แชร์

บทที่ 254

ผู้เขียน: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
เถาเอ๋อร์คนนี้นับว่างามมาก แต่บัดนี้นักการหวงกลับไม่มีอารมณ์ชื่นชมความงาม

“ไสหัวไปที่ด้านข้าง!”

“ท่านนักการอย่าหงุดหงิดไปเลย เถาเอ๋อร์มีความคิดอย่างหนึ่ง สามารถทำให้พวกเขาตายอยู่ภายในถ้ำทั้งหมดเลยได้ ก็ไม่รู้ว่าท่านนักการจะยินดีฟังหรือไม่”

นักการหวงสนใจขึ้นมาแล้ว “เจ้าพูด”

“ท่านนักการเอียงหูมาเถอะ ข้าจะบอกท่าน” ดวงตาเถาเอ๋อร์ทอประกายวาววับ นางยังไม่ลืมว่าบิดามารดาตายเยี่ยงไร

ลูกเห็บบนท้องฟ้ายังไม่หยุด แม้ว่าน้อยกว่าช่วงกลางวันมาก ไม่ถึงกับหล่นใส่คนตายได้ แต่ตกใส่ตัวก็ยังเจ็บอยู่

เพื่อป้องกันลูกเห็บตกหนักระหว่างเดินทาง ไม่มีที่ให้พักผ่อน กอปรกับซุนอู่เองก็ได้รับบาดเจ็บ ไม่สามารถเร่งเดินทางได้

สุดท้ายทุกคนก็ตัดสินใจพักผ่อนภายในถ้ำหนึ่งคืน

ช่วงกลางคืน ทุกคนล้วนนอนหลับ กู้หว่านเยว่ลืมตา รู้สึกไม่ชอบมาพากลอยู่บ้าง

ดังคาด เพียงครู่เดียวซูจิ่งสิงที่ออกไปลาดตระเวนก็กลับมา สีหน้าเคร่งขรึม

“เจ้าเดาได้ไม่ผิด นักการหวงลงมือดังคาด”

พูดจบ จูงมือกู้หว่านเยว่ พานางออกจากถ้ำเงียบๆ มาที่ถนนสายเล็กภายนอก

หิมะยามราตรีเงียบสงบ แสงจันทร์ดุจสายน้ำ

กู้หว่านเยว่สูดลมหายใจเย็น เพียงแวบเดียวก็มองเห็
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 255

    พูดถึงหลู่ซื่อ นับตั้งแต่เขาลอบช่วยลั่วยาง ก็เริ่มไม่ใส่ใจทำงานให้มู่หรงอวี้แล้วซูจิ่งสิงรู้ภาพรวมว่าเกิดเรื่องใดขึ้นแล้ว “ได้ยินว่าลั่วยางสูญเสียความทรงจำ”กู้หว่านเยว่ตกตะลึงพรึงเพริด แต่คิดได้อย่างว่องไว ลั่วยางคนคลั่งรักนี้สมองน่าจะถูกกระตุ้นหนักเกินไปจนสูญเสียความทรงจำ“เพราะเหตุนี้จึงปล่อยให้คนขโมยระเบิดได้ ลั่วยางสูญเสียความทรงจำ หลู่ซื่อมองเห็นความหวังแล้ว ย่อมมอบกายใจเข้าไปอยู่ข้างกายนาง ไม่สนใจการงานอีก”ด้านซุบซิบนินทาของภรรยาตัวน้อยนี้ร้ายกาจยิ่งนัก ซูจิ่งสิงถูกนางชักนำให้พูดเหน็บแนมไปด้วยกัน“หลู่ซื่อใช้เงินทั้งหมดที่มีเช่าเรือนเล็กหนึ่งหลัง ไม่เพียงให้คนพักอาศัยอยู่ภายใน ยังซื้อสาวใช้สองคนเพื่อดูแลปรนนิบัตินางกินดื่ม กระนั้นก็ยังมิได้รับสีหน้าที่ดีจากลั่วยางแม้แต่น้อย”“หา? หลู่ซื่อคนนี้เป็นพวกประจบเอาใจกระนั้นรึ?”“อืม ก็คือพวกคุกเข่าเลียแข้งเลียขาได้อย่างไร้ศักดิ์ศรี”“เช่นนั้นเขาก็เป็นพวกประจบเอาใจคนหนึ่งจริง”สองสามีภรรยาซุบซิบนินทาต่อหน้านักการหวง กู้หว่านเยว่นึกขึ้นได้ว่ามู่หรงอวี้สมเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ที่ได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย เหมืองน้ำมันก๊าดถูกนางเก็บไว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 256

    “เถาเอ๋อร์?”มองเห็นใบหน้าตกตะลึงพรึงเพริดนั้น ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วทีหนึ่งกู้หว่านเยว่เองก็รู้จักอีกฝ่าย ทันใดนั้นแปลกใจอยู่บ้างแววตาเถาเอ๋อร์มืดมน กัดกลีบปาก คิดไม่ถึงศัตรูทั้งสองวาสนาดีเพียงนี้ ถึงขั้นยังไม่ถูกระเบิดตายดูท่าแล้ว การแก้แค้นให้ ‘บิดามารดา’ ไม่สำเร็จอีกแล้วทางฝั่งนั้นจางเอ้อร์ร้องตะโกน“นักการหวงถูกพวกเราจับไว้แล้ว พวกเจ้าทุกคนห้ามขยับเขยื้อน หากใครขวัญกล้าหนีหรือต่อต้าน อย่าโทษข้าไม่มีเมตตาเลย!”เพียงได้ยินว่านักการหวงถูกจับ พวกนักโทษถูกเนรเทศเหล่านั้นล้วนเผยสีหน้าตกตะลึง ถูกมัดมือมัดเท้าไว้แล้วจางเอ้อร์วิ่งเข้ามาหยุดตรงหน้ากู้หว่านเยว่ “นับจำนวนคนแล้ว ไม่ขาดใครไป”“ดี พวกเรากลับเถอะ”กู้หว่านเยว่ตรวจสอบรอบกายอีกหนึ่งรอบ หลังมั่นใจว่าไม่มีระเบิดหลงเหลืออยู่แล้ว นี่ถึงเตรียมตัวกลับไปหญิงอ้วนคนเมื่อครู่ยักย้ายส่ายก้นไล่ตามมา เข้าไปจับซูจิ่งสิงไว้อย่างหลงใหล“คุณชาย ท่านหล่อเหลาเหลือเกิน”ซูจิ่งสิงขมวดคิ้วเบี่ยงตัวหลบไปที่ฝั่งหนึ่ง บุรุษชุดขาวภายใต้แสงจันทร์หล่อเหลายิ่งกว่าเซียนถูกไล่ลงจากสวรรค์“ไสหัวไป”อาจเพราะหญิงอ้วนไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไร ยังยิ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 257

    กู้หว่านเยว่มองเชือกที่กระจัดกระจายบนพื้นอย่างปวดหัว ย้อนคิดถึงท่าทางอ่อนแอบอบบางของเถาเอ๋อร์ มองไม่ออกเลยจริงๆ ว่านางยังมีความสามารถนี้อยู่ยิ่งไปกว่านั้นซุนอู่ให้พวกเขาดื่มหร่วนจินซ่านไปแล้ว นางยังสามารถหนีออกไปได้!เถาเอ๋อร์คนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ...“แม่นางกู้ เถาเอ๋อร์คนนั้นยังทิ้งกระดาษไว้หนึ่งแผ่น แต่ข้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ”ซุนอู่พูดออกมาอย่างสงสัย กู้หว่านเยว่รีบรับกระดาษมา อ่านจบกลับเลิกคิ้วขึ้นมองเห็นบนกระดาษแผ่นนั้น ถึงขั้นเขียนตัวอักษรภาษาอังกฤษ ‘SB’ซุนอู่ไม่รู้ว่านี่มีความหมายว่ากระไร กู้หว่านเยว่กลับรู้ว่านี่คือภาษาอังกฤษหมายความว่าโง่Xเถาเอ๋อร์คนนี้ถึงขั้นเป็นผู้ข้ามภพคนหนึ่ง นางข้ามพบมาตั้งแต่ยามใดเล่า? รู้เรื่องที่บิดามารดาทำ ยังด่าพวกเขาโง่X?กู้หว่านเยว่รู้สึกไม่ชมชอบเถาเอ๋อร์คนนี้ที่ภายในก้นบึ้งของหัวใจ กระนั้นนี่ก็อธิบายไม่ยากแล้ว เหตุใดเถาเอ๋อร์สามารถหนีไปได้ข้ามภพนี่นา ย่อมมีทักษะอยู่ในมือ“จะให้ข้าเหล่าซุนไปจับนางกลับมาหรือไม่?”“ไม่ต้อง”รอยเท้าบนพื้นหิมะหายไปแล้วหุบเขาใหญ่เพียงนี้ ไล่ตามไปตอนนี้ก็คือแมลงวันไร้หัว เสียเวลาเดินทางกอปรกับกู้หว่านเยว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 258

    เมี่ยชิงหว่านพูดอย่างขบขัน “นางอยากให้เจ้าเป็นสามีรองนะ”“ข้าไม่เอา” ซูจื่อชิงโมโหเมี่ยชิงหว่านเลิกคิ้ว “เช่นนั้นเจ้าจะเป็นสามีให้ใครกันเล่า?”“ข้า” ซูจื่อชิงลอบมองเมี่ยชิงหว่านแวบหนึ่ง พูดงึมงำ “อย่างไรเสียข้าก็ไม่ชอบนาง ข้าชอบหญิงอ่อนโยน”“อ้อ” อ่อนโยนหรือ คล้ายไม่ใกล้เคียงกับตนเองดูท่าแล้ว ครั้งก่อนซูจิ่นเอ๋อร์พูดว่าเจ้าทึ่มคนนี้ชอบตนเอง เป็นนางพูดส่งเดชดังคาดเมี่ยชิงหว่านสะบัดมือจากไปแล้ว“นี่ พวกท่านสองคนเป็นอะไรไปอีก...” ซูจิ่นเอ๋อร์เอือมระอา ระหว่างการเดินทางไม่รู้ได้เห็นพี่รองทำให้พี่หญิงชิงหว่านโมโหกี่ครั้งแล้วหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป พี่สะใภ้รองของนางต้องหายไปเป็นแน่!ก็ไม่รู้ว่ากำลังระบายความแค้นของสวีหลานลงบนตัวนางหรือไม่ ระหว่างเดินทางหลี่เฉินอันโยนงานเบ็ดเตล็ดหลากหลายอย่างให้หลี่อวิ๋นอวิ๋นทำ ยังสั่งให้หลี่อวิ๋นอวิ๋นไปขุดหิมะเก็บเห็ดอีกด้วยหลี่อวิ๋นอวิ๋นย่อมไม่ทำ โยนตะกร้าลงพื้นโดยตรง“แม่ข้าล้วนไม่ให้ข้าทำงาน เจ้านับเป็นตัวอะไร?”“ข้านับเป็นตัวอะไร ฮึๆ?” มองพี่หญิงโง่งมคนนี้ เพลิงโทสะก่อตัวขึ้นภายในใจหลี่เฉินอัน พูดประชดประชันหนึ่งประโยค “เจ้าเป็นคุณหนูสูงศ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 259

    นักการหวงแทบกระอักโลหิตตาย “ไม่ใช่ๆ ข้าพูดผิดไปแล้ว ข้าไม่เกี่ยวอันใดกับเจียงเต๋อจื้อ...”“ข้าเชื่อเจ้ากับผีสิ เจ้าพูดว่าเกี่ยวก็เกี่ยว เจ้าพูดว่าไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยวกระนั้นรึ? ตีก่อนค่อยว่ากัน!”ซูจื่อชิงระบายโทสะใส่เขาพักหนึ่ง ตีเขาจนหน้ากลายเป็นหัวหมูซุนอู่เองก็ไม่ห้าม ชนิดที่ว่าลอบมอบแผ่นรองเท้าให้อีกด้วย“จื่อชิง” ซูจิ่งสิงอยากให้เขาเลิกทำเช่นนี้ กลับถูกกู้หว่านเยว่ห้ามไว้แล้ว “ปล่อยเขาไปเถอะ เด็กคนนี้ลำบากมาตลอดทาง ให้เขาระบายอารมณ์สักหน่อยก็ดี”“...ได้” ต้องฟังคำพูดของภรรยา“ท่านมาดูว่านี่คืออะไร”จู่ๆ กู้หว่านเยว่ก็หยิบรายงานหนึ่งแผ่นออกมา ซูจิ่งสิงรับไปพบว่าไม่ต่างจากหนังสือรับรองพิสูจน์สายเลือดครั้งก่อนมากนักเพียงแต่ผลลัพธ์กลับไม่เหมือนกัน“ยืนยันว่าหนานหยางอ๋องเป็นบิดาทางชีววิทยาของเมี่ยชิงหว่าน”“ก็หมายความว่าพวกเขาเป็นพ่อลูกกัน!”กู้หว่านเยว่อธิบายยิ้มๆ แม้รู้เรื่องส่วนใหญ่ของพวกเขาสองพ่อลูกตั้งแต่แรก แต่มีรายงานอันเป็น ‘หลักฐานเหล็กดุจขุนเขา’ ที่แท้จริงนี้แล้ว“เจ้าวางแผนช่วยเมี่ยชิงหว่านและหนานหยางอ๋องนับญาติกัน?”ภรรยาตัวน้อยมิใช่คนเข้าไปยุ่งให้มากเรื่อง นี

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 260

    ที่แท้หลังกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงจากไป หวังปี้ก็เห็นฟู่ชิงคนนั้นแล้วขัดตา มักคิดว่านางไม่คล้ายคุณหนูสายตรงของจวนหนานหยางอ๋องทั้งยังเพราะหนานหยางอ๋องให้ความสำคัญต่อนางมาก ได้รับกลับมาหลังสูญเสียไปจึงเอ็นดูฝังถึงกระดูก หวังปี้กลัวความรักของท่านอ๋องตนสูญเปล่า เพราะเหตุนี้จึงตรวจสอบฟู่ชิง“ฟู่ชิงคนนั้นอาจสังเกตเห็นว่าข้าสงสัยในตัวนาง วันก่อนถึงขั้นนัดพบข้าภายในห้อง พูดว่าต้องการสารภาพกับข้าต้องโทษข้าโง่งม เชื่อนางไปเสียได้ปรากฏว่าเข้าไปดื่มสุราหนึ่งจอกก็หมดสติไป ฟื้นขึ้นมาก็มองเห็นนางกำลังปรักปรำข้าเมาสุราต้องการข่มเหงนาง...”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากันแวบหนึ่ง เรื่องต่อจากนี้นางสามารถหยั่งเดาได้แล้วฟู่ชิงร้องไห้ หวังปี้แก้ต่าง หนานหยางอ๋องโมโหจึงไล่เขาออกมาหวังปี้พูดอย่างโศกเศร้า “ข้าไม่โทษท่านอ๋อง ท่านอ๋องเองก็รักลูกสาวอย่างลึกซึ้ง นี่ถึงถูกหลอกได้ข้าโทษเพียงหญิงชั่วคนนั้น นางไม่เลือกวิธีการ อยู่ข้างกายท่านอ๋องก็ไม่รู้จะก่อเรื่องอะไร”พูดถึงตรงนี้ หวังปี้คุกเข่าต่อหน้ากู้หว่านเยว่อย่างกะทันหัน“ข้ารู้พวกท่านสองสามีภรรยามีความสามารถ พวกท่านเองก็สงสัยฟู่ชิงมิใช่ลูกสาวแ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 261

    “ท่านกินอะไรเข้าไปกัน? เหตุใดสมองถึงได้ดีเช่นนี้เจ้าคะ?”กู้หว่านเยว่ดูปั้นปึ้งทว่าไร้เดียงสา ซูจิ่งสิงจึงแตะหัวของนางเบาๆ ด้วยสีหน้ามีเสน่ห์“แน่นอนว่าต้องกินอาหารที่เจ้าทำให้ ตั้งแต่ที่กินอาหารของภรรยา สมองของข้าก็ปราดเปรื่องมากยิ่งขึ้น”“โอ้ ปากหวานนัก! อย่ามาแตะหัวข้านะ!”เมื่อได้ยินคำเตือนจากซูจิ่งสิง กู้หว่านเยว่ก็รู้สึกแล้วจริงๆ ว่านางควรคิดหาวิธีเปิดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของฟู่ฉิงให้เร็วที่สุด“เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อนไป หนานหยางอ๋องจะมาหาเจ้าเอง”ทั้งกลุ่มทานอาหารเสร็จก็ออกเดินทางต่อหวังปี้อยากเห็นฟู่ฉิงถูกเปิดโปง จึงติดตามกู้หว่านเยว่และคนอื่นๆ ต่อไปเดินทางกันจนฟ้ามืด หลายคนก็เห็นหมู่บ้านแห่งหนึ่งอยู่ไม่ไกล จึงวางแผนจะเข้าไปพักผ่อนซุนอู่ขึ้นไปเคาะประตู หลังจากเคาะอยู่สองครั้ง ประตูด้านในก็เปิดออกทว่าไม่คิดว่าจะได้เจอหนานหยางอ๋องที่นี่ อีกฝ่ายมาถึงที่นี่หลายวันแล้ว พักค้างคืนอยู่ที่นี่มาตลอด“หนานหยางอ๋องขี่ม้า ย่อมเร็วกว่าพวกเราที่ใช้เท้าเดิน” ซูจิ่งสงอธิบายอยู่ข้างๆ กู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่พยักหน้า เดินเข้าไปทักทายคนของหนานหยางอ๋องไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 262

    เมื่อตัวตนของฟู่ฉิงถูกเปิดเผย อีกฝ่ายย่อมปรากฏตัวออกมาแน่นอน“ช่างเขาไปเถอะ ไปกินข้าวเย็นแล้วพักผ่อนกัน”กู้หว่านเยว่บอกให้ซูจิ่นเอ๋อร์จุดไฟ วางแผนจะทำอาหารเอง ทว่าในขณะที่พวกนางเริ่มทำอาหาร ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นทันทีเป็นหญิงชราที่นำถังน้ำมา “พวกเราในหมู่บ้านล้วนแต่ดื่มน้ำสะอาดจากบ่อ กลัวว่ากลางคืนพวกเจ้าจะหากันไม่เจอ จึงนำถังมาให้ท่าน” หญิงชรากล่าว“ว้าว! ขอบคุณเจ้าค่ะ!” ซูจิ่นเอ๋อร์รับมันมาอย่างไม่ระแวงสิ่งใดหญิงชราดูท่าจะชอบพฤติกรรมของซูจิ่นเอ๋อร์มาก เมื่อหันหลังกลับก็จากไปพร้อมรอยยิ้ม“ไม่คิดว่าเหล่าชาวบ้านจะกระตือรือร้นขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ให้ที่อยู่อาศัย แต่ยังส่งน้ำให้พวกเราด้วย ช่างมีน้ำใจจริงๆ”ขณะที่ชื่นชม ซูจิ่นเอ๋อร์ก็ยกถังน้ำเข้ามา กำลังจะเทลงในหม้อกู้หว่านเยว่ตะโกนว่า “เดี๋ยวก่อน”“มีอะไรหรือเจ้าคะ? พี่สะใภ้ใหญ่”นางเดินออกไป ยื่นนิ้ไวไปจุ่มน้ำเล็กน้อย แล้วเอามาวางไว้ใต้จมูก ดมกลิ่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า“น้ำนี้มียา ดื่มไม่ได้”ดูเหมือนว่านางและซูจิ่งสิงจะเดาถูก“มียา ยาอะไรหรือเจ้าคะ?”ซูจิ่นเอ๋อร์ถามอย่างประหม่า รีบวางถังน้ำลงทันที ราวกับว่าถือเผือก

บทล่าสุด

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1404

    เมื่อเห็นว่าดวงจันทร์ลอยอยู่กลางท้องฟ้า รอบกายมืดมิดลมแรง บนพื้นเองก็มองได้ไม่ชัดเจนกู้หว่านเยว่มองเข้าไปในมิติแวบหนึ่ง บัดนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มแล้ว“หนานหยางอ๋อง ฟ้ามืดเกินไป เหล่าทหารเร่งเดินทางย่อมไม่สะดวกเจ้าค่ะ”เร่งเดินทางยามฟ้ามืดย่อมพลาดพลั้งได้อย่างง่ายดายในเวลานี้ ภายในป่าลึกยังมีอสรพิษมากมายนัก“มิสู้พวกเราหาที่แห่งหนึ่ง พักผ่อนสักสองชั่วยามเถอะ”รอพักผ่อนเอาแรงดีแล้วค่อยเดินทางต่อก็ไม่สายหนานหยางอ๋องพยักหน้าหลังกองทัพใหญ่ออกเดินทางจากแม่น้ำมู่ตานก็ไม่ได้พักผ่อนอีกเลยอาศัยช่วงฟ้ามืด พักผ่อนสองสามชั่วยามก็ไม่เป็นไร“ให้กองทัพใหญ่หยุด พักผ่อนอยู่กับที่ แจกจ่ายเสบียงอาหาร!”หนานหยางอ๋องออกคำสั่งกับขุนพลหลี่เหล่าหลี่ร้องตะโกนเสียงแหบ “ทหารทุกนายพักผ่อนอยู่กับที่ ดื่มน้ำ กินเสบียงอาหาร!”“ขอรับ!”ทุกคนทำตามคำสั่งของหนานหยางอ๋อง นั่งลงพักผ่อนเพื่อความสะดวก ทหารทุกคนล้วนพกอาหารแห้งและถุงน้ำแขวนไว้ข้างเอวหลังนั่งลงไปแล้ว ทุกคนก็หยิบอาหารแห้งออกจากใต้วงแขน เปิดถุงน้ำ เริ่มเพิ่มพลังงานทว่าอาหารแห้งที่พวกเขากิน มิใช่อาหารแห้งแข็งๆ อีกแต่เป็นเปี๊ยะอัดแท่งที่กู้ห

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1403

    เดิมทีกองทัพเจดีย์หนิงกู่ก็มีคนไม่มาก ตระหนักถึงปัจจัยรอบด้าน ซูจิ่งสิงจึงให้กองทัพใหญ่อยู่ที่สมรภูมิหลักหนานหยางอ๋องและกู้หว่านเยว่นำทหารชั้นยอดไปเพียงหนึ่งพันนายทหารชั้นยอดหนึ่งพันนายนี้ เป็นกองกำลังเฝ้าระวังอยู่ที่ชายแดนกับหนานหยางอ๋องในปีนั้นกู้หว่านเยว่เปลี่ยนชุดเกราะที่แข็งแกร่งที่สุด หอกดาบไม่ทะลุให้กับพวกเขา จับคู่กับหอกยาวที่แหลมคมที่สุดขี่ม้ากำยำแข็งแรงที่สุดของสกุลกงซุนคนกลุ่มนี้เน้นการโจมตีแบบสายฟ้าแลบ วางแผนทำให้เมืองเหยาไม่ทันตั้งตัวหนานหยางอ๋องหยิบแผนที่ออกมา ชี้ไปยังคูเมืองสองสามแห่งข้างบน“พระชายา เจ้าดูนี่กึ่งกลางระหว่างพวกเราและเมืองเหยา ยังมีคูเมืองสองแห่งอยู่พวกเราสามารถอ้อมเข้าภูเขาเหยา โจมตีเมืองเหยาก่อนได้จากนั้นย้อนกลับมาโจมตีคูเมืองสองด้านพร้อมท่านอ๋อง”แท้จริงแล้ว ต่อให้ไม่ใช่เพื่อสกุลหลินไม่ช้าก็เร็วพวกเขาก็ต้องมาโจมตีเมืองเหยาแห่งนี้เมืองเหยาเป็นจุดยุทธศาสตร์ นับเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างตงเป่ยและหัวเป่ย“หากโจมตีเมืองเหยา ข้ามด่านก็คือที่ราบกว้างใหญ่ของหัวเป่ยแล้ว”หาไม่แล้วเหตุใดกองโจรพเนจรกลุ่มนั้นถึงไม่โจมตีคูเมือง แต่ลงมือกับเม

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1402

    “ไม่ได้”ซูจิ่งสิงคัดค้านในทันทีทันใด เขาส่งผู้นำที่เหมาะสมไปแล้ว“เจ้าจงอยู่กับข้าที่นี่”ในสนามรบดาบกระบี่ไม่มีตา ก่อนหน้านี้ไปตามหาองค์หญิงใหญ่ยังไม่เท่าไร แต่หากเป็นแนวหน้าก็อาจได้รับบาดเจ็บทุกเมื่อ“ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถมาก แต่สถานการณ์ในสนามรบเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทุกเวลา หากเจ้าได้รับบาดเจ็บ หลบเข้ามิติไม่ทัน”ซูจิ่งสิงไม่หวังให้กู้หว่านเยว่ได้รับบาดเจ็บ“ไม่เป็นไร ท่านยังไม่รู้ความสามารถของข้าอีกหรือ?”กู้หว่านเยว่จับมือเขาไว้อย่างจริงจัง“ยิ่งไปกว่านั้น ข้ารับปากกท่านตาท่านยายแล้วว่าจะพาญาติผู้พี่กลับมาอย่างปลอดภัยตอนพวกเราถูกเนรเทศ พวกเขาเคยยื่นมือเข้าช่วย มอบความช่วยเหลือยามทุกข์ยากข้าไม่อยากติดค้างพวกเขาเจ้าค่ะ”แต่ไหนแต่ไรมากู้หว่านเยว่เป็นคนมีบุญคุณต้องตอบแทนหากนางติดตามไป ก็ย่อมมีความหวังในการตามหาหลินเพียวเพียวมากยิ่งขึ้นเห็นว่าซูจิ่งสิงยังคิดปฏิเสธ กู้หว่านเยว่จึงปรึกษากับเขาอีกครั้ง“ญาติผู้พี่กำลังตั้งครรภ์ ต่อให้ตามหาเบาะแสของนางพบ แต่การเดินทางลำบากมาก ยากจะรับรองได้ว่านางจะไม่เป็นไรหากข้าติดตามไปด้วย หลังพบนางแล้ว ข้าก็สามารถทำให้นางหมดสติแล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1401

    กู้หว่านเยว่เข้าใจในทันใด มิน่าเล่าคนเหล่านี้ท้องร้องโครกคราก ท่าทางอิดโรย ที่แท้ก็เกิดเรื่องกับสกุลหลินนี่เอง“สกุลหลินเกิดเรื่องใหญ่ถึงเพียงนี้ขึ้น ข้ากลับไม่รู้เรื่อง ต้องขออภัยด้วย”“เรื่องนี้จะโทษเจ้าไม่ได้ ฉูโจวและเจดีย์หนิงกู่อยู่ห่างกันมากเพียงนี้ จะส่งจดหมายมาก็เป็นเรื่องยาก”ยิ่งไปกว่านั้น สาเหตุที่เกิดเรื่องกับสกุลหลิน ยังไม่ใช่เพราะราชสำนักโง่เขลาไร้ขอบเขตอีกหรือ ต่อให้บอกกู้หว่านเยว่เรื่องนี้ ยังจะมีประโยชน์อันใดอีกเล่า?“กินข้าวก่อนเถอะเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่ไม่รู้ว่าสมควรเริ่มปลอบจากที่ใด ยังดีรับคนสกุลหลินมาแล้ว“ท่านตาท่านยาย แนวหน้าอันตราย รอพวกท่านพักผ่อนสักสองวันแล้ว ข้าจะให้คนพาพวกท่านไปส่งที่เมืองอวี้ไปถึงเมืองอวี้ย่อมมีคนจัดแจงที่พักให้พวกท่านส่วนทางฝั่งญาติผู้พี่ รอข้าได้รับข่าวของนางแล้ว ค่อยให้คนกลับไปแจ้งพวกท่าน”กู้หว่านเยว่บอกความคิดของตนให้คนเหล่านี้ฟังนายท่านผู้เฒ่าหลินในฐานะผู้นำตระกูลใหญ่ เอ่ยปากก่อนเป็นคนแรก “หว่านเยว่ ทั้งหมดล้วนฟังเจ้า ขอเพียงไม่สร้างปัญหาให้เจ้าก็พอ”กู้หว่านเยว่พยักหน้าคนสกุลหลินล้วนคิดเพื่อหลานสาวอย่างนางคนนี้มาโดยตล

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1400

    “ดูเจ้าสิ พูดเรื่องนี้กับหว่านเยว่เพื่ออะไร?”หลินรู่ไห่ดึงนางเก๋อไว้ ในใจเขาก็รู้สึกกังวลเช่นกัน แต่เขารู้ว่าการบอกเรื่องนี้กับกู้หว่านเยว่นั้นไม่มีประโยชน์เมืองเหยาอยู่ไกลจากที่นี่ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงก็กำลังยุ่งอยู่กับการต่อสู้กับฮ่องเต้ จะเอาเวลาที่ไหนไปตามหาคนที่เมืองเหยา?พวกเขาไม่อยากให้กู้หว่านเยว่ต้องลำบากใจ“ท่านน้า ต้องขอบคุณน้าสะใภ้ที่บอกข้า เรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ทำไมพวกท่านไม่พูดทันทีที่เข้ามา?”กู้หว่านเยว่ยังจำหลินเพียวเพียวได้ สาวน้อยที่สงบเสงี่ยมมาก เวลาพูดขึ้นมาก็ดูคงแก่เรียนเมื่อคนสกุลหลินไปที่โรงเตี๊ยมเตียงนอนรวมเพื่อส่งเงินให้นาง หลินเพียวเพียวก็มาด้วย แล้วยังปลอบประโลมนางอย่างนุ่มนวล“หว่านเยว่ พวกเราไม่อยากให้เจ้าเป็นกังวล”ประเด็นคือพวกเขาไม่เคยคิดว่ากู้หว่านเยว่จะสามารถช่วยหลินเพียวเพียวกลับมาได้และพวกเขาก็เป็นห่วงว่าซูจิ่งสิงจะรู้สึกว่าสกุลหลินของพวกเขาเป็นปัญหา ถึงตอนนั้นจะทำให้กู้หว่านเยว่เดือดร้อนไปด้วยกู้หว่านเยว่จำพวกเขาได้ จึงขอให้ซูจิ่งสิงส่งคนไปรับพวกเขาที่ฉูโจว พวกเขาก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว จะเสนอเงื่อนไขอะไรได้อย่างไร?“พวกท่าน”กู้หว

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1399

    “ท่านยาย พวกท่านปลอดภัยดีตลอดเส้นทางไหม?”กู้หว่านเยว่สอบถามพวกเขา แม้ว่าซูจิ่งสิงจะส่งคนไปรับพวกเขาเองก็ตามแต่เวลานี้ทั่วแคว้น ความอดอยากแห้งแล้งได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โจรร่อนเร่ได้สร้างความปั่นป่วนไปทั่วทุกแห่งการเดินทางมาของสกุลหลินครั้งนี้ ก็คงไม่สงบสุขนัก“ระหว่างทาง ได้พบกับโจรสลัด”เมื่อนายท่านผู้เฒ่าหลินพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังรู้สึกสะเทือนใจ“โจรสลัดเหล่านั้นฆ่าทุกคนที่พบเจอ ไม่เว้นแม้แต่คนแก่ คนอ่อนแอ ผู้หญิง และเด็ก น่ากลัวจริง ๆ”สกุลหลินเป็นพลเมืองดีที่ทำการค้า การเข่นฆ่าใด ๆ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนตกใจกลัวจนเหลือทน ตอนนี้เมื่อนึกย้อนกลับไปก็ยังคงรู้สึกกลัวอยู่“ท่านยาย พวกท่านลำบากแย่เลย”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อรู้ว่าโจรเร่ร่อนข้างนอกนั้นเหิมเกริมเช่นนี้“ไม่เป็นไร ทุกอย่างผ่านไปแล้ว”นายท่านผู้เฒ่าหลินลูบเครา พลางโบกมือ“โชคดีที่แม่ทัพหนุ่มที่ท่านอ๋องส่งไปฉลาดเฉลียว รู้ว่าสถานการณ์ไม่ปกติ ก็พาพวกเราหนีไปทางเรือเล็กแต่น่าเสียดายนายท่านผู้เฒ่าหลินเผยแววตาทนไม่ได้ บนเรือใหญ่ยังมีประชาชนอยู่เป็นจำนวนมาก“พวกเราหนีออกไปได้ไม่ไกลนัก ก็เห็นเรือทั้งลำ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1398

    “ข้าไม่เป็นอะไร”ลั่วยางชักมือออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติคนผู้นี้กำลังทำอะไรอยู่?เหล่าทหารทุกคนกำลังเฝ้าดู ตอนนี้ทั้งกองทัพรู้แล้วว่าเขาชอบนางนางไม่อยากกลายเป็นจุดสนใจ“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว”เกาเจี้ยนถอนหายใจ มองไปทางซูจิ่งสิง ขณะที่กำลังจะโต้แย้งก็เห็นคนที่เมื่อครู่ยังหัวเราะเยาะเขาอยู่ คว้ามือของกู้หว่านเยว่ไว้โดยไม่ละอาย น้ำเสียงอ่อนโยนจนแทบจะคั้นเป็นน้ำออกมาได้“น้องหญิงเหนื่อยหรือยัง หิวหรือเปล่า ใกล้ถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปกินข้าว”เกาเจี้ยนเบิกตากว้าง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”คนผู้นี้มีความรู้มากกว่าเขาเสียอีก!“ท่านมาที่นี่ทำไม?”กู้หว่านเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมา เช็ดเหงื่อที่หน้าผากให้ซูจิ่งสิงแม้ว่าวันนี้จะไม่ร้อนมาก แต่ซูจิ่งสิงก็สวมชุดกราะตลอดเมื่ออยู่ในกองทัพ ถูกแดดตอนเที่ยงวันสาดส่อง จนเหงื่อแตกพลั่ก“เห็นเจ้าไม่กลับมาเสียที ก็เลยเป็นห่วงเจ้า”ซูจิ่งสิงมองเข้าไปในกระโจม กู้หว่านเยว่ก็อธิบายสถานการณ์ของกงซุนฉิงอย่างคร่าว ๆ ก่อนจะพาคนกลับไปเขียนจดหมายฉบับหนึ่งถึงสกุลกงซุน สั่งให้คนแพร่ข่าวออกไปหลี่กวงถิงถูกจับแล้ว กองทัพของเจดีย์หนิงกู่ก็ไล่ล่าโจมต

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1397

    ลั่วยางก็ไม่ได้โกรธเช่นกันทักษะทางการแพทย์ของกู้หว่านเยว่นั้นเหนือกว่านางอยู่แล้ว ลู่จิงจะทำทุกวิถีทางเพื่อความปลอดภัย ไปเชิญกู้หว่านเยว่มาอีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ“พี่หว่านเยว่”ลั่วยางมีอายุมากกว่ากู้หว่านเยว่ แต่ในด้านทักษะทางการแพทย์ ถือได้ว่ากู้หว่านเยว่อาวุโสกว่านางประโยค “พี่หว่านเยว่” ของลั่วยาง ก็ไม่ได้เรียกผิด“คุณหนูกงซุนไม่เป็นอะไร แค่เหนื่อยจนล้มไปเท่านั้น”ร่างกายของนางเคยถูกทรมานมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรักษาโดยกู้หว่านเยว่ แต่ถึงอย่างไรก็ได้รับบาดเจ็บโชคดีที่กงซุนฉิงมีทักษะการต่อสู้ จึงปกติเหมือนคนที่ไม่ได้เป็นอะไรแต่ก็ไม่อาจทนต่อความยุ่งวุ่นวายในระดับสูงได้“ข้าฝังเข็มให้นางหนึ่งเล่ม แล้วนางก็ตื่นขึ้นมา”ลั่วยางอธิบาย“แต่ว่า นางนอนหลับ กลับช่วยให้ร่างกายฟื้นคืนสู่สภาพเดิมเสียด้วยซ้ำไป”“เช่นนั้นก็ปล่อยให้นางหลับต่ออีกนิดเถอะ”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าเช่นกัน พลางจับชีพจรของกงซุนฉิงครู่หนึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่ลั่วยางพูด“ส่วนทางทหารกล้าตายแนวหน้า”กู้หว่านเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ที่กงซุนฉิงเหนื่อยจนล้มไป ก็เพราะว่าไม่กี่วันที่ผ่านมานักรบหมาป่าได้ให้ก

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1396

    ขณะที่นำกองทหารออกจากเมืองหลวง เขาก็รู้ว่าชีวิตของตัวเอง ช้าเร็วก็ต้องถูกพรากไป“ข้าต้องการให้ท่านเขียนคำสั่งลงโทษตัวเอง”ซูจิ่งสิงพูดทีละคำ เอ่ยปากอย่างตั้งใจตอนแรกทั้ง ๆ ที่เขาเพิ่งกลับมาพร้อมกับชัยชนะ แต่กลับถูกฮ่องเต้ชั่วและขุนนางชั่วกลุ่มนี้เนรเทศไปที่เจดีย์หนิงกู่ในข้อหากบฏแม้ว่าฮ่องเต้ชั่วจะแต่งตั้งเขาให้เป็นเจิ้นเป่ยอ๋องอีกครั้งในเวลาต่อมา แต่ความเข้าใจผิดในอดีตก็ไม่ได้รับการล้างมลทินให้เขาเวลานี้ ในสายตาผู้คนใต้หล้า เขาคืออาชญากรที่สมคบคิดกับข้าศึกและขายชาติเขาต้องการล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยมือของเขาเอง“ท่าน”ใบหน้าชราของหลี่กวงถิงทั้งอายและโกรธเคือง“ไม่”เขาส่ายหัวปฏิเสธ ต่อให้ต้องตายในมือของซูจิ่งสิงเช่นนี้ ก็ยังมีชื่อเสียงดี ๆ ฝากไว้แต่เมื่อคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ถูกเขียนขึ้นแล้ว ก็เท่ากับเป็นการยอมรับความผิดอย่างเปิดเผยตอนแรกเขาให้ความร่วมมือกับฮ่องเต้ในการใส่ร้ายซูจิ่งสิงมันต่างอะไรกับขุนนางทุจริต?ผู้คนทั่วหล้าจะถ่มน้ำลายด่าประนามเขาเช่นไร?“จะฆ่าจะแกง ก็สุดแล้วแต่ท่าน ข้ายังคงยืนยันประโยคนั้นเหมือนเดิมสำหรับคำสั่งลงโทษตัวเองนี้ ข้าไม่มีทางเขียนเด

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status