Share

บทที่ 1 คุณอาไนต์ 100%

“เฮ้อ...” ลมหายใจหนักหน่วงถูกระบายออกจากปากได้รูป จิรัฎร์ถอดแว่นสายตาออก วักน้ำใส่หน้าเพื่อเรียกสติ เขาอายุสามสิบแปดแล้วทำไมจะไม่รู้ว่าพิรุณรัตน์คิดอย่างไรกับตนเอง หญิงสาวเริ่มมีท่าทีแปลกไปก็ตอนที่เริ่มแตกเนื้อสาว สายตาของเด็กสาวทอประกายยามมองเขาทุกครั้ง พิรุณรัตน์มักส่งยิ้มและมีท่าทีขวยเขินเวลาพบกันทุกเมื่อ แต่จิรัฎร์นั้นพยายามนิ่งเฉยและมองเด็กสาวอย่างเอ็นดู พยายามเว้นระยะห่างด้วยสถานะและอายุของเด็กหญิงที่ห่างจากเขาถึงสิบหกปี แม้ตอนนี้เด็กสาววัยรุ่นในวันนั้นจะโตเป็นผู้ใหญ่ที่สวยสะพรั่ง แต่เขาก็ไม่คิดเกินเลยกว่าความเอ็นดูที่มีให้หญิงสาว

จิรัฎร์ หรือ อาไนต์ ของคุณหนูเรนนี่ เริ่มทำงานที่นี่ตั้งแต่อายุยี่สิบหก เขารู้จักกับพิทักษ์เพื่อนรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย แม้จะอยู่คนละรุ่นและอายุห่างกันกว่าหนึ่งรอบ แต่เพราะมีใจรักชอบคล้าย ๆ กันจึงสนิทสนมและคบหาเป็นเพื่อนในชีวิตกันมาหลายปี จิรัฎร์สำนึกในบุญคุณของเพื่อนรุ่นพี่อย่างพิทักษ์อยู่เสมอ เนื่องจากเมื่อประมาณสิบสองปีก่อนบิดาของจิรัฎร์ป่วยเป็นมะเร็งระยะที่สาม ตอนนั้นชายหนุ่มทำงานที่บริษัทข้ามชาติที่หนึ่ง มีหน้าที่การงานและเงินเดือนที่เรียกว่าดีมาก แต่เมื่ออาการป่วยของบิดาลุกลาม เงินทุกบาททุกสตางค์ที่หามาได้จึงใช้ไปกับการรักษาบิดา จนสุดท้ายก็เรียกว่าหมดตัว หันหน้าไปพึ่งพาใครก็ไม่ได้ มีเพียงคนเดียว นั่นคือ พิทักษ์ เพื่อนรุ่นพี่คนนี้หยิบยื่นทั้งเงินและมิตรภาพที่จริงใจให้แก่เขาในวันที่ไม่เหลืออะไรเลย บิดาของจิรัฎร์ต่อสู้กับโรคมะเร็งอยู่เป็นปี จนกระทั่งวันหนึ่งท่านก็นอนหมดลมหายใจจากไป หลังจากงานศพของบิดาเสร็จสิ้นจิรัฎร์ถูกพิทักษ์ทาบทามให้มาทำงานที่บริษัท ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ เท่านั้น จิรัฎร์ยอมทิ้งเงินเดือนหลายหมื่นตัดสินใจลาออกจากบริษัทและมาอยู่กับพิทักษ์เพื่อเป็นการตอบแทบบุญคุณที่พิทักษ์เคยช่วยเหลือไว้ เวลาล่วงเลยมาตั้งแต่เขาเป็นหนุ่มเพิ่งเริ่มต้นใช้ชีวิต จนกระทั่งตอนนี้ที่อายุกำลังใกล้เข้าสู่วัยกลางคนแล้ว เขาก็ยังภักดีอยู่กับพิทักษ์ แม้มีหลายต่อหลายบริษัททาบทามเพื่อซื้อตัวและให้ข้อเสนอดี ๆ มากมายให้ลาออกไปทำงานกับบริษัทเหล่านั้น แต่เขาก็ไม่ไป และนั่นก็คืออีกเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อาจก้าวข้ามเส้นที่พิรุณรัตน์หมายจะลบออกไป บุญคุณของพิทักษ์มันมากมายจนเขาไม่ต้องการจะทำให้เพื่อนรุ่นพี่รู้สึกผิดหวังในตัวเขา 

ร่างเล็กชะเง้อมองไปทั่วแผนกแต่ไม่เห็นคนที่ตามหา จิรัฎร์หายออกจากห้องมาเกือบสามสิบนาทีแล้ว ไม่รู้ว่าเขาไปไหน ขาสวยกำลังเดินตามหาต่อแต่ก็ต้องสะดุดเมื่อพบว่าผู้หญิงหลายคนทั้งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอไปจนถึงอายุพอ ๆ กับอาไนต์กำลังรุมล้อมเขาอยู่ พิรุณรัตน์ทำหน้าเบื่อ เหยียดปากมองพวกนั้นที่ตาเป็นประกายยามมองคนร่างสูง 

“เฮ้อ…คู่แข่งฉันเยอะขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” ไม่คิดเลยว่าจิรัฎร์จะเป็นหนุ่มเนื้อหอม แต่จากที่ยืนมองคนร่างสูงก็ไว้เนื้อไว้ตัวไม่ล่วงเกินใกล้ชิดใครออกนอกหน้า เขายังสุภาพและอ่อนโยนเหมือนเคย พิรุณรัตน์มองจิรัฎร์ที่ส่งยิ้มให้ผู้หญิงพวกนั้นแล้วรู้สึกหวงแหนรอยยิ้มของเขาขึ้นมา มันควรเป็นของเธอคนเดียวสิ

“อาไนต์คะ!” ทุกสายตาหันไปมองทางต้นเสียงที่ดังขึ้น พิรุณรัตน์ฉีกยิ้มหวานหยดพร้อมทั้งกระพุ่มมือไหว้ทุกคนอย่างอ่อนน้อม 

“สวัสดีค่ะ” 

“อ้าว น้องเรนนี่ ไม่เจอกันนานสวยขึ้นเป็นกองเลยนะคะ” คนพูดคือคุณผกามาศผู้จัดการฝ่ายบัญชี หญิงสูงวัยที่แต่งงานและมีลูกแล้ว และน่าจะไม่ได้ชอบพออะไรจิรัฎร์ ส่วนถัดไปก็คือนันทินีและณัฐพร พนักงานที่เห็นหน้ากันมาหลายปี สองคนนี้อายุใกล้เคียงกับจิรัฎร์ ที่สำคัญโสด ฉะนั้นเธอจะจัดสองคนนี้อยู่ในหมวดศัตรู และคนสุดท้าย...

“สวัสดีค่ะ เพิ่งมาทำงานที่นี่เหรอคะ เรนนี่ไม่เคยเห็นเลย” สาวหน้าใหม่คือใครก็ไม่รู้ แต่พิรุณรัตน์มองว่าเป็นภัยและสมควรขึ้นเป็นศัตรูนัมเบอร์วัน เนื่องจากหล่อนอายุน่าจะไม่ถึงสามสิบ แต่ก็น่าจะเป็นรุ่นพี่เธอหลายปี หญิงสาวดูนุ่มนิ่มน่ารัก ตัวเล็ก ผิวขาว ปากสีชมพูระเรื่อ แต่หน้าอกหน้าใจนี่สิแน่นเสียจนเสื้อเชิ้ตแทบปริ หน้ามัธยมฯ นมมหา’ลัยเป็นแบบนี้สินะ ชิ! เธอก็มีย่ะ แต่..มีน้อยกว่าเจ้าหล่อนไปนิดเดียว

“อ๋อ นี่คุณปัทมาครับ เป็นผู้ช่วยของอาครับ” หัวคิ้วพิรุณรัตน์ขมวดเข้าหากันทันที ผู้ช่วยของอาไนต์ ทำไมเธอไม่ยักรู้มาก่อน คุณพ่อก็ไม่เคยเล่าให้ฟัง

“สวัสดีค่ะน้องเรนนี่ พี่ชื่อปัดนะคะ ได้ยินคุณพิทักษ์กับพี่ไนต์พูดถึงบ่อย ๆ เพิ่งจะได้มีโอกาสเจอกัน ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” พิรุณรัตน์ขมวดคิ้วหนักขึ้นเพราะสรรพนามที่ปัทมาเรียกจิรัฎร์นั้นดูใกล้ชิดเสียจริง

หญิงสาวยืนจ้องปัทมาไม่วางตา จิรัฎร์และคนอื่นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จิรัฎร์แสร้งกระแอมเรียกให้ใครสักคนหลุดจากภวังค์

“อะ! สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณปัด” พิรุณรัตน์เปลี่ยนสีหน้าฉับไว ฉีกยิ้มกว้างแต่ดวงตากลับไม่ได้ยิ้มตามสักนิด ปัทมาเองก็ส่งยิ้มแห้ง ๆ ไปให้ รู้สึกแปลกพิกลเพราะสายตาของบุตรสาวเจ้านายที่มองมานั้นเหมือนมองศัตรูคู่อาฆาตไม่มีผิด

“เรียกพี่ปัดก็ได้ค่ะ พี่น่าจะอายุมากกว่าน้องเรนนี่ไม่กี่ปี” ปัทมาพยายามสร้างมิตร แต่ยัยเรนนี่มองว่าเป็นมิจฉาชีพมากกว่า คุณหนูคนสวยส่ายหน้ารัว

“ไม่ดีกว่าค่ะ เรนนี่เรียกว่าคุณปัทน่ะดีแล้วค่ะ อาไนต์ขา...” ว่าแล้วก็หันไปหาคนที่ทำให้เธอว้าวุ่นใจ แขนเสลาเกาะเกี่ยวแขนแกร่งของจิรัฎร์เข้ามาใกล้ ยกมุมปากเหล่มองปัทมาเล็กน้อย

“เอ่อ...ครับ” จิรัฎร์ทำตัวไม่ถูก เขาไม่อยากให้พิรุณรัตน์รู้สึกเสียหน้าหากเขาจะดึงแขนออก แต่สิ่งนุ่มนิ่มที่มีผลต่อบุรุษเพศมันกำลังถูไถแนบชิดกับแขนเขาอยู่ แม้จิรัฎร์จะวางตนเองไว้ในสถานะอะไร แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ยั่วเย้าอยู่ข้าง ๆ ทำให้หายใจหายคอลำบากขึ้นมาเสียดื้อ ๆ 

“ไปทำงานกันดีกว่าค่ะ เรนนี่ขอตัวอาไนต์ก่อนนะคะ” 

“เอ่อ...ค่ะ ๆ” ผกามาศและพนักงานทุกคนยิ้มเจื่อนพยักหน้าหงึกหงัก มองตามร่างของทั้งสองไปจนเข้าไปในห้อง 

“น้องเรนนี่ดูหวงพี่ไนต์เนาะ” ณัฐพรเปิดปากคนแรก

“นั่นสิ เหมือนหึงยังไงยังงั้น” นันทินีเอ่ยต่อ 

“ไม่หรอก น้องเรนนี่เห็นเจ้าไนต์มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว สนิทสนมกันมานาน”

“สนิทสนมยังไงมันก็แปลกอยู่ดีนะพี่มาศ ดูตอนที่มองน้องปัดสิ ตานี่เขียวปั๊ด” ไม่มีใครพูดอะไรต่อเพราะผกามาศไล่ทุกคนให้กลับไปทำงาน เว้นแต่ปัทมาที่มองไปยังห้องของพิรุณรัตน์ หล่อนแอบมองบน เหยียดมุมปาก

“ฉันก็มีคู่แข่งเหมือนกันนะเนี่ย” ปัทมาเข้ามาเป็นผู้ช่วยของจิรัฎร์ได้สี่เดือนแล้ว เมื่อวานเพิ่งผ่านช่วงทดลองงาน และปรับเงินเดือนไปเอง หล่อนดีใจมากตั้งใจจะชวนจิรัฎร์ไปฉลอง เพราะเขาเป็นผู้ประเมินการผ่านงานของหล่อนเอง แต่ชายหนุ่มปฏิเสธและบอกว่าต้องเตรียมแผนงาน เพราะบุตรสาวของพิทักษ์จะเข้ามาทำงาน นึกว่ายัยเรนนี่ที่จิรัฎร์มักจะเล่าให้ฟังเป็นเด็กใส ๆ เสียอีก ที่แท้ก็นังแม่มดจ้องจะกินจิรัฎร์เหมือนหล่อนนี่เอง ฝันไปเถอะว่าจะยอม งานนี้ใครดีใครได้ ยัยเด็กที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ จะมาสู้อะไรกับหล่อนที่เป็นตัวแม่ล่าผู้ชายล่ะ

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status