แชร์

บทที่ 0004

ภายในห้องนี้เงียบไปชั่วขณะ หลังจากนั้นไม่นาน เซียวตั๋วก็พูดด้วยรอยยิ้มที่ดูฝืนๆ “คุณผู้หญิงป๋อ อย่ากล่าวหาคนดีๆสิครับ”

“ใช่ พวกเราเป็นนักธุรกิจจริงๆ!”

ฟู่ฉือโจวพูดกับเสิ่นม่านอย่างจริงจัง

“จะใช่นักธุรกิจจริงหรือไม่ก็ตาม ฉันไม่สนใจ แต่ฉันคิดว่าป๋อซือเหยียนน่าจะสนใจพอสมควร”

เสิ่นม่านพูดอย่างใจเย็น "ฉัน เป็นเพียงคุณหนูผู้ร่ำรวยที่ไม่รู้อะไร แต่ป๋อซือเหยียนไม่ใช่ ถ้าฉันบอกป๋อซือเหยียนในสิ่งที่ฉันเพิ่งพูดไป ฉันไม่รู้ว่าเขาจะสนใจหรือไม่”

“คุณนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่เจ้าเล่ห์นักนะ!”

ฟู่ฉือโจวไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้

เสิ่นม่านมองเซียวตั๋วอย่างจริงจัง “ฉันไม่เบี้ยวหรอก ถ้าคุณให้ฉันยืมเงินสี่หมื่นล้าน ฉันจะคืนให้คุณพร้อมดอกเบี้ยหลังจากนี้สามปี”

ฟู่ฉือโจวเบิกตากว้าง “ล้อเล่นอะไรอยู่ สี่หมื่นล้าน คุณรู้ไหมในสามปีข้างหน้าดอกเบี้ยจะเป็นเท่าไร? ถ้าคุณไม่สามารถคืนเงินได้ เราจะขาดทุนไปสี่หมื่นล้าน คุณคือภรรยาขิงป๋อซือเหยียน ถึงตอนนั้นใครจะกล้าทำอะไรคุณหละ?”

“ฉันรู้ว่าดอกเบี้ยเท่าไหร่ ฉันสามารถเซ็นสัญญากับพวกคุณได้ ถ้าฉันไม่สามารถจ่ายคืนได้ ฉันจะยกบ้านและหุ้นของตระกูลเสิ่นให้กับพวกคุณ ฉันจะทำงานอย่างหนักให้พวกคุณตลอดชีวิตและทำทุกอย่างตามที่พวกคุณต้องการ”

เสิ่นม่านลังเลอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า "นอกจากนี้ การแต่งงานของฉันกับป๋อซือเหยียน น่าจะอยู่ได้ไม่เกินสามปี ถึงแม้ว่าจะเกินสามปีไปและฉันยังเป็นภรรยาของเขาอยู่ เขาก็จะไม่ปกป้องฉันอยู่ดี"

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซียวตั๋วก็เงยหน้าจ้องมองไปที่เสิ่นม่านอยู่พักหนึ่ง

หูของฟู่ฉือโจวก็ผึ่งขึ้นตามทันที

ดูเหมือนเขาจะได้ยินกลิ่นคำนินทาเมื่อกี้นี้

แต่ในไม่ช้า ฟู่ฉือโจวก็จัดการกับความคิดของเขา “ถึงเป็นอย่างนั้นก็ไม่ได้! ผมไม่เห็นด้วยเด็ดขาด!”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ ก็มีเสียงทุ้มและสงบดังขึ้นข้างๆ “ตกลง ผมจะให้คุณยืม”

“อะไรนะ?!” ฟู่ฉือโจวลุกขึ้นจากเก้าอี้ “นายก็บ้าไปแล้วเหรอ!”

“เงินหนะ ผมจะให้แผนกบัญชีโอนให้คุณ สำหรับสัญญา พวกเราค่อยมาจัดการหลังจากเสร็จเรื่อง”

“เซียวตั๋ว! พ่อมึงสิ! ”

ฟู่ฉือโจวกระทืบเท้า

“ขอบคุณมากค่ะคุณชายเซียว”

เสิ่นม่านยืนขึ้น “ถ้าอย่างนั้นฉันจะรอข่าวจากคุณชายเซียวนะคะ ขอให้ความร่วมมือผ่านไปด้วยดี”

เสิ่นม่านยิ้มแล้วหันหลังเดินออกจากห้องทำงานของประธานไป

เมื่อฟู่ฉือโจวเห็นว่าเธอจากไปแล้ว เขาก็กัดฟันแล้วพูด “เธอดูจากไปอย่างมีความสุขเชียว สี่หมื่นล้านนะ! นายโดนล้างสมองไปแล้วเหรอ? เธอเป็นภรรยาของป๋อซือเหยียน ทำไมนายถึงยอมให้เธอยืมเงิน?”

เซียวตั๋วยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย “เธอหน้าตาสวยดี”

“เชี่ยไรเนี่ย! ทำไมผมต้องเป็นคนออกเงินทุกครั้งเวลาที่นายจะเต๊าะสาว”

เซียวตั๋วยืนขึ้นแล้วหยิบบัตรธนาคารออกมาตบที่หน้าอกของฟู่ฉือโจว “ผู้หญิงที่ผมถูกใจ ของขวัญหมั้นหนะเดี๋ยวผมออกเอง”

“อะไรนะ? ของขวัญหมั้นเหรอ? เธอเป็นภรรยาของป๋อซือเหยียน นายจะให้ของขวัญหมั้นแบบไหน?”

เซียวตั๋วไม่สนใจฟู่ฉือโจว และเดินออกจากห้องทำงานของประธานไป

“ไร้สาระ เป็นบ้ากันไปหมดแล้ว!”

ที่นี่ ทันทีที่เสิ่นม่านก้าวเข้าบ้านตระกูลป๋อ เธอก็เห็นป๋อซือเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องนั่งเล่น

เสิ่นม่านขมวดคิ้ว

ในชาติก่อนนี้ จำนวนครั้งที่ป๋อซือเหยียนก้าวเข้ามาในบ้านนั้นแทบจะนับครั้งได้

ป๋อซือเหยียนคิดถึงบ้านขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

เสิ่นม่านแค่คิดว่าเขากลับมาบ้านเพื่อนั่งเฉยๆ ดังนั้น เธอจึงหันหลังกลับเพื่อจะขึ้นไปชั้นบน

ทันใดนั้น ป๋อซือเหยียนก็พูดอย่างเย็นชา “เสิ่นม่าน!”

ฝีเท้าของเสิ่นม่านหยุดลง

“มีอะไร?”

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเย็นชาของเสิ่นม่านในช่วงสองวันที่ผ่านมา ป๋อซือเหยียนก็รู้สึกอึดอัด เขาจึงพูดอย่างเหลืออด “คนจากงานประมูลมาที่บ้านเพื่อจะมาเอาเงิน”

“รู้แล้ว”

ป๋อซือเหยียนหายใจเข้าลึกๆ “ถ้าเธอมีเงินไม่พอ บอกผมได้นะ”

เสิ่นม่านพูดอย่างเย็นชา “ไม่จำเป็น ฉันจัดการได้แล้ว”

“เธอไปเอาเงินมาจากไหน?”

ห้าหมื่นล้านไม่ใช่จำนวนเล็กน้อย ป๋อซือเหยียนรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับทรัพย์สินของตระกูลเสิ่นที่อยู่ในมือของเสิ่นม่าน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะหาเงินมากขนาดนี้มาได้ในเวลาเพียงสั้นๆ

“นี่เป็นเรื่องของฉันเอง นายไม่จำเป็นต้องกังวล”

“เสิ่นม่าน เธออย่าลืมว่าผมคือสามีของเธอ”

เสิ่นม่านหัวเราะกับตัวเอง

สามี?

ป๋อซือเหยียนรู้สึกละอายใจมาโดยตลอด ตั้งแต่เมื่อไรกันที่เขาคิดว่าตัวเองเป็นสามีของเธอ?

“นายร้อนรนมากขนาดนี้ เพียงเพราะกลัวว่าฉันจะสูญเงินห้าหมื่นล้านนี้ไปและนำหายนะมาสู่ตระกูลป๋อสินะ”

ป๋อซือเหยียนเงียบไป

เมื่อเห็นปฏิกิริยาของป๋อซือเหยียน เสิ่นม่านก็รู้ว่าตัวเองเดาถูก

เสิ่นม่านพูดอย่างใจเย็น “ไม่ต้องกังวลหรอก ฉันจะไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตระกูลป๋อ ฉันรู้ดีว่าเราแต่งงานกันเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ นายกับฉันถ้าจะเจริญก็ต้องเจริญไปด้วยกัน ถ้าจะพินาศก็ต้องพินาศไปด้วยกัน ตอนนี้คุณไม่จำเป็นต้องกลับบ้านสามครั้งต่อวันแล้วหละ”

ป๋อซือเหยียนพูดไม่ออก

เขาเคยคิดเช่นนั้นมาก่อน ดังนั้น หลังจากแต่งงานแล้ว เขาจึงเย็นชาต่อเสิ่นม่านมากและไม่ได้แตะต้องตัวเธอเลยด้วยซ้ำ

แต่เมื่อครู่นี้ที่เขาได้ยินคำพูดเหล่านี้จากปากของเสิ่นม่าน เขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าเขาได้ทำเกินไป

ในขณะที่ป๋อซือเหยียนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็มีข้อความแจ้งโอนเงินขึ้นมาในโทรศัพท์ของเสิ่นม่าน

เสิ่นม่านไม่คิดว่าเซียวตั๋วจะโอนเร็วขนาดนี้

เวลาพึ่งจะผ่านไปหนึ่งชั่วโมง สี่หมื่นล้านก็เข้าบัญชีแล้ว

เรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าของเสิ่นม่านก็ปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาทันที

ป๋อซือเหยียนหยวนเม้มริมฝีปากของเขา ทันใดนั้นเขาก็นึกได้ว่าเสิ่นม่านเคยมีรอยยิ้มเช่นนี้ให้เขาในอดีต แต่เขาไม่เคยสนใจ

“คืนนี้มีงานปาร์ตี้ เธอไปงานกับผมด้วย”

"ฉันเหรอ?"

เสิ่นม่านที่กำลังจะขึ้นไปชั้นบนก็ขมวดคิ้ว

ป๋อซือเหยียนถามกลับว่า "ไม่เต็มใจเหรอ?"

“ถ้าจะให้ร่วมงานปาร์ตี้ ทำไมนายไม่พาซูเฉี่ยนเฉี่ยนไปหละ?”

เสิ่นม่านรู้สึกสับสน

เสิ่นม่านจำได้ว่าในชาติก่อน เมื่อใดก็ตามที่มีงานเลี้ยงอาหารค่ำ ป๋อซือเหยียนจะพาซูเฉี่ยนเฉี่ยนไปงานด้วยตลอด

ถ้าเธอจำไม่ผิด คราวนี้เป็นงานเลี้ยงอาหารค่ำนานาชาติ ในอดีตที่แล้วเธอร้องโวยวายที่จะไป แต่ป๋อซือเหยียนก็พาซูเฉี่ยนเฉี่ยนไป นี่เป็นการปูทางทางอ้อมให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนหลังจากกลับจากการไปเรียนต่างประเทศ

โอกาสที่สำคัญแบบนี้ ทำไมป๋อซือเหยียนจึงคิดที่จะพาเธอไปกับเขา?

“เธอคือคุณผู้หญิงป๋อ ดังนั้นงานแบบนี้จึงต้องพาเธอไปด้วย”

เสิ่นม่านไม่เชื่อคำพูดของป๋อซือเหยียน เธอคิดว่าเป็นซูเฉี่ยนเฉี่ยนมีธุระกะทันหัน ป๋อซือเหยียนก็เลยคิดถึงเธอ

ก็ดี เธอควรจะไปร่วมงานแบบนี้บ่อยๆ อย่างไรเสีย หากเธอต้องการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง เธอก็จำเป็นต้องสร้างคอนเนคชั่นกับผู้คนให้มากขึ้น

“อย่างนั้นก็ได้ ฉันขอไปเตรียมตัวก่อนละกัน”

เมื่อป๋อซือเหยียนเห็นว่าเสิ่นม่านตอบตกลงเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

อย่างน้อย เสิ่นม่านก็เต็มใจทำหน้าที่ในนามคุณผู้หญิงป๋อ

บางทีสำหรับเขาแล้ว อาจจะยังไม่หมดหวังจนไร้หนทาง

ในเวลาเดียวกัน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอยู่ในหอพักและกำลังแกะชุดที่ป๋อซือเหยียนให้เลขาส่งไปให้

รูมเมทต่างมองซูเฉี่ยนเฉี่ยนด้วยสายตาที่อิจฉา

“เฉี่ยนเฉี่ยน แฟนของเธอใจดีกับเธอมาก แล้วยังส่งชุดที่สวยงามแบบนี้ให้กับเธออีก”

ใบหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนแดงขึ้นมาให้เห็นทันที

“เฉี่ยนเฉี่ยน เธอจะพาเราไปเจอแฟนของเธอได้เมื่อไหร่?”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว แฟนเธอรวยขนาดนี้ แล้วยังพาเธอไปงานเลี้ยงอาหารค่ำต่างๆตลอด พวกเราอยากเจอจังเลย!”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนส่ายหัวแล้วพูดว่า “บริษัทของเขายุ่งมาก และไม่มีเวลาปลีกตัวออกมา รอมีโอกาสเดี๋ยวฉันจะแนะนำให้พวกเธอรู้จักกับเขานะ”

ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ดังขึ้น

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเห็นว่าเป็นสายจากเลขาของป๋อซือเหยียน เธอจึงรีบรับสายอย่างมีความสุข

“เลขาหลี่ ประธานป๋อให้คุณมารับฉันเหรอคะ? ฉันจะลงไปเดี๋ยวนี้”

“คุณหนูซู ประธานป๋อบอกว่าวันนี้คุณไม่ต้องไปแล้วครับ”

ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
วีรภัทร ร'ร
หลายอันนนน
goodnovel comment avatar
สุกัญญา แสงเพ็ง
พ่อผัวมาพูดีด้วยคำเดียวก็ใจอ่อนสมควรตายคาเตียงแล้วล่ะ
goodnovel comment avatar
Ggege
อยู่หอไปนั่นแหละอีหนู
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status