักโทษด้วยใจที่ลังเลแต่เมื่อคุณฟ้า ได้พบหน้าฉัน เธอก็สะดุ้งสุดตัว ก่อนจะลนลาน และหยิบโทรศัพท์ข้างม่านกระจกขึ้นมาแนบหูอย่างหวาดหวั่น"สวัสดีค่ะ ฟ้า"ม่านกระจกใส ทำให้เห็นถึงร่างกายที่ผอมบางของเธอ อย่างชัดเจน ราวกับว่า เธอยังไม่สามารถปรับตัวเข
อ้วก! อ้วก! อ้วก!"พักพิง เธอเป็นอะไรน่ะ ทำไมตื่นเช้ามา ก็อ้วกแบบนี้ ไม่สบายเหรอ ไปหาหมอไหม?""ไม่เป็นไร ฉันโอเค""แต่ เธอหน้าซีดมากเลยนะ""เดี๋ยวมันก็หาย นายไปทำงานเถอะ เดี๋ยวจะสายเอานะ""ไม่อ่ะ ถ้าเธอเป็นแบบนี้ เราหยุดงานดูแลเธอดีกว่า"คำพูดที่ดูห่วงใยตัวฉัน มันบ่งบอกถึงความใส่ใจที่เขามีให้ฉันมากมายเหลือเกิน แต่สำหรับฉันแล้ว ฉันคิดว่า มันก็เป็นแค่ เกมส์หลอกลวงเท่านั้นเมื่อกีต้าร์ฟื้นแล้ว สุดท้ายฉันก็ต้องออกไปจากบ้านหลังนี้อยู่ดี โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เขาทำกับฉันในวันนี้ และวันผ่าน ๆ มา ฉันจะไม่ยอมให้ใจของฉันต้องอ่อนแอเพราะเขาอีกต่อไปแล้วกระทั่ง 1 อาทิตย์ ต่อมา"พักพิง เราออกไปทำธุระก่อนนะ อยากกินอะไรไหม?"คำพูดเดิม โทนเสียงเดิม บ่งบอกให้ฉันรับรู้ว่า เขาจะออกไปที่ไหน วันนี้ ฉันจึงเลือกที่จะตามเขาไป เพราะจะได้หายจากข้
ยัยโง่พักพิง ย่นคิ้วใส่ฉันอีกครั้งอย่างงวยงง เธอคงมีสงสัยฉันบางแหละ เพราะตอนเรียนมัธยม เราไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ช่วงพัก ฉันก็จะต้องไปอยู่กับพี่บอม"พักพิง แกจำฉันได้ไหม?""ใครอ่ะ?""ฉันไง ฟ้า ที่เรียนห้องเดียวกับแกอ่ะ""ฟ้า"ยัยนี่ขี้ลืม หรือ จำฉันไม่ได้จริง ๆ กันนะ ห่างจากเรียนมัธยมได้ไม่กี่ปีเองนะ ลืมฉันแล้วเหรอ ฉันน่ะ ฮอตจะตาย จะมาลืมกันแบบนี้ได้ไง"อ๋อ เราจำได้แล้ว ฟ้าที่หายไปช่วงเทอมสองใช่ป้ะ""อื้ม ใช่ ๆ "ในที่สุดก็จำฉันได้สักทีนะ ยัยนี่แอ๊บหรือเรื่องจริงกันแน่เนี่ย"เป็นไงบ้าง ทำไมถึงพึ่งมาหากันตอนนี้!""คือเรา"ฉันเหลือบตามองหน้าลูกสาวของฉันอย่างร้ายกาจ ก่อนจะเอ่ยออกมา ด้วยเสียงสั่นเครือ"ตอนนั้นเราท้องน่ะ เลยพักการเรียน"พักบ้าบออะไร ฉันเรียนจบม.6 แล้วยะ แค่เลี้ยงลูกไม่ได้เรียนต่อ มหาลัยแบบพวกแกเฉยๆ แหละ ถ้าฉันเร
ฉันสติแตก จนคลั่งออกมา วิ่งไปทุบร่างของไอ้กีต้าร์ที่นอนโคม่าอยู่ เพื่อให้มันตื่นมาช่วยฉัน แต่ที่ไหนได้ กีต้าร์มันกลับ นอนนิ่งเป็นผัก ราวกับรอความตายเพียงเท่านั้นณ โรงพัก"จ่า เอาตัวไปฝากขังได้เลย""คับ ท่าน"ฉันเอาแต่ เหม่อลอยน้ำตาซึมอยู่ตลอดเวลา ที่อยู่ในโรงพัก ก่อนจะเดินตามจ่าเข้าไปยังห้องขัง ที่เหม็นคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นของเสียจนอยากอ้วก"ทางผู้กองเขาไม่ให้ประกันตัวนะ พรุ่งนี้จะส่งตัวไปฝากขังที่เรือนจำใหญ่ เพื่อรอขึ้นศาล""สวัสดีค่ะ ฉันมาเยี่ยม คนที่ชื่อ พิงฟ้าค่ะ"เสียงนั่น คือเสียงของแม่กีต้าร์อย่างแน่นอน เพราะเมื่อเช้า ฉันได้ยินเสียงของท่านและได้เห็นหน้าพวกเขาแล้วด้วยฉันรีบลุกขึ้นยืน มองตามเสียงนั่นอย่างฉับพลัน ก่อนที่คนตัวใหญ่ จะเดินเข้ามาหาฉัน ที่ห้องฝากขัง"ฮึก! ปะ.....เปียโน""ฉันพา น้องพราวมาหา""อะไรนะ!"&nb
บรรยาย First person#พักพิงเมื่อฉันส่งพ่อแม่และน้องพราวขึ้นเครื่องไปอังกฤษแล้ว ฉันกับอี่ตาเปียโน ก็นั่งเงียบกันมาตลอดทาง ราวกับไม่มีสิ่งใดจะโต้ตอบกันอีกกระทั่ง เขาเริ่มเปิดพูดขึ้นมาก่อน"เออคือ!""ว่าไง?""พักพิง เธอมีความคิดเห็นอย่างไงกับน้องพราวเหรอ?""จริงๆ มันก็แปลกๆ นะ ที่อยู่ดีๆ พ่อแม่นายก็รับน้องพราวเป็นหลานซะงั้น ว่าแต่ ฟ้าเขาไปไหนเหรอ?"ร่างใหญ่ที่กำลังนั่งขับรถอยู่ทำท่าทางเลิ่กลั่กเล็กน้อย ก่อนจะยกยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน พร้อมกับใช้มือลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา"เรื่องนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน สงสัยยัยพิง เฮ้ย! ยัยคนชื่อฟ้า คงอยากให้ลูกของเธอมีชีวิตที่ดีมั้ง""อ่อ แบบนี้เอง"ฉันรู้ดีว่าเขาโกหก แต่ฉันก็ยังทำตัวปกติ ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันรู้สึกว่า เปียโนมีอะไรปิดบังฉันอยู่ราวกับไม่ต้องการให้ฉันรู้เรื่องนี้เป็นอันขาดเสียอ
3 ชั่วโมงผ่านไปในขณะที่ฉัน ไปรับลูกที่โรงเรียน คุณครูของน้องพราวก็เดินมาบอกฉัน ในทันที"คุณแม่น้องพริ้งพราวใช่ไหมคะ น้องพริ้งพราวตกบันไดค่ะ ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลแล้ว""อะไรนะคะ?"ฉันรู้สึกสับสนป่นมึนงง เพราะไม่มีใครโทรมาบอกฉันเลย ว่าน้องพราวเข้าโรงพยาบาล มันกลับเป็นฉันที่ต้องมารู้เองเสียอย่างนั้นฉันจึงรีบขับรถไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว พร้อมไปที่ห้องผ่าตัดอย่างรีบร้อน ก่อนจะเห็นพี่บอมนั่งถือแผ่นเอกสารสีขาวไว้ในมือแน่น ใบหน้าแดงก่ำ ราวกับเสียใจสุดขีด"พี่บอม ทำไมพี่ไม่โทรหาฟ้า รู้ไหมว่าฟ้าไปถึงโรงเรียนลูกแล้ว แต่ครูบอกว่า ลูกอยู่โรงพยาบาล ฟ้าเลยต้องรีบมาเลยเนี่ย รถก็ติด"ดวงตาแดงก่ำเหลือบมองฉันอย่างแค้นเคียด ก่อนจะยื่นเอกสารที่อยู่ในมือให้ฉันดู เมื่อฉันหยิบแผ่นเอกสารนั้นมาดู ขาฉันก็อ่อนแรงลงอย่างฉับพลันร่างกายที่แข็งแรงกลับสั่นหวั่นอย่างบอกไม่ถูก ทำอย่างไงดี พี่บอมรู้ความจริงแล้ว ฉันตายแน่ลูกฉันอีก ฉันไม่อยากลำบากนะ ฉันจะทำไงดี"กลับบ้านแล้ว เรามีเรื่องต้องคุยกัน พิงฟ้า"พี่บอมไม่เ
1 สัปดาห์ผ่านไป หลังพี่บอมรู้ว่าฉันตั้งท้องพี่บอมดูแลฉันเป็นอย่างดีมาตลอด จนฉันเองก็รู้สึกผิด ที่เผลอไปนอนกับคนอื่นเพราะประชดเขาแบบนั้น"นั่งเหม่ออีกละ นี่ยาบำรุง ผลไม้ และ อาหารเสริม ฉันเตรียมไว้ให้หมดแล้วนะ""ขอบคุณค่ะพี่บอม""ว่าแต่ ที่โรงเรียนเป็นอย่างไงบ้าง ไปมีเรื่องกับใครมา""ก็จะใครอ่ะ ไอ้กีต้าร์ไง ตั้งแต่มันออกโรงพยาบาลมา มันก็เปลี่ยนไป ดูดุดันน่ากลัว แถมตัวใหญ่ขึ้น""คะ? มันจะเป็นไปได้อย่างไง?""ก็ใช่สิ นี่ถ้าไม่เห็นว่า มันเป็นลูกคนเดียวของยัยแม่ค้าขายขนมนั่น ฉันคงคิดว่ามันมี ฝาแฝด"ฉันทำได้แค่ครุ่นคิด ถึงสิ่งที่พี่บอมเอ่ยบอก เพราะกีต้าร์เองก็ไม่ได้เล่าเรื่องราวของเขา ให้ฉันฟังเลยเหมือนกัน แถมวันที่ฉันอยู่โรงเรียนเป็นวันสุดท้ายฉันก็เห็นกีต้าร์แค่ผ่านๆ เพราะคิดว่า เขายังฟังคำสั่งฉัน ที่ฉันเคยสั่งเขาเอาไว้ว่าหากอยู่ โรงเรียนห้ามเรียกฉันว่าพิง และห้ามทำตัวสนิทกับฉันแต่จะว่าไป นี่ก็ผ่านมา 1 อาทิตย์แล้ว ถ้าเป็นกีต้าร์จริงๆ เขาก็ต้องโทรหาฉันแล
บรรยาย First person#พิงฟ้าในสายตาคนอื่นฉันคงจะเป็นตัวร้ายมากเลยสินะ ก็ใช่อย่างที่พวกคุณคิดนั่นแหละ ฉันมันร้ายกาจ มีผัวทีเดียว 2 คน ในสมัยเรียนฉันคบซ้อนกีต้าร์กับพี่บอมมาตลอด โดยไม่ให้พี่บอมรู้และทำเป็นหลับหูหลับตาไป ตอนที่กีต้าร์ถูกรังแกที่ฉันคบพี่บอมออกหน้าออกตา เพราะเราคบกันมานาน แถมบ้านพี่บอมก็เป็นคนมีฐานะ อีกอย่างเวลาฉันควงพี่บอมไปไหน ก็จะเป็นจุดสนใจของคนอื่นเสมอ โดยที่ฉันไม่ต้องทำอะไรเลยส่วนกีต้าร์ ถ้าจะให้พูดในมุมมองของฉันคือเขาเป็นคนดีมาก ดีชนิดที่ว่า ดีจนฉันอิจฉา ถึงแม้จะรู้ดี ว่าไม่ควรทำแบบนี้กับเขา แต่ฉันก็ยังจะทำและที่ฉันมีอะไรกับกีต้าร์ ก็เพราะฉันเมาและเผลอไปข่มขืนเขาเอง เพราะเสียใจที่พี่บอมมันไปมีคนอื่น และพอเจอใบหน้าหล่อๆ ของกีต้าร์เข้าไป ใจมันก็บางลงอย่างเห็นได้ชัด แต่เพราะความลับมันจะต้องอยู่กับเราทั้งคู่ตลอดไปฉันจึงหลอกใช้ความไร้เดียงสาของเขาให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้เราทั้ง 3 คนยังไปต่อด้วยกันได้ ฉันยอมรับเลยว่าตลอดเวลาที่คบกับกีต้าร์มา