CLASSY CONDOMINIUM
ซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที “ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่…. ....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...... เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้ “แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหมด CINDY… ‘วินอยู่ไหนหรอ’ ‘วินจะกลับมาตอนไหน’ ‘ทำไมวินไม่ตอบซินเลย...ยุ่งอยู่หรอ’ ‘T_T’ ‘วินเป็นอะไรรึเปล่า’ ‘ซินเป็นห่วงวินนะ’ เมื่อออกจากหน้าแชทเขารีบโทรหาซินดี้ทันที แต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับสายจนเริ่มหงุดหงิด ในเมื่อเธอไม่รับเขาจึงปิดไฟนอน *ซินดี้ไม่รับเพราะว่าลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องนั่งเล่น กวินทร์โทรหาตอนตีสองเธอก็หลับไปแล้ว* เช้าวันรุ่งขึ้น กริ้งงงงง! กริ้งงงงง! เสียงนาฬิกาปลุกดังนานแล้วกว่าสามสิบนาที ไม่ได้ทำให้ร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกตัวเลยสักนิด ก็กว่าเธอจะนอนก็เกือบเช้าแล้ว ปล่อยมันแผดเสียงอยู่อย่างนั้นจนมันหยุดไปเอง 8:30AM “อืมม” ร่างบางงัวเงียค่อยๆ ลืมตาแต่ยังไม่ลุกจากเตียงแค่นอนพลิกไปพลิกมา แล้วสักพักก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ ทันใดนั้นสายตาจึงเหลือบไปเห็นปฏิทินบนโต๊ะข้างเตียง “วันนี้วันจันทร์...ห๊ะ ตายแล้ววววว” เสียงดังโหวกเหวกออกจากปากอิ่ม นั่นเพราะวันนี้เธอมีเรียนตอนเก้าโมงน่ะสิ ตอนแรกก็ว่าจะไม่ไปนั่นแหละแต่เพราะเธอหายป่วยแล้วอีกทั้งร่างบางก็ไม่อยากขาดเรียน คิดได้ดังนั้นจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ ไม่นานนักซินดี้ก็อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ ร่างบางไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าสะพายชีทเรียนต่างๆ และของจำเป็นวิ่งออกจากห้องลงไปข้างล่างเพื่อเรียกรถไปมหาลัยฯ ยืนรอแท็กซี่อยู่หน้าคอนโดไม่นานรถก็มาจอดตรงหน้า “ไปมหาลัยฯนิว่าค่ะ” บอกเสร็จคนขับแท็กซี่ก็ออกรถไปยังจุดหมายปลายทางทันที ครืดดดด ครืดดดด แรงสั่นจากโทรศัพท์ดังระห่ำอยู่ภายในห้อง ใช่แล้วร่างบางลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องนั่งเล่น เมื่อคืนหลังจากพยายามติดต่อกวินทร์แต่เมื่อไม่สำเร็จเธอก็เข้าไปนอนเลยไม่ได้สนใจมันอีกเลยลืมไว้บนโซฟา ทางด้านของกวินทร์ตอนนี้เขากำลังขับรถกลับคอนโดฯ ร่างสูงโทรหาคนรักมาตลอดทางประมาณสามสิบครั้งได้แล้วมั้งแต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับ “ไปไหนทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ” กวินทร์สบถเสียงดังด้วยความหัวเสียเมื่อคนรักไม่ยอมรับสาย NIVA UNIVERSITY ซินดี้จ่ายเงินค่าแท็กซี่เสร็จก็รีบวิ่งไปห้องเรียนเพราะตอนนี้มันสายมาสิบห้านาทีได้แล้ว เพราะว่าร่างบางรีบเกินไปจนไม่ทันระวัง ตุบบ!...พลัก! “อ่ะ” เผลอชนคนอื่นน่ะสิ ซินดี้เงยหน้ามองผู้หญิงตรงหน้าที่ดูเหมือนจะสูงกว่าเธอนิดหน่อยและที่สำคัญเธอสวยมาก ก่อนจะหยุดความคิดนั้นไว้แล้วเอ่ยขอโทษออกไป “อะ เอ่อ ฉันขอโทษจริงๆ นะคะ คุณเป็นอะไรรึเปล่า” คนถูกชนมองตาขวางใส่คนตัวเล็กตรงหน้าทันทีก่อนจะเอ่ยเสียงดังเพราะไม่พอใจ “ซุ่มซ่าม!” ซินดี้ตกใจเล็กน้อยเมื่อโดนตะคอกใส่ “เอ่อ ฉันขอโทษอีกครั้งนะคะ ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ผู้หญิงคนนั้นมองเธออีกครั้งก่อนจะต่อว่าเธอเสียงไม่เบานัก “หึ คราวหน้าคราวหลังหัดมองซ้ายมองขวาบ้างนะย่ะ จะได้ไม่เซ่อซ่าวิ่งชนคนอื่นเขาแบบนี้” พูดจบเธอก็เดินออกไปเลยไม่ปล่อยให้คนตัวเล็กพูดอะไรอีก ซินดี้มองตามเธอด้วยความอึ้ง “หน้าตาก็สวยนะทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ล่ะ เราขอโทษไปแล้วแท้ๆ เฮ้อ” บ่นเสร็จแล้วก็รีบวิ่งไปห้องเรียน บริเวณหน้าคลาสเรียน ณ ตอนนี้ร่างบางของซินดี้เดินวนไปวนมาอยู่หน้าห้อง เธอกำลังลังเลว่าจะเข้าไปดีมั้ยแต่สุดท้ายก็สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วผลักประตูเข้าไป แอดดดด…เมื่อเปิดประตูเท่านั้นแหละคนทั้งห้องจึงหันมามองเธอเป็นตาเดียว “ไม่มาพรุ่งนี้เลยล่ะซินตินา” อาจารย์กล่าวน้ำเสียงประชดประชัน “เอ่อ รถติดนิดหน่อยค่ะอาจารย์” คนตัวเล็กบอกเสียงแผ่ว “จะยืนอีกนานมั้ย รีบเข้ามาได้แล้ว” “อะ...เอ่อ ค่ะ” แล้วซินดี้ก็รีบเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างเพื่อนของเธอทันที “ฉันโทรหาแกเป็นสิบๆ ครั้งทำไมแกไม่รับห๊ะ” มาถึงโต๊ะอลิสก็เอ็ดใส่หน้าทันที “ตอนไหนอ่ะไม่เห็นได้ยินเลย” “แกช่วยเปิดดูโทรศัพท์ตัวเองด้วย” แล้วซินดี้ก็ทำตามที่อลิสบอกแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ “เอ่ออ สงสัยจะลืมไวที่ห้องอ่ะ แหะๆ” ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้เพื่อนรัก “หึ้ยยย ยัยบื้อเอ้ย!” “มาสายแล้วยังจะคุยกันอีกหรอ!” โดนด่าอีกแล้วจากนั้นทั้งสองคนหยุดการสนทนาและตั้งอกตั้งใจฟังอาจารย์สอนทันที ทางด้านกวินทร์เมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องก็ต้องหัวเสียอีกจนได้ เพราะในห้องไม่มีใครอยู่นะสิไม่เจอใครแม้แต่คนเดียว ออ แล้วที่สำคัญเขาก็เจอโทรศัพท์ของซินดี้วางอยู่บนโซฟาอีก ตอนนี้ก็รู้สาเหตุของการไม่รับสายเรียบร้อย ส่วนวันนี้เขาไม่มีเรียนและก็ไม่รู้จะไปไหนไปผับตอนนี้ก็ยังเช้าอยู่คิดได้ดังนั้นร่างสูงจึงตัดสินใจนอนเล่นเกมอยู่ห้องสักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดัง ครืดดดด คครืดดดดด ยกขึ้นมาดูพบว่าเป็นเบอร์แปลกแต่เขาก็กดรับสายอยู่ดี “ใคร” “.....ถ้าไม่พูดฉันจะวาง” ร่างสูงเริ่มหงุดหงิดเมื่อคนในสายเอาแต่เงียบ จึงตอบออกไปแบบนั้น แต่ยังไม่ทันจะได้กดวางเสียงใสของใครบางคนก็ดังขึ้นเสียก่อน [เจนนี่เองค่ะ] “ลูกหมู...เอาเบอร์พี่มาจากไหน” [คุณป้าค่ะ] เฮ้อ แม่นะแม่ กวินทร์ถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่ายรู้หรอกว่าแม่กับพ่อกำลังจะจับคู่ให้ตัวเอง แต่ก็นั่นแหละถ้าเขาไม่สนใจซะอย่าง ใครหน้าไหนก็บังคับเขาไม่ได้ทั้งนั้น กวินทร์หยุดความคิดไว้เพียงเท่านั้น ก่อนจะเอ่ยถามปลายสายของเหตุผลในการติดต่อกัน “แล้วโทรมามีอะไรรึเปล่า” [เอ่อ เจนอยากไปช็อปปิ้งค่ะ พี่วินพาเจนไปหน่อยนะคะ เจนยังไม่คุ้นกับที่นี่เลยอ่า] เจนนี่อ้อนกวินทร์ “ก็ได้ครับกี่โมงเดี๋ยวพี่ไปรับ” นิ่งไปครู่นึงก่อนเขาจะตอบตกลง [ประมาณหกโมงเย็นก็ได้ค่ะ พี่วินว่างใช่มั้ย] “ครับ งั้นแค่นี้นะ ออ ให้พี่ไปรับที่บ้านใช่มั้ย” “ค่ะ” เมื่อได้คำตอบเขาก็วางสายซึ่งร่างสูงก็ไม่ลืมที่จะบันทึกเบอร์ของเจนนี่ไว้ด้วยเช่นกัน ‘ลูกหมู’ เสร็จแล้วนิ้วเรียวจึงกดเข้าไปในแอปพลิเคชันสีเขียวยอดฮิต ไม่รอช้าเขาเปิดเข้าไปในแชทกลุ่มเพื่อนัดหมายบางอย่างกับพวกมันอย่างรวดเร็ว Gavyn : พวกมึง Alan : ว่า? Marcus : พายุเข้าแน่เลยวะไอ้วินมันเข้าไลน์ว่าแต่มีอะไรวะ Gavyn : @Marcus fuck! Teesit : อะไร Marcus : ไอ้สัดวิน! Gavyn : กินเหล้ากัน Alan : เออ ไปก็ไปดิวะกูเองไม่ได้กินมาสองวันแล้ว Marcus : สองวัน! นานมากกูไม่กินมาเป็นอาทิตย์ยังไม่โม้เลย Alan : สัส Teesit : อืม กี่โมง Gavyn : สามทุ่ม Alan : เค Teesit : อืม Marcus : เจอกัน . . . ตอนนี้นักศึกษามากมายต่างกำลังทยอยเดินออกจากห้องเรียนกัน รวมทั้งซินดี้และเพื่อนของเธอด้วย “หิวข้าวววว” แพรวาพูดขึ้นหลังจากออกจากห้อง “เหมือนกัน ไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้าแล้วไปโรงอาหารกัน” ซินดี้เสริมจากนั้นทุกคนก็เดินไปโรงอาหารของมหาลัยฯ เดินไม่นานพวกเธอก็ถึงที่หมาย “คนเยอะมากเลยอ่ะ” น้ำหวานบ่นเมื่อเห็นจำนวนนักศึกษาในโรงอาหาร “นั่นน่ะสิ” อลิสเสริม “จะมีที่นั่งเหลือให้พวกเรามั้ยเนี่ย” ซินดี้เอ่ยขึ้นอีกคน “โอ๊ะ! นั่นไง” น้ำหวานชี้ไปยังโต๊ะที่ว่างอยู่แล้วพวกเธอก็เดินไปนั่งทันที “เดี๋ยวฉันกับยัยหวานไปซื้อข้าวเอง อลิสกับแพรวาไปซื้อน้ำ ส่วนยัยซินนั่งเฝ้าโต๊ะไว้โอเค๊” เป็นเรเน่เองที่จัดแจงทุกอย่างซึ่งทุกคนก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย “เอาไรกันบ้าง” “เกาเหลาหมู” ซินดี้ตอบ “ข้าวมันไก่” อลิส “กะเพราไก่ ไข่ดาวด้วยนะ” แพรวา จากนั้นเรเน่กับน้ำหวานก็เดินออกไปซื้อข้าว ส่วนอลิสกับแพรวาก็ไปซื้อน้ำเหลือซินดี้คนเดียวที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ก่อนจะได้ยินเสียงบทสนทนาของกลุ่มคนซึ่งอยู่ข้างหลังเธอ ซินดี้ไม่คิดจะสนใจเพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องของตัวเอง “สวยขนาดนี้ ผู้ชายยังกล้านอกใจ” “เนอะ” “นั่นสิ สงสารผู้หญิงอ่ะ” “พวกแกคิดว่าผู้หญิงเค้ารู้มั้ยวะว่าแฟนตัวเองเจ้าชู้แค่ไหน” “รู้แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ” ซินดี้ไม่ได้อยากจะฟังเลยสักนิดแต่พวกเขาก็คุยกันเสียงดังเหลือเกินได้แต่คิดในใจว่า “คนสมัยนี้เขากล้านินทาคนอื่นในที่สาธารณะแบบนี้แล้วหรอ” นั่งคิดไปเรื่อยเปื่อยไม่นานนักเพื่อนก็มาNIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
ณ คอนโดมิเนียมราคาแพง ภายในห้องนอนสุดหรูบนเตียงคิงไซส์ขนาดใหญ่ ขณะนี้มีสองร่างกำลังละเลงบทรักอันเร่าร้อนกันอยู่ เสียงครวญครางของทั้งคู่ที่ดังระงมไปทั่วทั้งห้อง โดยที่ไม่สนใจเลยว่าคนข้างนอกจะได้ยินมั้ย“อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊ะ...อืออ...ว..วิน แรงไป” เสียงครางหวานๆ ของซินดี้นั้นไม่ได้ทำให้กวินทร์ผ่อนแรงลงสักนิด“อ่าาส์..ตอดแรงสัส..ซีดดดดส์”“อืออ อ่ะ อะ”“ฮึ่ม แน่นจริงๆ”“ล..ลึกไปเกินไป”พั่บ พั่บ พั่บ!“อื้ออ อ๊ะ อ๊ะ”“อ่าาาส์”สำหรับซินดี้นั้นเซ็กส์ของกวินทร์ มันทั้งรุนแรงและสุดแสนจะเร่าร้อนเหลือเกิน แต่ถึงอย่างนั้นร่างสูงก็พยายามอ่อนโยนกับคนตัวเล็กสุดๆ แล้วนะ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าลูกชายของเขานี่แหละที่มีขนาดใหญ่โตเกินมาตรฐานเอง หึ!สวบ! สวบ!“อะ อะ อืออ”“เอามันส์ชิป”“อ๊ะ ว...วินน”“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ”“ซี๊ดดดดดส์ อ่าาาส์ เสียวหัว” ใบหน้าหล่อเงยหน้าครางซี๊ดด้วยความกระสันไม่ต่าง เนื่องจากร่องรักอันคับแคบของซินดี้นั้นรัดแน่นเกินไปจนท่อนเอ็นของเขาแทบขาด“อ่าาา”“อื้ออ อื้มม”จ๊วบ จ๊วบ! ริมฝีปากหนาบดจูบริมฝีปากอิ่มอย่างรุนแรง จนคนตัวเล็กนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ กำปั้นเล็กทุบอกแกร่งดัง ปึก! ปึก! หวังจะให้คน
เวลาเก้านาฬิกาเศษๆ ณ มหาวิทยาลัยนีว่าขณะนี้บริเวณโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะนิเทศศาสตร์มีนักศึกษาหลายคนนั่งอยู่ หนึ่งนั้นก็คือกลุ่มของซินดี้นั่นเอง โดยกลุ่มของซินดี้มีกันทั้งหมดห้าคน คือ ซินดี้ เรเน่ แพรวา อลิส และน้ำหวาน ทุกคนรู้จักกันตั้งแต่มัธยมแล้วล่ะ พวกเขาสนิทกันมากและไม่เคยมีความลับต่อกัน แต่ตอนนี้ทั้งสี่สาวกำลังนั่งรอซินดี้เด็กน้อยของกลุ่ม*ทำไมถึงเรียกเด็กน้อยน่ะหรอเพราะเธอน่ะอ่อนต่อโลกใสซื่อและหัวอ่อนไม่เหมือนผู้ใหญ่เลยสักนิด*“เรเนนนน่” นั่นไงนางมาละ“ว่า?”“ตอนเย็นไปพีพีคาเฟ่กันอยากกินแพนเค้กง่ะ”“แกชวนแค่ยัยเรเน่หรอ” แพรวาถามพร้อมแสร้งทำท่าทางเหมือนน้อยใจมาก“เปล่าซะหน่อยก็ชวนทุกคนแหละ”“จะว่าไปแกนี่กินแต่ของหวานจนจะเป็นเบาหวานอยู่แล้วนะซิน” อลิสแซวคนตัวเล็ก“ไม่ได้เป็นสักหน่อย”“ไปตรวจบ้างก็ดีนะย่ะ” ซินดี้ยู่หน้าใส่น้ำหวานทันที“ป่ะๆ ขึ้นเรียนกัน” เรเน่บอกอีกด้านหนึ่งของมหาลัยฯกวินทร์ขับรถมาจอดหน้าคณะบริหาร เพื่อมาส่งคู่ขาคนเมื่อคืนของเขา เธอชื่อเคท เป็นสาวสวยน่ารักหน้าอกใหญ่ปีหนึ่งคณะเดียวกับเขาเองแหละ“พี่วินคะเคทอยากได้กระเป๋าใบนี้” บอกพร้อมยื่นโทรศัพท์มือถือให้กวินทร์ดู“
RATTANACHOTRUENGKUL GROUP บริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อีกทั้งยังมีธุรกิจมากมายในเครือ เรียกได้ว่าร่ำรวยมหาศาลเลยล่ะ ขณะนี้เองร่างสูงของกวินทร์กำลังเดินเข้าไปในตึกขนาดใหญ่ตรงหน้า เพราะหลังจากที่เขาส่งซินดี้เสร็จ เขาก็แวะมาหาบิดาที่บริษัท เนื่องจากท่านบอกมีธุระสำคัญจะคุยด้วย ไม่อยากคุยผ่านโทรศัพท์เขาเลยต้องถ่อมาถึงนี่ยังไงล่ะ ระหว่างทางเดินก็มีพนักงานหันมองเขากันตาเป็นมัน ทำอย่างกับไม่เคยเห็นลูกชายท่านประธาน ถึงกวินทร์จะมาไม่บ่อยนักแต่ก็ไม่ใช่ไม่มาเลยนะ “แกๆ ดูคนนั้นดิใครวะโคตรหล่อเลย” พนักงานคนนึงซึ่งเป็นพนักงานใหม่เข้ามาทำงานได้ไม่นานสะกิดเพื่อนร่วมงานที่อยู่ข้างกันให้หันมองตาม “นั่นมันคุณกวินทร์หนิ” “ใครหรอ” “เอ้า ก็ลูกชายคนเดียวของท่านประธานไง” พอเพื่อนพูดจบเท่านั้นพนักงานคนนั้นถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน เธอเพิ่งย้ายเข้ามาใหม่เลยไม่เคยเจอเขา ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทายาทตระกูลใหญ่จะหล่อราวกับเทพบุตรแบบนี้ พ่อกับแม่ว่าสวยหล่อมากแล้วเจอลูกชายยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่ใครได้เขาเป็นแฟนคงโชคดีไม่น้อย “ฉันอยากได้แฟนแบบนี้บ้างจัง” “ฝันไปเถอะย่ะ” แล้วก็ต้องหยุดความคิดนั้นไว้ทันทีที่เพื
...Truuu...Truuu...โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ เพราะมันกำลังรบกวนคนที่กำลังนอนอยู่บนเตียงไม่น้อย จนเจ้าของร่างสูงอย่างกวินทร์ต้องดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะ“อื้ออ” เป็นซินดี้ที่ต้องลืมตาตื่นขึ้นมา เพราะทนเสียงอันน่ารำคาญของมันไม่ไหวมือเรียวรีบคว้ามารับอย่างรวดเร็ว โชคดีหน่อยที่เจ้าเครื่องมือสื่อสารนั้นวางอยู่ใกล้เมื่อได้แล้วก็กดรับทันทีโดยไม่ดูเลยว่าใครโทรมา“ฮัลโหล” ปลายสายเงียบไปหลังจากที่ได้ยินเสียงผู้หญิงแทนที่จะเป็นลูกชายของเธอ และใช่คนที่โทรมาคือพิมลแขมารดาของกวินทร์[เธอเป็นใคร ทำไมถึงกล้ามารับโทรศัพท์ลูกชายฉัน] พิมลแขถามด้วยเสียงไม่พอใจ ซินดี้เมื่อรู้ว่าคนที่โทรเข้ามาคือใครเปลือกตาก็ลืมขึ้นทันที ดวงตากลมเบิกกว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเจ้าของปลายสายนั้นคือมารดาคนรัก คนตัวเล็กนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติและตอบไปว่า“อะ..เอ่อ น..หนูซินดี้เองค่ะ ตอนนี้กวินทร์หลับอยู่ แต่ถ้าคุณท่านต้องการจะคุยกับเขาหนูจะปลุกให้เดี๋ยวนี้ค่ะ” รีบบอกออกไปประโยคยาวเหยียดและที่คนตัวเล็กต้องเรียกพิมลแขแบบนั้น ก็เพราะไม่กล้าพอที่จะเรียกมารดาของ
ทางด้านของกวินทร์กับซินดี้ยังคงนั่งหยอกล้อกันอยู่อย่างไม่แคร์ว่าใครจะมองเลยสักนิด แต่เฉพาะกวินทร์นะที่ไม่อายส่วนร่างบางนี่แทบจะเอาหน้ามุดดินหนีแล้ว เพื่อนสนิทก็เอาแต่นั่งมองและล้อเลียนเธอด้วยสายตาอีก กวินทร์เอานิ้วจิ้มเอวซินดี้ไม่หยุด“อ๊ะ วิน ฮ่าๆ พอแล้ว”“ไม่”“วิน พอแล้วววว ฮ่าๆ” กวินทร์มองซินดี้ด้วยสายตาเอ็นดู มีความสุขที่ได้เห็นเธอยิ้มและหัวเราะแบบนี้ เขาปล่อยมือออกจากเอวบางแล้วเอ่ยบอกกับร่างบางว่า...“วันนี้เรียนเสร็จกลับพร้อมกันนะวินจะรอ”“อื้ม!” ร่างสูงเพรียวของเจนนี่ที่เพิ่งเดินออกมาจากอาคารเรียนพร้อมกับเพื่อนใหม่ทั้งสามคนของเธอคือ เอมมี่ รานินและมิลล่า จำต้องหยุดชะงัก…“นั่นพี่วินหนิ แล้วผู้หญิงคนนั้น? ...”“แฟนพี่กวินทร์น่ะ” รานินเป็นคนตอบข้อสงสัยของเธอ แฟนงั้นหรอทำไมเธอถึงไม่เคยรู้ว่าพี่วินมีแฟน เจนนี่คิดในใจ“น่าอิจฉาเนอะผู้หญิงก็สวยผู้ชายก็หล่อเหมาะสมกันสุดๆ” มิลล่า เพื่อนเจนนี่รู้ว่าเธอรู้จักกับกวินทร์แต่ยังไม่รู้ว่าเจนนี่ชอบเขา“แต่ฉันว่าไม่นะถึง
ตอนนี้สองเพื่อนรักอยู่ห้างเป็นที่เรียบร้อย ซินดี้ควงแขนแพรวาเดินเข้าไปในร้านบิงซูร้านนึงที่ค่อนข้างน่ารัก ของภายในร้านเต็มไปด้วยสีชมพูทั้งหมด“ร้านน่ารักมากเลยเนอะ” เป็นซินดี้ที่พูดขึ้นเพื่อถามความเห็นของเพื่อนรักอย่างแพรวา“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบสีชมพู” แพรวาตอบกลับด้วยท่าทางเบื่อหน่ายนี่ถ้ายัยเพื่อนตัวดีไม่ลากเข้ามาเธอจะไม่มีวันเหยียบที่นี่เด็ดขาด สีอื่นหรือว่าหลากสียังพอโอเคแต่นี่อะไรสีชมพูทั้งร้านพูดได้คำเดียวว่า เลี่ยน!“คิคิ น่ารักออก” จ้า ยอมนางเลยจริงๆ มองหน้าซินดี้อย่างเอือมระอา หลังจากนั้นก็พากันสั่งบิงซูเมื่อได้ของที่สั่งแล้วก็เริ่มลงมือกินกันทันทีเพราะพวกเขาต้องไปที่อื่นต่ออีก ณ ซูเปอร์มาร์เก็ต ตอนนี้ซินดี้กำลังเดินเลือกซื้อของส่วนแพรวามีหน้าที่เข็นรถเข็นให้ ‘เห็นเพื่อนเป็นคนใช้รึไงวะ’ บ่นมุบมิบอยู่คนเดียว ซินดี้เลือกของไปเรื่อยๆ หยิบนู่นหยิบนี่จนเสร็จก็ไปจ่ายเงินเอาของใส่ในรถเข็น แล้วทั้งสองก็เข็นรถออกมาแต่ยังไม่ถึงไหนซินดี้ก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะงั้น“แพรไปเข้าห้องน้ำมั้ย” ถามแพรวาเธอส่ายหน้าเชิงว่
กวินทร์เดินยิ้มหน้าระรื่นล้วงกระเป๋ากางเกงเนื่องจากเขากำลังอารมณ์ดีเพราะได้ปลดปล่อย ขายาวก้าวเดินไปเรื่อยอยู่ๆ โทรศัพท์เครื่องหรูในกระเป๋าก็สั่น เขาหยิบมันออกมาดูพบว่าบุคคลที่โทรเข้ามาไม่ใช่ใครไหนไกล แฟนสาวของเขานั่นเองCINDY…กวินทร์ไม่รอช้าเขารีบกดรับสายด้วยความรวดเร็ว“ฮัลโหลครับ” เสียงทุ้มเอ่ยกับปลายสาย[วินอยู่ไหนหรอ]“ผับครับ มีอะไรรึเปล่า”[เปล่าหรอกซินแค่จะโทรมาถามว่าวินจะกลับคอนโดมั้ย]“ไม่กลับได้ไงล่ะ คิดถึงซินจะแย่อยากกอดอยากหอมอยากทำทุกอย่างเลย” คำพูดกวินทร์ทำเอาคนในสายหน้าแดง[อื้ม..แล้วจะกลับตอนไหน]“คงดึกๆ อ่ะ”[อืม อ่อ วินเมื่อวานซินโทรหาวินด้วยนะแต่ไม่ติดเลย]“แบตหมดน่ะ พอเห็นว่าหมดวินก็รีบเอาไปชาร์จเลยนะโทรกลับหาซินแต่ซินก็ไม่รับสาย” ร่างสูงแกล้งทำเสียงเศร้าเหมือนน้อยอกน้อยใจหนักหนา[ก็ลืมไว้ในห้องนั่งเล่นนี่นา] ซินดี้พูดเสียงอ่อนด้วยความรู้สึกผิด“ช่างมันเถอะ..ยังไงซะตอนนี้เราก็ได้คุยกันแล้วหนิ ใช่มั้ย”[อื้ม] ทั้งสองคุยกันไปสักพักกวินทร์ก็เป็นคนบอกล
NIVA UNIVERSITYหลังจากทั้งห้าคนทานข้าวกันเสร็จก็มารวมตัวกันที่โต๊ะม้าหินอ่อน สถานที่ประจำของกลุ่มทันทีเพื่อรอเข้าเรียนในช่วงบ่าย“เรียนเสร็จไปหาไรกินที่ห้างกันมั้ย” แพรวาถามเพื่อน“ฉันไม่ว่างอ่ะ” เรเน่“ฉันเหมือนกัน” น้ำหวาน“แล้วยัยซินกับยัยลิสล่ะ” เมื่อเรเน่กับน้ำหวานไม่ว่างแพรวาก็หันไปถามซินดี้กับอลิส“เอ่อ เรารู้สึกเพลียๆ อ่ะว่าจะกลับคอนโดเลย”“ฉันว่าง เดี๋ยวไปด้วยขี้เกียจกลับบ้านอ่ะ” ตกลงกันเรียบร้อยก็คุยกันเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงเวลาเข้าเรียน ณ บ้านจันทรเกษม ตอนนี้เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น กวินทร์ขับรถเข้ามาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่เพื่อรอรับใครบางคน ไม่นานนักคนๆนั้นก็เดินนวยนาดออกมาวันนี้เธอใส่ชุดเดรสสีชมพูดูแล้วน่ารักมาก“สวัสดีค่ะพี่วินรอนานเจนมั้ยคะ” เธอคนนั้นก็คือเจนนี่นั่นเอง“ไม่ครับ พี่เพิ่งมาถึงก่อนลูกหมูจะเดินออกมาแปบเดียวเอง” พูดจบรถหรูก็แล่นออกไปทันทีภายในรถก็ยังคงมีแต่เสียงของเจนนี่พูดคุยไม่หยุด“พี่วินรู้มั้ยคะวันนี้เจนไ
CLASSY CONDOMINIUMซินดี้นั่งรอกวินทร์ที่ห้องนั่งเล่นนานกว่าสองชั่วโมงได้แล้ว หลังจากเธอตื่นนอนจนอาบน้ำกินข้าวเสร็จแต่กวินทร์ก็ยังไม่มาสักที“ทำไมยังไม่กลับนะหรือว่าจะเกิดอะไรขึ้น” คิดได้ดังนั้นร่างบางจึงรีบหยิบโทรศัพท์ข้างตัวมากดเพื่อโทรหาร่างสูงทันทีแต่….....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้......เมื่อโทรไม่ติดซินดี้ก็เข้าแอปพลิเคชันสีเขียวส่งข้อความหาเขา ซึ่งกวินทร์ก็ไม่อ่านและไม่ตอบเช่นกัน เมื่อติดต่อเขาไม่ได้เธอก็เลิกเซ้าซี้ลุกขึ้นหมุนตัวเดินกลับเข้าห้องนอนแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง แต่ให้ตายนอนยังไงก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็ต้องนอนมองเพดานนับแกะไปเรื่อยๆ อีกฟากฝั่ง ณ บ้านหลังใหญ่ กวินทร์กำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จแต่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าต้องโทรหาคนรัก ร่างสูงถึงได้เดินไปหยิบมือถือจากกระเป๋ากางเกงเพื่อโทรหาคนตัวเล็กแต่แล้วก็ต้องมีเรื่องให้หัวเสียเข้าจนได้“แม่ง! แบตหมด” กวินทร์เอามือถือไปชาร์ตและทันทีที่หน้าจอมันสว่างวาบ ข้อความมากมายทั้งจากร่างบางและคนอื่นเด้งขึ้นมาเต็มไปหม
กรุงเทพมหานครหลังจากที่พวกเขาบินกลับจากภูเก็ตเมื่อช่วงเช้าของวัน ในตอนนี้ทุกคนถึงกรุงเทพแล้วเรียบร้อย และในช่วงเวลานี้ต่างคนก็ต่างกำลังยืนรอรถจากที่บ้านมารับ เพื่อกลับไปพักผ่อนเพราะรู้สึกว่าร่างกายตัวเองนั้นช่างเพลียเหลือเกิน“กลับบ้านดีๆ นะพวกแก เจอกันพรุ่งนี้” รถที่บ้านน้ำหวานมาเป็นคันแรก เธอบอกลาเพื่อนเสร็จก็ก้าวขึ้นรถทันที ตามมาติดๆ ด้วยเรเน่แล้วก็อลิสและน้องชายสุดที่รักอย่างอลัน“หายไวๆ นะ” ก่อนจะขึ้นรถเรเน่ก็ไม่ลืมที่จะหันไปพูดกับซินดี้ สงสารเพื่อนเหมือนกัน ไปเที่ยวแทนที่จะได้เที่ยวอย่างเต็มที่ แต่กลับได้นอนแง่กอยู่ที่ห้องเพราะป่วย“ไม่ต้องเสียใจไป ครั้งหน้ายังมีอีก” อลิสบอกร่างบางที่ยืนทำหน้าเศร้าอยู่ข้างแฟนหนุ่มตนอย่างกวินทร์“อื้ออ”“เจอกันมึง” อลันหันมาพูดกับกวินทร์“เออ”“รถมาแล้ว” แพรวาหันไปบอกกวินทร์กับซินดี้ เพราะทั้งสองเอารถไปจอดไว้บ้านแพรวาเลยต้องกลับไปเอา คนรถรีบยกกระเป๋าทั้งสองใบโดยกวินทร์กับซินดี้ใช้ใบเดียวกันขึ้นไปไว้หลังรถ กวินทร์ประคองร่างบางขึ้นรถ
ครืดดด ครืดดดดเสียงโทรศัพท์ที่ดังมากว่าสิบนาทีทำให้กวินทร์ซึ่งกำลังนอนอยู่ ต้องรีบคว้ามารับด้วยความรำคาญโดยยังไม่ลืมตา“ใคร! โทรมาทำห่าอะไรแต่เช้าวะคนจะนอน” แม้จะยังไม่ตื่นเต็มตาแต่เขาก็พร้อมเหวี่ยงทันที[แม่เองมีปัญหาอะไรมั้ย? แล้วนี่มันก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เช้ายังไงไม่ทราบ] คุณหญิงพิมลแขไม่ได้ตกใจกับเสียงตวาดของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยสักนิดซ้ำยังประชดกลับไปอีก“แม่” ตกใจนิดหน่อยที่รู้ว่าเป็นมารดาแค่นิดเดียวเท่านั้นก็กลับเป็นปกติ จากนั้นเขาจึงค่อยๆ ลุกออกจากเตียงไปคุยโทรศัพท์ริมระเบียง “แม่มีไร”[ตาวิน เมื่อวันอังคารที่แล้วลูกไปสร้างเรื่องอะไรไว้] เหอะ ผ่านมาเป็นอาทิตย์ข่าวเพิ่งถึงหูหรือไง“เรื่องอะไรครับ” ทำไขสือไปงั้นแหละ[อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องนะ]“เฮ้ออ ลุงโทรไปฟ้องแม่ล่ะสิ”[ถึงลุงไม่ฟ้องลูกคิดว่าพ่อกับแม่จะไม่รู้หรือไง]“รู้แล้วแม่จะทำอะไรกับผมล่ะครับ”[วินลูกโตแล้วนะ]“...”[ช่วยทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยได้มั้ย หัดควบคุมอารมณ์ตัวเองบ้าง ไม่ใช่ไม่พอใจอะไรก็โมโหทำลายข้าวของเสียหาย แม่ไม่อยากให้ใครมาว่าลูกชายของแม่เสียๆ หายๆ หรอกนะ]“ผมจะพยายามแล้วกัน แค่นี้..”[เดี๋ยว] ยังไม่ทันวา