RATTANACHOTRUENGKUL GROUP
บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื่อนพูดจบ ชิ หล่อนสะบัดหน้าใส่เพื่อนร่วมงานแล้วเดินไปทำงานของตนต่อ ติ้ง! เสียงลิฟต์เปิดออกที่ชั้น 40 เป็นชั้นสูงสุดของบริษัทซึ่งคือชั้นผู้บริหาร ดาราเลขาของบวรณ์บิดากวินทร์ ค้อมศีรษะให้ร่างสูงลูกชายของเจ้านายเล็กน้อย กวินทร์ไม่ได้สนใจเขาเดินผ่านเธอไปโดยไม่มีการทักทายอะไรทั้งนั้น ขายาวๆ ก้าวตรงไปยังห้องของบิดาตนอย่างเดียว ...แกร๊กก...ปัง!... เขาไม่คิดจะเคาะประตูเลยสักนิด จนคนที่นั่งพิงพนักเก้าอี้หนังตัวใหญ่ราคาแพงต้องเงยหน้ามอง “ทำไมไม่รู้จักเคาะประตูก่อน ถ้าฉันมีแขกจะทำยังไง” เขาต่อว่าลูกชายอย่างไม่จริงจังนัก “ไม่ใช่เรื่องของผมหนิ พ่อพูดธุระของพ่อมาเลยดีกว่า” กวินทร์ตอบบิดาเสียงห้วนพร้อมส่งคำถามกลับไป “ฉันจะให้แกเข้ามาเรียนรู้งานในฐานะว่าที่รองประธานบริษัท” บวรณ์บอกอย่างไม่อ้อมค้อม “ผมยังไม่พร้อม” กวินทร์ปฏิเสธทันควัน มองหน้าบิดาอย่างไม่เข้าใจท่านจะบ้ารึเปล่าคิดอะไรอยู่ถึงบอกเขาออกมาแบบนี้ เขายังเรียนไม่จบอยู่ๆ จะให้พรวดพราดมาทดลองงานตำแหน่งใหญ่เลยได้ยังไง “ตาวินแกโตแล้วนะ อีกแค่ 2 ปีก็จบ ฉันรู้ว่าแกทำได้แกฉลาดมากกว่าคนแก่อย่างฉันซะอีก” “พ่อประเมินผมสูงเกินไป” เขาว่าเสียงเรียบนิ่ง “วินแกไม่สงสารฉันบ้างหรือไงที่ต้องทำงานหนักแทบไม่ได้นอนทุกวัน ฉันเหนื่อยอยากวางมือ ใจคอแกจะทิ้งบริษัทที่ปู่แกสร้างขึ้นมาได้ลงคอหรอ” ประโยคยาวเหยียดของบิดาไหนจะน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าตนเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ทำให้กวินทร์ต้องนิ่งไปและใช้ความคิดอยู่นาน เขาเพิ่งอายุยี่สิบแม้เขาจะบริหารงานผับตัวเองอยู่ก็ใช่ว่าจะสามารถบริหารบริษัทที่ใหญ่โตขนาดนี้ได้ ถ้าเขาทำมันพังขึ้นมาล่ะจะเป็นยังไง บวรณ์มองลูกชายตนและรู้ในทันทีว่าอีกคนกำลังคิดอะไรอยู่ “แกทำได้แค่เชื่อมั่นในตัวเองก็พอ” เขาบอกกวินทร์ด้วยน้ำเสียงปลอบโยน บวรณ์รู้ว่าลูกชายตนเป็นคนเก่ง เขาเชื่อว่ายังไงลูกชายเขาก็ไม่มีวันทำให้เขาต้องผิดหวัง กวินทร์ขมวดคิ้วคิดหนัก ทั้งยังหนักใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สำหรับเขาสิ่งที่พ่อพูดออกมานั้นมันคือภาระอันใหญ่หลวงมากที่เขาต้องเจอ เอาตรงๆ เขากำลังสองจิตสองใจ อยากลองแต่ก็กลัวจะทำมันพัง แต่พอมองหน้าบิดาที่ตอนนี้กำลังมองเขาด้วยสายตาขอร้องอยู่นั้น ยอมรับเลยว่าสงสารท่านเหมือนกันที่ต้องแบกธุรกิจใหญ่โตแบบนี้คนเดียว นั่นจึงทำให้กวินทร์ตัดสินใจตอบตกลง “ครับ ผมจะทำ” บวรณ์ยิ้มให้กับคำตอบของกวินทร์เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้เข้าไปกอดลูกชายตบหลังเบาๆ “พ่อเชื่อใจลูกนะ” “ครับ” กวินทร์รับคำนิ่งๆ แปลกใจกับสรรพนามที่เปลี่ยนไปของบิดาตน ไม่บ่อยนักหรือแทบจะนับคำได้เลยที่เขาพูดแบบนี้ เขากอดตอบบิดาของตน หลังจากที่ทั้งสองผละออกจากกันบวรณ์ก็เอ่ยบอกกวินทร์ต่อ “เริ่มงานพรุ่งนี้เลยนะ” “ครับ” แล้วเขาก็คุยกับบิดาต่อสักพัก พอไม่ได้มีอะไรสำคัญที่ต้องพูดเขาก็เดินออกมาจากห้องเพื่อขับรถกลับคอนโด NIVA UNIVERSITY ซินดี้และเพื่อนของเธอเดินคุยกันออกมาจากห้องเรียนหลังจากที่เลิกคลาสแล้วทั้งสามได้ตกลงกันแล้วว่าจะไปหาอะไรทานกันที่ร้านประจำซึ่งก็คือคาเฟ่ร้านประจำ แต่ก่อนจะไปนั้นแพรวากับเรเน่ดันอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น เลยให้ซินดี้ไปรอที่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าอาคารแล้วทั้งสามก็แยกย้ายกันไป ซินดี้นั่งลงที่เก้าอี้แล้วเอาหนังสือขึ้นมาอ่านพลางรอเพื่อนไประหว่างนั้นเองก็ได้ยินของใครบางคนดังขึ้น “พี่วินคะ เมื่อไหร่พี่วินจะพาลูกหมู...ไปทานข้าวอีกคะ” บทสนทนาที่ค่อนข้างดังทำให้ซินดี้ต้องปิดหนังสือ และเธอจะไม่อะไรเลยถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่แทนตัวเองว่า ‘ลูกหมู’ ซินดี้หันกลับไปมองผู้หญิงคนนั้นที่ตอนนี้ก็กำลังมองมาที่เธออยู่เช่นเดียวกัน ผู้หญิงที่เธอเดินชนวันนั้นหนิ ซินดี้คิดในใจ เจนนี่จ้องหน้าซินดี้อย่างท้าทายและก็ยังไม่หยุดคุยกับคนในสาย *จอมปลอม* ใช่หลังจากที่เธอเห็นซินดี้เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะคนเดียวเธอเลยแกล้งทำเป็นคุยกับกวินทร์ให้เสียงดังและพูดคำว่าลูกหมูเน้นๆ เพื่อให้ซินดี้ได้ยินและก็ได้ยินจริงๆ “ไม่เอาอ่ะ เราไปพรุ่งนี้ดีกว่านะคะๆ” “เย้ๆ พี่วินน่ารักที่สุดเลย” “ลูกหมูก็คิดถึงพี่วินนะคะ แล้วเจอกันค่ะ” เจนนี่ทำเป็นวางสายไปเธอแสยะยิ้มใส่ซินดี้ก่อนจะเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กกว่าและก้มลงใกล้ใบหูเล็กและกระซิบบางอย่าง “ตัวจริงของเขามาแล้วถึงเวลาที่คนคั่นเวลาอย่างเธอต้องไสหัวไปแล้วล่ะ หึ ออ ฉันเจนนี่นะจำใส่สมองเอาไว้ให้ดีๆ ล่ะ” พูดเสร็จขาเรียวก็เดินออกไปเลยปล่อยให้ซินดี้นั่งนิ่งแข็งเป็นก้อนหินอยู่คนเดียว ตัวจริงงั้นหรอ? CLASSY CONDOMINIUM กวินทร์เปิดประตูเข้ามาในห้องตรงไปยังห้องนอน ล้มตัวลงบนเตียงนุ่มทันที ยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากด้วยความกังวล ไม่รู้ว่าจากนี้เขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง ถ้าเขาทำมันพังขึ้นมาคงพังกันหมด แต่ในเมื่อพ่อเชื่อใจเขาก็จะตั้งใจทำมันออกมาให้ดีที่สุด กวินทร์หยิบโทรศัพท์เครื่องหรูออกมาจากกระเป๋ากางเกง กดเข้าไปในโปรแกรมแชทของกลุ่ม Marcus : ทำไรกันวะ Teesit : ขับรถ Alan : มางานศพญาติที่ญี่ปุ่นว่ะ Marcus : ไอ้วินเงียบเลยนะมึง Gavyn : กูนอน Marcus : นอนตอนกลางวันนี่นะ อารมณ์ไหนของมึง Gavyn : กูเหนื่อยสัส Alan : จัดหนักหรอวะ Gavyn : นั่นก็ส่วนนึง Marcus : แล้วอีกส่วนคือไรวะ Teesit : ไอ้มาร์มึงนี่ชอบเสือกเรื่องของชาวบ้านจังเลยนะ Marcus : ไอ้ธี กูก็แค่เป็นห่วงเพื่อนมะ Teesit : หรออ Gavyn : พ่อกูจะให้ไปเรียนรู้งานในฐานะว่าที่รองประธาน Alan : ห๊ะ Marcus : OMG Teesit : จริง? Gavyn : อืม Teesit : แต่กูว่าไม่เห็นจะเป็นไรมึงเก่งออก ผับเรามึงยังทำได้ทั้งที่พวกกูไม่ค่อยได้ช่วยอะไรแล้วมึงจะกลัวทำไม Alan : เออ นั่นสินะ Gavyn : ผับแค่นั้นกับธุรกิจมากมายในเครือมันจะเหมือนกันได้ไงวะ Alan : ก็จริงของไอ้วินมันนะแต่ถ้ามึงไม่ลงมือทำแล้วจะรู้ได้ไงวะกูเชื่อว่ามึงทำได้ Marcus : ใช่ มึงฉลาดขนาดนั้น Alan : ไอ้มาร์ชมไอ้วินเว้ยย Marcus : ทำไมวะกูก็แค่ให้กำลังใจเพื่อนผิดหรอ Alan : เปล๊าา Marcus : เสียงสูงนะมึง Teesit : ยังไงก็สู้นะเว้ย พวกกูเป็นกำลังใจให้ Gavyn : ขอบใจพวกมึงว่ะ เมื่อคุยเสร็จกวินทร์ก็กดออกจากห้องแชทแล้วหลับตาลงทันที 5:00PM ซินดี้เปิดประตูเข้ามาในห้องหลังจากที่กลับจาก คาเฟ่ ซินดี้วางของไว้ที่โต๊ะในห้องนั่งเล่นแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา ตากลมมองไปที่รูปของเธอกับกวินทร์ที่ติดอยู่บนผนัง ‘เรามาทีหลังงั้นหรอ ไม่จริงหรอกน่า’ หลังจากนั้นก็สะบัดความคิดบ้าๆ ออกจากหัวแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนก็เจอกวินทร์นอนหลับอยู่ที่เตียง เขาไม่ได้ออกไปไหนหรอแอร์ก็เปิดซะเย็นเชียวม่านก็เปิดไว้ เธอเลยเดินไปปิดมันแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ครืดดด ครืดดดด เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำให้กวินทร์งัวเงียตื่นแล้วหยิบมันมารับ “ฮัลโหล” [พี่วินคะ] “ลูกหมูมีไรครับ” [คุณป้าบอกว่าพรุ่งนี้พี่วินเลิกเรียนแล้วจะไปทำงานที่บริษัทใช่มั้ยคะ] “ครับ” คุณแม่นี่จริงๆ เลย กวินทร์คิดในใจ [งั้นเจนขอไปด้วยได้มั้ยคะ นะคะ] เจนนี่พูดเสียงอ้อน “ก็ได้ครับ จะให้พี่ไปรับมั้ย” กวินทร์ทนลูกอ้อนของเจนนี่ไม่ไหวเลยต้องตอบตกลง [เอางั้นก็ได้ค่ะ เจนเลิกเรียนแล้วจะรอพี่วินที่หน้าคณะนะคะ] “ครับ” วางสายจากเจนนี่แล้วก็กำลังจะเดินออกไปข้างนอกแต่ก็เจอกับซินดี้ยืนอยู่หน้าห้องน้ำซะก่อนร่างสูงเลยนั่งลงที่เตียงเหมือนเดิม “ซิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่หรอ” “สักพักแล้วล่ะ” กวินทร์พยักหน้าให้ซินดี้ “วิน..คุยกับใครหรอ” “น้องน่ะ” “วินมีน้องด้วยหรอ ซินไม่เห็นเคยรู้เลย” “ลูกของเพื่อนแม่วินน่ะ” “ออ” ซินดี้พยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าเธอเข้าใจแล้ว แต่ความเป็นจริงในใจนั้นไม่เลยสักนิดไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องคุยกับคนๆ นี้ตลอดเลย คงจะไม่เป็นอย่างที่ผู้หญิงที่ชื่อเจนนี่พูดหรอกใช่มั้ย กวินทร์ดึงแขนซินดี้ให้นั่งลงที่ตักของเขาแล้วกอดเธอไว้พร้อมทั้งซบหน้าลงกับซอกคอขาว “วินเป็นอะไรรึเปล่า มีอะไรเล่าให้ซินฟังได้นะ” “พรุ่งนี้วินต้องไปเรียนรู้งานที่บริษัทน่ะ” “หื้ม ดีแล้วไม่ใช่หรอ” “ไม่ดีเลยสักนิด วินยังไม่พร้อมเลย” “ทำไมล่ะ วินของซินทั้งเก่งทั้งฉลาดทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว” กวินทร์กระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก “แต่ถ้าวินงานยุ่งมากๆ เราก็จะไม่ค่อยได้เจอกันนะ ไม่คิดถึงกันหรอ” “คิดถึงสิคิดถึงมากแต่วินไปทำงานนะซินเข้าใจอยู่แล้ว” ซินดี้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกว่าเธอเข้าใจ “ซินรักวินนะ” เธอพูดประโยคนี้แผ่วเบาแต่อยู่ใกล้กันขนาดนี้ก็ดังพอที่จะทำให้กวินทร์ได้ยินอยู่ดี ร่างสูงไม่ตอบอะไรแต่เขาเพิ่มแรงกระชับกอดเอวบางดึงเข้าแนบชิดกันมากขึ้นณ คอนโดมิเนียมราคาแพง ภายในห้องนอนสุดหรูบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ ขณะนี้มีสองร่างกำลังละเลงบทรักอันเร่าร้อนกันอยู่ เสียงครวญครางของทั้งคู่ที่ดังระงมไปทั่วทั้งห้อง โดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนข้างนอกจะได้ยินมั้ย“อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ...อืออ...ว..วิน แรงไป” เสียงครางหวานๆ ของซินดี้นั้นไม่ได้ทำให้กวินทร์ผ่อนแรงลงสักนิด“อ่าาส์..ตอดแรงสัส..ซีดดดดส์”“อืออ อ่ะ อะ”“ฮึ่ม แน่นจริงๆ”“ล..ลึกไปเกินไป”พั่บ พั่บ พั่บ!“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ”“อ่าาาส์”สำหรับซินดี้นั้นเซ็กส์ของกวินทร์ มันทั้งรุนแรงและสุดแสนจะเร่าร้อนเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็พยายามอ่อนโยนกับคนตัวเล็กสุดๆ แล้วนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าลูกชายของเขานี่แหละที่มีขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐานเอง หึ!สวบ! สวบ!“อะ อะ อืออ”“เอามันส์ชิป”“อ๊ะ ว...วินน”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”“ซี๊ดดดดดส์ อ่าาาส์ เสียวหัว” ใบหน้าหล่อเงยหน้าครางซี๊ดด้วยความกระสันไม่ต่าง เนื่องจากร่องรักอันคับแคบของซินดี้นั้นรัดแน่นเกินไปจนท่อนเอ็นของเขาแทบขาด“อ่าาา”“อื้ออ อื้มม”จ๊วบ จ๊วบ! ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรง จนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ กำปั้นเล็กทุบอกแกร่งดัง ปึก! ปึก! หวังจะให้คน
เวลาเก้านาฬิกาเศษๆ ณ มหาวิทยาลัยนีว่าขณะนี้บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะนิเทศศาสตร์มีนักศึกษาหลายคนนั่งอยู่ หนึ่งนั้นก็คือกลุ่มของซินดี้นั่นเอง โดยกลุ่มของซินดี้มีกันทั้งหมดห้าคน คือ ซินดี้ เรเน่ แพรวา อลิส และน้ำหวาน ทุกคนรู้จักกันตั้งแต่มัธยมแล้วล่ะ พวกเขาสนิทกันมากและไม่เคยมีความลับต่อกัน แต่ตอนนี้ทั้งสี่สาวกำลังนั่งรอซินดี้เด็กน้อยของกลุ่ม*ทำไมถึงเรียกเด็กน้อยน่ะหรอเพราะเธอน่ะอ่อนต่อโลกใสซื่อและหัวอ่อนไม่เหมือนผู้ใหญ่เลยสักนิด*“เรเนนนน่” นั่นไงนางมาละ“ว่า?”“ตอนเย็นไปพีพีคาเฟ่กันอยากกินแพนเค้กง่ะ”“แกชวนแค่ยัยเรเน่หรอ” แพรวาถามพร้อมแสร้งทำท่าทางเหมือนน้อยใจมาก“เปล่าซะหน่อยก็ชวนทุกคนแหละ”“จะว่าไปแกนี่กินแต่ของหวานจนจะเป็นเบาหวานอยู่แล้วนะซิน” อลิสแซวคนตัวเล็ก“ไม่ได้เป็นสักหน่อย”“ไปตรวจบ้างก็ดีนะย่ะ” ซินดี้ยู่หน้าใส่น้ำหวานทันที“ป่ะๆ ขึ้นเรียนกัน” เรเน่บอกอีกด้านหนึ่งของมหาลัยฯกวินทร์ขับรถมาจอดหน้าคณะบริหาร เพื่อมาส่งคู่ขาคนเมื่อคืนของเขา เธอชื่อเคท เป็นสาวสวยน่ารักหน้าอกใหญ่ปีหนึ่งคณะเดียวกับเขาเองแหละ“พี่วินคะเคทอยากได้กระเป๋าใบนี้” บอกพร้อมยื่นโทรศัพท์มือถือให้กวินทร์ดู“
Y DEPARTMENT STOREกวินทร์นั้นหลังจากที่วางสายจากซินดี้ จากนั้นร่างสูงจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปหาเคทในร้านรองเท้าดังเดิม“เสร็จรึยัง?”“เรียบร้อยค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบก็เดินไปเค้าท์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในร้านอาหารร้านนึงเพื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็ขับรถไปยังคอนโดฯเคทRIVER CONDOตี๊ดด....ปั้งง! ...เคทแสกนคีย์การ์ดเปิดและปิดประตูบานใหญ่เสียงดังพลั่ก! กวินทร์ไม่รอช้าร่างสูงผลักคนสวยลงโซฟาทันทีที่ประตูปิดลง“อื้อออ ใจเย็นๆ สิคะ”อารมณ์ร่างสูงตอนนี้พลุ่งพล่านสุดขีดเขาทนไม่ไหวแล้ว ลูกชายเขาดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงยีนสีซีดอยากปลดปล่อยเต็มทน ปากหนายื่นประกบปากบางดูดดึงลิ้นเล็กจนเกิดเสียงดัง จ๊วบ จ๊าบ มือหนาเองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกายละเอียดเค้นผิวเนื้อรุนแรง ก่อนมือใหญ่จะลากลงไปจนถึงแพนตี้ของร่างบางและดึงมันออกอย่างรวดเร็ว มือเรียวของเคทไม่ว่างเปล่าช่วยปลดเข็มขัดให้ร่างสูง ก่อนงัดท่อนเอ็นใหญ่ยักษ์ออกมาจากเป้ากางเกง และไม่ลืมที่จะสวมถุงยางให้ร่างสูงอย่างรีบร้อน เพราะเธอเองก็อยากไม่ต่างจากเขาหรอก..สวบ!กวินทร์เสียบท่อนเอ็นใส่ร่องของเคทอย่างรุนแรงโดยไม่ได้เบิกทาง เธอมีสีหน้าเหยเกนิด
NIVA UNIVERSITYร่างสูงของกวินทร์ลงจากรถคันหรู แล้วรีบเดินไปหาเพื่อนของเขาที่นั่งรออยู่หน้าคณะ ระหว่างทางนักศึกษามองเขาจนลูกตาแทบทะลัก บางคนมองแล้วก็กระซิบกระซาบกัน ส่วนมากก็มีแต่ผู้หญิงนั่นแหละ“กว่าจะมาได้นะ มัวไปกกอยู่กับคนไหนอยู่ล่ะ” ก้นยังไม่ทันได้ติดเก้าอี้ เพื่อนรักแสนกวนอย่างมาร์คัสก็แขวะเขาทันทีที่มาถึง ร่างสูงมองเพื่อนตนเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า..“ไม่ได้กกใครทั้งนั้นแหละ กูพาซินไปกินข้าว”“อ๋อ ที่แท้ก็กกอยู่กับเมียนี่เอง”“เหอะ ก็ดีกว่ามึงแล้วกันไม่มีเมียให้กก”“ไอ้วิน” คำพูดของกวินทร์ทำเอาพ่อหนุ่มเจ้าสำราญของกลุ่มของขึ้น อยากจะบอกเหลือเกินว่าแค่เมียน่ะเขาจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้เขายังรักชีวิตโสดอยู่จะให้มีเมียน่ะมาร์คัสคงไม่เอาด้วยหรอก น่ารำคาญจะตายไป มาร์คัสคิดแต่ไม่ตอบออกไป เพราะเขาเริ่มขี้เกียจเถียงกับเพื่อนรักอย่างกวินทร์แล้ว กวินทร์เองถึงแม้ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เจ้าตัวกลับเอาแต่มองคนตรงข้ามแล้วหัวเราะอยู่คนเดียว“พวกมึงจะทะเลาะกันอีกนานมั้ย ไม่ไปเรียนรึไง” ธีสิตรำคาญเลยรีบสวนขึ้น“เออ กัดกันอยู่ได้เหมือนหมา” อลันเสริม“ไอ้ลัน!” หึๆ อลันหัวเราะในลำคอที่ได้แหย่มาร์คัส“ก็
WILLESS NIGHTCLUBSภายในผับหรูตอนนี้บนชั้นของผู้บริหารนั้นมีร่างสูงของกวินทร์นั่งดื่มเหล้า อึก อึก อยู่คนเดียวพร้อมทั้งมีพนักงานคอยยืนรับใช้อยู่ ร่างสูงทำราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า ถ้ากินแบบนี้นะต่อให้เป็นพวกคอหินแค่ไหนก็ไม่รอดอ่ะ“เอาเหล้ามาอีก!” ขวดที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ไม่ได้นับ พนักงานได้ยินรีบวิ่งไปเอาเหล้ามาให้ร่างสูงที่ตอนนี้คอพับ ตัวก็เอนเอียงไปมา“เฮ้ยยย ไอ้วิน ทำไมสภาพมึงเหมือนหมาแบบนี้วะ”“อย่ามายุ่งงงงงกาบบบกู” กวินทร์เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง“เฮ้อออ เมาทีไร แม่งลำบากพวกกูตลอด ไอ้เพื่อนเวร” ธีสิตพูดอย่างเบื่อหน่าย“เหล้ามาแล้วครับ” เหล้าเพียวๆ ถูกยกมาโดยพนักงานชายคนหนึ่ง เขากำลังจะรินเหล้าให้กวินทร์แต่ก็ต้องชะงักเพราะธีสิตเอ่ยห้ามแล้วไล่เขาออกจากห้อง“เอามาให้ฉัน นายมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ”“ครับ” ตอบแล้วเดินออกไป“เอาเหล้ามาาาาา~~~”“มึงพอได้ละ นั่งจะไม่ได้อยู่ละ” อลันบอกคนเมา“เอามาา...! @##%^&**$#”“บ่นเหี้ยไรของมัน ไอ้ห่านี่”“แล้วใครจะพามันไปส่ง” อลันถามพลางมองหน้าเพื่อนทุกคน“มึงกับกูไง” ธีสิตเป็นคนตอบคำถาม“อีกละ เออก็ได้วะ” อลันได้แต่ยอมรับอย่างจำใจ ได้แต่คิดว่ายังไงมันก็เป็นเ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเพราะเป็นวันที่ซินดี้และเพื่อนๆ ของเธอรอคอย มีคนมาเพิ่มมาอีกสองคนซึ่งก็คือกวินทร์และอลัน เพื่อนของซินดี้ทุกคนรู้จากเธอนานแล้วว่ากวินทร์จะไปด้วยแต่อลันนี่สิเห็นพี่สาวเก็บกระเป๋าเมื่อคืน เลยถามว่าเจ้เก็บกระเป๋าทำไมอ่ะ ไปไหนหรอ ไปทะเล เท่านั้นแหละเขาก็อ้อนขอมาด้วยทันที กะทันหันจนอลิสไม่ได้โทรบอกเพื่อนก่อน ทริปนี้เป็นทริปที่พวกเขาทั้งห้าคนตกลงกันไว้ตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วว่าวันหยุดของมหาลัยฯซึ่งตรงกับวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ พวกเขาจะไปเที่ยวทะเลภูเก็ตเนื่องจากไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้ว ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็อยู่บนเครื่องบินเป็นที่เรียบร้อย“ตื่นเต้นจัง” ซินดี้พูดออกมาอย่างดีใจจนกวินทร์ที่นั่งข้างอดแซวขึ้นมาไม่ได้“ขนาดนั้นเลย?”“ก็ไม่ได้ไปทะเลตั้งนานแล้วนี่นา”“หรองั้นเดี๋ยววินพามาบ่อยๆ เอามั้ย”“จริงนะ!?”“อืม”“วินน่ารักที่สุดเลยย” มือเรียวรีบยกขึ้นจับแก้มกวินทร์ส่ายไปมาด้วยความดีใจ“พอแล้ว” กวินทร์จับมือคนตัวเล็กออกจากหน้าตัวเองรีสอร์ต เกาะ…จังหวัดภูเก็ตตอนนี้ทุกคนถึงรีสอร์ตที่จองไว้เรียบร้อยที่นี่ค่อนข้างร่มรื่น เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ ห้องพักแต่ละห้อ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา