4เดือนต่อมา
เวลา 03.12 นาที
"อุแว้! อุแว้!"เสียงเด็กแผดร้องดังก้องขึ้นทั่วทั้งห้อง ทำให้คนตัวสูงที่กำลังนอนคว่ำเผยให้เห็นแผ่นหลังที่แต่งแต้มไปด้วยรูปรอยสักมังกร ต้องดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างเหม่อลอย เมื่อได้สติมือหนาก็เอื้อมไปกดเปิดสวิทไฟที่หัวเตียงให้ทั่วทั้งห้องสว่างขึ้นแล้วหย่อนขายาวทั้งสองลงจากเตียงนอนเดินตรงไปหาเปลนอนของลูกน้อยที่กำลังนอนแผดเสียงร้องไห้อย่างเอาแต่ใจอยู่
"ว่าไงเด็กดื้อ หิวหม่ำๆหรอครับ หรืออึๆ หื้มมม"เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่สองแขนแกร่งจะช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยที่กำลังร้องห่มร้องไห้มาไว้ในอ้อมอกแล้วโยกไปมาเพื่อกล่อมเด็กน้อยให้หยุดร้อง
"ชู่ววว์ ไม่ร้องนะครับเด็กดี ไม่ร้องนะ มี๊กำลังหลับอยู่ ไม่ร้องนะครับ ชู่ววววว์"มังกรเอ่ยกล่อมเด็กน้อยในอ้อมอกพลางตรวจเช็กแพมเพิสของเด็กน้อยว่าได้อึหรือฉี่หรือเปล่าพอเห็นว่าเด็กน้อยอึ มังกรก็จัดการปรับเปลี่ยนแพมเพิสให้เด็กตัวน้อยในทันที
หลังจากที่เปลี่ยนแพมเพิสและป้อนนมให้ลูกเสร็จ อชิตพลก็ช้อนอุ้มลูกน้อยพาดบ่าเพื่อ
บทส่งท้ายผ่านไป2ปีไว้เหมือนในนิยาย"คุณมังกร!!!"เสียงใสทรงอำนาทตะเบ่งเรียกชื่อประมุขของบ้านดังลั่น ทำให้เหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่กำลังฝึกอยู่ของอชิตพลต่างพากันสะดุ้งหันไปมองยังต้นเสียงตามๆกัน"คะ ครับ..."มังกรที่กำลังยืนดูการฝึกฝนของลูกน้องที่พึ่งจะรับเข้ามาใหม่ ต้องสะดุ้งโหย่งหันไปมองตามเสียงแล้วรีบเอ่ยขานรับน้ำเสียงติดขัดในทันที และด้วยเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้เหล่าลูกน้องชายที่อยู่ในชุดลำลองต่างหันมองหน้าสบตากันอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นนายเหนือหัวที่ดูเงียบขรึมและน่าเกรงกลัวของพวกเขากัน ทำไมอยู่ๆผู้เป็นนายที่มีสีหน้าท่าทางที่ดูจะโหดเหี้ยมของพวกเขาเมื่อกี้ ถึงได้แปลเปลี่ยนกลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่ง เมื่อชายร่างโปร่งใบหน้าหวานคนนี้ปรากฏตัวขึ้น"คุณลืมอะไร"เซทท์เอ่ยถามขึ้นเสียงต่ำพลางก้าวเดินเข้าประชิดตัวคนตัวสูงด้วยใบหน้านิ่งๆ ส่วนมังกรที่ได้ยินคำถามของคนตัวเล็กกว่า ก็ได้แต่ยืนงงพลางในหัวก็นึกคิดถึงสิ่งที่คนตรงหน้าเอ่ยถามไปด้วยล
เนื้อหาในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่อย่างใดและเนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากท่านใดไม่ชอบหรือไม่ถูกใจสามารถกดออกได้ทุกเมื่อณ.ตระกูลโชติฐิติเมธานนท์"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เสียงของเด็กน้อยวัยแรกเกิดแผดร้องดังก้องไปทั่วทั้งห้องนอน ทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างพิร์ภูณกรได้แต่อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมอกแล้วพาเดินไปเดินมาทั่วห้องเพื่อหวังให้ลูกน้อยนั้นสงบลงสักหน่อย เพราะเซทท์ไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ลูกน้อยของเขานั้นเป็นอะไร ถึงเอาแต่แผดเสียงร้องไห้อยู่อย่างนี้นานนับชั่วโมง จะว่าลูกน้องของเขาหิวก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาพึ่งจะป้อนนมลูกน้อยไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้เองและเขาเองก็ตรวจเช็กก้นลูกน้อยของเขาเรียบร้อยแล้วด้วยเจ้าตัวน้อยของเขาไม่ได้อึหรือฉี่เลยแม้แต่น้อย"ติณห์หนูเป็นอะไรครับ ทำไมหนูถึงร้องไห้งอแงจังเลยลูก"ร่างโปร่งบางที่อยู่ในสบายอิดโรยและใต้ขอบตาเริ่มมีสีดำคล้ำได้แต่อุ้มลูกน้อยโยกตัวไปมา ส่วนเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นมารดาก็ยังคงแผดเสียงร้องไ
ห้องอาหาร"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เด็กชายพิรภพเริ่มจะแผดเสียงร้องไห้อีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วไม่ได้ยินเสียงทุ้มเข้มของผู้เป็นพ่อ"อ่าาา ร้องไห้งอแงอีกแล้วนะเจ้าเสือ น้องติณห์หนูจะเอาอะไรลูก ทำไมวันนี้หนูงอแงกับมี๊จังครับ"พิร์ภูณกรบ่นอุ๊บอิบพลางช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยเดินเล่นรอบห้องโถง เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ร่างสูงของมังกรก็เดินทอดน่องลงมาจากชั้นสองก่อนที่จะรีบสาวเท้าเดินตรงมาหาสองแม่ลูกในทันที"น้องติณห์หนูไม่ดื้อกับมี๊สิครับ เห็นมั้ยป๊ายังไม่ดื้อกับมี๊เขาเลยนะ"อชิตพลเดินประชิดตัวร่างบางพลางยกมือขึ้นมาจิ้มพุงของลูกน้อยเบาๆสองสามที ก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มลูกน้อยและไม่วายเงยหน้ามาหอมแก้มนุ่มของผู้เป็นแม่ไปด้วยฟอดใหญ่ฟอดดดด"คุณมังกร!!!คุณนี้อีกแล้วนะ! อะ!เจ้าเสือ!!มี๊จั๊กจี้"เซทท์ที่กำลังเอ่ยว่าให้มังกรเป็นต้องร้องเสียงหลงหันมาปลามลูกน้อยแทน เมื่อใบหน้าเล็กของลูกน้อยหันเข้าหาอกบางแล้วใช้ริมฝีปากเล็กงับลงยอดถันผ่านเนื้อผ้าบาง พอผู้เป็นพ่อเห็นลูก
บทนำ/ดาร์บี้เป้าหมายปรากฏตัวแล้วรีบจบงานแล้วรีบออกมาซะ/เสียงของหูฟังบลูทูธแบบจิ๋วดังขึ้นแจ้งให้ร่างโปร่งที่กำลังซุ่มอยู่ในที่ลับตาคนได้รับรู้ถึงการปรากฏตัวของเป้าหมายที่เขากำลังตามอยู่"โอเคเห็นเป้าหมายแล้ว ว่าแต่จบงานเราไปกินชาบูกันมั้ยคาร์ลเดี๋ยวเลี้ยงเอง"ฟิ้ว!ฟิ้ว!ฟิ้ว!ร่างโปร่งเอ่ยถามเพื่อนชายที่กำลังติดต่อพูดคุยกันผ่านหูฟังบลูทูธพร้อมกับลั่นไกปืนที่ใส่ที่เก็บเสียงสองสามนัดใส่เป้าหมาย และทุกนัดที่ยิงไปนั้นคือจุดตายร่างโปร่งซุ่มมองดูสถานการณ์สักพักเพื่อความมั่นใจว่างานของตนนั้นเรียบร้อยจริงมั้ยและแน่นอนถ้าดาร์บี้นักฆ่าอันดับต้นๆลงมือไม่มีคำว่าพลาด/ขอร้องละดาร์บี้อย่ามาชวนกูกินชาบูทั้งๆที่มึงกำลังฆ่าคนได้มั้ย ทำอย่างกับงานที่ตัวเองกำลังทำคืองานพนักงานบริษัททั่วไปพอเสร็จงานแล้วชวนกันแดกชาบู แล้วก็รีบออกมาได้แล้วยืนยิ้มภูมิใจกับผลงานอยู่นั้น/คาร์ลเอ่ยพูดกับเพื่อนร่วมงานอย่างเหนื่อยหน่ายพร้อมกับเอ่ยย้ำให้ร่างโปร่งออกมาจากตรงนั้นได้แล้วเพราะลูกน้องของฝั่งตรงข้ามเริ่มจะรู้ตัวแล้ว"คาร์ลอย่าเล็งสไนเปอร์ใส่กูไอ้สัตว์"ดาร์บี้หรือชื่อเล่นจริงๆคือเซทท์เอ่ยพูดขึ้นเสียงนิ่งๆพร้อมกับหันไ
ร่างสูงร้อยแปดสิบเก้าก้าวเดินเข้ายังบ่อนกาสิโนอย่างคุ้นเคยโดยมีชายชุดดำเกือบสิบคนคอยเดินตามหลัง ส่งผลให้คนที่มองมายังร่างสูงรู้สึกว่าคนตัวสูงนั้นน่าเกรงขามและน่าหวาดกลัวไม่อยากเข้าไปใกล้หรือเข้าไปยุ่งนัยต์ตาดำขลับกวาดมองรอบๆเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนที่จะเดินตรงไปยังลิฟต์แล้วขึ้นไปชั้นที่ห้องทำงานของตัวเองอยู่ทันที"เรื่องที่ฉันสั่งถึงไหนแล้ว"เสียงทุ้มน่าเกรงขามเอ่ยถามถึงงานที่สั่งกับลูกน้องคนสนิททันทีที่นั่งลงยังเก้าอี้ในห้องทำงาน"ขอโทษครับบอส คนของเรายังหาคนที่บอสสั่งให้ไปจับตัวยังไม่เจอเลยครับ"เมทีเอ่ยตอบผู้เป็นนายตามความจริงถึงงานที่ผู้เป็นนายสั่งให้ไปจับตัวชายผู้หนึ่งแล้วจะให้พวกเขาทำยังไงได้ล่ะครับก็คนที่นายสั่งให้ไปจับตัวมานั้น พวกเขาไม่รู้ทั้งชื่อไม่มีทั้งรูปให้ดูไม่รู้ประวัติอะไรเลย รู้แค่สิ่งที่บอสบอกว่าเป็นผู้ชายใส่แว่นผิวขาวรูปร่างโปร่งแค่นั้นแล้วจะให้พวกเขาหาตัวเจอภายในวันสองวันได้ยังไงกันปัง!"ไร้ประโยชน์!"เสียงทุ้มต่ำน่าเกรงขามเปร่งออกมาพร้อมกับเสียงฝ่ามือทุบลงที่โต๊ะทำงานเสียงดัง บ่งบอกว่าผู้เป็นนายนั้นไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ยิน"ขอโทษครับบอสเดี๋ยวผมจะเร่งให้ลูกน้อง
เวลา18:47นาทีณ.คาเฟ่แห่งหนึ่งพิร์ภูณกรที่ในชุดลำลองกำลังนั่งขีดเขียนรูปภาพในไอแพดที่ตัวเองพกมาด้วยจำต้องเงยหน้าขึ้นมองเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม ที่อยู่ๆก็มีชายหนุ่มใบหน้าคมในชุดนักศึกษาเดินมานั่งลงคิ้วสวยทั้งสองข้างของเซทท์ขมวดเข้าหากันอย่างงงงวย ดวงตาใสใต้กรอบแว่นจ้องมองไปยังหนุ่มน้อยหน้ามนที่นั่งยิ้มส่งสายตาหยอกเย้ามาให้เขาอย่างไม่เข้าใจ"น้องมีอะไรหรือเปล่าครับ"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามหนุ่มน้อยที่ถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะกับเขาอย่างไม่ได้รับอนุญาตด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ นัยน์ตาคมใต้กรอบแว่นก็ยังคงจ้องมองใบหน้าหนุ่มน้อยด้วยสายตาไม่พอใจ"น้องเนิงอะไรกัน ผมว่าเราน่าจะอายุพอๆกันดีไม่ดีผมอาจจะอายุกว่าคุณด้วยซ้ำ เออจริงสิ ผมชื่อบิ๊กนะอยู่ปี4เรียนที่มหาวิทยาลัยใกล้ๆคาเฟ่นี้นายชื่ออะไรอ่ะแล้วเรียนที่มหาลัยไหนหรอ"หนุ่มน้อยหน้าคมยังเอ่ยพูดขึ้นอย่างยิ้มๆพร้อมกับแนะนำตัวเองให้ร่างบางตรงหน้าได้รู้จักตัวเองก่อนที่จะเอ่ยถามชื่อและข้อมูลของเจ้าของโต๊ะที่ตัวเขาถือวิสาสะมานั่งร่วมโต๊ะด้วยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ"แล้วทำไมผมต้องบอกคุณ"เซทท์เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญ ในใจก็พลางคิดไปด้วยว่าไอ้เด็กไม่มีมารยาทคนเขาอุสาหลบม
ร่างโปร่งที่กดตัดสายขององศาก็เก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะหันมาเผชิญหน้ากับเหล่าชายชุดดำที่ยืนดักหน้าดักหลังเขาอยู่"พวกคุณเป็นใคร"เสียงทุ้มใสเอ่ยถามพวกชายชุดดำตรงหน้าขึ้นอย่างนิ่งๆ มือบางกำกระชับสายกระเป๋าที่สะพายไว้แน่น สายตาใต้กรอบแว่นก็รอบมองหาช่องว่างที่จะหนีห้าคน ไม่สิ! มีอีกคนนั่งอยู่บนรถพิร์ภูณกรมองสำรวจและคิดในใจ คนตัวเล็กไล่นับชายชุดดำที่ล้อมหน้าล้อมหลังก่อนที่สายตาจะไปปะทะกับชายตัวอีกคนที่นั่งจ้องมองสถานการณ์อยู่บนรถไม่ไกลเอาไงดีวะ ด้านหน้ามีสามคนด้านหลังอีกสองบนรถอีกหนึ่ง มันพกปืนกันทุกคนด้วยสิ คิดสิเซทท์ คิดสิเอาเป็นว่าถ่วงเวลาไว้ให้ได้นานที่สุด สักสิบนาทีก็ยังดี สิบนาทีคงพอสำหรับรอให้องศามาช่วยเซทท์ที่กำลังใช้ความคิดอยู่นั้นจำต้องหลุดจากภวังค์ความคิดแล้วเบี่ยงตัวหลบจากชายชุดดำคนหนึ่งที่อยู่ๆก็พุ่งมาที่ตัวเขา ก่อนที่เท้าสวยจะยกขึ้นถีบเต็มแรงเข้าที่สีข้างของชายชุดดำคนนั้น จนทำให้มันลงไปนอนกองกับพื้นเพราะความจุกไปสักพักนอกจากจะไม่ได้คำตอบอะไรจากกลุ่มชายชุดดำตรงหน้าแล้ว คนพวกนั้นยังเล่นเขาที่เผลอด้วย"ใครส่งพวกมึงมา!"พิร์ภูณกรเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยน้ำเสียงนิ
เพล้ง!!!"ไร้ประโยชน์!!!"เสียงทุ้มทรงอำนาจตวาดขึ้นอย่างคนอารมณ์เสียพร้อมกับเสียงแจกันที่กระแทกฟาดฝาผนังจนแตกด้วยน้ำมือของผู้เป็นนายที่ขว้างมันเฉียดผ่านหัวลูกน้องคนหนึ่งที่ยืนเรียกหน้ากระดานกันอยู่ห้าคน"ขอโทษครับบอสผมผิดพลาดเอง"เมทีลูกน้องคนสนิทก้มหน้าเอ่ยรับความผิดพลาดในครั้งนี้ เพราะเขานั้นดันคาดการณ์ผิดเองไม่คิดว่าผู้ชายคนที่นายสั่งให้ไปจับตัวจะมีฝีมือในการต่อสู้ขนาดนี้ จึงเอาคนไปแค่ห้าคน จนทำให้งานที่นายสั่งในครั้งนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าอชิตพล หันมามองลูกน้องคนสนิทด้วยแววตานิ่งๆก่อนที่นัยน์ตาคมจะหันกลับมาไล่สังเกตสภาพลูกน้องแต่ละคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้สักคน รวมทั้งเมทีที่เป็นลูกน้องฝีมือดีของเขาด้วย"เฮ่ออออ...ออกไปให้หมด!"ผู้เป็นนายถอนหายใจพลางทิ้งตัวลงนั่งยังเก้าอี้ทำงานดังเดิมแล้วเอ่ยถามถึงเรื่องงานอีกอย่างที่เขาสั่งกับเมที"งานอีกอย่างที่สั่งถึงไหนแล้ว"มังกรเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทขึ้นทันทีที่ลูกน้องทั้งห้าคนออกจากห้องไป คนตัวสูงเอื้อมมือไปเปิดแฟ้มเอกสารสำคัญบนโต๊ะก่อนที่จะรับปากกาที่เมทีส่งให้มาเซ็น"นักฆ่าคาร์ลตอบมาแล้วครับบอส"ร่างสูงชะงักมือที่กำลังเซ็นเอกสารอยู่ทัน
ห้องอาหาร"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เด็กชายพิรภพเริ่มจะแผดเสียงร้องไห้อีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงแล้วไม่ได้ยินเสียงทุ้มเข้มของผู้เป็นพ่อ"อ่าาา ร้องไห้งอแงอีกแล้วนะเจ้าเสือ น้องติณห์หนูจะเอาอะไรลูก ทำไมวันนี้หนูงอแงกับมี๊จังครับ"พิร์ภูณกรบ่นอุ๊บอิบพลางช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยเดินเล่นรอบห้องโถง เวลาผ่านไปไม่กี่นาที ร่างสูงของมังกรก็เดินทอดน่องลงมาจากชั้นสองก่อนที่จะรีบสาวเท้าเดินตรงมาหาสองแม่ลูกในทันที"น้องติณห์หนูไม่ดื้อกับมี๊สิครับ เห็นมั้ยป๊ายังไม่ดื้อกับมี๊เขาเลยนะ"อชิตพลเดินประชิดตัวร่างบางพลางยกมือขึ้นมาจิ้มพุงของลูกน้อยเบาๆสองสามที ก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มลูกน้อยและไม่วายเงยหน้ามาหอมแก้มนุ่มของผู้เป็นแม่ไปด้วยฟอดใหญ่ฟอดดดด"คุณมังกร!!!คุณนี้อีกแล้วนะ! อะ!เจ้าเสือ!!มี๊จั๊กจี้"เซทท์ที่กำลังเอ่ยว่าให้มังกรเป็นต้องร้องเสียงหลงหันมาปลามลูกน้อยแทน เมื่อใบหน้าเล็กของลูกน้อยหันเข้าหาอกบางแล้วใช้ริมฝีปากเล็กงับลงยอดถันผ่านเนื้อผ้าบาง พอผู้เป็นพ่อเห็นลูก
เนื้อหาในตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่อย่างใดและเนื้อหาในตอนนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น หากท่านใดไม่ชอบหรือไม่ถูกใจสามารถกดออกได้ทุกเมื่อณ.ตระกูลโชติฐิติเมธานนท์"อุแว้ อุแว้ อุแว้"เสียงของเด็กน้อยวัยแรกเกิดแผดร้องดังก้องไปทั่วทั้งห้องนอน ทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างพิร์ภูณกรได้แต่อุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมอกแล้วพาเดินไปเดินมาทั่วห้องเพื่อหวังให้ลูกน้อยนั้นสงบลงสักหน่อย เพราะเซทท์ไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ลูกน้อยของเขานั้นเป็นอะไร ถึงเอาแต่แผดเสียงร้องไห้อยู่อย่างนี้นานนับชั่วโมง จะว่าลูกน้องของเขาหิวก็เป็นไปไม่ได้เลย เพราะเขาพึ่งจะป้อนนมลูกน้อยไปเมื่อไม่กี่นาทีนี้เองและเขาเองก็ตรวจเช็กก้นลูกน้อยของเขาเรียบร้อยแล้วด้วยเจ้าตัวน้อยของเขาไม่ได้อึหรือฉี่เลยแม้แต่น้อย"ติณห์หนูเป็นอะไรครับ ทำไมหนูถึงร้องไห้งอแงจังเลยลูก"ร่างโปร่งบางที่อยู่ในสบายอิดโรยและใต้ขอบตาเริ่มมีสีดำคล้ำได้แต่อุ้มลูกน้อยโยกตัวไปมา ส่วนเจ้าตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นมารดาก็ยังคงแผดเสียงร้องไ
บทส่งท้ายผ่านไป2ปีไว้เหมือนในนิยาย"คุณมังกร!!!"เสียงใสทรงอำนาทตะเบ่งเรียกชื่อประมุขของบ้านดังลั่น ทำให้เหล่าลูกน้องใต้บังคับบัญชาที่กำลังฝึกอยู่ของอชิตพลต่างพากันสะดุ้งหันไปมองยังต้นเสียงตามๆกัน"คะ ครับ..."มังกรที่กำลังยืนดูการฝึกฝนของลูกน้องที่พึ่งจะรับเข้ามาใหม่ ต้องสะดุ้งโหย่งหันไปมองตามเสียงแล้วรีบเอ่ยขานรับน้ำเสียงติดขัดในทันที และด้วยเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้เหล่าลูกน้องชายที่อยู่ในชุดลำลองต่างหันมองหน้าสบตากันอย่างงงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้เป็นนายเหนือหัวที่ดูเงียบขรึมและน่าเกรงกลัวของพวกเขากัน ทำไมอยู่ๆผู้เป็นนายที่มีสีหน้าท่าทางที่ดูจะโหดเหี้ยมของพวกเขาเมื่อกี้ ถึงได้แปลเปลี่ยนกลายเป็นแมวน้อยเชื่องๆตัวหนึ่ง เมื่อชายร่างโปร่งใบหน้าหวานคนนี้ปรากฏตัวขึ้น"คุณลืมอะไร"เซทท์เอ่ยถามขึ้นเสียงต่ำพลางก้าวเดินเข้าประชิดตัวคนตัวสูงด้วยใบหน้านิ่งๆ ส่วนมังกรที่ได้ยินคำถามของคนตัวเล็กกว่า ก็ได้แต่ยืนงงพลางในหัวก็นึกคิดถึงสิ่งที่คนตรงหน้าเอ่ยถามไปด้วยล
4เดือนต่อมาเวลา 03.12 นาที"อุแว้! อุแว้!"เสียงเด็กแผดร้องดังก้องขึ้นทั่วทั้งห้อง ทำให้คนตัวสูงที่กำลังนอนคว่ำเผยให้เห็นแผ่นหลังที่แต่งแต้มไปด้วยรูปรอยสักมังกร ต้องดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างเหม่อลอย เมื่อได้สติมือหนาก็เอื้อมไปกดเปิดสวิทไฟที่หัวเตียงให้ทั่วทั้งห้องสว่างขึ้นแล้วหย่อนขายาวทั้งสองลงจากเตียงนอนเดินตรงไปหาเปลนอนของลูกน้อยที่กำลังนอนแผดเสียงร้องไห้อย่างเอาแต่ใจอยู่"ว่าไงเด็กดื้อ หิวหม่ำๆหรอครับ หรืออึๆ หื้มมม"เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกน้อยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่สองแขนแกร่งจะช้อนอุ้มเด็กตัวน้อยที่กำลังร้องห่มร้องไห้มาไว้ในอ้อมอกแล้วโยกไปมาเพื่อกล่อมเด็กน้อยให้หยุดร้อง"ชู่ววว์ ไม่ร้องนะครับเด็กดี ไม่ร้องนะ มี๊กำลังหลับอยู่ ไม่ร้องนะครับ ชู่ววววว์"มังกรเอ่ยกล่อมเด็กน้อยในอ้อมอกพลางตรวจเช็กแพมเพิสของเด็กน้อยว่าได้อึหรือฉี่หรือเปล่าพอเห็นว่าเด็กน้อยอึ มังกรก็จัดการปรับเปลี่ยนแพมเพิสให้เด็กตัวน้อยในทันทีหลังจากที่เปลี่ยนแพมเพิสและป้อนนมให้ลูกเสร็จ อชิตพลก็ช้อนอุ้มลูกน้อยพาดบ่าเพื่อ
ณ.โรงพยาบาลอชิตพลหลังจากที่ชิตพลสติแตกแล้วโดนฝ่ามือเรียวของพิร์ภูณกรฟาดเรียกสติกลับมา มังกรก็รีบเร่งพาคุณแม่ท้องโตมาที่โรงพยาบาลในทันที พอมาถึงโรงพยาบาลเซทท์ก็ถูกเหล่าคุณพยาบาลเข็นพาไปที่ห้องเตรียมคลอด ส่วนมังกรก็ได้อยู่กรอกเอกสารต่างๆมากมายจนเสร็จสรรพแล้วค่อยตามไปเฝ้าร่างบางที่ห้องรอคลอดเวลาพัดผ่านไปหลายชั่วโมงหลังจากที่คุณหมอตรวจร่างกายของพิร์ภูณกรเรียบร้อย ก็แจ้งให้ว่าที่คุณแม่อย่างพิร์ภูณกรงดน้ำและอาหารเพื่อเตรียมผ่าคลอดในทันที พอถึงเวลาบุรุษพยาบาลก็มาพาคุณแม่ท้องโต้เข้าห้องผ่าตัดเพื่อผ่าคลอด โดยที่มังกรก็ได้แต่เดินตามและหยุดยืนรออยู่ด้านนอกห้องไม่ได้ตามเข้าไปถ้าจะถามว่าทำไมเขาไม่ตามเข้าไปทั้งที่เขาก็สามารถตามเข้าไปได้ ให้ตอบตามความจริงเลยคือ เขาไม่อยากเห็นเด็กดื้อของเขาเจ็บปวด แค่สีหน้าที่เซทท์แสดงให้เขาเห็นตอนเจ็บท้องคลอดระหว่างรอเวลาเข้าห้องผ่าคลอดเขาก็แทบจะทนไม่ไหว ถ้าเขาตามเข้าไปเฝ้าในห้องผ่าคลอดเขาต้องเป็นบ้าตายก่อนแน่ๆ
ภูเขาและองศาเวลา03:23นาทีคุณแม่ท้องโตที่กำลังนอนหลับใหลอยู่ในห้วงนิทราอยู่บนเตียงนอนนุ่ม ต้องสะดุ้งลืมตาตื่นขึ้นกลางดึก เมื่อความรู้สึกปวดร้าวเข้าเล่นงานที่ขาเรียวด้านซ้ายของเขา องศายันตัวลุกขึ้นนั่งใบหน้าสวยแสดงความบิดเบี้ยวด้วยความปวดราวที่เริ่มทวีคูณขึ้น จนเสียงใสต้องหลุดร้องออกมาให้คนที่นอนหลับอยู่ข้างกายได้ยิน"โอ๊ยยยย"ภูเขาที่กำลังนอนหลับอยู่ในห้วงนิทราเป็นต้องลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างตื่นตัว เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่ร้องอย่างเจ็บปวดขององศา ร่างสูงรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่งในทันทีพลางมือหนาก็เอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียงเพื่อให้ภายในห้องเกิดความสว่าง ก่อนที่เสียงทุ้มเข้มจะเอ่ยถามคนรักขึ้นอย่างเป็นห่วง"องศาเป็นอะไรครับ"ภูเขาเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนพลางนัยน์ตาคมก็ลอบมองสังเกตกายของคนรักด้วยแววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วงให้ได้เห็นอย่างชัดเจน"ตะคริวกินขาด้านซ้าย"องศาเอ่ยตอบคนตัวสูงด้วยน้ำเสียงสั่นเครือพร้อมกับรอบๆดวงตาสวยได้มีน้ำสีใสเอ่อนอง"อ่าาาโอเคครับ มาครับเดี๋ยวพี่นวดให้"ภูเขาที่ได้ยินคำตอบจากคุณแม่ท้องโต
เวลาพัดผ่านไป3เดือนด้านภูเขาและองศา"องศาคุณอย่าดื้อได้มั้ย"เสียงทุ้มเอ่ยว่าคนท้องพลางมือหนาก็ยกขึ้นคว้ามือบางขององศาที่กำลังสาละวนอยู่กับเส้นผมของเขา แต่องศาก็ยังคงชักมือออกจากการกับกุมของมือหนาและจัดการมัดจุกให้คนตัวสูงเหมือนเดิม"ผมไม่ได้ดื้อสักหน่อย"คนท้องยังคงเอ่ยปฏิเสธเสียงใสและมือบางก็ยังคงจับกลุ่มผมดกดำของภูเขามัดเล่นอยู่ไม่ห่างผมที่กำลังนั่งตรวจทานเอกสารอยู่ในห้องทำงานนั้นได้แต่ถอดถอนหายใจ เมื่อโดนคุณแม่ท้องโตที่หนีบมาทำงานด้วยก่อกวนไม่เลิก ก็ตั้งแต่วันที่องศาออกจากโรงพยาบาลมาจนถึงทุกวันนี้ องศาเขาก็ยังคงแสดงอาการออดอ้อนและอยากตามติดผมอยู่ตลอดเหมือนเดิมแถมดูท่าจะหนักขึ้นกว่าแต่ก่อนด้วย เพราะเวลาผมจะเดินไปไหนมาไหน องศาก็จะคอยเดินตามและคอยออดอ้อนผมอยู่ตลอดเวลาเหมือนไม่อยากที่จะห่างจากผม ขนาดผมจะเดินเข้าห้องน้ำองศายังจะเดินตามผมเข้ามาด้วยจนผมนึกสงสัยกับท่าทีที่แปลกไปแบบนั้นของเขา จึงได้พาไปหาหมอและพบว่าองศาได้แพ้ท้องแบบติดกลิ่นของผม คือแบบแพ้มากแบบติดกลิ่นผมมากๆ แบบติดกลิ่นของผมชนิดที่ว่าไม่ให้ห่างจากสายตาหรืออยู่
สองร่างนั่งจ้องมองกันไม่วางตา โดยที่พิร์ภูณกรนั่งอยู่บนเก้าอี้ราคาแพงในห้องทำงานของมังกร ส่วนเจ้าของห้องทำงานนั้นได้นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นตรงหน้าเก้าอี้ที่มีคนตัวเล็กนั่งอยู่ โดยที่แขนแกร่งทั้งสองข้างโอบกอดขายาวของร่างบางเอาไว้แล้วใบหน้าคมก็ซบอิงอยู่บนตักนิ่ม"ถ้าร้องไห้เสร็จแล้วมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา ถ้าไม่พูดก็เอาหน้าออกจากขาผมแล้วก็เลิกกอดขาผมด้วยผมจะกลับแล้ว"พิร์ภูณกรที่นั่งกอดอกพิงหลังกับผนักเก้าอี้เอ่ยพูดขึ้นมาเสียงนิ่งๆพลางนัยน์ตาสวยก็ยังคงมองสบกับดวงตาคมที่แดงก่ำจ้องมองมาที่ตัวเขาไม่วางตา"ไม่ได้ร้องสักหน่อย"มังกรยังคงเอ่ยปฏิเสธเสียงเบาพลางหมุดใบหน้าลงที่ตักนิ่มของเซทท์เพื่อหลีกหนีสายที่จ้องมองมาที่ตน"ไหนบอกให้ผมอยู่ฟังคำอธิบายของคุณไง ไหนล่ะคำอธิบายผมรอฟังอยู่นะคุณมังกร"เซทท์เอ่ยพูดย้ำขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับที่เข่าสวยกระทุ้งขึ้นเบาๆจนใบหน้าคมของมังกรที่อิงซบอยู่กระเพื่อมขึ้นไปตามแรงมังกรที่โดนเข่าหม่นกระทุ้งเข้าที่ใบหน้าก็พลางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเซทท์อีกครั้ง เสียงถอดถอนหายใจของคนตัวสูงดังขึ้นเฮือกใหญ่ ก่อนที่อชิตพลจะตัดสินใจเอ่ยพู
เวลาผ่านไป2อาทิตย์ไว้เหมือนโกหกอชิตพลตอนนี้อายุครรภ์ของพิร์ภูณกรเริ่มเข้าใกล้สู่เดือนที่5หรือก็คือประมาณ20สัปดาห์แล้ว อาการที่แพ้เหม็นกลิ่นของผมก็เริ่มดีขึ้นมากเลยทีเดียว และสองสามวันมานี้ผมยังสามารถเข้าใกล้พิร์ภูณกรได้มากขึ้นกว่าเดิม แถมตอนนี้ผมยังขอกลับเข้าไปนอนในห้องของตัวเองได้ด้วย แต่ถึงจะได้กลับเข้าไปนอนก็ยังคงได้นอนที่โซฟาเหมือนเดิม ยังไม่ได้กลับขึ้นไปนอนร่วมเตียงหรือนอนกอดเซทท์พูดแล้วก็เซ็ง เมื่อไหร่จะได้กลับไปนอนกอดเมีย!เมื่อไหร่เมียผมจะหายแพ้กลิ่นผม!แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ!มันก็ดีกว่านอนแยกห้องล่ะวะ!ถึงแม้ทุกวันนี้ที่ผ่านมาตลอดหนึ่งเดือน สภาพของผมมันแทบจะเป็นศพเดินได้แล้วก็เถอะ แต่พอได้กลับมานอนร่วมห้องกับเซทท์เหมือนเดิม ก็ถือว่าสภาพของผมดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนในตอนที่นอนแยกห้องมาก เพราะนอนหลับได้สนิทขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับหลับสนิทมาก ยังมีเผลอสะดุ้งตื่นมากลางดึกบ้างเป็นบางครั้ง แต่