แชร์

สะใภ้สกุลชาวนา

ผู้เขียน: ประดับดิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-17 12:54:58

ตะวันทอแสงอ่อนเข้าผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องนอน

หวังชิงหว่านรู้สึกตัว  นางลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ร่างกายเหมือนสูบเรี่ยวแรง เห็นเซียวอี้หยางเปลือยกายนอนอยู่ด้านข้าง เหม่อมองอีกฝ่ายด้วยความเหนื่อยล้าพลางเอือมมือไปสะกิดอีกฝ่าย

“ท่านพี่”   ด้วยเนื้อเสียงของหญิงสาว  เสียงที่เปล่งออกมาดูออดอ้อนด้วยความคำหวานทำให้เซียวอี้หยางได้สติลืมตาขึ้นมาทันที  เห็นหวังชิงหว่านนอนเปลือยกายอยู่ข้าง ๆ ก็มองด้วยหลงใหล  มือยื่นออกไปตั้งใจลูบไล้กายหญิงสาวอย่างห้ามไม่อยู่    หวังชิงหว่านเบี่ยงกายหลบแล้วพูดขึ้น

“ท่านพี่  ตอนนี้ก็สายมากแล้วพวกเราต้องไปยกน้ำชาคารวะผู้อาวุโสนะเจ้าคะ” 

เซียวอี้หยางพลันระลึกขึ้นได้   รีบเก็บงำความปรารถนาพูดขึ้น    “น้องหญิง...ข้าจะเตรียมน้ำมาให้เจ้าล้างหน้าล้างตานะ  รอสักครู่” 

พอลุกออกจากเตียงเขาก็มองเห็นเสื้อผ้าถอดทิ้งอยู่ข้างเตียงก็รีบก้มเก็บจากนั้นก็เดินออกไป 

หวังชิงหว่านมองตามสามีพลางอมยิ้ม เดิมควรเป็นภรรยาปรนนิบัติสามี  ในเมื่อสามีนางไม่ถือ  นางก็ไม่ถือ

          เซียวอี้หยางกลายร่างเป็นบุรุษสุภาพอ่อนโยนเช่นเดิม  แต่ว่าความป่าดิบเถือนของตลอดทั้งคืนของอีกฝ่าย ทำให้หวังชิงหว่านสรุปได้ว่า  ไม่อาจมองคนที่ภายนอกจริงๆ

หลังล้างหน้าล้างตาแต่งกายเรียบร้อย เซียวอี้หยางก็จูงมือหวังชิงหว่านไปยังเรือนใหญ่ 

แม้จะพูดเช่นนั้น  ทว่าเรือนใหญ่ก็ยังเล็กกว่าเรือนเดิมของหวังชิงหว่านเมื่อครั้งอยู่ตระกูลหวังอยู่มากและเรือนอยู่ห่างกันไม่กี่สิบก้าวเท่านั้น  ด้วยระยะห่างเท่านี้... ใบหน้าของหวังชิงหว่านเห่อร้อนขึ้นมา เสียงกิจกรรมเร่าร้อนเมื่อคืน เป็นไปได้ว่าคนที่นี่คงได้ยินกันหมด

 เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นเด็กสาวกับเด็กชายคู่หนึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้าเรือน  พวกเขาเห็นทั้งสองคนเดินมาก็ตะโกนทันที

“ท่านพ่อ ท่านแม่  พี่ใหญ่กับพี่สะใภ้มาแล้วเจ้าคะ”

พูดเสร็จทั้งสองก็หันมาคารวะคนตรงหน้าพลางเอ่ย

“พี่ชายใหญ่ พี่สะใภ้”  เซียวอี้หยางเอ่ยแนะนำเด็กทั้งสอง 

“นี่น้องชายข้า  เซียวลู่อันและน้องสาวข้าเซียวลี่อิน”   

หวังชิงหว่านทักทายมารยาทเสร็จเซียวอี้หยางก็พาหวังชิงหว่านเข้าไปในเรือน 

พอทั้งสองก้าวเข้าไปในเรือนเสียงที่ดังอยู่ก็พลันเงียบลงจนสงัด   หวังชิงหว่านในวันนี้แต่งกายไม่นับว่าหรูหราฉูดฉาด  สวมเพียงอาภรณ์สีฟ้าอ่อน  ไม่มีลวดลายปัก..แต่นับว่ายิ่งเรียบง่ายยิ่งขับให้เรือนผมและผิวพรรณเปล่งปลั่ง  ใบหน้าหวานละมุนสะอาดตา แววตาสดใสริมฝีปากอิ่มรอยยิ้มดูน่าสนิทสนม 

พวกเขาต่างจ้องมองมาที่ชิงหว่านอย่างตกตะลึง ภายในใจของแต่ละคนต่างมีความคิดเป็นของตนเอง นัยน์ตาวูบไหวไปมาหลากหลายอารมณ์จนหวังชิงหว่านอมยิ้มในใจ คนเหล่านี้นับว่าเป็นคนปกติต่างจากคนในความจำหวังชิงหว่านเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม  

ส่วนเซียวอี้หยางกำลังตกใจกับผู้คนในห้องโถง  ชายหนุ่มกวาดตามองรอบหนึ่งจากนั้นก็ส่งสายตาคำถามไปหามารดา

เซียวฮูหยินจึงยิ้มแห้งๆ กล่าวเสียงแผ่วเบา

“วันนี้เป็นวันดี  ญาติ ๆ จึงมาแสดงความยินดีอีกครั้ง  สกุลเซียวเป็นตระกูลเล็ก ๆ  ไม่มีพิธีมากขั้นตอน  หวังว่าสะใภ้หวังจะไม่ถือสา” 

หวังชิงหว่านปรายตามองดูคนในห้องพลางนึกในใจ  คาดว่าพวกเขาจะมาดูเรื่องตลกเสียมากกว่า  แต่นางก็โค้งศีรษะแสดงความอ่อนน้อม 

 ฮูหยินผู้เฒ่าชำเลืองมองหลานชายที่จูงมือภรรยาเข้ามา  จากสีหน้าและท่าทางสนิทสนมของพวกเขาเมื่อคืนเข้าหอคงผ่านไปอย่างเรียบร้อย  นางถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น

“ในเมื่อมาแล้ว...หลานสะใภ้ก็ยกน้ำชามาเถอะ”    

เซียวลี่อินได้ยินคำสั่งก็ถาดน้ำชาเข้ามา    เซียวอี้หยางคอยแนะนำคนในตระกูลให้หวังชิงหว่านด้วยความใส่ใจ  เดิมทีผู้อาวุโสจะมีเพียงฮูหยินผู้เฒ่า บิดามารดาของเซียวอี้หยางเท่านั้น   ท่านอาหลายท่านต่างแยกครอบครัวออกไปแล้ว  มีเรือนอยู่ในตรอกซอยเดียวกันบ้าง  ต่างจากหมู่บ้านบ้าง  แต่ทุกคนเหมือนพร้อมใจกันมาเยี่ยมเยือนในวันนี้

“หลานสะใภ้งดงามสมคำล่ำลือจริง ๆ”  อาสะใภ้คนหนึ่งพูดขึ้นพลางพินิจมองหวังชิงหว่านด้วยสายตาชื่นชม 

หวังชิงหว่านยิ้มกล่าวขอบคุณ  พิธียกน้ำชาผ่านไปอย่างเรียบง่าย  เซียวอี้หยางกลัวว่าภรรยาตัวน้อยจะไม่พอใจที่ญาติตนเองทำผิดธรรมเนียมเสร็จพิธีก็รีบพานางกลับเรือน  พอทั้งสองคนออกไปภายในห้องโถงก็เริ่มซุบซิบอีกครั้ง

“คำล่ำลือที่ว่านางไม่ยินดีแต่งให้หลานอี้หยาง  ข้าว่าไม่มีส่วนจริงสักนิด...”  

เซียวฮูหยินพยักหน้าเห็นด้วยกับอาสะใภ้พูดตอบ

“เห็นใบหน้าเปี่ยมสุขของอี้หยางข้าก็สบายใจ...ตอนนั้นได้ยินข่าวว่านางประกาศ  ถึงจะตายก็ไม่ยอมเป็นฮูหยินสกุลชาวนาเด็ดขาด  ข้าแทบนอนไม่หลับ” 

อีกคนกำลังจะเอ่ยเสริมเสียงดุดันหนึ่งดังขึ้น

“พวกเจ้าก็พูดเรื่องนี้ให้น้อยลงเสียบ้าง...ในเมื่อนางแต่งเข้ามาแล้วก็นับเป็นคนในตระกูลเดียวกัน  จะเอ่ยวาจาอะไรก็ให้ระวังให้มาก” 

“ขอรับ/เจ้าค่ะ  ท่านแม่”   เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเตือนทุกคนก็ขานรับทันที 

เซียวอี้หยางพาหวังชิงหว่านกลับมาถึงเรือนหลังจัดการมื้อเช้าเสร็จ ปรับเปลี่ยนอาภรณ์เขาก็เอ่ยขึ้น  “น้องหญิงพักผ่อนเสีย  ข้าจะขึ้นเขาไปตัดฟืนเสียหน่อย”

หวังชิงหว่านขมวดคิ้วมองอย่างประหลาดใจ  เชียวอี้หยางกระอักกระอ่วนจะกล่าวแต่ก็เอ่ยออกไป  “แม้ว่าข้าจะลาราชการมา 3 วันแต่ตอนนี้ฟนที่บ้านเหลือน้อยแล้ว  ข้าจะรีบไปรีบกลับ”

หวังชิงหว่านเห็นสีหน้าอีกฝ่ายเกรงว่าจะเข้าใจผิดจึงพูดขึ้น  “ท่านพี่...เช่นนั้นก็ให้ข้าไปด้วยเถอะ”

เซียวอี้หยางรีบส่ายหน้า  “ไม่ได้ ๆ การขึ้นเขาไปตัดฟืนไม่ใช่เรื่องง่าย  น้องหญิงรอที่เรือนเถอะ”

ใบหน้าหวังชิงหว่านตึงขึ้นมาเอ่ย  “ท่านคงเกรงว่าข้าเป็นภาระใช่หรือไม่”  

ใบหน้าเซียวอี้หยางเต็มไปด้วยความลำบากใจ  ชายหนุ่มกำลังสรรหาถ้อยคำปฏิเสธ  แต่พอสบตามุ่งมั่นของหวังชิงหว่านก็ไม่กล้าเอ่ย ได้แต่พยักหน้ายอมรับ 

ชิงหว่านยิ้มกว้างแล้วพูดขึ้น “เช่นนั้น ข้าจะไปปรับเปลี่ยนอาภรณ์เสียก่อน” พูดเสร็จนางก็ก้าวเท้าเดินไปหลังฉากกั้นเปลี่ยนเสื้อผ้าพลางพูดขึ้น 

“ต่อไปนี้สิ่งใดที่ต้องทำท่านก็แนะนำข้าด้วย   อย่ามองข้าเป็นคนอื่น”  เซียวอี้หยางมองเงาหญิงสาวที่หลังฉากกั้นแววตาของเขาประกายอบอุ่นขึ้นมา  ตอบ  “ได้..ข้าคงต้องรบกวนฮูหยินแล้ว”

  หวังชิงหว่านเดินออกมาในชุดของบุรุษสีดำ  เซียวอี้หยางจ้องมองด้วยแววตาประหลาดใจ  หญิงสาวเลยกล่าว  “ข้าว่าชุดของบุรุษน่าจะสะดวกกว่า  ท่านคงไม่ถือสากระมัง”

สตรีแต่งกายด้วยชุดของบุรุษไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลก  เซียวอี้หยางยิ้มตอบ  “ข้าแค่แปลกใจที่เจ้าแต่งกายเช่นนี้...ในเมื่อเรียบร้อยแล้วก็ไปกันเถอะ ยิ่งสายอากาศจะยิ่งร้อน” 

เห็นเซียวอี้หยางเดินเคียงคู่ออกมาพร้อมหวังชิงหว่าน 

ลู่อันกับลี่อินที่นั่งรอหันมามองตาด้วยแววตาประหลาดใจ

“พี่สะใภ้จะไปด้วยหรือเจ้าคะ”  ลี่อินพลันเอ่ยถาม

“อืม...”

“จะดีหรือขอรับ”  ลู่อันเอ่ยถามย้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล   เห็นชิงหว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย

ลี่อินเกรงว่าพี่สะใภ้จะเข้าใจผิดจึงอธิบายเพิ่ม  “ยามปกติ  ท่านแม่ไม่อนุญาตให้พี่ชายขึ้นไปตัดฟืน  หากวันนี้พวกข้ายังให้พี่สะใภ้ไปช่วยอีก  พวกข้ากลัวจะโดนตำหนิ”   

ชิงหว่านหันไปมองเซียวอี้หยาง  ชายหนุ่มจึงอธิบาย 

“ท่านแม่เห็นว่าเป็นขุนนางแล้วไม่ควรจะทำงานพวกนี้  หากคนในราชสำนักมาเห็นท่านเกรงว่าข้าจะโดนดูหมิ่นดูแคลน  ในเมื่อเป็นขุนนางแล้วก็ควรตั้งใจทำงานราชการหวังความก้าวหน้าในการงาน แต่ข้าเกิดในครอบครัวชาวนา ข้าไม่ชินที่จะทำอย่างนั้น พอท่านแม่เผลอข้าก็แอบมาช่วยน้อง ๆ ตลอด” 

หวังชิงหว่านพยักหน้าเข้าใจ  นางคงต้องทำความเข้าใจครอบครัวเซียวอีกหลายอย่าง  จึงพูดขึ้น

“เป็นอย่างนี้ได้หรือไม่...ครั้งนี้ถ้าผู้อาวุโสตำหนิ  ข้าจะเป็นคนออกรับหน้าแทนเอง” ลู่อันมองหน้าลี่อินแล้วตอบเสียงแผ่วเบา  

“ถ้าเป็นพี่สะใภ้  ท่านแม่คงไม่ตำหนิ”  แต่เกรงว่าจะตกใจ

หวังชิงหว่ายยิ้มกว้างขึ้น 

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าจะไปตัดฝืน  รบกวนพวกเจ้าแล้ว”   

อี้หยางเห็นน้องชายและน้องสาวยิ้มพอใจแล้วจึงพูดขึ้น 

“ไปกันเถอะ...จะสายแล้ว”  

พอเริ่มก้าวออกมาจากบ้าน  ชิงหว่านเงยหน้ามองไปยังท้องนาและท้องฟ้าที่กว้างสุดลูกหูลูกตา  นางรู้สึกได้รับพลังมีชีวิตรู้สึกผ่อนคลาย  สายลมเย็นรวยรินทุกสิ่งล้วนดีงาม  แม้จวนตระกูลหวังจะมีสวนบุปผาเลียนแบบธรรมชาติที่งดงามโดดเด่น  แต่นั้นไม่ทำให้รู้สึกสุขใจ นางอยู่ในนั้นแทบจะเป็นบ้า 

พอได้มาเจอแสงพระอาทิตย์ตัดกับก้อนเมฆบนท้องฟ้ากว้างใหญ่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาด  เห็นท่าทีของคนในสกุลหวังที่มีต่อตนเองคาดว่าพวกเขาน่าจะยำเกรงนางไม่น้อย   และยิ่งตระกูลเล็กยิ่งไม่มีกฏเกณฑ์อะไรมากมาย  ตอนนี้นางอยากจะไปไหนทำอะไรก็ไม่มีคนห้ามแล้ว

ยิ่งคิด  หวังชิงหว่านก็ยิ่งเบิกบานใจ  

ฝีเท้าก้าวเดินก็ดูกระตืนรือร้นอย่างมาก 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    เริ่มต้นด้วยการตัดฟืน

    เส้นทางขึ้นเขาย่อมไม่ใช่เส้นทางที่เดินได้อย่างเรียบง่าย เซียวอี้หยางเดินนำหน้าโดยมีหวังชิงหว่านเดินเคียงข้างไป ส่วนเด็กทั้งสองเดินรั้งท้าย พวกเขามองดูฝีเท้าจังหวะก้าวเดินของพี่สะใภ้ต่างก็ส่งสายตาคำถาม ลี่อินเอนตัวกระซิบ “พี่สะใภ้ดูจะเหมือนไม่ใช่คนขึ้นเขาครั้งแรก” ลู่อินพยักหน้าเห็นด้วย “นั่นสิ ดูจะคล่องแคล่วยิ่งกว่าพวกเราเสียอีก” การเดินเขาไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหวังชิงหว่าน แต่ด้วยร่างกายอันบอบบางตอนนี้ทำให้นางเริ่มปวดเมื่อย แขนขาเริ่มไร้เรี่ยวแรง เซียวอี้หยางหันมาเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของอีกฝ่ายก็พูดขึ้น “อดทนอีกนิด...ป่าข้างหน้าก็จะเป็นที่ตัดฟืนแล้ว” สีหน้าของเด็กสาวแดงกร่ำ หันยิ้มตอบ “เจ้าค่ะ” ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าบอกว่านางกำลังอดทนอย่างหนัก เด็กทั้งสองมองส่งสายตา พลางคิดว่าพวกเขาคงคิดมากเกินไป เห็นหวังชิงหว่านพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายทำให้เซียวอี้หยางรู้สึกชื่นชอบฮูหยินตัวเองขึ้นมากว่าเดิมหลายส่วน เดินมาไม่นานก็ถึงจุดตัดไม้ เซียวอี้หยางวางตระกร้าด้านหลังลงจากนั้นก็จัดแจงหาที่นั่งพักสำหรับวันนี้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-17
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    นั่นคือคุณหนูเจ็ด

    “นะ...นางแต่งงานแล้ว..หรือว่า” เกาเวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนก จางเคอหันมามองสหายขมวดคิ้วเล็กน้อยที่สหายไม่รู้เรื่องราว “นางคือคุณหนูเจ็ดจวนเสนาบดีหวัง”เกาเวินเบิกตากว้างอ้าปากค้างก่อนจะเอ่ย “นับว่านางงามสมควรรำลือ... มิน่าคุณชายรองกัวฉู่เหอจึงได้หลงใหล แต่เพราะนางเป็นบุตรสาวอนุจึงยังไม่ตบแต่ง” จางเคอมองไปยังหญิงสาวแล้วพูดต่อ“ข้าก็ไม่คาดคิดว่า สตรีเช่นนางจะยินยอมแต่งให้บุตรชายตระกูลชาวนา...” แผนการนี้กลับใช้ได้ผลเกาเวินมองตามเห็นหวังชิงหว่านยกหอกขึ้น ด้านปลายแหลมมีปลาตัวใหญ่ดิ้นอยู่ เขาคลี่ยิ้มมุมปากเอ่ย “แต่ดูนางจะปรับตัวได้ดี...รูปร่างอรชนบอบบางเช่นนั้น กลับจวงแทงไม่พลาดสักครั้ง” “นั่นสิ!! ข้ากลับรู้สึกว่าไม่รู้จักคุณหนูเจ็ดผู้นี้”เกาเวินหัวเราะฝืด “ทุกคนล้วนดิ้นรน ไม่แน่ว่าอยู่ตระกูลจวนนางอาจจะลำบากกว่านี้” ในขณะนั้นพวกเขาก็เห็นกลุ่มคนทหารม้ากำลังมาทางนี้ จึงหยุดวาจาแล้วก็กระโดดเข้าไปขวาง หวังชิงหว่านรู้สึกว่าสายตาที่จ้องมองหายไปแล้ว จึงชำเลืองมองเห็นเพียงปลายอาภรณ์สีดำ นางดึงสายตากลับลอบถอนหายใจพลางคิด “คนที่นี่คงมีกำลังภายในที่สามารถเหาะเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    ไม่รอบคอบ

    ในเรือนสกุลเซียวมีเพียงฮูหยินผู้เฒ่าที่อยู่ในเรือน ส่วนบิดาและมารดายังไม่กลับจากทำนา ทั้งลี่อิน ลู่อันและเซียวอี้หยางก็มีหน้าที่ของตนเอง เหลือเพียงหวังชิงหว่านที่นั่งพักเอื่อยเฉื่อยอยู่ในที่นั่งหน้าเรือน นางเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางคิดในใจ “สวรรค์ตอนนี้ข้าเริ่มจับปลาขายแล้วนะ...จากนี้ก็คงจะเป็นปลูกผัก ทำนา เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ ... นับว่าเป็นชีวิตเรียบง่ายที่ตามข้าร้องขอ...เฮ้อ! เอาเถอะถือว่าข้าไม่รอบคอบเอง...ที่ไม่ขอเงินด้วย”นางนึกบางอย่างได้กลับเข้าไปในเรือน ดึงหีบสินเดิมที่หวังฮูหยินกล่าวว่าจัดเตรียมให้ ความจริงแล้วทั้งหมดล้วนเป็นของใช้ส่วนตัวของนางที่บิดามอบให้ก่อนหน้า นางเปิดหีบหลายหีบออกมา “ล้วนเป็นเสื้อผ้าที่นำมาใส่ไม่ได้ทั้งนั้น....ของพวกนี้เอาไปขายเปลี่ยนเป็นเงินจะดีกว่า” นางในฐานะฮูหยินขุนนางบางส่วนก็ควรต้องเก็บไว้ จึงจัดแจงแยกของอยู่ครึ่งเค่อก็ได้ยินเสียงเด็กสาว “พี่สะใภ้ พี่สะใภ้” เสียงลี่อินตะโกนเรียกอยู่หน้าเรือน หวังชิงหว่านจึงเอ่ยตอบ “ลี่อินหรือ เข้ามาข้างในสิ” ผ้าม่านถูกเลิกขึ้นปรากฏเด็กสาวใบหน้ายิ้มแย้ม นางปร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-19
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    ข่าวลือ

    ลี่อินลากรถลากตามหลังหวังชิงหว่านที่คล้ายกำลังมองหาบางอย่าง นางจึงเอ่ยถาม “พวกเราจะไปไหนต่อหรือเปล่าเจ้าคะ” “ข้าจำเป็นต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ ไปดูร้านผ้าตรงหน้าเถอะ” เอ่ยเสร็จนางก็เดินนำหน้าไปร้านแพรพรรณ หลงจู้เห็นคนเดินเข้ามาก็รีบออกมาต้อนรับ แต่ก็ต้องชะงักในความงามของหวังชิงหว่านอยู่ครู่ใหญ่ ด้วยเป็นร้านผ้าเล็ก ๆ จึงไม่เคยได้ต้อนรับลูกค้าที่เฉิดฉายเช่นนี้มาก่อน เด็กหนุ่มรีบดึงสติเอ่ยถามด้วยความขัดเขิน “ท่านต้องการผ้าไปตัดหรือเป็นชุดเลยขอรับ” หวังชิงหว่านยิ้มตอบพลางเอ่ย “ข้าอยากได้ชุดเรียบง่ายสักสามสี่ชุดแล้วก็ผ้าสำหรับตัดด้วย” “ถ้าอย่างนั้นท่านเลือกผ้าตรงนี้รอก่อนนะขอรับ ข้าจะไปเลือกชุดที่เหมาะสมกับท่านออกมาให้เลือก” หวังชิงหว่านหันไปลี่อินแล้วพูดขึ้น“เจ้าเย็บเสื้อผ้าได้หรือไม่” ลี่อินพยักหน้าตอบ “แม้ฝีมือข้าจะไม่ละเอียดแต่ก็นับว่าใช้การได้เจ้าค่ะ” “งั้นมาเลือกผ้าด้วยกันสิ...ถ้ายังไงก็เลือกไปเผื่อคนอื่น ๆ ด้วย เลือกไปเยอะๆ ถือว่าเป็นค่าจ้างเจ้าตัดให้ข้าด้วย” ลี่อินกะพริบตามองพี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    เป็นมารดานั่นไม่ง่าย

    คนในสกุลเซียวจะรีบทานข้าวเย็นและเข้านอนแต่หัวค่ำ เพื่อจะได้ตื่นเช้าไปทำนาแตกต่างจากเซียวอี้หยางที่บางวันจะมีสังสรรค์ข้างนอก บางคืนก็จะอ่านหนังสือจนดึก พวกเขาเลยแยกสำรับมาที่เรือนเซียวอี้หยางต่างหากและเซียวฮูหยินก็ไม่เคยจะลืมแยกอาหารดีๆ ไว้สำหรับลูกชายเป็นพิเศษ เรือนหลักสกุลเซียว ในมื้อเย็นวันนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นน่ายินดี แต่สีหน้านายท่านเซียวก็ยังมีความลังเล เขาขมวดคิ้วไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่บุตรชายและบุตรสาวกล่าว “พวกเจ้าแน่ใจนะ ว่านางเป็นคนจับปลาด้วยตัวเอง” ลี่อินเคี้ยวอาหารพลางพยักหน้ามองบิดาด้วยสายตาจริงจัง ลู่อันก็ยืนยันกล่าว “ข้ากับลี่อินเห็นด้วยตาตัวเองเลยขอรับ” ขณะนั้นลี่อินก็ล้วงเงินออกมาเอ่ย “นี่ลู่อัน...25 อีแปะพี่สะใภ้แบ่งค่าขายปลาให้พวกเรา” ลู่อันเบิกตาขึ้นเป็นประกายรีบยื่นมือไปรับ “พี่สะใภ้เป็นคนดีจริง ๆ ท่านย่า ท่านพ่อ ท่านแม่ นางไม่เหมือนที่คนอื่นกล่าวลือเลยนะขอรับ” เซียวฮูหยินมองเงินในมือบุตรชายแล้วหันไปพูดกับสามี “ฟังจากที่อี้หยางเล่า...นางแตกต่างจากที่เขาเล่าลือจริง ๆ เจ้าค่ะ” ลี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-20
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    ควบคุมง่าย

    หวังชิงหว่านนึกว่าเซียวอี้หยางจะหมดแรง ใกล้รุ่งเขาได้สติก็เสียบดันเข้ามาจากข้างหลัง ความใหญ่และยังเข้ามากระทันหันทำให้นางกระตุ้นเฮือกร้องอ๊ะขึ้น ความเสียวซ่าแล่นปราดขึ้นมาทำให้ชายหนุ่มไม่สนใจอันใด เขาเริ่มขยับบดเบียดส่วนนั้นก็เปียกแฉะอย่างเร็วเอวของชายหนุ่มเปลี่ยนเป็นดุดัน ความซาบซ่านทำให้หวังชิงหว่านรู้สึกพอใจกับการสัมผัสของชายหนุ่มทั้งขนาดและแรงกระแทกนับว่าชาตินี้แค่จุดนี้นางก็คุ้มค่าแล้ว ผ่านไปครู่ใหญ่เซียวอี้หยางก็เกร็งร่างกระตุ้นอย่างสุขสม เขาโอบกอดหญิงสาวอย่างอ้อยอิ่งแล้วพูดเสียงหวาน “ข้าจะไปเตรียมน้ำมาให้เจ้าล้างหน้าล้างตา” หวังชิงหว่านไม่ปฏิเสธนางยังกำชับเพิ่ม “นำผ้ามาด้วยข้าจะเช็ดเนื้อเช็ดตัว เปรอะเปื้อนไปหมดแล้ว” “ได้ ๆ ข้าจะจัดการเดี่ยวนี้” หวังชิงหว่านมองตามหลังสามี สัณชาตญาณบางอย่างบอกว่าชายหนุ่มมีบางอย่างผิดปกติ นางรู้สึกว่าทั้งการพูดคุยกับชายหนุ่มไหลลื่นเป็นธรรมชาติมากเกินไป ไม่มีการโต้แย้งเหมือนนางกำลังถูกควบคุม หวังชิงหว่านสะบัดหน้าทันที น่าจะเป็นเพราะนางอยู่หน่วยสายลับมานานทำให้หวาดระแวงมากเกินไป เซีย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-22
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    เป็นข้าที่ผิด

    ตอนที่ 12 เป็นข้าที่ผิด เซียวฮูหยินเห็นอี้หยางยกถ้วยออกมาล้างก็เอ่ยขึ้น “แม่สั่งให้ลี่อินกับลู่อันไปรอพวกเจ้าที่เนินเขาแล้ว” เซียวอี้หยางก้มกล่าวขอบคุณอย่างเขินอายพูดขึ้น “ข้าจะพาชิงหว่านไปซื้อทาสสักสองคน ท่านแม่มีสิ่งใดจะกำชับหรือไม่” “ซื้อทาส?” เซียวฮูหยินเอ่ยเสียงสูงเล็กน้อย เซียวอี้หยางรีบกล่าวอธิบาย “นางพอมีเงินบางส่วน ในเมื่อเป็นเงินของนางข้าก็ไม่อยากจะขัดขอรับ...” เหตุใดย่อมซับซ้อนกว่านี้ เซียวฮูหยินไม่เอ่ยถามเพียงแต่เน้นย้ำเพิ่ม “ดูคนให้ละเอียดรอบคอบก็พอ” เซียวอี้หยางพยักหน้ารับ เสียงประตูเรือนเปิดชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้น “ข้าไปก่อนนะขอรับ” หวังชิงหว่านไม่รู้ว่าเซียวฮูหยินอยู่ในครัว พลางเดินพลางบ่นรำพึง “เป็นเพราะท่าน ทำให้พวกเราสายขนาดนี้” ชายหนุ่มรีบกล่าวเอาใจ “ย่อมเป็นข้าผิดอยู่แล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นข้าทำ” เสียงหยอกล้อพูดคุยกันห่างออกไปเรื่อย ๆ เซียวฮูหยินจึงเดินออกมาจากครัวมองตามหลังสองคนด้วยแววตาอ่อนโยนตลาดทาส ตลาดทาสย่อมไม่ใช่สถานที่อันดีอะไร หวังชิงหว่านก้าวเข้าไปไห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26
  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    ไม่เคยโชคดีสักครั้ง

    ตอนที่ 13 ไม่เคยโชคดีสักครั้ง ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้ว หวังชิงหว่านเงยหน้ามองท้องฟ้าพลางส่งสายตาขุ่นเคืองมาเซียวอี้หยาง ทว่าชายหนุ่มหาได้สำนึกผิดกล่าว “เจ้าไม่ต้องร้อนใจ ลี่อินกับลู่อัน รู้ว่าพวกเราไปทำธุระ” หวังชิงหว่านดึงสายตากลับ จะกล่าวโทษอีกฝ่ายทั้งหมดไม่ได้ ความจริงนางควรจะต่อต้านมากกว่านี้...แต่ว่าสัมผัสของชายหนุ่มทำให้นางอดใจไม่ไหวเช่นกัน นางเม้มปากแน่นไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองจะลุ่มหลงอะไรแบบนี้ไปได้ ฝีเท้านางเร่งก้าวไวขึ้นไม่สนใจความแสบปวดร้อนที่เกิดขึ้นในระหว่างขา“ผ่านเนินตรงหน้าก็คงเจอพวกเขาแล้ว” เซียวอี้หยางเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ลู่อัน ลู่อินพวกเขานั่งตัดฝืนไปจ้องมองทางไป เมื่อเห็นร่างอันคุ้นเคยก็ตะโกนเรียก“พี่สะใภ้พวกข้าอยู่ที่นี่” เซียวอี้หยางขมวดคิ้วเด็กพวกนี้ไม่เห็นหรือไงว่าเขาก็มาด้วย เซียวถิงเงยหน้ามองก็เห็นเซียวอี้หยางเดินมา ข้างกายเขามีหญิงสาวบอบบางคนหนึ่งเคียงคู่มาด้วย ใบหน้าเด็กหนุ่มมีคำถามชัดเจน ลู่อันกล่าวด้วยเสียงภาคภูมิใจ “นั่นพี่สะใภ้ข้า....พี่ชิงหว่าน” เซียวอี้หยางเดินมาใกล้พวกเขา แล้วพูดขึ้น “พวกเราไปพักกันก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-26

บทล่าสุด

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    ช่วงเวลางดงาม

    ตอนที่ 52 ช่วงเวลางดงาม กลิ่นอายฤดูหนาวเริ่มมาเยือนอีกครั้ง ไม่เพียงแต่องุ่นของหวังชิงหว่านออกดอกออกผลเต็มสวน มันฝรั่งก็มีเรื่องราวให้ติดตาม ฮ่องเต้ตั้งชื่อให้ใหม่ว่า อี้โถว หลังจากได้ทดลองปลูกจนมั่นใจแล้วก็นำไปให้เหล่าขุนนางได้ชื่นชมในท้องพระโรง ขันทีหันมันเผาเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ แจกจ่ายให้กับเหล่าขุนนาง ส่วนฮ่องเต้ที่อยู่เบื้องบนถือมันเผาหัวใหญ่ พอทุกคนได้ครบแล้วพระองค์ก็กัดกินเป็นตัวอย่าง เหล่าขุนนางเห็นเช่นนั้นก็ไม่กล้ามีคำถามรีบทำตามทันที ไม่ถือว่าสิ่งรสชาติเลิศรสแต่ก็นับว่าหอมหวานมันอร่อย แปลกใหม่เหล่าขุนนางต่างส่งสายตาให้กัน ขุนนางชั้นผู้น้อยย่อมไม่กล้าเอ่ยถาม เสนาธิการจึงเอ่ยถามขึ้น “ฝ่าบาทสิ่งนี้คือ...” ฮ่องเต้ตรัสทันที “เราให้ชื่อมันว่า อี้โถว เราได้ทดลองปลูกแล้วให้ผลผลิตมากกว่าข้าวถึงห้าเท่า” ขุนนางผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ “พระองค์หมายความว่ามันสามารถกินแทนข้าวได้หรือพะยะค่ะ” ฮ่องเต้พยักหน้ากล่าว “ใช่...หากเราปลูกสิ่งนี้คาดว่าจะช่วยแก้ปัญหาอาหารขาดแคลนได้ไม่น้อย...” แววตาเหล

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    สวรรค์ประทานพร

    ตอนที่ 51 สวรรค์ประทานพรท้องฟ้าแสงดาวระยิบระยับแสงจันทร์สาดส่อง สายลมราตรีพัดผ่านผ้าม่านปลิวไสว ในช่วงกระพริบตามีเงาดำสายหนึ่งเคลื่อนไหว มือของหลิวซูชะงักเล็กน้อยจากนั้นก็วางผ้าปักลงแล้วเอ่ยกับสาวใช้“พวกเจ้าไปพักเถอะ...ข้าจะเข้านอนแล้ว” สาวใช้ได้ยินเช่นนั้นก็พากันถอยออกไป แต่ไหนแต่ไรมาหลิวซูก็ไม่ให้ใครมาเฝ้าหน้าห้อง หลังจากที่พวกนางออกไปห้องก็เงียบสงัดขึ้นทันที หลิวซูลุกขึ้นไปปิดหน้าต่างแล้วเอ่ยเสียงอ่อนโยน“เหตุใดถึงได้มาเยือนเวลาดึกเช่นนี้...” สักพักก็ปรากฏสตรีผู้หนึ่งเดินออกมาจากฉากกั้น นางเดินเข้ามาหาหลิวซูแล้วพูดขึ้น“ข้ามาเยือนท่านแม่กระทัน...เสียมารยาทแล้ว”หลิวซูยิ้มที่มุมปาก จากนั้นก็ยกจอกชารินแล้วยื่นออกไปเอ่ย “ในเมื่อมาแล้วก็มาดื่มชาเป็นเพื่อนแม่สักจอก...ชาหลงชิงนี้แม่พึ่งได้มาใหม่”หวังชิงหว่านเดินไปนั่งเบื้องหน้ามารดา ยกจอกชาขึ้นจิบพลางชำเลืองมองใบหน้าอีกฝ่าย“เจ้ามีเรื่องจะถามแม่หรือ”หวังชิงหว่านสูดหายใจเข้าแล้วเอ่ย “ข้ามีเรื่องจะขอความกระจ่างใจจากท่านแม่ไม่น้อย” หลิวซูวางจอกชาลงแล้วพูด “เดิมทีแม่ก็ไม่คิดจะปิดปังเจ้า ...เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา” “ท

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    ชีวิตเรียบง่าย

    ตอนที่ 50 ชีวิตเรียบง่าย เซียวอี้หยางเดินเข้ามาในโรงเรือนองุ่น ใช้สายตาสำรวจครู่หนึ่งเมื่อมองเห็นร่างอรชนที่กำลังตัดแต่งกิ่งองุ่นอยู่ ก็เดินตรงเข้าไปหา กล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย “แสงแดดยังเจิดจ้า...น้องหญิงไม่กลัวผิวแห้งกร้านหรือ” หวังชิงหว่านตัดกิ่งองุ่นแล้ววางลงตะกร้าเอ่ย “เหตุใดท่านพี่จึงได้กลับเรือนเวลานี้เจ้าคะ” เซียวอี้หยางถอนหายใจแล้วกล่าว “น้องหญิงคงลืมไปแล้ว ข้าต้องไปตรวจภาษีที่นอกเมืองพรุ่งนี้...จึงต้องกลับมาเตรียมตัว” ดวงตาของหวังชิงหว่านเบิกกว้างขึ้น “ข้าลืมไปเสียสนิท...อ่า..จริงสิ! ข้าจะต้องไปจัดเตรียมสัมภาระให้ท่านพี่” ชายหนุ่มยิ้มคว้าแขนอีกฝ่ายเอ่ย “ไม่ต้อง...ข้าให้ป้าเหมยจัดเตรียมให้แล้ว” หวังชิงหว่านยิ้มพยักหน้า “ป้าเหมยหรือ...เช่นนั้นข้าก็วางใจ” จากนั้นนางก็หันกลับไปตัดแต่งกิ่งองุ่นต่อ เซียวอี้หยางส่งสายตาให้อิงฮว่าที่กำลังช่วยเก็บกิ่งไม้ เด็กสาวเห็นเช่นนั้นย่อคารวะและเดินหลบออกมา หวังชิงหว่านเอ่ยถาม “ท่านพี่มีเรื่องสำคัญหรือ” “อืม...มันฝรั่งของเจ้าตอ

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    แยกย้ายกันไปเติบโต

    ตอนที่ 49 แยกย้ายกันไปเติบโต เซียวอี้หยางตื่นแต่งกายเตรียมไปทำงานตั้งแต่เช้ามืดเช่นเคย ชายหนุ่มจัดแต่งดึงอาภรณ์ให้เรียบร้อยรอบหนึ่งก่อนจะเดินไปหอมแก้มหวังชิงหว่านที่ยังนอนอยู่บนเตียงด้วยความรักใคร่ “อืม” หญิงสาวพึมพำเบาๆ รับทราบว่าชายหนุ่มกำลังจะไปทำงานแล้ว ชายหนุ่มลุกขึ้นดึงผ้าห่มปิดขาให้หญิงสาวก่อนจะเดินออกจากห้องมาแล้วตรงไปยังโรงครัว เมื่อเดินมาถึงก็เห็นมารดากำลังจัดแจงตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่ ชายหนุ่มจึงเอ่ยทักขึ้น “ท่านแม่” เซียวฮูหยินได้ยินเสียงบุตรชายก็เงยหน้าขึ้นคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน “อี้หยางมาแล้วหรือ...รีบมาทานโจ๊กต้มกระดูกหมู กำลังร้อน ๆ” เซียวอี้หยางรีบก้าวเดินเข้าไปอย่างกระตือรือร้น ขณะตักโจ๊กเข้าปากก็ปรายตามองดูมารดา ยังไม่ทันเอ่ยปากเซียวฮูหยินก็เอ่ยขึ้น “เจ้ากำลังจะห้ามแม่...ไม่ให้ลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าใช่หรือไม่” ชายหนุ่มก้มหน้าลงเอ่ย “ลูกมิกล้า เพียงแต่ตอนนี้ในเรือนก็มีบ่าวไพร่ไม่น้อย...ท่านแม่มิจำเป็นต้องเหน็ดเหนื่อย” เซียวฮูหยินถอนหายใจแล้วกล่าว “ทำงานมาทั้งชีวิต จู่ ๆ จะให้น

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    ไม่เอาได้หรือไม่

    ตอนที่ 48 ไม่เอาได้หรือไม่ หวังหรูเยว่เปิดหนังสือภาพสรุปการปลูกองุ่นด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น หวังชิงหว่านส่งมาให้นางเมื่อเช้านี้พร้อมกับเทียบเชิญให้ไปชมต้นองุ่นที่กำลังออกช่อ แม้ใบหน้าของหวังหรูเยว่จะเรียบเฉยทว่ามือกลับสั่นเทาอย่างห้ามไม่อยู่ สาวใช้ลอบมองแล้วเอ่ยอย่างระมัดระวัง “สะใภ้รองจะให้บ่าว...แจ้งกลับพวกเขาอย่างไรดีเจ้าคะ” หวังหรูเยว่สูดลมหายใจเข้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบนิ่ง “ให้คนไปแจ้งน้องเจ็ดว่าข้าจะไปเยือนสวนองุ่นของนางในวันพรุ่งนี้เช้า” “เจ้าค่ะ...สะใภ้รอง” หวังหรูเยว่เหม่อมองอออกไปนอกหน้าต่าง ทบทวนเรื่องราวอยู่อย่างเงียบ ๆ ตกเย็นเมื่อสามีกลับมานางยื่นหนังสือภาพเล่มนั้นออกไป แล้วมองดูใบหน้าสามีที่ตื่นตกตะลึงกับเนื้อหาข้างในด้วยความรู้สึกหลากหลาย คุณชายรองอันเปิดหนังสืออ่านด้วยความรู้สึกลิงโล้ดแม้ว่าตระกูลอันจะเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ ทว่าความมั่งคั่งล้วนมาจากการขายองุ่น มันทำสร้างรายได้หลายหมื่นตำลึงต่อปี หากครั้งนี้สามารถเพิ่มรายได้ขึ้นมามากกว่าเดิม ไม่แน่ว่าตำแหน่งผู้นำตระกูลอาจจะเป

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    มีบางอย่างแฝง

    ตอนที่ 47 มีบางอย่างแฝง เรื่องของกัวฉู่เหอกับซ่งหยวนกลายเป็นเรื่องขบขันพูดคุยสนุกปากของคนในเมืองหลวง ทั้งตระกูลกัว ตระกูลซ่งต่างปิดประตูจวนเงียบไม่ออกมาแก้ต่างหรือให้ข้อมูลอะไร แต่กระนั้นก็ยังมีกระแสข่าวเล็ดรอดออกมา ว่ากัวฉู่เหอถูกส่งไปอยู่ชายแดนให้ท่านแม่ทัพกัวอบรม ส่วนซ่งหยวนก็ถูกส่งไปเลี้ยงสัตว์ที่ชายแดนใต้ทั้งคู่คาดว่าอีกหลายปีถึงจะกลับเมืองหลวง หวังชิงหว่านผงกศีรษะฟังเรื่องราวจากเด็กๆ ด้วยสีหน้าตื่นเต้นคล้ายกับเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตนเอง วันเวลาผ่านไป องุ่นเริ่มแทงช่อดอกออกมา “นี่คือดอกองุ่นหรือขอรับพี่สะใภ้” ลู่อันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ใช่แล้ว...อีกสามสี่เดือนพวกเราคงจะได้ทานองุ่นกันแล้ว” “พวกเจ้าเห็นแล้วก็ขยับออกไปให้ข้าดูด้วย” เด็ก ๆที่มารดน้ำต่างเบียดกันเข้ามาดู หวังชิงหว่านหัวเราะเบา ๆ กล่าว “ค่อย ๆ ก็ได้” จากนั้นนางก็หันไปเอ่ยกับลี่อิน “จำได้หรือไม่...ว่าข้าทำช่อดอกองุ่นอย่างไร”ลี่อินยิ้มพยักหน้า “จำได้เจ้าค่ะ...พี่สะใภ้จะให้ข้าเลือกทำช่อต้นอื่น ๆ เลยหรือเปล่าเจ้าคะ”

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    คิดไม่ถึง

    ตอนที่ 46 คิดไม่ถึง เซียวอี้หยางจูงม้าโดยมีหวังชิงหว่านเดินอยู่เคียงข้าง หญิงสาวเอ่ยถาม “เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรคะ” ชายหนุ่มอมยิ้มชำเลืองมอง “นึกว่าน้องหญิงจะยังอยากจะเดาเรื่องราวต่อ” หวังชิงหว่านส่ายหน้า “ท่านพี่เล่ามาเถอะ...แผนซ้อนที่ท่านวางไว้มีอะไรบ้างกันแน่”เซียวอี้หยางมองไปข้างหน้าแล้วเอ่ยขึ้น “...คุณหนูสามเมิ่งที่ได้รับข้อความหนึ่งจากคนแปลกหน้า .... ช่วงเวลานี้...คงจะอยู่หน้าเรือนลับเรือนนั้นพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทางการแล้ว” หวังชิงหว่านยิ้มกล่าว “ข้อความนั้นคงเป็นพวกท่านที่จัดการ...ทว่ามือปราบของทางการที่หาเรือนลับเจอได้อย่างรวดเร็ว...คงเป็นคนของกัวฉู่เหอที่ปูทางเอาไว้ให้ หวังให้พาท่านพี่..ไปเจอข้ากับเขาอยู่ตามลำพังกระมัง” เซียวอี้หยางพยักหน้ากล่าว “แม้จะคนจะผิดพลาด แต่เรื่องสนุกนับว่ายังมีให้คนชมอยู่” หวังชิงหว่างยิ้มนึกสนุก “พวกเราไปดูกันดีหรือไม่” ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่ได้...”เรือนลับ รถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ห่างออกไป คุณหนูสามเมิ่งเปิดผ้าม่านดูมีคนจำนวนหนึ่งกำลังมุ่ง นา

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    ผู้ไม่บริสุทธิ์

    ตอนที่ 45 ผู้ไม่บริสุทธิ์ หวังชิงหว่านหยิบเนื้อหมูตุ๋นเข้าปาก ความนุ่มอร่อยกลิ่นหอมอบอวลทำให้นางแทบลืมหายใจ “อืม...อร่อยแล้ว..ในที่สุดแม่ครัวคนใหม่ของเราก็ทำอาหารได้อร่อยแล้ว” เซียวอี้หยางยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วพูด “เจ้าคงสบายใจเสียที” หวังชิงหว่านพยักหน้ากล่าว “แน่สิ...หากให้ท่านแม่เข้าครัวทำอาหารให้ทานทุกมื้อ.. ถึงแม้ท่านจะเต็มใจข้าก็รู้สึกอกตัญญูอยู่ดี” เซียวอี้หยางจับตะเกียบหยิบไก่ทอดสมุนไพรเอ่ย “แต่เจ้าก็รู้...ตอนนี้ท่านแม่ก็มีความสุขกับการทำอาหารมาก” “ถึงกระนั้นพอมีลูกมือ...ก็นับว่าดีกว่าอยู่ดี” เซียวอี้หยางพยักหน้าเห็นด้วย ชายหนุ่มเคี้ยวอาหารเสร็จแล้วก็พูดต่อ “…กัวฉู่เหอจะลงมือแล้วนะ” หวังชิงหว่านหรี่ตามองอีกฝ่ายแล้วพูด “นี่เป็นข่าวจากสายลับข้างกายพวกเราหรือ” เซียวอี้หยางส่ายหน้า “มิใช่...การใช้ข่าวสายลับอาจจะทำให้อีกฝ่ายรู้ตัวได้ ครั้งนี้เป็นการได้มาด้วยวิธีธรรมดาเท่านั้น” หวังชิงหว่านพยักหน้าเข้าใจแล้วเอ่ยถาม “ท่านเห็นว่าอย่างไร” “ช่วงนี้...คงจะต้องรบกวนน้อง

  • ชาตินี้ ขอใช้ชีวิตในแบบง่าย ๆ    รอเวลา

    ตอนที่ 44 รอเวลาบรรยากาศยามราตรีสงบ ดวงดาวเปล่งประกายจัดตาใต้รัศมีแสงจันทร์ เซียวอี้หยางพรมจูบหวังชิงหว่านด้วยความรักใคร่ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า“ข้าอยากจะยกเลิกภารกิจคืนนี้เสียจริง”หวังชิงหว่านทุบอกชายหนุ่มเบา ๆ กล่าว “ท่านเก็บอาการลงเสีย...โน้นมีคนมาทางนี้แล้ว” เซียวอี้หยางมองตาม จากนั้นก็ดันร่างหญิงสาวกระโจนไปหากลุ่มคนดังกล่าว จางเคอกำลังจะชักกระบี่เห็นว่าเซียวอี้หยางก็หยุดแล้วเอ่ยขึ้น “ของที่พวกเจ้าต้องการมาแล้ว...เข้าไปข้างในกันเถอะ”หวังชิงหว่านเดินเข้าไปดูถังน้ำที่นางสั่งให้พวกเขาทำขึ้นมาด้วยความสนใจ เกาเวินเข้ามาอธิบาย“นี่เป็นถังน้ำสองชั้นแบบที่ท่านต้องการ” แล้วชายหนุ่มก็เปิดให้ดูข้างใน หวังชิงหว่านกวาดตาดูรอบหนึ่งแล้วเอ่ยถาม“มันเก็บน้ำได้ใช่หรือไม่” “ได้...สามารถใส่น้ำในถังด้านนอกนี้ได้เลย”หญิงสาวพยักหน้าชื่นชม จางเคอหยิบของในหีบออกมาแล้วเอ่ย “นี่คือดินประสิว...แม่นางหวังคงทราบ ว่าสิ่งนี้นอกจากราชสำนักห้ามผู้อื่นครอบครอง”หวังชิงหว่านพยักหน้าตอบ “ข้าเข้าใจ...อี้หยางเทน้ำลงในถังด้านนอกให้ข้า” เทน้ำได้ปริมาณพอเหมาะ หวังชิงหว่านก็เทดินประส

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status