NIVA UNIVERSITY
หลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย “เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน “ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่ “ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน “แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส “เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย” “ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก “สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง “ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันที ภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด “พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไปมหาลัยฯด้วยล่ะอารมณ์เสียสุดๆ” “ทำไมล่ะครับ” “ก็มีผู้หญิงซื่อบื้อที่ไหนก็ไม่รู้มาเดินชนเจน น่าโมโหที่สุดเลย” “หึหึ เขาอาจจะไม่ตั้งใจก็ได้นี่” “ถึงอย่างนั้นก็เถอะค่ะ ยังไงเจนก็ไม่ชอบอยู่ดี” ทั้งสองคนคุยกันไปสักพักไม่นานนักก็ถึงจุดหมาย Y DEPARTMENT STORE กวินทร์จอดรถเสร็จก็พาเจนนี่เดินเข้าไปในห้าง ทั้งสองคนเดินดูนั่นนี่ไปเรื่อยๆ จนถึงร้านกระเป๋าแบรนด์นึงเจนนี่บอกอยากเข้ากวินทร์ก็พาเธอเข้าไป เจนนี่เลือกกระเป๋าอยู่ไม่นานเธอก็ได้ใบที่ถูกใจจ่ายเงินเสร็จสรรพก็เดินออกมา เธอเดินควงแขนกวินทร์เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ไปเรื่อย มองดูเผินๆ แล้วทั้งสองคนเหมือนแฟนกันไม่มีผิด จนสุดท้ายแล้วมาหยุดยังร้านอาหาร ด้านแพรวากับอลิสหลังจากแยกกันกับเพื่อนเธอสองคนก็เดินทางมาห้างทันที ตอนนี้ทั้งสองคนก็อยู่ที่หน้าร้านไอศกรีมในห้างเรียบร้อย ก่อนแพรวาจะสบถออกมาเสียงดังจนทำให้อลิสที่ยืนรอไอศกรีมอยู่หันมามองด้วยความตกใจ “เฮ้ย!” “อะไรของแกวะ” แล้วมองตามสายตาของแพรวาก่อนจะ “เฮ้ย นั่นมันกวินทร์แฟนยัยซินหนิ” ตกใจไม่ต่างกัน พวกเขาเห็นกวินทร์กับผู้หญิงคนนึงเดินควงแขนกันเข้าไปในร้านอาหารร้านหนึ่ง “มากับใครวะ” อลิสรับไอศกรีมมาแล้วหันไปถามแพรวา “แล้วฉันจะรู้มั้ยก็มาพร้อมกัน” “ตามสองคนนั้นไปดีกว่าต่อมเผือกฉันเริ่มทำงานละ” แล้วทั้งสองคนก็เดินเข้าไปในร้านอาหารที่กวินทร์กับผู้หญิงคนนั้นเข้าไป ณ ร้านอาหารอิตาเลียนชื่อดัง “พี่วินทานไรดีคะ” “ขอเป็น..Certified Angus Beef Rib Eye Steak กับไวน์แดง” พนักงานจดรายการอาอาหารตามที่กวินทร์สั่ง “งั้นเจนเอา Pork Chop Apple Sauce เบบี้แครอทย่าง แล้วก็สตอเบอรี่สมู๊ทตี้ค่ะ” “เมนูอาหารของลูกค้ามีทั้งหมด 6 รายการนะคะ....รอสักครู่นะคะ” พนักงานทวนเมนูเสร็จแล้วก็ออกไป “พี่วินคะเจนอยากไปทะเลอ่ะเห็นคุณแม่บอกว่าทะเลที่ประเทศไทยสวย พี่วินพาเจนไปหน่อยได้มั้ยคะ” “ไว้เดี๋ยวพี่ว่างแล้วจะพาไปนะ” “เย้ พี่วินน่ารักที่สุดเลย เจนรักพี่วินที่สุด” “หึหึ ครับ” ทั้งสองคนคุยกันโดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบางคนแอบฟังบทสนทนาของทั้งคู่อยู่ แพรวากับอลิสเริ่มกระซิบกระซาบกัน “ฉันรู้สึกว่ามันแปลกๆ อยู่นะ เราบอกซินดีมั้ย” เป็นแพรวาเองที่พูดขึ้นก่อน เธอกำลังจะยกมือถือโทรหาซินดี้แต่อลิสห้ามไว้ก่อน “อย่าเพิ่งรอดูพฤติกรรมมันไปเรื่อยๆ ก่อน ตอนนี้ฉันไม่อยากให้ยัยซินคิดมาก” อลิสเองก็ได้ยินมาบ่อยๆ เหมือนกันว่ากวินทร์เจ้าชู้แค่ไหนจริงๆ ก็ทั้งแก๊งค์มันนั่นแหละรวมถึงไอ้น้องชายตัวดีของเธอด้วย แต่ไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอกับตัวบังเอิญจริงๆ “ก็ได้งั้นเราถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานดีกว่า” “อืม” ด้านกวินทร์กับเจนนี่เมื่ออาหารมาเสิร์ฟครบแล้วทั้งสองก็ลงมือรับประทานกันเลย พอเสร็จแล้วก็เช็กบิลแล้วออกจากร้านทันทีก่อนจะตามออกมาด้วยแพรวากับอลิส สองเพื่อนรักเดินตามกวินทร์กับเจนนี่ไปจนถึงลานจอดรถจนพวกเขาขับรถออกไป ทั้งสองมองตามจนรถหายลับไป “ไม่น่าเชื่อ” “นั่นน่ะสิ” พูดจบทั้งสองคนก็มองหน้ากันก็จะพากันขึ้นรถกลับบ้านตัวเอง บ้านจันทรเกษม “วันนี้เจนสนุกมากเลย ขอบคุณมากนะคะพี่วิน” “เรื่องอะไรครับ” “ก็เรื่องที่พี่วินพาไปช็อปปิ้ง แถมยังพาไปทานอาหารอร่อยๆ อีกไงคะ” “ไม่เป็นไรครับ พี่เต็มใจ” “พี่วินน่ารักจัง” “คงไม่เท่าเรามั้ง..ตอนนี้ก็ดึกแล้ว พี่ว่าเจนรีบเข้าบ้านดีกว่า เดี๋ยวพ่อกับแม่ท่านจะเป็นห่วงเอา” “ก็ได้ค่ะ เจนไปนะ..ขับรถดีๆ นะคะพี่วิน” กวินทร์พยักหน้ารับเสร็จแล้วเขาก็ขับรถออกไปผับเขาทันที WILLESS NIGHTCLUBS ร่างสูงของกวินทร์เดินไปหาเพื่อนที่โซนวีไอพีแทนที่จะเป็นห้องประจำเนื่องจากพวกเพื่อนๆ ของเขามันบอกว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็เท่านั้น ไม่นานนักกวินทร์ก็มาถึงสายตาคมเหลือบมองเพื่อนรักที่ตอนนี้มากันครบแล้ว ก็เห็นว่าทั้งสามคนนั้นกำลังนั่งคลอเคลียกับผู้หญิงอยู่อย่างไม่รู้จักอายกันและกัน “อะ แฮ่ม” เสียงกระแอมจากกวินทร์ดัง จนเพื่อนแต่ละคนผละจากหน้าอกใหญ่ แล้วหันมองมาที่เขา ก่อนจะเป็นมาร์คัสที่เอ่ยทักขึ้นคนแรก “กว่าจะมาได้นะมึง ทำอะไรอยู่ที่ไหนล่ะ” “ไม่อายฟ้าอายดินเลยนะ” กวินทร์ไม่ตอบคำถามแต่กลับว่าเพื่อนกลับ “เหอะ พูดอย่างกับมึงไม่เคยทำ” เขาไม่สนใจธีสิสทั้งยังยักไหล่ทำหน้ากวนตีนใส่ แล้วไปนั่งโซฟาข้างๆ อลันที่ตอนนี้มันไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากหน้าอกใหญ่นั่น กวินทร์เบนสายตามองเพื่อนรักเล็กน้อยก่อนที่เขาจะหันกลับสนใจแก้วเหล้าตรงหน้า ไม่นานนักก็มีผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามาหาเขา เธอใส่ชุดเกาะอกสีดำที่สั้นมากจนแทบเห็นอะไรต่อมิอะไร หน้าตาก็สวยใช้ได้เลยล่ะ “ดีค่ะสุดหล่อ” เธอเป็นคนเริ่มพูดก่อน “อืม” “ฉันแองจี้ คุณล่ะคะ” เธอเอ่ยแนะนำตัวกับเขาพร้อมถามเขากลับบ้าง “กวินทร์” ร่างสูงตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เนื่องจากไม่ได้ยินดียินร้ายที่คนตรงหน้าทัก แล้วอีกอย่างแค่ชื่อนั้นกวินทร์ไม่คิดจะหวงไว้อยู่แล้ว อยากรู้ก็แค่ตอบออกไปก็เท่านั้น “ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยคะ” “เชิญ” กวินทร์พูดจบแองจี้ก็นั่งลงข้างๆ เขาทันที แม้ที่มันจะแคบแต่ไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอเลยสักนิด “มีแฟนรึยังคะ” พอนั่งได้เธอก็เริ่มบทสนทนาอีกครั้งง “มีแล้ว” “ว๊า เสียดายจังเลยนะคะ” พูดพร้อมลูบไล้ไปทั่วอกแกร่ง “หึ แต่ถ้าคุณอยากผมก็ไม่มีปัญหานะ One night stand” กวินทร์พูดจบเขาก็จับเธอนั่งบนตักเขาทันที จมูกโด่งสูดดมตามลำคอระหงของแองจี้ แต่ไม่ทันไรเธอก็ผลักเขาออก “อย่าเพิ่งสิคะ” “ฮึ่ม อย่ามาเล่นตัวน่า” ร่างสูงเริ่มหงุดหงิด “เปล่านะคะ ฉันแค่จะบอกว่าไปที่ห้องไม่ดีกว่าหรอ” พูดจบร่างสูงก็อุ้มแองจี้ขึ้นเพื่อไปต่อในห้องทันทีเพราะผับของเขานั้นมีห้องพักด้วย “เดี๋ยวกูมา” บอกเพื่อนเสร็จก็รีบอุ้มเธอออกไป ซึ่งใช้เวลาไม่นานทั้งสองก็มาถึงห้อง แกร๊กกก...ปั้ง! เสียงเปิดและปิดประตูอย่างรุนแรง จ๊วบ! “อื้อ อืมม” ไม่รอช้าร่างสูงประกบปากจูบริมฝีปากสีแดงสดอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ผลักเธอลงกับเตียงนอนไม่แรงนัก พลั่ก! ตุบ! “อ่ะ ใจเย็นๆ สิคะ” เขาไม่สนใจคำพูดเธอเลยสักนิด กวินทร์ถอดเสื้อผ้าของแองจี้ออกอย่างรีบร้อน จากนั้นเขาก็ซุกหน้าลงกับอกอวบแองจี้เองก็ไม่แพ้กันเธอรีบปลดกระดุมเสื้อให้ร่างสูงทั้งยังเอื้อมมือไปปลดเข็มขัดให้เขาอีก กวินทร์ไม่สนใจอะไรทั้งงนั้นเขาดูดเลียรอบๆ ยอดอกสีอ่อนนั่นอย่างหื่นกระหาย มือสากไม่ว่างเปล่ารีบลงแรงบีบเคล้นเต้าใหญ่จนแทบแตก มืออีกข้างไม่ยอมแพ้กัน เขาจัดการดันนิ้วสอดมันเข้าไปในร่องรักที่ไม่ค่อยจะคับแน่นเท่าไหร่ของเธอ เหอะ! คงจะผ่านมาเยอะแล้วสินะ “อ๊ะ แรงๆ เลยค่ะ” แจ๊ะ แจ๊ะ ตอนนี้เขาเพิ่มมันเป็นสามนิ้วแล้วเรียบร้อยแยงเข้าแยงออก ร่างสูงถอดนิ้วออกแล้วหยิบถุงยางจากกระเป๋าสตางค์ มาสวมที่ลูกชายของเขา เสร็จแล้วร่างสูงก็จับท่อนเอ็นของเขาถูไถไปมาบนร่องของเธอก่อนจะ... สวบ! “อ๊าาาาา” ขนาดท่อนเอ็นที่ใหญ่มากของเขาทำเธอตาเบิกกว้าง กวินทร์ไม่รอช้าเมื่อสอดใส่ได้เขาก็กระแทกเข้าออกแรงๆ ทันที “อืม” “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ กระแทกเข้ามาแรงๆ เลย” พั่บ..พั่บ..พั่บ กวินทร์อัดแรงกระแทกใส่สาวสวยใต้ร่างอย่างรุนแรง ไม่คิดถนอมเขาทำอยู่อย่างนั้นเข้าสุดออกสุด ความเสียวซ่านที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ทำให้ร่างเพรียวบางของแองจี้ส่งเสียงครางดังออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า เธอไม่เคยเจอบทรักอันเร่าร้อนแบบนี้เลยสักครั้ง กวินทร์นั้นช่างร้อนแรงมากจริงๆ เซ็กส์ครั้งนี้มันถึงใจเธอที่สุด “แรงอีกค่ะ กระแทกแรงๆ” “อะ อ่ะ อ้า จะเสร็จแล้ว” “อ๊ะ อ๊ะ อร้ายยยยยยยย” เธอเสร็จเไปแล้วแต่เขายังไม่ เขากระแทกเธอแรงขึ้นกว่าเดิมแรงมาจนเธอทำหน้าเหยเก เสียงเนื้อกระทบกันดัง พั่บ พั่บ ลั่นห้องไหนจะเสียงครางของแองจี้อีก “อร้ายยยยย” เธอขึ้นสวรรค์ไปอีกแล้ว เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วไม่สามารถบอกได้ “ฮึ่มมมม อ่าาาาาาาา” ในที่สุดเขาก็เสร็จสม กวินทร์ถอนท่อนเอ็นออกจากร่องสาวเขาดึงถุงยางออกโยนมันลงถังขยะแล้วร่างสูงก็เก็บลูกชายเขาเข้าในกางเกงเหมือนเดิม ก่อนจะแต่งตัวหยิบเงินในกระเป๋าให้ผู้หญิงที่ตอนนี้ นอนถ่างขาอ้าซ่าอยู่บนเตียงจากนั้นเขาก็เดินออกจากห้องไปกวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
ณ คอนโดมิเนียมราคาแพง ภายในห้องนอนสุดหรูบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ ขณะนี้มีสองร่างกำลังละเลงบทรักอันเร่าร้อนกันอยู่ เสียงครวญครางของทั้งคู่ที่ดังระงมไปทั่วทั้งห้อง โดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนข้างนอกจะได้ยินมั้ย“อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ...อืออ...ว..วิน แรงไป” เสียงครางหวานๆ ของซินดี้นั้นไม่ได้ทำให้กวินทร์ผ่อนแรงลงสักนิด“อ่าาส์..ตอดแรงสัส..ซีดดดดส์”“อืออ อ่ะ อะ”“ฮึ่ม แน่นจริงๆ”“ล..ลึกไปเกินไป”พั่บ พั่บ พั่บ!“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ”“อ่าาาส์”สำหรับซินดี้นั้นเซ็กส์ของกวินทร์ มันทั้งรุนแรงและสุดแสนจะเร่าร้อนเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็พยายามอ่อนโยนกับคนตัวเล็กสุดๆ แล้วนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าลูกชายของเขานี่แหละที่มีขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐานเอง หึ!สวบ! สวบ!“อะ อะ อืออ”“เอามันส์ชิป”“อ๊ะ ว...วินน”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”“ซี๊ดดดดดส์ อ่าาาส์ เสียวหัว” ใบหน้าหล่อเงยหน้าครางซี๊ดด้วยความกระสันไม่ต่าง เนื่องจากร่องรักอันคับแคบของซินดี้นั้นรัดแน่นเกินไปจนท่อนเอ็นของเขาแทบขาด“อ่าาา”“อื้ออ อื้มม”จ๊วบ จ๊วบ! ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรง จนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ กำปั้นเล็กทุบอกแกร่งดัง ปึก! ปึก! หวังจะให้คน
เวลาเก้านาฬิกาเศษๆ ณ มหาวิทยาลัยนีว่าขณะนี้บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะนิเทศศาสตร์มีนักศึกษาหลายคนนั่งอยู่ หนึ่งนั้นก็คือกลุ่มของซินดี้นั่นเอง โดยกลุ่มของซินดี้มีกันทั้งหมดห้าคน คือ ซินดี้ เรเน่ แพรวา อลิส และน้ำหวาน ทุกคนรู้จักกันตั้งแต่มัธยมแล้วล่ะ พวกเขาสนิทกันมากและไม่เคยมีความลับต่อกัน แต่ตอนนี้ทั้งสี่สาวกำลังนั่งรอซินดี้เด็กน้อยของกลุ่ม*ทำไมถึงเรียกเด็กน้อยน่ะหรอเพราะเธอน่ะอ่อนต่อโลกใสซื่อและหัวอ่อนไม่เหมือนผู้ใหญ่เลยสักนิด*“เรเนนนน่” นั่นไงนางมาละ“ว่า?”“ตอนเย็นไปพีพีคาเฟ่กันอยากกินแพนเค้กง่ะ”“แกชวนแค่ยัยเรเน่หรอ” แพรวาถามพร้อมแสร้งทำท่าทางเหมือนน้อยใจมาก“เปล่าซะหน่อยก็ชวนทุกคนแหละ”“จะว่าไปแกนี่กินแต่ของหวานจนจะเป็นเบาหวานอยู่แล้วนะซิน” อลิสแซวคนตัวเล็ก“ไม่ได้เป็นสักหน่อย”“ไปตรวจบ้างก็ดีนะย่ะ” ซินดี้ยู่หน้าใส่น้ำหวานทันที“ป่ะๆ ขึ้นเรียนกัน” เรเน่บอกอีกด้านหนึ่งของมหาลัยฯกวินทร์ขับรถมาจอดหน้าคณะบริหาร เพื่อมาส่งคู่ขาคนเมื่อคืนของเขา เธอชื่อเคท เป็นสาวสวยน่ารักหน้าอกใหญ่ปีหนึ่งคณะเดียวกับเขาเองแหละ“พี่วินคะเคทอยากได้กระเป๋าใบนี้” บอกพร้อมยื่นโทรศัพท์มือถือให้กวินทร์ดู“
Y DEPARTMENT STOREกวินทร์นั้นหลังจากที่วางสายจากซินดี้ จากนั้นร่างสูงจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปหาเคทในร้านรองเท้าดังเดิม“เสร็จรึยัง?”“เรียบร้อยค่ะ” เมื่อได้รับคำตอบก็เดินไปเค้าท์เตอร์เพื่อจ่ายเงิน จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในร้านอาหารร้านนึงเพื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็ขับรถไปยังคอนโดฯเคทRIVER CONDOตี๊ดด....ปั้งง! ...เคทแสกนคีย์การ์ดเปิดและปิดประตูบานใหญ่เสียงดังพลั่ก! กวินทร์ไม่รอช้าร่างสูงผลักคนสวยลงโซฟาทันทีที่ประตูปิดลง“อื้อออ ใจเย็นๆ สิคะ”อารมณ์ร่างสูงตอนนี้พลุ่งพล่านสุดขีดเขาทนไม่ไหวแล้ว ลูกชายเขาดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงยีนสีซีดอยากปลดปล่อยเต็มทน ปากหนายื่นประกบปากบางดูดดึงลิ้นเล็กจนเกิดเสียงดัง จ๊วบ จ๊าบ มือหนาเองก็ลูบไล้ไปทั่วผิวกายละเอียดเค้นผิวเนื้อรุนแรง ก่อนมือใหญ่จะลากลงไปจนถึงแพนตี้ของร่างบางและดึงมันออกอย่างรวดเร็ว มือเรียวของเคทไม่ว่างเปล่าช่วยปลดเข็มขัดให้ร่างสูง ก่อนงัดท่อนเอ็นใหญ่ยักษ์ออกมาจากเป้ากางเกง และไม่ลืมที่จะสวมถุงยางให้ร่างสูงอย่างรีบร้อน เพราะเธอเองก็อยากไม่ต่างจากเขาหรอก..สวบ!กวินทร์เสียบท่อนเอ็นใส่ร่องของเคทอย่างรุนแรงโดยไม่ได้เบิกทาง เธอมีสีหน้าเหยเกนิด
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา