แชร์

บทที่ 0006

เสียงของซูเฉี่ยนเฉี่ยนดังมากจนบริเวณโดยรอบเงียบไปชั่วขณะ

เมื่อซูเฉี่ยนเฉี่ยนตั้งสติได้ สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่เธอแล้ว

รวมทั้งป๋อซือเหยียนกับเสิ่นม่านด้วย

สายตาของทุกคนในตอนนี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดูเหมือนผู้หญิงที่พูดจาป่าเถื่อนและไร้การศึกษา

คนสวนสูงวัยหลังค่อมที่อยู่ตรงหน้าเธอก้มตัวลงไปเก็บดอกกุหลาบบนพื้นทีละดอก พร้อมกับกล่าวคำขอโทษออกมาจากปากอย่างต่อเนื่อง

เมื่อซูเฉี่ยนเฉี่ยนสังเกตได้ถึงสายตาของคนรอบๆข้าง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที เธอรีบเปลี่ยนท่าทีและพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ ฉันรีบไปหน่อย คุณตาไม่เป็นไรนะคะ?”

ฉากนี้เสิ่นม่านเฝ้าดูอยู่ในที่ที่ไม่ไกลออกไป

แม้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะแสดงออกว่าขอโทษ แต่มันก็สายเกินไป เมื่อเธอทำเช่นนี้ มีแต่จะทำให้คนอื่นคิดว่าเธอเสแสร้ง

ในขณะนี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็สังเกตเห็นเสิ่นม่านที่ยืนอยู่ข้างๆป๋อซือเหยียน

“เธอมาที่นี่ได้ไง?”

ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้ว

เสิ่นม่านดูกริยาท่าทางของป๋อซือเหยียนเหมือนคนที่ไม่รู้เลยว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะมางานนี้

หรือว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะมาเอง?

เสิ่นม่านเงียบไป

ฉากนี้ไม่เหมือนกับในชาติก่อน เสิ่นม่านจำได้ว่าในอดีตชาติ ป๋อซือเหยียนพาซูเฉี่ยนเฉี่ยนมางานนี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนได้รับการอนุมัติจากคุณท่านเซียว ดังนั้นเรื่องไปเรียนต่างประเทศก็เลยราบรื่น หลังจากเรียนจบก็ยังอาศัยการสนับสนุนจากป๋อซือเหยียนกับคุณท่านเซียวจนประสบความสำเร็จ

เสิ่นม่านคิดมาตลอดเลยว่าการที่ป๋อซือเหยียนไม่ได้พาซูเฉี่ยนเฉี่ยนมางานในครั้งนี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะไม่มาปรากฎตัวที่นี่

ไม่คิดเลยว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะกล้าเข้ามาด้วยตัวเอง

“ท่านประธานป๋อ!”

เมื่อได้ยินเสียงความวุ่นวายดังมาจากข้างใน เลขาหลี่จึงรีบเข้าไปในงาน

น้ำเสียงของป๋อซือเหยียนไม่ค่อยดีนัก “ใครให้เธอเข้ามา?”

“ผม……”

เลขาหลี่ก้มหัวลง “ผมคิดว่า คุณหนูซูจะสามารถช่วยท่านประธานป๋อได้”

ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้ว

แต่ก่อนเขาคิดมาตลอดเลยว่าซูเฉี่ยนเฉี่ยนเป็นคนใจกว้างมาก

แต่ในโอกาสเช่นนี้ ในเมื่อป๋อซือเหยียนพาเสิ่นม่านมางานแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ไม่ควรมาปรากฎในงานนี้!

“คุณหนูซูไม่คุ้นเคยที่นี่เท่าไร นายรีบไปดูเธอเถอะ”

เสิ่นม่านจิบแชมเปญโดยไม่สนใจเท่าไรนัก

ป๋อซือเหยียนมองซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่อยู่ไม่ไกลออกไป เธอดูเหมือนกวางตัวเล็กที่กำลังตื่นตระหนกและหวาดกลัว ในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะทิ้งให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอยู่คนเดียว “ผมไปดูซูเฉี่ยนเฉี่ยนแป๊บหนึ่ง เดี๋ยวผมกลับมา”

เสิ่นม่านไม่ได้พูดอะไร

นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่คาดคิดว่าป๋อซือเหยียนจะไป

เขาไม่สามารถปล่อยซูเฉี่ยนเฉี่ยนไปได้มาโดยตลอด

ป๋อซือเหยียนก้าวไปข้างหน้าแล้วถามว่า “เธอมายังได้ยังไง?”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก้มหัวลงด้วยความรู้สึกผิด

“ขอโทษค่ะ...ฉันแค่ แค่อยากเข้ามาดูเฉยๆ”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก้มหัวลงและสะอื้น และป๋อซือเหยียนก็ไม่พูดอะไรที่รุนแรง

อย่างไรเสีย เธอก็ถือเป็นนักศึกษาที่เขาฝึกมากับมือ หลายปีที่ผ่านมา เขาเห็นถึงความพยายามของซูเฉี่ยนเฉี่ยน

“ผมให้เลขาหลี่ส่งเธอกลับแล้วกันนะ”

เมื่อเห็นว่าป๋อซือเหยียนจะเดินออกไป ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็รีบดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้ “ประธานป๋อ ฉันสามารถอยู่ต่อได้ไหมคะ?”

ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้ว

ในอดีตซูเฉี่ยนเฉี่ยนเชื่อฟังมาก และรู้สถานะตัวเองดี เธอไม่เคยพูดคำพูดพวกนี้ที่เกินกว่าสถานะของเธอออกมา

เมื่อซูเฉี่ยนเฉี่ยนเห็นสายตาของป๋อซือเหยียน ก็รู้สึกได้ในทันทีว่าเขาไม่พอใจ “ขอโทษค่ะ ท่านประธานป๋อ....ฉัน.....”

เมื่อเห็นท่าทางของซูเฉี่ยนเฉี่ยน ป๋อซือเหยียนก็ทำใจไม่ได้ที่จะพูดถ้อยคำแรงๆออกมา “อยู่ต่อเถอะ งานนี้เป็นประโยชน์สำหรับเธอในการไปต่างประเทศ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ฉีกรอยยิ้มที่แสนหวานออกมา

“งั้น งั้นฉันตามคุณไปได้ไหมคะ?”

ป๋อซือเหยียนมองไปยังผู้คนที่อยู่รอบๆ เขาไม่ไว้ใจให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจัดการโดยลำพังที่นี่

“อืม”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนดีใจเหมือนกับเด็กน้ย

เลขาหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “ท่านประธานป๋อ แล้วคุณผู้หญิงป๋อหละ....”

“เธอไปอยู่กับคุณผู้หญิงป๋อนะ อย่าให้เธอสร้างปัญหาเหมือนครั้งที่แล้ว”

ป๋อซือเหยียนทราบดีว่าเสิ่นม่านมักจะเข้าร่วมงานแบบนี้บ่อยๆ แต่คนที่ไม่เข้าใจเรื่องการเงินแบบเธอนั้น การที่มาที่นี่ก็เป็นเพียงแค่การค่าเวลาเท่านั้น

ตราบใดที่ไม่ต้องใช้เงินให้วุ่นวายเหมือนครั้งที่แล้วก็พอ

ตอนนี้ เสิ่นม่านเห็นเลขาหลี่เดินตรงมาหาเธอ เลขาหลี่ไม่รู้จะพูดอย่างไร เสิ่นม่านจึงพูดว่า “เขาไปอยู่กับซูเฉี่ยนเฉี่ยนแล้วเหรอคะ?

“คุณผู้หญิงป๋อ คุณหนูซูเป็นคนที่บริษัทฝึกมาอย่างดี ดังนั้น...”

“เข้าใจค่ะ สมเหตุสมผลดี”

ดูเหมือนว่าเสิ่นม่านไม่ได้เก็บเรื่องของป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยนมาใส่ใจ

เลขาหลี่จึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือไม่ เขารู้สึกว่าคุณผู้หญิงป๋อเปลี่ยนไปไม่เหมือนกับเมื่อก่อน

เสิ่นม่านมองซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่อยู่ข้างๆป๋อซือเหยียนกำลังพูดคุยกับนักธุรกิจใหญ่หลายคน

ถึงแม้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจะมีผลการเรียนที่ดี แต่สุดท้ายเธอก็เป็นแค่นักศึกษา ต่อหน้าพวกเฒ่าหัวงูพวกนั้นที่อยู่ในโลกธุรกิจมานานหลายปี คำพูดพวกนั้นของซูเฉี่ยนเฉี่ยนไม่ได้มีความหมายอะไรเลย

คนพวกนั้นยกย่องซูเฉี่ยนเฉี่ยนว่าอายุน้อยและมีความสามารถเพราะเห็นแก่หน้าของป๋อซือเหยียนล้วนๆ

แต่ในไม่ช้า ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ประสบปัญหาเพราะต้องเผชิญหน้ากับนักธุรกิจใหญ่ชาวต่างชาติ

ถ้าหากเสิ่นม่านจำไม่ผิด คนคนนี้น่าจะเป็นยักใหญ่ทางการเงินของประเทศ X

สิ่งเดียวที่ไม่ดีคือ นักธุรกิจรายใหญ่ผู้นี้พูดได้แต่ภาษาของตัวเอง ไม่สามารถพูดภาษาต่างประเทศได้

แต่บังเอิญว่าล่ามของเขาไม่อยู่ในเวลานี้

“ประธานป๋อ....”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมองดูป๋อซือเหยียนแล้วกัดริมฝีปากของตัวเอง

ป๋อซือเหยียนกำลังคิดว่าจะแก้ไขความอึดอัดนี้อย่างไร เสิ่นม่านก็เดินเข้ามา เธอใช้ภาษาของประเทศXคุยกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างคล่องแคล่ว

อีกฝ่ายดูจะพึงพอใจกับการพูดของเสิ่นม่านเป็นอย่างมาก และยื่นมือมาจับกับเสิ่นม่าน

เวลานี้ ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจึงสังเกตเห็นเสิ่นม่าน

เสิ่นม่านสวมชุดสีดำที่เหมือนกันกับเธอเป๊ะ

ความแตกต่างอยู่ที่ ชุดสีดำที่เสิ่นม่านสวมนั้นมีความประณีต สวยงามสง่าและดูแพง

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว สิ่งที่เธอสวมใส่ดูเหมือนกับชุดที่ขายตามข้างทาง

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกำหมัดแน่น แต่ใบหน้ายังคงยิ้มอยู่ “พี่เสิ่นม่านเก่งจัง แม้แต่ภาษาประเทศXก็พูดได้ด้วย”

เสิ่นม่านยิ้มให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเล็กน้อย และไม่พูดอะไรต่อ

ป๋อซือเหยียนจำได้ว่าเสิ่นม่านพูดภาษาต่างประเทศได้ แต่ภาษาของประเทศXนั้นไม่ได้ใช้เป็น คนที่ได้ภาษานี้ก็มีไม่ได้ใช้กันอย่างแพร่หลาย และไม่ใช่ภาษาที่เป็นภาษานานาชาติ คนที่พูดได้จึงมีไม่มาก คิดไม่ถึงเลยว่าเสิ่นม่านจะสามารถพูดภาษานี้ได้

“พี่สาวเสิ่น เมื่อกี้นี้ พี่คุยอะไรกับคุณสตีเวนหรอคะ? เขาดูจะดีใจมาก”

เสิ่นม่านพูด “ที่ดินแปลงที่อยู่บริเวณทะเลตะวันออกเฉียงใต้ที่เขาได้มาจากการประมูลเมื่อไม่กี่วันก่อนจะต้องขายได้ในราคาสูงมากแน่ๆ เขาก็เลยจึงดีใจมาก”

“ที่ดินแปลงนั้น....จะขายได้ราคาสูงเหรอ?”

ใบหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเต็มไปด้วยความสงสัย

ที่ดินนั้นดูเหมือนจะไม่มีอะไรเป็นพิเศษ

“ก็เป็นไปได้นะ”

ท่าทางของเสิ่นม่านดูเหมือนเธอจะพูดแบบไม่จริงจัง

แต่ในอดีตชาติ ที่ดินตรงนั้นขายได้ราคาสูงจริงๆ พื้นที่ทะเลนั้นได้รับการพัฒนาให้เป็นจุดชมวิวอย่างกะทันหัน และที่ดินแปลงนั้นจึงเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว นำมาซึ่งการสร้างรายได้ที่มหาศาล

คุณสตีฟเวนอาจจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าบริเวณทะเลนั้นจะได้รับการพัฒนา ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจซื้อที่ดินแปลงนั้น

แต่สำหรับซูเฉี่ยนเฉี่ยนแล้ว เธอยังไม่มีสายตาที่เฉียบคมแบบนั้น

ป๋อซือเหยียนจ้องจ้องเสิ่นม่านมาได้สักพัก เสิ่นม่านที่ถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง

“ทำไมนายมองฉันแบบนั้น?”

ป๋อซือเหยียนถามกลับ “คุณรู้ได้ยังไงว่าที่ดินตรงนั้นจะขายได้ราคาสูง?”

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status