เมื่อตัวตนของฟู่ฉิงถูกเปิดเผย อีกฝ่ายย่อมปรากฏตัวออกมาแน่นอน“ช่างเขาไปเถอะ ไปกินข้าวเย็นแล้วพักผ่อนกัน”กู้หว่านเยว่บอกให้ซูจิ่นเอ๋อร์จุดไฟ วางแผนจะทำอาหารเอง ทว่าในขณะที่พวกนางเริ่มทำอาหาร ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นทันทีเป็นหญิงชราที่นำถังน้ำมา “พวกเราในหมู่บ้านล้วนแต่ดื่มน้ำสะอาดจากบ่อ กลัวว่ากลางคืนพวกเจ้าจะหากันไม่เจอ จึงนำถังมาให้ท่าน” หญิงชรากล่าว“ว้าว! ขอบคุณเจ้าค่ะ!” ซูจิ่นเอ๋อร์รับมันมาอย่างไม่ระแวงสิ่งใดหญิงชราดูท่าจะชอบพฤติกรรมของซูจิ่นเอ๋อร์มาก เมื่อหันหลังกลับก็จากไปพร้อมรอยยิ้ม“ไม่คิดว่าเหล่าชาวบ้านจะกระตือรือร้นขนาดนี้ ไม่เพียงแต่ให้ที่อยู่อาศัย แต่ยังส่งน้ำให้พวกเราด้วย ช่างมีน้ำใจจริงๆ”ขณะที่ชื่นชม ซูจิ่นเอ๋อร์ก็ยกถังน้ำเข้ามา กำลังจะเทลงในหม้อกู้หว่านเยว่ตะโกนว่า “เดี๋ยวก่อน”“มีอะไรหรือเจ้าคะ? พี่สะใภ้ใหญ่”นางเดินออกไป ยื่นนิ้ไวไปจุ่มน้ำเล็กน้อย แล้วเอามาวางไว้ใต้จมูก ดมกลิ่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า“น้ำนี้มียา ดื่มไม่ได้”ดูเหมือนว่านางและซูจิ่งสิงจะเดาถูก“มียา ยาอะไรหรือเจ้าคะ?”ซูจิ่นเอ๋อร์ถามอย่างประหม่า รีบวางถังน้ำลงทันที ราวกับว่าถือเผือก
ลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านหยิบห่อผงยาออกมาแล้วเขย่าอย่างภาคภูมิใจ “เตรียมไว้นานแล้วขอรับ”“ประเดี๋ยวข้าจะใส่ผงยาทั้งหมดลงในน้ำและอาหาร พยายามทำให้พวกมันทั้งหมดดื่มยาทั้งหมดนี่ในคืนนี้”หัวหน้าหมู่บ้านกล่าวเสริมว่า“อย่าให้ผิดพลาดเป็นอันขาด”“วางใจเถอะ ไม่ผิดพลาดแน่ เหมือนเมื่อก่อนฉวยโอกาสตอนที่ทุกคนกำลังหลบ จับพวกเขากลางดึก”“ตามนั้น!”หัวหน้าหมู่บ้านมองไปรอบๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา จึงพาลูกชายออกไปก่อนกู้หว่านเยว่ก้าวออกไป เดินตามเอ้อร์โก่ว ลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านอย่างเงียบๆ คิดในใจว่าจะใช้วิธีใดเอาห่อผงยาในมือของอีกฝ่ายมามองเห็นนางหลิ่วเดินมาพร้อมหน้าอกสะบึ้มสะโพกอวบอั๋นเข้ามา คว้าเอ้อร์โก่วเอาไว้ทันที“พี่ชาย~”ทั้งสองคนพูดอะไรบางอย่างใต้กันชายคา นางหลิ่วทำท่าทางแลดูอ่อนแรง เขาจึงพานางหลิวไปที่ห้องถัดไปทันทีหลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงชวนหน้าแดงดังมาจากห้องกู้หว่านเยว่ถอนหายใจ มั่นใจมากว่านางหลิ่วไม่รู้จักเอ้อร์โก่วอาจจะเป็นการขายเรือนร่าง เพื่อแลกกับอาหารต่อชีวิตการปรากฏตัวของนางหลิ่วแม้จะทำให้นางประหลาดใจ แต่มันก็ช่วยให้นางทำงานง่ายขึ้นหลังจากพบว่าผงยาน
“ท่านแน่ใจหรือว่าไม่อยากหนีไปก่อน?”“หรือท่านไม่อยากรู้ว่าคนในหมู่บ้านนี้ต้องการทำอะไร?”ซุนอู่แสดงออกว่าคิดไม่ถึงเลยโดยสิ้นเชิง จิตใจสงสัยสังหารแมวได้กู้หว่านเยว่ไม่ให้โอกาสเขาพูด “ตอนนี้พวกเราเป็นเหมือนเนื้อรอป้อนเข้าปาก ต่อให้อยากหนีก็หนีไม่ได้แล้ว เรื่องนี้ก็ทำตามนี้ไป หากหมู่บ้านนี้ทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อพวกเราจริง พวกเราก็ยังพอจะหยุดไว้ได้ทัน”หลังจากที่กู้หว่านเยว่พูดจบก็โบกมือและจากไป ซุนอู่ถอนหายใจออกมา ได้แต่หวังว่าพรุ่งนี้จะไม่เกิดอะไรขึ้นซูจิ่นเอ๋อร์และซูจิ่งสิงถือถังกลับไปที่เพิงไม้แล้วอุ่นอาหารแห้ง เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่เข้ามา ทุกคนก็รีบทักทายนางอย่างเป็นกังวล“พี่สะใภ้ใหญ่ (หว่านเยว่) เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”“ข้าไม่เป็นอะไร”หัวใจของกู้หว่านเยว่อ่อนเหลว หยิบไก่ย่างร้อนๆ และเนื้อย่างหอมกรุ่นออกมาจากอวกาศ“ข้าถือติดมือมา กินระวังหน่อย อย่าให้คนพบเข้า” “ว้าว!”ดวงตาของซูจิ่นเอ๋อร์เป็นประกาย ติดตามพี่สะใภ้ใหญ่มีเนื้อกินจริงๆ ด้วย ระหว่างที่ถูกเนรเทศนี้ พวกนางกินดีอยู่ดีเกินไปแล้วกระมัง?!หลายคนรีบเอาผ้าน้ำมันที่สะอาดแล้วเช็ดพื้น ทยอยวางอาหารแห้งลงไป กู้หว่า
“ตาแก่นั่นคือท่านอ๋องหรือ?” เอ้อร์โก่วหันมองหนานหยางอ๋องที่หมดสติ แล้วรู้สึกกลัวเดิมนึกว่าจะได้กำไร เขานึกไม่ถึงว่าต้องมาเจอกับท่านอ๋อง“ท่านพ่อ จะทำอย่างไรดี?”“ลงมือไปแล้ว ยังจะทำอย่างไรได้อีก ทำแล้วต้องให้ถึงที่สุด หากพวกเขาทั้งหมดตายอยู่ที่นี่ จะไม่มีใครแพร่งพรายออกไป”แววตาผู้ใหญ่บ้านเหี้ยมเกรียม“พวกเจ้าจะฆ่าคนหรือ?”ฟู่ชิงถึงกับเข่าอ่อน นางแค่อยากมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย ยังไม่อยากตาย จึงคว้าขากางเกงของเอ้อร์โก่วแล้ววิงวอน“เจ้าปล่อยข้าไปเถอะ ข้าจะจ่ายเงินให้พวกเจ้าอย่างงาม ข้าเป็นท่านหญิง พวกเจ้าต้องการเท่าใดข้าก็ให้ได้ทั้งนั้น” “ปล่อยเจ้าไป เจ้าก็ต้องไปส่งข่าวให้คนมาช่วย เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ?”เอ้อร์โก่วถีบฟู่ชิงทิ้งอย่างไม่ไยดี เขาเดินตรงไปในสวนแล้วเปิดฝาบ่อน้ำ ด้านในมืดสนิท มีเส้นทางเดินลงไปด้านล่าง“จับพวกมันไปขังไว้ในนี้ให้หมด”ผู้ใหญ่บ้านสั่งการ พวกชาวบ้านช่วยกันแบกหามแล้วทยอยพาคนลงไปด้านล่างเมื่อฟู่ชิงเห็นห้องใต้ดินที่มืดสนิท หนำซ้ำบนพื้นยังมีโครงกระดูกและหนูตาย จึงตกใจจนกรีดร้อง“ว๊าย ว๊าย ว๊าย พวกเจ้าปล่อยข้านะ ขอเพียงพวกเจ้ายอมปล่อยข้า ให้ข้าทำอะไรก็ยอม
“ชู่ว์ เบาเสียงหน่อย”กู้หว่านเยว่หยิบหน้ากากกรองก๊าซสองสามอันออกจากมิติวิเศษ ส่งให้พวกเขา“พวกท่านรีบใส่หน้ากากเร็วเข้า ในอากาศน่าจะมีก๊าซพิษ ระวังโดนพิษ”ส่วนลึกของทางใต้ดินสายนี้คือคุกแห่งหนึ่ง ด้านหลังคุกมีทางใต้ดินลึกยิ่งกว่าสายหนึ่ง หากกู้หว่านเยว่เดาไม่ผิด ภายในนี้ก็คือถ้ำสมบัติที่ด้านหน้าพวกเขาน่าจะมีคนตายมาก่อนหนึ่งกลุ่ม กินดื่มขับถ่ายล้วนอยู่ภายในคุกแห่งนี้ กลิ่นที่นี่จึงเหม็นมาก ไม่มีที่ให้พักผ่อนตั้งแต่แรก“แม่นางกู้ ตอนนี้พวกเราจะทำเยี่ยงไร?”ซุนอู่พูดไป ก็มองเห็นกู้หว่านเยว่หยิบหร่วนจินซ่านห่อใหญ่ออกมา“นี่คือหร่วนจินซ่าน อีกเดี๋ยวพวกท่านรออยู่ที่นี่ เห็นพวกเขามาแล้วก็ใช้ยาทำให้พวกเขาหมดสติไปโดยตรง”พูดไป ยังหยิบมีดพับสวิสออกมาสองสามเล่ม ส่งให้พวกซุนอู่ไว้ป้องกันตัว ดาบใหญ่ของพวกเขาล้วนถูกหัวหน้าหมู่บ้านเก็บไปแล้ว“ข้าเข้าไปดูทางใต้ดินก่อน”กู้หว่านเยว่จูงมือซูจิ่งสิง พวกเขาลงแรงมากเพียงนี้ขุดถ้ำสมบัติ ตกลงคือสิ่งใดกันแน่รอจนกระทั่งเดินเข้าส่วนลึกของทางใต้ดินแล้ว ใช้ระบบเปิดทางเข้าถ้ำสมบัติโดยตรง มองเห็นสมบัติเนืองแน่นที่ภายใน นางถึงรู้ว่าอะไรคือความบ้าคลั่ง
“พวกเจ้าสองคนออกมาเสียที”ซุนอู่บีบจมูกเดินเข้ามา ช่วยดึงพวกเขาทั้งสองออกจากทางใต้ดิน“ข้าทรมานชาวบ้านเหล่านี้อย่างหนักสอบสวนแล้วหนึ่งรอบ หัวหน้าหมู่บ้านคนนั้นปากแข็งไม่ยอมพูด เจ้ารองกลับจัดการได้อย่างเรียบร้อยหมดจดเจ้าเดาดูเถอะว่าเป็นเช่นไร คนเหล่านี้ถึงขั้นมิใช่คนในหมู่บ้านแห่งนี้”ที่แท้คนเหล่านี้ก็คือโจรบนภูเขา บังเอิญรู้ว่าใต้หมู่บ้านแห่งนี้ฝัง ‘ถ้ำสมบัติ’ เอาไว้ นี่จึงจับชาวบ้านในหมู่บ้านทั้งหมดไว้แล้วฆ่าเด็กและผู้หญิง ผู้ชายเก็บไว้ขุดถ้ำยังแสร้งเป็นคนในหมู่บ้าน หลอกคาราวานพ่อค้าคนผ่านทางมาขุดถ้ำก่อนหน้าพวกเขา มีผู้ถูกทำร้ายห้าถึงหกกลุ่มแล้วกู้หว่านเยว่เองก็คิดไม่ถึง ‘ชาวบ้าน’ สิบกว่าคนนี้ถึงขั้นเป็นโจรกระนั้นนี่ก็เพียงพอให้อธิบายเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ชาวบ้านทั่วไปไม่สามารถทำเรื่องโหดร้ายเพียงนี้ได้“ในเมื่อเดิมทีพวกเขาก็เป็นโจรเคยก่อคดีมาก่อน เรื่องนี้ก็มอบให้ทางการจัดการเถอะ”ด้านล่างมีศพมากเพียงนั้น ต้องมีคำชี้แจงอย่างหนึ่ง“ข้าให้จางเอ้อร์ขี่ม้าเร็วไปแจ้งจวนผู้ว่าการอำเภอที่ใกล้ที่สุดแล้ว อีกราวครึ่งวันก็น่าจะมาถึง”ซุนอู่พูดไป ก็สั่งให้คนมัด ‘ชาวบ้าน’ เหล่าน
“ลูกไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลยจริง ๆ ตอนนี้ไม่อาจแก้ต่างได้ ถ้าท่านไม่เชื่อ ลูกยินดีชดใช้ด้วยความตาย!”ว่าแล้วก็พุ่งเข้ากระแทกกับมุมโต๊ะ ท้ายที่สุดแล้วหนานหยางอ๋องก็ยังรักนางมาก รีบคว้านางเอาไว้“วุ่นวายนัก! ในฐานะพ่อกว่าจะตามหาตัวเจ้ากลับมาได้ช่างยากนัก เจ้าจะมาโขกหัวตาย แล้วข้าจะมีหน้าไปพบแม่ของเจ้าในปรโลกได้อย่างไร?ช่างมัน ช่างมัน เจ้าลุกขึ้นมาเถอะ”“ท่านอ๋อง!”ขุนพลหลี่ตะโกนลั่นด้วยความโมโห กู้หว่านเยว่ที่กำลังดูเหตุการณ์อยู่อีกด้านหนึ่งก็พูดขึ้นโดยพลัน“ท่านอ๋อง ท่านคิดว่านางเป็นบุตรสาวของท่านจริงหรือ?”หนานหยางอ๋องถึงได้สังเกตเห็นพวกเขาและชะงักงันไปในทันที“แม่นางน้อยกู้ นี่เจ้าหมายความว่ายังไง?”กู้หว่านเยว่แย้มยิ้มกล่าวว่า “แน่ใจว่าท่านอ๋องคงเคยสงสัยอยู่ในใจเช่นกัน ว่าคุณหนูรองนั้นเป็นบุตรสาวตัวจริงของท่านหรือไม่? เพราะถึงอย่างไรแล้ว นิสัยใจคอของนางนั้นไม่เหมือนกับท่าน กับพระชายาองค์ก่อนก็ไม่เหมือนเช่นกัน”“ไม่เหมือนแล้วจะเป็นไรไปเล่า? บนมือของข้ามีปานนะ!”ฟู่ชิงรีบลุกขึ้นมา พลางตะโกนลั่นใส่กู้หว่านเยว่ด้วยความร้อนรน“ปานหรือ คราวก่อนข้าเคยบอกไปแล้ว ปานสามารถทำปลอมขึ้นม
“อย่ามาแตะต้องตัวข้า!”ฟู่ชิงดิ้นพล่านด้วยความตกใจ ท่านแม่ทัพหลี่รีบรุดหน้าเข้าไปคว้าข้อมือของนางไว้ จากนั้นก็หยิบขนนกจุ่มยาและทาบนแขนของนางไม่นานผลลัพธ์ก็ปรากฏออกมาปานบนมือของฟู่ชิงเริ่มบวมแดงก่อนจะซีดและจางลงปานนของนางเป็นของปลอม!หนานหยางอ๋องผิดหวังอย่างมาก และรู้สึกขุ่นเคืองไม่น้อย “เจ้าไม่ใช่บุตรสาวของข้า? เจ้าเป็นใครกันแน่?”ฟู่ชิงไม่ยอมรับ ยอมรับก็เท่ากับยอมตาย นางกอดขาของหนานหยางอ๋องพลางร้องไห้คร่ำครวญ“ท่านพ่อ ข้าคือบุตรสาวของท่าน กู้หว่านเยว่ตั้งใจใช้กลอุบายมาใส่ร้ายข้า ท่านบอกว่าท่านจะพาข้าไปกราบคารวะท่านแม่ที่หนานหยาง ท่านลืมสิ้นแล้วหรือ?”“เรื่องก็มาถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ายังจะพูดจาเหลวไหลอีก”เสียงของหวังปี้ดังขึ้นด้านนอก เขาวิ่งเข้ามาพร้อมกับจดหมายหนึ่งฉบับ“หวังปี้เจ้ายังไม่ไปอีกหรือ?!” ท่านแม่ทัพหลี่ตบไหล่ของเขาด้วยความดีใจหวังปีลูบศีรษะของตัวเอง เขาดีใจที่ได้พบกับกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง ไม่ยอมจากไปตามคำสั่งของพวกเขาสองคนจนได้เจอกับหลักฐานชิ้นนี้“ท่านอ๋อง นี่คือคู่มือนำทางและจดหมายที่ข้าหาเจอในห่อสัมภาระของสตรีผู้นี้ นางถูกคนจ้างวานมา ท่านรีบอ่านเถิด!”บ
“บ่าวไปเดี๋ยวนี้เพคะ!”ชิงเหลียนหมุนกายวิ่งออกไปทันทีวันนี้คนที่เข้าเวรที่สำนักหมอนหลวงคือลั่วยางพอดี เมื่อเห็นชิงเหลียงมาเรียกคน คิดว่ากู้หว่านเยว่เป็นอะไรเสียอีก รีบคว้ากล่องยาตามออกไปทันทีหลังจากตามมาจึงจะรู้เรื่องของโจวเสี้ยนจากปากชิงเหลียน“นายท่านกับฮูหยินกำลังรู้สึกผิด ไม่ว่าจะส่งใครไป ท้ายที่สุดนี่ก็คือจุดจบของเรื่องนี้ ไม่มีใครถ้าคิดว่าองค์ชายหนานเจียงจะบ้าเช่นนี้หมอหญิงลั่ว หลังจากท่านเข้าไป ต้องเกลี้ยกล่อมฮูหยินดีๆ นะ”ลั่วยางพยักหน้า “น่าสงสารโจวฮูหยินมาก”“ก็นั่นน่ะสิ กว่าจะได้อยู่ด้วยกันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”เดิมทีสกุลโจวก็ไม่ชอบนางอยู่แล้ว ในที่สุดโจวเสี้ยนก็ได้แต่งงานกับนาง และมาซื้อบ้านอยู่ในเมืองหลวงวันดีๆ กำลังจะมาอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าเพิ่งแต่งงานได้หนึ่งเดือน ก็เกิดเรื่องเช่นนี้ระหว่างที่ทั้งสองสนทนา ก็ได้มาถึงตำหนักข้างที่ให้โจวฮูหยินพักชั่วคราวแล้วหลังจากลั่วยางคำนับทั้งสอง ก็เข้าไปตรวจชีพจรให้โจวฮูหยิน“เสียใจมากเกินไป ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หม่อมฉันจ่ายยาก็ดีขึ้นเองเพคะ”ลั่วยางเขียนตำรับยาหนึ่งแผ่น ให้ผู้ช่วยไปเอายาที่สำนักหมอหลวง ผ่านไปครู่หนึ่ง
“เกิดอะไรขึ้น?” กู้กว่านเยว่ถามชิงเหลียนคนหนักแน่น น้อยครั้งที่จะตื่นตระหนกเช่นนี้“องค์ชายสามของหนานเจียงเพคะ”นางกำหมัดแน่น โมโหจนยากจะควบคุมอารมณ์ “เขาเหิมเกริมเกินไปแล้ว เขา เขาฆ่าแม่ทัพโจวตายแล้ว!”“อะไรนะ?”สีหน้ากู้หว่านเยว่กับซูจิ่งสิงเปลี่ยนฉับพลันโจวเสี้ยนเป็นคนไปต้อนรับทูตหนานเจียงหลังจากโจวเสี้ยนยอมจำนนที่ด่านหานกู่ ก็กลายเป็นขุนนางคนสำคัญของซูจิ่งสิง ทั้งสองคิดไม่ถึงว่าคนหนานเจียงจะใจกล้าถึงขั้นฆ่าเขา“ทำไมถึงฆ่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”สีหน้าซูจิ่งสิงขรึมลงโจวเสี้ยนอายุยังน้อย เพิ่งแต่งงานเดือนที่แล้วชิงเหลียนกล่าวตอบ “ข่าวที่ส่งกลับมาบอกว่าแม่ทัพโจวลวนลามสนมรักขององค์ชายสาม ด้วยความโกรธ องค์ชายสามจึง…ฆ่าเขา”นางหยิบจดหมายฉบับหนึ่งออกจากหน้าอก“ใช่แล้ว นี่คือหนังสือยอมรับผิดขององค์ชายสามหนานเจียง”สีหน้าซูจิ่งสิงดูน่าเกลียดมาก เขารับหนังสือยอมรับผิดมา ยิ่งอ่านสีหน้าก็ยิ่งบูดบึ้ง“เขาเขียนว่าอะไร?”“เจ้าดูสิ”กู้หว่านเยว่รับหนังสือยอมรับผิดมาจากมือซูจิ่งสิง หลังจากอ่านครู่หนึ่ง ไม่น่าแปลกใจที่ซูจิ่งสิงโกรธเช่นนี้ นางก็โมโหเช่นกันองค์ชายสามคนนี้แสร้งเขี
ทว่าท่าทีของซูจิ่งสิงแสดงให้เห็นว่าเขาไม่เคยเห็นธัญพืชเช่นนี้มาก่อน“มองใบสีเขียวมรกตนี้ หรือว่าจะเป็นผัก?” ซูจิ่งสิงถามตอบด้วยตนเอง ทำเสียจนกู้หว่านเยว่หัวเราะดังลั่น“ของกินนี้เรียกว่ามันฝรั่ง อีกทั้งยังสามารถเรียกว่ามันฝรั่งหม่าหลิงได้อีกด้วย ใบของมันไม่ได้นำมากิน หัวมันฝรั่งโตที่รากต่างหากที่นำมากินเจ้าค่ะ” กู้หว่านเยว่อธิบายซูจิ่งสิงเข้าใจในทันใด “คล้ายมันเทศใช่หรือไม่?”“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่ส่งจอบให้อันหนึ่ง“ท่านพี่ ท่านขุดออกมาดูเถอะ”“ได้”ซูจิ่งสิงรับจอบไป เดินมายังตำแหน่งใกล้ที่สุด ขุดดินอย่างระมัดระวัง จากนั้นดึงรากของมันฝรั่งออกมาปริมาณมันฝรั่งภายในมิติชวนให้คนตกใจ ยิ่งไปกว่านั้นรูปร่างอ้วนกลมยังทำให้คนชอบมาก“รสชาติเจ้าสิ่งนี้เป็นเช่นไร?”ซูจิ่งสิงแปลกใจอยู่บ้าง เจ้าสิ่งที่เรียกว่า “มันฝรั่ง” นี้ เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน อีกทั้งยังไม่เคยกินมาก่อนด้วยไม่รู้ว่าเทียบกับมันเทศที่คล้ายกันแล้วจะมีรสชาติเช่นไร“ไม่มีวันทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”กู้หว่านเยว่จูงซูจิ่งสิงมายังพื้นที่กว้างแห่งหนึ่งเพื่อแสดงรสชาติอร่อยที่สุดของมันฝรั่ง กู้หว่านเยว่ไม่ได้ใช้ครัวอ
“หนานเจียงส่งคนมาแล้ว?”ดวงตาเฟิ่งอู๋ชีเผยแววประหลาดใจ “ส่งใครมาหรือ?”“องค์ชายสามหนานเจียง” กู้หว่านเยว่พูดเฟิ่งอู๋ชีเผยสีหน้าเย้ยหยันตนเอง ก้มหน้าเล่นถ้วยชาบนโต๊ะ“เป็นเฟิ่งหวู่โจวนี่เอง”“เขาน่ะ มีความสัมพันธ์อันดีกับเสด็จพี่ใหญ่ของข้ามากที่สุด”ความเสียใจบนใบหน้าเขาสะท้อนออกอย่างชัดเจน กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงล้วนสามารถรับรู้ได้ ทั้งคู่สบตากันแวบหนึ่งจึงเอ่ยถามไล่เรียง“เฟิ่งอู๋ชี พูดเช่นนี้อาจล่วงเกินท่านอยู่บ้าง แต่ตกลงสถานการณ์ที่หนานเจียงของท่านเป็นเช่นไรกันแน่?”เฟิ่งอู๋ชีเบือนหน้าหนี เขาถูกกระตุ้นให้นึกถึกเรื่องที่เสียใจจึงหลีกเลี่ยงคำถามของทั้งคู่“ข้าบอกพวกท่านได้เพียงว่าน้องสามของข้าท่านนี้ไม่มีอันใดน่ากลัว เขาเป็นสุนัขตัวหนึ่งของเฟิ่งหมิงกวง ขอเพียงพวกท่านจับเฟิ่งหมิงกวงไว้ได้อยู่หมัดก็เท่ากับจับเขาไว้ได้แล้ว”แม้ว่ากู้หว่านเยว่อยากสืบข่าวให้มากยิ่งกว่านี้ แต่เห็นว่าเฟิ่งอู๋ชีถูกพูดแทงใจ นางเองก็ไม่ได้ถามต่อ“ได้ ท่านพักผ่อนดีๆ พวกเราจะมาเยี่ยมท่านใหม่วันหลัง”นางลุกขึ้นบอกลา“น้อมส่งฝ่าบาท น้อมส่งฮองเฮา”เฟิ่งอู๋ชีอยากลุกขึ้นทำความเคารพ กลับถูกกู้หว่านเยว่
“คนที่ส่งมาคือใคร?”“องค์ชายสามของหนานเจียงพ่ะย่ะค่ะ”“องค์ชายสาม?”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากันแวบหนึ่ง หนานเจียงไม่ข้องเกี่ยวกับโลกภายนอกมานานหลายปี พวกเขารู้เรื่องหนานเจียงน้อยมาก ย่อมไม่รู้จักองค์ชายสามคนนี้ดังนั้นสองคนจึงตัดสินใจไปสอบถามเฟิ่งอู๋ชีก่อน“ช่วงนี้ร่างกายของเฟิ่งอู๋ชีเป็นเช่นไร?”กู้หว่านเยว่เอ่ยถามชิงเหลียน ช่วงนี้เป็นนางเฝ้าเฟิ่งอู๋ชีอยู่ตลอด“หลังท่านมอบเลือดของเทพเต่าให้เขาแล้ว เขาปรุงสมุนไพรด้วยตนเองจึงดีกว่าแต่ก่อนมากเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่พยักหน้าได้รู้ว่าเลือดเต่าของเฟิ่งอู๋ชีถูกเฟิ่งหมิงกวงขโมยไป กู้หว่านเยว่ก็เข้าไปในมิติปรึกษากับเต่าทะเลยักษ์หนึ่งรอบ หวังว่าจะได้รับเลือดจากตัวมันอีกเล็กน้อยแน่นอน ภายในใจนางนับเต่าทะเลยักษ์เป็นสหายแล้วหากเต่าทะเลยักษ์ไม่ยอม นางย่อมไม่บังคับเต่าทะเลยักษ์ยอมรับกู้หว่านเยว่ในฐานะเจ้านายอย่างมาก ได้รู้ว่ากู้หว่านเยว่ทำเพื่อช่วยสหายของตนก็ยื่นกรงเล็บน้อยๆ ออกไปอย่างไม่ลังเล ให้กู้หว่านเยว่เจาะเลือดหลังกู้หว่านเยว่รับไปแล้วก็รีบไปหาเฟิ่งอู๋ชีและมอบเลือดเต่าทะเลให้เขาหลังจากนั้นเขาก็พักรักษาตัวภายในตำหนักแห่งหน
ตอนหวงจูเข้าวัง ใต้เท้าหวงและหวงฮูหยินคิดว่าลูกสาวจะไปเป็นสนมสรุปคือคนพลิกบทบาทไปในเวลาเพียงชั่วพริบตา กลายเป็นขุนนางคนสนิทของกู้หว่านเยว่เสียแล้วหวงจูสวมชุดแดงใส่หมวกขุนนางกลับบ้าน ทั้งสองคนยังตอบสนองไม่ทัน ตกลงเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่“ลูกสาว เจ้าไม่ได้เข้าวังไปเป็นสนมหรือ เหตุใดเป็นขุนนางแล้วเล่า?”ดูแล้วขุนนางนี้ ตำแหน่งไม่เล็กใต้เท้าหวงขยี้ตา เขายังไม่ตื่นหรือ?“ท่านพ่อ ท่านดูไม่ผิด บัดนี้ลูกรับราชการในราชสำนักเหมือนท่านแล้ว”หวงจูคลี่ยิ้มอย่างฉลาดหลักแหลม“ฮองเฮาแต่งตั้งลูกเป็นรองผู้คุมสอบขุนนางในครั้งนี้เจ้าค่ะ”สองผู้เฒ่าสกุลหวง ‘?’“นี่ตกลงเกิดอันใดขึ้นกันแน่?”ใต้เท้าหวงใกล้หมดสติเต็มที“ท่านพ่อ ฮองเฮาตัดสินใจเปิดการสอบพระราชทานของสตรีในปีนี้ ฮองเฮาถูกใจลูก ทำลายกฎเกณฑ์เป็นพิเศษ จัดการสอบพระราชทานในครั้งนี้ขึ้นเจ้าค่ะ”สีหน้าหวงจูเรียบเฉย กลับรู้สึกตื่นเต้นอย่างมากภายในใจ ความหวังและความใฝ่ฝันของนางก็จะเป็นจริงแล้ว“จูเอ๋อร์”แววตาใต้เท้าหวงทอประกาย“เจ้าบอกพ่อ ตั้งแต่เข้าวัง เจ้าก็วางแผนไว้แล้วใช่หรือไม่?”“ใช่แล้วเจ้าค่ะ”หวงจูยกชาขึ้น พยักหน้าอย่างจริงจั
กู้หว่านเยว่โบกมือ เป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายลุกขึ้น“กำลังจะกินมื้อเช้าพอดี”กู้หว่านเยว่ล้างหน้าบ้วนปากแล้วก็วางผ้าเช็ดหน้าไว้ที่ฝั่งหนึ่ง สั่งคนไปยกอาหาร“เจ้าเองก็ยังไม่ได้กินข้าวกระมัง? ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็นั่งลงทางด้านข้าง กินไปด้วยพูดไปด้วยเถอะ”ท่าทีเป็นกันเองของนางทำให้หวงจูแปลกใจ แววตายามทอดมองนางเปี่ยมความชื่นชม“บ่าวขอบพระทัยฮองเฮามากเพคะ”ทั้งสองคนนั่งลงพร้อมกัน หวงจูกลับไม่กล้ากินจริง ที่ทำมากที่สุดคือปรนนิบัติกู้หว่านเยว่กู้หว่านเยว่เองก็อยากฉวยโอกาสนี้ทดสอบหมิงจู ดูว่าตกลงนางมีความสามารถมากเพียงใด ปราฎว่าทดสอบดูแล้วพบว่าอีกฝ่ายมีความคิดล้ำสมัยอย่างแท้จริง“เจ้าอ่านหนังสือไม่น้อย”“หลังกินเสร็จแล้วเจ้าอย่าเพิ่งไป ข้าจะให้คนทดสอบเจ้า”นางกำลังขาดผู้อยู่ใต้อาณัติไว้ใช้งานดีหวงจูชะงักไป จากนั้นดีใจอย่างบ้าคลั่ง“บ่าวขอบพระทัยฮองเฮามากเพคะ”เรื่องนี้มีหวังแล้ว!“เจ้าไปเชิญใต้เท้าเว่ยเว่ยเฉิงมาสักเที่ยวหนึ่ง”กู้หว่านเยว่สั่งหงเจาหนึ่งประโยค“เพคะ”หงเจาพยักหน้า จากนั้นรีบออกไปตามคนรอจนกระทั่งกู้หว่านเยว่กินข้าวเรียบร้อยแล้ว เว่ยเฉิงก็เดินทางเข้ามาจากนอกวัง กำล
ชิงเหลียนมองออกไป แล้วรีบกราบทูลรายงานว่า “นี่คือคนที่สกุลหวงส่งเข้ามาเมื่อหลายวันก่อน บอกว่าเข้ามาดูแลท่านเป็นพิเศษ ข้าเห็นว่านางเป็นคนว่านอนสอนง่าย จึงพานางมาที่นี่เจ้าค่ะ”หวงจูรีบหมุนตัวกลับมา นางมองกู้หว่านเยว่อย่างชื่นชม ก่อนจะรีบก้มหน้าลง คุกเข่าตรงหน้าของกู้หว่านเยว่“ข้าหวงจู ขอคารวะพระมเหสี ขอให้พระมเหสีทรงมีอายุยืนยาวเป็นพัน ๆ ปี เป็น หมื่น ๆปี”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง“เจ้าคือบุตรสาวของใต้เท้าหวง”นางมีความประทับใจต่อขุนนางอย่างใต้เท้าหวง ทำไมนะหรือ? ไต้เท้าหวงผู้นี้มีตำแหน่งไม่ธรรมดา อีกทั้งยังยังเคยทำงานภายใต้การดูแลของมู่หรงถิงมาก่อนตามหลักแล้ว นางจะต้องสืบค้นอย่างแน่นอนทว่าหลังจากที่สืบค้นแล้ว พบว่าสกุลหวงไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ใต้เท้าหวงไม่ใช่ขุนนางทุจริต ดังนั้นจึงปล่อยผ่านไม่ได้สืบค้นตระกูลของพวกนาง ตอนนี้ใต้เท้าหวงยังคงดำรงตำแหน่งเดิม“พระมเหสีทรงความจำดียิ่งนัก ท่านพ่อของข้าคือจงเฉิงหวงเหรินในตอนนี้”กู้หว่านเยว่ครุ่นคิดใต้เท้าหวงไม่ใช่ขุนนางชั้นผู้น้อยในราชสำนัก บุตรสาวของเขาก็นับว่าสามารถขึ้นเป็นพระชายาของท่านอ๋องได้ เหตุใดถึงส่งนางมา
จงหลี่ไม่ไป ตัดสินใจว่าจะตายไปพร้อมกับพวกเขาทุกคนต่างก็ซาบซึ้งใจและลำบากใจในเวลาเดียวกัน“ฝ่าบาท”ชิงเยี่ยนน้ำตาไหลพราก นัยน์ตาของจงหลี่เลื่อนมาหยุดอยู่ที่เขา ก่อนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าและตบบ่าของเขาด้วยความเชื่อมั่น“ชิงเหยียน เจ้าไปเถอะเจ้าคือองครักษ์ของข้า คือคนที่ข้าเห็นการเติบโตและเป็นคนที่ข้าเชื่อใจที่สุดเจ้าจงนำอารยธรรมของเมืองตงโจวไปตามหาหว่านเยว่ที่ต้าฉี”ในใจของเขายังเป็นห่วงน้องสาว“หลังจากที่เจอหว่านเยว่แล้ว จำไว้ บอกนางจงใช้ชีวิตอยู่ในต้าฉีให้ดี ห้ามกลับมาเมืองตงโจวอีก”“ฝ่าบาท!”ชิงเยี่ยนแสดงสีหน้าตื่นตกใจ เขาคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าสุดท้ายแล้วคนที่ต้องจากไปคือตัวเอง“ไม่ ฝ่าบาท ข้าไม่ไป ข้าจะอยู่กับท่าน”ชิงเยี่ยนแทบจะคุกเข่าร้องไห้ กอดขาของจงหลี่ไว้“ฝ่าบาท ท่านอย่าไล่ข้าเลยเขอรับ ให้ข้าอยู่ที่นี่ ข้าไม่อยากจากไปจริง ๆ”ฝ่าบาทมีพระคุณกับเขามากมายดั่งภูผา เขาจะทิ้งฝ่าบาท แล้วหนีเอาตัวรอดเพียงผู้เดียวได้อย่างไร?เขาทำไม่ได้ชิงเยี่ยนน้องไห้น้ำตานองหน้า ส่ายหัวปฏิเสธท่าเดียวจงหลี่ทอดถอนใจ แล้วประคองเขาขึ้นมา “ชิงเยี่ยน ทำไมข้าถึงต้องให้เจ้าไป? ประการแรกคื