แชร์

บทที่ 0010

ฟู่ฉือโจวขับรถไปยังอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป

“ให้ตายเถอะ ไอ้ซุนไห่นี่มันคิดได้ไง ส่งคนมาในสถานที่น่ากลัวแบบนี้?”

ฟู่ฉือโจวมองไปรอบๆ ที่นี่มืดทึบ ไม่ได้ยินเสียงอย่างอื่นนอกจากเสียงพูดของเขา

ซุนไห่ถูกเซียวตั๋วลากลงจากรถ หมุนตลบกึ่งกลิ้งสองสามรอบก่อนจะลุกขึ้นได้

ฟู่ฉือโจวเดินไปถีบทีหนึ่ง “บอกมา! เธออยู่ที่ไหน?”

“เธอ เจ้าพวกนั้นเป็นคนซ่อนเธอไว้ เดิมทีพวกเรากะจะแค่สั่งสอนนัง....สั่งสอนคุณหนูเสิ่น คิดว่า คิดว่าหลังจากได้เงินแล้ว พวกเราก็จะระเบิดตึกนี้ทิ้ง ไม่ใช่แค่ฆ่าป๋อซือเหยียนได้ แถมยังได้เงินก้อนใหญ่อีก และยกให้เป็นผลงานคุณชายเซียว แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าคุณหนูเสิ่นกับคุณชายเซียวจะเป็นคนรู้จัก...”

“ระเบิดเรอะ? แกบอกว่าจะระเบิดที่นี่เรอะ? “ ดวงตาฟู่ฉือโจวเบิกกว้าง “ระเบิดเวลาเรอะ?”

ซุนไห่พยักหน้าอย่างหวาดกลัว ทั้งร่างกายสั่นอย่างรุนแรงราวกับตะแกรง

ดวงตาทั้งสองของเซียวตั๋วแสดงออกถึงความเยือกเย็น เมื่อซุนไห่เห็นก็รู้สึกหวาดกลัวจนต้องกลืนน้ำลาย

“ฟู่ฉือโจว มัดมันเอาไว้ หากเกิดการระเบิดขึ้น มันจะเป็นคนแรกที่ต้องตาย”

ซุนไห่รีบคุกเข่าร้องขอ แต่สุดท้ายก็ถูกฟู่ฉือโจวจับมัด

ตึกร้างนี้มีความซับซ้อน ตอนนี้เขามั่นใจว่าเสิ่นม่านไม่เป็นอะไร สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือการถอดระเบิดที่อยู่รอบๆนี้ออก

ณ ตอนนั้นเอง ก็มีรถเบนลี่สีดำคันหนึ่งขับเข้ามา

เซียวตั๋วมองแวบแรกก็รู้ทันที่ว่าเจ้าของรถคือป๋อซือเหยียน

“ประธานป๋อ ที่นี่ที่ไหนคะ...ฉันกลัว.....”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนกลัวจนรีบคว้าชายเสื้อของป๋อซือเหยียน

ป๋อซือเหยียนตบเบาเบาบนหลังซูเฉี่ยนเฉี่ยน “เธออยู่รอในรอนะ ไม่ต้องลงมา”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนพยักหน้า

ฟู่ฉือโจวเห็นป๋อซือเหยียนลงมาจากรถ ก็พูดด้วยความเยาะเย้ยอย่างเย็นชาว่า “เมียถูกคนจับตัวไปแล้ว คุณยังมีกะจิตจะใจมาอี๋อ๋อกับคนรักอยู่อีกเหรอครับ?”

“ใครคือคนที่จับตัวเสิ่นม่านไปกันแน่?” ป๋อซือเหยียนกวาดตามองไปที่เซียวตั๋ว “ถ้าผมจำไม่ผิด ซุนไห่คือลูกน้องของคุณสินะ”

เซียวตั๋วพูดด้วยความเย็นชา “มันคิดเองทำเองโดยพละการ”

ฟู่ฉือโจวรีบร้อนเหมือนมดที่อยู่บนหม้อร้อนๆ “คุณชายทั้งสองครับ ทำไมถึงยังมายืนคุยกันอีกครับ? ไม่รีบถอดระเบิดออกแล้วหรือไงครับ?”

“ระเบิดอะไร?”

ป๋อซือเหยียนเกิดความกังวนขึ้นมาในทันที

“ตึกนี้ถูกติดตั้งระเบิดไว้ ฉันกับฟู่ฉือโจวไปหาระเบิด ส่วนคุณไปตามหาเสิ่นม่าน เจอตัวเสิ่นม่านแล้วให้รีบออกจากที่นี่โดยเร็ว”

ซุนไห่ที่ถูกมัดอยู่ได้ยินเซียวตั๋วพูดเช่นนั้น ก็พูดทั้งๆที่ตัวสั่นว่า “ไม่ ไม่มีประโยชน์หรอก ผมสั่งพวกนั้นว่าให้ทำลายศพและอย่าได้ทิ้งร่องรอยกับหลักฐานไว้เด็ดขาด ทุกตึกจะมีการติดตั้งตึกละสามลูก และหลังจากสิบห้านาทีก็จะเกิดการระเบิด....”

“แกว่าไงนะ?! เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมถึงเพิ่งจะมาบอกวะ!”

ฟู่ฉือโจวคว้าคอเสื้อซุนไห่ อยากจะฆ่าไอ้เลวนี่ให้ตายซะเดี๋ยวนี้เลยจริงๆ

ซุนไห่ที่โดนอัดไปแล้วสองรอบไม่กล้าเงยหน้าขึ้นอีกเลย

“กู้ระเบิดไม่ทันแล้ว รีบไปตามหาเสิ่นม่านเร็ว!”

เซียวตั๋วพูดจบก็พุ่งตัวเข้าไปในตึกร้างทันที ฟูฉือโจวก็รีบตามไปติดๆ

ป๋อซือเหยียนหันไปสั่งคนขับรถว่า “พาเฉี่ยนเฉี่ยนออกไป แล้วรอคำสั่งจากผม!”

“ครับ ท่านประธาน!”

คนขับรถเอารถไปจอดไว้นอกตึกร้าง

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนอดไม่ไหวที่จะถามคนขับรถ “ตอนนี้พี่เสิ่นตกอยู่ในอันตรายมากเลยเหรอคะ?”

“ใช่ครับ คุณหนูซู คุณอย่าเดินไปเพ่นพ่านเด็ดขาดนะครับ ที่นี่เต็มไปด้วยระเบิด”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนฟังแล้วก็พยักหน้ารับ

เธอจ้องมองดูตึกร้าง จู่ๆในใจก็มีความคิดอันชั่วร้ายผุดขึ้นมา

ถ้าเสิ่นม่านตายเสียที่นี่ก็ดีสิ!

“เสิ่นม่าน! เสิ่นม่าน! ถ้าคุณได้ยินก็ช่วยตอบกลับหน่อย!”

ด้านในตึกร้าง เสิ่นม่านลืมตาขึ้นมาด้วยความสะลึมสะลือ ได้ยินเสียงที่เหมือนจะเป็นเสียงของป๋อซือเหยียน

เธอส่ายหัว

ป๋อซือเหยียนจะมาได้อย่างไร?

ในตอนนี้เขาคงกำลังพลอดรักอยู่กับซูเฉี่ยนเฉี่ยนแหละ

“เสิ่นม่าน!”

หลังจากที่เสิ่นม่านที่กำลังมึนงงอยู่ได้ยินเสียงเรียกของเซียวตั๋ว เธอก็รีบลืมตาขึ้นมาทันที

เป็นเซียวตั๋วเองหรอกเหรอ?

พอลองฟังดูดีๆ รอบข้างยังมีเสียงของฟู่ฉือโจวแล้วก็เสียงของป๋อซือเหยียนด้วย

หรือว่า ป๋อซือเหยียนจะมาจริงๆ?

เสิ่นม่านมองไปรอบๆอย่างละเอียด ก็พบว่าตัวเองถูกขังไว้ในห้องมืดทึบห้องหนึ่ง มีเพียงแสงจันทร์อ่อนๆ เท่านั้นที่ทะลุผ่านเข้ามาจากภายนอก

มองจากตรงที่เธออยู่ สามารถมองเห็นชัดทุกสิ่งที่อยู่รอบนอก

ที่นี่คือตึกร้าง!

“อื้อ!อื้อ!”

เสิ่นม่านอยากจะร้องเรียก แต่ปากเธอถูกผ้ามัดปิดไว้

ให้ตายสิ!

ใครกันแน่ที่จับตัวเธอมา?

เสิ่นม่านดิ้นจนสุดแรงเพื่อจะให้เชือกหลุด แต่เชือกไนลอนไม่ใช่ธรรมดาๆ ไม่มีทางที่จะหลุดได้เลย

ไม่ได้ เสิ่นม่าน เธอต้องใจเย็นๆไว้

เสิ่นม่านสูดลมหายใจเข้า แล้วค่อยๆสังเกตรอบๆด้าน ตั้งแต่เมื่อครู่นี้แล้ว เหมือนเธอจะได้ยินเสียงอะไรดังอยู่

“ติ๊ก ติ๊ก”

ตอนนั้นเอง ในหัวของเสิ่นม่านก็มีเสียงเตือนแวบขึ้นมา

มันคือระเบิด!

เสิ่นม่านรีบล้มตัวนอนลง แล้วคลานไปทางด้านนอกห้อง

จนเธอคลานออกมาจากโล่งๆห้องนี้ได้ ด้านนอกก็คือทางเดินของตึกร้าง

ดูแล้ว จากตรงนี้ถึงด้านล่างน่าจะห่างกันเป็นหลายสิบชั้นอยู่

เสิ่นม่านใช้หัวโขกเสาข้างๆโดยหวังว่าพวกป๋อซือเหยียนจะได้ยินเสียง

ไม่นาน เสิ่นม่านก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดัง “ตึกตึก”

เสียงนี้ทำให้เสิ่นม่านอึ้งไปครู่หนึ่ง

เพราะมันไม่ใช่เสียงรองเท้าหนังของผู้ชาย แต่เป็นเสียงร้องเท้าส้นสูงของผู้หญิง

เสิ่นม่านเงยหน้าขึ้นมอง พบว่าเป็นซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่กำลังเดินมาทางเธอ

สีหน้าของซูเฉี่ยนเฉี่ยนดูมืดมน เธอลงจากรถแล้วเดินเข้ามาในตึกร้างเมื่อครู่นี้เพราะเธอเหลือบไปเห็นเสิ่นม่านที่อยู่บนตึก

ขอแค่เสิ่นม่านตาย ตำแหน่งคุณนายป๋อก็จะว่าง

ขอแค่เสิ่นม่านตาย ระหว่างเธอกับป๋อซือเหยียนก็จะไม่มีตัวขัดขวางอีกต่อไป

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเดินตรงเข้าไปหาเสิ่นม่าน ทำท่าจะผลักเสิ่นม่านให้ตกลงไปชั้นล่าง

เสิ่นม่านตระหนักได้ถึงความผิดปกติ แต่เธอก็บอกไม่ได้ว่าตรงไหนที่ไม่ปกติ

ไม่ไกลจากตรงนี้ ป๋อซือเหยียนก็ตามขึ้นมาเจอ “เสิ่นม่าน!”

เมื่อได้ยินเสียงป๋อซือเหยียน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็รีบย่อตัวไปช่วยแกะผ้าที่ปิดปากของเสิ่นม่านออก “พี่เสิ่น พี่ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ? เดี๋ยวฉันแกะมัดให้นะคะ”

เสิ่นม่านจ้องมองใบหน้าที่ดูเป็นกังวลของซูเฉี่ยนเฉี่ยน เหลือเพียงความสงสัยไว้ในใจ

หวังว่าความรู้สึกเมื่อครู่นี้จะเป็นสิ่งที่เธอคิดไปเอง

“เธอขึ้นมาทำไม?”

ป๋อซือเหยียนเห็นซูเฉี่ยนเฉี่ยนขึ้นมาด้วยก็ขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ว่าให้เธอรออยู่ที่รถหรอกเหรอ?”

“ก็ฉันเป็นห่วงพี่เสิ่นนิคะ ก็เลยขึ้นมาช่วยตามหาด้วยคน”

ซูเฉี่ยนเฉี่ยนทำหน้าเศร้า

เสิ่นม่านรีบพูด “ที่นี่มีระเบิด เซียวตั๋วกับฟู่ฉือโจวหละ? รีบให้พวกเขาหนีไป!”

“ไป”

ป๋อซือเหยียนอุ้มเสิ่นม่านขึ้นมา แล้วตะโกนบอกเซียวตั๋วกับฟู่ฉือโจวที่กำลังตามหาเสิ่นม่านอยู่รอบๆ “เจอตัวเสิ่นม่านแล้ว! รีบไป!”

ทางฝั่งเซียวตั๋วกับฟู่ฉือโจว เมื่อได้ยินเสียงป๋อซือเหยียน ทั้งสองก็มองหน้ากัน แล้วรีบวิ่งลงจากตึกทันที

ฟู่ฉือโจวถาม “จะทำยังไงกับซุนไห่?”

เซียวตั๋วตอบอย่างเย็นชาว่า “ทิ้งมันไว้ที่นี่แหละ”

ฟู่ฉือโจวได้แต่ส่ายหน้า

ใครใช่ให้มันทำให้เซียวตั๋วโกรธหละ?

อีกด้าน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเดินตามหลังป๋อซือเหยียน มองดูเสิ่นม่านที่อยู่ในอ้อมแขนของป๋อซือเหยียน ในใจของซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา

“ โอ้ย!”

ทันใดนั้น ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็ร้องโอ้ยออกมา ป๋อซือเหยียนหันไปมอง ก็พบว่าร้องเท้าส้นสูงของซูเฉี่ยนเฉี่ยนหักแล้ว

“ประธานป๋อ....ขอโทษนะคะ...เหมือนฉันจะขาแพลงหนะค่ะ”

เมื่อเสิ่นม่านเห็นสถานการณ์แบบนี้ ก็พูดอย่างเฉยชาว่า “นายวางฉันลงเถอะ ฉันไม่เป็นไร”

“เธอแน่ใจนะ?”

“อืม”

เมื่อได้ยินเสิ่นม่านตอบกลับ ป๋อซือเหยียนก็วางเธอลง แล้วหันไปอุ้มซูเฉี่ยนเฉี่ยน

เซียวตั๋วที่ลงมาถึงชั้นเดียวกันเห็นฉากนี้ ในแวบแรกก็มองเห็นแผลบนข้อเท้าของเสิ่นม่านทันที

น่าจะเป็นแผลจากการพยายามดิ้นอย่างหนักเพื่อให้หลุดจาดเชือกไนลอน

เซียวตั๋วไม่พูดอะไร เขาตรงเข้าไปอุ้มเสิ่นม่านขึ้นมา

เสิ่นม่านตกตะลึง “คุณทำอะไรหนะ?”

เซียวตั๋วเดินไปพูดไป “ขาคุณเป็นแผล ทำไมไม่พูดหละ?”

“แผลของฉันไม่สำคัญหรอก” เสิ่นม่านพูดต่อ “อีกอย่าง เขาแคร์ซูเฉี่ยนเฉี่ยนมากกว่าอีก”

ใครๆก็ดูออกว่าความลำเอียงของป๋อซือเหยียนที่มีให้กับซูเฉี่ยนเฉี่ยน มันมากเกินกว่าขอบเขตระหว่างชายหญิงมานานแล้ว

เธอจะทำเป็นไม่รับรู้ได้อย่างไร

“ยัยบ๊องเอ้ย” เซียวตั๋วกระชับตัวเสิ่นม่าน แล้วพูดว่า “กอดให้แน่นๆหละ”

เสิ่นม่านไม่ได้พูดอะไร ได้แต่กอดเซียวตั๋วให้แน่นขึ้นกว่าเดิม

“เร็วเข้า! ระเบิดใกล้จะระเบิดแล้ว!”

ฟู่ฉือโจวตะโกนบอก เซียวตั๋วกอดเสิ่นม่านแน่น ก่อนจะกระโจนออกจากตึกร้างในที่สุด

เวลานั้น ก็มีเสียงระเบิดครั้งใหญ่ดังขึ้น ตึกร้างส่องสว่างเต็มไปด้วยแสงไฟเต็มท้องฟ้า

“ขึ้นรถ!”

ป๋อซือเหยียนจัดที่นั่งให้ซูเฉี่ยนเฉี่ยนเสร็จก็หันหลังจะไปรับเสิ่นม่าน แต่ก็พบว่าเสิ่นม่านขึ้นรถเซียวตั๋วไปแล้ว

“ท่านประธานป๋อคะ ไปกันเถอะค่ะ...ฉันกลัวมาก”

เมื่อเห็นท่าทางหวาดกลัวของซูเฉี่ยนเฉี่ยน ป๋อซือเหยียนก็ทำได้แค่ขึ้นรถไปก่อน

อีกด้าน เสิ่นม่านมองดูป๋อซือเหยียนกับซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่นั่งอยู่ที่เบาะหลังรถด้วยกัน หน้าของเธอไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเลยแม้แต่น้อย เหมือนว่าเธอจะชินชาจนเป็นปกติไปแล้ว

ตลอดทาง เสิ่นม่านไม่พูดไม่จาอะไร

ฟู่ฉือโจวอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณไม่อยากรู้หรอว่าใครจับตัวคุณมา?”

“ซุนไห่สินะ”

ชื่อนี้หลุดจากปากเสิ่นม่านออกมา

“คุณรู้ได้ไง?”

“เดาเอาหนะค่ะ”

เสิ่นม่านไม่คิดอย่างนั้น

ที่จริงเธอก็เพิ่งนึกถึงซุนไห่ตะกี้นี้เอง

เสิ่นม่านรู้ดีว่าเธอมีคนรู้จักไม่เยอะ จะไปมีเรื่องกับใครได้อย่างไร ล่าสุดที่เธอทำเรื่องอะไรใหญ่ๆเอาไว้ก็คงจะเป็นที่เธอใช้เงินหนึ่งห้าหมื่นล้านซื้อที่ดินร้างนั้นมา

ถ้าเธอจำไม่ผิด ในชาติก่อน คนที่ซื้อที่ดินร้างนั้นคือซุนไห่

เห็นได้ชัดว่า เธอขัดขวางเส้นทางการเงินของอีกฝ่าย แต่ซุนไห่คงจะไม่รู้ว่าที่ดินร้างนั้นจะมีค่าขนาดไหนในอนาคต เขาต้องมีวัตถุประสงค์อื่นในการที่เขาต้องการที่ดิน

แต่ซุนไห่ ก็เป็นคนของเซียวตั๋ว

ดังนั้นเซียวตั๋วถึงได้มาได้ทันเวลา

เสิ่นม่านถือโอกาสพูดขึ้น “เซียวตั๋ว คนของคุณจับตัวฉันมา บัญชีนี้จะคิดยังไงดีคะ?”

“ติดไว้ก่อนแล้วกัน”

เซียวตั๋วพูดด้วยเสียงเรียบ

ฟู่ฉือโจวมองเซียวตั๋วในกระจกหน้ารถ ไม่เข้าใจจริงๆว่าเพื่อนของเขาคนนี้กำลังทำอะไรอยู่

เห็นได้ชัดว่า ที่ซุนไห่ทำไปไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาเลยสักนิด อีกทั้งยังยอมเสี่ยงอันตรายไปช่วยเธออีก แล้วยังจะไปติดหนี้บัญชีเธอไว้อีกหรือ?

เมื่อมาถึงหน้าบ้านตระกูลป๋อ ฟู่ฉือโจวก็รีบจอดรถ

นอกประตูบ้านตระกูลป๋อ ป๋อซือเหยียนอุ้มซูเฉี่ยนเฉี่ยนลงจากรถเข้าไปในบ้าน แบบไม่มีท่าทีว่าจะรอเสิ่นม่านเลยสักนิด

“ฉันไปนะคะ ขอบคุณคุณทั้งสองมากค่ะ”

เสิ่นม่านเปิดประตูบ้าน และเดินเข้าบ้านตระกูลป๋อไปคนเดียว

ฟู่ฉือโจวพูด “นึกว่าพี่จะอุ้มเธอซะอีก”

“เธอไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”

เซียวตั๋วหลับตาลง “ขับรถไป”

ณ บ้านตระกูลป๋อ ป๋อซือเหยียนกำลังทายาให้กับซูเฉี่ยนเฉี่ยนที่นั่งอยู่บนโซฟา

เมื่อเสิ่นม่านเดินเข้ามาในบ้าน ซูเฉี่ยนเฉี่ยนก็รีบลุกขึ้นยืน “พี่เสิ่น ท่านประธานป๋อเห็นว่าฉันบาดเจ็บเลยเลยแค่อยากจะทายาให้...”

ยังพูดไม่ทันจบ ป๋อซือเหยียนก็ตัดบทด้วยความเย็นชา “ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เธอฟัง”
ความคิดเห็น (7)
goodnovel comment avatar
Thunyapron Nana
อ่านต่อไม่ไหวจริงๆ โง่อภิมหาโง่ นางเอกตายไปให้จบๆกลับมาทำไม กลับมาหาซากอะไรก่อนน จะโง่ไม่ลืมหูลืมตาขนาดนั้น อินางร้ายก้ร่านน จนน่าจะหาผัวให้มันสักร้อยผัว
goodnovel comment avatar
Thunyapron Nana
นางเอกโง่ อินางร้ายก้แรรดร่าน
goodnovel comment avatar
Kaimuk Polybut
เติมเงิน โอนเรียบร้อยแล้ว เข้าอ่านไม่ได้ ไม่รู้จะติดต่อทางไหนดีคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status