แชร์

ชีวิตหลังความตายของเซินมาน
ชีวิตหลังความตายของเซินมาน
ผู้แต่ง: จี้เสี่ยวนวน

บทที่ 0001

“เครื่องกระตุ้นหัวใจ! เร็วเข้า! เพิ่มแรงดันไฟ!”

“คุณหมอคะ ผู้ป่วยมีเลือดออกเยอะมากค่ะ ที่ห้องเก็บเลือด เลือดกรุ๊ปเอเพิ่งถูกเบิกไปใช้หมดเมื่อกี้นี่เองค่ะ”

มือของพยาบาลฝึกหัดเต็มไปด้วยเลือด กระทั่งในขณะที่พูดก็ตัวสั่นไปหมด

ภายในห้องผ่าตัดคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลือด

เธอไม่เคยเห็นเลือดเยอะขนาดนี้มาก่อน

ในตอนนี้ มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมาในหัวของเธอ

ใครเป็นคนเบิกเลือดกรุ๊ปเอออกไปจากห้องเก็บเลือดกันนะ?

ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงมีสีหน้าที่ขาวซีด และริมฝีปากที่แห้ง ดวงตาของเธอเริ่มพร่ามัว “ป๋อซือเหยียน……”

“อะไรนะคะ?”

“ป๋อซือเหยียน……”

ครั้งนี้พยาบาลฝึกหัดได้ยินแล้วว่า ชื่อของบุคคลที่ผู้หญิงคนนี้ซึ่งกำลังหายใจรวยรินอยู่บนเตียงกำลังเรียกหานั่นก็คือ ป๋อซือเหยียน

ป๋อซือเหยียน เป็นประธานบริษัทที่มีอำนาจและอิทธิพลที่สุดในเมืองไห่

คุณหมอกระวนกระวาย เขากดเบอร์ผิดไปสามครั้งกว่าจะกดเบอร์ที่ถูกต้องได้ จากนั้นเขาก็รีบพูดกับคนที่อยู่ปลายสายว่า “ประธานป๋อ คุณผู้หญิงเลือดออกเยอะมาก แต่เลือดกรุ๊ปเอของเราเพิ่งจะถูกเบิกเอาไปใช้จนหมด ผมเลยอยากขอให้คุณมาหาคุณผู้หญิงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะสิ้นใจ”

น้ำเสียงของผู้ชายที่อยู่ปลายสายเต็มไปด้วยความโหดร้ายและเย็นชา “ยังไม่ตายเหรอ? รอให้เธอตายก่อนแล้วค่อยโทรหาผมนะ”

“ตู๊ด ตู๊ด”

เขาตัดสายไปอย่างไร้เยื่อใย

ทันใดนั้น ดวงตาของผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยก็ค่อยๆปิดลง

ป๋อซือเหยียน…คุณเกลียดฉันขนาดนี้เลยเหรอ ?

แม้แต่ในเวลาแบบนี้ คุณก็ยังไม่ยอมมาหาฉันเป็นครั้งสุดท้ายเหรอ?

มีเสียงปี้บๆดังมาจากเครื่องวัดคลื่นหัวใจ และเสียงสัญญาณชีพจรของผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงก็หายไปจนหมด

ในช่วงที่กำลังสับสน เสิ่นม่านก็รู้สึกว่าวิญญาณของเธอนั้นได้ออกจากร่างไปแล้ว

ร่างกายที่ผอมแห้งขาวซีดและไร้เรี่ยวแรงนอนอยู่บนเตียง เสิ่นม่านรู้สึกเหนื่อยมาก เนื่องจากเธอมีภาวะคลอดบุตรยาก เธอจึงเสียเลือดมากในขณะที่เธอคลอดลูก และได้เสียชีวิตลงในห้องผู้ป้วยของโรงพยาบาลเมื่ออายุได้เพียงยี่สิบเจ็ดปีเท่านั้น

ในชาติก่อนของเธอ เธอตกหลุมรักป๋อซือเหยียน และในฐานะลูกสาวคนเดียวของตระกูลเสิ่น เธอควรจะได้มีชีวิตที่มีความสุขที่สุด

แต่เพื่อที่จะแต่งงานกับป๋อซือเหยียน เธอถึงกับเอาทุกอย่างของเธอและตระกูลเสิ่นเข้าแลก

แต่สุดท้าย ชีวิตเธอกลับมีจุดจบที่น่าสังเวชเช่นนี้

เสิ่นม่านค่อยๆหลับตาลง

หากได้รับโอกาสอีกครั้ง เธอก็จะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมอีก

“คุณผู้หญิง คืนนี้คุณผู้ชายจะพาคุณไปเข้าร่วมงานประมูล คุณผู้หญิงอยากใส่ชุดไหนคะ?”

เสียงของแม่บ้านหลิวดังขึ้นมาที่ข้างหูเธอ

จากนั้น ความคิดของเสิ่นม่านก็ถูกดึงกลับมา

สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าเสิ่นม่านล้วนเป็นภาพที่คุ้นเคย นั่นคือเรือนหอของเธอกับป๋อซือเหยียน

เสิ่นม่านแต่งงานกับป๋อซือเหยียนมาได้หนึ่งเดือน แต่ป๋อซือเหยียนก็มาเจอเธอเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น

เธอจำได้ชัดเจนว่าครั้งนี้ ป๋อซือเหยียนต้องเข้าร่วมการประมูลที่ดิน และด้วยเหตุนี้เขาต้องพาคนในครอบครัวไปเข้าร่วมด้วย

แต่นี่ก็เป็นเรื่องราวเมื่อห้าปีที่แล้ว มันเป็นไปได้ยังไงกัน........

หรือว่า......เธอกลับมาเกิดใหม่?

“คุณผู้หญิง คุณผู้ชายไม่เคยกลับมาค้างคืนที่นี่เลย ครั้งนี้คุณผู้หญิงต้องคว้าโอกาสไว้นะคะ”

แม่บ้านหลิวเลือกชุดเดรสสีขาวออกมา แล้วพูดด้วยความลำบากใจ “ถ้างั้น ชุดนี้นะคะ”

เสิ่นม่านหลับตาลง แล้วหัวเราะเยาะกับตัวเองภายในใจ

ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าป๋อซือเหยียนชอบซูเฉี่ยนเฉี่ยน

ในอดีต เพื่อให้ป๋อซือเหยียนหันมาชอบเธอ เสิ่นม่านมักจะเลียนแบบการแต่งตัวของซูเฉี่ยนเฉี่ยน

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนชอบใส่ชุดเดรสสีขาว เสิ่นม่านจึงใส่ชุดเดรสสีขาวตาม เพื่อหวังให้ป๋อซือเหยียนรู้สึกชอบเธอขึ้นมาบ้าง

แต่งานประมูลครั้งนี้ ซือเหยียนไม่ได้บอกเสิ่นม่านว่าจะเปลี่ยนคู่ควงไปงานประมูล และอยู่ๆก็พาเฉี่ยนเฉี่ยนมาร่วมงานประมูล ทำให้เสิ่นม่านที่สวมชุดเดรสสีขาวเหมือนกันกับเฉี่ยนเฉี่ยนดูเป็นเหมือนตัวตลก

พอมาคิดๆดูตอนนี้ มันช่างน่าขันเสียจริง

“ไม่หละ ฉันจะใส่ชุดนี้”

เสิ่นม่านหยิบชุดเดรสสีแดงที่มีสีสันออกมา

เดิมที เสิ่นม่านไม่ชอบใส่เสื้อผ้าที่มีความหรูหราสง่างาม ท้ายที่สุดแล้ว ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็เป็นเพียงนักศึกษาหญิงที่ยากจน ในอดีต เสิ่นม่านก็ไม่ต่างอะไรจากคนที่โดนล้างสมอง แค่เพื่อผู้ชายคนเดียวเธอถึงกับใส่ชุดตามข้างถนนที่ราคาไม่กี่ร้อยบาท

ไม่เพียงแต่จะลดคุณค่าในตัวเองเท่านั้น แต่ยังทำให้คนอื่นดูถูกเธออีกด้วย

แม่บ้านหลิวพูดอย่างลำบากใจ “แต่ว่า.....คุณผู้ชายน่าจะชอบชุดเดรสสีขาวนี้มากกว่านะคะ......”

เสิ่นม่านทำเหมือนว่าเธอไม่ได้ยินคำแนะนำอันไร้สาระของแม่บ้านหลิว

“เอาชุดนี้แหละค่ะ” เสิ่นม่านพูดอย่างใจเย็นว่า “เอาชุดเดรสสีขาวพวกนั้นไปทิ้งให้หมด ฉันไม่ชอบ”

“แต่ว่า.....”

เมื่อได้ยินคำสั่งของเสิ่นม่าน แม่บ้านหลิวก็ได้แต่ถอนหายใจ และปฏิบัติตามในที่สุด

เสิ่นม่านมองดูตัวเองในกระจก เวลานี้ เธอดูมีรูปร่างที่ดี สดใสและมีเสน่ห์ แต่อีกไม่กี่ปี เธอก็จะถูกป๋อซือเหยียนทรมานจนทำให้ร่างกายผอมแห้งทรุดโทรม

ก่อนที่เรื่องนี้จะเกิดขึ้น เสิ่นม่านต้องจัดการเรื่องพวกนี้ให้จบด้วยมือของเธอเอง

ในตอนพลบค่ำ เสิ่นม่านสวมชุดเดรสยาวสีไวน์แดงปักเลื่อมหางปลา เผยให้เห็นสัดส่วนรูปร่างที่โค้งมนของเธอ ซึ่งเข้ากันกับการแต่งหน้าและลอนผมสไตล์ยุโรปที่ดูประณีตของเธอ ไฝที่ใต้ตาทำให้เธอดูเซ็กซี่ขึ้นไปอีก เมื่อมองจากระยะไกลก็ดูราวกับภาพวาดที่ทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะดูหมิ่น

ไม่ไกลออกไป มีชายคนหนึ่งใส่เสื้อเชิ้ตสีขาว รองเท้าบูทหนังยาวและกำลังคีบบุหรี่อยู่ในมือ เซียวตั๋วพูดออกมาด้วยเสียงที่แข็งทื่อ “เธอเป็นใคร?”

“นายไม่รู้จักเธอเหรอ? เธอเป็นลูกสาวของตระกลูเสิ่น เสิ่นม่าน และเป็นภรรยาคนใหม่ล่าสุดของป๋อซือเหยียน!” ฟู่ฉือโจวที่อยู่ข้างๆเซียวตั๋วพูดอย่างตื่นเต้น “ผมเพิ่งเห็นไอ้สารเลวป๋อซือเหยียนคนนั้นควงผู้หญิงอีกคนเดินเข้าไปข้างใน อีกสักพักพวกเราอาจจะได้เห็นฉากเมียหลวงกับเมียน้อยตบกัน! นายน้อย ผมตื่นเต้นจนรอไม่ไหวแล้ว!”

ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆจากคนที่อยู่ข้างๆ

ฟู่ฉือโจวพูดขึ้นอีกครั้งว่า “แต่รสนิยมของโบซือหยวนนี้ยากที่จะอธิบายจริงๆ ไม่เลือกผู้หญิงสวยๆอย่างเสิ่นม่าน แต่กลับเลือกผู้หญิงที่ผอมแห้งมีแต่กระดูกแบบนั้น นายคิดว่างั้นไหม เซียวตั๋ว?”

เมื่อฟู่ฉือโจวหันไปมอง เขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเซียวตั๋ว

“เฮ้! เซียวตั๋ว! ไอเจ้านี่นิ!”

ฟู่ฉือโจวเดินด่าสาปแช่งและตามเซียวตั๋วไปเข้าไปในงานประมูล

ในงานประมูล ซูเฉี่ยนเฉี่ยนสวมชุดเดรสสีขาวและเดินควงแขนป๋อซือเหยียน จากนั้นก็พูดอย่างเขินอายว่า “ฉัน ฉันไม่เคยเข้าร่วมงานแบบนี้มาก่อน หรือว่า ฉันควรกลับดี”

ป๋อซือเหยียนพูดอย่างสุขุม “เธอต้องทำความคุ้นเคยกับมัน ต่อไปเธอต้องร่วมงานแบบนี้บ่อยขึ้น”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้า

ในขณะที่ป๋อซือเหยียนกำลังจะพาซูเฉี่ยนเฉี่ยนเดินเข้าไปในงาน เลขาหลี่ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า “ประธานป๋อ ไม่รอคุณผู้หญิงก่อนเหรอครับ?”

ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้ว “ผมให้คุณแจ้งเสิ่นม่านไปแล้วนี่ ว่าวันนี้ไม่ต้องมา”

เลขาหลี่มองไปที่ซูเฉี่ยนเฉี่ยน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนจึงพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็วว่า “อย่าโทษเลขาหลี่เลยค่ะ เป็นความผิดฉันเองที่ไม่ให้เลขาหลี่แจ้งพี่เสิ่นม่าน.... ด้วยสถานะของฉันตอนนี้ ถ้าอยู่ข้างๆพี่ ฉันกลัวว่าคนอื่นจะพูดนินทา ดังนั้น....ฉันเลยคิดว่าให้พี่เสิ่นม่านเข้างานมาเดินกับพี่จะดีกว่า.....”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก้มหัวลง เธอเหมือนกระต่ายสีขาวตัวน้อยที่กำลังตื่นตูมและหวาดกลัว

ป๋อซือเหยียนขมวดคิ้ว

ในเวลานี้ ป๋อซือเหยียนไม่ต้องการให้เสิ่นม่านมาปรากฏตัวที่นี่

“ประธานป๋อ......”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็กัดริมฝีปากและเรียกเขาอย่างระมัดระวัง

“โอเค ไม่โทษเธอหรอก”

ป๋อซือเหยียนลูบหัวของซูเฉี่ยนเฉี่ยน แล้วพูดกับเลขาหลี่ว่า “ไปรอเธอที่ข้างนอก ถ้าเจอเสิ่นมานก็ให้คนรีบส่งเธอกลับบ้านไป”

จู่ๆก็มีเสียงดังขึ้นท่ามกลางฝูงชน

เลขาหลี่มองไปตามเสียงและอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง “เกรงว่าจะไม่ทันแล้วครับ”

ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
วีรภัทร ร'ร
ผมว่าผมง่วง
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status