กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเอง
CINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว “ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย [วินอยู่ไหนหรอ] “ผับครับ มีอะไรรึเปล่า” [เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย] “ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง [อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน] “คงดึกๆ อ่ะ” [อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย] “แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา [ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด “ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย” [อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกลาก่อนจะเดินไปหาเพื่อน “ไงมึง เดินยิ้มมาเชียว” ทันทีที่มาถึงอลันก็เอ่ยทักเขา กวินทร์ยักไหล่ใส่เพื่อนรักก่อนจะนั่งลง “จะไม่ให้มันมีความสุขได้ไงก็ได้รีดน้ำออกซะขนาดนั้น” มาร์คัสพูดประชดประชันใส่กวินทร์ ร่างสูงมองมาร์คัสแล้วสวนกลับไป “เป็นอะไรอีกล่ะมึง หน้าบูดอย่างกับโดนผึ้งต่อย” “เรื่องของกู” “หึ จะให้มันอารมณ์ดีได้ยังไงล่ะก็กำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มกันแต่ผัวเขาก็เดินมาลากออกไปซะก่อน” ธีสิตเฉลยที่มาของความบิดเบี้ยวบนหน้าหล่อของมาร์คัส “ออ ที่แท้ก็ไม่ได้แดกสาวนี่เอง” กวินทร์พูดด้วยน้ำเสียงล้อๆ “ไอ้วิน!!” มาร์คัสเริ่มเดือด แต่เพื่อนทุกคนก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด มิหนำซ้ำยังพร้อมใจพากันหัวเราะเขากันอีก รู้สึกดีและมีความสุขที่ได้เห็นมาร์คัสหัวร้อน “ไอ้พวกเพื่อนเหี้ยจำไว้เลยนะมึง” มาร์คัสชี้หน้าด่าเพื่อนเรียงคน “รกสมอง” “หึ้ย ไอ้วิน แม่ง กูจะฟ้องพี่ซินว่ามึงนอกใจเขา” “ไม่เสือกเรื่องของผัวเมียนะครับ” กวินทร์ตอบกลับไปทีเล่นทีจริง ทะเลาะกันได้ไม่นานก็กลับมานั่งดื่มกันต่อจนผับใกล้ปิดกวินทร์ก็ขอตัวกลับก่อน . . . . ...แกร๊กกกก...กวินทร์เปิดประตูเข้ามาในห้องก็พบว่าห้องยังสว่างจ้าอยู่ ร่างสูงปิดประตูแล้วมองไปรอบๆ ห้องก่อนจะเห็นร่างบางของซินดี้กึ่งนั่งกึ่งนอนหลับอยู่บนโซฟา คงจะรอเขานั่นแหละคิดได้ดังนั้นกวินทร์ก็เดินไปหาคนตัวเล็ก ร่างสูงค่อยๆ อุ้มซินดี้ขึ้นในท่าเจ้าสาวไปที่ห้องนอน เขาวางคนตัวเล็กลงเตียงก่อนจะจัดท่านอนให้เธอดีๆ แล้วกวินทร์ก็เดินเข้าไปอาบน้ำ ผ่านไปสักพักร่างสูงก็ออกมาจากห้องน้ำเขาใส่แค่บ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว ขายาวค่อยๆ เดินย่างกายลงบนเตียงข้างซินดี้ แล้วดึงคนตัวเล็กเข้ามากอดอย่างเบามือ จับหัวของซินดี้ให้ซุกหน้ากับอกแกร่งกวินทร์มองเธอยิ้มๆ “ฝันดีนะครับ” จุ๊บ! บอกฝันดีพร้อมกับก้มจุมพิตหน้าผากมนอย่างแผ่วเบา ไม่นานนักเปลือกตาหนาก็ปิดลงเข้าสู่ห้วงนิทราตามคนตัวเล็กไปในที่สุด ตอนเช้าของวันถัดมา ครืดด ครืดดด เสียงสั่นจากโทรศัพท์ดังระห่ำเรียกความหงุดหงิดให้กวินทร์ไม่น้อย จนเขาต้องเอื้อมมือไปหยิบมันแล้วจัดการกดตัดสายแต่มันก็ยังคงดังขึ้นอีกร่างสูงจึงตัดความรำคาญด้วยการคว้ามันมากดรับสาย “ฮัลโหล!” น้ำเสียงกระแทกของเขาทำให้คนปลายสายค่อนข้างตกใจเล็กน้อย [พี่วิน...เป็นอะไรรึเปล่าคะ] “ลูกหมูหรอเปล่าหรอกพี่พึ่งตื่นน่ะว่าแต่เราโทรหาพี่แต่เช้ามีอะไรรึเปล่า” เมื่อได้ยินเสียงเขารู้ทันทีเลยว่าใครโทรมาก่อนจะเปลี่ยนให้เป็นโทนปกติ [คือคุณแม่กับคุณพ่อเจนท่านบอกให้โทรมาชวนพี่วินมาทานข้าวเย็นที่บ้านน่ะค่ะ] “......” กวินทร์เงียบไปสักพัก จนเจนนี่คิดว่าเขาคงจะปฏิเสธจึงบอกออกไปเสียงอ่อน [เอ่อ แต่ถ้าพี่วินไม่ว่างก็ไม่เป็นไรนะ...] “ว่างสิครับ” เธอพูดยังไม่จบกวินทร์ก็สวนขึ้นก่อน ด้านเจนนี่ตอนนี้ดีใจฉีกยิ้มจนแก้มปริ “งั้นยังไงเดี๋ยวพี่เข้าไปหานะครับ” [ค่ะ] บทสนทนาที่กวินทร์คุยกับเจนนี่นั้นเสียงค่อนข้างดัง ทำให้คนซึ่งนอนอยู่ข้างเขาได้ยินทุกอย่างชัดเต็มสองหูเลยล่ะ ‘ลูกหมูหรอใครกัน’ ซินดี้คิดในใจ จริงๆ แล้วเธอตื่นตั้งแต่ตอนเสียงโทรศัพท์ร่างสูงดังแล้ว พอเห็นกวินทร์หยิบมันมารับร่างบางจึงแกล้งหลับต่อ กวินทร์หลังเองหลังวางสายจากเจนนี่ร่างสูงก็หันหน้าไปหาซินดี้และพบว่าเธอยังคง ‘แกล้ง’ หลับอยู่ “ขี้เซาจริงๆ หึหึ” ฟอด! หัวเราะในลำคอก่อนจะหอมแก้มเนียนใสไปทีนึงแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ เมื่อเสียงประตูห้องน้ำปิดลงซินดี้ถึงได้ลืมตาขึ้น คนตัวเล็กยังคงสงสัยว่าคนที่กวินทร์คุยด้วยเธอเป็นใครกัน อยากจะหยิบมือถือเขามาเปิดดูให้รู้แล้วรู้รอด แต่ใจมันก็ไม่กล้าพอกลัวเขาจะหาว่าเธอจุ้นจ้านยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา คิดอะไรไม่ออกก็ได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงจนกระทั่งประตูห้องน้ำถูกเปิดออกโดยคนตัวสูง “ตื่นแล้วหรอ” กวินทร์เดินมานั่งลงข้างกันบนเตียง “อืม เมื่อคืนวินกลับมาตอนไหนหรอ” “ตีสองน่ะกลับมาก็เห็นคนบางคนนอนหลับอยู่บนโซฟา วินเลยอาสาอุ้มเข้ามานอนในห้อง” ซินดี้ยู่หน้าใส่กวินทร์ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วกอดเขาอย่างออดอ้อน “หื้มม อ้อนแบบนี้อยากได้อะไรครับ” กวินทร์รู้ทันทีเลยว่าคนตัวเล็กต้องการอะไรจากเขาแน่นอน นั่นเพราะไม่บ่อยนักหรอกที่เธอจะทำแบบนี้ “วิน วันนี้เรียนเสร็จวินไปไหนต่อรึเปล่า” “ทำไมหรอ” กวินทร์ตอบคำถามด้วยความสงสัย “ซินอยากไปเที่ยวอ่า วินพาไปหน่อยน้าา นะ” กวินทร์ทำหน้าเครียดเล็กน้อยเพราะวันนี้เขาต้องไปทานข้าวที่บ้านเจนนี่จะให้ผิดนัดกับผู้ใหญ่ก็ยังไงอยู่ “วันนี้คงไม่ได้วินต้องไปทำธุระให้พ่อน่ะ” เขาโกหกสิ่งที่เธอได้ยินไม่ใช่แบบนี้ถึงจะได้ยินไม่ชัดแต่ก็พอจับใจความได้ ซินดี้หน้าเศร้าลง “อย่าทำหน้าแบบนั้นดิ เอาไว้วันหลังเดี๋ยววินจะพาไปโอเคมั้ยครับ” ต่อให้รู้ว่าไปไหนก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละเธอไม่กล้าห้ามเขาหรอก คนตัวเล็กจึงพยักหน้าตอบเขาไป กวินทร์ยิ้มให้เธอหลังจากนั้นเขาก็ไปแต่งตัวเพื่อเตรียมไปมหาลัย ซินดี้ลุกออกจากเตียงไปล้างหน้าล้างตาแล้วเข้าครัวทำอาหารให้กวินทร์ เมื่อเปิดตู้เย็นก็เห็นว่าของในตู้แทบจะไม่มีอะไรเหลือแล้วมีแค่กุ้งอยู่ 4-5 ตัว งั้นเมนูวันนี้ก็ข้าวต้มกุ้งแล้วกันคิดได้ดังนั้นซินดี้เริ่มลงมือทำอาหาร ใช้เวลาราวหนึ่งชั่วโมงคนตัวเล็กก็ทำอาหารเสร็จ พอดีกับกวินทร์ที่กำลังเดินออกมาจากห้อง ร่างสูงตรงดิ่งเข้ามากอดหมับที่เอวบางของซินดี้ “วันนี้ทำอะไรให้วินกินครับ” “ข้าวต้มกุ้งน่ะ” ได้คำตอบกวินทร์ผละออกจากซินดี้ แล้วทั้งสองก็พากันไปนั่งประจำที่ของใครของมัน ไม่นานนักพวกเขาก็ทานเสร็จกวินทร์กินมันจนหมดไม่เหลือข้าวสักเม็ดน้ำซุปสักหยดก็ไม่มี แล้วก็ไม่ลืมที่จะเอ่ยชมอาหารฝีมือคนตัวเล็กด้วย “อร่อยมากกกก” ซินดี้ยิ้มให้กวินทร์เธอดีใจที่เขาชอบอาหารที่เธอทำ เก็บชามไปล้างเสร็จแล้วออกมาหาร่างสูงที่กำลังจะไปมหาลัยแล้ว ซินดี้เดินไปส่งกวินทร์ที่หน้าประตูก่อนจะโบกมือลาเขา ร่างบางทิ้งตัวลงบนโซฟาก่อนจะหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาเพื่อนรักอย่างแพรวาไม่นานนักปลายสายก็รับ [ฮัลโหลลลลล] “แพรวันนี้ว่างเปล่า” [ว่างย่ะ มีไรอ่ะ] “ไปหาไรกินข้างนอกกันมั้ย อีกอย่างเราอยากซื้อของเข้าห้องด้วย” [ได้สิฉันเองก็เบื่อบ้านเหมือนกันว่าแต่ไปกันกี่โมงดี] “ซักบ่ายสามดีมั้ย” [โอเค เดี๋ยวไปรับ แค่นี้นะ] “จ้า” วางสายจากเพื่อนเสร็จซินดี้เอื้อมมือไปหยิบรีโมททีวีมาเปิดดูซีรีส์ไปพลาง เพื่อรอเวลาเพราะเหลืออีกตั้งหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลานัดตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
ณ คอนโดมิเนียมราคาแพง ภายในห้องนอนสุดหรูบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ ขณะนี้มีสองร่างกำลังละเลงบทรักอันเร่าร้อนกันอยู่ เสียงครวญครางของทั้งคู่ที่ดังระงมไปทั่วทั้งห้อง โดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนข้างนอกจะได้ยินมั้ย“อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ...อืออ...ว..วิน แรงไป” เสียงครางหวานๆ ของซินดี้นั้นไม่ได้ทำให้กวินทร์ผ่อนแรงลงสักนิด“อ่าาส์..ตอดแรงสัส..ซีดดดดส์”“อืออ อ่ะ อะ”“ฮึ่ม แน่นจริงๆ”“ล..ลึกไปเกินไป”พั่บ พั่บ พั่บ!“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ”“อ่าาาส์”สำหรับซินดี้นั้นเซ็กส์ของกวินทร์ มันทั้งรุนแรงและสุดแสนจะเร่าร้อนเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็พยายามอ่อนโยนกับคนตัวเล็กสุดๆ แล้วนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าลูกชายของเขานี่แหละที่มีขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐานเอง หึ!สวบ! สวบ!“อะ อะ อืออ”“เอามันส์ชิป”“อ๊ะ ว...วินน”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”“ซี๊ดดดดดส์ อ่าาาส์ เสียวหัว” ใบหน้าหล่อเงยหน้าครางซี๊ดด้วยความกระสันไม่ต่าง เนื่องจากร่องรักอันคับแคบของซินดี้นั้นรัดแน่นเกินไปจนท่อนเอ็นของเขาแทบขาด“อ่าาา”“อื้ออ อื้มม”จ๊วบ จ๊วบ! ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรง จนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ กำปั้นเล็กทุบอกแกร่งดัง ปึก! ปึก! หวังจะให้คน
เวลาเก้านาฬิกาเศษๆ ณ มหาวิทยาลัยนีว่าขณะนี้บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะนิเทศศาสตร์มีนักศึกษาหลายคนนั่งอยู่ หนึ่งนั้นก็คือกลุ่มของซินดี้นั่นเอง โดยกลุ่มของซินดี้มีกันทั้งหมดห้าคน คือ ซินดี้ เรเน่ แพรวา อลิส และน้ำหวาน ทุกคนรู้จักกันตั้งแต่มัธยมแล้วล่ะ พวกเขาสนิทกันมากและไม่เคยมีความลับต่อกัน แต่ตอนนี้ทั้งสี่สาวกำลังนั่งรอซินดี้เด็กน้อยของกลุ่ม*ทำไมถึงเรียกเด็กน้อยน่ะหรอเพราะเธอน่ะอ่อนต่อโลกใสซื่อและหัวอ่อนไม่เหมือนผู้ใหญ่เลยสักนิด*“เรเนนนน่” นั่นไงนางมาละ“ว่า?”“ตอนเย็นไปพีพีคาเฟ่กันอยากกินแพนเค้กง่ะ”“แกชวนแค่ยัยเรเน่หรอ” แพรวาถามพร้อมแสร้งทำท่าทางเหมือนน้อยใจมาก“เปล่าซะหน่อยก็ชวนทุกคนแหละ”“จะว่าไปแกนี่กินแต่ของหวานจนจะเป็นเบาหวานอยู่แล้วนะซิน” อลิสแซวคนตัวเล็ก“ไม่ได้เป็นสักหน่อย”“ไปตรวจบ้างก็ดีนะย่ะ” ซินดี้ยู่หน้าใส่น้ำหวานทันที“ป่ะๆ ขึ้นเรียนกัน” เรเน่บอกอีกด้านหนึ่งของมหาลัยฯกวินทร์ขับรถมาจอดหน้าคณะบริหาร เพื่อมาส่งคู่ขาคนเมื่อคืนของเขา เธอชื่อเคท เป็นสาวสวยน่ารักหน้าอกใหญ่ปีหนึ่งคณะเดียวกับเขาเองแหละ“พี่วินคะเคทอยากได้กระเป๋าใบนี้” บอกพร้อมยื่นโทรศัพท์มือถือให้กวินทร์ดู“
Y DEPARTMENT STOREกวินทร์นั้นหลังจากที่วางสายจากซินดี้ จากนั้นร่างสูงจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปหาเคทในร้านรองเท้าดังเดิม“เสร็จรึยัง?”“เรียบร้อยค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบก็เดินไปเค้าท์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในร้านอาหารร้านนึงเพื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็ขับรถไปยังคอนโดฯเคทRIVER CONDOตี๊ดด....ปั้งง! ...เคทแสกนคีย์การ์ดเปิดและปิดประตูบานใหญ่เสียงดังพลั่ก! กวินทร์ไม่รอช้าร่างสูงผลักคนสวยลงโซฟาทันทีที่ประตูปิดลง“อื้อออ ใจเย็นๆ สิคะ”อารมณ์ร่างสูงตอนนี้พลุ่งพล่านสุดขีดเขาทนไม่ไหวแล้ว ลูกชายเขาดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงยีนสีซีดอยากปลดปล่อยเต็มทน ปากหนายื่นประกบปากบางดูดดึงลิ้นเล็กจนเกิดเสียงดัง จ๊วบ จ๊าบ มือหนาเองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกายละเอียดเค้นผิวเนื้อรุนแรง ก่อนมือใหญ่จะลากลงไปจนถึงแพนตี้ของร่างบางและดึงมันออกอย่างรวดเร็ว มือเรียวของเคทไม่ว่างเปล่าช่วยปลดเข็มขัดให้ร่างสูง ก่อนงัดท่อนเอ็นใหญ่ยักษ์ออกมาจากเป้ากางเกง และไม่ลืมที่จะสวมถุงยางให้ร่างสูงอย่างรีบร้อน เพราะเธอเองก็อยากไม่ต่างจากเขาหรอก..สวบ!กวินทร์เสียบท่อนเอ็นใส่ร่องของเคทอย่างรุนแรงโดยไม่ได้เบิกทาง เธอมีสีหน้าเหยเกนิด
NIVA UNIVERSITYร่างสูงของกวินทร์ลงจากรถคันหรู แล้วรีบเดินไปหาเพื่อนของเขาที่นั่งรออยู่หน้าคณะ ระหว่างทางนักศึกษามองเขาจนลูกตาแทบทะลัก บางคนมองแล้วก็กระซิบกระซาบกัน ส่วนมากก็มีแต่ผู้หญิงนั่นแหละ“กว่าจะมาได้นะ มัวไปกกอยู่กับคนไหนอยู่ล่ะ” ก้นยังไม่ทันได้ติดเก้าอี้ เพื่อนรักแสนกวนอย่างมาร์คัสก็แขวะเขาทันทีที่มาถึง ร่างสูงมองเพื่อนตนเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า..“ไม่ได้กกใครทั้งนั้นแหละ กูพาซินไปกินข้าว”“อ๋อ ที่แท้ก็กกอยู่กับเมียนี่เอง”“เหอะ ก็ดีกว่ามึงแล้วกันไม่มีเมียให้กก”“ไอ้วิน” คำพูดของกวินทร์ทำเอาพ่อหนุ่มเจ้าสำราญของกลุ่มของขึ้น อยากจะบอกเหลือเกินว่าแค่เมียน่ะเขาจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้เขายังรักชีวิตโสดอยู่จะให้มีเมียน่ะมาร์คัสคงไม่เอาด้วยหรอก น่ารำคาญจะตายไป มาร์คัสคิดแต่ไม่ตอบออกไป เพราะเขาเริ่มขี้เกียจเถียงกับเพื่อนรักอย่างกวินทร์แล้ว กวินทร์เองถึงแม้ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เจ้าตัวกลับเอาแต่มองคนตรงข้ามแล้วหัวเราะอยู่คนเดียว“พวกมึงจะทะเลาะกันอีกนานมั้ย ไม่ไปเรียนรึไง” ธีสิตรำคาญเลยรีบสวนขึ้น“เออ กัดกันอยู่ได้เหมือนหมา” อลันเสริม“ไอ้ลัน!” หึๆ อลันหัวเราะในลำคอที่ได้แหย่มาร์คัส“ก็
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา