หน้าหลัก / รักโบราณ / ชายาอสรพิษ / ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 1

แชร์

ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 1

ผู้เขียน: เสี่ยวหลันฮวา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-25 19:16:21

แสงจากดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปนานแล้ว บริเวณรอบด้านปกคลุมไปด้วยความมืดมิด คล้ายว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเท่านั้น แต่ก็ราวกับผ่านไปเนิ่นนานเช่นเดียวกัน เรื่องทั้งหมดคล้ายดั่งความฝันตื่นหนึ่งของนาง ถ้าหากนางไม่ได้ยินเสียงอ้อแอ้ที่ดังอยู่ในหัวปลุกให้นางตื่นขึ้นมาตอนนี้

หลี่หลิงเฟิ่งค่อยๆ ลืมตาช้าๆ แวบแรกที่เห็นก็คือสถานที่อันเวิ้งว้างและแห้งแล้งเหมือนทะเลทราย แต่ว่ามีขนาดเล็กประมาณห้องเก็บฟืนในเรือนของนาง ใกล้ๆ นางมีต้นไม้เหี่ยวเฉารอวันตายอยู่ต้นหนึ่งข้างโขดหิน ถัดไปอีกไม่ไกลมีบ่อน้ำ เอ่อ...ไม่ควรเรียกว่าบ่อ เรียกมันว่าแอ่งจะเหมาะสมกว่า

นี่...นี่คือก้นหุบเหวอย่างนั้นหรือ ช่างแตกต่างจากที่นางคิดไว้โดยสิ้นเชิง หรือว่าตอนนี้นางเป็นวิญญาณอยู่ในปรโลกกัน

นางจำได้ว่าครั้งสุดท้ายนางโดนวิหคเพลิงโจมตีที่หน้าอก แต่ตอนนี้นอกจากไม่เจ็บปวดแล้ว บาดแผลฉกรรจ์ก็หายไปด้วย ราวกับว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าไม่ติดตรงที่นางเห็นรอยเสื้อขาดตรงอกและรอยเลือดที่เปื้อนอยู่ตามตัว

“นายท่าน ในที่สุดท่านก็ฟื้นสักที ที่นี่ไม่ใช่ทะเลทรายและท่านยังไม่ตาย จิตของท่านแค่เข้ามาในมิติ ภายนอกจะดูเหมือนว่าท่านแค่หลับไปเท่านั้น” เสียงอ้อแอ้ที่นางเคยได้ยินดังขึ้นอีกครั้งและครั้งนี้มันดังอยู่ข้างหูนี่เอง หลี่หลิงเฟิ่งฟื้นคืนสติ ภายในใจสะดุ้งอย่างรุนแรง สมองขาวโพลนไปหมด จับต้นชนปลายไม่ถูก

นางหันไปมองรอบๆ อย่างหวาดระแวง แต่ก็ไม่เจอสิ่งมีชีวิตใดๆ นอกจากต้นไม้นี่ แล้วใครกันที่พูดกับนาง

“นายท่าน ผ่านมาเนิ่นนาน ที่สุดแล้วข้าก็ได้พบท่านอีกครา” เสียงเด็กผู้ชายอายุราวสามสี่ขวบปีสะอื้นไห้อยู่ข้างหูนาง นี่มันเรื่องอะไรกัน ใครกันที่กำลังพูดกับข้า

“นายท่าน ท่านไม่ต้องมองหาข้าหรอก ท่านเดาถูกตั้งแต่แรกแล้ว ข้าก็คือต้นไม้เหี่ยวๆ ที่บอกนั่นแหละ” เสียงเด็กชายดังขึ้นมาอีกครั้งด้วยความไม่พอใจ

“เดี๋ยวนะ เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ นายท่าน?” หลี่หลิงเฟิ่งลุกขึ้นนั่ง ขมวดคิ้วหันไปมองเจ้าต้นไม้ที่อ้างว่าพูดได้นั่น “เจ้าเป็นสัตว์อสูรหรือ แล้วที่นี่ที่ไหน”

นี่...เท่าที่นางรู้มาพืชอสูรมีน้อยมาก แต่พืชอสูรที่พูดได้นั้นนางไม่รู้จักมาก่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวนางเป็นดั่งกบในกะลา ความรู้ยังไม่สู้ขนนกเลยด้วยซ้ำ

“นายท่าน ข้าไม่ใช่สัตว์อสูร แต่เป็นพืช” เจ้าต้นไม้นิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย “ที่นี่คือมิติมายาของท่านเอง ข้าอยู่ในนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่เป็นเพราะข้าถูกปิดกั้นการสื่อสารจากท่านทำให้ท่านไม่รับรู้ตัวตนของข้า แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดการสื่อสารของท่านกับมิติมายาถึงใช้การได้ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าท่านมีอันตรายถึงแก่ชีวิตทำให้ท่านปลุกพลังธาตุมิติมายาขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ”

“เจ้ากำลังจะบอกว่าข้าอยู่ในมิติมายาและพลังของข้าถูกปิดผนึกไว้งั้นหรือ แถมข้าก็เป็นเจ้านายของเจ้าอีกด้วย” สีหน้าของหลี่หลิงเฟิ่งฉายแววฉงน

ถ้านางมีมิติมายา นางก็คือผู้ใช้พลังธาตุมิติมายาน่ะสิ จะใช่หรือ

หลี่หลิงเฟิ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าการที่นางตกอยู่ในอันตรายจะไปกระตุ้นพลังธาตุที่ถูกปิดผนึกของนางเข้า

นี่ไม่เท่ากับว่านางมีกระเป๋าโดเรม่อนหรอกหรือ มิติมายาที่นางครอบครองอยู่นี้สามารถไปกับนางได้ทุกที่ทุกเวลา ติดตัวนางเสมือนกระเป๋าล่องหน แถมยังเก็บสิ่งของต่างๆ ได้อีกด้วย ต่อให้พื้นที่แห่งนี้จะเล็กมากไปหน่อยก็ตาม

ถ้าคนพวกนั้นรู้ว่าตัวไร้ค่าอย่างนาง กลับกลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในตระกูล จะทำหน้ายังไงนะ แค่คิดก็สนุกขึ้นมาแล้วสิ

“ใช่แล้ว นั่นเป็นเพราะก่อนหน้านี้ข้าใช้พลังทั้งหมดของข้าเพื่อช่วยให้ท่านรอดตาย เลือดของท่านออกมาเยอะเกินไป พวกเราจึงทำพันธสัญญากันโดยบังเอิญ นี่อาจเป็นอีกเหตุผลให้มิติมายาของท่านเปิดออกมา”

เสียงอ้อแอ้เงียบไปสักพัก ก่อนจะเอ่ยต่อ “ในเมื่อพวกเราเป็นนายบ่าวกันแล้ว ถ้าพลังท่านถูกผนึกไว้จริง ข้าสามารถช่วยท่านได้”

“เจ้าจะช่วยข้าอย่างไร” หลี่หลิงเฟิ่งตาเป็นประกาย น้ำเสียงที่ถามกลับไปติดจะตื่นเต้น

“ข้าคือต้นไม้แห่งจิตวิญญาณที่อยู่มาแล้วนับพันปี มีเรื่องไหนบ้างที่ข้าไม่รู้ เพียงท่านนำผลของข้าไปผสมกับน้ำทิพย์แล้วดื่ม เท่านี้พลังที่ถูกปิดผนึกอยู่ก็จะสลายไปทันที” เสียงอ้อแอ้ร้องออกมาอย่างผยอง ราวกับกำลังโอ้อวดสรรพคุณของตัวเอง

“ผลไม้ชนิดนี้ของข้าเรียกว่าผลจิตวิญญาณ นอกจากจะช่วยให้พลังของท่านปลดผนึกแล้ว พลังยุทธ์ของท่านก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอีกด้วย และแน่นอนว่าเมื่อไหร่ที่ข้ากลายร่างเป็นคนได้ ข้าก็ออกผลอย่างอื่นให้ท่านได้อีกหลายอย่าง”

“แต่ตอนนี้ข้าได้ใช้พลังเพื่อช่วยเหลือท่านจนหมดแล้ว เหนื่อยยิ่งนัก ท่านต้องสัญญานะว่าจะเลี้ยงดูข้า ไม่ทอดทิ้งข้าเหมือนที่ผ่านมา” เด็กน้อยพูดออกมาอย่างหดหู่ใจ

“ได้สิ นำผลไม้นั่นมาให้ข้า แล้วข้าจะรดน้ำพรวนดินให้เจ้าเป็นอย่างดี” นอกจากปลดปล่อยพลังออกมาได้แล้ว ยังเพิ่มพลังให้พลังยุทธ์ได้ด้วย แม้ในใจจะนึกฉงนอยู่บ้างว่าเหตุใดพืชอสูรตนนี้ถึงบอกว่านางเคยทอดทิ้งมัน แต่คิดไปก็ไร้ประโยชน์ โลกนี้ไม่เคยมีอะไรสมเหตุสมผลมาตั้งแต่วันแรกที่นางมาเยือนแล้ว

วันข้างหน้ายังอีกยาวไกล หลี่หลิงเฟิ่งเชื่อว่าสักวันนางต้องได้คำตอบอย่างแน่นอน

นี่มัน...

ดวงตาของหลี่หลิงเฟิ่งส่องประกายวิบวับ บอกได้เลยว่าตอนนี้นางตื่นเต้นจนแทบเก็บอาการไม่อยู่แล้ว

“อย่าลืมนะ ท่านต้องเลี้ยงดูข้า” หลังจากสิ้นประโยคสุดท้าย ต้นไม้ที่เคยเหี่ยวเฉา ค่อยๆ หดตัวลงเป็นต้นกล้าเหลืองเฉาพร้อมกับผลไม้สีแดงสดลูกหนึ่งกลิ้งมาตรงหน้านาง

หลี่หลิงเฟิ่งไม่คิดอะไรมาก นางหยิบผลไม้สีแดงสดขึ้นมา ลุกขึ้นเดินไปวักน้ำมารดต้นอ่อนที่กำลังจะตาย ทันใดนั้นต้นกล้าอ่อนที่เคยเหี่ยวเฉาพลันมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที ชูใบสีเขียวอ่อนเต่งตึงสู้หน้านาง

“ฮึ เจ้าคงกระหายมากสินะ” หลี่หลิงเฟิ่งพูดอย่างติดตลก เปรียบดั่งเจ้าตัวน้อยนี่หิวน้ำมากจนจะเป็นลม

“ว่าแต่เจ้ามีชื่อหรือไม่ จะให้ข้าเรียกเจ้าว่าอะไรดี” หลี่หลิงเฟิ่งรออยู่นานก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ นางทึกทักเอาเองว่าเจ้าพืชอสูรตัวนี้คงจะไม่มีชื่อแล้ว

“เอาอย่างนี้มั้ย ข้าเรียกเจ้าว่า เสี่ยวมู่ ดีหรือไม่” กระแสลมเย็นสายหนึ่งพัดผ่านตัวหลี่หลิงเฟิ่ง ราวกับบ่งบอกว่ามันยินดีกับชื่อนี้

หลี่หลิงเฟิ่งยักไหล่ ไม่รอเอาคำตอบจากเสี่ยวมู่ สำหรับนางในตอนนี้การฝึกพลังยุทธ์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

นางเดินไปวักน้ำดื่มแก้กระหายเข้าไปสองสามอึก ไม่นานเรี่ยวแรงที่อ่อนล้ากลับมากระปรี้กระเปร่าเหมือนเดิม

เป็นไปได้ยังไง หรือว่านี่ไม่ใช่น้ำทั่วไป

หลี่หลิงเฟิ่งขมวดคิ้วพลางครุ่นคิดถึงความแปลกประหลาดนี้ น้ำที่รดพืชอสูรให้กลับมามีชีวิตได้ทันที ซ้ำยังมีสรรพคุณช่วยฟื้นฟูร่างกาย นี่ต้องไม่ใช่น้ำแร่ธรรมดาแน่ๆ หรือว่าจะเป็น...น้ำทิพย์!

เสียงในหัวใจของนางกู่ร้องอยู่ภายในอย่างบ้าคลั่งกับการค้นพบนี้

พึงเข้าใจด้วยว่าในดินแดนแห่งนี้การได้ครอบครองน้ำแร่คือสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากยิ่ง ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงน้ำทิพย์เลย สำหรับอาณาจักรหลิวเฟิงนั้น น้ำทิพย์มีอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น!

นี่นางเจอขุมสมบัติเข้าแล้วหรือนี่ แถมยังมหาศาลอีกด้วย

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชายาอสรพิษ   ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 2

    วันเวลาไม่คอยท่า ในเมื่อมีหนทางเปิดให้นางเดินแล้วมีหรือคนอย่างนางจะไม่เลือกเดิน หลี่หลิงเฟิ่งกัดผลจิตวิญญาณพร้อมกับวักน้ำทิพย์ในแอ่งขึ้นมาดื่มหนึ่งอึกจู่ๆ ความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวทั้งกายก็ถาโถมเข้ามาใส่ร่างของนางราวกับมีดนับพันเล่มเฉือนเนื้อนางออกเป็นชิ้นๆ กระดูกของนางราวกับถูกค้อนทุบจนแหลกละเอียด นอกจากความรู้สึกเจ็บปวดเหล่านี้แล้ว นางยังรู้สึกถึงพลังรุนแรงสองขุมต้องการจะทะลักทะลวงออกมาจากอก ทั้งร้อนรุ่มทั้งเย็นสบายช่างทุกข์ทรมานจริงหนอ นางอยากละทิ้งความตั้งใจที่มีแต่เดิม แต่ก็รู้ถึงผลแห่งความล้มเหลวว่าจะเป็นอย่างไรหลี่หลิงเฟิ่งรู้ดี ถ้าพลาดโอกาสในครั้งนี้นางก็คงเป็นได้แค่เศษสวะไปชั่วชีวิต ในเมื่อนางเลือกแล้วว่าจะไม่ยอมเป็นตัวไร้ค่าอีกต่อไป ก็ได้แต่กัดฟันทนสู้กับมัน“จะอย่างไรข้าก็ต้องทน เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ อยากจะไปจะอยู่ที่ใดก็ไม่มีใครขวางข้าได้ทั้งนั้น” หลี่หลิงเฟิ่งตัดสินใจนั่งสมาธิทันที เหงื่อกาฬผุดขึ้นทั่วทั้งร่าง ทั้งยังรู้สึกเหมือนธาตุไฟเข้าแทรก พลังสองขุมนั้นกำลังปะทะกันอย่างดุเดือดภายในกายของนาง นิ้วทั้งสิบจิกลงบนฝ่ามือจนเลือดซิบ นางพยายามประคองสติตนเอง กดขุมพลังที่ร้อนร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 3

    ผลจากการปลดผนึกและเลื่อนระดับขั้นพลังยุทธ์ ทำให้ร่างกายของนางมีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ความรู้สึกเมื่อยล้าอ่อนแรงง่ายจากการขาดสารอาหารมานานปี กลับไม่ปรากฏให้เห็นอีกแล้ว ตลอดทั้งร่างเต็มแน่นไปด้วยความมีชีวิตชีวา ผิวพรรณจากที่เคยซีดหมองกลับมีน้ำมีนวลขึ้นมาทันตาแต่เดิมใบหน้าของเด็กน้อยมีความคล้ายคลึงกับใบหน้าของนางในชาติก่อนอยู่ประมาณเจ็ดแปดส่วน แต่ตอนนี้นางค้นพบว่าใบหน้านี้ไม่เพียงคล้ายนางเต็มสิบส่วนแต่ยังอ่อนเยาว์เปร่งปรั่งนวลเนียนกว่าเดิมหลายเท่าหลี่หลิงเฟิ่งกลับเข้าไปสำรวจในมิติอีกครั้ง นางสัมผัสได้ว่ามิติของนางมีการเปลี่ยนแปลงทันใดนั้นมุมปากของนางยกยิ้มกว้าง ดวงตาฉายแววเจ้าเล่ห์ เป็นดังคาด มิติมายาสัมพันธ์กับความแข็งแกร่งของผู้ครอบครอง พื้นที่จากเดิมที่แห้งแล้งเหมือนทะเลทรายค่อยๆ ฟื้นฟู ถึงจะแค่นิดเดียวแต่ก็เพียงพอให้นางกู่ร้องในใจได้แล้วไหนจะพื้นที่ที่ขยายใหญ่ขึ้นอีกล่ะการค้นพบครั้งนี้ทำเอาหลี่หลิงเฟิ่งแทบคลั่ง“เพราะมันดีแบบนี้สินะ ผู้ฝึกพลังยุทธ์ธาตุมิติมายาถึงได้มีน้อยยิ่งกว่าขนนก ไม่รู้ว่าเพราะว่าหายากอยู่แล้ว หรือถูกตามไล่ล่าสังหารเพราะพรสวรรค์ที่โดดเด่นกันแน่” หลี่หลิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   ตัวไร้ค่าผู้มากพรสวรรค์ 4

    ด้วยความเมื่อยล้าจากการอยู่ในป่ามาหลายวันทำให้นางนอนหลับเป็นตายไปหนึ่งวันเต็ม เนื่องจากอาการแสบท้องเพราะอดอาหารปลุกให้นางตื่นขึ้นมา เวลาที่หลี่หลิงเฟิ่งลุกนั่งจากเตียงก็เหลือบเห็นพวกเสี่ยวเซียงทำตัวลับๆ ล่อๆ อยู่ข้างประตู หญิงสาวจึงเอ่ยเรียกอย่างเนิบๆ“เสี่ยวเซียง เสี่ยวเฉิน” เมื่อได้ยินเสียงเรียกของเจ้านาย ร่ายกายทั้งสองก็สะดุ้งทันที“คุณหนู ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ” ทั้งสองเดินเข้ามาในห้องอย่างหวาดๆ“พวกเจ้ากลัวอะไรกัน ข้าได้ดุด่าพวกเจ้าซักคำหรือไม่” หลี่หลิงเฟิ่งคร้านจะสนใจกับนิสัยพวกนาง“คุณหนูเจ้าขา บ่าวผิดไปแล้วเจ้าค่ะ ข้าไม่คิดว่าจะท่านออกจากป่าอัศดงมาครบสามสิบสอง ที่นั่นอันตรายมากนะเจ้าคะ มีสัตว์อสูรดุร้ายเต็มไปหมด” เสี่ยวเซียงคุกเข่าคลานเข้ามาจับขาหลี่หลิงเฟิ่งแน่น ก้มหน้าหงอยๆ ยอมรับความผิด“เจ้าคิดว่าข้าจะออกมาไม่ได้ซะมากกว่า ข้าก็เดินออกมาน่ะสิ” หลี่หลิงเฟิงประหลักปะเหลือกใส่เสี่ยวเซียงมุมปากเสี่ยวเฉินกระตุกครั้งหนึ่ง ทว่ายังคงยืนเงียบไม่กล้าขยับ“เจ้าจะถามอะไรนักหนา ข้าหิวแล้ว มีอะไรให้กินหรือไม่” มือขวานางเลื่อนลงไปลูบท้องที่ร้องประท้วงหาอาหารอยู่ตอนนี้“รอสักครู่เจ้าค่ะ ข้าจ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   บุรุษปริศนา 1

    วันเวลาแห่งความสงบสุขล่วงเลยผ่านไปวันแล้ววันเล่า จนมาถึงคืนอันเงียบสงัดคืนหนึ่งในขณะที่ทุกคนหลับไหลกันหมดแล้ว แต่ยังมีบ้านหลังหนึ่งที่ตะเกียงยังคงสว่างไสว ภายในห้องมีคนนั่งอยู่เต็มไปหมด บ้างมีสีหน้าเคร่งเครียด บ้างหน้านิ่วคิ้วขมวด บ้างตื่นเต้นดีใจ หรือแม้กระทั่งรังเกียจเดียดฉันท์ ราวกับกำลังเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นเกิดอะไรขึ้นน่ะหรือ“คุณหนู ท่านควรชี้แจงให้ชัดเจนนะขอรับ อย่างนี้ข้าจะบอกนายท่านว่าอย่างไร” ชายอาภรณ์สีเทาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเสี่ยวเซียงหันไปกล่าวกับหลี่หลิงเฟิ่งที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเก้าอี้ไม้สลักตัวยาว ชายหนุ่มแย้มยิ้มจนแข็งเกร็งไปทั่วหน้า ในใจคิดอย่างขมขื่นที่ตนต้องมารับหน้าที่นี้ หากแต่ก็ไม่กล้าเผยสีหน้าไม่พอใจอย่างไรก็ดี เขาค่อนข้างแปลกตาและไม่คุ้นชินกับคุณหนูห้าผู้มีชื่อเสียไปทั่วแว่นแคว้นนางนี้สักเท่าไหร่ หญิงสาวไม่ได้อ่อนปวกเปียกเหมือนพลับนิ่มดังเช่นกาลก่อนอีกแล้ว นอกจากนี้เขายังสัมผัสถึงความน่าเกรงขามขึ้นหลายส่วนอีกด้วยบุรุษชุดเทาปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นบนใบหน้าเล็กน้อย อาจเป็นเขาที่คิดมากไปเอง จะเป็นไปได้อย่างไรที่หลี่หลิงเฟิ่งจะให้ความรู้สึกที่แค่สบสายตาก็เส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   บุรุษปริศนา 2

    เช้าตรู่วันถัดมา หลี่หลิงเฟิ่งมาถึงป่าอัศดงก่อนเวลาหนึ่งชั่วยาม ตั้งแต่นางค้นพบสมุนไพรล้ำค่าในป่าลึก กิจวัตรประจำวันของพวกนางจึงได้เพิ่มการหาสมุนไพรในป่าแห่งนี้ไปขาย โดยปกติแล้วนางมักจะพาเสี่ยวเซียงมาด้วย เพื่อฝึกให้สาวใช้ได้ปรับตัวและคุ้นชินกับการเอาชีวิตรอดต่ออันตรายเล็กๆ น้อยๆแรกเริ่มเสี่ยวเซียงก็หวาดกลัวจนตัวสั่น แต่ก็ไม่อยากให้เจ้านายเข้ามาตามลำพัง อย่างไรก็ตามความเป็นความตายของนางก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตของหลี่หลิงเฟิ่ง จึงได้ทำใจกล้าไปกับหลี่หลิงเฟิ่งทุกครั้ง นานวันเข้าจากคนที่รู้สึกหวาดกลัวกลับกลายเป็นรอคอยที่จะผจญภัยกับบทเรียนใหม่ๆ ทุกวัน การเปลี่ยนแปลงของสาวใช้ตัวน้อยนางนี้ทำเอาหลี่หลิงเฟิ่งพึงพอใจอย่างมากเพราะมีเวลาจำกัด ไหนจะเรื่องที่ต้องแอบหลบสายตาสอดส่องจากอาคันตุกะที่ไม่ได้รับเชิญพวกนั้น วันเวลาที่นางสามารถกอบโกยสมุนไพรก็น้อยลงไปทุกทีวันนี้จึงแตกต่างออกไปเล็กน้อย นางละทิ้งการฝึกฝนเสี่ยวเซียง เลือกพาเสี่ยวเฉินติดตามมาแทน นอกจากจะทำให้นางกังวลเรื่องความปลอดภัยน้อยลง ก็ยังสามารถหาสมุนไพรได้มากกว่าทุกวัน ความรู้ตลอดหลายเดือนที่นางพร่ำสอนก็ไม่ได้เสียเปล่าแต่อย่างใดตั้งแต่นางต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   บุรุษปริศนา 3

    หลี่หลิงเฟิ่งไม่คิดจะซ่อนตัวอีกต่อไป นางฟาดฝ่ามือลงบนกลางหลังเสี่ยวเฉินด้วยแรงทั้งหมดที่มีเพื่อส่งเสี่ยวเฉินให้ไปไกลมากที่สุด ส่วนนางรุดเข้าไปหาชายชุดดำข้างหน้า ขณะที่นางเอี้ยวตัวหันไปผลักเสี่ยวเฉินนั้นมืออีกข้างที่ว่างอยู่ล้วงเข้าไปหยิบผงสีขาวชนิดหนึ่งในมิติออกมา“คุณหนู!” เสี่ยวเฉินที่โดนฝ่ามือปะทะจากผู้ฝึกยุทธ์ขั้นกำเนิดใหม่ระดับกลางลอยละลิ่วไปหลายจั้ง ดวงตาฉายแววตื่นตระหนก เมื่อร่วงลงบนพื้นได้ก็ทำท่าจะวิ่งกลับมาหาหลี่หลิงเฟิ่งอีกครั้ง‘กลับไป! รีบไปตามอู๋เหยียนมาที่นี่ เร็ว! ยิ่งเจ้าอยู่จะยิ่งทำให้ข้าห่วงหน้าพะวงหลัง ไปซะ’ หลี่หลิงเฟิ่งเพ่งกระแสจิตอย่างหนักหน่วงจนรู้สึกปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย นางไม่แน่ใจว่าเสี่ยวเฉินจะได้ยินที่นางพูดหรือไม่ นางเคยอ่านเจอในตำราฝึกพลังธาตุ ทว่าก็ยังไม่เคยลองใช้มาก่อนอย่างไรก็ดี นางไม่สามารถสัมผัสกลิ่นอายเสี่ยวเฉินได้อีก หลี่หลิงเฟิ่งถอนหายใจอย่างโล่งอก ยังดีที่กระแสจิตของนางใช้ได้ อย่างน้อยเสี่ยวเฉินก็ไม่ได้วิ่งกลับเข้ามาหานางหลี่หลิงเฟิ่งสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เรียกความมั่นใจของตนกลับมา มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบ ด้วยพละกำลังของนางในตอนนี้ คิดจะใช้พลังย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   บุรุษปริศนา 4

    เมื่อพินิจดูอย่างละเอียด นอกจากสมบัติเหล่านั้นแล้ว ยังมีโครงกระดูกกระจัดกระจายอยู่เต็มพื้นไปหมด แค่คิดนางก็เข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหลายคงเป็นของเจ้าของโครงกระดูกเหล่านี้ที่ถูกเจ้าปีศาจตนนั้นสังหารหลี่หลิงเฟิ่งมองสมบัติมากมายแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ถ้าเก็บทีละชิ้นนางได้ขาดอากาศหายใจก่อนเป็นแน่ นางจะเก็บหมดได้อย่างไร หญิงสาวครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ลองกวาดมือออกไปบริเวณที่มีสมบัติพลางคิดในหัว ‘เก็บ’ สมบัติที่กองเกลื่อนกลาดอยู่ตรงหน้าหายวับไปในพริบตาอย่างนี้ก็ได้หรือ ที่ผ่านมานางมัวเก็บทีละชิ้นให้เสียเวลาไปทำไมหลี่หลิงเฟิ่งส่งพลังจิตเข้าไปสำรวจในมิติของตนเอง พบว่าพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆ ของนางอัดแน่นไปด้วยสมบัติ แทบไม่เหลือพื้นที่ให้ใช้สอยเลยด้วยซ้ำนางเริ่มกลัดกลุ้มขึ้นมาบ้างแล้ว เห็นทีข้าต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ นางได้แต่บ่นอุบอยู่ในใจอย่างช่วยไม่ได้ช่างมันไปก่อน เรื่องของวันหน้าก็เอาไว้คิดกันวันหน้า ยังดีที่มิติของนางยังเก็บสมบัติไปได้หมด ไม่อย่างนั้นคงเสียดายแย่ อย่าหาว่านางทำตัวเหมือนโจรปล้นชิงเลย ก็ใครใช้ให้นางมีมิติมายาติดกายกันเล่าครืนนพลังจากบนบกสั่นสะเทือนมาถึงใต้น้ำ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25
  • ชายาอสรพิษ   พี่ชายงั้นหรือ 1

    บรรยากาศเงียบสงัดแพร่กระจายไปทั่วห้อง หลี่หลิงเฟิ่งหายใจสะดุด ดวงตาเรียวสวยไม่ได้เลื่อนออกจากใบหน้าของบุรุษผู้นั้นเลย เช่นเดียวกับดวงตาคมกริบกวาดมองนางเงียบๆเนิ่นนาน ไร้ซึ่งคำพูด และไม่ขยับคล้ายเวลาล่วงเลยไปหลายสิบปี เสียงสูดลมหายใจอย่างหนักหน่วงดังขึ้นทำลายความเงียบงันที่น่ากระอักกระอ่วนนี้ สุดท้ายแล้วยังคงเป็นหลี่หลิงเฟิ่งที่ทนไม่ไหว ใคร่สงสัยตัวตนบุรุษรูปงามท่านนี้ ริมฝีปากเม้มแน่น อยากพูดบางอย่างแต่กลับพูดอะไรไม่ออก มือของเขายังคงลูบผมนางอยู่อย่างนั้น คล้ายปลอบประโลมนางอยู่ทุกวินาที“ข้า...ข้าอยากกินองุ่น” หลี่หลิงเฟิ่งชะงักค้างอย่างทำอะไรไม่ถูก หน้าขึ้นริ้วแดงๆ ด้วยความอับอาย นี่นางพูดอะไรออกไปอยากกินองุ่น? องุ่นเนี่ยนะ เพ้ย!หลี่หลิงเฟิ่งขยับตัวหลบฝ่ามือใหญ่ หลุบตาต่ำ ไม่กล้ามองหน้าเขาอีกต่อไป ในใจสบถด่าตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำตัวเป็นหญิงสาววัยแรกรุ่นไปได้“เสี่ยวเซียง” บุรุษชุดขาวยิ้มพลางส่งเสียงเรียกเสี่ยวเซียง “เจ้าค่ะ คุณชายใหญ่” หลี่หลิงเฟิ่งมองเสี่ยวเซียงผลักประตูเข้ามา เดินก้มหน้ามาคุกเข่าตรงปลายเตียง ก่อนจะเงยหน้าจ้องมองผู้เป็นนายด้วยน้ำตาที่เอ่อล้นนัยน์ตาคุณชายใหญ่ หล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-25

บทล่าสุด

  • ชายาอสรพิษ   ความลับของสำนัก

    พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นเวลานานมากแล้ว ภาพยามค่ำคืนควรปรากฏอยู่ในสายตา ทว่าที่แห่งนี้กลับเต็มไปด้วยแสงแดดอ่อนสว่างนวลราวแดดยามเช้า ลมหนาวเย็นยะเยือกถึงกระดูกพัดผ่านตัวนางที่นอนเหยียดแขนขาบนเก้าอี้หวายใต้ต้นท้อเป็นครั้งคราว ด้านข้างของนางเป็นสระหยกเย็นที่อบอวลไปด้วยพลังไอปราณบริสุทธิ์เข้มข้น หากแต่ไอน้ำที่ลอยอยู่เหนือสระเต็มไปด้วยหมอกพิษที่พร้อมคร่าชีวิตของผู้ที่เผลอสูดดมเข้าไปในเสี้ยววินาที หากเหลือบมองไปยังด้านหลังสระจะเห็นว่ายังมีโถงไม้หลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ไม่ไกลเดิมทีไม่ควรเรียกว่าโถงด้วยซ้ำ ลักษณะของมันพิเศษอยู่สักหน่อยเพราะมีห้องแยกเรียงกันอยู่สามห้อง คล้ายกับเรือนชั้นเดียวมากกว่า เหมาะกับพักอาศัยอย่างยิ่ง น่าแปลก...ที่แห่งนี้ราวกับอยู่คนละโลก ทิวทัศน์สวยงามเหมือนไม่มีอยู่จริง ใครจะรู้ว่ามันซ่อนอยู่ในพื้นที่สีแดงของสำนักแพทย์โอสถ หลี่หลิงเฟิ่งค้นพบที่นี่โดยบังเอิญหลังจากแอบเข้ามาสำรวจเขตลับด้วยตนเองอยู่หลายครั้งเสียงน้ำกระเพื่อมเบา ๆ ดังลอดเข้ามาในหูขัดขวางความดื่มด่ำกับธรรมชาติของหลี่หลิงเฟิ่ง นางเลิกคิ้วเล็กน้อย ลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ หันศีรษะม

  • ชายาอสรพิษ   จุดเริ่มต้นของหายนะ

    พรึ่บ !เปลวเพลิงไม่รู้ที่มาแผดเผาบริเวณโดยรอบโดยที่ทุกคนไม่ทันได้ตั้งตัว แผดเผาทุกสรรพสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าให้มอดไหม้“เจ้าฉวยโอกาส” ผู้บุกรุกกัดฟันกรอดด้วยความเคียดแค้น ทว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นกลับดูดีกว่ามาก เขาป้องกันการลอบโจมตีของนางครั้งนี้ได้ทัน“ฆ่ากันต้องมีกฎด้วยหรือ ก็แค่เจ้าตาย ข้ารอด” หลี่หลิงเฟิ่งมองไปอย่างเสียดาย นางรึอุตส่าห์เปิดด้วยกระบวนท่าใหญ่ แต่ต้องคว้าน้ำเหลวเสียนี่ แต่ไม่เป็นไร ลองอีกครั้งก็ได้เปิดก่อนได้เปรียบ!“ดูซิว่าเจ้าจะรับมือได้นานแค่ไหน” ไม่รอให้ศัตรูได้ทันหายใจ นางส่งมอบการโจมตีอันหนักหน่วงออกไปให้เขาไม่ขาดสาย ต่อให้รับกระบวนท่าของนางได้ทุกครั้ง แต่ร่างกายคนฝึกยุทธ์ที่ไม่ได้มีระดับสูงมากนักก็มีขีดจำกัดอยู่ดี ซึ่งต่างจากนางที่มีน้ำทิพย์ให้ดื่มฟื้นฟูพละกำลังอยู่ตลอดเวลานางทนได้ แต่คนทั่วไปย่อมแตกต่าง“เหอะ คิดว่าเจ้าทำอย่างนี้แล้วมีความหมายหรือ เป็นข้าที่ประเมินเจ้าสูงเกินไป” เห็นได้ชัดว่าผู้พูดกำลังดูถูก หลี่หลิงเฟิ่งก็ยังไม่สะทกสะท้าน สมควรทำยังไงก็ทำต่อไปผู้บุกรุกขมวดคิ้วเล็กน้อย คล้ายสงสัยถึงบางอย่างที่ผิดปกติ แต่ก็บอกไม่ถูกว่าผิดปกติที่ตรงไหน นิ่งอย

  • ชายาอสรพิษ   เงื่อนงำ 2

    ด้วยความไม่รู้เหนือใต้ออกตก ทุกคนได้ย่างเข้ามาในพื้นที่อันตรายที่สุดในเขตหวงห้ามเสียแล้ว รวมทั้งหลี่หลิงเฟิ่งเองด้วย หญิงสาวพบว่าบรรยากาศโดยรอบเงียบสงัด แม้แต่เสียงใบไม้กระทบกับลมก็ยังไม่มีให้ได้ยิน ราวกับไร้จุดหมาย ดูเหมือนว่านางเพียงแค่เดินเตร็ดเตร่มาหลายเค่อเท่านั้น หากแต่หลี่หลิงเฟิ่งระวังตัวมากขึ้นเนื่องจากพื้นที่ที่เคยมีหมอกหนา ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่ม กลายเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ผืนดินแตกแขนง ร้อนระอุจากการแผดเผาของดวงอาทิตย์ ราวกับอยู่คนละโลกกับเมื่อสักครู่โดยสิ้นเชิงทางนั้น!เสียงของถิงถิงดังขึ้นจากในหัวของนาง หลี่หลิงเฟิ่งเดินตามทางที่ถิงถิงบอก สุดท้ายหยุดยืนใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งใกล้บึงน้ำขนาดเล็กที่แห้งขอดไปแล้ว น่าแปลกที่ต้นไม้ต้นนี้เป็นเพียงต้นเดียวที่ยังคงแตกกิ่งก้าน อยู่รอดท่ามกลางบรรดาต้นอื่นที่หลือเพียงซากและใบไม้แห้งกรอบราวกับต้นไม้มีชีวิตหรี่ หรี่เสียงปริศนาดังขึ้น ครั้งนี้เสียงของมันชัดเจนกว่าครั้งไหน ๆ ใกล้จนหลี่หลิงเฟิ่งหวาดระแวง ประเดี๋ยวมองซ้าย ประเดี๋ยวมองขวา กลับไม่พบสิ่งผิดปกติ เสียงนั้นยังคงดังต่อเนื่อง จิตสังหารรอบตัวของหลี่หลิงเฟิ่งแผ่ขยายออกอย่างรวดเร็ว แสงสีข

  • ชายาอสรพิษ   เงื่อนงำ 1

    “อะ…อาจารย์อา ขออภัยที่ล่วงเกินเพียงแต่ข้าขอทราบชื่อของท่านได้หรือไม่ขอรับ” โจวอวี๋ถามขึ้นมาอีกครั้ง นางยังเด็กยิ่งนักเป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจจะแปลงรูปโฉมให้คงความเยาว์วัยไว้เสมอ บางทีหากได้รู้จักชื่อเสียงเรียงนามของนาง เขาน่าจะรู้จัก คนมีความสามารถระดับนี้ เขาจะพลาดได้อย่างไร“ข้ามีนามว่าหลี่หลิงเฟิ่ง” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ ยามนี้นางกำลังเพ่งจิตเข้าไปสำรวจด้านในเขตหวงห้าม จึงไม่ได้สังเกตท่าทางตกใจของคนที่อยู่ในนี้ทั้งหมด ทันทีที่นางพูดจบพลังจิตขอนางจับสิ่งผิดปกติอันใดไม่ได้เลย จนกระทั่งสำรวจเข้าไปในส่วนลึกของเขตหวงห้ามนางถึงค้นพบควันสีดำขุมหนึ่ง หลี่หลิงเฟิ่งเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ แต่ว่าเหมือนมีอะไรมาขวางกั้นนางเอาไว้ทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในได้ ซ้ำร้ายยังถูกผลักออกมาหลี่หลิงเฟิ่งหลุบตาลงครุ่นคิดอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน เมื่อนางเงยหน้าขึ้นมาก็พบว่าทุกคนกำลังมองมาที่นางเป็นตาเดียว“ไม่จริงน่า จะเป็นเจ้าไปได้อย่างไร” เหลียนฉู่ฉู่เอ่ยออกมาเป็นคนแรก อย่างไม่เชื่อสายตา“ข้าคาดเดาตั้งแต่แรกแล้วว่าเจ้าคือหลี่หลิงเฟิ่ง คู่หมั้นขององค์ชายรองโม่ เพียงแต่รู้สึกแปลกใจ ทำไมแม่นางหลี่ถึง

  • ชายาอสรพิษ   เขตลับ 2

    เจ้านาย ทางนี้!เสียงนี้อีกแล้ว เรียกหาตั้งแต่นางเดินเข้ามาในอุโมงค์นี้เสียงก็ดังก้องในหูนางไม่ต่ำกว่าห้าครั้ง นางเดินออกมาห่างไกลจากคนในกลุ่มเรื่อย ๆ สมบัติตรงนี้น้อยกว่าที่อื่นมาก ชั้นวางสมบัติเป็นเพียงหินที่ทำเป็นชั้น ๆ เรียงกันขึ้นมาเท่านั้น แตกต่างจากก่อนหน้าที่ทำขึ้นด้วยทองคำและหยก คนเข้าละโมบและลุ่มหลงได้ง่ายหลี่หลิงเฟิ่งหยิบเศษผ้าขาวที่เขรอะไปด้วยฝุ่นที่อยู่ท่ามกลางบรรดาสมบัติชิ้นอื่นขึ้นมา นางพินิจถึงความพิเศษที่ควรจะมี ทว่ากลับเป็นเพียงผ้าธรรมดาเท่านั้น นางตัดสินใจวางลงที่เดิม เพียงแต่มือของนางกลับหนักอึ้งอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อนางหยิบขึ้นมาอีกรอบความรู้สึกหนักอึ้งที่มือกลับหายไปฟุบ!“อ๊ะ” ลมที่ไม่รู้มาจากที่ใดปะทะเข้ากับหน้าของนางอย่างจัง เศษผ้าปลิวมาติดที่ตาทั้งสองข้างปิดกั้นการมองเห็นไปชั่วขณะ จากนั้นก็ผสานเข้ากับนางเป็นหนึ่งเดียว หลี่หลิงเฟิ่งตกใจไม่น้อยเมื่อรู้สึกตัว แค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น ผ้าผืนนั้นก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย นางมองซ้ายขวาอย่างร้อนรนอยู่บ้าง นางรีบปรับตัวให้เป็นปกติ ด้วยกลัวคนทั้งหมดในนี้จะเห็นการกระทำอันแปลกประหลาดนี้ของนางหญิงสาวลองทดสอบพลังยุทธ์และ

  • ชายาอสรพิษ   เขตลับ 1

    “อ่ะแฮ่ม...ไม่ว่าการประลองครั้งไหนก็ตัดสินที่ความสามารถเสมอ สำนักแพทย์โอสถเรายังไม่ถึงต้องให้ผู้อื่นมาตัดสินแทนหรอก” ผู้คนโดยรอบไม่มีใครกล้าส่งเสียงสักคน หรงอู่ซาบซึ้งใจน้ำตาแทบไหล เวลานี้เทิดทูนหลี่หลิงเฟิ่งยิ่งกว่าเจ้าสำนักเสียอีก ตั้งแต่นั้นมารอยยิ้มบนใบหน้าหุบไม่ลงอีกต่อไปครบหนึ่งชั่วยาม ผู้ชนะผ่านเกณฑ์ตัดสินมีเพียงห้าคนเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นรองเจ้าสำนักจึงใจดีเปิดเขตลับให้คนทั้งห้าเสียเลย ทั้งหมดมุ่งไปยังเขตลับที่อยู่ในส่วนลึกสุดของสำนักแพทย์โอสถ โดยมีรองเจ้าสำนักและหลี่หลิงเฟิ่งเป็นผู้นำในครั้งนี้“พวกเจ้าทุกคนสามารถเลือกสิ่งของที่อยู่ในเขตลับได้หนึ่งอย่าง และห้ามเข้าไปในเขตหวงห้ามเด็ดขาด บอกไว้ก่อนหากฝ่าฝืนข้าไม่รับรองความปลอดภัยของใครทั้งนั้น เพราะฉะนั้นอย่าริอ่านทำผิดกฎ” รองเจ้าสำนักกล่าวเสียงแข็ง จากนั้นเปิดเขตลับให้ทั้งหมดเข้าไปอย่างเปิดเผย“มีอะไรซ่อนอยู่ที่นี่งั้นหรือ” หลี่หลิงเฟิ่งรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล นางรู้สึกกลาย ๆ เหมือนว่าไม่ได้มีแค่พวกนางเท่านั้นที่อยู่ในนี้ จึงถามออกไปด้วยความสงสัยใคร่รู้“เรื่องนี้…” หรงอู่อึกอัก หน้าตาเหยเก “ข้าก็ไม่รู้แน่ชัด ว่ากันว่าท

  • ชายาอสรพิษ   ประชันขันแข่ง

    หลายวันมานี้หลี่หลิงเฟิ่งอยู่อย่างสงบสุขเสมอมา นอกจากรักษาเจ้าสำนักทุกเช้า นางใช้เวลาทั้งวันไปกับฝึกหลอมโอสถที่ห้องหลอมโอสถ ใช้สมุนไพรของสำนักแพทย์โอสถราวกับน้ำ เรียกได้ว่าละลายทรัพย์ของแท้ เหตุเพราะเกิดกระทบกระทั่งกันวันนั้นจึงไม่มีใครกล้าออกมาตำหนิ กลับกันทุกคนคอยเอาใจนางทุกอย่าง วันนี้ก็เช่นกัน หลังจากกลับมาจากรักษาเจ้าสำนัก นางก็ตรงไปที่ห้องหลอมโอสถ หยิบเตาหลอมออกมาจากกำไลสำริดอย่างคล่องแคล่วส่วนที่ว่านางได้ของพวกนี้มาได้ยังไงน่ะหรือ ต้องเท้าความไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ศิษย์พี่รองมาหานางที่ที่พำนัก กล่าวขอโทษที่สบประมาทนางวันนั้น พร้อมทั้งอยากให้นางยกโทษให้ หลี่หลิงเฟิ่งรู้ตัวว่านางนั้นเป็นคนดี ไม่ถือสาความเรื่องเล็กน้อยกับคนกันเองอยู่แล้วเพียงแค่ศิษย์พี่รองมอบของปลอบใจให้นาง นางอายุน้อยต้องเคารพผู้ใหญ่ย่อมไม่เรียกร้องมากมายอันใด ถึงแม้ศิษย์พี่รองจะดูเสียดายไปบ้าง ยามยื่นให้รู้สึกถึงความมือไม้สั่นเล็กน้อย ทว่าจนแล้วจนรอดกำไลสำริดและเตาหลอมโอสถชั้นเลิศก็อยู่ในมือนางอยู่ดีหลี่หลิงเฟิ่งพลันรู้สึกว่าการมีศิษย์พี่ก็ไม่ได้แย่อันใดแต่มีบ้างบางครั้งที่รู้สึกเปล่าเปลี่ยว โม่จื่อหลิงขอแยกต

  • ชายาอสรพิษ   ความหวังสุดท้าย

    ภายในห้องพำนักเจ้าสำนักแพทย์โอสถปรากฏหูซานและชายชราอีกสองคน รวมทั้งลูกศิษย์บางคน ทำหน้าเคร่งเครียด ใบหน้าอ่อนล้าเพราะอดนอนมาหลายวัน บนเตียงไม้สลักมีร่างผ่ายผอมดำคล้ำของชายชราผู้หนึ่ง นอนสลบไสลราวกับคนใกล้หมดสิ้นอายุขัย “ศิษย์น้องสี่ เป็นอย่างไรบ้าง เจ้าพอมีทางช่วยศิษย์พี่ใหญ่บ้างหรือไม่”“ข้าเองก็อับจนหนทางเหมือนกัน ยาขวดนั้นเพียงแค่ยื้อลมหายใจศิษย์พี่ใหญ่เท่านั้น ต่อให้เป็นท่านเทพมาตอนนี้ก็ไม่แน่ว่าจะช่วยได้ พิษลุกลามไปทั่วร่างกายศิษย์พี่ใหญ่ตั้งนานแล้ว” หูซานส่ายหน้า สองตาแดงก่ำไม่อาจทำใจได้ หลายวันมานี้พวกเขาค้นคว้าหายาถอนพิษ ทว่าก็ล้มเหลวจนกระทั่งหวังซีมาพร้อมยาขวดหนึ่ง พวกเขาถึงได้มีความหวังขึ้นมา เพียงแต่ดีใจได้ไม่กี่วัน ไม่รู้เพราะสาเหตุใดอาการของศิษย์พี่ใหญ่ถึงทรุดลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่เขาที่เป็นอัจฉริยะแห่งยุคก็ไม่อาจหาต้นตอของอาการเหล่านี้ได้ หูซานพบว่าไม่มีหนทางที่ศิษย์พี่ใหญ่จะรอดแล้วเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอกหวังข่ายที่สภาพก็ไม่ได้ดีไปกว่าคนอื่น ๆ ในห้อง เดินออกมาเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นรองเจ้าสำนักเขาก็เบี่ยงตัวหลบอย่างเคยชิน แต่เมื่อรู้สึกว่ามีคนเดินตามหลังรองเจ้า

  • ชายาอสรพิษ   ผู้อาวุโส 2

    ยาลูกกลอนที่เพิ่งหลอมเสร็จหอมกลุ่นกระทบจมูกของทุกคน ผู้คนต่างลุ้นว่าโอสถในมือของผู้อาวุโสสามคือยาลูกกลอนอะไรผู้อาวุโสสามยิ้มอย่างภาคภูมิ ค่อย ๆ คลายมือออก สีขาวขุ่นปรากฏบนสายตา “ยาลูกกลอนอายุวัฒนะ!”“อืม ยาลูกกลอนอายุวัฒนะสิบเม็ด ใช้ได้เจ็ดเม็ด ขั้นสามสี่เม็ด ขั้นเจ็ดอีกสามเม็ด” รองเจ้าสำนักตรวจสอบยาลูกกลอนในมือของผู้อาวุโสสามอย่างถี่ถ้วน ผงกหัวชื่นชม “ไม่เลยเลย”ในเวลาอันสั้น ภายใต้ขอบเขตสมุนไพรที่มีจำกัด เขาสามารถหลอมออกมาได้ถึงหกในสิบส่วนเลยหรือ ผู้อาวุโสสามเก่งกาจโดยแท้ “นางหนู เสียใจแล้วหรือไม่ ท้าอะไรไม่ท้า มาท้าในสิ่งที่ข้าถนัดที่สุด หึ”เมื่อผู้ชมมองยาลูกกลอนที่อยู่ในมือหลี่หลิงเฟิ่ง ต่างก็มีหลากหลายอารมณ์ บ้างทอดถอนใจเสียดาย บ้างดูถูกดูแคลน บ้างเฉยเมยราวกับคาดการณ์ไว้แล้ว ทว่าทุกคนในที่นี้ไม่มีใครยินดีหรือให้กำลังใจกับนางสักคนผู้คนต่างส่ายหน้า ซุบซิบทันทีที่เห็นก้อนกลมสีดำสองสามก้อนในมือนาง “ฝีมือเท่าหางอึ่ง นางยังกล้ารับคำท้าประลอง”“ตัวยาไหม้เกรียมขนาดนี้ นางพ่ายแพ้ยับเยินเลยทีเดียว”“ไม่คิดว่าองค์ชายรองโม่ สมองจะมีปัญหา ดันคว้าสตรีโอ้อวดมาอยู่ข้างกาย”“สตรีผู้นี้เป็นตัวล

DMCA.com Protection Status