เธอไม่ใช่นักประวัติศาสตร์ แค่เค้นสมองพยายามนึกถึงในหนังสือเรียนเอ่ยถึงเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้างก็ปวดหัวแทบแย่แล้ว เธอก็ไม่ใช่นักเขียนแนวพีเรียดเสียด้วย คลังข้อมูลก็น้อยไปอีก เธอมันสายฟิลกู๊ด สุขนิยมจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งตลอด ว่าแล้วเจ้าของร่างอรชนก็ทิ้งตัวนอนแผ่หลาบนเตียงของผู้อื่น เธอปิดเปลือกตาพลางระบายลมหายใจออกทางปาก เรื่องราวในโลกนี้มีมากมายที่ไม่อาจหาเหตุผลมาอธิบายได้ เธอเองก็ไม่รู้ว่าเหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยเหตุใด สายลมพัดผ่านแผ่วเบาหอมเอากลิ่นหอมของดอกไม้อ่อนๆ เข้ามาในห้อง คล้ายกึ่งหลับกึ่งตื่น จู่ๆ ก็รู้สึกเจ็บที่ริมฝีปากจนต้องลืมตาขึ้น ยกมือขึ้นปัดปายไปมาแต่ข้อมือสองข้างกลับถูกรวบขึ้นไว้เหนือศีรษะ หญิงสาวเบิกตากว้างอย่างตื่นตระหนก ลมหายใจร้อนระอุเจือกลิ่นสุราเป่ารดผิวแก้ม ดวงตาคมวาวจ้องมองราวกับจะกลืนกินเธอทั้งเป็น ร่างเล็กตื่นตระหนกพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่มือใหญ่เพียงข้างเดียวที่ตรึงข้อมือเธอไว้นั้นก็แสนแข็งแกร่งและผ่าวร้อนราวกับคีมเหล็กที่นาบไฟ
ย่าหยาพยายามเพ่งตามอง เจ้าของดวงตาดุจลูกไฟนี้คือใบหน้าของสินธุ์ แต่ชายตรงหน้ากลับมีแววตาดุดันน่ากลัว เส้นผมเกล้ารวบขึ้นเป็นมวยแต่รุ่ยร่าย แผ่นอกเปลือยเปล่าเผยกล้ามเนื้อแน่นหนั่น ท่อนขากำยำกดเรียวขางามไม่ให้ขยับหนี
“จะดิ้นรนไปไย หรือหวงเรือนร่างไว้ให้ชายชู้!”
“ชะ...ชู้...ชู้อะไร?” ย่าหยาส่ายหน้าไปมาอย่างมึนงง
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปาก “เสแสร้งเก่งเหลือเกินนัก ข้าไปปราบโจรชั่วอยู่หัวเมือง แต่เจ้าเฝ้าเรือนอยู่กับชู้!”
“คุณพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ” เธอดิ้นรนพยายามเอาตัวรอด ดูเหมือนว่าเขาไม่ใช่สินธุ์ที่เธอรู้จัก ข้อมือถูกบีบแน่นขึ้นจนเธอเจ็บแต่กัดริมฝีปากแน่นจนรู้สึกถึงรสเค็มคาวในปาก แต่กระนั้นก็ไม่ยอมส่งเสียงร้องขอความเมตตา
ดวงตาของชายหนุ่มไหวระริก เขาเฝ้าทะนุถนอมเมียรักมาเนิ่นนาน จะกอดแรงๆ ก็ยังเกรงว่าผิวกายละเอียดนุ่มจะบอบช้ำ แต่ไฉนนางทำร้ายจิตใจเขาถึงเพียงนี้ สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่อาจทำร้ายนางได้ลงจึงยอมปล่อยข้อมือเล็กเป็นอิสระ หญิงสาวรีบกระถดกายถอยหนีท่าทางหวาดกลัวและมองเขาราวกับเป็นคนแปลกหน้ายิ่งทำให้เขาปวดใจแสนสาหัส
หญิงสาวกวาดตามองรอบนี้ นี่ไม่ใช่ห้องที่เธอเข้ามาหาคุณสินธุ์ จากนั้นก็ก้มมองตนเองเห็นผ้าแถบหลุดรุ่ยจนเผยเนิ่นอกสล้างของตนจึงรีบใช้สองมือจับผ้าแทบอย่างลนลานท่ามกลางสายตาปวดร้าวของชายหนุ่มเบื้องหน้า
“มีสิ่งใดจะแก้ตัวก็ว่ามา พี่รอฟังคำเจ้าอยู่”
“ฉันไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร แต่ฉันไม่ได้มีชู้”
ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหน ร่างไหน ยุคสมัยใด แต่เธอเชื่อมั่นว่าตัวเองไม่ได้กระทำผิด โดยเฉพาะเรื่องผิดศีลธรรม
“เจ้าแน่ใจที่พูดรึ”
“แน่ใจที่สุด” เธอเชิดหน้าขึ้นท้าทาย คนอย่างเธอไม่มีวันทำเรื่องอย่างนั้นแน่นอน
สีหน้าของชายหนุ่มอ่อนลง ยื่นมือไปหมายจะโอบกอดเมียรัก แต่หญิงสาวขยับเท้าถอยหลังด้วยท่าทีหวาดกลัว ข้อมือนางแดงช้ำเป็นรอยช้ำเห็นแล้วชวนปวดใจนัก
“จับชายชู้ของแม่หญิงย่าหยาได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
เสียงดังจากด้านนอกทำให้ดวงตาสองคู่ประสานกันนิ่งก่อนที่ชายหนุ่มจะเบือนหน้าแล้วก้าวออกไป หญิงสาวก้มมองสำรวจตัวเอง ขยับปมผ้านุ่งให้เรียบร้อยแล้วสาวเท้าตามไปทันที แม้เธอจะเพิ่งตื่นมาในร่างนี้แต่จากประสบการณ์ที่เคยย้อนมาในปี ร.ศ.113 ทำให้มั่นใจว่าต้องมีเหตุการณ์บางอย่างสอดคล้องกัน เมื่อก้าวข้ามธรณีประตู หญิงสาวก็มั่นใจได้ว่าตนเองไม่ได้อยู่ในปี ร.ศ.113 และยิ่งไม่ใช่ พ.ศ.2567 อีกด้วย
ดูท่าทางเธอจะย้อนมาร่างตัวเองในยุคสุโขทัยหรือไม่ก็อยุธยา...
ขณะที่สมองยังประมวลผลไม่เสร็จ ร่างของเธอก็ถูกมือของหญิงผู้หนึ่งกระชากลงนั่งกับพื้น ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อเห็นใบหน้าของวาด-คนสนิทของคุณช้อย
“องค์วรสินเพคะ ให้ทหารตามจับชายชู้มาได้แล้วเพคะ”
หญิงผู้นั้นพูดพลางปรายตามองทางย่าหยาแล้วเหยียดมุมปากยิ้ม
“หม่อมฉันไม่อยากยุ่งเรื่องผู้อื่น แต่เห็นเต็มสองตาว่าแม่หญิงย่าหยาสวมเขาให้องค์วรสิน ทั้งที่พระองค์รักใคร่เสน่หามิสนใจว่าเป็นหญิงต่างบ้านต่างเมือง”
ย่าหยายันกายขึ้นนั่งแล้วหันไปมองชายอีกคนที่นั่งตัวสั่นอยู่ข้างๆ เพียงเธอสบตาด้วยเขาก็หลุบตาลงทันที
“ฉันไม่รู้จักคนๆนี้ ใส่ความกันชัดๆ มีหลักฐานอะไรมาว่าฉันมีชู้!” ย่าหยาพูดขึ้นแล้วกวาดตามองชายคนนั้นอีกครั้ง
‘ถ้าจะมีชู้ก็ต้องเลือกผู้ชายที่ดีกว่าสามีสิ นี่อะไร ดูไม่ได้เลย’
ยังไม่ทันพูดอย่างที่ใจคิด หญิงผู้มีใบหน้าเดียวกับวาดหยิบหวายมาฟาดลงที่กลางหลังทันที ย่าหยาส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด ขยับตัวหลบแต่ไม่พ้นแส้หวายฟาดลงมาอีกหลายครั้งจนผิวเนื้อแตกเลือดกระเซ็นเปื้อนเปรอะ
“บังอาจ!ใครให้เจ้าลงมือ” กว่าชายหนุ่มจะได้สติ ร่างเล็กก็เต็มไปด้วยบาดแผล เขาสืบเท้าเข้าไปหมายจะปกป้องหญิงที่รัก แต่มือใหญ่ข้างหนึ่งคว้าท่อนแขนไว้ก่อน เมื่อหันไปมองจึงเห็นพระเชษฐาและชายายืนอยู่ใกล้
“เสด็จพี่...นางเป็นเมียของน้อง หากนางทำผิดจริงน้องจะลงโทษเอง”
“แค่สตรีคนเดียว เจ้าไม่ต้องลดตัวลงไปให้แปดเปื้อนดอก อย่างไรนางก็แค่สตรีที่ถูกส่งตัวมาเป็นเชลยเท่านั้น แค่เจ้ารับนางไว้ก็นับเป็นบุญของนางแล้ว”
ต่อให้เป็นคนโง่ที่สุดก็เข้าใจได้ไม่ยาก เรื่องพวกนี้ถูกวางแผนไว้แล้วเพื่อกำจัดเธอ ใส่ร้ายป้ายสีให้ผู้อื่นมองว่าเป็นหญิงแพศยา
ดวงตาร้อนผ่าวไม่ยอมกะพริบตาเพราะเกรงว่าน้ำตาจะหลั่งริน
“นางวาด ลากหญิงแพศยาผู้นี้ออกไป อย่าให้เลือดเสนียดจัญไรเปื้อนวังของพระวรสิน”
ย่าหยาเห็นบ่าวรับใช้หลายคนเดินเข้ามาใกล้ เธอกระถดตัวถอยหนีแต่ขยับตัวเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ท้องน้อย เธอสูดลมหายใจลึกสะกดกลั้นความเจ็บปวด ทว่าครู่ต่อมาก็รู้สึกเจ็บเหมือนถูกบีบรัดที่ท้อง เลือดอุ่นไหลจากหว่างขาจนผ้านุ่งที่สวมอยู่เปื้อนคราบเลือด เหมือนมีบางสิ่งกำลังหลุดจากร่าง ความเจ็บปวดที่ไม่เคยพานพบทำให้เธอกรีดร้องออกมา
“นั้น...นั้นอะไร ...นางตั้งท้องรึ”
พระชายายกมือปิดปากอย่างไม่อยากเชื่อ ถวายตัวแค่สามเดือนตั้งท้องแล้วหรือไร และวรสินก็มักไม่อยู่วังเพราะต้องดูแลแทบชานเมือง
คุณาสินยิ้มเล็กน้อย “เพราะสมุดบันทึกของคุณ กลายเป็นของขวัญที่แสนพิเศษ ผมไม่ได้ให้คนอื่นเห็นเพราะเกรงว่าพวกเขาไม่เข้าใจจะคิดว่าคุณเป็นแม่มดหมอผี ผมจึงเก็บไว้และใช้เป็นแนวทางในการสร้างความมั่นคงของตระกูล ผมเชื่อว่าตัวผมต้องมาเกิดใหม่วนเวียนในสกุลเดิม ผมหวังว่าวันหนึ่งเราจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันจริงๆ เสียที” ย่าหยาพยักหน้ารับ ยังไม่ทันพูดอะไรต่อ พยาบาลก็เข้ามาในห้องเช็กอาการต่างๆ หญิงสาวจึงเอ่ยถาม “ฉันต้องนอนโรงพยาบาลอีกนานแค่ไหนคะ” “อาการโดยรวมดีขึ้นมากแล้ว ยังไงรอให้คุณหมอมาตรวจซ้ำอีกครั้งนะคะ” คุณพยาบาลส่งยิ้มให้ “แฟนคุณดูแลดีขนาดนี้ ได้ยาดีแบบนี้ต้องหายเร็วแน่นอนค่ะ”“แฟน...” “ขอบคุณครับ” ย่าหยารอจนพยาบาลสาวออกไปแล้วก็หันไปทำตาดุใส่ผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเตียงคนป่วย “คุณบอกคนอื่นว่าเราเป็นแฟนกัน?” “ก็ผมเป็นคนพาคุณมาโรงพยาบาล แล้วผมคิดไปเองว่าคุณไม่มีญาติที่ไหนและคงไม่อยากให้คุณแม่ของคุณกังวลใจ ผมเลยแจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าผมเป็นแฟนคุณ” ย่าหยาอยากจะต่อว่าแต่พอคิดว่าพูดไปก็คงเท่านั้น เธอกวาดตามองโดย
คุณาสิน... ชื่อของเขาทำให้เธอพลิกตัวขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือไปหยิบโน้ตบุ๊กมาเปิดแล้วค้นหาประวัติของผู้ชายคนนั้น แล้วเธอก็อ้าปากค้าง เขาไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด ไม่ใช่เจ้าของบ่อน้ำมันแต่ทำธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งที่อายุเพิ่งจะยี่สิบแปดเท่านั้น นามสกุลของเขายังเป็นนามสกุลเดิม เขายังคงเวียนว่ายในห้วงกรรมของตนละมั้ง? ส่วนเธอที่จำอะไรไม่ได้และบอกตัวเองเสมอว่าอยู่กับปัจจุบันมีเพียงความรู้สึกเดียวก็คือเหมือนรอใครสักคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธออยู่นี่ไม่ได้ตามแม่ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่ต่างประเทศ หญิงสาวสะบัดหน้าไปมา ตอนนี้เธอควรจัดการเรื่องของตัวเองดีกว่า หยุดงานเขียนไปหลายวัน รายได้ก็หดหาย มีเรื่องให้สะสางอีกมาก เธอไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเขานี่ยังไงก็ต้องทำงานหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเหมือนเดิมนั้นแหละ ชีวิตปกติของย่าหยาคือเขียนนิยายอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมของตัวเอง นานๆ จึงจะออกจากบ้านไปเปลี่ยนบรรยากาศสักครั้ง หรือไม่ก็ไปซื้อของใช้เข้าบ้านสัปดาห์ละหน ส่วนอาหารการกิน เธอกินง่ายอยู่ง่าย ถ้าไม่สั่งแบบเดริเวอรี่ก็ซื้ออาหารแช่แข็งมาใส่ตู้เย็น
“ไหวหรือเปล่า” น้ำเสียงคุ้นเคยเจือความห่วงใยทำให้ย่าหยาเอี้ยวใบหน้าไปมอง แต่ริมฝีปากปัดปลายคางของชายหนุ่มที่โน้มหน้าลงมาพอดี “คะ...คุณ...คุณสิน” “เมาหรือไม่สบาย” “ไม่ได้เมาเสียหน่อย” คุณาสินหัวเราะในลำคอ “คนเมาที่ไหนบอกว่าตัวเองเมา” “นี่คุณ!” “เอ่อ...” เจ้าของงานวันเกิดเอ่ยขึ้น “ย่าหยาจะไม่แนะนำหน่อยเหรอว่า...” ตอนนี้สายตาของเพื่อนสนิททุกคู่จ้องมองที่ย่าหยาและคุณาสิน เพื่อนสาวไม่ได้ขี้เหร่สมัยเรียนก็มีหนุ่มๆมาจีบเยอะแยะแต่ย่าหยาไม่สนใจ แล้วนี่ใครกัน เบ้าหน้าฟ้าประธานแบบนี้เพื่อนสาวไม่เคยปริปากพูดเลยสักคำ “เอ่อ...นี่คุณสิน...คุณาสินเป็น...” “เป็นคนตามจีบย่าหยาครับ” คุณาสินชิงพูดก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ “กรี๊ด!” เพื่อนๆที่เมาได้ที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างตื่นเต้น “ตายแล้วยัยย่าหยา มีหนุ่มหล่อมาจีบไม่เห็นเล่าให้เพื่อนฟังเลย” ย่าหยาอายจนหน้าแดงจัด เธอหันไปกวาดตามองเขาที่สวมเสื้อเชิ้ตผูกเนคไทหลวมๆ เข้ากับกางเกงสแล็คสีเข้ม ไม่เห็นเขาหลายวั
“ถ้า...ถ้าฉันไม่ใช่คนในอดีตชาติที่คุณตามหา คุณจะชอบฉันไหม?” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้ม เขามองเธอนิ่งนานจนเธอรู้สึกเห็นตัวเองในแววตาของเขา “ถ้าคุณเป็นผู้หญิงร้ายๆ หรือมีคนรักแล้ว ผมคงคอยให้ความช่วยเหลือคุณอยู่ห่างๆ แต่นี่คุณเป็นคนอ่อนโยน จริงใจ ถึงคุณจะเลี้ยงหมาแมวเองไม่ได้แต่ก็ช่วยสนับสนุนโอนเงินช่วยเหลือหมาแมวจรอยู่ตลอด นี่ยังไม่รวมที่คุณตรงสเป็คผมอีกด้วยนะ” “คุณรู้ได้ไง...เราเพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอ” เธอมองเขาอย่างไม่เชื่อนัก “ก็คุณเป็นคนที่ผมสนใจ ผมถึงอยากรู้ทุกเรื่องของคุณ” เขายิ้มแววตากรุ้มกริ่ม“แล้วฉันไปตรงสเป็คคุณตรงไหน”“สเป็คผมก็ตัวเล็กซ่อนรูป อะไรที่ผมควรเห็นคนเดียวก็ให้ผมมองคนเดียวก็พอ” ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์ค็อกเทลที่ดื่มไปหลายแก้ว เธอก้มหน้าไม่กล้าสบตากับเขาอีก ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปล้างมือแล้วรินน้ำอุ่นใส่แก้วเซรามิกสีเทาแล้วถือกลับมาให้หญิงสาว “ดื่มน้ำอุ่นๆ แก้แฮงค์ได้บ้าง” มือเรียวเล็กรับน้ำมาดื่มอย่างว่าง่าย เธอจิบไปไม่กี่คำก็ส่งแก้วคืนให้เขา ปลายนิ้วสัมผัสกันเล็กน้อย ทว่าราวกั
ทันที่ริมฝีปากร้อนของคนทั้งสองประกบกันอีกครั้ง ร่างกายผ่าวร้อนทาบทับลงมาบดเบียดแนบชิด สิ่งที่ใหญ่โตนั้นร้อนระอุคลอเคลียกลีบเนื้ออ่อนบางที่ยามนี้ฉ่ำชื้นเพราะถูกปลุกเร้าด้วยนิ้วมือร้ายกาจ คุณาสินผละจากริมฝีปากสวยแล้วพรมจูบลำคอขาวผ่องจนเป็นแดงเรื่อ ซุกไซและโลมเลียลำคอระเรื่อลงมาที่เนินอกสวยอีกครั้ง ขบเม้มดูดดึงที่ปลายถันจนเปียกชุ่มทำให้หญิงสาวเผลอใช้ปลายนิ้วจิกลงที่ต้นแขนกำยำอย่างลืมตัว “อื้อ พี่สิน...” ความต้องการของหญิงสาวทวีคูณ ขยับบดเบียดร่างแนบชิดพร้อมกับแยกเรียวขาออก ความปรารถนาจะถูกเติบเต็มทำให้เรียกร้องอย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาส่งนิ้วไปสำรวจเบื้องล่างอีกครั้งขยับนิ้วในร่องสาวจนมั่นใจว่าน้ำรักของเธอมากพอจึงประคองแก่นกายของตนส่งเข้าไปที่น้อย “อ๊ะ!” “อย่าเกร็ง” เขาพูดเสียงพร่าและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ ดวงตาของเธอปรือฉ่ำไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ แต่เพราะถูกปรนเปรอสวาทแทบขาดใจ เขาขยับเอวสอบดุนดันเข้าไปที่ละน้อย ขยับออกถอยเข้าเพิ่มความลึกไปที่ละนิดจนปลายหัวบากมุดเข้าไปในร่องสาว ย่าหยาตัวสั่นระริกในขณะที่อีกฝ
“โทษหยาเหรอคะ แต่พี่สินเริ่มก่อนนะ” เธออายจนหน้าแดงเรื่อ ไม่รู้ทำไมตอนเช้าเขาถึงมี ‘อารมณ์’ จนต้องจัดหนักก่อนไปทำงานทุกที เธอทำงานที่บ้าน ตื่นสายก็ไม่เป็นไรแต่เขานี่สิ “พี่เป็นเจ้าของบริษัท ไปถึงช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” เขายื่นหน้าไปแล้วกระซิบข้างหู “ต่ออีกรอบได้นะครับ” “คนบ้า! ไปทำงานเลย” “ครับๆ รับคำสั่งคุณภรรยาครับ” ย่าหยาไม่อยากจะโต้ตอบอีก ดูเหมือนพูดอะไรไปก็จะเข้าทางเขาเสียหมด คุณาสินยิ้มกว้างแล้วจูบหน้าผากคนรักเบาๆ ก่อนออกไปทำงานเช่นทุกวัน แต่ความรู้สึกนั้นแตกต่างไปจากเดิม เหมือนได้ของหายที่หาไปนานกลับมา 2-3คืนแรก เขานอนหลับไม่สนิทนักเพราะกังวลและกลัวว่าเธอจะหายไป และกลัวว่าเธอจะหวนกลับไประลึกถึงเรื่องราวในอดีต คุณาสินเดินออกมาจากห้องของคนรัก เขาไม่อยากเร่งรัดเธอเกินไป แต่อีกใจก็กลัวจะเสียเธอไปอีก ตอนนี้เขากลายเป็นคนขี้กลัวไปเสียทุกอย่าง บางทีเขาก็นึกขำตัวเอง ตอนที่ยังหาเธอไม่เจอมันก็เป็นความรู้สึกเหงาและเคว้งคว้าง แต่เมื่อได้พบเธอ ได้โอบกอดอีกครั้ง กลับกลัวว่าจะเสียเธอไป เขาอยากใช้ชีวิตกับเธอเ
“เอ่อ...เจ้านายครับ ผมไม่เห็นคุณย่าหยาเลยครับ” “อะไรนะ?” “ผมเข้ามารับเอกสารตามที่เจ้านายสั่ง ผมมาถึงคอนโดแล้วแต่ไม่พบคุณย่าหยาเลยครับ เอ่อ...โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ผมถามนิติกรคอนโดก็บอกว่าเห็นคุณย่าหยาเดินออกไปหน้าคอนโดแล้วยังไม่กลับเข้ามาครับ” “เป็นไปได้ยังไง” “ผมว่าแปลกๆนะครับ” “รอที่นั้นก่อน เดี๋ยวฉันลองติดต่อย่าหยาอีกที” คุณาสินวางสายจากลูกน้องแล้วโทรหาย่าหยา ใจของร้อนรุ่มไม่สนใจว่าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงานแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปที่ผนังกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอก ตอนนี้เขาอยู่บนตึกสูงระฟ้าแต่หัวใจของเขากำลังดำดิ่งอย่างหวาดวิตก หญิงสาวไม่รับสายและครู่ต่อมาก็เหมือนทโทรศัพท์ดับไปเสียเฉยๆ เขาสบถหัวเสียแล้วเปลี่ยนเป็นโทรตามลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาพบเขาทันที และโทรสั่งให้คนของเขาอีกคนไปขอดูกล้องวงจรปิดที่คอนโด เขาสูดลมหายใจลึกพยายามตั้งสติให้มั่น หากเป็นเรื่องอื่นเขาคงรับมือด้วยความใจเย็น แต่นี่เป็นเรื่องของย่าหยา ผู้หญิงที่ครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจของเขา ผ่านมาหลายชาติภพ เขาไม่
ชายผู้นั้นหน้าซีดมองร่างที่หลับใหลสลับกับหน้าถมึงทึงของวาด มือหยาบกร้านสั่นเทายื่นไปหมายแตะต้องเรือนร่างนวลละออ แต่มีเสียงคนพูดด้านนอกว่า ‘องค์วรสินเสด็จกลับมาแล้ว’ ทั้งสองจึงรีบออกไปราวกับภูติผีวิญญาณร้าย คราวนั้นองค์วรสินกลับมาได้เวลา แต่เธอกลับถูกเข้าใจผิดเพราะองค์วรสินเองก็ถูกปั่นศีรษะเป่าหูว่าเธอเป็นหญิงแพศยาคบชู้ ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยตายจากของเธอและลูกในครรภ์ แรงรักแรงอาฆาตทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเช่นนี้หลายชาติภพ เธอปล่อยวางตั้งแต่ชาตินั้นแต่คนผู้นี้ไม่อาจปล่อยเธอไป มือใหญ่กระชากเสื้อเธออย่างแรงทำให้ย่าหยาได้สติ หญิงสาวส่งเสียงหวีดร้องแล้วยกเท้าขึ้นถีบเปะปะไปทั่วแต่มือที่น่าขยะแขยงพวกนั้นจับเรียวขาเธอแล้วลูบไล้หยาบคาย คนหนึ่งถือสมาร์ทโฟนบันทึกภาพไว้ราวกับเธอคือนางเอกหนังAV ที่รับบทสาวสวยถูกขื่นใจ แต่นี่คือชีวิตจริงที่เธอกำลังจะถูกชายแปลกหน้ายำยี ‘พี่สิน’ ย่าหยาได้แต่พร่ำเรียกชื่อคนรักในใจ ใช่ เธอรักเขา ไม่ว่าผ่านมากี่ร้อยปีหรือกี่ชาติภพ เธอก็ยังคงรักผู้ชายคนนี้ โครม! เสียงถีบประตูดังสนั่นท
เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ ชายหนุ่มยิ้มเศร้าแล้วกอดร่างเล็กแน่นขึ้นราวกับกลัวว่าจะเป็นแค่ความฝันไป ไออุ่นจากกายแกร่งตอกย้ำว่าเขาคือคนที่หัวใจเธอเพรียกหา หญิงสาวส่งยิ้มให้เขาแล้วขยับตัวยื่นหน้าไปจูบมุมปากของชายหนุ่ม “หยารักพี่สินค่ะ หยาจะไม่หายไปไหนอีก ครั้งนี้เรามาทำให้มันไม่เหมือนเดิมนะคะ” แววตาของเธอคือคำตอบที่เขารอคอย มีหลายร้อยหลายพันคำที่เขาอยากพูด แต่กลับพูดไม่ออก อับจนถ้อยคำอย่างน่าสงสาร ความรู้สึกที่มีทั้งหลายทั้งปวงหลอมรวมเป็นอ้อมกอดแนบแน่น ไม่ว่าเขาจะเป็นใครแต่หัวใจของเขายังเป็นดวงเดิมที่รักเพียงหญิงเดียวเสมอมาและจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป รักครั้งนี้กับหัวใจดวงเดิมที่จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้วบทส่งท้าย ข่าวโฮโซสาวชื่อดังและครอบครัวถูกจับข้อหาฉ้อโกงและคดีแชร์ลูกโซ่เป็นที่พูดถึงกับไปทั่ว ช่องข่าวทุกช่องรวมทั้งโลกโซเซียลให้ความสนใจกันมาก แต่นั้นทำให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวพอใจมาก เพราะพวกเขาไม่ต้องเป็นเป้าสายตาของใครนัก มารดาของย่าหยาและสามีใหม่บินตรงกลับเมืองไทยตามคำเชิญของว่าที่ลูกเขยเพื่อที่ทั้งสองครอบครัวจะ
คุณาสินวางร่างของย่าหยาลงบนเตียง เขาปรายตามองไปทางประตูเห็นลูกน้องปิดให้เรียบร้อยก็ถอนหายใจเบาๆ คนตัวเล็กยื่นมาคล้องคอเขาไว้ “พี่สิน” เสียงหวานครางแผ่ว “หยาอยากอาบน้ำ” เธอต้องการเขาเหลือเกิน แต่สภาพนี้มันก็เกินกว่าตัวเธอเองจะรับได้ ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ อุ้มคนตัวเล็กเดินไปที่ห้องน้ำ “เด็กดี...ให้พี่ช่วยนะครับ” เขาพูดขณะปล่อยให้เธอลงยืน หญิงสาวพยักหน้ารับให้เขาช่วยถอดเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นออกจากร่าง น้ำอุ่นไหลผ่านฝักบัวรินรดร่างเปลือยเปล่า มือใหญ่ค่อยๆ เช็ดใบหน้าสวยอย่างเบามือพลางสำรวจดูว่าเธอบาดเจ็บที่ไหนบ้าง เสียงหวานครางแผ่วยื่นมือไปปลดกระดุมเสื้อของเขาออกอย่างร้อนรน ปลายนิ้วสัมผัสแผ่นอกกว้างที่คุ้นเคยแล้วยื่นหน้าไปจูบอกซ้ายของเขา ชายหนุ่มถึงกับหลุดเสียงครางออกมา มือเรียวเล็กพยายามปลดเข็มขัดของเขาออก เขาจึงเลื่อนมือลงไปจัดการด้วยตัวเอง ปล่อยให้ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าต่อหน้าคนรัก ผ่านมากี่ร้อยปี เธอก็ยังเป็นคนเดียวที่เขารัก แม้เคยคิดหันหลังให้ความรู้สึกที่มีแต่หัวใจมันไม่ยอมหยุดรักเธอได้เลย มือใหญ่กุมมือเล็กให้กอบกุมท
ชายผู้นั้นหน้าซีดมองร่างที่หลับใหลสลับกับหน้าถมึงทึงของวาด มือหยาบกร้านสั่นเทายื่นไปหมายแตะต้องเรือนร่างนวลละออ แต่มีเสียงคนพูดด้านนอกว่า ‘องค์วรสินเสด็จกลับมาแล้ว’ ทั้งสองจึงรีบออกไปราวกับภูติผีวิญญาณร้าย คราวนั้นองค์วรสินกลับมาได้เวลา แต่เธอกลับถูกเข้าใจผิดเพราะองค์วรสินเองก็ถูกปั่นศีรษะเป่าหูว่าเธอเป็นหญิงแพศยาคบชู้ ทำให้เรื่องราวจบลงด้วยตายจากของเธอและลูกในครรภ์ แรงรักแรงอาฆาตทำให้ต้องเวียนว่ายตายเกิดเป็นเช่นนี้หลายชาติภพ เธอปล่อยวางตั้งแต่ชาตินั้นแต่คนผู้นี้ไม่อาจปล่อยเธอไป มือใหญ่กระชากเสื้อเธออย่างแรงทำให้ย่าหยาได้สติ หญิงสาวส่งเสียงหวีดร้องแล้วยกเท้าขึ้นถีบเปะปะไปทั่วแต่มือที่น่าขยะแขยงพวกนั้นจับเรียวขาเธอแล้วลูบไล้หยาบคาย คนหนึ่งถือสมาร์ทโฟนบันทึกภาพไว้ราวกับเธอคือนางเอกหนังAV ที่รับบทสาวสวยถูกขื่นใจ แต่นี่คือชีวิตจริงที่เธอกำลังจะถูกชายแปลกหน้ายำยี ‘พี่สิน’ ย่าหยาได้แต่พร่ำเรียกชื่อคนรักในใจ ใช่ เธอรักเขา ไม่ว่าผ่านมากี่ร้อยปีหรือกี่ชาติภพ เธอก็ยังคงรักผู้ชายคนนี้ โครม! เสียงถีบประตูดังสนั่นท
“เอ่อ...เจ้านายครับ ผมไม่เห็นคุณย่าหยาเลยครับ” “อะไรนะ?” “ผมเข้ามารับเอกสารตามที่เจ้านายสั่ง ผมมาถึงคอนโดแล้วแต่ไม่พบคุณย่าหยาเลยครับ เอ่อ...โทรศัพท์ก็ติดต่อไม่ได้ ผมถามนิติกรคอนโดก็บอกว่าเห็นคุณย่าหยาเดินออกไปหน้าคอนโดแล้วยังไม่กลับเข้ามาครับ” “เป็นไปได้ยังไง” “ผมว่าแปลกๆนะครับ” “รอที่นั้นก่อน เดี๋ยวฉันลองติดต่อย่าหยาอีกที” คุณาสินวางสายจากลูกน้องแล้วโทรหาย่าหยา ใจของร้อนรุ่มไม่สนใจว่าแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดในห้องทำงานแล้ว เขาลุกขึ้นเดินไปที่ผนังกระจกที่มองเห็นวิวด้านนอก ตอนนี้เขาอยู่บนตึกสูงระฟ้าแต่หัวใจของเขากำลังดำดิ่งอย่างหวาดวิตก หญิงสาวไม่รับสายและครู่ต่อมาก็เหมือนทโทรศัพท์ดับไปเสียเฉยๆ เขาสบถหัวเสียแล้วเปลี่ยนเป็นโทรตามลูกน้องคนสนิทให้เข้ามาพบเขาทันที และโทรสั่งให้คนของเขาอีกคนไปขอดูกล้องวงจรปิดที่คอนโด เขาสูดลมหายใจลึกพยายามตั้งสติให้มั่น หากเป็นเรื่องอื่นเขาคงรับมือด้วยความใจเย็น แต่นี่เป็นเรื่องของย่าหยา ผู้หญิงที่ครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในหัวใจของเขา ผ่านมาหลายชาติภพ เขาไม่
“โทษหยาเหรอคะ แต่พี่สินเริ่มก่อนนะ” เธออายจนหน้าแดงเรื่อ ไม่รู้ทำไมตอนเช้าเขาถึงมี ‘อารมณ์’ จนต้องจัดหนักก่อนไปทำงานทุกที เธอทำงานที่บ้าน ตื่นสายก็ไม่เป็นไรแต่เขานี่สิ “พี่เป็นเจ้าของบริษัท ไปถึงช้าหน่อยไม่เป็นไรหรอก” เขายื่นหน้าไปแล้วกระซิบข้างหู “ต่ออีกรอบได้นะครับ” “คนบ้า! ไปทำงานเลย” “ครับๆ รับคำสั่งคุณภรรยาครับ” ย่าหยาไม่อยากจะโต้ตอบอีก ดูเหมือนพูดอะไรไปก็จะเข้าทางเขาเสียหมด คุณาสินยิ้มกว้างแล้วจูบหน้าผากคนรักเบาๆ ก่อนออกไปทำงานเช่นทุกวัน แต่ความรู้สึกนั้นแตกต่างไปจากเดิม เหมือนได้ของหายที่หาไปนานกลับมา 2-3คืนแรก เขานอนหลับไม่สนิทนักเพราะกังวลและกลัวว่าเธอจะหายไป และกลัวว่าเธอจะหวนกลับไประลึกถึงเรื่องราวในอดีต คุณาสินเดินออกมาจากห้องของคนรัก เขาไม่อยากเร่งรัดเธอเกินไป แต่อีกใจก็กลัวจะเสียเธอไปอีก ตอนนี้เขากลายเป็นคนขี้กลัวไปเสียทุกอย่าง บางทีเขาก็นึกขำตัวเอง ตอนที่ยังหาเธอไม่เจอมันก็เป็นความรู้สึกเหงาและเคว้งคว้าง แต่เมื่อได้พบเธอ ได้โอบกอดอีกครั้ง กลับกลัวว่าจะเสียเธอไป เขาอยากใช้ชีวิตกับเธอเ
ทันที่ริมฝีปากร้อนของคนทั้งสองประกบกันอีกครั้ง ร่างกายผ่าวร้อนทาบทับลงมาบดเบียดแนบชิด สิ่งที่ใหญ่โตนั้นร้อนระอุคลอเคลียกลีบเนื้ออ่อนบางที่ยามนี้ฉ่ำชื้นเพราะถูกปลุกเร้าด้วยนิ้วมือร้ายกาจ คุณาสินผละจากริมฝีปากสวยแล้วพรมจูบลำคอขาวผ่องจนเป็นแดงเรื่อ ซุกไซและโลมเลียลำคอระเรื่อลงมาที่เนินอกสวยอีกครั้ง ขบเม้มดูดดึงที่ปลายถันจนเปียกชุ่มทำให้หญิงสาวเผลอใช้ปลายนิ้วจิกลงที่ต้นแขนกำยำอย่างลืมตัว “อื้อ พี่สิน...” ความต้องการของหญิงสาวทวีคูณ ขยับบดเบียดร่างแนบชิดพร้อมกับแยกเรียวขาออก ความปรารถนาจะถูกเติบเต็มทำให้เรียกร้องอย่างไม่เคยทำมาก่อน เขาส่งนิ้วไปสำรวจเบื้องล่างอีกครั้งขยับนิ้วในร่องสาวจนมั่นใจว่าน้ำรักของเธอมากพอจึงประคองแก่นกายของตนส่งเข้าไปที่น้อย “อ๊ะ!” “อย่าเกร็ง” เขาพูดเสียงพร่าและเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหวานที่แดงเรื่อ ดวงตาของเธอปรือฉ่ำไม่ใช่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอร์ แต่เพราะถูกปรนเปรอสวาทแทบขาดใจ เขาขยับเอวสอบดุนดันเข้าไปที่ละน้อย ขยับออกถอยเข้าเพิ่มความลึกไปที่ละนิดจนปลายหัวบากมุดเข้าไปในร่องสาว ย่าหยาตัวสั่นระริกในขณะที่อีกฝ
“ถ้า...ถ้าฉันไม่ใช่คนในอดีตชาติที่คุณตามหา คุณจะชอบฉันไหม?” มุมปากของชายหนุ่มยกยิ้ม เขามองเธอนิ่งนานจนเธอรู้สึกเห็นตัวเองในแววตาของเขา “ถ้าคุณเป็นผู้หญิงร้ายๆ หรือมีคนรักแล้ว ผมคงคอยให้ความช่วยเหลือคุณอยู่ห่างๆ แต่นี่คุณเป็นคนอ่อนโยน จริงใจ ถึงคุณจะเลี้ยงหมาแมวเองไม่ได้แต่ก็ช่วยสนับสนุนโอนเงินช่วยเหลือหมาแมวจรอยู่ตลอด นี่ยังไม่รวมที่คุณตรงสเป็คผมอีกด้วยนะ” “คุณรู้ได้ไง...เราเพิ่งเจอกันไม่ใช่เหรอ” เธอมองเขาอย่างไม่เชื่อนัก “ก็คุณเป็นคนที่ผมสนใจ ผมถึงอยากรู้ทุกเรื่องของคุณ” เขายิ้มแววตากรุ้มกริ่ม“แล้วฉันไปตรงสเป็คคุณตรงไหน”“สเป็คผมก็ตัวเล็กซ่อนรูป อะไรที่ผมควรเห็นคนเดียวก็ให้ผมมองคนเดียวก็พอ” ดวงตาฉ่ำเยิ้มด้วยฤทธิ์ค็อกเทลที่ดื่มไปหลายแก้ว เธอก้มหน้าไม่กล้าสบตากับเขาอีก ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินไปล้างมือแล้วรินน้ำอุ่นใส่แก้วเซรามิกสีเทาแล้วถือกลับมาให้หญิงสาว “ดื่มน้ำอุ่นๆ แก้แฮงค์ได้บ้าง” มือเรียวเล็กรับน้ำมาดื่มอย่างว่าง่าย เธอจิบไปไม่กี่คำก็ส่งแก้วคืนให้เขา ปลายนิ้วสัมผัสกันเล็กน้อย ทว่าราวกั
“ไหวหรือเปล่า” น้ำเสียงคุ้นเคยเจือความห่วงใยทำให้ย่าหยาเอี้ยวใบหน้าไปมอง แต่ริมฝีปากปัดปลายคางของชายหนุ่มที่โน้มหน้าลงมาพอดี “คะ...คุณ...คุณสิน” “เมาหรือไม่สบาย” “ไม่ได้เมาเสียหน่อย” คุณาสินหัวเราะในลำคอ “คนเมาที่ไหนบอกว่าตัวเองเมา” “นี่คุณ!” “เอ่อ...” เจ้าของงานวันเกิดเอ่ยขึ้น “ย่าหยาจะไม่แนะนำหน่อยเหรอว่า...” ตอนนี้สายตาของเพื่อนสนิททุกคู่จ้องมองที่ย่าหยาและคุณาสิน เพื่อนสาวไม่ได้ขี้เหร่สมัยเรียนก็มีหนุ่มๆมาจีบเยอะแยะแต่ย่าหยาไม่สนใจ แล้วนี่ใครกัน เบ้าหน้าฟ้าประธานแบบนี้เพื่อนสาวไม่เคยปริปากพูดเลยสักคำ “เอ่อ...นี่คุณสิน...คุณาสินเป็น...” “เป็นคนตามจีบย่าหยาครับ” คุณาสินชิงพูดก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดจบ “กรี๊ด!” เพื่อนๆที่เมาได้ที่ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดอย่างตื่นเต้น “ตายแล้วยัยย่าหยา มีหนุ่มหล่อมาจีบไม่เห็นเล่าให้เพื่อนฟังเลย” ย่าหยาอายจนหน้าแดงจัด เธอหันไปกวาดตามองเขาที่สวมเสื้อเชิ้ตผูกเนคไทหลวมๆ เข้ากับกางเกงสแล็คสีเข้ม ไม่เห็นเขาหลายวั
คุณาสิน... ชื่อของเขาทำให้เธอพลิกตัวขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือไปหยิบโน้ตบุ๊กมาเปิดแล้วค้นหาประวัติของผู้ชายคนนั้น แล้วเธอก็อ้าปากค้าง เขาไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด ไม่ใช่เจ้าของบ่อน้ำมันแต่ทำธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกอันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งที่อายุเพิ่งจะยี่สิบแปดเท่านั้น นามสกุลของเขายังเป็นนามสกุลเดิม เขายังคงเวียนว่ายในห้วงกรรมของตนละมั้ง? ส่วนเธอที่จำอะไรไม่ได้และบอกตัวเองเสมอว่าอยู่กับปัจจุบันมีเพียงความรู้สึกเดียวก็คือเหมือนรอใครสักคน ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้เธออยู่นี่ไม่ได้ตามแม่ไปอยู่กับครอบครัวใหม่ที่ต่างประเทศ หญิงสาวสะบัดหน้าไปมา ตอนนี้เธอควรจัดการเรื่องของตัวเองดีกว่า หยุดงานเขียนไปหลายวัน รายได้ก็หดหาย มีเรื่องให้สะสางอีกมาก เธอไม่ได้ร่ำรวยเหมือนเขานี่ยังไงก็ต้องทำงานหาเลี้ยงปากท้องตัวเองเหมือนเดิมนั้นแหละ ชีวิตปกติของย่าหยาคือเขียนนิยายอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมของตัวเอง นานๆ จึงจะออกจากบ้านไปเปลี่ยนบรรยากาศสักครั้ง หรือไม่ก็ไปซื้อของใช้เข้าบ้านสัปดาห์ละหน ส่วนอาหารการกิน เธอกินง่ายอยู่ง่าย ถ้าไม่สั่งแบบเดริเวอรี่ก็ซื้ออาหารแช่แข็งมาใส่ตู้เย็น