ดวงตากู้หว่านเยว่ทอประกายระยับ จู่ๆ ก็เอ่ยปากออกมา“วิธีใด?”ซูจิ่งสิงเอ่ยถามเสียงเครียด เขาเห็นว่ามู่หรงถิงเป็นคนดื้อรั้น“ตอนนี้ยังไม่รีบ ต้องรอคนผู้หนึ่งกลับมาเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่หันมองฉู่เฟิง“เจ้าเฝ้าฮ่องเต้ดีๆ อย่าให้เขาหนีไปได้ อีกทั้งอย่าให้เขาฆ่าตัวตายเป็นอันขาด”ทว่า อิงตามความเข้าใจของกู้หว่านเยว่ที่มีต่อฮ่องเต้ชั่ว เขาเป็นคนรักชีวิตคนหนึ่ง ไม่มีวันทำเรื่องฆ่าตัวตายทำนองนี้“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”ฉู่เฟิงรีบเข้าไปในห้อง เฝ้ามู่หรงถิงอย่างใกล้ชิด“พวกเราไปกินข้าวก่อนเถอะเจ้าค่ะ”กู้หว่านเยว่พาซูจิ่งสิงกลับห้อง ทั้งคู่เหนื่อยมาหนึ่งวันหนึ่งคืน ไม่ได้นอนหลับพักผ่อน อีกทั้งยังไม่ได้กินข้าวแม้แต่มื้อเดียวนางสั่งให้ห้องครัวยกโจ๊กข้าวฟ่างเข้ามาสองถ้วยซูจิ่งสิงไม่อยากอาหารกินสองคำก็วางถ้วยลงแล้ว“น้องหญิงเจ้าเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปพักผ่อนก่อนเถอะ งานที่เหลือมอบให้ข้าจัดการก็พอ”“ไม่ได้ ข้าต้องอยู่เป็นเพื่อนท่าน”เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอดีตรัชทายาท นางกังวลซูจิ่งสิงจะวู่วามนางกินโจ๊กข้าวฟ่างทีละคำๆ ตอนวางถ้วยลง เกาเจี้ยนก็กลับมาจากภายนอกแล้ว“กลับมาเร็วถึงเพียงนี้ จ
เขาทำลายทุกอย่างของข้า ยังบังคับให้ข้าเข้าวัง บังคับขืนใจข้า”หนานหลีม่านเอ่ยถึงเรื่องในอดีต ใบหน้างดงามเปี่ยมความแค้นเคือง“ข้าไม่มีวันลืมทั้งหมดที่เขาทำกับสกุลหนานหลี”จู่ๆ นางก็หันมองทางซูจิ่งสิง“เจิ้นเป่ยอ๋อง ท่านทุกข์ใจมากใช่หรือไม่?เมื่อแรกท่านถูกยึดทรัพย์เนรเทศ จะต้องทุกข์ใจมากแน่ ใช่หรือไม่?”นางพูดพึมพำ“แต่ข้าทุกข์ใจยิ่งกว่าท่าน ข้าไม่ได้ทำอันใด ก็แค่เกิดมามีรูปโฉมเช่นนี้จวนหนานหลีอ๋องของข้า ทั้งหมดหลายร้อยชีวิตสกุลหนานหลีของข้า ถูกทำลายทั้งตระกูล เหลือเพียงข้าผู้เดียว”กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากันแวบหนึ่ง ปีนั้นฮ่องเต้ชั่วทำเรื่องนี้แล้วก็เริ่มหาทางปิดปากทุกคนวันนี้ได้ยินหนานหลีม่านพูดออกมา ทั้งคู่ยังรู้สึกตกใจเพื่อสตรีคนหนึ่งก็สามารถทำเรื่องฆ่าล้างตระกูลได้ฮ่องเต้ชั่วช่างโหดเหี้ยมอำมหิตโดยแท้กู้หว่านเยว่ลอบสอดเรื่องชาวบ้านหนานหลีม่านคนนี้งดงามจริง รูปโฉมงดงามเป็นอันดับหนึ่งทว่า เพราะวาสนาได้พบหน้ากันเพียงครั้งเดียว มู่หรงถิงก็สามารถทำเรื่องบ้าคลั่งเช่นนี้ออกมาได้หรือ?“เจ้าและมู่หรงถิงมีวาสนาได้พบหน้ากันเพียงครั้งเดียวเท่านั้นหรือ?”“ย่อมเป็นเ
กู้หว่านเยว่พยักหน้า “หนานหลีอ๋องไม่ได้ชอบนาง”หนานหลีม่านหัวเราะ “เทียนอวี๋ นางเป็นสตรีที่ชอบคาดเดาจิตใจผู้อื่น หลังจากนางเข้ามาในจวนอ๋อง แสร้งทำเป็นสหายรักกับข้า ต่อมา นางปลอมตัวเป็นข้า แล้วเข้าไปในห้องของพี่ชาย หลังจากที่เขาดื่มเหล้าจนเมา”กู้หว่านเยว่หรี่ตาลงเทียนอวี๋เป็นคนที่ฉลาดมากจริงๆ หากนางแสร้งตีสนิทกับหนานหลีม่าน แล้วสังเกตเห็นความสัมพันธ์ของหนานหลีม่านกับหนานหลีอ๋อง ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ “มิน่าผู้เฒ่าหวงถึงได้กล่าวเช่นนั้น”เป็นเวรกรรมจริงๆนางคาดเดาความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้แล้ว“ต่อจากนั้น เทียนอวี๋ข่มขู่ให้หนานหลีอ๋องจำเป็นต้องแต่งกับนาง แล้วหลอกล่อมู่หรงถิงมา จากนั้นอาศัยอำนาจของมู่หรงถิง แยกพวกเจ้าออกจากกันเพื่อให้ได้ตัวเจ้ามาครอง มู่หรงถิงจึงทำลายล้างตระกูลหนานหลี”นี่เรียกได้ว่า ราชาชิงรักขุนนางอย่างแท้จริง!“ถูกต้อง”ดวงตาหนานหลีม่านสั่นไหว“พระชายา ท่านคาดเดาได้ถูกต้องทั้งหมด”“นางหลอกเอาภาพวาดของข้า แล้วมอบให้มู่หรงถิง”เรื่องราวต่อจากนั้น เป็นที่รู้กันไปทั่วแผ่นดินเมื่อมู่หรงถิงเห็นภาพวาดหนานหลีม่าน ตกหลุมรักนางทันที จึงไปขอกับหนานหลี
“หนานหลีม่าน?”กู้หว่านเยว่เบิกตาโต รีบพุ่งเข้ามาตรงประตู แล้วถีบประตูออก เมื่อนางเห็นสภาพด้านใน ดวงตานางเพ่งมอง จากนั้นหันไปตะโกนบอกซูจิ่งสิง“ท่านพี่ ท่านอย่าเข้ามา!”ซูจิ่งสิงหดขากลับไป ฟังคำสั่งของกู้หว่านเยว่ ไม่ได้เดินไปข้างหน้าต่อแต่เขาได้กลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งออกมาจากในห้องแล้วเขาคาดเดาถึงบางอย่าง เดินวนไปมาในลานบ้านด้วยสีหน้าหนักหน่วง“หนานหลีม่าน เจ้า เจ้าทำเช่นนี้ทำไม?”กู้หว่านเยว่ก้าวไปข้างหน้าหลายก้าว ดึงตัวหนานหลีม่านที่จมอยู่ในกองเลือดขึ้นมาช่วงล่างของนางเต็มไปด้วยเลือดนางถึงกับทำคลอดให้ตัวเอง!“ข้า หน้าที่ของข้าเสร็จสิ้นแล้ว”หนานหลีม่านหายใจอย่างอิดโรย ดวงตาจ้องมองหลังคา“นี่ นี่เป็นมารหัวขนของมู่หรงถิง ข้าเก็บไว้ไม่ได้เด็ดขาด”กู้หว่านเยว่เงียบงัน“พระชายา เรื่องที่ข้ารับปากเจ้าทำได้แล้ว มู่หรงถิงรักข้ามาก เจ้า เจ้านำเด็กในอ่างเลือดไปมอบให้เขา เขาจะรับปากเจ้าแน่นอนและขอร้องเจ้า ให้รับปากข้าเรื่องหนึ่ง”กู้หว่านเยว่ไม่อาจปฏิเสธนางได้ “เจ้าว่ามา”“เสี่ยวเหอ เป็นนางกำนัลที่ข้ารับมาเลี้ยงดู นาง นางเป็นผู้บริสุทธิ์”“คุณหนู” เสี่ยวเหอคุกเข่าบนพื้น
“ซูจิ่งสิงเอ๋ยซูจิ่งสิง เจ้าบอกว่าตัวเองเป็นคนดี เป็นแบบอย่างของคนมีคุณธรรมไม่ใช่หรือ ลงมือกับสตรีเป็นวีรบุรุษประสาอะไร?”เขาพยายามอดกลั้นความห่วงใยที่มีต่อหนานหลีม่าน ไม่อยากถูกทั้งสองควบคุม“ท่านลองดูสิว่านี่คือสิ่งใด?”กู้หว่านเยว่โบกมือ สั่งให้ชิงเหลียนยกอ่างเลือดใบนั้นเข้ามา“นี่มัน”มู่หรงถิงนึกถึงบางอย่าง สองมือสั่นเทาขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นทันใด ดวงตาแดงก่ำมองไปที่สองสามีภรรยา“เราจะฆ่าพวกเจ้า!”“เราจะฆ่าพวกเจ้า!”“น้องหญิงระวัง” ซูจิ่งสิงรีบโอบเอวของกู้หว่านเยว่ แล้วพานางเบี่ยงตัวหลบไปด้านข้างมู่หรงถิงโผเข้าหาความว่างเปล่า ล้มลงบนพื้นอย่างแรงสายตากินเลือดกินเนื้อของเขาจ้องมองทั้งสอง“พวกเจ้าสองคนมันสารเลว มีความโกรธแค้นชิงชังใด ให้มาลงที่ข้า เหตุใดจึงลงมือกับนาง จิตใจช่างอำมหิตยิ่งนัก!”เขารู้ดีว่าสิ่งที่อยู่ในอ่างเลือดใบนั้นคือสิ่งใดเขาเกลียดชังสุดขีดไม่เคยเกลียดซูจิ่สิงเท่าวินาทีนี้มาก่อน“เจ้าเป็นคนดีวีรุบุรุษประสาอะไร ถึงได้ลงมือกับสตรี?”ซูจิ่งสิงมองเขาคลุ้มคลั่งอย่างเย็นชา“ตอนนั้นที่เจ้าลงมือกับมารดาของข้า เคยคิดบ้างหรือไม่ว่านางคือหญิงท้อง และในท้องน
“พวกเจ้าได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว”“ปล่อยนางซะ”กู้หว่านเยว่เก็บหนังสือรับสารภาพความผิดไว้ แล้วมองมู่หรงถิง “นางตายแล้ว”“อะไรนะ?”มู่หรงถิงเบิกตากว้าง ราวกับยามนี้เพิ่งรู้สึกตัว มองทั้งสองคนอย่างโกรธแค้นมาก“พวกเจ้ากล้าหลอกลวงเราหรือ?”“พวกเจ้าสังหารนางแล้ว แต่กลับหลอกให้เราเขียนหนังสือรับสารภาพความผิดซูจิ่งสิง กู้หว่านเยว่ ทำไมบนโลกนี้ถึงได้มีคนที่เลวทรามต่ำช้าอย่างพวกเจ้า?นางเป็นเพียงสตรีคนหนึ่งเท่านั้น นางคือผู้บริสุทธิ์”เขาราวกับคนเสียสติ ควบคุมยากยิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีกกู้หว่านเยว่มองเขา “หนานหลีม่านเป็นผู้บริสุทธิ์จริง คนในสกุลหนานหลีก็บริสุทธิ์เช่นกัน”มู่หรงถิงชะงักไปเล็กน้อย“บอกความจริงกับท่านก็ได้ พวกเราไม่ได้ฆ่านางและเด็กคนนี้ และพวกเราไม่ได้นำเด็กออกจากท้องนาง แต่นางเป็นคนเอาเด็กออกมาด้วยตัวเอง”กู้หว่านเยว่เดินไปตรงหน้ามู่หรงถิง แล้วบอกความจริงกับเขาทีละคำ“ไม่ เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด”มู่หรงถิงไม่มีทางยอมรับได้ จึงจ้องกู้หว่านเยว่อย่างเคียดแค้น“นี่ต้องเป็นคำโกหกของเจ้า เจ้าฆ่านางแต่ไม่กล้ายอมรับ ดังนั้นจึงใช้คำโกหกเหล่านี้มาปิดบัง”“นางอยู่
ไม่นานซูจิ่งสิงพาโจวเหล่ามาด้วย“พระชายา หนังสือรับสารภาพความผิดล่ะ” โจวเหล่าถามอย่างรีบร้อนกู้หว่านเยว่หยิบหนังสือรับสารภาพความผิดออกมา ยื่นให้โจวเหล่า “อยู่นี่”โจวเหล่าอ่านอย่างละเอียด น้ำตาคลอเบ้าพยักหน้า “ดี ดี ในที่สุดการตายของอดีตรัชทายาทก็กระจ่างสักที”ตอนนั้นอดีตรัชทายาทและพระชายารัชทายาทเดินทางลงใต้ มู่หรงถิงจ้างวานโจรสลัด ให้พวกเขาลอบโจมตีเรือของอดีตรัชทายาทอีกทั้งยังติดสินบนขุนนางในท้องที่ ทำให้การช่วยเหลือล่าช้าสุดท้าย ทำให้อดีตรัชทายาทและพระชายารัชทายาทต้องตายในแม่น้ำที่เย็นเยือก“โจวเหล่า” ซูจิ่งสิงอารมณ์อ่อนไหวโจวเหล่าเงยหน้ามองทั้งสองคน “ท่านอ๋อง พระชายา ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุด คือต้องประกาศให้ใต้หล้ารับรู้หนังสือรับสารภาพความผิด ให้ราษฎรทั่วหล้ารับรู้ถึงความชั่วของฮ่องเต้”ซูจิ่งสิงกล่าวเสียงเข้ม “ข้าจะสั่งคนไปจัดการเดี๋ยวนี้”เหมือนกับหนังสือรับสารภาพความผิดของหลี่กวงถิงในตอนนั้น หนังสือรับสารภาพความผิดของมู่หรงถิงถูกส่งไปที่ต่างๆ ทั่วแผ่นดินชั่วขณะนั้น ราชสำนักสั่นคลอน“ฝ่าบาทถูกจับแล้ว!”“ที่แท้รัชทายาทองค์ก่อน ตายด้วยน้ำมือฝ่าบาทหรือ”“อดีตฮ่องเต้
“เหลียงถงอวี้งดงามจนล่มเมือง อยากเห็นสักครั้งให้เป็นบุญตา” ทหารอีกคนกล่าวด้วยสีหน้าคาดหวังพอคำพูดหลุดจากปาก หัวก็ถูกคนเขกอย่างแรง“ไม่อยากอยู่แล้วหรือเจ้า เจ้านึกว่าเจ้าเป็นแม่ทัพหรือ ท่านอ๋องของพวกเราเคยมีคำสั่งเด็ดขาด ห้ามเข้าเมืองไปเสพโลกีย์ เจ้ายังกล้าไปหรือ!”“แม่ทัพฟู่ไปได้ ทำไมพวกเราจะไปบ้างไม่ได้?” ทหารไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด“เขาเป็นใครแล้วเจ้าเป็นใคร? หยุด หยุด หยุด เลิกพูดได้แล้ว ระวังใครได้ยินเข้าจะเอาชีวิตน้อยๆ ของเจ้า!”หางตาของทั้งสองเห็นกู้หว่านเยว่พาชิงเหลียนเดินมา จึงรีบหุบปากกู้หว่านเยว่มองพวกเขาแวบหนึ่ง แล้วเดินผ่านทั้งสองคนไป“ชิงเหลียน เมื่อครู่พวกเขาพูดอะไรกัน เหลียงถงอวี้อะไร?”ชิงเหลียนส่ายหน้า “บ่าวก็ไม่ทราบ อีกเดี๋ยว บ่าวจะไปสืบดูในเมืองเจ้าค่ะ”ฉู่เฟิงที่อยู่ข้างกันหัวเราะแล้วเอ่ยขึ้น“เหลียงถงอวี้ ท่านก็ไม่รู้จักหรือ?”“เจ้ารู้จักหรือ?” กู้หว่านเยว่เลิกคิ้วมองอีกฝ่ายฉู่ฟังรีบพยักหน้า “นางเป็นหญิงอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงในเมือง กำเนิดในหอนางโลม ได้ยินว่าปีนี้อายุสิบหก ทว่างดงามล่มเมืองราวบุปผา ใช่สิ นางยังไม่ถูกประมูลพรหมจรรย์เลย”ชิงเหลียนกลอ
“สกุลโจวของพวกท่านคือแม่ทัพผู้สูงส่ง ข้าเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านริมทาง มิอาจเอื้อมถึง และไม่อยากทำร้ายท่าน”หลังจากที่เหลียงถงอวี้พูดจบ ก็ผลักโจวเสี้ยนออกไป จากนั้นก็หันหลังให้เขาแม้ว่านางจะยากจน แต่นางก็มีศักดิ์ศรีในตัวเองนางศึกษาตำรามากมายมาตั้งแต่เด็ก พ่อของเขามาหานางถึงที่เช่นนี้แล้วคำพูดเหล่านั้นทำให้นางรู้สึกแย่กว่าการชี้หน้าด่าทอนางเสียอีก“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง”โจวเสี้ยนรู้สึกผิดในใจอย่างมากเรื่องของเขาคงรู้ถึงหูของท่านพ่อ แต่ท่านพ่อเคยบอกกับเขาว่าจะสนับสนุนพวกเขาสองคนคาดไม่ถึงจริง ๆว่า เขาจะแอบมาหาเหลียงถงอวี้ลับหลังเขา “ถงอวี้ ข้าไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน”“ข้ารู้ว่าท่านไม่รู้เจ้าค่ะ”เหลียงถงอวี้ทอดถอนใจ ภูมิหลังของพวกเขาซับซ้อนมาก ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ด้วยกันแต่เขาเชื่อว่าตนมองคนไม่ผิดแน่นอนโจวเสี้ยนทำเรื่องเช่นนี้ไม่ได้“เป็นเพราะท่านไม่รู้ ดังนั้นข้ายิ่งถ่วงรั้งท่านไม่ได้”เหลียงถงอวี้กล่าวอย่างเด็ดเดี่ยว“ท่านไปเถอะ ชาเย็นหมดแล้ว ถือว่าท่านดื่มไปแล้ว ต่อไปนี้เราจะไม่เจอหน้ากันอีก”น้ำเสียงของนางหนักแน่นไม่เปลี่ยนแปลงโจวเสี้ยนมองนางด้วยสายตาลึกซึ้
เป็นเหลียงถงอวี้นี่เองนางผ่านการร้องไห้มาแล้ว ดวงตาจึงได้ปูดโปนเหมือนลูกมะนาวโจวเสี้ยนมองนางอยู่เนิ่นนาน ก่อนจะขานเรียกออกไปนัยน์ตาของเหลียงถงอวี้สั่นไหว น้ำตาเอ่อล้นและไหลพรากลงมานางอยากเดินเข้าไปคุยกับโจวเสี้ยน แต่จู่ ๆ ก็นึกอะไรบางอย่างได้ จึงกลั้นใจหันไปทางอื่น“แม่ทัพโจวมาทำไมเจ้าคะ? ข้าบอกไปแล้วมิใช่หรือว่าเราจะไม่พบกันอีกตลอดชีวิต?”ในใจของโจวเสี้ยนปวดร้าว จนพูดไม่ออกครั้นฉู่เฟิงเห็นเหตุการณ์นั้น ก็รีบเดินเข้าไปพูดเสริมอยู่ข้างหูของเขา“เร็วสิ รีบพูดสิ ท่านอ๋องให้โอกาสเจ้าเพียงครั้งเดียวนะ”ฉู่เฟิงเร่งรัด บุรุษผู้นี้แสดงความรักเป็นที่ไหน เห็นแล้วเขารู้สึกขัดใจยิ่งนักโจวเสี้ยนได้สติทันทีใช่ โอกาสครั้งเดียวของเขา“ถงอวี้ ข้ารอดตายกลับมาได้ กว่าจะได้มาเจอเจ้าไม่ใช่เรื่องง่าย เจ้ากลับพูดกับข้าเช่นนี้หรือ?”โจวเสี้ยนทำตัวน่าสงสาร “ตอนนี้ข้าพูดเช่นนี้ก็เพื่อเป็นการปลอบใจ ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้ข้าจะรอดกลับมาได้อีกหรือไม่ เห็นแก่ความรักที่เราสองคนเคยมีให้กัน เจ้าจะไม่พูดกับข้าสักคำเลยหรือ?”“เจ้า...”ในที่สุดเหลียงถงอวี้ก็ใจอ่อน นางพยายามอดกลั้นก่อนจะเมินหน้าไปทางอื
บางทีอาจจะรักษาสายเลือดของสกุลฟู่เอาไว้ได้”แม่ทัพผู้เฒ่าฟู่เงยหน้าขึ้นมาอย่างตกใจ นัยน์ตาทอประกายแสงของหยาดน้ำตาเขายังคิดอยู่เลยว่าซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่อาจจะมีใจลำเอียงไปทางโจวเสี้ยน แล้วทอดทิ้งขุนนางที่สร้างคุณประโยชน์ให้แก่เจดีย์หนิงกู่อย่างพวกเขาไว้ด้านหลัง “ขอบคุณท่านอ๋อง ขอบคุณพระชายามากขอรับ”แม่ทัพผู้เฒ่าฟู่รีบคุกเข่าลงตอนนี้เขารู้แล้ว ในใจของท่านอ๋องและพระชายายังมีเขาอยู่ซูจิ่งสิงประคองแม่ทัพขึ้นมา พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“เรื่องนี้ฟู่ฉิวเป็นคนผิด หากข้าไม่อธิบายให้พวกเขาเข้าใจ ภายภาคหน้า คำสั่งของข้าอาจจะเป็นเรื่องยาก เพียงแต่ท่านโปรดวางใจ ข้าได้สั่งให้คนดูแลบุตรชายของท่านเป็นอย่างดีแล้ว”“ท่านอ๋อง....”แม่ทัพผู้เฒ่าฟู่รู้สึกละอายแก่ใจ ทั้งยังรู้สึกว่าตนนั้นช่างโง่เขลายิ่งนักท่านอ๋องและพระชายาทุ่มเทใจถึงเพียงนี้ แต่เขายังคงคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องเหล่านั้นอยู่คนเดียว ไม่ควรเลยจริง ๆ “ข้ารู้ผิดแล้ว ทั้งหมดเป็นเพราะข้าอบรมสั่งสอนเขาไม่ดี ทั้งยังต้องรบกวนท่านอ๋องมาจัดการแทนข้า ช่างน่าละอายใจยิ่งนัก”แม่ทัพผู้เฒ่าโจวคุกเข่าลงอีกครั้ง“ลุกขึ้น ลุกขึ้นเ
แววตาของซูจิ่งสิงเปล่งประกายวาบหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอแมงมุมพันขามาก่อน แต่กลับเคยได้ยินชื่อของมันเจ้าสิ่งนี้มีชื่อเสียงพอ ๆ กับนกพิราบทองคำตัวหนึ่งเป็นมือดีส่งสารไกลพันลี้อีกตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบศัตรูและสะกดรอยตาม“นี่สินะแมงมุมพันขา”ซูจิ่งสิงเพ่งพินิจแมงมุมที่อยู่ในขวดแก้วพลางกล่าวว่า“ได้ยินมาว่าเจ้าสิ่งนี้มาจากหนานเจียง มันจะเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมของหนานเจียง เจ้าเอามันมาจากองค์หญิงหนานเจียงอย่างนั้นหรือ?”“ถูกต้อง”กู้หว่านเยว่คลี่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“เดิมทีองค์หญิงหนานเจียงตั้งใจจะใช้แมงมุมตัวนี้เป็นเกาะป้องกันไม่ให้โดนจับตัวได้ ผลปรากฏว่านางไม่รู้ว่าข้าซ่อนตัวอยู่ในห้วงมิติและกลบกลิ่นอายของตัวเอง หลังจากที่ข้าเจอองค์หญิงหนานเจียง จึงถึงโอกาสเก็บแมงมุมพันขาตัวนี้กลับมาด้วย”“โจรชัด ๆ!”ซูจิ่งสิงโพล่งออกมาคาดว่าเฟิ่งหมิงกวงคงจะกำลังสงสัยว่าว่าทำไมแมงมุมพันขาถึงใช้งานไม่ได้ใครเลยจะคาดถึงว่ากู้หว่านเยว่จะมีความสามารถด้านนี้“ว่าแต่แมงมุมตัวนี้จะอยู่รอดปลอดภัยในห้วงมิติของเจ้าหรือ?”ครั้นได้ยินว่าแมงมุมตัวนี้ปรับตัวอยู่ได้แค่ในสภาพแวดล้อมของห
ซูจิ่งสิงบอกเรื่องที่เหลียงถงอวี้ไม่ได้เป็นอะไรแล้วกับโจวเสี้ยนแววตาของโจวเสี้ยนวูบไหวเล็กน้อย ก่อนจะคุกเข่าลงตรงหน้าของซูจิ่งสิง“ขอบคุณในความเมตตาของท่านอ๋องขอรับ บุญคุณอันใหญ่หลวงของท่านอ๋อง ข้าน้อยจะไม่มีวันลืมตลอดชีวิต”ชิงเหลียนขมวดคิ้วพลางกล่าว“แต่น่าเสียดายที่คนได้รับการช่วยเหลือกลับไม่สำนึกบุญคุณนี้ ทั้งยังอยากตายเสียด้วยซ้ำ”นางทนเห็นคนทำไม่ดีต่อกู้หว่านเยว่ไม่ได้แพขนตาของโจวเสี้ยนสั่นไหวเล็กน้อยกู้หว่านเยว่กล่าวว่า “ระหว่างพวกเข้าอาจเป็นการเข้าใจผิดกัน หากอยากแก้ไขความเข้าใจผิดนี้ มิสู้เจ้าถือโอกาสนี้ไปคุยกับนางสักหน่อยเถิด ข้าว่าท่าทีที่นางเปลี่ยนไป คงเกี่ยวกับเจ้าอย่างแน่นอน”โจวเสี้ยนกล่าวว่า “ข้า...ข้าออกจากค่ายทหารตอนนี้ได้หรือไม่?”ตอนนี้เขากลับกลายเป็นทหารที่ถูกจับเป็นเชลยศึก เป็นคนที่ถูกคุมขังเสียเอง“อนุญาตให้เจ้าออกไปได้หนึ่งครั้ง” ซูจิ่งสิงพยักหน้าในเมื่อกู้หว่านยว่พูดขนาดนี้แล้ว เขาคงจะทำให้นางเสียหน้าไม่ได้อีกทั้งเขาเองก็มองออก ว่านี่คือโอกาสเดียวที่เขามีหากจะให้โจวเสี้ยนยอมจำนน เขายังมีหลากหลายวิธี แต่หากจะให้อีกฝ่ายยอมรับเจ้านายอย่างพวกเขาส
ซูจิ่งสิงกล่าวเสียงขรึม “ในเมื่อขัดคำสั่งก็ต้องโดนลงโทษ มิเช่นนั้นต่อไปใครจะนับถือ?”แม่ทัพผู้เฒ่าฟู่กล่าวอย่างกระวนกระวายใจ “เขา...เขามีสภาพเป็นเช่นนี้แล้ว จะทนต่อการถูกเฆี่ยนตีห้าสิบครั้งนี้ได้อย่างไรขอรับ? ทำเช่นนี้ จะเอาชีวิตเขาเลยหรือ?”เขารีบกล่าวว่า“ดั่งคำกล่าวที่ว่า รู้เลี้ยงไม่รู้จักสั่งสอนเป็นความผิดของพ่อแม่ หากท่านอ๋องจะลงโทษบุตรชายอกตัญญูผู้นี้ ไม่สู้ให้ข้ารับแทนเถิด”กู้หว่านเยว่ขมวดคิ้วแน่น “ปีนี้แม่ทัพผู้เฒ่าฟู่อายุจะหกสิบปีแล้ว โดนเฆี่ยนตีห้าสิบครั้งแบบนี้ ท่านอยากเอาชีวิตไปทิ้งเปล่าใช่หรือไม่?”“หากท่านอยากตายขึ้นมาจริง ๆ ต่อไปทหารในค่ายจะมองท่านอ๋องอย่างไร ไม่กล่าวหาท่านอ๋องว่าเลือดเย็น โหดร้ายทารุณต่อแม่ทัพผู้เฒ่าเลยหรือ”แม่ทัพผู้เฒ่าฟู่มีสีหน้าซีดเผือด “ข้า... ไม่ได้หมายความเช่นนี้ขอรับ”“ในเมื่อไม่ได้หมายความเช่นนี้ ท่านก็ต้องลุกขึ้น ตั้งใจฟังท่านอ๋องตรัสให้จบ”กู้หว่านเยว่ขยิบตาหนึ่งครั้ง ฉู่เฟิงรีบรุดหน้าเข้าไปประคองแม่ทัพผู้เฒ่าขึ้นมาจากพื้น “ท่านอ๋อง...”นัยน์ตาของเขาไร้ความรู้สึก ซูจิ่งสิงมองเขาแวบหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยเสียงขรึมว่า “ฟู่ฉิวทำเ
แล้วเหตุใดถึงได้พูดกลับไปกลับมาเช่นนี้ บอกเรื่องสัญญาการขายตัวและคืนแห่งตัณหากับแม่ทัพน้อยฟู่แล้วใช่หรือไม่? ความขัดแย้งครั้งนี้ เจ้าไม่ได้เป็นคนยั่วยุหรอกใช่หรือไม่?”“โธ่ ใส่ร้ายกันแล้ว ใส่ร้ายกันแล้วเจ้าค่ะ”แม่เล้าร้องเสียงหลง“ข้าบอกเรื่องนี้กับแม่ทัพน้อยฟู่อย่างชัดเจน อธิบายให้เขาฟังเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ แต่เขาดันไม่ฟังเอง ทั้งยังขู่ข้า หากข้าไม่ยกถงอวี้ให้เขา จะเข้าค้นและยึดหอนางโลมของพวกเรา ในข้อหาค้ามนุษย์ผิดกฎหมาย ข้า....ข้าจะคัดค้านได้อย่างไรล่ะเจ้าคะ?”เหลียงถงอวี้คือคนที่แม่เล้าเลี้ยงดูมากับมือ แม่เล้ารักนางมาก ไม่ยอมเห็นนางตายไปเฉย ๆ อย่างแน่นอน แต่ถ้าเทียบกับอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับหอเทียนเซียง แม่เล้าเลือกอย่างหลังมากกว่าบัดนี้กู้หว่านเยว่รู้ความจริงอย่างชัดเจนแล้ว“เจ้าพูดความจริงใช่หรือไม่?”“จริงแน่นอน!”“ดี งั้นข้าขอถามเจ้าหน่อย หากเจ้าเจอกับแม่ทัพน้อยฟู่ เจ้าจะกล้าคุมเชิงเขาอย่างไร?”“เรื่องนี้... หากพระชายารับปากข้าว่าหากพูดความจริงไปแล้ว ข้าจะไม่โดนพวกเขาแก้แค้นคืนทีหลัง ข้าก็กล้ารับประกัน”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “ข้ารับปากเจ้า”แม่เล้ารีบกล่าว “เช่นนั
“ข้าน้อยระหกระเหเร่ร่อน อยู่ตัวคนเดียว ไร้จุดหมายปลายทาง แล้วแต่โชคชะตาจะลิขิต แต่ข้าน้อยก็มีหัวใจ และยกหัวใจให้ชายอื่นไปแล้วที่ข้าทำร้ายแม่ทัพฟู่ ไม่ใช่เพื่อเรื่องอื่นใด แต่เพื่อหัวใจของข้าเอง”แม้ว่าน้ำเสียงของเหลียงถงอวี้จะฟังดูอ่อนแอมาก แต่ยามที่ลั่นวาจาออกมา กลับดูจริงจังกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงต่างมองหน้ากัน และบอกว่า‘ก็แค่คำพูด!’“ฮูหยิน เหลียงถงอวี้ผู้นี้อยากรนหาที่ตายเองเจ้าค่ะ” ชิงเหลียนกล่าวเสียงเบาเรื่องนี้ชักยุ่งยากเสียแล้วสิแม่ทัพผู้เฒ่าฟู่อยากให้เหลียงถงอวี้ชดใช้ด้วยชีวิต ซึ่งเหลียงถงอวี้ก็ยอมตายเช่นกันและวิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือเหลียงถงอวี้ต้องตายแต่โจวเสี้ยนกลับอยากให้เหลียงถงอวี้มีชีวิตอยู่ต่อ“พระชายา ข้าน้อยมีเรื่องอยากจะพูดคุยกับพระชายาเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่เจ้าคะ?”จู่ ๆ แม่เล้าก็โพล่งออกมากู้หว่านเยว่เดาออกว่านอกจากเหลียงถงอวี้แล้ว แม่เล้าน่าจะเป็นคนที่เข้าใจต้นเหตุของเรื่องราวได้ดีที่สุดหลังจากครุ่งคิดครู่หนึ่ง ก็พยักหน้า “ไปคุยกันด้านในเถอะ ข้าเองก็เหนื่อยอยู่พอดี”แม่เล้ามีไหวพริบดีมาก รีบสั่งให้เด็ก ๆ ทันทีว่า “ไป ไปยกน้ำชาและขนมม
“ข้าตั้งใจมาเรียกร้องความยุติธรรมให้บุตรชายของข้า เรื่องนี้ต้องมีบางอย่างไม่ถูกต้อง บัดนี้อวัยวะสืบพันธุ์ของบุตรชายข้าได้รับความเสียหาย ข้ามีบุตรชายเพียงคนเดียว ต่อไปตระกูลของข้าจะไม่มีทายาทสืบสกุลอีกแล้ว”กู้หว่านเยว่เลิกคิ้วสูง“แม่ทัพผู้เฒ่า เท่าที่ข้ารู้มา ค่ายทหารมีคำสั่งห้ามเหล่าทหารออกมาเที่ยวเตร่หอนางโลมโดยเด็ดขาด”“ใช่ มีคำสั่งนี้จริง ๆ”แม่ทัพผู้เฒ่าไอกระแอมหนึ่งเสียง จากนั้นก็ชี้ไปทางเหลียงถงอวี้ผู้นั้น“เพียงแต่เรื่องของบุตรชายข้าไม่นับว่าเป็นการซื้อตัวนางโลมสนองความใคร่ เพราะเขาและสตรีผู้นี้ชอบพอกัน ทั้งยังใช้ตั๋วเงินไถ่ตัวนางออกไปแล้วด้วย”ทันทีที่แม่ทัพผู้เฒ่าพูดจบ สตรีที่ค่อนข้างมีอายุที่อยู่ถัดไปผู้หนึ่งก็รีบคุกเข่าลง“แม่ทัพพูดถูกเจ้าค่ะ ข้าไม่กล้าโกหกหรอก นอกจากจะหลับนอนด้วยกันแล้ว แม่ทัพน้อยฟู่ก็ยังนำเงินมาไถ่ตัวเหลียงถงอวี้ออกไปอีกด้วยเจ้าค่ะ”สตรีผู้นี้น่าจะเป็นแม่เล้าของหอเทียนเซียงกู้หว่านเยว่มองไปทางซูจิ่งสิงแวบหนึ่งซูจิ่งสิงพยักหน้าให้นาง“เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริง ๆ สัญญาการขายตัวก็อยู่กับข้า”เขาหยิบสัญญาการขายตัวยื่นให้กับกู้หว่านเยว่กู้หว่