ดาเนียมองหน้าของแมดดี้แบบไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก เพราะว่าเธอกำลังพร่ำพรรณนาถึงเรื่องที่เธอใฝ่ฝัน นั่นก็คือเรื่องของเจ้าชายขี่ม้าขาวที่จะเข้ามาหาในยามราตรี..แล้วแมดดี้หน้าเเดงทำไมกัน?“นี่เจ้า..ไม่สบายรึเปล่าแมดดี้”แมเดอลีนยกมือขึ้นมาพัดเบาๆ ที่ใบหน้า“..คงจะเป็นเพราะแดดที่ร้อนมากเกินไปละมั้ง ข้าคิดว่าเราย้ายเข้าไปในนั่งในเรือนรับรองกันเถอะ”สองแก้มแดงเห่อร้อน แมเดอลีนใช้เวลานานมากพอสมควรที่สีหน้าของเธอจะกลับมาเป็นปกติ และคืนนี้เธอนั่งลงที่ริมหน้าต่างในห้องนอน เธอกำลังกวาดสายตามองออกไปด้านนอก สิ่งที่เห็นชัดเจนในคืนนี้คือดวงจันทร์ที่ส่องแสงสว่างเจิดจ้าอยู่บนฟากฟ้าในยามราตรีนี่เธอเป็นบ้าอะไรกัน เมื่อวานยังปฏิเสธเขาออกไปเสียงแข็งเช่นนั้นแล้ววันนี้ความคาดหวังในใจของเธอมันคืออะไรกันแน่นะอาจจะเป็นเพราะว่าเธอล่วงรู้ว่าในวันพรุ่งนี้เขาจะเดินทางออกไปจากเมืองหลวงเพื่อไปออกรบยังดินแดนทางใต้ของจักรวรรดิ นั่นทำให้เธอรู้สึกใจหายไม่น้อยที่จะไม่ได้พบเจอหน้าเขาแล้ว..ถึงแม้ว่าในยามปกติเราก็แทบไม่ได้พบเจอกันก็ตามทีเขาแตกต่างจากตัวร้ายในนิยายที่เธอรู้จักมากทีเดียว เขาเอ่ยปากออกมาว่าเขาจะรับผิดชอบ และ
แมเดอลีนรู้ดีว่านี่ไม่ถูกต้อง แต่ทว่าหากจะถามถึงเสียงความต้องการในใจของเธอแล้วละก็ ถึงแม้ว่านี่มันจะไม่ถูกต้องแต่ทว่ามันถูกใจเนี่ยนะสิเขาลูบไล้ปลายผมของเธออย่างช้าๆ นิ้วของเขาที่สัมผัสบนเส้นผมสีแดงนั้นราวกับกำลังถ่ายทอดความรู้สึกออกมาไม่มากก็น้อยอย่างที่บอกว่าเราต่างกำลังหลงใหลกันแทบบ้า..และในส่วนลึกของหัวใจเอสเตบันมั่นใจว่าความคิดของแมเดอลีนเองก็คงจะไม่แตกต่างจากเขาเท่าไหร่นัก“หากว่าเจ้ายังไม่ผลักไสข้าออกไป ข้าจะคิดซะว่าเจ้ายินยอมนะแมดดี้”เขาก้มลงจูบที่เส้นผมของเธอเบาๆ ก่อนจะกระซิบถ้อยคำที่แสนอ่อนโยนนั่นขึ้นมาเธอยกมือขึ้นมาเพื่อทำท่าจะผลักไสเขาออกแต่ทว่าเอสเตบันกลับรวบข้อมือเล็กๆ ทั้งสองข้างของแมเดอลีนเอาไว้แน่น เขาขมวดคิ้วพร้อมกับทำท่าทางไม่พอใจเมื่อเธอทำท่าเหมือนกำลังปฏิเสธเขา“ไหนโอกาสที่ท่านดยุคจะให้ข้าปฏิเสธหรือว่าผลักไสล่ะคะ ทันทีที่ท่านก้าวเท้าเข้ามาในห้องนี้ ท่านก็เชื่อมั่นในใจอย่างแรงกล้าไปแล้ว ว่าท่านจะต้อง..ได้ทำในสิ่งที่ท่านต้องการไม่ใช่รึไง”เอสเตบันไม่เถียง เขาอุ้มแมเดอลีนขึ้นมาพร้อมกับพาเธอเดินไปที่เตียง ดวงหน้างามนั้นขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อดูน่ารักอย่างบอกไม่ถูก“จะ
เธอหายใจถี่ขึ้น ความรู้สึกตื่นเต้นและกังวลปะปนกันในใจเมื่อเขาแยกขาทั้งสองข้างของเธอออก และนี่คงเป็นครั้งแรกที่เธอมองเห็นส่วนนั้นของเขาได้อย่างชัดเจนความเป็นชายของเขาแข็งแกร่งราวกับต้นไม้ที่ยืนหยัดท่ามกลางพายุ และขนาดของมันที่เธอจำได้ว่ามันมีขนาดที่ใหญ่โตและไม่สามารถนำเข้าปากของเธอได้ ในยามนี้ไม่ใช่แค่ใหญ่เท่านั้นแต่ความยาว..เธอกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากด้วยอาการประหม่าและหวาดกลัว“ไม่เป็นไรแมดดี้..มันเคยเข้าไปแล้วครั้งหนึ่งทำไมครั้งนี้มันจะเข้าไปไม่ได้ล่ะ”ช่างเป็นการปลอบใจที่ชวนให้รู้สึกฮึกเหิมจริงๆ ....ที่ไหนกันล่ะโว้ย!!เขาหายใจเข้าลึกๆ เพื่อควบคุมความรู้สึกตื่นเต้น ก่อนจะมองหน้าเธออย่างอ่อนโยน“มันจะไม่เป็นไร..”เขาค่อยๆ ประสานร่างกายกับเธอ ส่วนที่แข็งตึงนั่นกำลังถูกกดแทรกเข้าไปในร่างกายของเธอด้วยเรี่ยวแรงที่มหาศาลของเขา แต่ทว่าที่น่าแปลกคือครั้งนี้มันไม่ได้เจ็บเหมือนกันครั้งแรกอีกแล้ว อาจจะมีความเจ็บปวดหลงเหลืออยู่แต่ทว่าก็ไม่ได้ทรมานถึงขนาดครั้งที่แล้ว“อะ..อื้อ”“อีกนิดแมดดี้..มันจะเข้าไปหมดแล้ว..อดทนอีกนิด”เขากัดกรามแน่น ใบหน้าที่หล่อเหลาประดุจพระเจ้าทรงปั้นของเขาดูเหมือนว่าจ
เอสเตบันหอมหน้าผากเธอเบาๆ ก่อนที่เขาจะมองตาเธออย่างลึกซึ้ง ราวกับทุกความรู้สึกถูกส่งผ่านทางสายตาแสงแรกของดวงตะวันสาดส่องเข้ามาที่หน้าต่าง นั่นทำให้เขามองเห็นใบหน้าของเธอได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น เรือนผมสีแดงที่สะท้อนกับแสงของดวงตะวันทำให้เธอเจิดจ้าและงดงามจะละสายตาไม่ได้หากว่าในยามราตรีเธอมองว่าเขานั้นโดดเด่น เช่นนั้นในยามที่ดวงตะวันสะท้อนเข้ากับใบหน้าของเธอ ก็คงไม่มีสตรีผู้ใด อาจหาญที่จะป่าวประกาศออกมาว่านางงดงามมากกว่าเลดี้แมเดอลีนอีกแล้วล่ะ“ข้าต้องไปแล้วแมดดี้..”เธอนอนหลับอย่างสบายอยู่บนเตียงนอน เขาไม่อยากจะปลุกเธอขึ้นมาเพราะแมดดี้เองก็พึ่งจะได้นอนไม่ถึงชั่วโมงเท่านั้นเองเอสเตบันจำใจเดินออกมาจากเตียงและในระหว่างที่เขากำลังจะเปิดหน้าต่างเพื่อเดินออกไปด้านนอกห้องนอนของเธอ เพื่อใช้เครื่องมือเวทในการเดินทางกลับ ประตูห้องนอนของแมเดอลีนก็ถูกเปิดออกพร้อมกับบารอนโอทีสที่เดินเข้ามาแน่นอนว่าเอสเตบันไม่ได้แสดงท่าทีตกใจหรือว่าต้องการที่จะหลบหนี“แมวขโมยอย่างนั้นหรือ?”“สวัสดีครับท่านบารอน..ข้ามิใช่แมวขโมยอย่างที่ท่านพ่อตากล่าวหาหรอกนะครับ”พ่อตา? ไอ้เด็กเวรนี่..“บุตรสาวของข้ายังไม่ได้แต
“เช่นนั้นเจ้าบอกข้าหน่อยสิว่า..เจ้าตอบเขาไปว่าอย่างไร?”แมดดี้เหม่อมองออกไปด้านนอกหน้าต่าง เธอไม่ได้ตอบรับหรือว่าปฏิเสธออกไป“ข้าอยากให้การแต่งงานมันเริ่มต้นด้วยความรัก เพราะแบบนั้นจึงยังไม่ได้รับปากว่าจะรอเขากลับมา..”ดาเนียลุกขึ้นแล้วเดินมานั่งบนเตียงกับแมเดอลีน เธอจับมือของเพื่อนรักเอาไว้“นั่นคือการเลือกที่ถูกต้องแล้ว เวลาจะทำหน้าที่พิสูจน์ความรู้สึกของเจ้าและท่านดยุคเอง..วันนี้มีงานเทศกาลในเมืองนะแมดดี้เราออกไปเที่ยวด้วยกันเถอะ”ดาเนียสวมเสื้อคลุมให้เธอ พร้อมกับหมวกบอนเน็ตสีเดียวกันกับเสื้อคลุม เราทั้งคู่จับมือมาเที่ยวที่งานเทศกาลประจำปี งานนี้จัดขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติของทหารกล้าและเหล่าขุนนางต่างๆ ที่ปกป้องจักรวรรดิเอาไว้เธอไม่ลืมสวมวิกผมสีดำออกมา แมเดอลีนไม่อยากเป็นเป้าสายตาสักเท่าไหร่ เธอคิดว่าเส้นผมสีแดงของตระกูลเรเซเดนมันโดดเด่นมากทีเดียว มันไม่เหมาะเลยที่จะออกมาจากคฤหาสน์ด้วยภาพลักษณ์ที่จะถูกเพ่งเล็งง่ายๆ เช่นนั้น“สุดยอดไปเลยนะว่าไหม ปีหน้าเราคงจะมาเที่ยวในงานเทศกาลด้วยกันสามคน รวมเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในท้องเจ้าด้วย”แมเดอลีนยกยิ้มขึ้นมา เธอลูบท้องเบาๆ ด้วยความรู้สึกที่อบอุ่
หลังจากเราพบเจอกับท่านคาดินันเอดิต ชีวิตการเดินเที่ยวงานของแมเดอลีนก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปไม่ว่าเธอจะเดินไปทางไหน ท่านคาดินันก็ล้วนแล้วแต่เดินตามเธอไปอย่างไม่รู้จักหยุดหย่อน“ข้าไม่ค่อยมีเพื่อนเลยครับ..”ดาเนียขมวดคิ้ว“หากชื่อเสียงเรื่องสตรีของท่านคาดินันดีมากกว่านี้ ข้าเชื่อว่าท่านจะต้องมีเพื่อนอย่างแน่นอนค่ะ เหล่าขุนนางต่างตบเท้าเข้าหาท่านคาดินันกันอย่างหนัก..แต่เพราะชื่อเสีย..เอ๊ย ชื่อเสียงของท่านมัน..”เอดิตไม่ได้โกรธเคืองเลดี้ดาเนียเลยแม้แต่น้อย เพราะว่าเขาเป็นแบบที่เลดี้ดาเนียกล่าวออกมาจริงๆชีวิตที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของวิหาร เขาเฝ้ามองขุนนางคนแล้วคนเล่าที่เดินทางเข้ามาหาเขาพร้อมกับบุตรีของตัวเอง เพื่อกล่าวถึงการแลกเปลี่ยนที่กำลังจะเกิดขึ้นมาในอนาคตเขาไม่ได้ถูกมองในฐานะของผู้รับใช้พระเจ้า แต่กลับถูกมองในฐานะของผู้ให้อำนาจ เพราะแบบนั้นเอดิตก็เลย..ทำชั่วไปซะเลย เขาไม่อยากมีพันธะกับสตรี แถมยังไม่อยากให้ชื่อเสียงของตัวเองอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอีกด้วยด้วยเหตุผลนั้นเอง การเป็นชู้กับภรรยาชาวบ้านมันจึงเป็นสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกใช้ประโยชน์และในยามนี้เขามองเห็นแววตาสีฟ้าอ
บนใบหน้าที่งดงามของแมเดอลีนกำลังหยักยิ้มขึ้นมาจางๆ เมื่อเธอมองเห็นดอกไม้ไฟที่ถูกจุดขึ้นมา มันสวยงามและควรค่าต่อการมานั่งรอชมจริงๆเอดิตใช้เสื้อคลุมของเธอที่ในคราแรกเธอถอดมาคลุมให้เขา ในยามนี้เขากำลังใช้เสื้อคลุมตัวนั้นเพื่อคลุมไหล่ให้เธอ“อากาศเริ่มเย็นแล้วนะครับ..เดี๋ยวเลดี้จะไม่สบาย”แมเดอลีนส่งยิ้มเพื่อขอบคุณเขา“ขอบคุณนะคะ ข้าคิดว่าดาเนียหายไปนานมากพอสมควร ข้าจะไปตามนางหน่อย..”เอดิตรีบจับมือของแมเดอลีนเอาไว้“ให้ข้าไปเองครับ..เลดี้กำลัง..ตั้งครรภ์อยู่นี่”เธอหัวเราะออกมาเบาๆ“เช่นนั้นก็ฝากด้วยนะคะท่านเอดิต”เขามองหน้าเธออีกครั้งพร้อมกับหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ เป็นบ้าไปแล้วรึไงเอดิต นี่เขากำลังปล่อยให้ตัวเองจมลงไปในความหวานล้ำนั้นอย่างช้าๆ โดยไม่คิดที่จะตอบโต้อะไรเลยงั้นเรอะ..“แมดดี้”เมื่อเอดิตเดินออกมาได้ไม่ไกล เขาก็พบเจอเลดี้ดาเนียและบุรุษผู้หนึ่งทีกำลังจูงมือกันมาแมเดอลีนมองหน้าเพื่อนรักของเธอและเซอร์กรีนสลับกันไปมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยคำถาม“คืนนี้เจ้ากลับกับท่านเอดิตนะ ข้าเชื่อว่าท่านคาดินันคงจะไม่แตะต้องเพื่อนที่กำลังตั้งครรภ์ของข้าหรอกใช่ไหมคะ”เอดิตส่งยิ้มให้กับดาเน
สี่ปีที่แสนยาวนานสิ้นสุดลงเมื่อดยุคเอสเตบัน จัดการสังหารองค์ราชาของชนเผ่าทะเลทรายได้สำเร็จเสียงโห่ร้องยินดีของเหล่าทหารกล้าทำให้เอสเตบันรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังฝันไปเขาติดอยู่ที่นี่ยาวนานมากเหลือเกิน ในทะเลทรายที่แห้งแล้งและร้อนอบอ้าวเลลานี่ผ่อนลมหายใจยาวผ่านทางจมูก บรรยากาศสดชื่นหลั่งไหลเข้ามาในหัวใจสิ้นสุดแล้วสินะ สงครามที่ยาวนานแสนน่าเบื่อนี่ จบลงได้สักที!ทหารของจักรวรรดิเองก็บาดเจ็บไม่น้อย อีกทั้งเรายังไม่สามารถเดินทางกลับได้ในทันทีเพราะเมืองทางใต้เสียหายหนักมากพอสมควร อีกทั้งทหารในกองทัพของเราก็ไม่พร้อมที่จะเดินทางด้วย“เจ้าต้องเป็นคนส่งข่าวกลับไปลุควิค..ว่ากองทัพของเราชนะสงครามแล้ว และทหาร เหล่าขุนนางทุกคนที่อยู่ที่นี่จะเดินทางกลับในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปี”ถึงแม้ว่าสงครามจะสิ้นสุดแต่สิ่งที่เป็นปัญหายืดเยื้อมานานคือสุขภาพที่ย่ำแย่ของเขาและทุกคนที่อยู่ที่นี่ เอสเตบันบาดเจ็บร้ายแรงมากพอสมควร และเขาอาจจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นยาวนานหลายเดือน เขาอยากจะกลับไปที่จักรวรรดิใจจะขาด แต่ทว่าเขาไม่อยากกลับไปด้วยสภาพเช่นนี้ ไม่อยากจะให้ท่านแม่เป็นห่วงและ..ไม่อยากให้เธอคนนั้นมองเขาด้วยแว
สวัสดีค่ะ มิก้าเองค้า..วันนี้มิก้าอายุ 7 ขวบแล้ว ท่านพ่อได้จัดงานวันเกิดให้มิก้าทุกปี แต่ว่าปีนี้จะยิ่งใหญ่มากกว่าปีที่ผ่านมาหน่อย เพราะท่านพ่อจะประกาศชื่อกลางของมิก้า และชื่อจริงออกมาด้วยค่ะมิก้าใช้เวลาส่วนใหญ่ที่คฤหาสน์เรเซเดนก็จริงแต่ทว่าก็ยังมีไปนอนกับท่านพ่อและท่านแม่ที่คฤหาสน์วีไซร์อยู่บ้างเมื่อ2ปีที่แล้วท่านแม่คลอดน้องชายมาให้มิก้าสองคนค่ะ ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆ กันที่ท่านแม่คลอดน้องชายฝาแฝดออกมา แต่ทว่าที่น่าตกใจมากกว่านั้นคือคนหนึ่งมีเส้นผมสีเงินเหมือนกับมิก้าแต่อีกคนกลับที่เส้นผมสีแดงเหมือนกับท่านแม่ท่านตาเชื่อว่านั่นคือปาฏิหาริย์ล่ะ มิก้ามาเล่นกับน้องบ่อยมากทีเดียว แต่เพราะว่าน้องพึ่งจะสองขวบก็เลยยังเล่นกับมิก้าได้ไม่มากนัก“มิก้า..นี่คือของขวัญของมิคนเก่งครับ”ท่านลุงเอดิตส่งมอบคทาของคาดินันที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ให้แก่มิก้า ซึ่งมิก้าเองก็ไม่เข้าใจว่าท่านลุงให้สิ่งนี้กับมิก้าทำไมกัน?“เมื่อมิก้าโตขึ้น หลานจะได้รับการสืบทอดตำแหน่งคาดินันของลุง..หลานจะเป็น..นักบุญหญิงคนแรกของจักรวรรดิแห่งนี้ เป็นเช่นนั้นดีหรือไม่?”มิก้าไม่เข้าใจว่าอะไรดีหรือว่าไม่ดีกันแน่ มิก้าชอบขี่ม้าและ
ผมยาวสีแดงของแมเดอลีนนั้นถูกรวบขึ้นไปไว้ที่ด้านบน สาวใช้สองคนกำลังวุ่นอยู่กับการแต่งหน้า ส่วนอีกคนกำลังปักเครื่องประดับรูปดอกไม้ลงไปบนมวยผม“ท่านดัชเชสช่างงดงามมากเลยค่ะ”ไม่ต้องแต่งแต้มเครื่องสำอางมากมายบนใบหน้าก็ฉายชัดถึงความงดงามที่ไร้ผู้เปรียบเทียบ“ข้าไม่ชินกับ..ใบหน้าของตัวเองในยามนี้เลย”แมดดี้ประหม่ามากพอสมควร เธอกำลังนั่งอยู่ที่ห้องแต่งตัวของเจ้าสาวในวิหาร และเมื่อจัดการแต่งหน้าและทำผมเสร็จเรียบร้อย ชุดแต่งงานที่ถักด้วยลูกไม้สีขาวก็ถูกสวมลงมาบนร่างกายของเธอ กระโปรงนั้นมีน้ำหนักมากพอสมควร และชุดนี้ก็สง่างามมากทีเดียว ขั้นตอนสุดท้ายคือการสวมผ้าคลุมหน้าลูกไม้ลงมาบนศีรษะของเธอแมเดอลีนมารู้ทีหลังว่าทั้งชุดแต่งงานและผ้าคลุมหน้านี้ท่านหญิงไดอาน่าเป็นผู้ถักมันด้วยตัวเอง ท่านเริ่มต้นถักมันตั้งแต่เอสเตบันไปออกรบ ท่านถักเอาไว้เพื่อรอคอยให้เธอมาสวมใส่สักวันหนึ่งเมื่อได้คิดถึงที่มาของชุดแต่งงานนี้แมเดอลีนก็น้ำตาคลออย่างห้ามไม่อยู่ เธอว่าครอบครัวของตัวเองนั้นดีแล้ว มันโชคดียิ่งกว่านั้นเมื่อมาพบเจอครอบครัวของสามีที่ดีมากยิ่งขึ้นไปอีก ท่านแม่ของเธอและท่านแม่ของเอสเตบันสนิทสนมกันมากพอสมควรใ
“คงจะดีหากว่าท่านคาดินันไม่หลบหนีออกไปอีก..แบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า..”นักบุญผู้หนึ่งกล่าวออกมาพร้อมกับวางเอกสารมากมายลงเบื้องหน้าของเอดิต“แล้วก็ทางคฤหาสน์วีไซร์ประกาศเรื่องงานแต่งงานของท่านดยุคและท่านดัชเชส มาแล้วนะครับ ท่านดยุคแห่งวีไซร์ต้องการให้ท่านคาดินันเป็นผู้จัดงานแต่งให้ทั้งสองท่านด้วยตัวเอง..เรื่องการจัดเตรียมความพร้อมของวิหาร ทางคฤหาสน์วีไซร์ได้ส่งทหารมาจัดเตรียมสถานที่แล้ว..”เอดิตแค่นหัวเราะออกมา เขาเบนสายตาออกไปมองที่ด้านนอกหน้าต่างของห้องทำงานสายลมพัดมาเบาๆ และนั่นทำให้เขารู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ นี่กำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้วในอีกไม่กี่เดือน ทุกอย่างกำลังเดินทางไปด้านหน้าเรื่อยๆ และตัวเขาเองก็เช่นกัน จะมัวมานั่งเสียใจกับเรื่องความรักที่ไม่สมหวังไม่ได้เพราะฉะนั้น..เขาจะต้องก้าวไปข้างหน้าเสียที“เจ้าช่วยตรวจสอบเรื่องการจัดงานด้วยนะ อย่างให้มีอะไรผิดพลาด..ข้าอยากให้ในวันงานวันนั้นทุกอย่างสมบูรณ์แบบมากที่สุด”เจ้าคงจะงดงามมากทีเดียวแมดดี้ ในชุดแต่งงานสีขาวนั้นเจ้าคงจะทั้งงดงามและโดดเด่นจนข้าละสายตาไปจากเจ้าไม่ได้ ในวันที่เจ้ามีความสุขที่สุด ข้าได้ยื
ครั้งที่แล้วเขาพลาดในช่วงเวลาที่แสนสำคัญบางช่วงเวลาที่จะได้ดูแลแมดดี้ในตอนที่นางตั้งครรภ์และช่วงเวลาที่เขาจะได้เห็นหน้าลูกในตอนที่คลอดออกมา ไม่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลาที่ค่อยๆเติบโตของมิก้า ไม่มีโอกาสได้อุ้มนางในตอนที่นางยังเป็นทารก เพราะแบบนั้นในช่วงเวลาหลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะไม่ยอมห่างจากภรรยาของเขาอย่างเด็ดขาดไม่ว่าด้วยเรื่องอะไร“เช่นนั้นเราเดินทางกลับวีไซร์กันเถิด..”แมเดอลีนพยักหน้า เธอเคยไปที่นั่นก็จริงอยู่แต่ทว่าการไปอยู่ที่นั่นในฐานะดัชเชส นั้นยังไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว“ข้าจะพาแมดดี้กลับก่อนนะครับ ข้าไม่อยากจะพานางเดินทางในช่วงเย็นเดี๋ยวนางจะไม่สบาย”โอทีสพยักหน้า“เรื่องมิก้า..”“ข้ารู้ครับว่าท่านพ่อตาอยากจะอยู่กับหลานสาวก่อน ช่วงนี้คงจะต้องฝากท่านพ่อตาเลี้ยงดูมิก้าไปก่อน เพราะแมดดี้พึ่งจะตั้งครรภ์..ข้าอยากทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้แมดดี้”เดวาส่งยิ้มให้กับเอสเตบัน“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาเลย เจ้าทั้งสองคนพึ่งได้ใช้ชีวิตตามลำพังด้วยกันแค่ไม่นาน..ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหลานเดี๋ยวเราจะเลี้ยงดูให้เจ้าเอง”เอสเตบันก้มหน้าลงเพื่อขอบคุณท่านแม่ยาย“ท่านแม่ครับเช่นนั้นเรากลับกัน..”
ดาเนียมองหน้าของแมเดอลีน ราวกับว่าเธอกำลังร้องขอความช่วยเหลือจากสหาย และแมดดี้ลุกขึ้นแล้วเดินมาหาท่านเซอร์อดัมในทันที“ขออภัยที่ข้ามาขัดจังหวะนะคะท่านเซอร์ ดาเนียเติบโตมาในคฤหาสน์เรเซเดนซะส่วนใหญ่ ในความคิดของข้านั้นนางไม่ใช่แค่สหายรักของข้าแต่นางยังเป็นเหมือนกับน้องสาวของข้าอีกด้วย เรื่องที่จะให้ดาเนียไปเป็นผู้นำตระกูล ข้ามองว่ามันอาจจะข้ามขั้นไปหน่อยค่ะ นางไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเช่นนี้เลย..”เซอร์อดัมส่งยิ้มให้แมเดอลีน“นั่นสินะครับ อาจจะเป็นข้าที่ทำข้ามขั้นตอนไปหน่อย เช่นนั้นในช่วงเวลานี้ข้าอยากจะให้ดาเนียเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์กรีนเพื่อศึกษาและจัดการเกี่ยวกับงานมากมายในตระกูลกรีน..พ่อบ้านของเราจะสอนเลดี้ดาเนียเองครับ เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นกังวล..”แมดดี้จับมือของดาเนียเอาไว้“ดาเนีย..นั่นใช่ความต้องการของเจ้าจริงๆรึเปล่า เจ้าอยากจะอยู่กับอาดาลและแลนดรีจริงไหม นี่มันไม่ใช่เรื่องของความรักที่เกิดขึ้นในนิยายหรอกนะแมดดี้แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในตระกูลกรีนเจ้าจะต้องรับผิดชอบทั้งหมด เจ้ายินดีที่จะแบกรับความรับผิดชอบพวกนั้นรึเปล่า”แมเดอลีนเอ่ยถามออกมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงดาเนียเผ
เมื่อโอทีสกลับมาถึงคฤหาสน์เขาก็ได้รับรู้ว่าแมดดี้ของเขาตั้งครรภ์ลูกคนที่สองแล้วดยุคเอสเตบันนั่งยิ้มราวกับคนเสียสติส่วนแมดดี้กำลังตกใจมากกว่าที่จะดีใจชิ..เจ้าเด็กนั่นทรมานลูกสาวของเขาจนนางตั้งครรภ์ขึ้นมาอีกครั้งแล้วอย่างนั้นสินะ แต่ทว่าในใจของโอทีสจะโกรธก็โกรธไม่ลง เมื่อเขาเห็นท่าทีตกใจของเอสเตบันในตอนที่ได้รับทราบข่าวว่าแมดดี้ไม่สบายจนต้องไปตามหมอ..ในบางทีไอ้เด็กมั่นหน้าคนนั้นอาจจะรักลูกสาวของเขาจริงๆ ก็เป็นได้“นี่คือใบถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดินค่ะ แล้วก็เงินทองอีกจำนวนหนึ่ง”อันที่จริงในการแต่งงาน สตรีต่างหากที่จะต้องจัดเตรียมสินเดิมติดตัวเมื่อแต่งงานเข้าบ้านฝ่ายชาย แต่ทว่าท่านหญิงอาน่าได้ส่งมอบเงินจำนวนหนึ่งและใบถือกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ท่านบารอนโอทีส“ข้าไม่ต้องการของพวกนี้หรอกครับท่านหญิง..ในเมื่อ..เมื่อเด็กทั้งสองคน..ทั้งสองคนนั้นรักกัน..ข้าก็ไม่อาจขัดขวาง”เดวาหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเธอเห็นสามีพูดไปกัดฟันไป“ข้าไม่คิดจะให้มิก้าเปลี่ยนชื่อตระกูลเป็นวีไซร์ ท่านบารอนมีบุตรีเพียงผู้เดียวก็คือแมดดี้เพราะแบบนั้นข้ายินดีที่จะให้มิก้าใช้ชื่อตระกูลว่าเรเซเดนต่อไปค่ะ”โอทีสก้มหน้าลงเล็กน้
เดวารินน้ำชาใส่แก้วให้ท่านหญิงไดอาน่าที่เดินทางมาที่คฤหาสน์เรเซเดนพร้อมกับขบวนรถม้ามากมายที่จอดเทียบอยู่ด้านหน้า“ข้าได้ยินมาว่าท่านดยุคเดินทางเข้ามาในเมืองหลวงเรียบร้อยแล้วอย่างนั้นหรือคะท่านหญิง”ไดอาน่าพยักหน้า“ตอนนี้เอสคงจะอยู่ในพระราชวัง และอีกไม่นานเขาน่าจะมาที่นี่เพื่อทำให้เรื่องราวมากมายระหว่างทั้งสองตระกูลเรียบร้อย..”เดวาผ่อนลมหายใจยาวผ่านทางจมูก เธอดีใจที่เรื่องราวต่างๆ กำลังคลี่คลายไปได้ด้วยดี เพราะแบบนั้นแมดดี้ลูกสาวของเธอจะได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีรถม้าจอดเทียบที่ด้านหน้าคฤหาสน์เรเซเดนพร้อมกับแมเดอลีนและดาเนียที่กำลังเดินเข้ามา“ท่านป้าคะ ข้าคิดว่าอาจจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น ท่านช่วยรีบตามหมอ..”ดาเนียที่ตะโกนเสียงดังพร้อมกับพยุงแมเดอลีนเข้ามาถึงกับชะงักในทันทีเมื่อเธอมองเห็นท่านหญิงไดอาน่า มารดาของท่าน ดยุคกำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่เดวาลุกขึ้นไปหาแมดดี้ในทันที“เกิดอะไรขึ้นดาเนีย แมดดี้ไม่สบายอย่างนั้นหรือ?”ดาเนียกลืนน้ำลายลงคอ“ยังไม่แน่ชัดว่าแมดดี้เป็นอะไรกันแน่ แต่นางมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้และอาเจียนค่ะ”เดวาอ้าปากค้างในทันที นางหันไปมองหน้าของท่านหญิงไดอาน่าที่ก
“เจ้าทำคุณงามความดีที่ยิ่งใหญ่มากให้จักรวรรดิของเรา มีอะไรอยากจะขอไหมดยุค อย่างเช่นเรื่องการแต่งงานหรือว่าเรื่องความรักอะไรพวกนั้น”องค์จักรพรรดิเอ่ยถามในทันทีที่เอสเตบันเดินเข้าไปในพระราชวัง มีขุนนางมากมายนั่งอยู่รอบๆ และหนึ่งในนั้นคือบารอนเรเซเดนที่กำลังมองหน้าองค์จักรพรรดิตาเขียวปั๊ดจำเป็นที่ต้องถามคำถามที่เป็นการชี้นำเช่นนั้นเลยอย่างนั้นเลยหรือพ่ะย่ะค่ะโอทีสได้แต่กล้ำกลืนความไม่พอใจนั้นเอาไว้ในอก เขาส่งยิ้มให้มิก้าหลานสาวตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมแขนของเอสเตบัน มันปฏิเสธได้ยากเย็นมากพอสมควรเมื่อเขามองเห็นดยุคอุ้มมิก้าเดินเข้ามา ทั้งสองคนมีความคล้ายที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามิก้าที่แสนน่ารักของเขาคือลูกสาวของใครเอสเตบันมองไปที่บารอนโอทีส ท่านพ่อของแมดดี้ เขาวางมิก้าลงก่อนจะขยิบตาให้ลูกสาว“ทำตามแผนที่วางเอาไว้ได้เลยลูกรัก”มิก้าพยักหน้าก่อนที่เธอจะวิ่งไปหาท่านตา“ท่านตา!!”แน่นอนว่าเมื่อทุกอย่างมันชัดเจนเช่นนี้ เหล่าขุนนางก็ไม่ต้องคาดเดาไปต่างๆนาๆ อีกว่าหลานสาวของท่านบารอนเรเซเดนคือบุตรสาวของใครกันแน่“มิก้าหลานรัก..”มิก้าโผกอดท่านตาเอาไว้แน่น“มิก้ามีท่านป้อแล้วค่ะท่านตา ท่านป้อรักมิก้าแ
การเดินทางล่าช้าลงเล็กน้อยเพราะเม็ดฝนที่ตกลงมา เอสเตบันสั่งให้ขบวนรถม้าของเขาหยุดพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งก่อนถึงเมืองหลวงไม่ไกลมากนัก เขาอุ้มภรรยาลงจากรถม้าในสภาพที่แมเดอลีนกำลังหลับอย่างสบายในอ้อมแขนของท่านดยุคแห่งวีไซร์ และก็แน่นอนว่าไม่มีใครที่อาจหาญกล้าวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของท่านดยุคและว่าที่ดัชเชสหรอกหลังจากที่ส่งภรรยาเข้านอนเรียบร้อย เอสเตบันก็มารับลูกสาวที่ฝากเอาไว้กับดาเนีย เขาพอจะเดาได้ว่าดาเนียและเจ้าแฝดนรกทั้งสองคงจะอยากมีช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัวมากเหมือนกัน“จริงๆ ให้มิก้านอนกับข้าก็ได้นะคะท่านดยุค”ดาเนียกล่าวก่อนจะอุ้มมิก้าที่กำลังหลับส่งให้เอสเตบัน เขาส่งยิ้มเพื่อเป็นการขอบคุณให้กับดาเนีย“ไม่เป็นไร แมดดี้หลับไปแล้วข้าแค่จะพามิก้าไปนอนพักกับแม่ของนางเท่านั้นเอง เจ้าก็รีบพักผ่อนเถิด พรุ่งนี้จะต้องออกเดินทางตั้งแต่เช้า”โรงแรมนี้เป็นโรงแรมขนาดเล็กมากพอสมควร มีห้องพักเพียงสามห้องเท่านั้น แต่เพราะว่าเราไม่ได้มีทางเลือกมากมายเท่าไหร่นัก เอสเตบันจึงจำยอมให้ภรรยาและลูกสาวของเขาพักที่โรงแรมแห่งนี้ชั่วคราวไปก่อนเขาไม่ได้นอน เมื่อกล่อมมิก้าให้หลับเสร็จเรียบร้อยแล้ว เอสเตบันก็ถือดา