เช้าวันต่อมาแสงสีทองทาบทับจับขอบฟ้า เป็นแสงตะวันแรกที่อาบไล้ยอดภูหลังจากท้องฟ้าถูกปกคลุมด้วยเมฆฝนมาหลายวัน กรุณาขยับตัวเข้าหาไออุ่นที่อิงแอบแนบนอนมาทั้งคืน แก้มนุ่มเบียดชิดอยู่กับซอกคอแกร่ง มือข้างหนึ่งวางแหมะอยู่บนแผ่นอกกำยำน่าลูบไล้ เจ้าของท่อนแขนที่เธออาศัยหนุนนอนกอดกระชับร่างเธอแน่นขึ้นอีกนิด สายตาคู่คมจับจ้องใบหน้าสาวที่ยังคงหลับตาพริ้มราวกับเด็กน้อยที่ยังหลงวนอยู่ในห้วงฝันแสนหวาน
“ตื่นได้แล้วคนขี้เซา” มะไฟปลุกคนในอ้อมกอดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เนื้อตัวนุ่มนิ่มกำลังจะทำให้เขาตบะแตก ทว่าแม่คนขี้อ่อยแบบไม่รู้ตัวว่าอ่อยกลับไม่มีท่าทีว่าจะตื่น มิหนำซ้ำเธอยังเบียดอกอวบภายใต้เสื้อยืดบางๆแนบไปกับสีข้างของเขาได้อย่างน่าหวั่นใจ
“ตัวจิ๋ว ตื่นได้แล้ว” มะไฟรวบรวมสมาธิเรียกหญิงสาวอีกครั้ง กรุณาปรือตาขึ้นช้าๆ คลี่ยิ้มให้เขา มะไฟใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง คิดว่าเธอคงจะตื่นแล้ว เขาจะได้ลุกไปอยู่ให้ห่างจากเธอเสียที ก่อนที่อะไรๆของเขาจะตื่นตัวไปมากกว่านี้ แต่ทว่าแม่คนขี้เซากลับหุบยิ้มฉับ ปิดเปลือกตาลงหลับต่อแบบดื้อๆ มะไฟพ่นลมหายใจออกจากปากยืดยาว
“ถ้าไม่ตื่น พี่จะปล้ำแล้วนะ” คนอยากปล้ำใจจะขาดแต่ต้องข่มใจขู่เสียงเข้ม
“รอให้ปล้ำอยู่เนี่ย” กรุณาตอบยิ้มๆทั้งที่ยังหลับตาอยู่
“แกล้งหลับเหรอ” มะไฟพลิกกายขึ้นคร่อมร่างเล็กทันที กรุณาลืมตาขึ้น รีบเอามือยันแผ่นอกกว้างไว้ หญิงสาวหัวเราะเบาๆเมื่อเห็นหน้าคนที่ชะโงกอยู่เหนือร่างตน
“หน้าแดง หูก็แดง นี่พี่ไฟเขินอะไรตัวจิ๋วเนี่ย” กรุณายั่วเย้าพูดเสียงกลั้วขำ เธอไม่กลัวคำขู่ของเขาหรอก พี่ไฟน่ะหรือจะกล้าปล้ำเธอ ให้เขาขู่ว่าเสือมาก็อตซิล่าบุก เธอยังจะเชื่อมากกว่าเสียอีก
“ตัวจิ๋ว...” มะไฟเรียกหญิงสาวที่นอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ใต้ร่างตนด้วยเสียงเข้ม สายตาคมดุจ้องมองใบหน้าเธอนิ่ง
“อะ...อะไร” สายตาที่มองมาแปลกๆ ทำให้คนถูกเรียกชักใจไม่ดี
“พี่ขอ...” มะไฟโน้มใบหน้าลงจนจมูกแทบจะชนกัน กรุณาหลับตาปี๋ หัวใจสาวเต้นโครมคราม สองมือที่ยันแผ่นอกกว้างอยู่ขยุ้มเสื้อเขาจนยับย่น
“ขะ...ขออะไร” กรุณาถามกลับเสียงสั่นๆ ไม่ยอมลืมตา
“ขอยะ...”
“ไม่นะ! ตัวจิ๋วยังไม่พร้อมนะพี่ไฟ” กรุณาโวยวาย ไม่ยอมฟังคำขอของชายหนุ่มให้จบ แค่พยัญชนะขึ้นต้นเธอก็เดาไปไกลแล้วว่าเขาจะขออะไร หญิงสาวดิ้นและทุบอกเขาสุดแรง และระดมกำปั้นรัวทุบไม่ยั้งอีกหลายครั้ง
“โอ๊ย! อะไรกันตัวจิ๋ว หยุดก่อนๆ” มะไฟรวบจับมือสองข้างขึ้นไปกดตรึงไว้เหนือศีรษะของเธอ เขาหัวเราะเบาๆ ใบหน้าดุดันเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นยิ้มกรุ้มกริ่ม กรุณาลืมตามองหน้าเขาตื่นๆ
“ตัวจิ๋วยะ...ยังไม่พร้อม” กระต่ายน้อยขี้ตื่นตูมบอกตะกุกตะกัก
“ไม่พร้อมอะไร” มะไฟถามยิ้มๆ
“ตัวจิ๋วยังไม่พร้อมทำแบบที่ผัวเมียเค้าทำกัน” คนขี้ตื่นตอบเสียงเบา หลุบตาซ่อนความประหม่าตื่นกลัวในดวงตาคู่สวย
“พี่ก็ไม่ได้จะบังคับหรือเร่งรัดอะไรนี่”
“ก็เมื่อกี้ พี่ไฟขอ...”
“ขออะไร” มะไฟเลิกคิ้ว ดวงตาคู่คมที่มองเธออยู่วาววามน่าควักทิ้งนัก กรุณาเม้มปากแน่นก่อนพูดเสียงเบา
“พี่ไฟขอทำแบบผัวเมียทำกัน” พอหญิงสาวจบ มะไฟก็เงยหน้าระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นกระท่อมน้อย เขาหัวเราะอยู่นานจนคนที่ถูกเขาตรึงไว้ใต้ร่างหน้างอง้ำ เธอไม่เข้าใจว่าเขาจะหัวเราะทำไม เรื่องที่เขาขอเธอมันไม่ใช่เรื่องน่าขำสักหน่อย
“พี่ไฟ!” กรุณาเรียกเขาเสียงดัง ใบหน้าน่ารักบูดบึ้งลงไปอีก มะไฟก้มลงมองสบตาคนขี้ตื่นขี้มโน
“พี่ปวดเยี่ยว ขอไปเยี่ยวก่อน เดี๋ยวจะกลับขึ้นมาทำกับข้าวให้กินนะจ๊ะ” มะไฟตอบเร็วปรื๋อ เขายิ้มล้อเลียน แล้วรีบลุกขึ้นเดินลงจากกระท่อมไป ทิ้งให้คนเข้าใจผิดกะพริบตานอนมองหลังคาด้วยความอับอาย แค่พี่ไฟจะเอ่ยปากขอไปเยี่ยว แต่เธอกลับคิดไปไกลถึงดาวพลูโตแล้ว เป็นสาวเป็นนางคิดอะไรไปได้ไกลขนาดนั้น น่าอายที่สุด
อาหารมื้อเช้าง่ายๆสำหรับสองหนุ่มสาวคือข้าวต้มกุ๊ยชามโตโรยหน้าด้วยหมูหยอง และไข่เค็มหนึ่งฟองผ่าครึ่ง แม้ไม่หรูหรา รสชาติไม่อร่อยล้ำ ทว่ากรุณากลับกินอย่างมีความสุข เธออิ่มเอมเต็มตื้นถึงหัวใจ การกินอาหารเช้าร่วมกับคนที่รักและเอาใจใส่ แม้กินกลางป่ากลางเขา ก็มีความสุขมากกว่าการกินอาหารเช้าหรูหราบนโต๊ะตัวใหญ่ราคาแพง แต่ต้องนั่งกินเพียงลำพังเป็นไหนๆ
กรุณาวางแผนบังคับให้มะไฟหนีตามเธอมาอย่างรอบคอบ หญิงสาวจัดกระเป๋าเป้สำหรับเดินป่าใบใหญ่ เตรียมเสบียงอาหารแห้งและของใช้ส่วนตัวเผื่อสำหรับตัวเองและเขาด้วย และพกเงินมาจำนวนหนึ่ง ส่วนเสื้อผ้าก็เอามาเท่าที่จำเป็น เธอแอบหนีออกจากบ้านโดยขับมอเตอร์ไซด์ไปบ้านของเขา แล้วขอร้องให้เขาพาเธอหนี ชายหนุ่มลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยอมเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าใบย่อม แล้วรีบพาเธอออกเดินทางขึ้นภูโดยดักรอขอขึ้นรถกับชาวบ้านที่เอาของป่าลงไปขายให้พ่อค้าในหมู่บ้านเป็นประจำทุกสัปดาห์
กรุณาจ่ายเงินให้ชายชราเจ้าของรถจำนวนหนึ่ง เป็นสินน้ำใจที่เขายอมให้ติดรถกระบะคันผุพังขึ้นมาที่หมู่บ้านด้วย ระหว่างการเดินทางก็ไต่ถามเรื่องที่พักว่าพอจะมีให้เช่าหรือร่วมอาศัยด้วยไหม ชายชราจึงเอ่ยปากให้ยกกระท่อมท้ายหมู่บ้านหลังนี้ให้อยู่ มันเป็นกระท่อมหลังเดิมที่เขาเคยอาศัย ก่อนจะย้ายไปอยู่กับลูกชายและลูกสะใภ้ที่อยู่ในหมู่บ้าน โชคดีของสองหนุ่มสาวที่กระท่อมหลังนี้มีข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นอยู่เกือบครบ แม้จะเก่าแต่มันยังใช้งานได้ก็ถือว่าโอเคพื้นที่ที่ชาวบ้านอยู่อาศัยหรือถางป่าเพื่อทำกินไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ ใครจะอยู่ตรงไหนจะยกให้ใครเพียงแค่เอ่ยปากบอกกันให้รับรู้ก็พอ ชาวบ้านอยู่กันอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่ทำลายไม่ทำร้าย ทำการเกษตรปลูกผักเลี้ยงไก่เลี้ยงหมูไปตามประสา ทำแค่พออยู่พอกิน แต่ก็มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่รวมตัวกันหาของป่า แล้วรวบรวมฝากกันลงไปขายให้พ่อค้าในหมู่บ้านที่ตีนภู เพื่อจะหาเงินซื้อข้าวสารอาหารแห้งมาตุนไว้ และเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นหมู่บ้านนี้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ อยู่ในหุบเขาสลับซับซ้อน การเด
“พี่ไฟคิดถึงมะเฟืองหรือจ๊ะ”ไม่ใช่ว่าจะไม่นึกถึงเพื่อนกรุณาเองก็เป็นห่วงมะเฟืองอยู่เหมือนกัน แต่เธอมั่นใจว่าแม้พี่ชายไม่อยู่ด้วย มะเฟืองสามารถเอาตัวรอดได้ แม้เป็นความคิดที่เห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่เธอก็เชื่อว่ามะเฟืองต้องเข้าใจเธอกับพี่ชายแน่นอน“ป่านนี้มะเฟืองคงเป็นห่วงเราแย่แล้วไม่รู้ว่าเสี่ยเจ๋งจะทำอะไรมะเฟืองหรือเปล่า”“ป๊าไม่ใช่คนแบบนั้นป๊าไม่ไปยุ่งกับมะเฟืองหรอกพี่ไฟอย่ากังวลไปเลย”กรุณาเอื้อมมือไปแตะมือที่กำมีดปลายแหลมอยู่เบาๆมะไฟเงยหน้ายิ้มให้หญิงสาว “ทำรางน้ำเสร็จแล้ว พี่จะพาไปดูลำธาร อยู่ใกล้ๆแค่นี้เอง”มะไฟบอกเล่าเรียบเรื่อยเขาพยายามทำสีหน้าให้ปกติที่สุดเพราะไม่อยากให้กรุณาเป็นกังวลใจไปกับเขาเสี่ยเจ๋งใจดีกับลูกสาวทั้งรักทั้งหวงไม่แปลกที่กรุณาจะมองเห็นแต่ด้านดีของผู้เป็นพ่อแต่คนนอกอย่างเขารู้
“พี่ไฟขี้โกง ลงไปเล่นน้ำก่อนตัวจิ๋ว” เสียงงุ้งงิ้งดังมาก่อนเจ้าตัวจะทันได้เดินมาถึงริมลำธารเสียอีก มะไฟมองไปยังต้นเสียง ชายหนุ่มอมยิ้มน้อยๆเมื่อเห็นคนตัวเล็กหอบเสื้อผ้าก้าวเร็วๆเข้ามาใกล้“วางเสื้อผ้าไว้บนโขดหินตรงนั้นก่อน”กรุณารีบตามที่เขาบอก พอวางเสื้อผ้าเสร็จแล้วหันกลับไปมองคนที่ลงเล่นน้ำก่อนเธอ เขาก็ดำผุดดำว่ายอยู่กลางลำธารแล้ว คนขี้โกง!ร่างอรชรสมส่วนถูกพรางไว้ด้วยผ้าถุงโป่งพองที่ตัดเย็บโดยมียางยืดรัดเหนืออกและยาวถึงครึ่งแข้ง ผมยาวถึงกลางหลังถูกปล่อยสยาย เหนือยางรัดผ้าถุงขึ้นไปเผยผิวเนื้อเนียนขาวผ่องกระจ่างตาอย่างคนที่ไม่เคยต้องแดดต้องลม กรุณาก้าวเท้าลงไปยังลำธาร พาตัวเองขึ้นไปนั่งบนแผ่นหิน หย่อนขาลงในลำน้ำ หญิงสาวหันหน้าไปทางคนขี้โกงที่กำลังจ้วงแขนว่ายน้ำอยู่ไม่ไกล“สบู่กับแชมพูอยู่นี่นะพี่ไฟ อย่าเล่นน้ำจนลืมถูสบู่สระผมล่ะ” กรุณาตะโกนบอกเขาด้วยน้ำเสียงกวนๆกึ่งดุ“คร้าบ แม่...” มะไฟตอบรับเสียงดังฟังชัด ก
มะไฟตาพร่าไปกับยิ้มหวานละลายใจของคนในอ้อมแขน อดใจไม่ไหวที่จะกดจมูกลงบนแก้มเนียนอีกครั้ง กรุณาเบี่ยงหน้าหนีด้วยท่าทางเขินอาย ปลายจมูกของคนอยากหอมแก้มสาวจึงกดลงบนลำคอระหงแทน “พาตัวจิ๋วขึ้นฝั่งเถอะ หิวแล้ว” กรุณาบอกโดยไม่ยอมมองหน้าคนที่อุ้มตัวเองอยู่ มะไฟกดจมูกบนลำคอสาวแล้วสูดกลิ่นหอมดังฟอด แล้วรีบตัดใจไม่ทำอะไรไปมากกว่านั้น “อืม...พี่ก็หิวแล้วเหมือนกัน กลับไปกินมาม่าอืดของเรากันเถอะ” กรุณาหัวเราะคิก มะไฟยิ้มบาง กระชับวงแขนอุ้มหญิงสาว แล้วพาเธอเดินไปยังแผ่นหินเดิม มะไฟส่งหญิงสาวขึ้นไปนั่งบนโขดหิน แล้วบอกให้เธอไปผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังต้นไม้เดิม ส่วนเขาขอล้างตัวอีกสักหน่อย ต่อเมื่อกรุณาสวมเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว แล
มะเฟืองถอนหายใจอย่างโล่งอก เอนตัวลงนอน ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมจนจดคอ ความอ่อนล้าโรยแรงเพราะนอนไม่พอมาหลายคืนทำให้เพียงแค่หลับตาลงไม่ถึงสามนาที หญิงสาวก็หลับลึกหลับสนิท ไม่รับรู้เลยว่าประตูห้องถูกมือดีเปิดออกและเขาก็ก้าวเข้ามาหยุดยืนจ้องมองหน้าเธออยู่ข้างเตียงแล้วการุณย์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิด อุตส่าห์ยืดเวลา ให้โอกาสพี่ชายของเธอแล้ว แต่ไอ้คนไม่เจียมกะลาหัวก็ยังไม่ยอมพาลูกสาวเขากลับมาคืน บางทีก็โอกาสที่เขาหยิบยื่นให้ก็ควรหมดอายุได้แล้ว“มะเฟือง มะเฟืองเอ๊ย!” คนที่เพิ่งนอนไปไม่ถึงชั่วโมงค่อยๆลืมตาขึ้นมองคนปลุก เมื่อเห็นว่าเป็นป้าประไพ มะเฟืองจึงหลับตาลงอีกครั้ง“มะเฟืองขอนอนต่ออีกสักนิดนะจ๊ะป้า”“ไม่ได้หรอก เสี่ยบอกให้ป้ามาปลุกเอ็งลงไปทำงาน รีบๆอาบน้ำแต่งตัวลงไปข้างล่าง หรือเอ็งจะรอให้เสี่ยขึ้นมาปลุก” ป้าประไพบอกแล้วป้าประไพเดินออกจากห้องไป ชื่อของการุณย์ทำให้หญิงสาวรีบลุกขึ้นนั่ง ปลดปมผ้าถุงออก ดึง
“เห็นพี่เชิดบอกว่าเสี่ยให้พามะเฟืองไปทำงานที่โรงทำอิฐบล็อก”“อ๋อ! ได้จ้ะ ไม่มีปัญหา มะเฟืองทำงานหนักได้ทุกอย่างแหละ”“ดีแล้วล่ะ ทำตัวว่าง่ายๆ ช่วยงานเสี่ยเขาตามที่เขาบอก เขาจะได้เอ็นดู จะได้อยู่กันไปนานๆ” ป้าประไพที่กำลังเตรียมกาแฟไปเสิร์ฟให้การุณย์บอกอย่างหวังดี“ตกลงเอ็งมาเป็นตัวประกัน มาเป็นคนงาน หรือมาเป็นเล็กเป็นน้อยของเสี่ยกันแน่วะมะเฟือง” เหมียวถามตรงๆ เพราะเธอสงสัยมาตั้งแต่เสี่ยยอมให้มะเฟืองนอนพักอยู่บนบ้านแล้ว“มะเฟืองจะไปทำงานตามที่เสี่ยสั่งแล้ว ต้องไปถามพี่เชิดใช่ไหมจ๊ะว่าต้องทำอะไรบ้าง” ป้าประไพมองเหมียวด้วยสายตาปรามอยู่ในที“ไอ้เชิดมันคงรออยู่หน้าบ้าน รีบไปเถอะ ตอนกลางวันก็กินข้าวที่โรงครัวเลยนะ จะได้ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาให้เหนื่อย เลิกงานแล้วค่อยกลับมา ป้าจะทำกับข้าวไว้เผื่อ”“จ้ะ ขอบคุณนะจ๊ะป้า มะเฟืองไปก่อนนะจ๊ะ”เหมียวมองตามร่างบอบบางเดินออกจ
“เอ่อ...คนงานนึกว่าเสี่ยจะให้มะเฟืองไปทำงานที่ท้ายไร่เลยไม่ได้สนใจ แต่ผมตามไปดูแล้ว ทางนั้นใช้เดินขึ้นภูได้ มะเฟืองอาจจะเดินขึ้นภูไปหาพี่ชาย”“มันจะขึ้นไปบนภูได้ยังไง สะพานขาดแบบนั้น ถ้ามันจะไปจริงๆก็ต้องอ้อมเขาอีกตั้งสองลูก หรือมันจะไปทางนั้นจริงๆวะ” การุณย์มีสีหน้าครุ่นคิด ยายเด็กนั่นอาจจะใจเด็ดกว่าที่เขาคิด เธออาจจะเสี่ยงเดินขึ้นเขาไปหาพี่ชายจริงๆก็ได้“ไปตามคนมาสักสิบคน ให้ช่วยกันออกตามจับตัวมะเฟืองกลับมาให้ได้ ถ้าเอาตัวกลับมาไม่ได้ พวกมึงไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้า” การุณย์ขบกรามแน่น ดวงตาคู่คมดุดัน เขาพอเดาความคิดของหญิงสาวออก นี่คงคิดว่าถ้าหนีขึ้นภูไปอยู่กับพี่ชายแล้วจะปลอดภัยด้วยกันทั้งคู่เหรอ หึ! อย่าหวังเลยว่าจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของเขาไปได้ ใครที่กล้าลูบคมเสี่ยเจ๋ง มันไม่เคยตายดีสักคนหรอกมะเฟืองหอบหายใจแรงเพราะวิ่งมาไกล หญิงสาวหยุดชะงักอยู่ริมลำน้ำ สายตาผิดหวังมองสะพานข้ามลำน้ำที่บัดนี้ถูกน้ำป่าพัดจนพัง ไม่ส
“เก่งทั้งพี่ทั้งน้อง เก่งนักเรื่องหนีเนี่ย หึ!” น้ำเสียงราบเรียบ ทว่าสายตาดุดันของการุณย์ทำให้มะเฟืองเสียวสันหลังวาบ หญิงสาวสะบัดหน้าหนีจากสายตาวาวโรจน์ หันหลังให้เขา กวาดตามองไปรอบๆ หวังว่าจะมีทางรอดไปจากตรงนี้ ทว่าไม่มีเลย เธอมองไม่เห็นหนทางเลย และเมื่อคนของเสี่ยเจ๋งขยับตัวเข้ามาใกล้ไล่ต้อนเธอให้ต้องถอยหลังไปจนชนกับเจ้านายของพวกมัน มือแข็งแรงก็จับต้นแขนสองข้างของเธอบีบแน่น เธอเจ็บจนต้องนิ่วหน้า แต่มะเฟืองไม่ยอมร้องออกมาสักคำ“ฉันบอกเธอหรือยังว่า อย่าทำให้ฉันโมโห เพราะเวลาฉันโมโห ฉันชอบมีเซ็กซ์รุนแรงเพื่อปลดปล่อย” มะเฟืองเบี่ยงหน้ากลับมาเงยขึ้นมองสบตาคนพูดด้วยสายตาเคืองขุ่น หญิงสาวมองราวกับอยากจะเขมือบหัวเขา การุณย์ยิ้มมุมปาก ก้มลงกระซิบเบาๆ“กลับไปอยู่ในที่ของเธอ กลับไปรอบทลงโทษที่สาสมจากฉัน” มะเฟืองพยายามสะบัดตัวหนีจากการมือแข็งแรง หญิงสาวเม้มปากแน่น ไม่ยอมเอ่ยปากพูดกับคนชอบใช้กำลัง ใช้อิทธิพลในทางที่ผิด“หรืออยากโดนตรงนี้” คำขู่ของการุณย์หยุดทุกการเคลื่อนไหวของหญิงสาวไ
ด่วนพิเศษ2“เฮีย ลูกหลับหรือยังจ๊ะ” มะเฟืองเดินเช็ดปลายผมออกมาจากห้องน้ำ เอ่ยถามสามีที่รับหน้าที่กล่อมลูกชายวัยขวบเศษอยู่บนเตียง“ชู่ว์! เบาๆสินังหนู กว่าไอ้มะเขือม่วงจะหลับได้ เฮียแทบกระอักเลือดนะ”“เฮี้ย! เอาอีกแล้วนะ เรียกลูกแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ” มะเฟืองพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวหน้าห้องน้ำ หญิงสาวเดินมาที่เตียงแล้วส่งสายตาดุให้สามี“เฮียเขยิบไปหน่อย หนูจะเอาตัวอ้วนไปนอนเตียงเด็ก” เมื่อสามีขยับเปิดทางให้ มะเฟืองจึงช้อนอุ้มเจ้าตัวอ้อนแนบอก แล้วอุ้มไปวางเตียงเด็กซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียงใหญ่การุณย์มองตามบั้นท้ายเมียด้วยสายตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้ม วันนี้เขาเร่งเคลียร์งาน รีบขึ้นมาหาเมียกับลูก หลังจากที่สามวันที่ผ่านมาลูกหลับก่อนเจอหน้าเขาตลอด“ป๊าพาเล่นซนจนเพลียใช่ไหมเนี่ย หลับไม่รู้เรื่องเลย เจ้าตัวอ้วน” มะเฟืองดึง
การุณย์ทอดถอนใจอย่างมีความสุข เสียวกระสันจนทะลุทุกสวรรค์ชั้นฟ้า หนุ่มใหญ่ยิ้มให้คนที่คลานคร่อมร่างของตนขึ้นมาจนใบหน้าเสมอกัน เขากอบใบหน้านวลไว้ด้วยสองมือ ใช้นิ้วโป้งข้างหนึ่งไล้เบาๆบนริมฝีปากอิ่มสีเรื่อ “เก่ง” คำชมของสามีทำให้มะเฟืองยิ้มหวาน ก้มลงจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากหยักได้รูป “เฮียสอนมาดี” คำพูดของคนอยู่เป็นส่งผลให้เธอได้รับรางวัลเป็นจูบหวานๆอีกหนึ่งยก “ให้เฮียเลียบ้าง” เสียงบอกกระเส่าสั่น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากของตนอย่างหื่นกระหาย มะเฟืองพลิกกายลงนอนหงาย รอกระทั่งสามีมานั่งอยู่หว่างขาเรียว หญิงสาวจึงเปิดอ้ากลีบสาว ด้วยการกางขาออกจนสุดแล้วชันเข่าขึ้น สองมือวางทาบเนินนาง แบะอ้าออกให้
“พูดอะไรกัน วาสนงวาสนาอะไร เป็นเมียเฮีย อยากไปไหนก็จะได้ไป ขอแค่บอก” “หนูอยากไปดาวอังคาร เฮียพาไปได้ไหม” มะเฟืองเงยหน้าขึ้นถามสามี หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเจ้าเล่ห์ เสี่ยเจ๋งส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ “ดาวอังคารไกลไป พาไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าไปสวรรค์ชั้นเจ็ดล่ะก็ เฮียพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา” “อุ๊ย! เฮีย!” มะเฟืองอุทานตกใจ เมื่อสามีย่อตัวลงอุ้มเธอแนบอก หญิงสาวรีบคล้องลำคอแกร่งไว้แน่น เธอกลัวตก “ป่ะ! ไปทัวร์สวรรค์ชั้นเจ็ดกันเถอะ” ร่างอวบอิ่มของคุณแม่ยังสาวถูกวางลงอย่างทะนุถนอมบนเตียงกว้าง มะเฟืองสบสายตากับสามี
การุณย์กอบใบหน้าเมียด้วยมือสองข้าง ค่อยๆจับให้เธอหันมามองหน้าเขา “ไม่อยากได้ลูกชายเหรอ” น้ำเสียงทุ้มถามด้วยความเป็นกังวล “ไม่เกี่ยวกับลูกสักหน่อย จะลูกสาวหรือลูกชายหนูก็รัก เพราะเขาเป็นลูกของหนู” เมื่อเมียยอมเปิดปากพูดด้วย การุณย์ก็ยิ้มได้ “แล้วทำไมต้องทำหน้าหงิกงอ ไม่สวยเลย” “ไม่สวยก็ไม่ต้องมารัก” “อ้าว! เป็นงั้นไป” คนถูกเมียงอนหัวเราะในลำคอ ดวงตาคู่งามตวัดมองไม่พอใจ&
“กว่าจะได้นอนกอดกันแบบนี้ก็เล่นเอาเกือบตายเนอะ” มะไฟบ่นไม่จริงจัง กรุณาหัวเราะคิก หญิงสาวจุ๊บคางสามีเบาๆ“แต่เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” กรุณาเบียดกายเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ มะไฟโอบกอดร่างสาวแน่นขึ้นอีกนิด“ใช่ เราได้อยู่ด้วยกันแล้ว และพี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากตัวจิ๋วเด็ดขาด พี่สัญญา”กรุณาหลับตาลงด้วยความอุ่นใจในอ้อมกอดสามี แม้เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาจะดูวุ่นวายและโหดร้ายในบางช่วง แต่สุดท้ายแล้ว วันนี้เธอก็ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนรัก และป๊าของเธอก็มีคนที่รักและรักท่านมาอยู่ข้างกาย เส้นทางความรักของเธอกับพี่ไฟนั้นยาวนานหลายปี กว่าจะลงเอยกันได้แบบสวยงาม แต่เส้นทางความรักของป๊ากับมะเฟืองนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เป็นเส้นทางรักสายด่วน...ด่วนพิศวาส-จบบริบูรณ์-ด่วนพิเศษ 1&nbs
“ทำไมยังไม่นอน” เพราะสังเกตมาพักใหญ่แล้วว่า ช่วงหลังๆนี่มะเฟืองนอนเร็วมาก และหลับลึก แบบปลุกยังไงก็ไม่ตื่นด้วย ท่าทางเธอก็เหนื่อยๆ เขาเลยไม่อยากกวนเท่าไร ปล่อยให้เธอนอนสบายมาหลายคืนแล้ว “รอเฮียนั่นแหละ” ปากขยับพูด แต่ตาจะปิดอยู่รอมร่อ การุณย์หัวเราะในลำคอ เขาเดินไปนั่งลงใกล้เธอ โอบเอาร่างแน่งน้อยมากอด แล้วจุ๊บเหม่งเบาๆ “ง่วงก็นอน เดี๋ยวเฮียอาบน้ำก่อน จะมานอนกอดนะ” มะเฟืองพยักหน้ารับ หญิงสาวเอนกายลงนอนอย่างว่าง่าย เธอพร้อมหลับเต็มที่ การุณย์กลับออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเมียรักหลับไปซะแล้ว เขารีบสวมกางเกงขายาวผ้าฝ้าย เปลือยท่อนบน ปิดไฟทุกดวง แล้วคลานขึ้นเตียงไปนอนกอดเมีย มะเฟืองรับรู้
การุณย์ให้มะไฟเรียนรู้งานทุกอย่างที่ควรรู้ เพื่อจะได้นำไปใช้งานจริงในวันที่เขาจะเปิดร้านใหม่ให้ที่ต่างอำเภอ ตามที่เคยตกลงกันไว้ ซึ่งชายหนุ่มก็ขยันขันแข็งทำงาน และเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ “ทำไมมะเฟืองไม่ท้องบ้างนะ” คนอยากมีลูกอีกคนหันไปถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ คิ้วเข้มขมวดมุ่นสงสัย “เฮียทำไม่เป็นมั้ง” มะเฟืองว่ายิ้มๆ คนถูกสบประมาทแทบสำลักน้ำที่ยกขึ้นจิบ การุณย์หันมาสบตาแม่ตัวดีอย่างคาดโทษ มะเฟืองมองเมินสายตาของสามี เธอหันไปพูดกับพี่ชายต่อโดยไม่สนใจเขาอีก “พี่ไฟไปทำงานเถอะ หนูจะอยู่เป็นเพื่อนตัวจิ๋วให้เอง ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ” “ตัวจิ๋วอยู่กับมะเฟืองก็ได้ ตัวจิ๋วแพ้แค
“ตรงนี้ก็หอม” การุณย์เลื่อนใบหน้าลงไปจนถึงกลุ่มไหมเหนือเนินสาว เขาสูดดมเสียงดังฟอด มะเฟืองบิดตัวหนี ทุบตีบ่าบึกบึนไปหลายที ทว่าคนอยากมอบกายถวายตัวให้เมียไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย“อื้อ! เฮีย! ยังไม่ได้ล้าง” เพราะมันผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชนเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา น้ำสวาททั้งของเขาและเธอปนเปกันอยู่ตรงนั้น มะเฟืองจึงรีบเอ่ยห้ามอย่างตกใจ“ไม่ล้างก็หอม กระดองเต่าน้อย” การุณย์การันตีความหอมด้วยการสูดดมเสียงดังฟอดอีกครั้ง มะเฟืองอ่อนอกอ่อนใจที่จะห้ามปราม หญิงสาวประชดเขาด้วยการกางขาออกสุด การุณย์หัวเราะพอใจ ประชดแบบนี้เขาชอบ“หอมอีกสิ” อายซะที่ไหน ก็ในเมื่อเตือนไม่ฟัง เธอก็ทำประชดเสียเลยดวงตาคู่คมจับจ้องดอกไม้บานฉ่ำในระยะประชิด มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สวย น่าหลงใหล และเขาก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น และตอนนี้ก็ไม่คิดจะโงหัวขึ้นด้วยการุณย์ฝังใบหน้าลงบนผืนเนื้อสาว มันเปียกโชก ชุ่มฉ่ำ แต่เนื้ออ่อนสาวก็หวานละมุนลิ้น กลิ่นสาบสาวก็ยวนใจ ปาดเ
“อ้วกออกมาก็ได้” มะเฟืองทำท่าจะล้วงคออ้วกจริงๆ การุณย์ดึงมือเธอไว้แทบไม่ทัน“หนูกินไปแล้ว” การุณย์ย้ำอีกครั้ง มะเฟืองมองหน้าคนขี้งกด้วยสายตาดุ“คิดไว้ก่อนแล้วใช่ไหม” มะเฟืองมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เขาเป็นพ่อค้าที่ไม่ยอมขาดทุนอะไรเลยจริงๆ“อย่ามาใส่ร้ายเฮีย” การุณย์พูดยิ้มๆ“กินไปกี่คำน้า” คนขี้งกทำท่าคิดคำนวณ ใบหน้าหล่อเหลากวนไม้กวนมือเหลือเกิน“ไม่รู้ ไม่ได้นับ” มะเฟืองดึงมือกลับมา ขยับตัวห่างจากเขา หญิงสาวสะบัดหน้าหนีงอนๆ การุณย์ขยับตาม โน้มใบหน้ากระซิบชิดใบหูขาว คำกระซิบบอกของเขา เล่นงานหัวใจสาวให้เต้นโครมคราม ใบหน้าร้อนผะผ่าว และยิ้มหวานเอียงอายน่ารัก การุณย์กระซิบบอกเสียงทุ้มสะกดใจสาวว่า“เฮียคิดราคาเหมาแล้วกัน ราคาเท่าหัวใจของมะเฟือง จ่ายมาซะดีๆ”บทจะหวานก็หวานปานน้ำตาลจะหยด มะเฟืองผู้ไม่ประสาตามไม่ทันคารมหนุ่มใหญ่ หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งเขินอาย ใบ