กรุงเทพมหานคร
หลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน “กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน “หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย “ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์ “อื้ออ” “เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์ “เออ” “รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ บ้านจันทรกรณ์ หลังจากถึงบ้านของแพรวาแล้วนั้นคนขับรถก็ยกกระเป๋าเดินทางไปไว้หลังรถกวินทร์ทันที ร่างสูงพาซินดี้ไปขึ้นรถ คาดเบลท์ปิดประตูให้เสร็จเขาก็เดินไปฝั่งคนขับเหมือนกัน ซินดี้ไม่ลืมที่จะลดกระจกลงเพื่อบอกลาเพื่อน “กลับดีๆ ล่ะ พรุ่งนี้ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องไปเรียนเข้าใจมั้ย” “อืม กลับแล้วนะ” “ย่ะ ไปได้แล้ว” ซินดี้โบกมือบอกลาแพรวาเสร็จกวินทร์ก็ขับรถกลับคอนโดฯทันที CLASSY CONDOMINIUM ...ตี๊ด...แกร็กก...กวินทร์เปิดประตูให้ซินดี้เดินเข้าไปในห้อง ก่อนที่ร่างสูงจะเดินลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ตามเข้ามา ร่างบางทิ้งตัวลงโซฟาด้วยความอ่อนล้า ร่างสูงวางกระเป๋าแล้วเดินมานั่งข้างลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ “เป็นไร หืมม” “เพลียๆ อ่ะ เสียดายด้วยไปทะเลก็ไม่ได้เล่นน้ำทะเลกลับนอนซมอยู่บนห้อง...เพราะวินนั่นแหละ!” พูดอยู่ดีๆ ก็หันมาแหวใส่ร่างสูงซะงั้น มันก็จริงอย่างที่ซินดี้พูดนั่นแหละเขาเอาแต่รังแกคนตัวเล็กทั้งคืนจนเธอไม่ได้ไปเล่นกับเพื่อน “โอ๋ๆ ก็เดี๋ยววินพาไปอีกไง คราวนี้จะไม่ทำไรเลยจะปล่อยให้เล่นจนมืดเลยอ่ะ” ร่างสูงพูดจบซินดี้ยิ้มกว้างทันที “จริงนะ สัญญาก่อน” ยิ้มให้ความน่ารักของร่างบางก่อนจะยกนิ้วขึ้นมาเกี่ยวก้อยสัญญา “สัญญาแล้วนะ ที่สำคัญพูดแล้วห้ามคืนคำด้วย!” “ครับ” จากนั้นร่างก็นอนซบลงบนหน้าตักของร่างสูง คนตัวเล็กนอนอยู่อย่างนั้นจนเกือบจะหลับ น้ำเสียงทุ้มๆ ของคนรักตัวสูงก็ดังขึ้นเสียก่อน “ซิน” “หืมม” “วันนี้วินคงไม่ได้อยู่ทานข้าวด้วยนะ” คำพูดของกวินทร์ทำคนตัวเล็กลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอชะงักเล็กน้อยกับสิ่งที่ได้ยิน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามร่างสูงด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมถึงอยู่ทานข้าวด้วยไม่ได้ “ไปไหนหรอ” “ไปทำธุระให้แม่น่ะ” พอได้ยินดังนั้นซินดี้ก็นิ่งไปในทันที เธอเคยเจอแม่ของกวินทร์อยู่ครั้งนึงตอนเขาพาไปบ้าน และพอแม่เขาท่านเห็นเธอก็ดูเหมือนว่าท่านคงจะไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไหร่ เหตุผลน่ะหรออาจเพราะเธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ ไม่มีตระกูลรุนชาติไม่คู่ควรกับลูกชายล่ะมั้ง “วินไปแปบเดียวเดี๋ยวรีบกลับมา ไม่โกรธวินนะ” กวินทร์รู้สึกผิดเมื่อเห็นสีหน้าของคนรัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากขัดใจแม่เขาเท่าไหร่ “ซินจะโกรธวินทำไม วินไปทำธุระให้แม่วินนี่นา” คนตัวเล็กบอกเสียงหวานพร้อมส่งยิ้มเบาๆ ให้คนรัก ทั้งที่ในใจนั้นไม่ใช่สักนิดเธอกำลังน้อยใจ แต่เพราะไม่อยากทำตัวงี่เง่าจึงต้องตอบออกไปแบบนั้น “แน่นะ” “อื้ม” จุ๊บ! ริมฝีปากหนาก้มลงจุมพิตปากอิ่มแผ่วเบา เพื่อเป็นการให้รางวัลที่คนตัวเล็กทำตัวน่ารัก “น่ารักที่สุด” ซินดี้ยิ้มให้ร่างสูงแล้วจากนั้นจึงหันหน้ากลับมานอนซบตักแกร่งแม้ก่อนหน้านี้จะน้อยใจแต่พอเจอเขาจุ๊บปากไปแค่นี้ความน้อยใจก็แทบหายหมด เหลือแค่ความเขินอายเข้ามาแทรกแทนนี่แหละ ซินดี้ยิ้มกับตัวเองพลางยกมือจับแก้ม ซึ่งเธอคิดว่าตอนนี้มันคงแดงแจ๋แน่ๆ ‘คนบ้านี่อยู่ดีๆ ก็จุ๊บกันไม่รู้จักอายเลย’ ซินดี้แอบบ่นคนรักในใจ 4:30 PM “ไปแล้วนะ” ไม่พูดเปล่ากวินทร์ยังยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้มนวลอีกด้วย ฟอด! “วินอ่ะ” กวินทร์ขำเมื่อเห็นท่าทางแง่งอนของคนรักแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อเพียงแค่ยกมือลูบหัวกลมเบาๆ แล้วเดินเข้าลิฟต์ไป ซินดี้เองพอส่งกวินทร์เสร็จแล้วก็เดินกลับเข้าห้องทันที ...ตี๊ด...แกร๊กก... “เฮ้ออออ” เสียงถอนหายใจหนักๆ ของคนตัวเล็ก ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน “สงสัยคงจะเหนื่อยมั้ง ไปนอนดีกว่า” เดินเข้าในไปห้องนอน ไม่นานนักเปลือกตาก็ปิดสนิท ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ร่างสูงเพิ่งจอดรถได้ไม่นานเสียงโทรศัพท์ก็ดังกระหน่ำเข้าและจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากแม่เขาเอง MOM… ครืดด ครืดดด “ครับ” [ลูกอยู่ไหนแล้วถึงสนามบินยัง] “ครับ” [ตอนนี้น้องเจนนี่กำลังช็อปปิ้งอยู่ลูกรอน้องอยู่ตรง....นั้นแหละ น้องใส่ชุด...นะ ออ รับน้องมาที่บ้านเราเลยนะลูกแค่นี่นะจ๊ะ] วางสายเสร็จเขาก็รีบเดินไปยังจุดหมายที่มารดาบอก ระหว่างทางที่ร่างสูงกำลังเดินไปนั้นผู้คนมากมายที่กำลังเดินไปมาหรือแม้กระทั่งคนที่กำลังนั่งรอแฟน ญาติ เพื่อนหรืออะไรก็แล้วแต่พวกนั้นกำลังมองมาที่เขาเป็นตาเดียวสร้างความหงุดหงิดให้เขาไม่น้อยทีเดียว ใบหน้าหล่อภายใต้แว่นกันแดดสีชาราคาแพงนั้นชักสีหน้าหงุดหงิดทันที “น่ารำคาญชิบหาย” รอไม่นานนักก็เห็นร่างสูงเพรียวที่คาดว่าเธอจะชื่อเจนนี่เดินเข็นกระเป๋าออกมา เธอดูโดดเด่นแม้อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมายใครเห็นก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘สวย’ ผิวขาว ตาโต ขาเรียว หุ่นดี ยิ่งชุดเดรสที่เธอใส่อยู่ตอนนี้มันโคตรจะเข้ากับเธอเลยล่ะ มองแล้วยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ ความสวยของเธอเรียกสายตาของผู้คนในสนามบินได้ไม่น้อยยิ่งตอนนี้ กำลังเดินมาหาร่างสูงของกวินทร์ยิ่งเพิ่มความโดดเด่นเข้าไปอีก “พี่วินใช่มั้ยคะ” ร่างเพรียวตรงหน้าเขาถามขึ้น “ครับ....” กวินทร์มองเธอนิ่งๆ “เจนนี่ไงคะ พี่จำเจนไม่ได้หรอ” “พี่ว่าเราค่อยไปคุยกันต่อในรถดีกว่านะ ตอนนี้คนเริ่มมองเยอะแล้ว” “ก็ได้ค่ะ” ทั้งสองเดินไปยังรถโดยร่างสูงเป็นคนอาสาเข็นกระเป๋าให้เธอเอง ภายในซูเปอร์คาร์คันหรูตอนนี้เต็มไปด้วยความเงียบจนน่าอึดอัด ดังนั้นเจนนี่จึงทำใจกล้าเอ่ยเรียกคนตัวสูงซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่ด้วยเสียงหวาน “พี่วินคะ” “..ครับ” “พี่จำเจนไม่ได้จริงๆ หรอคะ” “คงงั้นมั้งครับ” “จริงๆ แล้วจำไม่ได้ก็ไม่แปลกหรอกค่ะ เจนกับพี่ไม่เจอกันตั้งนานแล้วเพราะไปอังกฤษตั้งแต่อายุ9ขวบแหนะ” เธอเอ่ยเสียงใส “พี่วินรู้มั้ยตอนเด็กๆ เราเคยสัญญาว่าจะแต่งงานกันด้วยนะ” เจนนี่พูดประโยคท้ายจบเท่านั้นแหละ กวินทร์หันขวับมาหาร่างเพรียวทันที “ลูกหมู!” “คิคิ จำได้แล้วหรอคะ” ไม่น่าเชื่อจากเด็กอ้วนกลมที่ตัวติดกับเขาตลอดคนนั้น โตขึ้นมาจะสวยมากขนาดนี้ เขาคิดในใจ “เจนสวยขึ้นมากเลยนะ” “เรียกแบบเดิมดีกว่านะคะจะได้ดูสนิทกัน” “หืม ลูกหมูน่ะหรอ” หึหึ เจนนี่ยิ้มกว้างที่กวินทร์เรียกตนเหมือนตอนเด็กๆ ตอนนั้นทั้งสองสนิทกันมากตัวติดกันตลอดที่ไหนมีกวินทร์ที่นั่นมีเจนนี่ คฤหาสน์รัตนโชติเรืองกุลณ์ คุณหญิงรัตนายืนรอรับลูกสาวคนสวยที่หน้าบ้านของเพื่อนรักของเพื่อนรักอย่างพิมลแข วันนี้พวกเขามาทานอาหารเย็นที่นี่เนื่องจากพิมลแขอยากเลี้ยงต้อนรับหลานสาวคนโปรด เจนนี่ลงจากรถได้รีบวิ่งมากอดมารดาตนทันที “ยัยหนู” “คุณแม่ หนูคิดถึงคุณแม่ที่สุดเลย” “แล้วไม่คิดถึงป้าบ้างหรอ ป้างอนแล้วนะเนี่ย” พิมลแขมองสองแม่ลูกที่กอดกันกลมก็อดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะแกล้งงอนเจนนี่ไม่จริงจังนัก “สวัสดีค่ะคุณป้า คิดถึงสิคะ คิดถึงทุกคนเลย” “งั้นมาให้ป้ากอดหน่อยซิ” พูดจบก็เจนนี่เดินเข้าไปกอดเธอ “แล้วคุณพ่อกับคุณลุงล่ะ” “อยู่ข้างในจ๊ะ” รัตนาบอกลูกสาวตัวเอง กวินทร์ได้แต่มองทั้งสามคนนิ่งๆ “สวัสดีครับอารัน” ร่างสูงยกมือไหว้รัตนา “แม่ว่าเรารีบเข้าไปข้างในกันเถอะ ป่านนี้พ่อของลูกๆ บ่นกันแล้วมั้ง” พูดจบพวกเขาทั้งสี่คนก็เดินเข้าบ้าน ณ ห้องอาหารของบ้านหลังใหญ่ “คุณพ่อ” “ยัยหนู” เดินเข้ามากอดบิดาของตนที่นั่งอยู่กับคุณชายบวรณ์ และไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะคุณลุง” “ไม่เจอกันตั้งนานโตเป็นสาวเชียว” บวรณ์พยักหน้ารับเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยชม เจนนี่ยิ้มรับ “ฉันว่าเราทานข้าวกันเลยมั้ยคะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นซะก่อน” ทุกคนก็เริ่มทานอาหารกัน ทานไปได้สักพักพิมลแขก็เริ่มพูดกับหลานสาว “หนูเจนคิดไว้รึยังจ๊ะว่าจะเรียนที่ไหน” “มหาวิทยาลัยนิว่าค่ะ” “งั้นก็ที่เดียวกับตาวินน่ะสิ” “คณะไหนจ๊ะ” “บริหารธุรกิจค่ะคุณป้า” “คณะเดียวกับตาวินเลยสิ ถ้าหนูอะไรที่ไม่เข้าใจก็ถามพี่เขาได้เลยนะลูก” “ค่ะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะพี่วิน” กวินทร์พยักหน้า “งั้นยังไงอาฝากดูน้องด้วยนะวิน” รเมศท์พูดขึ้น “ครับ” หลังจากที่ทุกคนทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อย สามพ่อแม่ลูกก็พากันเดินออกมาส่งแขกอย่างครอบครัวจันทรเกษมด้วยกัน “กลับบ้านดีๆล่ะไว้ว่างฉันจะไปหา” พิมลแขบอกเพื่อนรักตนอย่างรัตนา “จ๊ะ” “หนูกลับแล้วนะคะคุณลุงคุณป้า แล้วเจอกันนะคะพี่วิน” “ครับ” หลังจากรถของครอบครัวเจนนี่ออกไปแล้ว กวินทร์เองก็เตรียมตัวจะเดินไปขึ้นรถตัวเองแต่ก็โดนมารดาเรียกไว้ก่อน “วิน ลูกไม่คิดจะนอนที่บ้านบ้างหรอรู้มั้ยว่าพ่อกับแม่คิดถึงแค่ไหน” “แกไม่สงสารแม่แกบ้างรึไง วันๆ เอาแต่บ่นคิดถึงอยากเจอลูกแต่ลูกกลับไม่มาหา” “........” กวินทร์คิดไม่นานนักก็ตอบตกลงไปมันก็จริงอย่างที่พ่อเขาว่านั่นแหละ พักหลังๆ มานี้เขาแทบจะไม่กลับบ้านเลยหากไม่มีธุรสำคัญจริงๆ คุณหญิงพิมลแขยิ้มกว้างเดินควงแขนลูกเข้าบ้านทันที “แม่น่ะอยากให้ลูกกลับมาอยู่ที่บ้านเราเหมือนเดิม แต่ก็แต่คงยาก” พูดด้วยน้ำเสียงน้อยอกน้อยใจ “ผมจะพยายาม” ทั้งสามคนนั่งคุยไปเรื่อยจนดึก ตอนนี้เหลือแค่สองแม่ลูกเพราะคุณบวรณ์ขึ้นไปนอนแล้ว “ตาวิน ลูกคิดว่าน้องเจนสวยรึเปล่า” “ก็ดีนิครับ” “เนอะแม่ก็คิดว่างั้น ทั้งสวย ทั้งน่ารัก มีมารยาท ชาติตระกูลก็ดีไม่เหมือน...” “ผมง่วงแล้วขอตัวนะครับ” พูดยังไม่ทันจบเจ้าลูกชายตัวดีก็ตัดบทไปก่อน “ซินดี้ผู้หญิงอย่างหล่อนมีอะไรดีนะ ถึงได้ทำให้ลูกชายของฉันยอมคบด้วยทั้งๆ ที่ไม่เคยคิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลย”CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
ณ คอนโดมิเนียมราคาแพง ภายในห้องนอนสุดหรูบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ ขณะนี้มีสองร่างกำลังละเลงบทรักอันเร่าร้อนกันอยู่ เสียงครวญครางของทั้งคู่ที่ดังระงมไปทั่วทั้งห้อง โดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนข้างนอกจะได้ยินมั้ย“อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ...อืออ...ว..วิน แรงไป” เสียงครางหวานๆ ของซินดี้นั้นไม่ได้ทำให้กวินทร์ผ่อนแรงลงสักนิด“อ่าาส์..ตอดแรงสัส..ซีดดดดส์”“อืออ อ่ะ อะ”“ฮึ่ม แน่นจริงๆ”“ล..ลึกไปเกินไป”พั่บ พั่บ พั่บ!“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ”“อ่าาาส์”สำหรับซินดี้นั้นเซ็กส์ของกวินทร์ มันทั้งรุนแรงและสุดแสนจะเร่าร้อนเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็พยายามอ่อนโยนกับคนตัวเล็กสุดๆ แล้วนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าลูกชายของเขานี่แหละที่มีขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐานเอง หึ!สวบ! สวบ!“อะ อะ อืออ”“เอามันส์ชิป”“อ๊ะ ว...วินน”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”“ซี๊ดดดดดส์ อ่าาาส์ เสียวหัว” ใบหน้าหล่อเงยหน้าครางซี๊ดด้วยความกระสันไม่ต่าง เนื่องจากร่องรักอันคับแคบของซินดี้นั้นรัดแน่นเกินไปจนท่อนเอ็นของเขาแทบขาด“อ่าาา”“อื้ออ อื้มม”จ๊วบ จ๊วบ! ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรง จนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ กำปั้นเล็กทุบอกแกร่งดัง ปึก! ปึก! หวังจะให้คน
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา