เสิ่นม่านมองป๋อซือเหยียนที่นอนหมดสติอยู่บนเตียงแล้วพูดเรียบๆ ว่า: "ไม่ล่ะ รอให้เขาหายดีแล้วฉันค่อยมาอีกทีก็แล้วกัน"เสิ่นม่านเดินออกจากห้องพักคนไข้โดยไม่ลังเลเลย ในตอนนั้นเอง ป๋อซือเหยียนที่นอนอยู่บนเตียงก็ลืมตาขึ้นเลขาหลี่เห็นป๋อซือเหยียนลืมตาก็ตกตะลึง"คุณป๋อ? คุณ...""ช่วยพยุงผมลุกหน่อย"เสียงของป๋อซือเหยียนแหบแห้งเลขาหลี่รีบเข้าไปช่วยพยุงป๋อซือเหยียนให้ลุกขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า: "คุณป๋อครับ นี่คุณ... ใช้กลอุบายเรียกร้องความสนใจหรือครับ?"ป๋อซือเหยียนไม่พูดอะไรตอนนั้น เขาสังเกตเห็นความผิดปกติตั้งแต่แรกแล้ว ระบบรักษาความปลอดภัยส่งสัญญาณเตือนตั้งนานแล้ว เขารู้ว่าคนที่บุกเข้ามาในบ้านตระกูลป๋อในเวลานี้มีเพียงเซียวตั๋วเท่านั้น และมีเพียงเซียวตั๋วเท่านั้นที่มีความสามารถทำเช่นนี้ได้และเมื่อกลุ่มโจรบุกเข้ามา ด้วยรูปร่างของเขาสามารถหลบดาบนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่เขากลับไม่ทำเช่นนั้น แต่เลือกที่จะรับดาบนั้นเต็มๆเขาแค่อยากรู้ว่า เสิ่นม่านจะเสียใจหรือกังวลเพราะเขาหรือไม่ป๋อซือเหยียนแสดงสีหน้าอ่อนล้าด้วยรอยยิ้มเศร้าๆ แล้วพูดว่า: "คุณหลี่ ในใจของเธอ คงยังมีผมอยู่บ้างมั้ง"
"คุณเคยคิดเรื่องนี้อาจจะเหลือหลักฐานไหม? คุณยังสัญญากับฉันว่า จะไม่ทำเรื่องอันตรายอีกแล้ว"วันนี้เซียวตั๋วพาคนมาทั้งหมดเป็นพวกลุกฮือที่เคยติดตามเขาตลอด ซึ่งเสิ่นม่านก็ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ในชาติก่อน เสิ่นม่านรู้ว่า เซียวตั๋วมาเเมืองไห่เฉิง แท้จริงแล้วก็คือมีเป้าหมายอื่น เป้าหมายหลักของเขาคือป๋อซือเหยียน แม้ว่าตอนนี้เธอยังไม่รู้ว่าเซียวตั๋วมีจุดมุ่งหมายอะไรแต่สิ่งที่แน่นอนก็คือ เซียวตั๋วต้องการจะเป็นใหญ่ในเมืองไห่เฉิง และอุปสรรคคนแรกก็คือป๋อซือเหยียนแต่เธอไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องราวมากมายขนาดนี้ในชาตินี้ เส้นทางอนาคตได้ถูกปรับเปลี่ยนไป แต่เป้าหมายของเซียวตั๋วกลับไม่เปลี่ยนเลย และยังมีกลุ่มอันตรายเช่นนี้ซ่อนอยู่ด้วยหากมีสักคนที่ถูกจับได้ เซียวตั๋วอาจจะพังพินาศได้เสิ่นม่านไม่กล้าคิดถึงเรื่องในอนาคต เธอมองไปที่เซียวตั๋วตรงหน้า รอให้เซียวตั๋วอธิบายเซียวตั๋วนิ่งเงียบ เสิ่นม่านจึงถามตรงๆ "คุณมีเรื่องอื่นที่ต้องทำในเมืองไห่เฉิง ใช่ไหม?""...ใช่""ก่อนที่คุณมาเมืองนี้แต่อยู่ต่างประเทศก็ตั้งตัวเป็นใหญ่ได้แล้ว ทำไมถึงต้องมาเมืองไห่เฉิงด้วย หยุนเฟยหานไม่ใช่มาเมืองหลินเฉิงแล้วกำลังรุ่
เบื้องหน้าคือวิลล่าที่ดูธรรมดา แต่ทำเลที่ตั้งของที่นี่ถือว่าดีที่สุด วิลล่าในย่านนี้มีราคาขั้นต่ำขั้นสูงกว่าล้านล้านบาท คนที่สามารถอาศัยอยู่แถวนี้ได้ต้องเป็นคนร่ำรวยหรือจะต้องรวยหรือมีเกียรติแต่ว่า ที่นี่ดูเหมือนไม่ใช่ที่ที่มีคนอาศัยอยู่เป็นประจำ"ไม่นึกเลยว่าคุณฮั่วจะมีบ้านที่งดงามแบบนี้ที่นี่""นี่ไม่ใช่ของผม"น้ำเสียงของฮั่วหยุนเหลียนเรียบเฉย เสิ่นม่านยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ฮั่วหยุนเหลียนก็หยิบกุญแจออกมา เขาไอเบา ๆ สองครั้ง หน้าตาดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไร จากนั้นเขาก็เปิดประตูวิลล่าเสิ่นม่านก้าวขึ้นไปข้างหน้าแล้วพูดว่า: "ที่นี่ไม่ใช่บ้านของคุณ แล้วทำไมคุณถึงมีกุญแจล่ะ?""เพื่อนให้ผมมา"คนที่ฮั่วหยุนเหลียนเรียกว่าเพื่อนในเมืองไห่เฉิงนี้ไม่มีมากนัก เสิ่นม่านจึงนึกถึงเซียวตั๋วเป็นคนแรกฮั่วหยุนเหลียนเปิดประตูแล้วเสิ่นม่านก็เดินตามฮั่วหยุนเหลียนเข้าไป แม้วิลล่าจะดูเรียบง่ายจากด้านนอก แต่การตกแต่งภายในก็พิถีพิถันมาก แม้ในยุคนี้ก็ยังถือเป็นสิ่งที่ล้ำเลิศหลังจากฮั่วหยุนเหลียนเปิดไฟ เสิ่นม่านก็มองไปรอบ ๆ เหมือนที่นี่มีคนมาทำความสะอาดอยู่เสมอ ฮั่วหยุนเหลียนไม่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก
เสิ่นม่านไม่ได้ระลึกถึงอุบัติเหตุรถยนต์ในหลายปีก่อนมานานแล้ว อุบัติเหตุที่ทำให้เธอต้องสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่อายุยังน้อย ในตอนนั้นเธอยังเด็ก ต่อให้โตขึ้นมาแล้ว เธอก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดา แต่ตอนนี้ฮั่วหยุนเหลียนนั่งอยู่ตรงหน้าเธอและบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้อาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นแผนการที่ไตร่ตรองมาอย่างดี!"พ่อแม่ของเซียวตั๋วตายในอุบัติเหตุรถยนต์ซึ่งเป็นเพียงภาพลวงตา ในตอนนั้นป้าเซียวที่ตั้งครรภ์อยู่รอดชีวิต เพื่อไม่ให้คนเหล่านั้นค้นพบ และเพื่อให้ป้าเซียวคลอดลูกได้อย่างสบายใจ คุณปู่เซียวได้ส่งป้าเซียวไปต่างประเทศ ไม่นานนัก เซียวตั๋วก็เกิดขึ้น"ตามข่าวลือ แม่ของเซียวตั๋วถูกกล่าวหาว่าเป็นภรรยาลับที่เซียวเป่ยเจิงเลี้ยงดูอยู่นอกบ้าน ซึ่งโกรธแค้นตระกูลเซียวมาโดยตลอด และปลูกฝังความคิดที่ต้องการแก้แค้นตระกูลเซียวให้แก่เซียวตั๋ว ซึ่งแท้จริงแล้วไม่ใช่คนบ้าแต่อย่างใด ครั้งหนึ่งบนเรือสำราญ เซียวตั๋วก็เคยยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเพียงข่าวลือจากภายนอกแม่ของเซียวตั๋วไม่ใช่ภรรยาลับ แต่เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเซียวเป่ยเจิง เป็นคุณหญิงเซียวตัวจริง"คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่า ใ
“เครื่องกระตุ้นหัวใจ! เร็วเข้า! เพิ่มแรงดันไฟ!” “คุณหมอคะ ผู้ป่วยมีเลือดออกเยอะมากค่ะ ที่ห้องเก็บเลือด เลือดกรุ๊ปเอเพิ่งถูกเบิกไปใช้หมดเมื่อกี้นี่เองค่ะ”มือของพยาบาลฝึกหัดเต็มไปด้วยเลือด กระทั่งในขณะที่พูดก็ตัวสั่นไปหมดภายในห้องผ่าตัดคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลือดเธอไม่เคยเห็นเลือดเยอะขนาดนี้มาก่อน ในตอนนี้ มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของเธอใครเป็นคนเบิกเลือดกรุ๊ปเอออกไปจากห้องเก็บเลือดกันนะ?ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงมีสีหน้าที่ขาวซีด และริมฝีปากที่แห้ง ดวงตาของเธอเริ่มพร่ามัว “ป๋อซือเหยียน……”“อะไรนะคะ?”“ป๋อซือเหยียน……”ครั้งนี้พยาบาลฝึกหัดได้ยินแล้วว่า ชื่อของบุคคลที่ผู้หญิงคนนี้ซึ่งกำลังหายใจรวยรินอยู่บนเตียงกำลังเรียกหานั่นก็คือ ป๋อซือเหยียนป๋อซือเหยียน เป็นประธานบริษัทที่มีอำนาจและอิทธิพลที่สุดในเมืองไห่คุณหมอกระวนกระวาย เขากดเบอร์ผิดไปสามครั้งกว่าจะกดเบอร์ที่ถูกต้องได้ จากนั้นเขาก็รีบพูดกับคนที่อยู่ปลายสายว่า “ประธานป๋อ คุณผู้หญิงเลือดออกเยอะมาก แต่เลือดกรุ๊ปเอของเราเพิ่งจะถูกเบิกเอาไปใช้จนหมด ผมเลยอยากขอให้คุณมาหาคุณผู้หญิงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะสิ้นใจ”น้ำเ
ป๋อซือเหยียนมองไปตามสายตาของเลขาหลี่สีแดงนั้นช่างโดดเด่นมากท่ามกลางฝูงชนเสิ่นม่านที่ใส่ชุดเดรสยาวสีไวน์แดง ทุกการเคลื่อนไหวและรอยยิ้มของเธอนั้นสามารถกระชากใจของผู้คนได้ ช่างภาพของสื่อต่างๆต่างก็มุ่งความสนใจไปที่การถ่ายรูปของเสิ่นม่าน ชั่วพริบตานั้น เธอเหมือนกับซุปเปอร์สตาร์ที่กำลังเดินอยู่บนพรมแดงเสิ่นม่านงั้นเหรอ?ป๋อซือเหยียนตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะจำได้ว่าเป็นเสิ่นม่านในอดีต เสิ่นม่านชอบแต่งหน้าเบาๆ ใส่กระโปรงที่สง่างาม นี่เป็นครั้งแรกที่ป๋อซือเหยียนเห็นเสิ่นม่านแต่งตัวแบบนี้สีหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนไม่ค่อยดีนัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นเสิ่นม่านเมื่อเทียบกับความงามอันน่าเย้ายวนของเสิ่นม่านแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ดูจืดชืดไปเลยอย่างเห็นได้ชัด เหมือนกับนักศึกษาที่ไม่บรรลุนิติภาวะ “พี่เสิ่น.... สวยจังเลย”น้ำเสียงของซูเฉี่ยนเฉี่ยนมีความอิจฉาเล็กน้อยปนอยู่เมื่อเสิ่นม่านเห็นป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยน เธอก็เดินตรงมาที่พวกเขาสองคนซูเฉี่ยนเฉี่ยนคิดว่าเสิ่นม่านที่ไม่รู่เรื่องอะไรคงจะรู้สึกกระอักกระอ่วนที่เห็นเธอควงแขนป๋อซือเหยียน แต่เธอกลับคิดไม่ถึงว่าเสิ่นม่าน
เนื่องจากการต่อรองราคาในการประมูลนี้ ป๋อซือเหยียนจึงมุ่งความสนใจไปที่เสิ่นม่าน และไม่ได้สังเกตเห็นถึงการกระทำของซูเฉี่ยนเฉี่ยนเลยเมื่อการประมูลสิ้นสุดลง เสิ่นม่านกำลังเตรียมตัวที่จะกลับ แต่ก็ดันมาเจอกับป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยนพอดี“เสิ่นม่าน เธอไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็อย่ามาสร้างปัญหาเพิ่ม”ป๋อซือเหยียนพูดอย่างไม่ให้เกียรติเสิ่นม่านเลยแม้แต่น้อยซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่อยู่ข้างๆพูดขึ้นมาว่า “ใช่ค่ะ พี่เสิ่น พี่ทำแบบนี้ทำให้ประธานป๋อขาดทุนไปห้าหมื่นล้านเลยนะคะ”เสิ่นม่านหัวเราะเบาๆ "น้องซู เธอเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า ที่ดินนี้ฉันเป็นคนซื้อนะ เกี่ยวอะไรกับป๋อซือเหยียน?"ซูเฉี่ยนเฉี่ยนโพล่งออกมา "แต่นั่นคือห้าหมื่นล้านนะ....."“ก็แค่ห้าหมื่นล้านเอง สำหรับพวกเรามันก็แค่เงินที่เอาไว้สร้างกระท่อม ไม่ต้องพูดถึงคุณหนูเสิ่นเลย”ไม่ไกลออกไป มีเสียงของฟู่ฉือโจวก็ดังขึ้นมา "ใช่ไหม คุณหนูเสิ่น?"เสิ่นม่านเหลือบมองเซียวตั๋วที่อยู่ข้างๆฟู่ฉือโจวและพูดด้วยน้ำเสียงที่เรียบเฉย "มันก็แค่ห้าหมื่นล้านเอง ก็เหมือนซื้อของเล่นแหละ"ในชั่วพริบตา สีหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็เปลี่ยนไปทันทีห
ภายในห้องนี้เงียบไปชั่วขณะ หลังจากนั้นไม่นาน เซียวตั๋วก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ “คุณผู้หญิงป๋อ อย่ากล่าวหาคนดีๆสิครับ”“ใช่ พวกเราเป็นนักธุรกิจจริงๆ!”ฟู่ฉือโจวพูดกับเสิ่นม่านอย่างจริงจัง“จะใช่นักธุรกิจจริงหรือไม่ก็ตาม ฉันไม่สนใจ แต่ฉันคิดว่าป๋อซือเหยียนน่าจะสนใจพอสมควร”เสิ่นม่านพูดอย่างใจเย็น "ฉัน เป็นเพียงคุณหนูผู้ร่ำรวยที่ไม่รู้อะไร แต่ป๋อซือเหยียนไม่ใช่ ถ้าฉันบอกป๋อซือเหยียนในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป ฉันไม่รู้ว่าเขาจะสนใจหรือไม่”“คุณนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์นักนะ!”ฟู่ฉือโจวไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เสิ่นม่านมองเซียวตั๋วอย่างจริงจัง “ฉันไม่เบี้ยวหรอก ถ้าคุณให้ฉันยืมเงินสี่หมื่นล้าน ฉันจะคืนให้คุณพร้อมดอกเบี้ยหลังจากนี้สามปี”ฟู่ฉือโจวเบิกตากว้าง “ล้อเล่นอะไรอยู่ สี่หมื่นล้าน คุณรู้ไหมในสามปีข้างหน้าดอกเบี้ยจะเป็นเท่าไร? ถ้าคุณไม่สามารถคืนเงินได้ เราจะขาดทุนไปสี่หมื่นล้าน คุณคือภรรยาขิงป๋อซือเหยียน ถึงตอนนั้นใครจะกล้าทำอะไรคุณหละ?”“ฉันรู้ว่าดอกเบี้ยเท่าไหร่ ฉันสามารถเซ็นสัญญากับพวกคุณได้ ถ้าฉันไม่สามารถจ่ายคืนได้ ฉันจะยกบ้านและหุ้นของตระกูลเสิ่นให้กับพวกคุณ ฉันจะทำงานอ