“กว่าจะได้นอนกอดกันแบบนี้ก็เล่นเอาเกือบตายเนอะ” มะไฟบ่นไม่จริงจัง กรุณาหัวเราะคิก หญิงสาวจุ๊บคางสามีเบาๆ
“แต่เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” กรุณาเบียดกายเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ มะไฟโอบกอดร่างสาวแน่นขึ้นอีกนิด
“ใช่ เราได้อยู่ด้วยกันแล้ว และพี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากตัวจิ๋วเด็ดขาด พี่สัญญา”
กรุณาหลับตาลงด้วยความอุ่นใจในอ้อมกอดสามี แม้เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาจะดูวุ่นวายและโหดร้ายในบางช่วง แต่สุดท้ายแล้ว วันนี้เธอก็ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนรัก และป๊าของเธอก็มีคนที่รักและรักท่านมาอยู่ข้างกาย เส้นทางความรักของเธอกับพี่ไฟนั้นยาวนานหลายปี กว่าจะลงเอยกันได้แบบสวยงาม แต่เส้นทางความรักของป๊ากับมะเฟืองนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เป็นเส้นทางรักสายด่วน...ด่วนพิศวาส
-จบบริบูรณ์-
ด่วนพิเศษ 1
&nbs
การุณย์กอบใบหน้าเมียด้วยมือสองข้าง ค่อยๆจับให้เธอหันมามองหน้าเขา “ไม่อยากได้ลูกชายเหรอ” น้ำเสียงทุ้มถามด้วยความเป็นกังวล “ไม่เกี่ยวกับลูกสักหน่อย จะลูกสาวหรือลูกชายหนูก็รัก เพราะเขาเป็นลูกของหนู” เมื่อเมียยอมเปิดปากพูดด้วย การุณย์ก็ยิ้มได้ “แล้วทำไมต้องทำหน้าหงิกงอ ไม่สวยเลย” “ไม่สวยก็ไม่ต้องมารัก” “อ้าว! เป็นงั้นไป” คนถูกเมียงอนหัวเราะในลำคอ ดวงตาคู่งามตวัดมองไม่พอใจ&
“พูดอะไรกัน วาสนงวาสนาอะไร เป็นเมียเฮีย อยากไปไหนก็จะได้ไป ขอแค่บอก” “หนูอยากไปดาวอังคาร เฮียพาไปได้ไหม” มะเฟืองเงยหน้าขึ้นถามสามี หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเจ้าเล่ห์ เสี่ยเจ๋งส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ “ดาวอังคารไกลไป พาไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าไปสวรรค์ชั้นเจ็ดล่ะก็ เฮียพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา” “อุ๊ย! เฮีย!” มะเฟืองอุทานตกใจ เมื่อสามีย่อตัวลงอุ้มเธอแนบอก หญิงสาวรีบคล้องลำคอแกร่งไว้แน่น เธอกลัวตก “ป่ะ! ไปทัวร์สวรรค์ชั้นเจ็ดกันเถอะ” ร่างอวบอิ่มของคุณแม่ยังสาวถูกวางลงอย่างทะนุถนอมบนเตียงกว้าง มะเฟืองสบสายตากับสามี
การุณย์ทอดถอนใจอย่างมีความสุข เสียวกระสันจนทะลุทุกสวรรค์ชั้นฟ้า หนุ่มใหญ่ยิ้มให้คนที่คลานคร่อมร่างของตนขึ้นมาจนใบหน้าเสมอกัน เขากอบใบหน้านวลไว้ด้วยสองมือ ใช้นิ้วโป้งข้างหนึ่งไล้เบาๆบนริมฝีปากอิ่มสีเรื่อ “เก่ง” คำชมของสามีทำให้มะเฟืองยิ้มหวาน ก้มลงจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากหยักได้รูป “เฮียสอนมาดี” คำพูดของคนอยู่เป็นส่งผลให้เธอได้รับรางวัลเป็นจูบหวานๆอีกหนึ่งยก “ให้เฮียเลียบ้าง” เสียงบอกกระเส่าสั่น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากของตนอย่างหื่นกระหาย มะเฟืองพลิกกายลงนอนหงาย รอกระทั่งสามีมานั่งอยู่หว่างขาเรียว หญิงสาวจึงเปิดอ้ากลีบสาว ด้วยการกางขาออกจนสุดแล้วชันเข่าขึ้น สองมือวางทาบเนินนาง แบะอ้าออกให้
ด่วนพิเศษ2“เฮีย ลูกหลับหรือยังจ๊ะ” มะเฟืองเดินเช็ดปลายผมออกมาจากห้องน้ำ เอ่ยถามสามีที่รับหน้าที่กล่อมลูกชายวัยขวบเศษอยู่บนเตียง“ชู่ว์! เบาๆสินังหนู กว่าไอ้มะเขือม่วงจะหลับได้ เฮียแทบกระอักเลือดนะ”“เฮี้ย! เอาอีกแล้วนะ เรียกลูกแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ” มะเฟืองพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวหน้าห้องน้ำ หญิงสาวเดินมาที่เตียงแล้วส่งสายตาดุให้สามี“เฮียเขยิบไปหน่อย หนูจะเอาตัวอ้วนไปนอนเตียงเด็ก” เมื่อสามีขยับเปิดทางให้ มะเฟืองจึงช้อนอุ้มเจ้าตัวอ้อนแนบอก แล้วอุ้มไปวางเตียงเด็กซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียงใหญ่การุณย์มองตามบั้นท้ายเมียด้วยสายตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้ม วันนี้เขาเร่งเคลียร์งาน รีบขึ้นมาหาเมียกับลูก หลังจากที่สามวันที่ผ่านมาลูกหลับก่อนเจอหน้าเขาตลอด“ป๊าพาเล่นซนจนเพลียใช่ไหมเนี่ย หลับไม่รู้เรื่องเลย เจ้าตัวอ้วน” มะเฟืองดึง
1 ชีวิตแลกด้วยชีวิต “เจอไหม” เสียงห้าวทรงพลังตะคอกถามด้วยความโกรธที่อัดแน่นอยู่เต็มอก ใบหน้าหล่อคมเข้มถมึงทึงกว่าครั้งไหน ดวงตาคู่คมฉาบฉายไปด้วยประกายอาฆาตแค้น แนวกรามแกร่งขบกันจนเป็นสันนูน สองมือกำแน่นจนข้อนิ้วมือปูดโปนบ่งบอกถึงโทสะที่กักกั้นไว้ “ไม่เจอครับเสี่ย” คำตอบที่ได้ยินจากปากลูกน้องทำให้การุณย์หรือเสี่ยเจ๋ง หนุ่มใหญ่วัย42ปีสบถดังลั่น เขามองฝ่าสายฝนท่ามกลางความมืดไปยังเบื้องหน้า ถนนที่ทอดยาวหายเข้าไปในป่าเต็มไปด้วยโคลนตมและหลุมลึกมีน้ำขังอยู่เต็ม สุดวิสัยที่รถคันไหนๆจะแล่นเข้าไปได้ แสงจากสายฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่เบื้องบนทำให้มองเห็นรอบกายชัดเจนในบางครั้ง แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ การุณย์รู้ดีว่า หนทางเส้นนี้ที่จะใช้เดินทางเพื่อขึ้นไปยังหมู่บ้านในเขตอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ในบนเขานั้นยากลำบากเพียงใด ยิ่งในเวลาฝนตกหนักแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบจะเรียกได้ว่าหมู่บ้านนั้นตัดขาดจากโลกภายนอกเลยก็ว่าได้ เพราะเส้นทางเดียวที่ใช้สัญจรนั้นเต็มไปด้วยโคลนตม และหากฝืนเดินทางขึ้นไปตอนนี้ อาจจะเจอกับน้ำป่าไหลหลากพัดพาเอาชีวิตให้สูญหายไปกับสายน้ำก็เป็นได้
มะเฟืองถอนหายใจเบาๆ หญิงสาวเบือนหน้าหนีสายตาดุ เธอเพิ่งรู้ว่าสองคนนั้นหนีตามกันไปเมื่อเย็นวันนี้ รู้หลังจากที่กลับมาจากรดน้ำพรวนดินในสวนผัก พี่ชายสายเลือดเดียวกันที่มีอายุมากกว่าเธอ8ปี บอกให้เธอรู้ด้วยการเขียนข้อความสั้นๆวางไว้บนโต๊ะกินข้าว ทั้งที่เธอเคยเตือนพี่ชายแล้วว่ากรุณาหรือตัวจิ๋วนั้นอยู่สูงเกินเอื้อม พี่ชายเธอไม่ต่างจากหมามองเครื่องบิน ไม่มีวันจะได้ครองคู่กับเพื่อนสาวเธอแน่ๆ เธอบอกให้พี่ชายตัดใจ เธอเตือนกรุณาว่าไม่ให้ไปหาเธอที่บ้านอีก เพราะเกรงจะถูกครหา แต่ใครเลยจะรู้ว่าคนสองคนที่แอบคบหากันมาตั้งห้าปีโคตรใจเด็ด กล้าหนีตามกันไปโดยไม่เกรงกลัวอำนาจและความบ้าระห่ำของเสี่ยเจ๋ง “มะเฟือง!” การุณย์ตวาดเสียงดังลั่น ยังผลให้คนที่คิดไว้แล้วว่าเธออาจจะต้องรับมือกับความเกรี้ยวกราดของคนหวงลูกอย่างเขาหันหน้ากลับมาสบสายตาดุอีกครั้ง มะเฟืองพยักพเยิดยื่นหน้าใส่เขา แล้วส่งเสียงอู้อี้บอกให้รู้ว่า หากเขาต้องการคำตอบช่วยกรุณาแกะผ้าออกจากปากเธอด้วย การุณย์คำรามในลำคอด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ยื่นเมื่อออกไปแกะผ้าออกจากปากให้หญิงสาว ก่อนจะถอยออกมายืนกอดอกจ้องหน้ามะเฟืองเขม็ง
“หึ! ฉันไม่เอามันถึงตายหรอก แค่จะทำให้มันจดจำไปชั่วชีวิต ว่าคนต่ำๆเศษสวะอย่างมันไม่คู่ควรกับลูกสาวฉัน” การุณย์เหยียดริมฝีปากอย่างดูแคลน จ้องมองมะเฟืองด้วยสายตาเย้ยหยัน “ถ้าเสี่ยทำอะไรพี่ไฟ คนที่จะเสียใจก็คือตัวจิ๋ว สองคนนั้นเขารักกัน เสี่ยไม่สงสารลูกสาวตัวเองเหรอ” “ความรักมันกินไม่ได้หรอกนะนังหนู อย่าพูดให้เมื่อยปากเลย รออยู่นี่ก่อนนะ ฉันจะไปลากคอพี่ชายเธอมารับโทษ ถ้าฉันได้ตัวมันมาเมื่อไร ฉันถึงจะปล่อยเธอไป” การุณย์พูดจบก็หันหลังเดินกลับไปทางประตู “เสี่ยเจ๋ง! จับผู้หญิงไม่มีทางสู้มาเป็นตัวประกัน แบบนี้มันหน้าตัวเมียชัดๆ” มะเฟืองตะโกนไล่หลังไปด้วยความโมโหสุดขีด ร่างสูงใหญ่ชะงักเท้าหันหลังกลับทันทีเมื่อถูกด่าว่าหน้าตัวเมีย การุณย์ขบกรามแน่น เดินเร็วกลับไปหาคนที่นั่งเชิดหน้าท้าทายอยู่กลางโกดัง “ปากดีนักนะ” การุณย์ใช้มือข้างเดียวบีบแก้มหญิงสาวจนปากจิ้มลิ้มเผยอขึ้น ใบหน้าสวยบิดเบ้เพราะความเจ็บ “หน้าตัวเมียของจริงน่ะคือพี่ชายเธอ รู้ว่าไม่มีปัญญาเลี้ยงดูผู้หญิงให้สุขสบายได้ ยังมีหน้าพาหนีไปลำบาก ลากลูกสาวคนอื่นไปเอาทั้งที่ไม่ได้
พ่อแม่ของมะเฟืองเสียชีวิตไปตั้งแต่มะไฟยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี3 พี่ชายเธอจึงเรียนไม่จบ เขาตัดสินใจกลับมาทำงานไร่งานสวนบนที่ดินเพียง3ไร่ที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ เพื่อจะได้ดูแลและส่งเสียมะเฟืองให้เรียนจนจบมอปลาย กรุณาเป็นเพื่อนรักสมัยมอปลาย เธอได้เรียนต่อจนจบมหาวิทยาลัย และเพิ่งกลับมาอยู่บ้านได้ไม่นาน ก็มาหนีตามพี่ชายเธอไป มะเฟืองทอดถอนใจ หญิงสาวค่อยๆลืมตาขึ้น หลังจากที่ป้าประไพขอร้องแกมบังคับให้เธอกินอาหารมื้อเช้า ผู้สูงวัยก็ปล่อยเธอไว้ในโกดังเพียงลำพัง กระทั่งตอนเที่ยงป้าประไพกลับมาอีกครั้งพร้อมกับข้าวมื้อเที่ยง แต่มะเฟืองปฏิเสธที่จะกิน เธอแนะนำให้ป้าประไพเอาไปเททิ้งแล้วบอกเสี่ยเจ๋งว่าเธอกินแล้ว และตอนเย็นก็ไม่ต้องเอามาให้เธอกินอีก ครั้งนี้ไม่มีเสี่ยเจ๋งอยู่ด้วย ผู้สูงวัยจึงอือออพยักหน้ารับ ถือจานกลับไปโดยไม่รบเร้าเธอเหมือนเมื่อเช้า ดวงตาคู่งามมีแววอ่อนล้าโรยรายามมองไปรอบโกดัง เพราะถูกมัดมาทั้งคืนทั้งวัน ร่างกายจึงเริ่มพ่ายแพ้ให้กับความอ่อนเพลีย อาการครั่นเนื้อครั่นตัวที่เป็นมาตั้งแต่เมื่อเช้าเริ่มรุมเร้ารุนแรง มะเฟืองปวดไปทั้งตัว ปวดหัวจนแทบระเบิด หญิงสาวจับไข้ตั
ด่วนพิเศษ2“เฮีย ลูกหลับหรือยังจ๊ะ” มะเฟืองเดินเช็ดปลายผมออกมาจากห้องน้ำ เอ่ยถามสามีที่รับหน้าที่กล่อมลูกชายวัยขวบเศษอยู่บนเตียง“ชู่ว์! เบาๆสินังหนู กว่าไอ้มะเขือม่วงจะหลับได้ เฮียแทบกระอักเลือดนะ”“เฮี้ย! เอาอีกแล้วนะ เรียกลูกแบบนี้อีกแล้ว เดี๋ยวเถอะ” มะเฟืองพาดผ้าเช็ดตัวไว้ที่ราวหน้าห้องน้ำ หญิงสาวเดินมาที่เตียงแล้วส่งสายตาดุให้สามี“เฮียเขยิบไปหน่อย หนูจะเอาตัวอ้วนไปนอนเตียงเด็ก” เมื่อสามีขยับเปิดทางให้ มะเฟืองจึงช้อนอุ้มเจ้าตัวอ้อนแนบอก แล้วอุ้มไปวางเตียงเด็กซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากเตียงใหญ่การุณย์มองตามบั้นท้ายเมียด้วยสายตาหวานฉ่ำหยาดเยิ้ม วันนี้เขาเร่งเคลียร์งาน รีบขึ้นมาหาเมียกับลูก หลังจากที่สามวันที่ผ่านมาลูกหลับก่อนเจอหน้าเขาตลอด“ป๊าพาเล่นซนจนเพลียใช่ไหมเนี่ย หลับไม่รู้เรื่องเลย เจ้าตัวอ้วน” มะเฟืองดึง
การุณย์ทอดถอนใจอย่างมีความสุข เสียวกระสันจนทะลุทุกสวรรค์ชั้นฟ้า หนุ่มใหญ่ยิ้มให้คนที่คลานคร่อมร่างของตนขึ้นมาจนใบหน้าเสมอกัน เขากอบใบหน้านวลไว้ด้วยสองมือ ใช้นิ้วโป้งข้างหนึ่งไล้เบาๆบนริมฝีปากอิ่มสีเรื่อ “เก่ง” คำชมของสามีทำให้มะเฟืองยิ้มหวาน ก้มลงจุ๊บเบาๆบนริมฝีปากหยักได้รูป “เฮียสอนมาดี” คำพูดของคนอยู่เป็นส่งผลให้เธอได้รับรางวัลเป็นจูบหวานๆอีกหนึ่งยก “ให้เฮียเลียบ้าง” เสียงบอกกระเส่าสั่น ลิ้นสากแลบเลียริมฝีปากของตนอย่างหื่นกระหาย มะเฟืองพลิกกายลงนอนหงาย รอกระทั่งสามีมานั่งอยู่หว่างขาเรียว หญิงสาวจึงเปิดอ้ากลีบสาว ด้วยการกางขาออกจนสุดแล้วชันเข่าขึ้น สองมือวางทาบเนินนาง แบะอ้าออกให้
“พูดอะไรกัน วาสนงวาสนาอะไร เป็นเมียเฮีย อยากไปไหนก็จะได้ไป ขอแค่บอก” “หนูอยากไปดาวอังคาร เฮียพาไปได้ไหม” มะเฟืองเงยหน้าขึ้นถามสามี หญิงสาวยิ้มล้อเลียนเจ้าเล่ห์ เสี่ยเจ๋งส่ายหน้ายิ้มน้อยๆ “ดาวอังคารไกลไป พาไปไม่ได้หรอก แต่ถ้าไปสวรรค์ชั้นเจ็ดล่ะก็ เฮียพาไปได้ทุกที่ทุกเวลา” “อุ๊ย! เฮีย!” มะเฟืองอุทานตกใจ เมื่อสามีย่อตัวลงอุ้มเธอแนบอก หญิงสาวรีบคล้องลำคอแกร่งไว้แน่น เธอกลัวตก “ป่ะ! ไปทัวร์สวรรค์ชั้นเจ็ดกันเถอะ” ร่างอวบอิ่มของคุณแม่ยังสาวถูกวางลงอย่างทะนุถนอมบนเตียงกว้าง มะเฟืองสบสายตากับสามี
การุณย์กอบใบหน้าเมียด้วยมือสองข้าง ค่อยๆจับให้เธอหันมามองหน้าเขา “ไม่อยากได้ลูกชายเหรอ” น้ำเสียงทุ้มถามด้วยความเป็นกังวล “ไม่เกี่ยวกับลูกสักหน่อย จะลูกสาวหรือลูกชายหนูก็รัก เพราะเขาเป็นลูกของหนู” เมื่อเมียยอมเปิดปากพูดด้วย การุณย์ก็ยิ้มได้ “แล้วทำไมต้องทำหน้าหงิกงอ ไม่สวยเลย” “ไม่สวยก็ไม่ต้องมารัก” “อ้าว! เป็นงั้นไป” คนถูกเมียงอนหัวเราะในลำคอ ดวงตาคู่งามตวัดมองไม่พอใจ&
“กว่าจะได้นอนกอดกันแบบนี้ก็เล่นเอาเกือบตายเนอะ” มะไฟบ่นไม่จริงจัง กรุณาหัวเราะคิก หญิงสาวจุ๊บคางสามีเบาๆ“แต่เราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” กรุณาเบียดกายเข้าหาความอบอุ่นจากร่างกำยำ มะไฟโอบกอดร่างสาวแน่นขึ้นอีกนิด“ใช่ เราได้อยู่ด้วยกันแล้ว และพี่จะไม่มีวันปล่อยมือจากตัวจิ๋วเด็ดขาด พี่สัญญา”กรุณาหลับตาลงด้วยความอุ่นใจในอ้อมกอดสามี แม้เรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาจะดูวุ่นวายและโหดร้ายในบางช่วง แต่สุดท้ายแล้ว วันนี้เธอก็ได้ใช้ชีวิตคู่กับคนรัก และป๊าของเธอก็มีคนที่รักและรักท่านมาอยู่ข้างกาย เส้นทางความรักของเธอกับพี่ไฟนั้นยาวนานหลายปี กว่าจะลงเอยกันได้แบบสวยงาม แต่เส้นทางความรักของป๊ากับมะเฟืองนั้นเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆ เป็นเส้นทางรักสายด่วน...ด่วนพิศวาส-จบบริบูรณ์-ด่วนพิเศษ 1&nbs
“ทำไมยังไม่นอน” เพราะสังเกตมาพักใหญ่แล้วว่า ช่วงหลังๆนี่มะเฟืองนอนเร็วมาก และหลับลึก แบบปลุกยังไงก็ไม่ตื่นด้วย ท่าทางเธอก็เหนื่อยๆ เขาเลยไม่อยากกวนเท่าไร ปล่อยให้เธอนอนสบายมาหลายคืนแล้ว “รอเฮียนั่นแหละ” ปากขยับพูด แต่ตาจะปิดอยู่รอมร่อ การุณย์หัวเราะในลำคอ เขาเดินไปนั่งลงใกล้เธอ โอบเอาร่างแน่งน้อยมากอด แล้วจุ๊บเหม่งเบาๆ “ง่วงก็นอน เดี๋ยวเฮียอาบน้ำก่อน จะมานอนกอดนะ” มะเฟืองพยักหน้ารับ หญิงสาวเอนกายลงนอนอย่างว่าง่าย เธอพร้อมหลับเต็มที่ การุณย์กลับออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าเมียรักหลับไปซะแล้ว เขารีบสวมกางเกงขายาวผ้าฝ้าย เปลือยท่อนบน ปิดไฟทุกดวง แล้วคลานขึ้นเตียงไปนอนกอดเมีย มะเฟืองรับรู้
การุณย์ให้มะไฟเรียนรู้งานทุกอย่างที่ควรรู้ เพื่อจะได้นำไปใช้งานจริงในวันที่เขาจะเปิดร้านใหม่ให้ที่ต่างอำเภอ ตามที่เคยตกลงกันไว้ ซึ่งชายหนุ่มก็ขยันขันแข็งทำงาน และเรียนรู้ทุกอย่างได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ “ทำไมมะเฟืองไม่ท้องบ้างนะ” คนอยากมีลูกอีกคนหันไปถามภรรยาที่นั่งอยู่ข้างๆ คิ้วเข้มขมวดมุ่นสงสัย “เฮียทำไม่เป็นมั้ง” มะเฟืองว่ายิ้มๆ คนถูกสบประมาทแทบสำลักน้ำที่ยกขึ้นจิบ การุณย์หันมาสบตาแม่ตัวดีอย่างคาดโทษ มะเฟืองมองเมินสายตาของสามี เธอหันไปพูดกับพี่ชายต่อโดยไม่สนใจเขาอีก “พี่ไฟไปทำงานเถอะ หนูจะอยู่เป็นเพื่อนตัวจิ๋วให้เอง ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ” “ตัวจิ๋วอยู่กับมะเฟืองก็ได้ ตัวจิ๋วแพ้แค
“ตรงนี้ก็หอม” การุณย์เลื่อนใบหน้าลงไปจนถึงกลุ่มไหมเหนือเนินสาว เขาสูดดมเสียงดังฟอด มะเฟืองบิดตัวหนี ทุบตีบ่าบึกบึนไปหลายที ทว่าคนอยากมอบกายถวายตัวให้เมียไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย“อื้อ! เฮีย! ยังไม่ได้ล้าง” เพราะมันผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชนเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา น้ำสวาททั้งของเขาและเธอปนเปกันอยู่ตรงนั้น มะเฟืองจึงรีบเอ่ยห้ามอย่างตกใจ“ไม่ล้างก็หอม กระดองเต่าน้อย” การุณย์การันตีความหอมด้วยการสูดดมเสียงดังฟอดอีกครั้ง มะเฟืองอ่อนอกอ่อนใจที่จะห้ามปราม หญิงสาวประชดเขาด้วยการกางขาออกสุด การุณย์หัวเราะพอใจ ประชดแบบนี้เขาชอบ“หอมอีกสิ” อายซะที่ไหน ก็ในเมื่อเตือนไม่ฟัง เธอก็ทำประชดเสียเลยดวงตาคู่คมจับจ้องดอกไม้บานฉ่ำในระยะประชิด มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ สวย น่าหลงใหล และเขาก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้น และตอนนี้ก็ไม่คิดจะโงหัวขึ้นด้วยการุณย์ฝังใบหน้าลงบนผืนเนื้อสาว มันเปียกโชก ชุ่มฉ่ำ แต่เนื้ออ่อนสาวก็หวานละมุนลิ้น กลิ่นสาบสาวก็ยวนใจ ปาดเ
“อ้วกออกมาก็ได้” มะเฟืองทำท่าจะล้วงคออ้วกจริงๆ การุณย์ดึงมือเธอไว้แทบไม่ทัน“หนูกินไปแล้ว” การุณย์ย้ำอีกครั้ง มะเฟืองมองหน้าคนขี้งกด้วยสายตาดุ“คิดไว้ก่อนแล้วใช่ไหม” มะเฟืองมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เขาเป็นพ่อค้าที่ไม่ยอมขาดทุนอะไรเลยจริงๆ“อย่ามาใส่ร้ายเฮีย” การุณย์พูดยิ้มๆ“กินไปกี่คำน้า” คนขี้งกทำท่าคิดคำนวณ ใบหน้าหล่อเหลากวนไม้กวนมือเหลือเกิน“ไม่รู้ ไม่ได้นับ” มะเฟืองดึงมือกลับมา ขยับตัวห่างจากเขา หญิงสาวสะบัดหน้าหนีงอนๆ การุณย์ขยับตาม โน้มใบหน้ากระซิบชิดใบหูขาว คำกระซิบบอกของเขา เล่นงานหัวใจสาวให้เต้นโครมคราม ใบหน้าร้อนผะผ่าว และยิ้มหวานเอียงอายน่ารัก การุณย์กระซิบบอกเสียงทุ้มสะกดใจสาวว่า“เฮียคิดราคาเหมาแล้วกัน ราคาเท่าหัวใจของมะเฟือง จ่ายมาซะดีๆ”บทจะหวานก็หวานปานน้ำตาลจะหยด มะเฟืองผู้ไม่ประสาตามไม่ทันคารมหนุ่มใหญ่ หญิงสาวได้แต่นั่งนิ่งเขินอาย ใบ