...Truuu...Truuu...
โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ “อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา “ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์ [เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า “อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของกวินทร์ว่าแม่ร่างบางกลัวว่าเธอจะไม่พอใจ [ไม่ต้อง! ฉันไม่อยากรบกวนเวลานอนของลูกชายฉัน] “อะ..เอ่อค่ะ...ถ้าคุณท่านไม่มีอะไรแล้วหนูขอวางสายนะคะ” [เดี๋ยว!] “คะ?” [เปล่า ไม่มีอะไร แค่นี้แหละ] สุดท้ายพิมลแขก็ไม่พูดอะไร “เฮ้อ” หลังจากสายถูกตัดไปเสียงถอนหายใจของซินดี้ก็ดังขึ้นทันที ถ้าใจกล้ากว่านี้ร่างบางอยากจะถามมารดาของคนตัวสูงเหลือเกินว่าเธอไปทำอะไรให้ ทำไมท่านถึงไม่ชอบเธอเอามากขนาดนี้ ซินดี้พยายามจะลุกจากเตียงแต่แค่ขยับนิดเดียวเท่านั้นแหละ ร่างกายพลันรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาเสียดื้อๆ โดยเฉพาะกลางกายสงสัยคงจะระบมหนักมากจริงๆ ถึงอย่างนั้นร่างบางก็ไม่ยอมแพ้เธอลุกขึ้นอีกคราวนี้สำเร็จ แต่ก้าวได้ไม่กี่ก้าวเท่านั้นแหละ พรึบ! ก็ต้องล้มพับลงกับพื้นพรมจนได้ “วินนะวินจะรุนแรงเกินไปแล้วนะ” ซินดี้กร่นด่ากวินทร์เบาๆ หลังจากนั้นร่างเปลือยเปล่ารีบคลานเข้าห้องน้ำไป เดินยังไงก็ไม่ได้งั้นก็คลานเอานี่แหละ กวินทร์ลืมตาหลังจากที่ซินดี้เข้าห้องน้ำไปเขามองไปที่ประตูห้องน้ำ พลางคิดในใจว่าแม่ของเขาคงไม่คิดจะทำอะไรกับซินดี้หรอกนะ ถ้าไม่ชอบก็แค่ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันเป็นพอ เพราะถ้าไม่ล่ะก็...เขาคงไม่ยอมแน่ๆ คิดได้ดังนั้นร่างสูงจึงลุกจากเตียง ขายาวก้าวเดินตรงไปเลื่อนบานกระจกออก ก่อนก้าวออกไปยังริมระเบียงเพื่อสูบบุหรี่ ผ่านไปสักพักซินดี้ก็เดินขากะเผลกๆ ออกมาจากห้องน้ำซึ่งก็ไม่เห็นกวินทร์แล้ว “ไปไหนของเขานะ” ร่างบางกวาดสายตาไปทั่วบริเวณห้องนอนเมื่อไม่เจอก็เลิกหาและตรงเข้าไปที่ห้องแต่งตัว สักพักก็ออกมาด้วยชุดนักศึกษาเตรียมตัวไปมหาลัยฯ “เสร็จแล้วหรอ รอวินแปบนึงนะ เดี๋ยวไปส่ง” ออกมาก็เจอร่างสูงที่นั่งเท้าแขนอยู่บนเตียง “อื้ม” ตอบเสร็จซินดี้จึงเดินไปหยิบนั่นหยิบนี่ใส่กระเป๋า เสร็จแล้วก็นั่งเล่นรอกวินทร์ที่เตียง แต่คิดได้ว่าออกไปรอที่ห้องนั่งเล่นดีกว่า ร่างบางจึงขยับลุกขึ้นกำลังจะเดินออกแต่เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นซะก่อน ‘ลูกหมู’ ชื่อของคนที่โทรมาทำให้ซินดี้ค่อนข้างลังเลใจว่าควรจะรับหรือไม่ดีจนเสียงมันดับไป แต่ก็ดังขึ้นมาอีกครั้งซินดี้เลยตัดสินหยิบมันขึ้นมารับ [ฮัลโหล พี่วินคะ] คนปลายสายเอ่ยเสียงหวานหยด “เอ่ออ..วินเข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ” [เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์แทนพี่วิน] “ฉ-ฉันเป็นแฟนเขาค่ะ” คำตอบของซินดี้ทำเอาเจนนี่อึ้งไม่น้อย [แฟน?] เหอะ คงจะยัยซินดี้อะไรนั่นซินะ ร้ายไม่เบานี่เรียกแฟนซะเต็มปากเต็มคำแต่ใครสนกัน “ค่ะ” [หึ แฟนหรอ แฟนที่กำลังจะโดนเขี่ยทิ้งสินะ] “คะ?” คำพูดของเธอทำซินดี้งงไม่น้อย [จำเอาไว้นะ...ว่าอีกไม่นานคนที่จะไปอยู่ในฐานะแฟนของพี่กวินทร์คือฉันไม่ใช่เธอ] ซินดี้ถึงกับไปไม่เป็น กับประโยคดังกล่าว ผู้หญิงคนนั้นเป็นอะไรกับกวินทร์กันแน่ ก่อนจะคิดอะไรไปมากกว่านี้กวินทร์ก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดีและคนตัวเล็กก็บอกเขาไปว่า “ซินไปรอข้างนอกนะ” “อืม” นั่งรอกวินทร์ไม่นานเขาก็เดินออกมาจากห้องด้วยชุดเสื้อยืดธรรมดาสีขาวกับกางเกงยีนขายาวสีซีด ถึงแม้จะใส่แค่นี้เขาก็หล่อมากอยู่ดี “ไปกันเลยมั้ย” กวินทร์ถามซินดี้และเธอก็พยักหน้าให้ร่างสูง แล้วพวกเขาเดินออกจากห้องตรงไปที่ลิฟต์ทันที ภายในลิฟต์นั้นมีเพียงความเงียบไม่มีใครพูดอะไรกัน ซินดี้ยังคงคิดแต่เรื่องผู้หญิงที่ได้คุยกันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า เธอคนนั้นเป็นใคร ทำไมต้องโทรมาหาคนรักเธอ ไหนจะประโยคสุดท้ายก่อนวางสายนั่นอีก มันหมายความว่ายังไงกัน กวินทร์มองคนรักที่ตอนนี้คิ้วเรียวกำลังผูกกันเป็นปม ไม่รู้ว่าเครียดอะไรหรือเปล่า เพราะเป็นห่วงคนตัวเล็กดังนั้นกวินทร์จึงเป็นฝ่ายเริ่มบทสนทนา เพื่อที่คนรักจะได้ออกจากภวังค์ที่แสนจะเคร่งเครียดนั่นสักที “ซินเลิกเรียนกี่โมง” “บ่ายสามน่ะทำไมหรอ” “เปล่าหรอก แค่ถามดู” “ออ อืม” ติ้ง! เมื่อลิฟต์เปิดออกทั้งสองก็เดินตรงไปที่ลานจอดรถ ก้าวขึ้นรถคาดเข็มขัดนิรภัยพร้อมตรวจสอบความเรียบร้อยเสร็จแล้วกวินทร์ไม่รอช้าเหยียบคันเร่งบึ่งรถออกไปอย่างรวดเร็ว NIVA UNIVERSITY “ขับรถกลับดีๆ นะ” เธอบอกและกำลังจะลงจากรถแต่ข้อมือก็ถูกกวินทร์รั้งไว้ก่อน “ไม่จูบลาหน่อยหรอ” ซินดี้ก้มหน้างุดทันทีด้วยความเขินพูดอะไรของเขากัน คนบ้า! พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นกวินทร์กำลังจ้องมองมาที่ตัวเองอยู่ด้วยสายตาอ้อนๆ จุ๊บ ซินดี้รีบจูบที่ริมฝีปากหนาและรีบผละออกมา “นี่ไม่ใช่จูบนะเขาเรียกจุ๊บ เอาใหม่...ถ้าไม่ทำวินจะทำเองนะ” “1” “2..” “3..” จุ๊บ! คราวนี้ซินดี้แช่ค้างไว้อยู่อย่างนั้นนานกว่าเดิมแต่ไม่ล่วงล้ำเข้าไปแต่อย่างใดเป็นกวินทร์เองที่ดึงซินดี้เข้าหาตัวเองให้ใกล้กว่าเดิม เขาพยายามสอดลิ้นเข้าไปในปากของร่างบางจนได้ กวาดลิ้นไปทั่วโพรงปากหวานตวัดกวาดลิ้นเกี่ยวพันกันไปมา “อืม...อื้อ” จ๊วบ! จูบกันนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ รู้แค่ตอนนี้ซินดี้เหมือนจะขาดอากาศหายใจเต็มทีแล้วคนตัวเล็กจึงทุบอกแกร่งของร่างสูงดังตุบกวินทร์จึงยอมผละออก แฮ่ก แฮ่ก ซินดี้รีบโกยอากาศเข้าปอดอย่างรวดเร็ว “วิน!” แหวใส่ร่างสูงด้วยความไม่พอใจเล็กน้อยเขาจะฆ่าเธอรึไงกัน “หึ ไปเรียนได้แล้วตั้งใจเรียนด้วยนะ” ร่างสูงหัวเราะในลำคอก่อนจะบอกให้เธอรีบไปก่อนที่มันจะสาย หลังจากนั้นซินดี้ก็รีบลงจากรถยนต์คันหรูทันที ร่างบางเดินจับริมฝีปากของตัวเองราวกับคนไม่เคยถูกจูบมาก่อน คนบ้า! บ่นไปยิ้มไปอย่างกับคนเสียสติ ทางด้านของเจนนี่ตอนนี้เธอกำลังยืนจ้องมองผู้หญิงคนนึงที่เพิ่งเดินลงจากรถยนต์คันหรูของกวินทร์เมื่อกี้ ทำไมถึงรู้ว่าเป็นรถเขาน่ะหรอก็เธอเห็นบ่อยออกจะขนาดนั้นจำได้หมดแหละแม้กระทั่งทะเบียนรถ อีกอย่างในมหาลัยฯมีไม่กี่คนหรอกที่ขับรถแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้เองหรอที่ชื่อซินดี้และเป็นแฟนของกวินทร์ ที่แท้ก็ยัยคนซุ่มซ่ามเซ่อซ่าที่เดินชนเธอวันนั้นนั่นเอง “พึ่งรู้ว่าพี่วินชอบของแบบนี้ จืดชืดชะมัด” แต่ช่างเถอะยังไงซะอีกไม่นานเขาก็ต้องเป็นของฉันส่วนเธอก็จะต้องโดนเขาเขี่ยทิ้งไปในที่สุด เจนนี่คิดในใจ “เตรียมตัวรับมือกับฉันให้ดีล่ะ ซินดี้” ร่างสูงเพรียวพูดพร้อมริมฝีปากสวยแสยะยิ้มออกมา ในตอนนี้ซินดี้กำลังเดินขึ้นไปห้องเรียน ซึ่งเหลือเวลาอีกไม่ถึงสิบนาทีก่อนคลาสจะเริ่มเมื่อถึงห้องก็เปิดประตูเข้าไปแล้วรีบเดินไปนั่งยังกลุ่มตัวเองที่วันนี้มากันแค่สองคน “แล้วน้ำหวานกับอลิสล่ะ” “น้ำหวานไม่สบายอ่ะส่วนอลิสไปงานศพญาติที่ญี่ปุ่นน่ะ” เรเน่เป็นคนตอบคำถามของเธอ “ที่สองคนนั้นไม่ได้บอกเพราะมันกระทันหันไปหน่อยเลยลืม” “อืม” “ซินช่วงนี้แกกับแฟนเป็นไงบ้างหรอ” เป็นแพรวาที่เอ่ยถามคนตัวเล็ก “หืม เอ่อ ก็ดีนะ” ซินดี้แปลกใจกับคำถามของแพรวาเล็กน้อยทำไมอยู่ดีถึงสนใจเรื่องเธอกับกวินทร์ “งั้นหรอ มันคงไม่นอกใจแกไปมีคนอื่นหรอกนะ” “ห๊ะ บ้าหรอวินเขาจะทำแบบนั้นทำไมล่ะ” ซินดี้ค่อนข้างตกใจกับคำพูดของแพรวานิดหน่อย “เออ พูดอะไรของแกวะ จะเสี้ยมให้ผัวเมียเขาทะเลาะกันรึไง” เรเน่เสริมขึ้นเธอก็งงทำไมอยู่ๆ แพรวาถึงพูดแบบนี้ทั้งๆ ที่ไม่เคยพูด “เปล่าหรอก ฉันแค่เห็นข่าวเรื่องผู้หญิงถูกแฟนสวมเขาให้เมื่อคืนน่ะก็เลยมาถามยัยซินดูเผื่อจะเจอเหตุการณ์เดียวกัน” แพรวาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “วินเขาไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า” ซินดี้บอกกับแพรวายิ้มๆ “กวินทร์มันดูรักยัยซินขนาดนั้นคงกล้านอกใจหรอก” “เหอะ” หลังจากนั้นก็พากันเปลี่ยนเรื่องคุย คุยกันได้ไม่นานอาจารย์ก็เข้ามาทำให้ต้องหยุดไว้แค่นั้นก่อนRATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
ณ คอนโดมิเนียมราคาแพง ภายในห้องนอนสุดหรูบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ ขณะนี้มีสองร่างกำลังละเลงบทรักอันเร่าร้อนกันอยู่ เสียงครวญครางของทั้งคู่ที่ดังระงมไปทั่วทั้งห้อง โดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนข้างนอกจะได้ยินมั้ย“อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ...อืออ...ว..วิน แรงไป” เสียงครางหวานๆ ของซินดี้นั้นไม่ได้ทำให้กวินทร์ผ่อนแรงลงสักนิด“อ่าาส์..ตอดแรงสัส..ซีดดดดส์”“อืออ อ่ะ อะ”“ฮึ่ม แน่นจริงๆ”“ล..ลึกไปเกินไป”พั่บ พั่บ พั่บ!“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ”“อ่าาาส์”สำหรับซินดี้นั้นเซ็กส์ของกวินทร์ มันทั้งรุนแรงและสุดแสนจะเร่าร้อนเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็พยายามอ่อนโยนกับคนตัวเล็กสุดๆ แล้วนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าลูกชายของเขานี่แหละที่มีขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐานเอง หึ!สวบ! สวบ!“อะ อะ อืออ”“เอามันส์ชิป”“อ๊ะ ว...วินน”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”“ซี๊ดดดดดส์ อ่าาาส์ เสียวหัว” ใบหน้าหล่อเงยหน้าครางซี๊ดด้วยความกระสันไม่ต่าง เนื่องจากร่องรักอันคับแคบของซินดี้นั้นรัดแน่นเกินไปจนท่อนเอ็นของเขาแทบขาด“อ่าาา”“อื้ออ อื้มม”จ๊วบ จ๊วบ! ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรง จนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ กำปั้นเล็กทุบอกแกร่งดัง ปึก! ปึก! หวังจะให้คน
เวลาเก้านาฬิกาเศษๆ ณ มหาวิทยาลัยนีว่าขณะนี้บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะนิเทศศาสตร์มีนักศึกษาหลายคนนั่งอยู่ หนึ่งนั้นก็คือกลุ่มของซินดี้นั่นเอง โดยกลุ่มของซินดี้มีกันทั้งหมดห้าคน คือ ซินดี้ เรเน่ แพรวา อลิส และน้ำหวาน ทุกคนรู้จักกันตั้งแต่มัธยมแล้วล่ะ พวกเขาสนิทกันมากและไม่เคยมีความลับต่อกัน แต่ตอนนี้ทั้งสี่สาวกำลังนั่งรอซินดี้เด็กน้อยของกลุ่ม*ทำไมถึงเรียกเด็กน้อยน่ะหรอเพราะเธอน่ะอ่อนต่อโลกใสซื่อและหัวอ่อนไม่เหมือนผู้ใหญ่เลยสักนิด*“เรเนนนน่” นั่นไงนางมาละ“ว่า?”“ตอนเย็นไปพีพีคาเฟ่กันอยากกินแพนเค้กง่ะ”“แกชวนแค่ยัยเรเน่หรอ” แพรวาถามพร้อมแสร้งทำท่าทางเหมือนน้อยใจมาก“เปล่าซะหน่อยก็ชวนทุกคนแหละ”“จะว่าไปแกนี่กินแต่ของหวานจนจะเป็นเบาหวานอยู่แล้วนะซิน” อลิสแซวคนตัวเล็ก“ไม่ได้เป็นสักหน่อย”“ไปตรวจบ้างก็ดีนะย่ะ” ซินดี้ยู่หน้าใส่น้ำหวานทันที“ป่ะๆ ขึ้นเรียนกัน” เรเน่บอกอีกด้านหนึ่งของมหาลัยฯกวินทร์ขับรถมาจอดหน้าคณะบริหาร เพื่อมาส่งคู่ขาคนเมื่อคืนของเขา เธอชื่อเคท เป็นสาวสวยน่ารักหน้าอกใหญ่ปีหนึ่งคณะเดียวกับเขาเองแหละ“พี่วินคะเคทอยากได้กระเป๋าใบนี้” บอกพร้อมยื่นโทรศัพท์มือถือให้กวินทร์ดู“
Y DEPARTMENT STOREกวินทร์นั้นหลังจากที่วางสายจากซินดี้ จากนั้นร่างสูงจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปหาเคทในร้านรองเท้าดังเดิม“เสร็จรึยัง?”“เรียบร้อยค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบก็เดินไปเค้าท์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในร้านอาหารร้านนึงเพื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็ขับรถไปยังคอนโดฯเคทRIVER CONDOตี๊ดด....ปั้งง! ...เคทแสกนคีย์การ์ดเปิดและปิดประตูบานใหญ่เสียงดังพลั่ก! กวินทร์ไม่รอช้าร่างสูงผลักคนสวยลงโซฟาทันทีที่ประตูปิดลง“อื้อออ ใจเย็นๆ สิคะ”อารมณ์ร่างสูงตอนนี้พลุ่งพล่านสุดขีดเขาทนไม่ไหวแล้ว ลูกชายเขาดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงยีนสีซีดอยากปลดปล่อยเต็มทน ปากหนายื่นประกบปากบางดูดดึงลิ้นเล็กจนเกิดเสียงดัง จ๊วบ จ๊าบ มือหนาเองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกายละเอียดเค้นผิวเนื้อรุนแรง ก่อนมือใหญ่จะลากลงไปจนถึงแพนตี้ของร่างบางและดึงมันออกอย่างรวดเร็ว มือเรียวของเคทไม่ว่างเปล่าช่วยปลดเข็มขัดให้ร่างสูง ก่อนงัดท่อนเอ็นใหญ่ยักษ์ออกมาจากเป้ากางเกง และไม่ลืมที่จะสวมถุงยางให้ร่างสูงอย่างรีบร้อน เพราะเธอเองก็อยากไม่ต่างจากเขาหรอก..สวบ!กวินทร์เสียบท่อนเอ็นใส่ร่องของเคทอย่างรุนแรงโดยไม่ได้เบิกทาง เธอมีสีหน้าเหยเกนิด
NIVA UNIVERSITYร่างสูงของกวินทร์ลงจากรถคันหรู แล้วรีบเดินไปหาเพื่อนของเขาที่นั่งรออยู่หน้าคณะ ระหว่างทางนักศึกษามองเขาจนลูกตาแทบทะลัก บางคนมองแล้วก็กระซิบกระซาบกัน ส่วนมากก็มีแต่ผู้หญิงนั่นแหละ“กว่าจะมาได้นะ มัวไปกกอยู่กับคนไหนอยู่ล่ะ” ก้นยังไม่ทันได้ติดเก้าอี้ เพื่อนรักแสนกวนอย่างมาร์คัสก็แขวะเขาทันทีที่มาถึง ร่างสูงมองเพื่อนตนเล็กน้อยก่อนจะตอบว่า..“ไม่ได้กกใครทั้งนั้นแหละ กูพาซินไปกินข้าว”“อ๋อ ที่แท้ก็กกอยู่กับเมียนี่เอง”“เหอะ ก็ดีกว่ามึงแล้วกันไม่มีเมียให้กก”“ไอ้วิน” คำพูดของกวินทร์ทำเอาพ่อหนุ่มเจ้าสำราญของกลุ่มของขึ้น อยากจะบอกเหลือเกินว่าแค่เมียน่ะเขาจะมีเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ตอนนี้เขายังรักชีวิตโสดอยู่จะให้มีเมียน่ะมาร์คัสคงไม่เอาด้วยหรอก น่ารำคาญจะตายไป มาร์คัสคิดแต่ไม่ตอบออกไป เพราะเขาเริ่มขี้เกียจเถียงกับเพื่อนรักอย่างกวินทร์แล้ว กวินทร์เองถึงแม้ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่เจ้าตัวกลับเอาแต่มองคนตรงข้ามแล้วหัวเราะอยู่คนเดียว“พวกมึงจะทะเลาะกันอีกนานมั้ย ไม่ไปเรียนรึไง” ธีสิตรำคาญเลยรีบสวนขึ้น“เออ กัดกันอยู่ได้เหมือนหมา” อลันเสริม“ไอ้ลัน!” หึๆ อลันหัวเราะในลำคอที่ได้แหย่มาร์คัส“ก็
WILLESS NIGHTCLUBSภายในผับหรูตอนนี้บนชั้นของผู้บริหารนั้นมีร่างสูงของกวินทร์นั่งดื่มเหล้า อึก อึก อยู่คนเดียวพร้อมทั้งมีพนักงานคอยยืนรับใช้อยู่ ร่างสูงทำราวกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า ถ้ากินแบบนี้นะต่อให้เป็นพวกคอหินแค่ไหนก็ไม่รอดอ่ะ“เอาเหล้ามาอีก!” ขวดที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ไม่ได้นับ พนักงานได้ยินรีบวิ่งไปเอาเหล้ามาให้ร่างสูงที่ตอนนี้คอพับ ตัวก็เอนเอียงไปมา“เฮ้ยยย ไอ้วิน ทำไมสภาพมึงเหมือนหมาแบบนี้วะ”“อย่ามายุ่งงงงงกาบบบกู” กวินทร์เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง“เฮ้อออ เมาทีไร แม่งลำบากพวกกูตลอด ไอ้เพื่อนเวร” ธีสิตพูดอย่างเบื่อหน่าย“เหล้ามาแล้วครับ” เหล้าเพียวๆ ถูกยกมาโดยพนักงานชายคนหนึ่ง เขากำลังจะรินเหล้าให้กวินทร์แต่ก็ต้องชะงักเพราะธีสิตเอ่ยห้ามแล้วไล่เขาออกจากห้อง“เอามาให้ฉัน นายมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ”“ครับ” ตอบแล้วเดินออกไป“เอาเหล้ามาาาาา~~~”“มึงพอได้ละ นั่งจะไม่ได้อยู่ละ” อลันบอกคนเมา“เอามาา...! @##%^&**$#”“บ่นเหี้ยไรของมัน ไอ้ห่านี่”“แล้วใครจะพามันไปส่ง” อลันถามพลางมองหน้าเพื่อนทุกคน“มึงกับกูไง” ธีสิตเป็นคนตอบคำถาม“อีกละ เออก็ได้วะ” อลันได้แต่ยอมรับอย่างจำใจ ได้แต่คิดว่ายังไงมันก็เป็นเ
หนึ่งสัปดาห์ต่อมาในที่สุดวันนี้ก็มาถึงเพราะเป็นวันที่ซินดี้และเพื่อนๆ ของเธอรอคอย มีคนมาเพิ่มมาอีกสองคนซึ่งก็คือกวินทร์และอลัน เพื่อนของซินดี้ทุกคนรู้จากเธอนานแล้วว่ากวินทร์จะไปด้วยแต่อลันนี่สิเห็นพี่สาวเก็บกระเป๋าเมื่อคืน เลยถามว่าเจ้เก็บกระเป๋าทำไมอ่ะ ไปไหนหรอ ไปทะเล เท่านั้นแหละเขาก็อ้อนขอมาด้วยทันที กะทันหันจนอลิสไม่ได้โทรบอกเพื่อนก่อน ทริปนี้เป็นทริปที่พวกเขาทั้งห้าคนตกลงกันไว้ตั้งแต่สองอาทิตย์ที่แล้วว่าวันหยุดของมหาลัยฯซึ่งตรงกับวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ พวกเขาจะไปเที่ยวทะเลภูเก็ตเนื่องจากไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้ว ซึ่งตอนนี้ทุกคนก็อยู่บนเครื่องบินเป็นที่เรียบร้อย“ตื่นเต้นจัง” ซินดี้พูดออกมาอย่างดีใจจนกวินทร์ที่นั่งข้างอดแซวขึ้นมาไม่ได้“ขนาดนั้นเลย?”“ก็ไม่ได้ไปทะเลตั้งนานแล้วนี่นา”“หรองั้นเดี๋ยววินพามาบ่อยๆ เอามั้ย”“จริงนะ!?”“อืม”“วินน่ารักที่สุดเลยย” มือเรียวรีบยกขึ้นจับแก้มกวินทร์ส่ายไปมาด้วยความดีใจ“พอแล้ว” กวินทร์จับมือคนตัวเล็กออกจากหน้าตัวเองรีสอร์ต เกาะ…จังหวัดภูเก็ตตอนนี้ทุกคนถึงรีสอร์ตที่จองไว้เรียบร้อยที่นี่ค่อนข้างร่มรื่น เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ ห้องพักแต่ละห้อ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา