Share

บทที่ 2 ยังรักไม่เปลี่ยน 100%

“น้องเรนนี่ว่าอะไรนะคะ?” ท้ายประโยคพิรุณรัตน์ตั้งใจพูดให้ปัทมาได้ยินคนเดียว หล่อนส่งสายตาดุกร้าวมาให้ แต่พิรุณรัตน์กลับตอบด้วยรอยยิ้มแฉ่งอย่างเคย 

“เปล่านี่คะ” ว่าจบก็ยักไหล่ เหยียดมุมปากให้คู่แข่งอย่างปัทมาได้เห็นซึ่งหน้าเพื่อเป็นการประกาศสงคราม และบอกว่าเธอจะลงสนามแล้วให้ระวังตัวไว้ให้ดี ปัทมาหน้าเจื่อน แต่ก็เพียงครู่เดียว ก่อนจะส่งยิ้มกว้างมาให้

“พี่ไนต์คะ พอดีมีเอกสารที่ปัดไม่ค่อยเข้าใจ ยังไงพี่ไนต์ช่วยมาดูให้ปัดหน่อยนะคะ”

“คงไม่ได้หรอกค่ะพี่ปัด” ยังไม่ทันที่จิรัฎร์จะได้ตอบคำถามพิรุณรัตน์ก็โพล่งขึ้นมาเสียก่อน หญิงสาวคว้าแขนจิรัฎร์ให้ชายหนุ่มขยับเข้ามาใกล้ ทั้งยังเอียงศีรษะซบไหล่กว้างอีกด้วย

“เช้านี้อาไนต์มีงานต้องสอนเรนนี่อีกเยอะเลยค่ะ เรนนี่ต้องรีบเรียนรู้งานเพื่อเข้ามาช่วยงานคุณพ่อน่ะค่ะ เลยต้องสอนงานอย่างใกล้ชิด รบกวนพี่ปัดไปศึกษาหาข้อมูลด้วยตนเองแทนนะคะ” อีกครั้งที่ผกามาศ นันทินีและณัฐพรมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เมื่อหยิบกาแฟได้แล้วก็ค่อย ๆ ย่องออกจากพื้นที่ที่เรียกได้ว่าระอุยิ่งกว่าสงคราม สามสาวมองหน้ากันอีกครั้งพยักหน้าพร้อมกันเป็นการรับรู้ แม้ปากจะไม่ขยับว่าขณะนี้มีศึกชิงพระเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งพวกเธอขอไม่เลือกว่าจะอยู่ทีมใคร รู้แต่ว่าใครชนะก็อยู่ทีมนั้นนั่นแหละ

เข้ามาในห้องทำงานส่วนตัวพิรุณรัตน์ก็ทิ้งกายลงบนเก้าอี้ มองเอกสารที่จิรัฎร์นำมาให้เพิ่มเติม เขานี่จริงจังกับการทำงานเสียจริง หญิงสาวคิดในใจแล้วลุกจากเก้าอี้เดินตรงไปยังร่างสูงที่ยืนตรวจเอกสารอยู่ ชายหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยที่มีมือเล็กบีบเคล้นอยู่ที่ไหล่

“อาไนต์เมื่อยไหมคะ เรนนี่นวดให้ค่ะ”

“อาไม่เมื่อยครับ ขอบคุณนะครับน้องเรนนี่” จิรัฎร์เบี่ยงตัวหลบ เหล่มองมือนุ่มเล็กน้อย ถึงมือนั้นจะนุ่มมากก็ตามแต่เขาก็ควรรักษาระยะห่างไว้เมื่ออยู่ตามลำพังชายหญิง

“มีตรงไหนที่น้องเรนนี่ไม่เข้าใจถามอาได้เลยนะครับ”

“มีค่ะ”

“ตรงไหนครับ?”

“ตรงนี้ค่ะ” ตาเรียวมองตามนิ้วมือเล็กที่ยกขึ้นแล้วจิ้มลงกลางอกของตนเอง จิรัฎร์กะพริบตาถี่ ๆ ก่อนผินหน้าหนีเนื่องจากจุดที่นิ้วชี้อยู่นั้นคือเนินอกขาวอวบ วันนี้พิรุณรัตน์ก็เหมือนกับปัทมาที่เปลี่ยนการแต่งกายจากลุคเรียบ ๆ เป็นสาวเซ็กซี่ ชุดเดรสรัดรูปคอวีสีดำกรอมเท้าถูกสวมทับด้วยสูทราคาแพงทำให้พิรุณรัตน์ดูน่ามอง หญิงสาวไม่ใช่คนที่หุ่นอวบอั๋นแบบปัทมา ทว่าก็มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่ผู้ชายอย่างเขาเห็นแล้วใจก็สั่นไหวได้เหมือนกัน จิรัฎร์หลบตาต่ำพยายามไม่มอง แต่เจ้าหล่อนสาวเท้าเข้าหาพร้อมทั้งตั้งใจแอ่นหน้าอกขึ้น 

“อาไนต์ขา...” เสียงหวานกระซิบใกล้ ๆ ลำคอ ชายหนุ่มลอบกลืนน้ำลายขนลุกอีกครั้ง ลมอุ่น ๆ เป่ารดในจุดชีพจรนั่นยิ่งทำให้สติที่คิดว่าประคองไว้ได้เริ่มสั่นคลอน 

“อาไนต์รู้ไหมว่าเรนนี่มีปัญหาหัวใจมากเลย” มือเล็กทุบอกดังอั๊ก มันกระเพื่อมตามแรงทุบ จิรัฎร์ถอยร่นจนตัวขึ้นมาเกยบนโต๊ะ พิรุณรัตน์ยังสาวเท้าตามไม่ลดละ

“เรนนี่แอบชอบผู้ชายคนหนึ่ง ชอบมานานหลายปี เขาอายุห่างจากเรนนี่สิบหกปีแน่ะ อาไนต์ว่าเรนนี่ควรทำยังไงดีคะ?” ขาเล็กยกขึ้นมาเกยที่หน้าขาของจิรัฎร์อย่างจงใจ นิ้วเรียวเริ่มกรีดกรายไปตามรังดุมและเลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จิรัฎร์วูบไหวช่วงกลางหน้าท้องเมื่อมันหยุดตรงหัวเข็มขัด 

“อาไนต์รู้ใช่ไหมคะว่าเรนนี่คิดยังไงกับอาไนต์” คราวนี้ไม่ใช่ฝันแล้ว และพิรุณรัตน์จะไม่ยอมให้จิรัฎร์ตกเป็นของใครได้อีก  เธอเคยผ่านการเสียชายหนุ่มไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งนั้นทำให้เธอเสียใจร้องไห้หนักอยู่หลายเดือน 

“อาไนต์จำวันที่เรนนี่บอกรักได้ไหม วันนั้นเมื่อแปดปีที่แล้วกับวันนี้ความรู้สึกเรนนี่ยังเหมือนเดิมนะคะ” ทั้งน้ำเสียงและแววตาของพิรุณรัตน์มันทำให้จิรัฎร์คิดถึงวันนั้น วันที่เด็กหญิงมาบอกว่ารักเขาแค่ไหน จิรัฎร์ตกใจมาก ไม่คิดว่าเด็กหญิงที่เขาเอ็นดูจะคิดเกินเลยกับเขาเกินกว่าสถานะที่เขาให้เธอ ตอนนั้นพิรุณรัตน์อายุได้เพียงสิบสี่ปี เริ่มแตกเนื้อสาว เขาเข้าใจว่าความคิด ความรู้สึกคงมาจากฮอร์โมนที่กำลังพลุ่งพล่านในตัว หากได้ใกล้ชิดกับใครก็เป็นธรรมดาที่จะรู้สึกตกหลุมรักได้ง่าย จิรัฎร์พยายามตั้งสติและบอกกับพิรุณรัตน์ในตอนนั้นว่าเขาคงให้สถานะที่เธอต้องการไม่ได้ และวันนี้เขาได้แต่งงานกับคนที่รักแล้ว ขอให้เธอตัดใจเสีย 

“เรนนี่ยังรักอาไนต์เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงนะคะ เรนนี่รออาไนต์มาตลอด” พิรุณรัตน์ตัดสินใจบอกความรู้สึกที่มันยังคงท่วมท้นอยู่ในอกมาตลอดหลายปี แม้เพื่อนสนิทของเธอจะบอกว่าเพ้อเจ้อ หรือบอกว่าไม่กี่เดือนเธอก็ลืมเขาแล้ว แต่ในความเป็นจริงเด็กหญิงพิรุณรัตน์ไม่เคยลืมรักแรกของตนเองเลย วันเวลาผ่านไปหลายปีจนจิรัฎร์หย่าร้างกับภรรยาและกลับมาเป็นโสดดังเดิม จากนี้ไปคือโอกาสทองของเธอที่จะจับเขามาเป็นสามี คราวนี้เธอจะไม่มีวันปล่อยให้เขาเป็นของใครอีกแล้ว หากไม่ได้แต่งงานกับอาไนต์ ชาตินี้ก็ไม่แต่งกับใครทั้งนั้น! 

8ปีที่แล้ว 

มือเล็กสั่นเทาจนกระดาษในมือร่วงสู่พื้น พร้อม ๆ กับน้ำตาของเด็กสาวที่หลั่งไหลออกเปื้อนแก้ม ‘การ์ดแต่งงาน’ ของจิรัฎร์และพิมพ์บุปผาพนักงานในบริษัทอีกคน ทั้งสองคบหาดูใจกันราว ๆ สองปีได้ ตลอดระยะเวลาของการคบหากันของทั้งคู่พิรุณรัตน์มองว่าพิมพ์บุปผาไม่คู่ควรกับจิรัฎร์เลยสักนิด ทั้งพิรุณรัตน์ยังเคยเห็นพิมพ์บุปผาออเซาะพนักงานชายต่างแผนกอีกด้วย แต่เธอไม่ได้บอกเรื่องนี้กับจิรัฎร์เพราะกลัวว่าหากเขาไม่เชื่อจะหาว่าเธอเป็นเด็กเลี้ยงแกะ

หลังจากจิรัฎร์แต่งงานไปได้เกือบปีพิรุณรัตน์ที่คิดว่าทำใจได้แล้วจึงมาที่บริษัทบิดาหลังจากไม่ได้มาที่นี่พักใหญ่ แต่เมื่อได้พบอาไนต์อีกครั้งความรู้สึกที่คิดว่ามันเลือนหายไปตามกาลเวลานั้นกลับยังปะทุแน่นอยู่ในอก แต่พิรุณรัตน์ก็รู้ดีว่าควรทำตัวเช่นไร หญิงสาวเองก็สร้างระยะห่างระหว่างเธอกับจิรัฎร์เช่นกัน วันเวลาล่วงเลยมาอีกเพียงปีเดียว ข่าวร้ายที่เหมือนจะเป็นข่าวดีก็ปรากฏขึ้น จิรัฎร์และพิมพ์บุปผาเลิกรากัน พิรุณรัตน์ไม่รู้ว่าเหตุผลที่ทั้งสองหย่าร้างกันคืออะไร และเธอไม่คิดสนใจหรือใส่ใจ เธอสนใจเพียงแค่ว่าตอนนี้อาไนต์ได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง แต่เธออยากให้โอกาสตัวเองได้โตกว่านี้ มีความคิดความอ่านที่มากขึ้น ทั้งยังพัฒนาความสวยของตนเองให้งามสะพรั่งเหมือนดอกไม้ที่บานเต็มที่ในยามเช้า พิรุณรัตน์อดทน เฝ้ามองจิรัฎร์อย่างห่าง ๆ มาตลอดหลายปีนับตั้งแต่เขาไม่มีใคร แม้เธอจะมีคนมาขายขนมจีบมากมายแต่เธอก็เซย์โนบอกปฏิเสธพวกนั้นไปหมด 

วันนี้พิรุณรัตน์คิดว่าตนเองพร้อมแล้วที่จะยืนเคียงข้างจิรัฎร์ในฐานะคนรัก แต่ว่าเขานี่สิ ไม่รู้จะคิดเหมือนกันหรือไม่ 

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status